Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312062
ทั่วไป:13656886
ทั้งหมด:13968948
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 55, 56, 57 ... 489, 490, 491  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 16/09/2009 10:35 am    Post subject: Reply with quote

การรถไฟฯ เพิ่มขบวนรองรับแรงงานไทยในมาเลเซียกลับภูมิลำเนา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 กันยายน 2552 16:16 น.


นราธิวาส - แรงงานในประเทศมาเลเซียเริ่มเดินทางกลับประเทศเพื่อมาร่วมเฉลิมฉลองวันตรุษอิดิ้ลฟิ้ตตรี้กับครอบครัวยังภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก จึงทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เพิ่มขบวนรถไฟสายใต้ทั้งขาขึ้นและขาลง จาก7ขบวนต่อวัน เป็น10 ขบวนโดยขบวนสุราษฎร์ธานี - สุไหงโก-ลก อีก1ขบวน และขบวนรถไฟนครศรีธรรมราช-สุไหงโก-ลก อีก 2 ขบวนพร้อมดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

วันนี้ (15 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด่านชายแดน 3 แห่ง ใน อ.แว้ง ตากใบ และสุไหงโก-ลก เนืองแน่นไปด้วยกลุ่มผู้ใช้แรงงานชาวไทยที่ไปทำงานในประเทศมาเลเซียนับพันคน ซึ่งเริ่มทยอยเดินทางกลับมาเฉลิมฉลองวันตรุษอิดิ้ลฟิ้ตตรี้กับครอบครัวยังภูมิลำเนาของตนเองหลังเดือนรอมฎอนใกล้สิ้นสุดลงในสัปดาห์นี้ ทำให้ต้องมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบเอกสารและหนังสือเดินทางจึงส่งผลให้การจราจรติดขัดตลอดเส้นทางเข้า-ออกแนวชายแดนทั้ง3จุด

ด้าน นายอาลาวีย์ อูมา นายสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เพิ่มขบวนรถไฟสายใต้ทั้งขาขึ้นและขาลง จาก 7 ขบวนต่อวัน เป็น10 ขบวน โดยเพิ่มรถไฟขบวนสุราษฎร์ธานี - สุไหงโก-ลก อีก1ขบวน และขบวนรถไฟนครศรีธรรมราช - สุไหงโก-ลก อีก 2 ขบวน เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนชาวไทยมุสลิมที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในเทศกาลดังกล่าวซึ่งขณะนี้ได้มีประชาชนมาใช้บริการเต็มทุกขบวน มากกว่า2,000คนต่อวัน

อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำถึงการให้บริการและมาตรการรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางว่ามีการดูแลจากหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงอย่างเข้มงวด จึงขอให้ประชาชนที่มาใช้บริการมั่นใจในการเดินทางกับขบวนรถไฟได้อย่างเต็มที่
Back to top
View user's profile Send private message
tongchit
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 28/03/2006
Posts: 1164
Location: ทับยาว เขต.ลาดกระบัง

PostPosted: 20/09/2009 9:36 am    Post subject: Reply with quote

http://www.thairath.co.th/content/pol/33874

112 ปีรถไฟไทยยังไม่ไปถึงไหน
เวลานี้ถ้าใครมาถามว่าวันเสาร์ที่ 19 ก.ย.จะมีเหตุวุ่นวายอะไรหรือไม่ ผมจะตอบอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่รู้เหมือนกัน เพราะการเมืองไทยวันนี้มันสับสนวุ่นวายกันจนไม่รู้อะไรเป็นอะไรมั่วไปหมด

ใน กทม. มีม็อบคนเสื้อแดงมาชุมนุมใหญ่ เพื่อรำลึกถึงวันที่ คมช. ทำรัฐประหารล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่วนที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลุ่มพันธมิตรฯ ภาคอีสาน ก็นัดชุมนุมเพื่อทวงคืนพื้นที่พิพาท รอบปราสาทเขาพระวิหาร

ฝ่ายบ้านเมืองก็กลัวว่าจะมีมือที่สามแฝงตัวเข้ามาสร้างสถานการณ์ เพื่อก่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย จนต้องมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อกำหนดวงให้ชุมนุมในพื้นที่จำกัดไม่ให้บานปลาย กลายเป็นม็อบป่วนเมืองเหมือนวันสงกรานต์เลือดที่ผ่านมา

พร้อมขอร้องประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่มีธุระจำเป็น หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปใกล้พื้นที่การชุมนุมเพื่อความปลอดภัย

ผมก็เลยอยากจะชวนท่านผู้อ่านไปนั่งรถไฟเล่นให้เย็นๆใจดีกว่า แต่พอนึกถึงเรื่องรถไฟก็อดไม่ได้ ที่ให้ท่านผู้อ่านช่วยกันคิดหน่อยว่า ทำไมการขนส่งระบบรางของบ้านเราถึงไม่พัฒนาเท่าที่ควร หลายประเทศใกล้บ้านเราที่มีรถไฟทีหลัง แต่วันนี้กลับแซงหน้าชนิดไม่เห็นฝุ่น

หลายคนเรียกรถไฟว่ารถหวานเย็น เพราะใช้เวลาในการเดินทางนานกว่าการเดินทางแบบอื่นในจุดหมายเดียวกัน หลายรัฐบาลพยายามจะพัฒนารถไฟ ไม่ว่าจะด้วยการแปรรูปหรือด้วยวิธีการใดๆ แต่ก็ถูกค้านหัวชนฝาจากคนในการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทุกครั้ง

จากข้อมูลพื้นฐาน รฟท.เป็นรัฐวิสาหกิจ ที่ให้บริการการขนส่งมวลชนระบบราง ทั้งการขนคนและขนสินค้า ครอบคลุมพื้นที่ 47 จังหวัด ระยะทางรวม 4.440 กิโลเมตร ปัจจุบันมีหนี้สินประมาณ 73,000 ล้านบาท

มาดูรายได้ของการรถไฟไทยปี 2551 แยกเป็นรายได้จากค่าโดยสาร 4.197 ล้านบาท รายได้จากค่าขนส่งสินค้า 2,392 ล้านบาท รายได้จากบริหารทรัพย์สินและอื่นๆ 2,061 ล้านบาท รวมรายได้ 8,650 ล้านบาท

ในขณะที่รายจ่ายแบ่งเป็นรายจ่ายเกี่ยวกับบุคลากร 5,487 ล้านบาท ค่าวัสดุ 2.862 ล้านบาท ค่าเชื้อเพลิง 3.206 ล้านบาท รวมรายจ่าย 11.555 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมค่าดอกเบี้ยเงินกู้ ค่าเสื่อมราคาวัสดุ และค่าบำเหน็จบำนาญ อีก 2.778 ล้านบาท ถ้าคิดตัวเลขขาดทุนสุทธิก็ประมาณ 9.800 ล้านบาท

เรื่องเงินที่จะเอามาพัฒนา รฟท.คงไม่ต้องพูดถึง ลำพังแค่หาเงินมาใช้หนี้ที่มีอยู่ก็ยากแล้ว ดังนั้นที่ผ่านมาการพัฒนารถไฟไทยจึงทำได้แค่ทาสีและล้างส้วมในตู้โบกี้

ลองสมมติถ้าการแปรรูป รฟท.เป็นจริง ใครได้ผลประโยชน์ ประชาชน นักการเมือง หรือพนักงานรถไฟ แต่อย่างหลังคงเป็นไป ไม่ได้ เพราะระบบบำเหน็จบำนาญคงหายไป การเล่นพรรคเล่นพวกก็จะหมดไป แต่คน รฟท.ก็ควรเปิดใจให้กว้าง ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ที่จะเกิดขึ้น แม้ตนเองจะต้องสูญเสียประโยชน์ไปบ้าง หากการเปลี่ยนแปลงนั้นจะทำให้ประชาชนได้รับการบริการที่ดีขึ้น

แต่ขณะเดียวกันการแปรรูปก็เป็นการเปิดช่อง ให้เอกชนที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับการเมือง เข้ามากอบโกยผลประโยชน์จากขุมทรัพย์นี้

ดังนั้น หากจะมีการแปรรูปหรือยกเครื่อง รฟท. ก็จำเป็นต้องทำในรูปคณะกรรมการที่มีความบริสุทธิ์ สะอาดและโปร่งใส สังคมสามารถตรวจสอบได้ ไม่ใช่การงุบงิบทำเหมือนฝูงสุนัขหิวที่รุมทึ้งเหยื่อ

ส่วนประชาชนที่โดยสารรถไฟต้องทำใจว่า อาจจะต้องจ่ายค่าโดยสารแพงขึ้นอีกสักนิด เพื่อให้ได้ใช้รถไฟที่ทันสมัยมากขึ้น ไม่ใช่รถหวานเย็นถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างเหมือนทุกวันนี้

แม้แต่คนที่ไม่ได้ให้บริการ รฟท.ก็ต้องเสียสละ หากรัฐบาลจะเจียดงบฯก้อนใหญ่ไปอุดหนุน เพื่อให้การแปรรูป รฟท.สามารถเป็นจริงได้

ทั้งหมดที่ผมพูดมานี้ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของใคร แต่พูดเพื่อตัวเองเพราะความอิจฉาคนเวียดนาม ที่มีรถไฟใช้หลังบ้านเราตั้งหลายสิบปี แต่วันนี้มีรถไฟหัวจรวดความเร็วสูงใช้แล้ว.

"ลมสลาตัน"
_________________
ความผิดฅนอื่นเท่าขุนเขา ความผิดเราเท่าขุมขน
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
nop2
2nd Class Pass (Air)
2nd Class Pass (Air)


Joined: 06/03/2008
Posts: 985
Location: เพชรบุรี

PostPosted: 20/09/2009 1:35 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟหึ่งอีก ประมูลหัวจักร 308 คัน 1.7 พันล้านบาท เริ่มส่งกลิ่น ส่อเค้าล็อกสเป็ก ผู้ร่วมประมูลเตรียมฟ้องศาลระงับโครงการ ชี้เข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.อาญา มาตรา157..

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 22 ก.ย.นี้ คณะกรรมการยกร่างขอบเขตของงาน โครงการประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า จำนวน 308 คัน พร้อมเครื่องอะไหล่ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่มีนายประจักษ์ มโนธัม รองผู้ว่าการ รฟท. เป็นประธาน จะจัดการประชุมเพื่อชี้แจงเพิ่มเติมผู้ผ่านการคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเบื้อง ต้นการจัดซื้อของฝ่ายการพัสดุการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยในวันดังกล่าว กำหนดไว้ในระเบียบว่าหากผู้เสนอราคารายใดไม่เข้าร่วมประชุมจะยกเหตุที่ไม่ ได้เข้าร่วมประชุมรับฟังคำชี้แจงเพิ่มเติม มาเป็นข้อต่อสู้ภายหลังมิได้

รายงาน ข่าวแจ้งว่า สำหรับในวันชี้แจงครั้งนี้ ทางบริษัทผู้ร่วมประมูลหลายบริษัทเตรียมข้อมูลที่จะซักค้านร่างทีโออาร์ การกำหนดสเป็กของโครงการประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า จำนวน 308 คัน เนื่องจากข้อกำหนดทางเทคนิคบางอย่าง มีการกำหนดสเป็กอย่างไม่เป็นธรรม และมีความจงใจที่จะเปิดทางให้กับบริษัทต่างชาติบางรายชนะการประมูลอย่างไม่ เป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซักค้านของผู้ร่วมประมูลงานการรถไฟครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่มีการรวมตัวกันหลายบริษัท และหากเรื่องดังกล่าวคณะกรรมการรร่างขอบเขตของงานไม่มีการแก้ไข จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับนายประจักษ์ มโนธัม รองผู้ว่าการ รฟท. ในฐานะที่เป็นประธานกรรมการพิจารณา ซึ่งโครงการดังกล่าวมีมูลค่าประมาณการโครงการที่ 1,700 ล้านบาท และถือเป็นโครงการที่ถูกจับตาเป็นอย่างมาก โดยสถานที่ประชุมที่กำหนดไว้ในเบื้องต้นคือ อาคารที่ทำการฝ่ายพัสดุ ชั้น 2 ที่ทำการรฟท.สำนักงานใหญ่ เวลา 10.00 น.

สำหรับประเด็นที่น่า สงสัยเกี่ยวกับการล็อกสเป็คที่ส่งผลให้มีการซักค้าน ประกอบด้วย 1. ประเด็นเรื่องเครื่องพ่วง (Coupler) พร้อมเครื่องรับแรงกระแทก (Draft gear) ในอดีตเคยระบุยี่ห้อและประเทศที่ทำการผลิต แต่ในครั้งนี้ไม่ได้มีการระบุในข้อกำหนดด้านเทคนิค 2. ประเด็นเรื่องลูกปืนล้อ (Journal roller bearing) ซึ่งมีการกำหนดว่าให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากบริษัทในประเทศ สหรัฐอเมริกา และบริษัท SKF เท่านั้นแต่ไม่ได้กำหนดว่าใช่ฐานการผลิตที่ไหน แต่หากเป็นยี่ห้อ FAG นั้นจะต้องทำการผลิตจากประเทศเยอรมันเท่านั้น ทั้งที่ในข้อเท็จจริงแล้ว ในปัจจุบันการผลิตลูกปืนล้อยี่ห้อ FAG นั้นทางผู้ผลิตในประเทศเยอรมันได้ย้ายฐานการผลิตมาอยู่ที่ประเทศจีนหมดแล้ว และแม้ว่าจะผลิตในประเทศจีน แต่กระบวนการขั้นตอนการผลิตนั้นดำเนินการผลิตภายใต้มาตรฐานเยอรมันและมีการ ควบคุมงานโดยวิศวกรชาวเยอรมัน ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการกีดกันยี่ห้อ FAG ออกไป ทั้งที่ยี่ห้อดังกล่าวเคยเป็นที่ยอมรับของรฟท.มาโดยตลอด

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติจะต้องยื่นซองประกวดราคาในวันที่ 14 ต.ค. เวลา 10.00-11.00 น. ที่รฟท. สำนักงานใหญ่ และจะเปิดประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ 14 พ.ย. เวลา 14.00 น.ที่บริษัท สเปซไวร์ จำกัด

นายอารัม รมยานนท์ รองกรรมการบริหาร บริษัท สยาม โบกี้ จำกัด หนึ่งในแกนนำการซักร่างทีโออาร์ โครงการ ประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า จำนวน 308 คัน กล่าวว่า ที่ผ่านมาต้องยอมรับผู้ร่วมประมูลงานกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่มีใครกล้าจะออกมาพูดกล่าวหาการรถไฟเกี่ยวกับเรื่องการกำหนดสเป็ก เนื่องจากจะมีผลต่อการรับงาน หรือ อาจได้รับความไม่เป็นธรรมในการเสนองานครั้งต่อไป แต่การซักค้านครั้งนี้เกิดขึ้นจากการกำหนดสเป็กที่ไม่เป็นธรรมต่อบริษัทผู้ ร่วมประมูลหลายบริษัท และในการซักค้านครั้งนี้หากไม่มีผล ทางกลุ่มผู้ร่วมประมูลจะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอ อำนาจศาลปกครองให้ระงับโครงการประมูลครั้งนี้ ซึ่งจะส่งผลให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเสียหายอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ การกำหนดสเป็กทางด้านเทคนิคที่คณะกรรมการกำหนดขึ้นมา หากมาพิจารณาให้ดีแล้วจะเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.อาญา มาตรา157 ว่า ด้วยเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจหน้าที่ปฏิบัติมิชอบ อย่างชัดเจน โดยฉพาะข้อกำหนดทางด้านเทคนิค ในเรื่องอะไหล่ ลูกปืนล้อรถไฟ ที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับตัวแทนจำหน่ายบางรายอย่างชัดเจน
ไทยรัฐออนไลน์

http://www.thairath.co.th/content/eco/34268
_________________
"You are star I am darkness Our love brighter than the sun .."
Back to top
View user's profile Send private message MSN Messenger
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 20/09/2009 1:51 pm    Post subject: Reply with quote

^^^
เวร บทต. 308 หลัง พี่ท่านก็มั่วเป็๋นรถจักร 308 หลัง Sad

//------------------------------------------------------------
รฟท.ตูดขาด ชงครม. กู้เงิน4พันล้าน
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์ 18 กันยายน 2552, 22:09 น.

รถไฟตูดขาด ชงครม.อังคารที่ 22 ก.ย. กู้เงิน 4,210 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน สศช.บี้หารายได้เพิ่ม-ลดค่าใช้จ่าย พร้อมจัดทำแผนการดำเนินกิจการในระยะยาว เสนอให้ครม.ทราบด้วย

ผู้สื่อ ข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ในการประชุมคณะรัฐมตรี (ครม.) วันอังคารที่ 22 ก.ย. กระทรวงคมนาคมเสนอให้ครม.พิจารณาอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กู้เงินระยะยาวเพื่อใช้ในการดำเนินงาน จำนวน 4,210 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียด ตามความเหมาะสม โดยร.ฟ.ท.รายงานว่า สืบเนื่องมาจากมติครม.เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2552 ได้อนุมัติในหลักการการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2552 ครั้งที่ 4 ที่มีวงเงินดำเนินการสุทธิลดลง 21,347.25 ล้านบาท จากวงเงินเดิม 1,396,882.70 ล้านบาท เหลือ 1,375,535.45 ล้านบาท และอนุมัติการกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้ในประเทศของรัฐบาลและรัฐวิสหา กิจภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2552 ปรับปรุงครั้งที่ 4 รวมถึงวงเงินกู้ของร.ฟ.ท.จำนวน 5,010 ล้านบาทด้วย

วงเงินกู้ดัง กล่าวประกอบด้วยเงินกู้ระยะยาว 4,210 ล้านบาท และงเนกู้ระยะสั้น 800 ล้านบาท และจากผลการดำเนินงานจริงและสถานการณ์ต่าง ๆ ทำให้งบประมาณทำการประจำปี 2552 ของ รฟท.ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิม คือ ประมาณการรายได้ เดิม 8,772 ล้านบาท ปรับปรุงใหม่ 8,366 ล้านบาท ลดลง 406 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.63 ประมาณการรายจ่าย เดิม 20,307 ล้านบาท ปรับปรุงใหม่ 18,394 ล้านบาท ลดลง 1,913 ล้านบาทหรือร้อยละ 9.42 ประมาณการขาดทุนสุทธิจกาการดำเนินงาน เดิม 11,535 ล้านบาท ปรับปรุงใหม่ 10,028 ล้านบาท ลดลง 1,507 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.06 เงินสดรับ เดิม 17,472 ล้านบาท ปรับปรุงใหม่ 17,645 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 173 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.99 เงินสดจ่าย 24,737 ล้านบาท ปรัปบรุงใหม่ 22,573 ล้านบาท ลดลง 2,164 ล้านบาทหรือร้อยละ 8.75 เงินสดขาด 7,265 ล้านบาท ปรัปบรุงใหม่ 4,928 ล้านบาท ลดลง 2,337 ล้านบาทหรือร้อยละ 32.17 เงินสดคงเหลือต้นงวด เดิม 100 ล้านบาท ปรับปรุงใหม่ 718 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 618 ล้านบาท หรือร้อยละ 618 และเงินสดคงเหลือปลายงวดขาด เดิม 7,165 ล้านบา ท ปรับปรุงใหม่ 4,210 ล้านบาท ลดลง 2,955 ล้านบาทหรือร้อยละ41.24

ผู้ สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงงบประมาณทำการประจำปี 2552 ดังกล่าวเมื่อรวมกับภาระรายจ่ายลงทุน ส่วนที่ร.ฟ.ท. ต้องรับภาระ การชำระหนี้เงินกู้ และรายจ่ายบำเหน็จบำนาญ ทำให้ ร.ฟ.ท.ขาดเงินสดหมุนเวียน จำนวน 4,210 ล้านบาท คณะกรรมการร.ฟ.ท.เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2552 ได้มีมติอนุมัติให้ร.ฟ.ท.กู้เงินจำนวนดังกล่าวเพื่อให้มีกระแสเงินสดเพียงพอ ใน การใช้จ่ายดำเนินงานและการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มีข้อสังเกตเห็นควรให้ ร.ฟ.ท.บริหารรายรับ- รายจ่าย โดยหาแนวทางในการเพิ่มรายได้จากธุรกิจหลักและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และควบคุมค่าใช้จ่ายการดำเนินงานส่วนที่ควบคุมได้ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องในกรณีที่ต้นทุนดำเนินงานปรับตัว เพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้ โดยเฉพาะต้นทุนด้านน้ำมันเชื้อเพลิง และเห็นควรให้ร.ฟ.ท.จัดทำแผนการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อการพัฒนาโครงการและ การ ดำเนินกิจการในระยะยาวและเสนอให้ครม.ทราบด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
alderwood
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/04/2006
Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา

PostPosted: 21/09/2009 3:14 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.เร่งยกระดับเดินรถเชิงท่องเที่ยว
ที่มา: ไทยรัฐ วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ.2552

Click on the image for full size

การรถไฟแห่งประเทศไทย เร่งยกระดับการให้บริการเดินรถเชิงท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐาน พร้อมขยายเส้นทางเดินรถในแหล่งท่องเที่ยวไทย คาดทำให้รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 20 ล้านบาทต่อปี...

วันนี้ ( 21 ก.ย.) นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. กล่าวว่า ในแต่ละปีการรถไฟแห่งประเทศไทย มีรายได้จากการให้บริการเดินรถโดยสารประมาณ 4,200 ล้านบาท เป็นรายได้จากการเดินรถเพื่อการท่องเที่ยวประมาณ 20 ล้านบาทต่อปี และในเร็วๆ นี้ รฟท. จะทำการฟื้นฟูเส้นทางท่องเที่ยวในแหล่งสำคัญ ประมาณกลางเดือนต.ค.นี้จะเปิดให้บริการเดินรถเส้นทาง กรุงเทพฯ-แม่กลอง เส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร-หัวหิน ซึ่งขณะนี้ รฟท. ได้ทำการปรับปรุงขบวนรถและสถานีรถไฟหัวหิน ซึ่งคาดว่าภายใน 1 ปีจะแล้วเสร็จ

ผู้ว่าฯรฟท.กล่าวต่อว่า รฟท. ยังเดินหน้าสร้างมาตรฐานการให้บริการของพนักงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบริษัททัวร์ จัดอบรมบุคลากรเพื่อการท่องเที่ยวของการรถไฟ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานรวมถึงบริษัทเอกชนที่ดำเนินการจัดรายการท่องเที่ยว รถไฟเกิดจิตสำนึกในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว และผู้ใช้บริการ หลังจากการปรับปรุงการให้บริการ และยกระดับขบวนรถแล้ว จะทำให้ รฟท.มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกกว่า 20 ล้านบาทต่อปี
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website MSN Messenger
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 21/09/2009 4:06 pm    Post subject: ล็อกสเป็กเป็นพิษ Reply with quote

เอกชนผนึกค้านประมูลหัวจักรรถไฟ
กล่าวหา ร.ฟ.ท.ล็อคสเปคทีโออาร์ ขู่ร้องศาลปกครองระงับประมูล

มติชนรายวัน ปีที่ 32 ฉบับที่ 11517 วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552


ประมูลหัวจักรรถไฟ 308 คัน (ที่ถูกก็คือ รถ บทต.) เริ่มส่งกลิ่น ส่อเค้าล็อคสเปค ผู้ร่วมประมูลเตรียมฟ้องศาลระงับโครงการประมูลหัวจักรรถไฟ 1.7 พันล้านส่อเค้ามีปัญหา บริษัทเข้าประมูลรวมตัวค้านทีโออาร์ ยกทีมบุก ร.ฟ.ท.วันที่ 22 กันยายนนี้ กล่าวหาล็อคสเปคเอื้อประโยชน์บางบริษัท ลั่นถ้าคำค้านไม่เป็นผล จะร้องศาลปกครองระงับการประมูล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 22 กันยายนนี้ คณะกรรมการยกร่างขอบเขตของงาน โครงการประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า จำนวน 308 คัน พร้อมเครื่องอะไหล่ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่มีนายประจักษ์ มโนธัม รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เป็นประธาน จะจัดการประชุมเพื่อชี้แจงเพิ่มเติมผู้ผ่านการคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเบื้องต้นการจัดซื้อของฝ่ายการพัสดุการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยในวันดังกล่าว กำหนดไว้ในระเบียบว่า หากผู้เสนอราคารายใดไม่เข้าร่วมประชุมจะยกเหตุที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมรับฟังคำชี้แจงเพิ่มเติม มาเป็นข้อต่อสู้ภายหลังมิได้

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับในวันชี้แจงครั้งนี้ ทางบริษัทผู้ร่วมประมูลหลายบริษัทเตรียมข้อมูลที่จะซักค้านร่างทีโออาร์ การกำหนดสเปคของโครงการประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า จำนวน 308 คัน เนื่องจากข้อกำหนดทางเทคนิคบางอย่าง มีการกำหนดสเปคอย่างไม่เป็นธรรม และมีความจงใจที่จะเปิดทางให้กับบริษัทต่างชาติบางรายชนะการประมูลอย่างไม่เป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซักค้านของผู้ร่วมประมูลงานครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่มีการรวมตัวกันหลายบริษัท และหากเรื่องดังกล่าวคณะกรรมการร่างขอบเขตของงาน ไม่มีการแก้ไข จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับนายประจักษ์ ในฐานะที่เป็นประธานกรรมการพิจารณา ซึ่งโครงการดังกล่าวมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการล็อคสเปคที่ส่งผลให้มีการซักค้านนั้นคือ ในทีโออาร์ระบุกรณีลูกปืนล้อ (Journal roller bearing) ซึ่งกำหนดให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากบริษัทในสหรัฐอเมริกาหรือเยอรมนี แต่หากเป็นยี่ห้อ FAG นั้น จะต้องทำการผลิตจากประเทศเยอรมนีเท่านั้น ทั้งที่ในปัจจุบันการผลิตลูกปืนล้อยี่ห้อ FAG นั้น ทางผู้ผลิตในประเทศเยอรมนีได้ย้ายฐานการผลิตมาอยู่ที่ประเทศจีนหมดแล้ว และแม้ว่าจะผลิตในประเทศจีน แต่กระบวนการขั้นตอนการผลิตนั้นดำเนินการผลิตภายใต้มาตรฐานเยอรมนีและมีการควบคุมงานโดยวิศวกรชาวเยอรมัน ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการกีดกันยี่ห้อ FAG ทั้งที่ยี่ห้อดังกล่าวเคยเป็นที่ยอมรับของ ร.ฟ.ท.มาโดยตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติจะต้องยื่นซองประกวดราคาในวันที่ 14 ตุลาคม 2552 และจะเปิดประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2552

นายอารัม รมยานนท์ รองกรรมการบริหาร บริษัท สยาม โบกี้ จำกัด หนึ่งในแกนนำการซักร่างทีโออาร์ โครงการประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ร่วมประมูลงานกับ ร.ฟ.ท.ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องการกำหนดสเปคเนื่องจากจะมีผลต่อการรับงาน หรืออาจได้รับความไม่เป็นธรรมในการเสนองานครั้งต่อไป แต่การซักค้านครั้งนี้เกิดขึ้นจากการกำหนดสเปคที่ไม่เป็นธรรมต่อบริษัทผู้ร่วมประมูลหลายบริษัท และในการซักค้านครั้งนี้หากไม่มีผล ทางกลุ่มผู้ร่วมประมูลจะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขออำนาจศาลปกครองให้ระงับโครงการประมูลครั้งนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ ร.ฟ.ท.เสียหายอย่างแน่นอน

"สำหรับเรื่องการกำหนดสเปคทางด้านเทคนิคที่คณะกรรมการกำหนดขึ้นมา อาจจะเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.อาญา มาตรา 157 ว่าด้วยเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจหน้าที่ปฏิบัติมิชอบ โดยเฉพาะข้อกำหนดทางด้านเทคนิค ในเรื่องอะไหล่ ลูกปืนล้อรถไฟ ที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับตัวแทนจำหน่ายบางรายอย่างชัดเจน" นายอารัมกล่าว

โวยประมูลโบกี้รถไฟ ส่อล็อกสเปก1.7พันล.
โพสต์ทูเดย์ วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552

ประมูลโบกี้รถไฟ 308 คัน มูลค่า 1,700 ล้านส่อเค้าล็อกสเปก ผู้ร่วมประมูลเตรียมฟ้องศาลระงับโครงการ

ผู้สื่อข่าวเปิดเผยว่า ในวันที่ 22 ก.ย.นี้ มีผู้ประกอบการหลายบริษัท ที่เข้าร่วมประมูลโครงการประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า จำนวน 308 คัน มูลค่า 1,700 ล้านบาท เตรียมข้อมูลที่จะซักค้าน ร่างทีโออาร์ การกำหนดสเปกของโครงการดังกล่าว เนื่องจากเห็น ว่าข้อกำหนดทางเทคนิคบางอย่าง มีการกำหนดสเปกอย่างไม่เป็นธรรม และจงใจเปิดทางให้กับบริษัทต่างชาติบางรายชนะประมูล
ทั้งนี้ ประเด็นที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการล็อกสเปกประกอบด้วย

1.เรื่องเครื่องพ่วง (Coupler) พร้อมเครื่องรับแรงกระแทก (Draft gear) ที่ในอดีตระบุยี่ห้อและประเทศผลิต แต่ครั้งนี้ไม่ได้ระบุข้อกำหนดด้านเทคนิค

2.ลูกปืนล้อ (Journal Roller Bearing) ซึ่งกำหนดว่าให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากบริษัทในประเทศสหรัฐ และบริษัท SKF แต่หากเป็นยี่ห้อ FAG ต้องผลิตจากประเทศเยอรมนีเท่านั้น ทั้งปัจจุบันลูกปืนล้อยี่ห้อ FAG ได้ย้ายฐานการผลิตมาอยู่ที่ประเทศจีนหมดแล้ว จึงเท่ากับเป็นการกีดกันยี่ห้อ FAG ทั้งที่ [ลูกปืนล้อ ของ SKF] เคยเป็นที่ยอมรับของร.ฟ.ท.มาโดยตลอด

ด้านนายอารัม รมยานนท์ รองกรรมการบริหาร บริษัท สยาม โบกี้ หนึ่งในแกนนำการซักร่าง ทีโออาร์โครงการดังกล่าว กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ร่วมประมูลงานกับร.ฟ.ท. ไม่มีใครกล้ากล่าวหาการรถไฟฯ เรื่องการกำหนดสเปก เพราะเกรงจะมีผลต่อการรับงาน หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเสนองานครั้งต่อไป แต่ครั้งนี้เห็นว่าการกำหนดสเปกไม่เป็นธรรมต่อบริษัทที่ร่วมประมูลหลายราย และหากไม่มีผล จะร้องทุกข์ไปยังศาลปกครองให้ระงับโครงการประมูลต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 21/09/2009 4:09 pm    Post subject: Reply with quote

ชงครม.ขอกู้ ให้รถไฟถลุง กว่า4พันล้าน
โพสต์ทูเดย์ วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552


คมนาคมชงครม. อนุมัติเงินกู้ระยะยาว 4,210 ล้านบาท ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 22 ก.ย.นี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอขออนุมัติเงินกู้ระยะยาวจำนวน 4,210 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยกระทรวงการคลัง เป็นผู้ค้ำประกัน ซึ่งร.ฟ.ท. จะเสนอแผนบริหารรายได้และรายจ่าย โดยการเพิ่มรายได้จากธุรกิจ หลักและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง พร้อมแผนควบคุมการใช้จ่ายให้ครม. รับทราบต่อไป

ด้านนายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการร.ฟ.ท. กล่าวว่า แผนขออนุมัติกู้ระยะยาว 4,210 ล้านบาท จะใช้สำหรับการ จัดซื้อรถไฟใหม่ 7 ขบวน ในสูตร 6+1 คือ สำหรับเดินรถภาคเหนือ 2 ขบวน (ขบวน ดพ. 1/2) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 ขบวน (ขบวน ด. 67/68) ภาคใต้ 2 ขบวน (ขบวน ดพ. 35/36) และเป็นขบวนสำรอง 1 ขบวน

นอกจากนี้ จะปรับปรุงขบวนรถในระบบเฟิสต์คลาสเพื่อรองรับผู้โดยสารชั้น 1 และ 2 เพราะรายได้ส่วนใหญ่ของร.ฟ.ท. จะมาจากชั้น 1 และ 2 ซึ่งการปรับปรุงอาจใช้ รูปแบบการให้บริการในยุโรปมาเป็นต้นแบบ เน้นความรวดเร็ว ตรงเวลา

ล่าสุดร.ฟ.ท. ได้เปิดตัวโครงการนำร่อง ด้วยการพัฒนาการบริการเดินรถไฟกรุงเทพฯ-หัวหิน โดย เซ็นสัญญากับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้เป็นผู้ทำแบบแผน คาดว่าปีหน้าจะเปิดใช้บริการได้ จากนั้นจะขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 21/09/2009 7:53 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.ยันไม่ได้ล็อคสเปคโบกี้รถไฟ

โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ ไทยรัฐออนไลน์ 21 กันยายน 2552, 18:45 น.

ผู้ว่าฯรฟท.ยืนยันไม่ได้ล็อคสเปคการประกวดราคาโครงการโบกี้รถไฟกับบริษัทเอกชน มูลค่ากว่า1,700 ล้านบาท ระบุพรุ่งนี้เตรียมประชุมชี้แจงผู้ผ่านคัดเลือก

วันนี้ (21 ก.ย.) นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กล่าวถึงกรณีที่ ทางบริษัทเอกชนผู้ที่จะเข้ามาประกวดราคาในโครงการ ประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า จำนวน 308 คัน พร้อมเครื่องอะไหล่ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท. ) มูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท จะเข้าร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากมีการล็อกสเปคในการเข้ามา ประมูลดังกล่าวนั้นว่า ในเรื่องนี้จากที่มีการตรวจสอบเบื้องต้นกับฝ่ายช่างกลของ รฟท. ที่กำกับดูแลการดำเนินการโครงการดังกล่าว ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวไม่มีการล็อคสเปค และในเงื่อนไขประกวดประกาศเชิญชวนก็มีการเปิดกว้างว่าใครจะเข้ามาประมูลได้ รวมถึงไม่ได้ระบุว่าบริษัทที่ประมูลจะต้องผลิตที่บริษัทต้นแบบ

“ขอปฎิเสธถึงกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า ในร่างเงื่อนไข ทีโออาร์ มีการระบุ โดยเฉพาะประเด็น ลูกปืนล้อ (Journal roller bearing) มีการกำหนดว่าให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากบริษัทในประเทศ สหรัฐอเมริกา และบริษัท SKF เท่านั้นแต่ไม่ได้กำหนดว่าใช่ฐานการผลิตที่ไหน แต่หากเป็นยี่ห้อ FAG นั้นจะต้องทำการผลิตจากประเทศเยอรมันเท่านั้น ขอยืนยันว่าในประเด็นดังกล่าวไม่เป็นความจริงเนื่องจากในทีอาร์ ได้เปิดกว้าง บริษัทที่จะเข้าประมูลจะผลิตจากประเทศไหนก็ได้ แต่จะต้องมีหนังสือรับรองจากประเทศต้นแบบรับรองมาให้ รฟท.เท่านั้น ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวถือว่าเปิดกว้าง อย่างมาก” ผู้ว่าฯรฟท. กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ คณะกรรมการ ยกร่างขอบเขตของงาน โครงการ ประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า จำนวน 308 คัน พร้อมเครื่องอะไหล่ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่มีนาย ประจักษ์ มโนธัม รองผู้ว่า ร.ฟ.ท. เป็นประธาน จะจัดการประชุมเพื่อชี้แจงเพิ่มเติมผู้ผ่านการคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเบื้อง ต้นการจัดซื้อของ ฝ่ายการพัสดุการรถไฟแห่งประเทศไทย โดย ทางบริษัทผู้ร่วมประมูลหลายบริษัทเตรียมข้อมูลที่จะซักค้านร่างทีโออาร์ การกำหนดสเป็กของโครงการประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า จำนวน 308 คัน เนื่องจากข้อกำหนดทางเทคนิคบางอย่าง มีการกำหนดสเป็กอย่างไม่เป็นธรรม และมีความจงใจที่จะเปิดทางให้กับบริษัทต่างชาติบางรายชนะการประมูลอย่างไม่ เป็นธรรม

สำหรับประเด็นที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการล็อกสเป็คที่ส่งผลให้มีการซักค้าน ประกอบด้วย

1.ประเด็นเรื่องเครื่องพ่วง (Coupler) พร้อมเครื่องรับแรงกระแทก (Draft gear) ในอดีตเคยระบุยี่ห้อและประเทศที่ทำการผลิต แต่ในครั้งนี้ไม่ได้มีการระบุในข้อกำหนดด้านเทคนิค

2.ประเด็นเรื่องลูกปืนล้อ (Journal roller bearing) ซึ่งมีการกำหนดว่าให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากบริษัทในประเทศ สหรัฐอเมริกา และบริษัท SKF เท่านั้นแต่ไม่ได้กำหนดว่าใช่ฐานการผลิตที่ไหน แต่หากเป็นยี่ห้อ FAG นั้นจะต้องทำการผลิตจากประเทศเยอรมันเท่านั้น ทั้งที่ในข้อเท็จจริงแล้ว ในปัจจุบันการผลิตลูกปืนล้อยี่ห้อ FAG นั้นทางผู้ผลิตในประเทศเยอรมันได้ย้ายฐานการผลิตมาอยู่ที่ประเทศจีนหมดแล้ว และแม้ว่าจะผลิตในประเทศจีนแต่กระบวนการขั้นตอนการผลิตนั้นดำเนินการผลิตภาย ใต้มาตรฐานเยอรมันและมีการควบคุมงานโดยวิศวกรชาวเยอรมัน ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการกีดกันยี่ห้อ FAG ออกไปทั้งที่ยี่ห้อดังกล่าวเคยเป็นที่ยอมรับของรฟท.มาโดยตลอด

//---------------------------------------------------------------

ขออย่าให้เกิดเรื่องเหลวไหลเลอะเทอะ อย่างกรณี บทต 112 หลัง อ่านะ Embarassed Laughing
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 29/09/2009 9:59 am    Post subject: Reply with quote

พัฒนา ร.ฟ.ท. อย่างน้อยให้ได้ EBITDA [เป็นบวก]
Transport Journal Monday, 28 September 2009 05:39

การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มีรายได้จากการโดยสารรวม 4,198 ล้านบาท (จากบริการเชิงสังคม 433 ล้านบาท และเชิงพาณิชย์ 3,765 ล้านบาท) ซึ่งเป็นรายได้จากลูกค้าปีละ 47.2 ล้านคน แยกเป็นลูกค้าเชิงสังคม 34.1 ล้านคน เป็นลูกค้าเชิงพาณิชย์ 13.1 ล้านคน มีรายได้จากการขนส่งสินค้าปีละ 13.7 ล้านตัน 2,374 ล้านบาท มีรายได้จากการบริหารทรัพย์สินและอื่นๆ อีก 2,100 ล้านบาท (รายได้เฉพาะการพัฒนาที่ดิน 1,000 ล้านบาทเศษ) เมื่อรวมค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคาแล้วจะมีรายจ่ายสูงกว่ารายได้รวมถึง 10,141 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่าถ้าต้องการให้ ร.ฟ.ท. มีกำไร ร.ฟ.ท. จะต้องหารายได้ให้ได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 18,813 ล้านบาท

หนทางที่จะทำได้ นอกจากใช้วิธีตั้งบริษัทลูก หรือให้รัฐบาลรับภาระหนี้ 66,241 ล้านบาท (ประมาณ 90.9% ของหนี้รวมของ ร.ฟ.ท.ทั้งหมด) ซึ่งเกิดจากโครงสร้างพื้นฐานรถไฟในอดีต โครงสร้างพื้นฐานรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงค์ และหนี้สินจากวัตถุประสงค์อื่นแล้ว แนวทางอื่นก็น่าจะมี เงื่อนไขต้องให้ ร.ฟ.ท. มีอิสระในการบริหารงาน

1. รายได้เพิ่มจากการพัฒนาที่ดิน ซึ่งจากการสำรวจล่าสุด ร.ฟ.ท.มีที่ดินทั้งสิ้น 234,976 ไร่ แม้ที่ดินจำนวนนี้ ส่วนใหญ่ 85% มีไว้ใช้ในกิจการเดินรถ และรองรับโครงการสำคัญๆ อาทิ รถไฟทางคู่, รถไฟความเร็วสูง, ย่านสินค้า และอื่นๆ แต่ก็ยังมีอีกประมาณ 15% หรือ 36,302 ไร่ (14,520,800 ตารางวา) ที่สามารถหาประโยชน์ได้ เพียง ร.ฟ.ท. สามารถหาประโยชน์ได้ตารางวาละ 100 บาทต่อเดือน ก็จะมีรายได้ปีละ 17,424.96 ล้านบาท

2. พัฒนาบริการโดยสาร เน้นการให้บริการโดยสารชั้น 1-2 ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าปีละประมาณ 4.4 ล้านคน หรือคิดเป็นประมาณ 9% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมด แต่ทำรายได้ถึงปีละประมาณ 3,000 ล้านบาท หากขยายบริการส่วนนี้ให้เท่ากับสัดส่วนบริการเชิงพาณิชย์ ร.ฟ.ท. จะมีรายได้เพิ่มเป็นปีละ 9,000 ล้านบาท ในขณะที่สัดส่วนบริการเชิงสังคมไม่เปลี่ยนแปลง (ยังคงสัดส่วนที่ 73%)

3. พัฒนาบริการขนส่งสินค้า เมื่อโครงสร้างพื้นฐานในระบบทางคู่และ Chord Line, หัวรถจักร และรถสินค้าเสร็จสมบูรณ์เป็นรูปธรรมในเร็ววัน ร.ฟ.ท. จะสามารถเพิ่มบริการได้อีกเท่าตัว ซึ่งจะมีรายได้ปีละ 4,800 ล้านบาท

เมื่อรวมรายได้ทุกประเภททั้งปี จะมีรายได้จำนวนถึง 31,657.96 ล้านบาท ถ้าทำได้เพียงครึ่งเดียว ก็น่าจะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย จ่ายภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายตัดบัญชี (EBITDA)
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 03/10/2009 12:49 am    Post subject: Reply with quote

PROPERTY WATCH: รฟท.ล็อกสเปก (อีกแล้ว)

โดย ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ 2 ตุลาคม 2552 13:24 น.


ภาคเอกชนสุดทนกับพฤติกรรมฉาวๆ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่เกือบทุกครั้งของการเปิดประกวดราคา จะต้องมีเรื่องฉาวๆ เกี่ยวข้องด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดใหญ่มูลค่าเป็นหมื่นล้าน หรือขนาดย่อมมูลค่าไม่กี่พันล้าน รวมถึงขนาดเล็กมูลค่าหลักร้อยล้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ล็อกสเปก เอื้อประโยชน์พวกพ้อง หวังเงินก้อนโตเข้ากระเป๋า โดยไม่ได้สนใจความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่ประเทศชาติ และประชาชน

ล่าสุดบริษัทผู้ร่วมประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกสินค้าหลายราย รวมตัวกันขอร่วมซักค้านร่างทีโออาร์ เพราะเห็นความไม่ชอบมาพากลในร่างโครงการประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกสินค้า จำนวน 308 คัน มูลค่า 1,700 ล้านบาท

อารัม รมยานนท์ รองกรรมการบริหาร บริษัท สยามโบกี้ จำกัด หนึ่งในผู้ร่วมซักค้าน บอกว่า เงื่อนไขของทีโออาร์ของ รฟท.ไม่เป็นธรรมต่อผู้ร่วมประมูลหลายราย และการซักค้านครั้งนี้ คณะกรรมการยกร่างไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดให้ผู้ร่วมประมูลหายสงสัยได้ สยามโบกี้จึงจะยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อขอคุ้มครองการประกวดราคาโครงการดังกล่าวไว้ก่อน และจะนำรายละเอียดของทีโออาร์เป็นหลักฐาน เพราะมีข้อเท็จจริงว่า รฟท.กำหนดเงื่อนไขในลักษณะล็อกสเปก และขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ ในการกำหนดเงื่อนไขด้านเทคนิค โดยในร่างทีโออาร์กำหนดยี่ห้อ ซึ่งถือเป็นการล็อกสเปก เข้าข่ายการกระทำผิดตาม พรบ.อาญา มาตรา157 ว่าด้วยเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจหน้าที่ปฏิบัติมิชอบ

อารัมบอกอีกว่า รฟท.กำหนดเงื่อนไขด้านเทคนิค และอะไหล่เครื่องพ่วงให้กับ 3 ยี่ห้อ คือ ซูมิโตโม ประเทศญี่ปุ่น Amsted อเมริกา และ Keystone อเมริกา ซึ่ง 2 ยี่ห้อหลังปัจจุบันได้ควบรวมกิจการกันแล้ว จึงเหลือเพียง 2 ยี่ห้อ ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการปิดกั้นบริษัทที่เสนอยี่ห้อ Besco ซึ่ง ยี่ห้อ Besco เป็นยี่ห้อที่ผ่านการทดสอบว่าใช้งานได้ดี และ รฟท.เองก็ใช้ยี่ห้อดังกล่าวเป็นเครื่องพ่วงรถ 112 คันที่เพิ่งรับมอบในเดือน ต.ค. 2551 อีกทั้งก่อนหน้านี้ รฟท.ก็ใช้เครื่องพ่วงยี่ห้อนี้แล้ว 1,800 ตัว และไม่เคยเกิดปัญหาใดๆ ในประสิทธิภาพของเครื่องพ่วง

นอกจากกำหนดยี่ห้อแล้ว รฟท.ยังกำหนดให้บริษัทที่เข้าร่วมประมูลต้องมีทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท ชำระเต็ม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้กำหนด ซึ่งถือเป็นการกำหนดเงื่อนไข เพื่อกีดกั้นอีกทางหนึ่ง

ถูกรุมซักค้านจนหาคำตอบไม่ได้ และภาคเอกชนถึงขั้นต้องพึ่งศาลปกครองแล้ว งานนี้ รฟท.ช่วยตอบสังคมให้หายสงสัยซะทีว่า เหตุใดไม่เปิดกว้างผู้ร่วมประมูล
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 55, 56, 57 ... 489, 490, 491  Next
Page 56 of 491

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©