Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
View previous topic :: View next topic
Author
Message
nathapong
1st Class Pass (Air) Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
Posted: 21/07/2009 11:38 pm Post subject:
BanPong1 wrote: ^^^
แล้วเดี๋ยวนี้ที่เปิดหลักสูตรกันเยอะมากเกี่ยวกับโลจิสติคส์ เขาสอน/เรียนเน้นอะไรกันบ้างครับป๋าณัฐ
แหะๆ เท่าที่แอบไปดูส่วนใหญ่ ของ ป.ตรี จะเป็นเรื่องโลจิสติกส์ ที่ในเน้นการจัดการในภาคการผลิต กับการค้าระหว่างประเทศ ที่เกี่ยวกับการขนส่ง
แต่ในระดับป.โท จะเน้นด้านการจัดการ ครับ
---------------------------------------------------------------------------------------
แต่เท่าที่ดูในหลาย ๆ หลักสูตร ไม่มีการเปิดประเด็นเกี่ยวกับโลจิสติก ที่เกี่ยวกับ National Single Window (NSW) ที่เป็นการรวมการจัดการทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่เกี่ยวกับกระบวนการโลจิสติก ทั้งด้านต่างๆ ที่เป็นการปฏิบัติหน้างานและการใช้ระบบไร้เอกสารที่เชื่อมกับระบบeCustoms ของกรมศุลกากร เป็นเจ้าภาพ ครับ
มีแต่การทำพรีเซนเตชั่น ว่าท่านต้องทำอะไร แต่ลงทำงานจริง ๆ แต่ละธุรกิจ หรือภาคการผลิตที่ต่างกันต้องมีโจทย์คอยแก้ และต้องลงมือทำหน้างานที่เป็นเรื่องสนุกสนานจริง ๆ
ถ้าเทียบเรื่อง Logistics Qualification System Program ในหลักสูตร Certifified Logistics Professional
ที่ TNSC (สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ) ร่วมกับ JILS และ Jetro จัดฝึกอบรม
หรือ หลักสูตร Executive Supply Chain Management ของ Pennsylvania State
ที่เคยเข้าไปหาความรู้แล้ว แกะโจทย์ ออกมา มิติในการสอน ทั้งสองหลักสูตร ต้องคนที่ทำงานเกี่ยวข้อง ถึงจะตามทัน
----------------------------------------------------------------------
แต่สำหรับป.ตรี คงต้องใช้วิธีเรียนไปทำไปและต้องลงหน้างานครับ ถึงจะเข้าสายเลือด แบบหลักสูตรสหกิจศึกษา ซึ่งตอนนี้ ในระดับป.ตรี ฝึกงานช่วงเวลาสั้น ๆ ชงกาแฟ ยังไม่เข้าที่ เรื่องนี้ คงเป็นสิ่งที่สถาบันต่าง ๆ คงต้องนำไปพิจารณา
เพราะคนที่จบมาเมื่อเข้าตลาดแรงงานถึงจะมีค่าตอบแทนที่ดีและคนจ้างแฮบปี้ (ไม่รวมคนที่เป็นเจ้าของกิจการไปเรียนนะครับ)
เท่าที่เจอตอนนี้ คนเรียนเก่ง แต่ลงหน้างานและแก้ปัญหาไม่ได้ คนเป็นเจ้าเงินไม่แฮปปี้ แบบนี้มีเยอะ ซะด้วยซิครับ
------------------------------------------------------
ส่วนไข้ไม่มีครับ แต่ไปที่ศิริราชพรุ่งนี้ คงรู้เรื่องหละครับ ว่าจะโดนทะลวงจมูกส่องกล้องอีกรอบหรือไม่ เฮ้อ
ปล.พี่หมอครับ อย่าลืมกริ๊งกร้าง ไป หาอ.ปาระยะ ด้วยนะครับ แหะๆ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45543
Location: NECTEC
Posted: 22/07/2009 1:40 pm Post subject:
รมว.คมนาคมเปิดทาง กทม.หารือสร้างรถไฟฟ้า
ฟันธงแผนแม่บทรถไฟฟ้ามี 12 สาย
เดลินิวส์ วันอังคาร ที่ 21 กรกฎาคม 2552 เวลา 9:26 น
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 ก.ค. 52 ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้จัดการสัมมนารับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะและความต้องการของประชาชน ครั้งที่ 2 ในการศึกษาปรับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยมีนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน
นายโสภณ กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการพัฒนากรุงเทพฯ และชนบทไปพร้อม ๆ กัน โดยตนมีนโยบายให้เร่งรัดดำเนินโครงการรถไฟฟ้าที่มีอยู่ ซึ่งตามแผนที่ สนข.ได้ศึกษาแผนแม่บททั้งหมด 12 สายนั้น ขอให้ไปดูว่าจะจัดลำดับความสำคัญของเส้นทางใดก่อน ตนเห็นว่าสายที่เห็นควรเร่งรัดก่อนคือสายสีชมพู ปากเกร็ด-อนุสาวรีย์หลักสี่-มีนบุรี ที่จะรองรับโครงการศูนย์ราชการถนนแจ้งวัฒนะ และสายสีส้ม บางบำหรุ-ศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางกะปิ-มีนบุรี ที่จะช่วยแบ่งเบาการจราจรย่านรามคำแหงซึ่งปัจจุบันต้องใช้เวลาเดินทางมาก ซึ่งจะโยกงบประมาณการศึกษารายละเอียดของสายสีน้ำเงินวงแหวนรอบในตามแนวถนนรัชดาภิเษก จำนวน 400 ล้านบาทมาศึกษารายละเอียดใน 2 เส้นทางนี้แทน สำหรับความคืบหน้าของสายสีต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินการอยู่คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วงบางใหญ่-บางซื่อ อยู่ระหว่างการประกวดราคา สายสีน้ำเงินที่อยู่ระหว่างกระทรวงการคลังจัดหาเงินลงทุนโดยเปลี่ยนจากการใช้เงินต่างประเทศแบบมีเงื่อนไข (Step loan) มาใช้แหล่งเงินใหม่ ส่วนสายสีแดงบางซื่อ-ตลิ่งชัน บางซื่อ-รังสิต ก็จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด ส่วนการทำงานร่วมกันกับ กทม. ที่จะให้หน่วยงานใดทำนั้นตนไม่มีปัญหา ซึ่งในสัปดาห์หน้าตนจะเชิญ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.มาหารือร่วมกัน หากคุยกันได้ข้อสรุปแล้วก็จะเสนอ ครม.ต่อไป โดยขณะนี้ตามมติ ครม.เดินให้ รฟม.เป็นผู้ดำเนินการสายสีเขียว
นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการ สนข. กล่าวว่า แผนแม่บทรถไฟฟ้า 12 สายนี้ได้สรุปแนวเส้นทางทั้งหมดแล้ว โดยการรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้เป็นการชี้แจงผลการศึกษาและรับฟังข้อเสนอแนะ โดยทั้ง 12 สายได้มีการศึกษาความเหมาะสมในการเชื่อมต่อโครงข่ายที่ครอบคลุมความต้องการการเดินทางของประชาชนมากที่สุด โดยในการศึกษา ครั้งนี้ไม่มีสายสีขาวโดยได้ปรับให้เป็นส่วนหนึ่งของสายสีแดงอ่อน ศาลายา-ตลิ่งชัน-บางซื่อ-มักกะสัน-หัวหมากแทน และเพิ่มสายสีดำ เส้นทาง ดินแดง-มักกะสัน-สาทร เพื่อรองรับการเดินทางของข้าราชการและประชาชนที่จะมาติดต่อที่ กทม. โดยแผนแม่บททั้ง 12 สาย ในระยะ 20 ปี (2552-2572) จะมีเส้นทางรถไฟฟ้ารวม 487 กิโลเมตร โดยจะพยายามก่อสร้าง เพื่อเปิดให้บริการภายในปี 2562 ระยะทาง 372.5 กิโลเมตร ให้บริการประชาชนได้ 3.38 ล้านคน.
//------------------------------------------------------------------------------------------
ผลประโยชน์ 15.2 ล้านล้าน โครงข่ายรถไฟฟ้า12 สี พลิกโฉมระบบขนส่ง 'กทม.'
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2445 19 ก.ค. - 22 ก.ค. 2552
โครงการศึกษาปรับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางราง ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ถูกจัดทำขึ้นมาเพื่อทบทวนโครงการตามแผนแม่บทการขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพมหานคร(กทม.)และพื้นที่ต่อเนื่อง (URMAP) ฉบับแรกตั้งแต่ปี 2537 เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป แผนดังกล่าวจึงต้องนำมาปัดฝุ่นทบทวนใหม่อีกครั้ง
ขณะเดียวกันยังต้องมีการทบทวนความเหมาะสมของโครงข่ายการขนส่งมวลชนระบบราง และรูปแบบที่ได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ รวมถึงการศึกษาในด้านอื่นๆ ที่จำเป็น ซึ่งตามแผนดังกล่าวกำหนดว่าภายในปี 2572 เมืองไทยจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าทั้งระบบรวม 486.9 กิโลเมตร 312 สถานี มูลค่าการลงทุน 838,300 ล้านบาท
จึงถือว่าเป็นเมกะโปรเจ็กต์ที่มีบทบาทความสำคัญต่อประเทศอย่างยิ่ง เพราะมีการประเมินผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจตลอดอายุโครงการ พ.ศ. 2557-2591 ที่ให้ผลตอบแทนมากถึง 15.2 ล้านล้านบาท สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในฐานะผู้รับผิดชอบหลักในการแปลงแผนมาสู่การปฏิบัติ จึงจัดสัมมนารับฟังความเห็น ข้อเสนอแนะ และความต้องการของประชาชนครั้งที่ 2 ขึ้น
++12สีลงทุนกว่า8แสนล้าน
ตามแผนแม่บทระยะ 20 ปี (พ.ศ.2553-2572) ระบบขนส่งมวลชนทางรางของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะถูกพลิกโฉมหน้าไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยโครงข่ายเส้นทางครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 700 ตร.กม. มีประชาชนในเขตพื้นที่ถึง 5.13 ล้านคน จำนวนเส้นทางรถไฟฟ้ารวม 487 กม. ประกอบด้วย
1.สายสีแดงเข้ม ธรรมศาสตร์ -มหาชัย ระยะทาง 85.3 กม.
2. สายสีแดงอ่อน ศาลายา-หัวหมาก 58.5 กม.
3. รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ช่วงพญาไท-มักกะสัน-สุวรรณภูมิ 28.5 กม.
4. สายสีเขียวเข้ม ลำลูกกา-สมุทรปราการ-บางปู ระยะทาง 66.5 กม.
5. สายสีเขียวอ่อน ยศเส-บางหว้า 15.5 กม.
6.สายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค-พุทธมณฑล ระยะทาง 55 กม.
7. สายสีม่วง บางใหญ่ -ราษฎร์บูรณะ และแคราย-ปากเกร็ด ระยะทาง 49.8 กม.
8.สายสีส้ม บางบำหรุ -มีนบุรี ระยะทาง 32 กม.
9.สายสีชมพู ปากเกร็ด -มีนบุรี ระยะทาง 29.9 กม.
10. สายสีเหลือง ลาดพร้าว - สำโรง ระยะทาง 30.4 กม.
11.สายสีเทา วัชรพล -สะพานราม 9 ระยะทาง 26 กม. และ
12. สายสีดำ ดินแดง -สาทร ระยะทาง 9.5กม.
ใช้งบประมาณการลงทุน 838,300 ล้านบาท และรองรับผู้โดยสารเดินทางกว่า 7.7 ล้านเที่ยวต่อวัน
++ผลประโยชน์15.2ล้านล้าน
จากการวิเคราะห์ผลประโยชน์ของรถไฟฟ้าทั้ง 12 สีตลอดอายุโครงการ 35 ปี (พ.ศ. 2557-2591) พบว่าจะให้ผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจมากถึง 15.2 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าประหยัดเวลาในการเดินทาง 8.7 ล้านล้านบาท ประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้ยานพาหนะ 3 ล้านล้านบาท การประหยัดมูลค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 1.6 ล้านล้านบาท และประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านสิ่งแวดล้อมในการกำจัดมลพิษที่เกิดขึ้น 1.9 ล้านล้านบาท
แต่หากประเมินกรณีดำเนินการก่อสร้างตามแผน 20 ปี โดยไม่รวมผลของมาตรการสนับสนุนอื่นๆ ในปี 2562 ก็จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่ารวม1.06 แสนล้านบาท ส่วนในปี 2572 จะมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่ารวม 2.53 แสนล้านบาท ในการคิดที่อัตราราคาน้ำมันคงที่ 28 บาทต่อลิตร
++แนะสร้างพร้อมกัน12สี
มุมมองของรศ.มานพ พงศทัต อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เห็นว่าการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าทั้งหมดควรดำเนินการไปพร้อมกัน แต่แบ่งสายแต่ละเส้นทางออกเป็นเฟสๆ เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกันในทุกเส้นทาง พร้อมกับเสนอให้สร้างเส้นทางสายที่ 13 สายสุวรรณภูมิ-ท่าเรือคลองเตย-สนามบินดอนเมือง เพื่อเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวระหว่าง 2 สนามบิน
ขณะเดียวกันการวางเส้นทางโครงข่ายของเส้นทางรถไฟฟ้า ควรคำนึงถึงการวางผังเมืองรวมของกรุงเทพมหานคร ที่อีก 2 ปีข้างหน้าที่จะมีการปรับเปลี่ยนใหม่ด้วย ที่สำคัญการวางระบบขนส่งมวลชนแบบรางจะต้องดำเนินการทั้ง 3 ระบบ คือ บนดิน ลอยฟ้า และใต้ดิน เชื่อมโยงกัน และจะต้องเชื่อมโยงกับ 6 จุดศูนย์กลางความเจริญเติบโตของเมือง ได้แก่ จตุจักร, ศูนย์ราชการ, มักกะสัน, ตากสิน, พระราม 3 และเกาะรัตนโกสินทร์
++ก.คลังหนุนเอกชนร่วมทุน
นายธีรัชย์ อัตนาวานิช ผู้อำนวยการสำนักบริหารการระดมทุนโครงการลงทุนภาครัฐ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เสนอให้เอกชนเข้ามามีบทบาทต่อการลงทุนภาครัฐ โดยในโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐอาจจะเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนเอกชนเป็นผู้บริหารการจัดการเดินรถ เป็นต้น ซึ่งรูปแบบการสัมปทานอาจจะต้องมองหารูปแบบใหม่ๆ เข้ามาใช้ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการลงทุน เช่น รัฐรับความเสี่ยงทางด้านค่าโดยสารแทนเอกชน หรือ การที่รัฐบาลกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ผู้เดินทางรับได้ หรือการใช้นโยบายตั๋วร่วม เป็นต้น
หากให้เอกชนเข้ามามีส่วนในการลงทุนจะช่วยลดภาระการลงทุนภาครัฐ แม้ว่าจะมีงบประมาณแต่ก็มีข้อจำกัดการใช้ ส่วนการกู้เงินจากต่างประเทศ รัฐบาลก็ต้องบริหารหนี้สาธารณะให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
++"โสภณ"สั่งเร่งสายชมพู-ส้ม
สำหรับเส้นทางรถไฟฟ้าเร่งด่วน ที่นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา คือ สายสีชมพู ช่วงปากเกร็ด-มีนบุรี ระยะทาง 29.9 กิโลเมตร เนื่องจากเป็นเส้นทางที่จะตัดผ่านศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะที่กำลัง
จะเปิดให้บริการในกลางปีหน้า และสีส้ม ช่วงบางบำหรุ-มีนบุรี ระยะทาง 32 กิโลเมตร
ด้วยเหตุของการจราจรที่คับคั่งอย่างหนักของถ.รามคำแหง จึงต้องเร่งรัดให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ปรับปรุงรายละเอียดและเรียงลำดับความ สำคัญทั้ง 12 เส้นทางให้มีความเหมาะสมโดยเร็ว หากได้รับความเห็นชอบ ก็เตรียมให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นำงบประมาณที่ใช้ศึกษารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายวงแหวนรอบในจำนวน 400 ล้านบาท มาศึกษาทั้ง 2 เส้นทาง
แม้ว่าโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง 12 สายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะเข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้ามหานครกรุงเทพชนิดหน้ามือเป็นหลังมือจากปัจจุบันที่เป็นอยู่ แต่มูลค่าการลงทุนที่มหาศาลขนาดนี้ ก็คงต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบที่สุด ที่สำคัญผลกระทบกับผู้โดยสาร อย่างอัตราค่าโดยสารที่ยังไม่ได้กำหนดออกมาว่าจะเก็บในอัตราเท่าไร และอีกสารพันคำถามที่รอคำตอบ ซึ่งผู้รับผิดชอบโดยเฉพาะรัฐบาลคงต้องให้ความกระจ่าง และสร้างความเข้าใจโดยเร็ว
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45543
Location: NECTEC
Posted: 24/07/2009 10:24 pm Post subject: รายละเอียด 12 สาย
สนข.เร่ขายฝันครั้งใหญ่ ขยายรถไฟฟ้า 12 เส้นทาง
โดย ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ 24 กรกฎาคม 2552 14:25 น.
สนข.สนองบิ๊กการเมือง เสนอสร้างรถไฟฟ้า 12 เส้นทางทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มูลค่ากว่า 8 แสนล้านบาท ภายใน 20 ปี เร่งบรรจุสายสีชมพู-สีส้มลงในแผนแม่บท แก้ปัญหารถติด พร้อมเพิ่มสายสีดำ-สีเทา
หลายปีที่ผ่านมามีการตัดถนนหนทางเพิ่มขึ้นหลายสาย ทำให้ความเจริญขยายออกไปทั่วทุกแห่ง แต่ระบบขนส่งที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งานของประชาชน รวมถึงเส้นทางที่อยู่ในแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนของสำนักงานนโยบายและแผนการขน ส่งและจราจร (สนข.) ก็ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางพื้นที่มีความเจริญอย่างรวดเร็ว แต่ในแผนแม่บทไม่มีเส้นทางระบบขนส่งมวลชนรองรับ สนข.จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนและแก้ไขเส้นทาง ตลอดจนจัดลำดับความสำคัญของเส้นทางใหม่ ตามความต้องการของกระทรวงคมนาคม ที่มีโสภณ ซารัมย์ เด็กในสังกัดกลุ่มเพื่อนเนวินนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี
จากเดิมแผนแม่บทมีโครงการรถไฟฟ้าเพียง 7 เส้นทาง แต่ในแผนใหม่กำหนดให้มี 12 เส้นทาง ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ทั้งนี้ สนข.ได้จัดความลำดับของการลงทุนใหม่ด้วย โดยจะบรรจุ 2 เส้นทางใหม่ที่จะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว 2 เส้นทาง ได้แก่ สายสีชมพู เส้นทางแคราย-มีนบุรี เพื่อรองรับศูนย์ราชการแห่งใหม่ที่จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในต้นปีหน้า และสายสีส้ม เส้นทางบางบำหรุ-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 32 กม. เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในย่านบางกะปิ
โสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องเร่งดำเนินการทั้ง 2 เส้นทางนั้น เนื่องจากทั้ง 2 เส้นทางไม่ถูกบรรจุในแผนแม่บท ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมได้ขอโยกงบของเส้นทางวงแหวนรัชดา ส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน มูลค่า 400 ล้านบาท มาใช้ศึกษาในเส้นทางสีชมพูกับสายสีส้มแทน เพราะมีความสำคัญมากกว่า คาดว่าจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้ในเดือน ส.ค.นี้
สำหรับโครงข่ายเส้นทางทางระบบขนส่งมวลชน 12 เส้นทาง มูลค่าลงทุน 838,300 ล้านบาท ซึ่งจะถูกบรรจุให้อยู่ในแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑลระยะ 20 ปี โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2553-2572 ระยะทาง 487 กม. ประกอบด้วยสายสีแดงเข้ม (ธรรมศาสตร์-มหาชัย) ระยะทาง 85.3 กม. สายสีแดงอ่อน (ศาลายา-หัวหมาก) ระยะทาง 58.5 กม. รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์ (พญาไท-มักกะสัน-สุวรรณภูมิ) ระยะทาง 28.5 กม. สายสีเขียวอ่อน (ยศเส-บางหว้า) ระยะทาง 15.5 กม. สายสีเขียวเข้ม (ลำลูกกา-หมอชิต-สมุทรปราการ-บางปู) ระยะทาง 66.5 กม. สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ, หัวลำโพง-พุทธมณฑลสาย 4) ระยะทาง 55 กม. สายสีม่วง (บางใหญ่-ราษฏร์บูรณะ, แคราย-ปากเกร็ด)ระยะทาง 49.8 กม. สายสีส้ม (บางบำหรุ-มีนบุรี) ระยะทาง 32 กม. สายสีชมพู (ปากเกร็ด -นนทบุรี) ระยะทาง 29.9กม. สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กม. สายสีเทา (วัชรพล-สะพานพระราม 9) ระยะทาง 26 กม. และสายสีดำ (ดินแดง-สาทร) ระยะทาง 9.5 กม.
แนะเปิดให้โอกาสเอกชนมีส่วนร่วม
ธรัชย์ อัตนวานิช ผ้อำนวยการสำนักบริหารการระดมทุนโครงการลงทุนภาครัฐ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า การจัดหาแหล่งเงินลงทุนมูลค่ากว่า 8 แสนล้านบาท มีหลายวิธี เช่น การจัดสรรงบประมาณ การออกพันธบัตร การกู้เงินทั้งในประทศและต่างประเทศ หรือการให้เอกชนมีส่วนร่วมในโครงการหรือ PPP ทั้งนี้รัฐบาลควรเปิดโอกาสให้เอกชนมีส่วนร่วมในโครงการได้ ซึ่งรูปแบบดังกล่าวในต่างประเทศ สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลได้
สอดคล้องกับมานพ พงศทัต อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เห็นว่า รัฐบาลควรเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ เพราะจะทำให้โครงการเดินหน้าเร็วขึ้น ทั้งนี้ สนข.ควรศึกษาเส้นทางเพิ่มขึ้นอีก 6 จุด เช่น จตุจักร มักกะสัน ตากสิน พระราม 3 ศูนย์ราชการฯ และเกาะรัตนโกสินทร์
//----------------------------------------------------------
เปิดมาสเตอร์แพลนรถไฟฟ้า12สาย ลงทุน 3 เฟส 20 ปี เงินลงทุน 8.3 แสนล้าน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 เวลา 09:01:24 น.
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
สน ข.เปิดพิมพ์เขียวรถไฟฟ้า"รัฐบาลมาร์ก"12 สายละเอียดยิบครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 700 ตารางกิโลเมตร ลงทุน 3 เฟส 20ปี เงินลงทุน8.3แสนล้าน เผยโครงการเปลี่ยนแปลงไปจากแผนเดิม มีทั้งเป็นเส้นทางขีดขึ้นใหม่ ตัดตอน และต่อเติม
ภายในเดือนสิงหาคมนี้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะเสนอแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล ให้คณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ "รัฐบาลมาร์ค 1" พิจารณา โดยแผนแม่บทใหม่ล็อกระยะเวลาการพัฒนาไว้ 20 ปี ตั้งแต่ปี 2553-2572 ครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 700 ตารางกิโลเมตร เปลี่ยนแปลงไปจากแผนเดิม มีทั้งเป็นเส้นทางขีดขึ้นใหม่ ตัดตอนและต่อเติมจากเส้นทางเดิมให้สั้นลงและยืดออกไปชานเมืองมากขึ้น มีโครงข่ายทั้งหมด 12 สาย ระยะทางรวม 487 ก.ม. สถานี 311 สถานี เงินลงทุน 838,250 ล้านบาท
@เปิดโพย 12 เส้นทางใหม่
เที่ยวนี้ สนข.การันตีว่า จะไม่เปลี่ยนแปลงอีกแม้การเมืองผลัดใบ ประกอบด้วย
1.สีแดงเข้ม (ธรรมศาสตร์-บางซื่อ-หัวลำโพง-มหาชัย) 85.3 ก.ม. เงินลงทุน 147,750 ล้านบาท เป็นเส้นทางแนวเหนือ-ใต้ ตามแนวของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มีช่วงบางซื่อ-รังสิต-ธรรมศาสตร์ ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง-บางบอน และช่วงบางบอน-มหาชัย รวม 36 สถานี
2.สีแดงอ่อน (ศาลายา-ตลิ่งชัน-บางซื่อ-มักกะสัน-หัวหมาก) 58.5 ก.ม. 86,340 ล้านบาท แนวตะวันออก-ตะวันตก ตามแนว ร.ฟ.ท. มีช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และตลิ่งชัน-มักกะสัน ซึ่งทะลุเกาะรัตนโกสินทร์ - รวม 21 สถานี (ขณะ นี้ สนข. ขอเพิ่มอีก 1 สถานีที่ บางกรวย - ใกล้ท่าพระราม 7 และ กฟผ.)
3.สีแดงเลือดหมู (แอร์พอร์ตลิงก์) จากพญาไท-มักกะสัน-สุวรรณภูมิ 28.5 ก.ม. 25,920 ล้านบาท 10 สถานี (เพิ่มอีก 2 สถานี)
4.สีเขียวเข้ม (ลำลูกกา-หมอชิต-สมุทรปราการ-บางปู) 66.5 ก.ม. 102,420 ล้านบาท แนวเหนือ-ตะวันออก ตามแนวถนนพหลโยธินและสุขุมวิท มีช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ช่วงสะพานใหม่-คูคต-ลำลูกกา ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และแบริ่ง-สมุทรปราการ-บางปู รวม 55 สถานี
5.สีเขียวอ่อน (ยศเส-บางหว้า) 15.5 ก.ม. 15,130 ล้านบาท แนวตะวันตก-ใต้ ตามแนวถนนพระรามที่ 1 ถนนสาทร มีช่วงสะพานตากสิน-ถนนตากสิน ช่วงถนนตากสิน-บางหว้า และช่วงสนามกีฬา-ยศเส รวม 14 สถานี
6.สีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค-พุทธมณฑลสาย 4) 55 ก.ม. 93,100 ล้านบาท เป็นเส้นทางสายวงแหวนและแนวถนนเพชรเกษม มีช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ช่วงหัวลำโพง-ท่าพระ-บางแค และช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 รวม 44 สถานี
7.สีม่วง (บางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ และแคราย-ปากเกร็ด) 49.8 ก.ม. 135,880 ล้านบาท เส้นทางหลักแนวเหนือ-ใต้ มีช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ และแคราย-ปากเกร็ด รวม 38 สถานี
8.สีส้ม (บางบำหรุ-มีนบุรี) 32 ก.ม. 117,600 ล้านบาท เส้นทางหลักแนวตะวันออก-ตะวันตก มีช่วงบางบำหรุ-ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ และบางกะปิ-มีนบุรี รวม 23 สถานี
9.สีชมพู (ปากเกร็ด-มีนบุรี) 29.9 ก.ม. 31,240 ล้านบาท รองรับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และการเติบโตทางด้านเหนือ เริ่มจากปากเกร็ด-วงเวียนหลักสี่-วงแหวนรอบนอก-มีนบุรี รวม 20 สถานี
10.สีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) 30.4 ก.ม. 38,120 ล้านบาท รองรับพื้นที่ย่านลาดพร้าว ศรีนครินทร์ และทางด้านตะวันออกของ กทม. เริ่มจากลาดพร้าว-พัฒนาการ-สำโรง รวม 21 สถานี
11.สีเทา (วัชรพล-สะพานพระราม 9) 26 ก.ม. 31,870 ล้านบาท รองรับพื้นที่ย่านสาธุประดิษฐ์และการโตทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของ กทม. เริ่มจากวัชรพล-ลาดพร้าว ช่วงลาดพร้าว-พระราม 4 และพระราม 4-สะพานพระราม 9 รวม 21 สถานี
12.สีดำ (ดินแดง-สาทร) 9.5 ก.ม. 12,880 ล้านบาท รองรับย่านดินแดง ย่านมักกะสัน เริ่มจากช่วง กทม.2-ดินแดง-ศูนย์มักกะสัน-สาทร รวม 9 สถานี
@แบ่งการลงทุนเป็น 3 เฟส
ด้านการก่อสร้าง สนข.แบ่งเป็น 3 ระยะ นับตามปีเปิดบริการ คือระยะ 5 ปีแรก (2553-2557) เปิดบริการปี 2557 มี 5 สาย คือ
1. สีแดงเข้ม (บางซื่อ-รังสิต-ธรรมศาสตร์) 36.3 ก.ม. สร้างต้นปี 2553
2. สีเขียวเข้ม (หมอชิต-สะพานใหม่) 11.4 ก.ม. และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ 12.8 ก.ม. สร้างต้นปี 2554
3. สีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) 23 ก.ม. สร้างต้นปี 2553 สีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) 27 ก.ม. สร้างกลางปี 2553
ระยะ 10 ปี (2553-2562) เปิดบริการปี 2562 มี
1. สีแดงเข้ม (บางซื่อ-หัวลำโพง-บางบอน) 29 ก.ม. สีแดงอ่อน (บางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน) 9 ก.ม. และช่วงมักกะสัน-หัวหมาก 10 ก.ม. สร้างต้นปี 2555 ช่วงตลิ่งชัน-มักกะสัน (ทะลุเกาะรัตนโกสินทร์) 10.5 ก.ม. สร้างต้นปี 2558 ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา 14 ก.ม. สร้างต้นปี 2557
2. สีเขียวเข้ม (สะพานใหม่-คูคต) 7 ก.ม. สร้างต้นปี 2554 สีเขียวอ่อน (สนามกีฬา-ยศเส) 1 ก.ม. สร้างต้นปี 2556
3. สีม่วง (บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ) 19.8 ก.ม. สร้างต้นปี 2557 สีส้ม (บางบำหรุ-ศูนย์วัฒนธรรม) 12 ก.ม. สร้างต้นปี 2557 ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ 9 ก.ม. และช่วงบางกะปิ-มีนบุรี สร้างต้นปี 2555
4. สีชมพู (ปากเกร็ด-หลักสี่) 12 ก.ม. และช่วงวงเวียนหลักสี่-วงแหวนรอบนอก 10.4 ก.ม. สร้างต้นปี 2555 และช่วงวงแหวนรอบนอก-มีนบุรี 7.5 ก.ม. สร้างต้นปี 2558
ระยะ 10 ปีหลัง (2562-2572) เปิดบริการปี 2572 มี
1. สีแดงเข้ม (บางบอน-มหาชัย) 18 ก.ม. สร้างต้นปี 2559
2. สีน้ำเงิน (บางแค-พุทธมณฑลสาย 4) 8 ก.ม. สร้างต้นปี 2561
3. สีม่วง (แคราย-ปากเกร็ด) 7 ก.ม. สร้างกลางปี 2560
4. สีเหลือง (ลาดพร้าว-พัฒนาการ) 12.6 ก.ม. สร้างต้นปี 2563 ช่วงพัฒนาการ-สำโรง 17.8 ก.ม. สร้างต้นปี 2565
5. สีเทา (วัชรพล-ลาดพร้าว) 8 ก.ม. สร้างต้นปี 2568 ช่วงลาดพร้าว-พระราม 4 รวม 12 ก.ม. และพระราม 4-สะพานพระราม 9 ระยะทาง 6 ก.ม. สร้างต้นปี 2566
6. สีดำ (ดินแดง-มักกะสัน-สาทร) 9.5 ก.ม. สร้างต้นปี 2563
7. สีเขียวเข้ม (คูคต-ลำลูกกา) 6.5 ก.ม. สร้างต้นปี 2567 และช่วงสมุทรปราการ-บางปู 7 ก.ม. สร้างต้นปี 2569
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45543
Location: NECTEC
Posted: 27/07/2009 9:23 am Post subject:
สร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว [BKK Monorail]
เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 27 กรกฎาคม 2552 เวลา 7:46 น
มาต่อการทำงานครบ 6 เดือนของผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ ด้านการจราจร โครงการปรับปรุงสะพานเหล็กข้ามทางแยก 13 แห่ง ซึ่งฐานสะพาน ผิวจราจรชำรุดสึกกร่อนอย่างมาก แบ่งกลุ่มดำเนินการเป็น 4 กลุ่ม โดยสะพานข้ามแยกอโศก-เพชรบุรี จะต้องรื้อและสร้างใหม่ เนื่องจากชำรุดมากที่สุด ส่วนนี้เคยเขียนอย่างละเอียดไปแล้ว
เพิ่มทางจักรยานในกรุงเทพฯ กทม.มีเป้าหมายดำเนินการปี 2553-2555 รวม 41 เส้นทาง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 22 เส้นทาง ระยะทาง 181.56 กิโลเมตร พร้อมกันนี้จะจัดทำแผนเส้นทางจักรยานในหมู่บ้าน ชุมชน และจัดทำจุดจอดรถจักรยานให้เพียงพอ เพื่อให้การเดินทางของประชาชนเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนหลัก
โครงการสถานีมอเตอร์ไซค์น้ำใจงาม ขับขี่ปลอดภัย กทม. ร่วมกับกระทรวงแรงงาน จัดโครงการถนนแห่งรอยยิ้ม สถานีมอเตอร์ไซค์ น้ำใจงาม ขับขี่ปลอดภัย ถวายแด่พ่อหลวง ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา และสร้างจิตสำนึกที่ดีแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ลดอุบัติเหตุ โดยจัดอบรมวินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งปัจจุบันในกรุงเทพฯ มีทั้งสิ้น 4,487 วิน ผู้ขี่รวม 108,051 คน, สร้างสถานีมอเตอร์ไซค์ให้ปลอดภัย ได้มาตรฐาน 60 สถานี นำร่องเขตละ 1 จุด ยกเว้นเขตดอนเมือง จตุจักร ดินแดง บางกะปิ คลองเตย บางแค บางขุนเทียน วังทองหลาง บางพลัด และหลักสี่เขตละ 2 จุด เนื่องจากมีผู้ขี่มาก และจัดประกวดสถานีมอเตอร์ไซค์น้ำใจงามที่เข้าร่วมโครงการ
โครงการพัฒนาระบบรถไฟฟ้ามวลชนรางเดี่ยว ในเขตเมืองชั้นในและย่านธุรกิจ ขณะนี้ได้เสนอคณะผู้บริหาร กทม. สร้างเส้นทาง อนุสาวรีย์ชัยฯ-มักกะสันคอมเพล็กซ์-กทม. 2 ดินแดง เพื่อรองรับการเดินทางในพื้นที่ศูนย์เปลี่ยนถ่ายมักกะสันคอมเพล็กซ์ และสนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ระหว่างการจ้างเอกชนเป็นที่ปรึกษา
เตรียมศึกษาเพิ่มเติมอีก 3 เส้นทาง ได้แก่
1. เจริญกรุง-เจริญนคร และเยาวราช-สมเด็จเจ้าพระยา,
2. จุฬาฯ-สยามและเจริญกรุง-หัวลำโพง-สาทร และ
3. พระโขนง-รามคำแหง- ศรีนครินทร์
6 เดือนของผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ งานก็เดินไปได้พอสมควร โครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวน่าสนใจทีเดียว ครบ 4 ปี ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ บวกกับ 4 ปีก่อนหน้านี้ของผู้ว่าฯ อภิรักษ์ ผลงานประชาธิปัตย์คงพอได้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง.
Back to top
BanPong1
1st Class Pass (Air) Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
Posted: 27/07/2009 1:46 pm Post subject:
^^^
ควรรีบทำเลยครับ
เป็นอำนาจหน้าที่ใน พรบ.กรุงเทพมหานครอยู่แล้ว
อย่าลืมเรื่องสิทธิทางภาษีสำหรับอาคารที่เกี่ยวข้องกับแนวสายทางพวกนี้ด้วย
ถ้าจำเป็นต้องเลี้ยวเข้าไปในคอมเพล็กซ์ หรือ ในกลุ่มอาคาร ถ้ามีประโยชน์ก็ควรทำครับ
ทำบนถนนไม่ได้เพราะเขตทางแคบก็ไปทำหลังอาคารที่เป็นพื้นที่ถูกปิดล้อม ไม่มีราคา
ให้ได้มีการสัญจรเกิดขึ้นสร้างมูลค่า และเกิดประโยชน์ในการใช้ที่ดินด้วยครับ _________________
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45543
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 49407
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 28/07/2009 9:18 am Post subject:
ถ้าได้ภาพใหญ่กว่านี้อีกนิดจะวิเศษมาก
save เป็น .gif ก็ได้ครับ
มีตัวหนังสือของบางสถานีอ่านไม่ค่อยออกน่ะครับ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45543
Location: NECTEC
Posted: 28/07/2009 9:22 am Post subject:
ภาพใหญ่ต้องขอพิเศษ เพราะ ขนาดตั้ง 10 MB แหนะ อาจารย์เอก
Back to top
BanPong1
1st Class Pass (Air) Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
Posted: 28/07/2009 3:19 pm Post subject:
^^^
ขอได้ที่ไหนครับคุณวิศรุต หรือมีให้ Download _________________
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 49407
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group