บันทึกชีวิตนอกราง : ปายแอ่วเจียงใหม่กันก่เจ้า '2010

[ExtendeD]

[ExtendeD]

สวัสดีครับพี่ ๆ น้อง ๆ ชาว RFT.com จากที่ได้บอกเอาไว้ในตอนจบของ ขึ้นเหนือส่องรถไฟ . . . @ ขุนตาน & เจียงใหม่ ว่าหลังจากที่เคลียร์งานเสร็จแล้วจะเปิดฉากมหากาพย์ ล่องใต้ลุยสะพาน @ กุยบุรี & ปราณบุรี ให้ได้รับชมกัน ตอนนี้ข้อมูลที่กองสุม ๆ กันไว้นานเป็นเดือนถูกส่งเข้าไปอยู่ข้างใน Harddisk ของคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะโล่งปลอดโปร่งอย่างที่คิดเอาไว้ เพราะภายใน 1 - 2 วันนี้ ที่บ้านต้องเตรียมตัวรับสมาชิกใหม่ ที่ได้มาจากแม่พันธุ์ตัวเล็ก ๆ ทั้งหลายครับ . . .

เมื่อวานเอาแม่พันธุ์ 2 ตัวไป X - Ray ดูจำนวนลูกที่อยู่ในท้อง ปรากฏว่าฟิล์ม X - Ray ของแม่พันธุ์ตัวแรก สามารถมองเห็นเจ้าตัวน้อยที่รอเวลาออกมาดูโลกใบนี้อยู่ 2 ตัว คุณหมอบอกว่าสมาชิกใหม่ทั้งคู่ดูแข็งแรงดี ส่วนฟิล์ม X - Ray ของแม่พันธุ์อีกตัวหนึ่งยังมองเห็นไม่ชัดเจนสักเท่าไหร่ครับ คงเป็นเพราะเพิ่งตั้งท้องได้ประมาณ 40 วัน คงต้องเอาไป X - Ray ใหม่อีกครั้งสัปดาห์หน้า ถ้าเกิดแม่พันธุ์ตัวที่ 2 นี้ผสมติดขึ้นมาจริง ๆ ที่บ้านก็คงจะได้สมาชิกใหม่ระลอกที่สองตามออกมาภายใน 14 - 20 หลังจากที่แม่พันธุ์ตัวแรกออกลูกมาแล้วครับ

ผมก็เลยจะใช้เวลาช่วง 1 - 2 วันที่ต้องเฝ้าดูอาการของแม่พันธุ์ตัวแรก ถ้าจะเปิดม่าน ล่องใต้ลุยสะพาน @ กุยบุรี & ปราณบุรี ยังไง ๆ ก็คงต้องขาดตอน ขาดช่วงเป็นสัปดาห์แน่ ๆ ส่วนจะนานมากน้อยแค่ไหน อยู่ที่ความแข็งแรงของสมาชิกใหม่ที่เกิดขึ้นมา และสภาพการฟื้นตัวของแม่พันธุ์ ก็เลยเปลี่ยนใจหยิบเอา Trip สั้น ๆ ที่คิดว่าน่าจะนำเสนอได้จบทันก่อนที่จะต้องไปคอยดูแลเจ้าตัวน้อยและแม่พันธุ์ตัวแรกมาให้พี่ ๆ น้อง ๆ ได้รับชมกันเป็นการคั่นเวลาครับ

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาเริ่มกันเลยดีกว่า . . .

ทริปแรกที่จะนำเสนอในมหากาพย์รวมมิตรชีวิตนอกรางบทนี้ เป็นทริปที่เกิดขึ้นช่วงระหว่างวันที่ 1 - 3 พฤษภาคมครับ ช่วงนั้นเป็นวันหยุด ( วันแรงงานแห่งชาติ ) ต่อเนื่องกับวันเสาร์ - อาทิตย์ รวม 3 วันพอดี ที่บ้านก็เลยจัดโปรแกรมไปเที่ยวพักผ่อนกันที่ชายทะเลแถว ๆ ชะอำ - หัวหิน เช้าวันนั้นรถ 2 คันจากบ้านปากน้ำแวะมารับผมกับหลานชายอีก 2 คนที่บ้านเพชรเกษม - สาย 2 ครับ การเดินทางออกจากกรุงเทพก็เลยต้องใช้ถนนวงแหวนกาญจนภิเษก เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนพระราม ๒ จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าสู่เขตจังหวัดเพชรบุรีครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

หลังจากเข้ามาในเขตจังหวัดเพชรบุรีแล้ว จุดแวะจอดตามใจฉัน ( ที่ไม่ได้อยู่ในแผนการเดินทางตั้งแต่แรก ) ก็บังเกิด รถของพวกเราใช้เส้นทางด้านหลังเขาวัง ตรงเข้าสู่ถนนเล็ก ๆ ที่เป็นทางเข้าสู่ วัดพระพุทธไสยาสน์ หรือ วัดพระนอน ครับ สำหรับวัดแห่งนี้ตอนที่ผมพาเจ้าตี๋มาสำรวจ สะพานข้ามแม่น้ำเพชรบุรี ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2550 ( ตะลอน ๔ บุรี ตามเก็บสายแม่กลอง ไปเมืองโอ่ง แวะเที่ยวเพชรบุรี ) ก็ตั้งใจจะแวะมาเที่ยวที่วัดนี้ครั้งหนึ่งแล้ว แต่วันนั้นหาวัดแห่งนี้ไม่เจอ เพราะไม่คิดว่าอยู่ลึกขนาดนี้ เวลาผ่านไปปีกว่า ๆ ในที่สุดก็ได้มาเยือน ( แบบไม่ได้ตั้งใจ ) จนได้ . . .



ข้อมูลและรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับ วัดพระพุทธไสยาสน์ ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จาก
1. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
2. บ้านจอมยุทธ.คอม


โบสถ์หลังนี้ตั้งอยู่บริเวณใกล้ ๆ กับลานจอดรถครับ แต่องค์พระพุทธไสยาสน์ ซึ่งเป็นพระประธานไม่ได้ประดิษฐานอยู่ในโบสถ์หลังนี้นะครับ เอามาแปะให้ดูบรรยากาศมุมอื่น ๆ ของวัดแห่งนี้เท่านั้น


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

อีกด้านหนึ่งของลานจอดรถ จะเห็นวิหารหลังใหญ่อยู่ด้านบน ( ทางซ้าย ) องค์พระพุทธไสยาสน์ที่เป็นพระประธานนั้นประดิษฐานอยู่ในวิหารหลังนี้ครับ




ถ้าจะไปกราบองค์พระนอนก็เดินขึ้นบันไดที่เห็นอยู่นี้ไปได้เลยครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เมื่อเข้ามาในวิหารหลังใหญ่ ก็จะเห็นทางเดินยาว ๆ ไม่กว้างมากนัก ตรงเข้าไปด้านใน วิหารหลังนี้ก็คงจะสร้างเป็นแนวยาวตามลักษณะขององค์พระนอนครับ




กึ่งกลางของวิหารหลังนี้เป็นเสาขนาดใหญ่ เรียงรายกันหลายต้น ด้านหนึ่งเป็นทางเดินที่เห็นกันไปแล้วในรูปข้างบน อีกด้านหนึ่งนั้นก็จะเป็นชั้นวางพระพุทธรูปปางค์ต่าง ๆ มากมายหลายองค์ ซึ่งรวมไปถึงพระพุทธรูปประจำวันเกิด ส่วนองค์พระนอนก็ประดิษฐานอยู่ด้านหลังพระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ นั้นอีกทีครับ




ด้วยข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ทำให้หามุมเก็บภาพองค์พระนอนแบบชัด ๆ ได้ค่อนข้างยากครับ ผมถ่ายมาหลายรูปแต่ที่คิดว่าเห็นพระพักตร์ขององค์พระนอนได้ชัดเจนที่สุดก็น่าจะเป็นรูปนี้


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

จาก วัดพระนอน พวกเราก็มุ่งหน้าตรงเข้าสู่ที่พัก ไม่ได้แวะที่ไหนอีกเลยครับ และนี่ก็คือสถานที่ที่พวกเราใช้พักผ่อนกันตลอดช่วงวันหยุดยาวต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นโครงการคอนโดมีเนียมริมชายหาดของกฤษดานครครับ




ใน 1 ห้องชุด ก็จะมี 1 ห้องนั่งเล่น ( ใช้เคาน์เตอร์แบ่งเขตระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องครัว ) 2 ห้องน้ำ และ 2 ห้องนอน ห้องนอนห้องแรกที่อยู่ฝั่งริมทะเลนั้นเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ครับ




ส่วนห้องนอนที่อยู่ด้านในเป็นเตียงคู่ ผมไม่ได้นอนข้างในห้องนอนที่เห็นอยู่นี้หรอกครับ นอนหลับอยู่บนโซฟานุ่ม ๆ ตัวใหญ่ ๆ หน้าโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นสบายกว่าเยอะ เหอะ เหอะ . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[pattharachai]

ขอนั่งรถไฟใต้ดินไปเพชรบุรีด้วยคนนะครับพี่เต้ย

[ExtendeD]

กลับมาที่ห้องนั่งเล่น ตอนนั้นกำลังคึกคักวุ่นวาย เพราะทุกคนมัวแต่จัดของกันอยู่ แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผมได้มากที่สุด ก็คือภาพและเสียงจากโทรทัศน์ในขณะนั้นครับ เป็นสารคดีของ Discovery ที่ฉายผ่านทาง True Vision เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงทางรถไฟของต่างประเทศ เสียงเป็น SoundTrack ล้วน ๆ ไม่มีเสียงไทยในฟิล์ม SubTitle ก็ไม่มี ถึงแม้จะไม่ใช่ Professional ทางด้านภาษาอังกฤษ แต่ตอนที่ดูภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์หรือดูจากโทรทัศน์ที่บ้าน ผมก็พอจะฟังจับใจความได้บ้าง แต่ในสภาวะที่ค่อนข้างวุ่นวายของห้องนั่งเล่นในขณะนั้น ผมจับใจความอะไรไม่ได้เลย จนปัญญาจริง ๆ ครับ






_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

หลีกหนีความสับสนวุ่นวายในห้องนั่งเล่น ออกไปชมวิวที่สามารถมองเห็นได้จากระเบียงห้องกันดีกว่าครับ




พื้นที่ที่อยู่ตรงกลางระหว่างตัวคอนโดกับชายหาดนั้น มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ด้วย ตอนที่ถ่ายรูปนี้เป็นช่วงเที่ยงพอดี แดดแรงมาก ก็เลยยังไม่มีใครอาจหาญต่อกรกับรังสี UV ลงไปว่ายน้ำในสระ แต่เดี๋ยวช่วงบ่ายแก่ ๆ ประมาณ 16:00 น. ไปแล้ว บรรยากาศที่สระว่ายน้ำจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เห็นสระว่ายน้ำมนุษย์ประดิษฐ์กันแล้ว มาดูสระว่ายน้ำธรรมชาติสรรค์สร้างกันบ้างครับ นี่คือวิวชายหาดที่สามารถมองเห็นได้จากระเบียงของห้องที่พวกเราพักครับ จากสระว่ายน้ำน้ำจืดเดินไปอีกไม่กี่ก้าวก็ถึงทะเลน้ำเค็มแล้ว




เนื่องจากตัวอาคารหลังนี้ไม่ได้สร้างเป็นแนวตรง 180 องศา ขนานกับชายหาด แต่ปีกของอาคารทั้ง 2 ด้านทำมุมกันประมาณ 150 - 160 องศา ถ้ายืนอยู่ที่ระเบียงห้อง แล้วมองออกไปตรง ๆ ก็จะเห็นวิวแบบในภาพข้างล่างนี้ครับ จะเห็นว่าตัวเมืองหัวหินอยู่ห่างออกไปค่อนข้างไกล ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะประมาณ 10 กิโลเมตรได้ ในทางกลับกันถ้าไปยืนอยู่ที่ระเบียงของห้องที่อยู่ที่ปีกอีกด้านหนึ่งของอาคาร ก็น่าจะมองเห็นตัวเมืองชะอำได้ชัดเจน เพราะว่าคอนโดแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองชะอำเพียงแค่ประมาณ 4 กิโลเมตรเท่านั้นครับ . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.