ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[Wisarut]

รถไฟหยุดวิ่งป่วนทั่ว ปท.หัวจักรชำรุดไม่ปลอดภัย

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 16 ตุลาคม 2552 22:53 น.


รถไฟป่วนประกาศหยุดเดินรถทุกขบวนที่ตรวจพบหัวรถจักรสภาพไม่สมบูรณ์ ย้อนรอยฝ่ายบริหารที่โยนผิดพนักงานขับรถขบวนตกรางเข่าเต่า ไม่สนระบบอุปกรณ์หัวจักรชำรุด ส่งผลผู้โดยสารตกค้างสถานีหลักทั้งหาดใหญ่,แก่งคอย สหภาพฯ ร.ฟ.ท.แจงพนักงานทำตามระเบียบความปลอดภัย หัวจักรไม่สมบูรณ์ห้ามนำออกให้บริการ ผู้โดยสานโวยหยุดใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือต่อรองผลประโยชน์ภายในองค์กร

วานนี้ (16 ต.ค.) ตั้งแต่ช่วงเช้า รถไฟหลายขบวนล่าช้า และไม่สามารถออกจากต้นทางได้ เนื่องจากพนักงานขับรถแจ้งว่า รถจักรดีเซลไม่สมบูรณ์ เช่น หาดใหญ่ และแก่งคอย โดยบรรยากาศที่สถานีหาดใหญ่ ปั่นป่วนตั้งแต่เช้าขบวนรถไฟท้องถิ่นที่จะออกจากสถานีหาดใหญ่ไปยังภาคใต้ตอนบนและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หยุดให้บริการ 15 ขบวน ส่วนรถทางไกลสายใต้ยังให้บริการตามปรกติ ทำให้ประชาชนไม่พอใจที่รถไฟหยุดเดินรถโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งหากการหยุดเดินรถครั้งนี้เกิดจากปัญหาภายในของร.ฟ.ท.ก็ขอให้เจราจาตกลงกันเอง อย่าใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือในการต่อรองผลประโยชน์

ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องหยุดให้บริการเนื่องจาก พบว่ามีหัวรถจักร 7 คันที่ต้องซ่อมแซม เนื่องจาก vigilance ซึ่งเป็นระบบเตือนพนักงานขับรถในกรณีหลับในหรือวูบ เสียหาย ซึ่งระบบนี้เป็นสาเหตุหนึ่งของอุบัติเหตุรถไฟตกรางที่เขาเต่า

ด้านสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ได้ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 52 ขอให้สมาชิกและพนักงานร่วมมือกันปฎิบัติตามข้อบังคับและระเบียบการเดินรถโดยเคร่งครัด ในกรณีรถจักรไม่สมบูรณ์ ไม่ควรนำออกไปเด็ดขาด สืบเนื่องจากกรณีขบวนรถที่ 84 (ตรัง-กรุงเทพ)ตกรางที่สถานีเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ และนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. ชี้นำการสอบสวนโดยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นความบกพร่องของพนักงานขับรถและผลสอบสรุปว่าเป็นความบกพร่องของพนักงาน มีโทษไล่ออก ตัดเงินเดือนช่างเครื่องและพนักงานรักษารถ

โดยไม่ชี้แจงถึงอุปกรณ์ในรถจักรที่ชำรุด เช่น ที่ปัดน้ำฝน ระบบป้องกันพนักงานหลับ (Vigilance) ที่ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งเป็นคำให้การของพนักงานขับรถและช่างเครื่องแต่กลับไม่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน ซึ่งการชำรุดของอุปกรณ์ดังกล่าวเกิดจากการขาดแคลนอะไหล่และขาดการซ่อมบำรุงที่สม่ำเสมอ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของผู้บริหารโดยตรงแต่นายยุทธนา พยายามเอาตัวรอดโดยไม่ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ดังกล่าว

ในขณะที่พนักงานต้องทำงานหนักและรู้ดีว่ารถจักรที่นำออกไปให้บริการมีสภาพไม่สมบูรณ์ การนำออกไปใช้ มีความผิดตามข้อบังคับและระเบียบการเดินรถ ซึ่งสหภาพฯ ได้ร้องเรียนให้ผู้บริหารเร่งดำเนินการซ่อมบำรุงให้รถจักรอยู่ในสภาพสมบูรณ์ตั้งแต่ ปี 2544 เป็นต้นมา ซึ่งการตกรางของรถขบวนที่ 84 เป็นบทเรียนที่พนักงานต้องปฎิบัติตามข้อบังคับและระเบียบการเดินรถอย่างเคร่งครัด

และวันที่ 15 ต.ค.สหภาพฯ ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า เมื่อ 4 ธ.ค.45 สหภาพฯ เคยยื่นข้อเรียกร้องต่อร.ฟ.ท. โดยตกลงว่าจะจัดซ่อมอุปกรณ์บนรถจักร รถพ่วง รถโดยสาร ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนนำไปทำขบวน แต่ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ไม่สามารถดำเนินการตามข้อตกลงได้ ไม่มีการซื้อรถจักรใหม่มากว่า 14 ปี มีสถิติรถจักรชำรุดระหว่างทำขบวนปีละกว่า 1,500 ครั้ง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เป็นเหตุให้ขบวนรถล่าช้า วิ่งไม่ตรงตามกำหนด ประชาชนเสียเวลาเดินทาง และพนักงานขบวนรถต้องตรากตรำ อ่อนล้าจากเวลาการทำงานที่ยาวนาน และเมื่อ 14 ต.ค. สหภาพฯ ได้ส่งตัวแทนชี้แจงกับคณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผู้แทนราษฎร โดยได้รับการเสนอแนะว่า หากขบวนรถไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ก็ไม่ควรนำออกทำขบวนให้บริการประชาชน

นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพฯร.ฟ.ท.กล่าวว่า การไม่นำรถจักรที่ไม่สมบูรณ์ไปใช้เพราะพนักงานขับรถเกรงว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุ จะต้องรับผิดชอบคนเดียวทั้งที่สาเหตุเกิดจากหัวรถจักรขาดการซ่อมบำรุงโดยเฉพาะระบบด้านความปลอดภัยซึ่งเป็นเพราะฝ่ายบริหารไม่เอาใจใส่

นายวิรุฬ สะแกคุ้ม ประธานสหภาพฯร.ฟ.ท.สาขาหาดใหญ่ แจ้งว่า การหยุดเดินรถเพื่อความปลอดภัยของประชาชนเพราะหัวรถจักรไม่พร้อมใช้งาน และเป็นไปตามมติของสหภาพฯร.ฟ.ท.ที่จะไม่นำหัวรถจักรที่ไม่สมบูรณ์ออกให้บริการประชาชนอย่างเด็ดขาด แต่หากหัวรถจักรได้รับการซ่อมแซมเสร็จแล้วก็จะกลับมาให้บริการทันที เพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานกลายเป็นจำเลยของสังคมในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับขบวนรถ

//------------------------------------------------------------------------

สหภาพฯ รฟท. ยันอุปกรณ์เสื่อมทำรถไฟตกราง หยุดวิ่งเพราะห่วง ปชช.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ตุลาคม 2552 02:30 น.

“สาวิทย์” ยันรถไฟตกรางเพราะอุปกรณ์เสื่อม จวก คก.ตรวจสอบมั่วนิ่ม จี้ ผู้ว่าฯ รฟท.รับผิด อย่าโยนบาป ขรก. เผยหยุดวิ่งเพราะห่วงความปลอดภัย ปชช. ด้าน“ธารา”ชี้มีที่ประเทศไทยที่เดียว หน้าฝน คนขับต้องคอยโยกที่ปัดน้ำฝนด้วย ขณะที่“บุรากร”เผยครม.ปี 41 ทำกลไกลวน ใช้อำนาจบีบหวังแปลรูปรัฐวิสาหกิจ ระบุ รฟท.ไม่พัฒนา เพราะมี เสือหิว เอี่ยวผลประโยชน์ ทำทุนเลือกตั้งครั้งหน้า

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิไตย"

รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิไตย” ทางเอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น.วันที่ 16 ตุลาคม 2552 ดำเนินรายการโดย นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ได้รับเกียรติจาก นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การรถไฟแห่งประเทศไทย และนายธารา แสวงธรรม รองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายบุรากร ธรรมาภานนท์ กรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมพูดคุยถึงมูลเหตุที่ทำให้รถไฟหยุดวิ่งและรถไฟตกราง

นายสาวิทย์ กล่าวถึงสาเหตุที่หยุดเดินรถไฟ สายหาดใหญ่ เป็นเพราะอุปกรณ์ไม่พร้อมที่จะใช้งาน โดยได้แจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้าแล้ว ว่ารถไฟจะหยุดวิ่ง ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2552 ด้วยการติดป้ายไว้ที่ช่องขายตั๋วและออกประกาศทางวิทยุ ทั้งหมดนี้เป็นผลอันเนื่องมาจากมีอุบัติเหตุ รถไฟตกราง ซึ่งตนไม่อยากให้มีเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นอีก ดังนั้นจำเป็นต้องหยุดเดินรถ เพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ ซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามวันนี้ ประชาชนที่ติดค้างที่สถานี หลายคนหงุดหงิด ทุลักทุเลในการเดินทาง แต่การรถไฟไม่ได้หยุดวิ่งเสียทีเดียว หากขบวนไหนอยู่ในสภาพที่พร้อม เราก็เปิดให้บริการตามปกติ

ส่วนที่ประชาชนโวยวาย อ้างสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การรถไฟแห่งประเทศไทย ป่วนหยุดวิ่งอีกแล้ว ตรงนี้เป็นเพราะช่องทางในการแจ้งข่าวสารให้ประชาชนทราบ น้อยไปหน่อย อีกอย่างอาจเป็นเพราะ ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุก่อน ประชาชนมักจะไม่สนใจ วันก่อนมีขบวนรถไฟขบวนที่ 84 ตกราง ที่เขาเต่า ตนไม่อยากให้ น้องมานั่งนับศพ ว่า ในปีหนึ่งๆจะมีผู้เสียชีวิตจากการใช้บริการรถไฟกี่ราย ฉะนั้นอยากให้ประชาชนใส่เรื่องนี้มากขึ้น

“สิ่งที่สหภาพการรถไฟแห่งประเทศไทย ทำในวันนี้ไม่ได้ต้องการประท้วงผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่เราต้องปฏิบัติตามระเบียบการรถไฟ ที่วางกฎให้ พนักงานต้องปฏิบัติตาม เมื่อเห็นว่าขบวนรถไฟที่ใช้ ไม่มีความปลอดภัย ก็สามารถหยุดวิ่งได้ เพราะเมื่อรู้ปัญหาแล้วยังออกให้บริการประชาชน หากเกิดปัญหาขึ้น พนักงานจะต้องรับผิดชอบ”นายสาวิทย์ กล่าว

นายสาวิทย์ กล่าว่าข้อเรียกร้องที่ทางสหภาพทำไว้ตั้งแต่ปี 2544- 2545 ในข้อที่ 2.เพื่อความปลอดภัย สวัสดิการของพนักงานขอให้จัดสภาพอุปกรณ์ ให้อยู่ในสภาพพร้อมก่อนออกใช้งาน การรถไฟก็ตกลง สิ่งเหล่านี้เป็นเงื่อนไขต่อสภาพการจ้าง ซึ่งผู้บริหารไม่ปฏิบัติมีความผิด ต่อมาปี 2552 การรถไฟบอกจะทำให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ตรงนี้ตน พยายามจะบอกว่าปัญหาทั้งหลายทั้งปวงนี้ เป็นหน้าที่ของนายจ้าง ที่ต้องดูแลจัดให้มีเครื่องไม้เครื่องมือ อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้ เพื่อให้ลูกจ้างได้ใช้อุปกรณ์เหล่านั้น ได้อย่างปลอดภัย ไม่ใช่ให้สหภาพเรียกร้องให้ทำ

นายสาวิทย์ กล่าวว่าปกติรถไฟจะมี ระบบเร่งความเร็วที่ทำงานโดยอัตโนมัติ หากมีความเร็วเกิน100 กม./ชม. เครื่องรถไฟจะหยุดทำงานทันที ส่วนอีกระบบเป็นระบบเหยียบคันเร่ง ตรงนี้เป็นการกระตุ้นพนักงานไปในตัวป้องกันไม่ไห้หลับใน หากเหยียบแช่กินกว่า 100 วินาที จะมีเสียงกริ่งดังขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นอีก 8 นาทีระบบไฟจะตัดซึ่งจะทำให้รถหยุดทันที ประเด็นนี้นำมาวิเคราะห์ได้ว่า สาเหตุที่รถไฟตกราง มีการสำรวจความเร็วรอบที่ออกมาสูงถึง 108 กม./ชม. ก็จะเป็นคำถามว่าทำไมระบบอัตโนมัติไม่ตัด ตรงนี้แสดงว่า อุปกรณ์ไม่ทำงาน และจะมาอ้างว่าเป็นอุปกรณ์เสริม ฟังไม่ขึ้น เพราะอุปกรณ์ดังกล่าวก่อนที่จะซื้อรถไฟ ได้ระบุให้ต้องมีอุปกรณ์นี้ติดมาพร้อมกับรถ หลายต่อหลายครั้งขอเปลี่ยนอะไหล่ แต่ไม่มีอะไหล่ให้เปลี่ยน

นายบุรากร กล่าวเสริมว่าจริงๆแล้วเรื่องขอเปลี่ยนอะไหล่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่มาติดขัดช่วงที่มี มติ ครม. เมื่อปี 2541 ที่ต้องการเอารัฐวิสาหกิจทั้งหมด ไปแปลงเป็นหุ้น พยายามทำให้องค์กรของรัฐด้อยประสิทธิภาพ แล้วใช้เป็นเหตุผลต้องลดพนักงานลง จำกัดเงิน เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบว่าบริการไม่ดี ซึ่งจะนำไปสู่การแปรรูปในที่สุด

นายสาวิทย์ กล่าวว่าถ้าเราไม่สู้แล้วใครจะมาทำ ถึงแม้จะเหนื่อยอึดอัด ที่มักถูกมองในภาพลบหากหยุดเดินขบวนรถ แต่ก็มีความสุขที่ได้บริการประชาชน วันก่อนมีรถไฟตกราง ทางผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้โยนความผิดให้พนักงานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับผิดชอบ ตรงนี้ไม่เป็นธรรมกับพนักงาน ทั้งนี้ถ้าหากจะให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยรับผิดชอบ ผู้ว่าการรถไฟต้องให้อำนาจสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย มีอำนาจในการบริหาร แล้วถ้าเกิดเหตุรถไฟตกรางอีก ตนจะลาออกเพื่อสร้างบรรทัดฐานให้ดู ทั้งนี้หากเกิดอุบัติเหตุรถไฟตกรางในต่างประเทศ ผู้ว่าการรถไฟ เขาลาออกไปแล้ว แต่ในประเทศไทยยังไม่ เพราะไม่มี จริยธรรม สำนึก ในเรื่องนี้

นายสาวิทย์ กล่าวว่าตนมั่นใจว่า ทรัพย์ยากร และกำลังทุนของประเทศ หากจะพัฒนารถไฟให้ทันสมัย ก็สามารถทำได้ เรื่องนี้ตนเคยเสนอรัฐบาลไปหลายครั้ง ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง การปรับโครงสร้างต้องมีการกระจายอำนาจ ไม่ใช่ถูกรวบไว้ที่ศูนย์กลางหมด การแก้ปัญหาการจราจรแออัดในกรุงเทพ ต้องยกรถออกจากถนน ยกคนออกจากกรุงเทพ ไปตั้งสถานีอยู่ในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ๆ แล้วขนถ่ายคนเข้า-ออกกรุงเทพฯ ด้วยระยะเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ปัญหามีอยู่ว่า ผู้มีอำนาจที่จะเสนอ หรือผู้อนุมัติ มักสร้างเงื่อนไข อันนำไปสู่การคอร์รับชัน

นายธารา กล่าวว่ารถไฟเป็นของประชาชน ตนเป็นเพียงผู้ทำหน้าที่รับใช้ประชาชน มีหลายครั้งทั้งที่รู้ว่ารถไฟสภาพไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ด้วยหน้าที่ต้องรับใช้พี่น้อง พยายามประคับประคองออกไป มีอย่างที่ไหนที่ปัดน้ำฝนใช้ไม่ได้ หน้าฝนที คนขับรถไฟต้องขับรถไปด้วย เอามือไปโยกปัดที่น้ำฝนเพื่อมองทางไปด้วย

นายสาวิทย์ กล่าวเสริมว่าในฐานะที่ตนอยู่ทัพหน้า บางเรื่องสังคมไม่รับรู้ แต่สหภาพการรถไฟรับรู้ ว่าอะไรจะเกิดอะไรขึ้น เช่นในเดือน กันยายน ที่ผ่านมารถไฟชำรุด 196 ครั้ง พอพยายามจะปริปากบอกประชาชน ก็มักถูกตั้งคำถามตั้งแต่แรกแล้วว่า เป็นพวกชอบปิดถนน ทำให้ประเทศวุ่นวาย ฉะนั้นจะพูดจะทำอะไรก็ไม่มีน้ำหนัก ตรงนี้ยอมรับว่าเหนื่อย แต่ต้องทำหน้าที่ ถ้าคนเราไม่ทำหน้าที่ ท้อแท้สิ้นหวัง แล้วสังคมจะอยู่อย่างไร บางครั้งต้องยอมเจ็บ เช่น ในครั้งนี้ก็โดนคนภายในต่อว่า เป็นการเอาเรื่องภายในมาเปิดเผย เหมือนสาวไส้ให้กากิน

นายบุรากร กล่าวว่าการรถไฟไม่พัฒนา ทั้งๆที่มีทรัพย์ยากร ให้เช่าเก็บเกี่ยวดอกผลมากมาย เป็นเพราะการไม่พัฒนาทรัพย์สินของการรถไฟให้มีประสิทธิภาพ ฉะนั้นหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นชั้นผู้ใหญ่ของประเทศไทย มีประสิทธิภาพในการปราบทุจริต ระบบการขนส่งทางรถไฟของประเทศไทยจะไปได้ไกลกว่านี้ ทั้งนี้สาเหตุเป็นเพราะ เจ้าพนักงานบางส่วน เข้าไปมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง อาทิ ที่ของการรถไฟในหลายๆแห่ง ที่เปิดให้เอกชนเช่า เก็บค่าเช่าไม่ได้บ้าง เก็บได้น้อยเกิดการอะลุ่มอล่วย ส่วนต่างทางเปอร์เซ็นต์ตกกับผู้บริหารมาตลอด

“ผลสอบของพนักงานสอบสวน เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่ได้กล่าวถึงอุปกรณ์ ทั้งประตู ซีนยาง เกิดรอยรั่ว จนทำให้เกิดควันพิษรั่วไหลเข้าในห้องคนขับ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้พนักงานหลับทั้งคู่ และระบบเซฟตี้ ที่ควบคุมรอบไม่ให้เกิน 100 กม./ชม.” นายบุรากร กล่าว

นายบุรากร กล่าวว่าสาเหตุอีกประการของกิจการรถไฟ มาจากการเปลี่ยนผันเปลี่ยนขั้วของรัฐบาล ซึ่งในทุกครั้งที่มีรัฐบาลใหม่ ก็มักจะเปลี่ยนบอร์ดการรถไฟ โดยเอานักการเมืองฝ่ายตนเข้ามาคุม จากนั้นก็บีบสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ทำให้ดูเหมือนไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน แล้วก็แก้ปัญหาด้วยการเอา ซีอีโอ เข้ามาดูแล ซึ่ง ซีอีโอ ก็ต้องทำตามนโยบายของนักการเมือง แบ่งผลตอบแทนให้นักการเมืองบางกลุ่ม ซึ่งวันนี้การเมืองก็รู้อยู่แล้วว่า เป็นพวกเสือหิว ต้องการกอบโกยทุกทาง เพื่อหาเงินไว้ใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

นายบุรากร กล่าว่าวันนี้การรถไฟย่ำแย่ ตนได้แต่หวังว่า กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย สตง. จะผ่านวาระ 8 หากจะหวังพึ่งแต่ ป.ป.ช. อย่างเดียว อาจทำให้คดีล่าช้า จนถึงขั้นล้มในที่สุด เพราะคณะกรรมการ ป.ป.ช. อาจเห็นว่าคดีสำคัญ อื่นๆ ยังมีอีกมาก และที่มีสื่อบางประเภท ฟันธง สหภาพแรงงานฯ เป็นพวกเต่าล้านปี ตนได้เข้าไปในงานสัมนาที่ฝ่ายบริหารจัด เกี่ยวกับการจัดบริหารที่ดิน วันนี้สิ่งที่นายทุนต้องการ นอกจากแอร์พอร์ตลิงก์ แล้วยังหวังบริหารกิจการย่านประตูน้ำทั้งหมด น่าตลกคือมีการใช้บริษัทที่ปรึกษา บริษัทเดียวกันสองรอบ เมื่อ 10 ปีที่แล้วประเมินราคาที่ดินตารางเมตรละ แสนสี่ ถึงแสนหก แต่ปัจจุบันมีเครื่องสาธารณูปโภคครบ กลับประเมินราคาตารางเมตรละ 1.2 แสน ตรงนี้ส่อให้เห็นถึงการพยายามจะทำธุรกิจในพื้นที่ย่านประตูน้ำให้ได้ ซึ่งตนก็แย้งไปว่ามาเอาพื้นที่โรงงานทำไม ทำไมถึงไม่เอาพื้นที่ ที่ว่างเปล่าไปพัฒนา ซึ่งตรงนี้มีศึกษาออกมาแล้วว่า หากย้ายโรงงานต้องใช้งบไม่ต่ำกว่า 9 พันล้าน และกว่าจะเคลียร์พื้นที่ได้ไม่ต่ำกว่า 4 ปี นอกจากนี้กว่าเอกชนจะได้สัมปทานแล้วมาก่อสร้างต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 5 ปี รวมแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี กว่าที่การรถไฟจะเริ่มเก็บผลิตผลได้ ตรงนี้ค่าเงินที่หยุดนึ่ง 9 พันล้าน จะต้องเสียดอกเบี้ยเท่าใด

//--------------------------------------------------------------------------------------
รถไฟใต้รวมตัวหยุดบริการ เร่งใช้ยาแรงบี้ “ยุทธนา”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ตุลาคม 2552 10:55 น.

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - รถไฟใต้ยังป่วนหนักชุมทางหาดใหญ่หยุดทุกขบวน โดยในวันนี้หัวรถจักรทุกขบวนจะถูกนำมารวมกันที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ทั้งหมดเพื่อตรวจเช็คสภาพความพร้อม สหภาพฯหาดใหญ่เผยต้องใช้ยาแรงหลังผู้บริหารเมินแก้ปัญหา



วันนี้ (17 ต.ค.) การให้บริการรถไฟพื้นที่ภาคใต้ยังคงปั่นป่วนอย่างหนักโดยล่าสุดตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้รถไฟทุกขบวน โดยเฉพาะขบวนท้องถิ่นที่ออกจากสถานีต้นทางชุมทางหาดใหญ่หยุดให้บริการเกือบทุกขบวนยกเว้นรถไฟขบวนพิเศษ หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก เพียงขบวนเดียว และหัวรถจักรทุกขบวนได้มาจอดรวมกันที่โรงรถจักรสถานีชุมทางหาดใหญ่เพื่อรอการตรวจเช็คสภาพความพร้อม ในขณะที่รถไฟขบวนสายยาวกรุงเทพฯ-หาดใหญ่-และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งรถด่วนและรถเร็วจะมาจอดส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ทั้งหมด

นายวิรุฬ สะแกคุ้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ ได้ประชุมพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการเดินขบวนรถเพื่อรับทราบสถานการณ์และแนวทางการเดินรถไฟหลังจากนี้ พร้อมกับเผยว่า ในวันนี้หัวรถจักรทุกขบวนจะถูกนำมารวมกันที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ทั้งหมดเพื่อตรวจเช็คสภาพความพร้อม ส่งผลให้การเดินรถไฟในพื้นที่ภาคใต้เกือบทั้งหมดเช่นหาดใหญ่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พัทลุง นครศรีธรรมราช และชุมพร จำเป็นต้องหยุดเดินรถ รวมถึงขบวนรถสายยาวเส้นทางตั้งแต่สถานีสุไหงโก-ลกไปยังกรุงเทพฯในช่วงเที่ยงของวันนี้จะให้คำตอบว่าจะหยุดเดินรถหรือไม่

นายวิรุฬ เผยว่า การหยุดเดินรถไฟในพื้นที่ภาคใต้เป็นมาตรการหนึ่งที่ต้องการตอบโต้ผู้บริหารการรถไฟทั้งนี้เพราะหลังจากที่ได้มีการนำหัวรถจักรอย่างน้อย 7 ขบวนเข้าซ่อมบำรุงเพื่อความปลอดภัยกลับไม่ได้รับการตอบสนองในเรื่องของการแก้ปัญหา ในทางกลับกันผู้บริหารการรถไฟได้ใช้มาตรการมาบีบบังคับโดยการออกคำสั่งให้ฝ่ายช่างกลรับรถที่ยังซ่อมไม่แล้วเสร็จออกให้บริการรวมและยังสั่งย้ายฟ้าผ่าพนักงานสองคนที่สถานีปากน้ำโพและสถานีหาดใหญ่เข้าส่วนกลาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของพนักงานเป็นอย่างมาก

รถไฟใต้ป่วนหนัก!!หยุดวิ่งเกือบทุกขบวน สหภาพฯอ้างเช็กหัวรถจักร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ตุลาคม 2552 11:00 น.


การให้บริการรถไฟในพื้นที่ภาคใต้วันนี้ยังคงปั่นป่วนอย่างหนัก โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมารถไฟทุกขบวน โดยเฉพาะขบวนท้องถิ่นที่ออกจากต้นทางชุมทางหาดใหญ่ หยุดให้บริการเกือบทุกขบวน ยกเว้นรถไฟขบวนพิเศษ หาดใหญ่-สุไหงโกลก เพียงขบวนเดียว และหัวรถจักรทุกขบวนได้มาจอดรวมกันที่โรงจักร สถานีชุมทางหาดใหญ่ เพื่อรอการตรวจเช็กสภาพความพร้อม
ในขณะที่รถไฟขบวนสายยาว กรุงเทพฯ - หาดใหญ่ ปลายทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งรถด่วน และรถเร็ว จะมาส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่เท่านั้น
นายวิรุฬห์ สะแกคุ้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ ได้ประชุมพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถ เพื่อรับทราบแผนการและแนวทางการเดินรถหลังจากนี้ พร้อมกับเปิดเผยว่า ในวันนี้หัวรถจักรทุกขบวนจะถูกนำมารวมกันที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ทั้งหมด เพื่อตรวจเช็กสภาพความพร้อม ส่งผลให้การเดินรถไฟในพื้นที่ภาคใต้ เช่น หาดใหญ่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พัทลุง นครศรีธรรมราช และชุมพร จำเป็นต้องหยุดเดินรถ รวมถึงขบวนรถสายยาวเส้นทางตั้งแต่สุไหงโก-ลก ไปยังกรุงเทพฯ ในช่วงเที่ยงวันนี้จะให้คำตอบว่าจะหยุดเดินรถหรือไม่

“ยุทธนา” ส่งตัวแทนติดตามการซ่อมหัวรถจักรหาดใหญ่ – สหภาพฯยันไม่พร้อมไม่วิ่ง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ตุลาคม 2552 12:13 น.

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – สถานการณ์รถไฟในภาคใต้ล่าสุด นายยุทธนา ทับเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้รองวิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างกลด้านโรงงาน เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าการซ่อมแซมหัวรถจักรที่โรงรถจักรหาดใหญ่ ด้านสหภาพฯยันหากหัวรถจักรไม่พร้อมไม่ออกให้บริการแก่ประชาชนเด็ดขาด

ความคืบหน้าสถานการณ์รถไฟในภาคใต้โดยเฉพาะที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ซึ่งได้มีการหยุดเดินรถขบวนท้องถิ่นทุกขบวนแล้วเพื่อนำหัวรถจักรเข้าซ่อม ล่าสุดนายยุทธนา ทับเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้ นายณรงฤทธิ์ ศิวะสาโรจน์ รองวิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างกลด้านโรงงาน เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าการซ่อมแซมหัวรถจักรที่จอดรวมกันอยู่ที่โรงรถจักรหาดใหญ่ พร้อมกับประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมหัวรถจักรทั้งหมดเพื่อประเมินภาพรวมสภาพการชำรุดและความเสียหายของหัวรถจักรแต่ละคันเพื่อดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด

ซึ่งขณะนี้มีหัวรถจักรทั้งหมด 16 คันที่ต้องเข้าตรวจเช็คสภาพความพร้อมและซ่อมบำรุงซึ่งเป็นหัวรถจักรที่ออกให้บริการผู้โดยสารในภาคใต้ทั้งหมดและฝ่ายช่างของสถานีหาดใหญ่กำลังอยู่ระหว่างการซ่อมแซมเพื่อให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานมากที่สุดก่อนที่จะนำออกทำขบวนเพื่อให้บริการผู้โดยสาร

ขณะเดียวกัน นายณรงฤทธิ์ เผยว่าไม่ได้ลงมาเจรจาต่อรองกับทางสหภาพรถไฟสาขาหาดใหญ่ในการเปิดเดินรถแต่อย่างใดซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร แต่มาดูในเรื่องของการซ่อมแซมหัวรถจักรและปัญหาต่างๆ ที่ทำให้เกิดความล่าช้า

ทางด้านแกนนำสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยสาขาหาดใหญ่ และสมาชิกได้มารวมตัวกันที่บริเวณโรงรถจักรในระหว่างที่ นายณรงฤทธิ์ ประชุมอยู่ในห้องประชุมเพื่อกดดันและเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารรับผิดชอบกับความล้มเหลวในการบริหารรถไฟและยังคงยืนยันจุดยืนเดิมหากหัวรถจักรคันใดไม่พร้อมจะไม่นำรถออกให้บริการผู้โดยสารอย่างเด็ดขาดจนกว่าจะได้รับการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานมากที่สุดพร้อมกับขออภัยประชาชนที่ไม่ได้รับความสะดวกจากการที่รถไฟหยุดวิ่ง

รฟท.สั่ง พนง.พื้นใกล้เคียงทำหน้าที่แทน แก้ปัญหารถไฟหยุดเดิน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ตุลาคม 2552 14:46 น.


นายประจักษ์ มโนธัม รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟฯ ที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ ยื่นใบลาพร้อมกัน 18 คน ส่งผลให้มีขบวนรถไฟขาดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน รถไฟต้องตกค้าง 8 ขบวน ส่วนใหญ่เป็นรถขบวนปลายทางสุไหงโก-ลก ซึ่งได้แก้ปัญหาด้วยการนำพนักงานขับรถ และช่างเครื่องในพื้นที่ใกล้เคียงเข้าปฏิบัติหน้าที่แทน
ล่าสุด ทั้งรถไฟสายใต้ ทั้งรถด่วน และรถเร็วตั้งแต่สถานีสุไหลโกลก-หาดใหญ่ ปลายทางกรุงเทพฯ หยุดเดินรถชั่วคราว 5 ขบวน จากปกติจะต้องออกเดินทางในช่วงบ่ายของทุกวัน โดยสหภาพรถไฟฯ ยืนยันไม่มีหัวรถจักรที่พร้อมใช้งาน เกรงจะไม่ปลอดภัยกับผู้โดยสาร


“มาร์ค” สั่งรฟท. เปิดเดินรถไฟปกติ ย้ำไม่มีเหตุต้องสไตรก์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ตุลาคม 2552 15:33 น.

นายกฯ เผยคุย “ซาเล้ง” จี้ดูแลใกล้ชิดสหภาพการรถไฟหยุดเดินรถ ย้ำรถไฟต้องให้บริการประชาชน เพราะไม่เหตุผลที่จะต้องมานัดหยุดงาน

วันนี้(17 ต.ค.)ที่โรงพยาบาลชุมแสง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เมื่อเวลา 13.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จภารกิจในการลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ถึงกรณีที่สหภาพแรงงานการรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท.) หยุดเดินรถไฟว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้พูดคุยกับนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม และได้กำชับให้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และให้เปิดบริการให้ประชาชน เพราะไม่มีเหตุผลใดที่จะหยุดการเดินรถ

เมื่อถามว่า ได้มีการตรวจสอบหรือไม่ว่า เป็นการหยุดเดินรถเนื่องจากสภาพหัวจักรมีปัญหา หรือสหภาพแรงงานประท้วง นายกฯ กล่าวว่า ต้องตรวจสอบ เพราะเขาใช้วิธีลางาน แต่ก็ได้กำชับให้ติดตามให้เปิดบริการให้ประชาชนให้ได้

//-----------------------------------------------------------

สหภาพเปิดเกมรุก เขย่าเก้าอี้ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 17 ตุลาคม 2552 17:17 น.


“อุบัติเหตุรถไฟขบวนที่ 84 ตกรางที่สถานีเขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นับเป็นอุบัติเหตุครั้งที่ร้ายแรงที่สุดของ ร.ฟ.ท.ในรอบ 30 ปี” เป็นข้อความในแถลงการณ์ของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.ร.ฟ.ท.) ซึ่งเชิญชวนให้สมาชิกออกมาเคลื่อนไหวขับไล่ นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ออกจากตำแหน่ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้สหภาพฯ ร.ฟ.ท.เคลื่อนไหวด้วยการหยุดเดินรถ คัดค้านการแผนฟื้นฟู ร.ฟ.ท.ด้วยการตั้ง บริษัทลูกด้านการเดินรถ และบริหารทรัพย์สิน

ทำให้รัฐบาลต้องตั้งพลตรีสนั่น ขจรประศาสตร์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเจรจาไกล่เกลี่ย และจนถึงขณะนี้ทุกอย่างที่อยู่ในแผนฟื้นฟู ต้องหยุดชะงัก ตามข้อตกลงระหว่างคณะกรรมการเจรจากับสหภาพฯ รวมถึงการจัดตั้งบริษัทลูกเดินรถแอร์พอร์ตลิ้งค์ ที่ยังไร้ข้อสรุปว่าจะจัดตั้งได้หรือไม่ ในขณะที่กำหนดเปิดเดินรถใกล้เข้ามาทุกที

แม้การหยุดเดินรถของสหภาพฯ ร.ฟ.ท. จะเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ภาพพจน์องค์กรเสียหาย กลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของทุกคน แต่การเคลื่อนไหวของสหภาพฯ ร.ฟ.ท.ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะคงไม่มีใครรู้เรื่องรถไฟดีเท่าคนรถไฟเอง เหตุใดสหภาพฯ จึงเคลื่อนไหวขับไล่นายยุทธนาโดยไม่เปิดทางให้เกิดการเจรจาร่วมกัน

ปัญหาที่แท้จริงของ ร.ฟ.ท. คืออะไรกันแน่ มีอะไร ที่ยังถูกปกปิด อะไรที่ทำให้พนักงาน ร.ฟ.ท.ที่เป็นสมาชิกสหภาพฯ ยอมทำให้ประชาชนเดือดร้อน และถูกสังคมประณาม

แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.กล่าวว่า กรณีรถไฟตกรางที่สถานีเขาเต่าเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้สหภาพฯ ร.ฟ.ท.เดินหน้าอย่างเข้มข้นในการขับไล่นายยุทธนา ผู้ว่าฯร.ฟ.ท.ออกจากตำแหน่ง โดยกำหนดเวลา 7 วันหลังยื่นหนังสือต่อนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้ปลดนายยุทธนา

เพราะรถไฟตกรางครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุร้ายแรงมากแม้ว่ารถไฟจะมีอุบัติเหตุตกรางอยู่บ่อยครั้งแต่ส่วนใหญ่เกิดจากสภาพทางที่มีปัญหา แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งในเมื่อปี 2532 เคยเกิดเหตุรถไฟตกเขา เป็นขบวนรถเร็ววิ่งไปเชียงใหม่ตกเขาที่ จ.แพร่ มีผู้เสียชีวิต นายเชิด บุณยะรัตเวช ผู้ว่าฯร.ฟ.ท. ในขณะนั้นลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ แม้ผลสอบสวนพบว่าคนขับรถขบวนดังกล่าวเมาและใช้ความเร็วเกินกำหนดจนวิ่งตกเขา

แต่อุบัติเหตุครั้งนี้ นายยุทธนากลับไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ และยังมีพฤติกรรมในการชี้นำการสอบสวน ปกปิดข้อมูลที่มีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการทำงานของ Deadman Device ซึ่งพนักงานขับรถจะต้องเหยียบเป็นระยะๆ หากเหยียบค้างหรือปล่อยค้างนานเกิน 8 วินาทีแรก ระบบจะส่งเสียงเตือน และหากยังไม่มีการตอบสนอง อีก 4 วินาทีต่อมา
ระบบจะเตือนอีกครั้ง และจะทำงานอัตโนมัติตัดระบบ Power การจ่ายไฟ และระบบห้ามล้อจะทำงานอัตโนมัติความเร็วรถจะลดลง และ Overspeed Protection จะเป็นอีกตัวหนึ่งที่ควบคุมเวลาความเร็วรถเกินกว่ากำหนด

กรณีคนขับรถหลับระยะจากสถานีวังพงถึงสถานีเขาเต่า วิ่งด้วยความเร็วปกติใช้เวลา 9 นาที เหตุใดอุปกรณ์ทั้ง 2 ตัวไม่เตือนและหากทำงานสมบูรณ์ คนขับไม่ตอบสนองระบบจึงไม่ตัด Power การจ่ายไฟ ไม่ห้ามล้ออัตโนมัติ ซึ่งมีเวลาเหลือพอที่จะทำให้รถไฟลดความเร็วลงได้

“ส่วนผลสอบสวนไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดประเด็นดังกล่าวต่อสังคม ทำได้เพียงยืนยันว่า อุปกรณ์ดังกล่าวทำงานสมบูรณ์ โดยทั้งนายยุทธนาและนายประจักษ์ มโนธัม รองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ยืนยันว่า ระบบความปลอดภัยของรถไฟขบวนที่ตกรางสมบูรณ์ ซึ่งเป็นความขัดแย้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”แหล่งข่าว

แหล่งข่าวกล่าวว่า ลึกๆ แล้วพนักงาน ร.ฟ.ท.รับไม่ได้กับการกระทำของผู้บริหาร ร.ฟ.ท.ในขณะนี้ ที่โยนความผิดให้พนักงานฝ่ายเดียว และการปรับโครงสร้าง ร.ฟ.ท.ก็ไม่สามารถฟื้นสภาพ ร.ฟ.ท.ได้ทันทีทันใดเพราะแต่ละเรื่องต้องใช้เวลาดำเนินการทั้งการจัดซื้อรถจักรใหม่ ปรับปรุงราง เพิ่มจำนวนพนักงาน และฝึกให้เป็นคนขับรถที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย

สหภาพฯ ยืนยันว่า นายยุทธนา ในฐานะผู้ว่าฯร.ฟ.ท. ต้องร่วมรับผิดกรณีรถไฟตกรางที่สถานีเขาเต่า โดยนับจากนายยุทธนาเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 2551 รถไฟประสบอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยปี 2551 มีจำนวน 145 ครั้ง ปี 2552 ในรอบ 10 เดือน มีกว่า 80 ครั้ง เฉลี่ย 2วันต่อครั้ง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับ ร.ฟ.ท.มาก่อน และในอดีต หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงผู้ว่าฯจะต้องลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบ เห็นได้ชัดว่า นายยุทธนา ไม่เอาใจใส่ ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงด้านการบริหารจัดการ ซึ่งเข้าข่ายความผิดต่อสัญญาจ้างผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯร.ฟ.ท.ที่นายยุทธนา ได้รับการสรรหาเข้ามา

โดยนายยุทธนามีพฤติกรรมในการใช้งบประมาณอย่างไม่คุ้มค่าและล้มเหลว เอาแต่ใช้งบประมาณในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้คนเอง จัดเลี้ยงสัมมนาพนักงานบางกลุ่มเพียงเพื่อให้ตนเองอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ ต่อไป แต่เพิกเฉยต่อการดูแลเครื่องจักร อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย จนการให้บริการขาดประสิทธิภาพ พนักงานทำงานหนัก ไม่มีเวลาหยุดพักผ่อนเพราะจำนวนบุคลากรไม่เพียงพอ

และยังมีคดีทุจริต การทำสัญญาตลาดซันเดย์ ทำให้ ร.ฟ.ท.เสียประโยชน์ ทุจริตแอร์พอร์ตลิ้งค์ ซึ่งนายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพฯ ยืนยันว่า สหภาพฯ จะใช้ช่องทางทางกฎหมายดำเนินการขับไล่นายยุทธนาออกจากตำแหน่งซึ่งต้องใช้ความอดทนอย่างมาก เนื่องจากมีฝ่ายการเมืองที่มีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนกันอย่างลงตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนการหยุดเดินรถจะเป็นหาทางสุดท้าย

//----------------------------------------------------------------------------------

รมว.คมนาคมตั้งคณะกก.ตรวจสอบพขร.รถไฟใช้สิทธิขาดงาน
Written by : กอง บก.ออนไลน์
ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ
ฐานเศรษฐกิจ วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2009 เวลา 19:36 น.

นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่พนักงานขับรถไฟของ รฟท.ยื่นใบลาป่วยและใบลากิจ โดยอ้างว่าหัวรถจักรไม่สมบูรณ์ อาจจะเกิดอันตรายในการให้บริการจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ส่งผลให้ประชาชนที่จะเดินทางโดยรถไฟได้รับความเดือดร้อน ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาได้มีการประท้วงหยุดให้บริการบ่อยครั้งนั้น ในเรื่องนี้ต้องมาดูว่าตามระเบียบปฏิบัติของ รฟท.นั้นเปิดโอกาสให้พนักงานลาอย่างไร และจำนวนวันเท่าไหร่บ้าง

ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อให้พิจารณาดูว่า ใบลาป่วยและใบลากิจของพนักงานขับรถ และช่างเครื่องนั้น สมเหตุสมผลในการขอลาหรือไม่ หรือเป็นการลาการเมือง หากตรวจสอบว่าเป็นการลาการเมือง ก็จะมีมาตรการลงโทษทั้งคนลาและคนอนุญาตให้ลาทันที

ส่วนกรณีที่พนักงานขับรถและช่างเครื่องอ้างว่าหัวรถจักรไม่มีความสมบูรณ์ หากเดินรถจะเกิดอันตรายเหมือนกรณีที่ รถไฟตกรางที่เขาเต่านั้น เรื่องนี้เบื้องต้นเชื่อว่า แม้รถไฟภายนอกจะมีสภาพที่เก่า แต่ก็ได้มีการตรวจสอบมาตรฐานระบบต่างๆ ตามระยะเวลา หากไม่ผ่านการตรวจจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ จะไม่ยอมปล่อยรถไฟออกมาให้บริการอย่างเด็ดขาด

นายโสภณ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่พนักงานที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย(สร.รฟท.) ได้ออกมาเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารระดับสูง ออกมาแสดงความรับผิดชอบว่า ในเรื่องนี้ไม่ใช่ไม่พอใจก็ออกมาโจมตี ประท้วง แล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อน ควรที่จะหันกลับไปดูตัวเองด้วยว่าทำงานในหน้าที่ที่ควรจะรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ไม่ต้องห่วงหากฝ่ายบริหารระดับสูงมีความผิดทำหน้าที่บกพร่องและส่งผลต่อองค์กร และ ประเทศชาติโดยตรง ตนจะจัดการแน่ แต่การจัดการจะจัดการกับทุกคน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งแน่นอน ขอให้ไม่ต้องเป็นห่วง

นายประจักร มโนธรรม รองผู้ว่าการ รฟท. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย(สร.รฟท.) ได้ใช้สิทธิลาป่วยจนส่งผลกระทบต่อการเดินรถว่า ขณะนี้มีพนักงานขับรถและฝ่ายช่างกลใช้สิทธิลาป่วย 2 วัน โดยมีจำนวนพนักงานที่ลาป่วยที่สถานีปากน้ำโพ 40 นาย สถานีหาดใหญ่ 34 นาย ส่งผลให้กระบวนรถเดินไม่ได้ตามปกติ ประกอบด้วยรถท้องถิ่นที่หาดใหญ่ 8 กระบวน และรถวิ่งไปและกลับจากภาคใต้ ซึ่งต้องผ่านสถานีหาดใหญ่ ไม่สามารถเดินรถได้จำนวน 4 กระบวน ขณะนี้ฝ่ายบริหารกำลังเร่งเจรจาให้พนักงานที่พร้อมปฎิบัติหน้าที่เข้ามานำหัวรถจักร 4 คันมาให้บริการ

ทั้งนี้ ยอมรับว่า ขณะนี้จุดยืนของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ รฟท.แสดงชัดเจน ว่า มีเจตนาจะหยุดเดินรถหลังจากเมื่อวานนี้(16 ต.ค.) อ้างว่าอุปกรณ์ไม่พร้อมให้บริการ แต่มาวันนี้อ้างใช้สิทธิลา ซึ่งผลกระทบต่อประชาชนที่จะต้องเดินทาง และสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ รฟท.ได้ออกสารถึงพนักงานทุกคนว่า ปัญหาการหยุดงานได้สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้โดยสารและภาพลักษณ์ต่อองค์กรอย่างมาก จึงอยากเรียกร้องให้พนักงานกลับมาทำงานโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

[Wisarut]

รถไฟ 2 ขบวนจอดทิ้งผู้โดยสารร่วม 2 พันคนที่ชุมพร
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ตุลาคม 2552 18:11 น.











ชุมพร - รถไฟ 2 ขบวนสายใต้จอดทิ้งผู้โดยสารที่จังหวัดชุมพร ร่วม 2,000 คนเดือดร้อน พขร.รถไฟ อ้างได้รับแจ้งมีการประท้วงกันที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ และอีกหลายสถานีทางภาคใต้ จึงไม่กล้านำผู้โดยสารไปยังจุดที่เกิดเหตุได้กลัวจะไม่ปลอดภัย ผู้ว่าฯชุมพรสั่งส่งรถบัสไปรับส่งอำนวยความสะดวก ขณะที่ผู้โดยสารสวดยับ


วันนี้ (18 ต.ค.52) นายการันย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร รับแจ้งว่า ที่สถานีรถไฟละแม อ.ละแม จ.ชุมพร ได้มีรถไฟขบวนที่ 167 กรุงเทพฯ– กันตัง จอดทิ้งผู้โดยสารจำนวนมาก ทำให้ผู้โดยสารทั้งหมด ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จึงได้ตรวจสอบและได้รับรายงานจากนายเอกรัฐ หลีเส็น นายอำเภอละแมว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ ได้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องนำรถบัส 10 คัน เข้าไปทยอยรับผู้โดยสารไปส่งยังจุดหมายปลายทางแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารที่มีจำนวนมาก ซึ่งจะต้องใช้รถบัสถึง 30 คัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถทยอยนำรถบัสเข้าไปรับผู้โดยสารได้หมด ภายในวันนี้

ส่วนสาเหตุของการจอดรถไฟขบวนดังกล่าวทิ้งไว้ที่ สถานีละแม เนื่องจาก พขร.รถไฟ อ้างว่า ได้รับแจ้งว่ามีการประท้วงกันที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ และอีกหลายสถานีทางภาคใต้ จึงไม่กล้านำผู้โดยสารไปยังจุดที่เกิดเหตุได้ กลัวจะไม่ปลอดภัย จึงได้ หยุดขบวนรถไฟไว้ที่ สถานีละแม

ทางด้านนายไพรัช วิเชียรรัตน์ ผู้ช่วยนายสถานีรถไฟละแม กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องการหยุดเดินรถ เนื่องจากต้องสอบถามทางฝ่ายการเดินรถ แต่ทราบว่ามีข่าวให้หยุดเดินรถตั้งแต่ช่วงดึกที่ผ่านมา

ด้านนายธนิต เพชรอินทร์ ประธานชมรมสันทนาการ นักศึกษาปี ที่ 4 คณะสังคมศาสตร์มานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งนำนักศึกษากว่า 100 คน เดินทางไปออกค่ายบำเพ็ญประโยชน์ที่ จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่าก่อนเดินทางขึ้นรถไฟตนได้สอบถามเจ้าหน้าที่รถไฟก่อนแล้วที่สถานีหัว ลำโพงซึ่งได้รับคำยืนยันว่า ไม่มีการหยุดเดินรถไฟแน่นอน แต่เมื่อตนพร้อมคณะเดินทางมาก็เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทำให้เสียเวลา ส่วนผู้โดยสารหลายคนก็ ได้รับความเสียหาย

นอก จากนั้น ผู้โดยสารจำนวนมากไม่สามารถซื้อหาอาหารรับประทานได้ เนื่องจาก เป็นวันอาทิตย์ ส่วนใหญ่ปิดร้านกันเกือบหมด ทำให้ร้านอาหารในพื้นที่ อ.ละแม มีไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสาร ทำให้ผู้โดยสารแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมากจากเรื่องที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีรถเร็วขบวนที่ 85 กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช พขร.ได้ขับมาจากต้นทางกรุงเทพมหานคร แล้วนำรถไฟมาจอดทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร อีก 1 ชวน มีผู้โดยสารจำนวนมากตกค้างอยู่ที่สถานรถไฟดังกล่าว ทำให้หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องนำรถบัสทยอยเข้าไปรับผู้โดยสารไปส่งยังจุดหมาย ปลายทาง แต่ยังไม่สามารถลำเลียงผู้โดยสารไปได้ทั้งหมด เนื่องรถบัสมีจำนวนไม่เพียงพอ

โดย รถไฟทั้ง 2 ขบวนที่จอดทิ้งผู้โดยสารไว้ที่สถานีรถไฟละแม กับสถานีรถไฟหลังสวน โดยอ้างว่าหัวรถจักรเสียนั้น ทำให้มีผู้โดยสารได้รับความเดือนร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกือบ 2,000 คน

//------------------------------------------------------
สหภาพฯ รถไฟหาดใหญ่นำสื่อพิสูจน์ความเสื่อมโทรมของขบวนรถไฟ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ตุลาคม 2552 17:31 น.

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สหภาพฯ รถไฟหาดใหญ่ นำคณะสื่อมวลชนออกพิสูจน์สภาพความเสื่อมโทรมห้องปฏิบัติงานของพนักงานรถจักร และขบวนรถไฟต่อสื่อมวลชน โดยเฉพาะระบบ VIGLANC ที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างเร่งด่วน

วันนี้ (18 ต.ค.) แกนนำสหภาพรถไฟแห่งประเทศไทยสาขาหาดใหญ่นำสื่อมวลชนพิสูจน์ความจริงเพื่อให้ เห็นถึงสภาพความเสื่อมโทรมของห้องปฏิบัติงานของพนักงานรถจักรและขบวนรถไฟที่ นำออกให้บริการประชาชน นอกเหนือจากหัวรถจักรที่มีปัญหาในเรื่องของระบบ VIGLANC (วีจีแลนซ์) หรือระบบดูแลความปลอดภัยของพนักงานซึ่งเป็นข้อเรียกร้องหลักที่ให้ผู้บริหาร รถไฟเร่งปรับปรุงแก้ไขอยู่ในขณะนี้

โดยสภาพของห้องปฏิบัติงานของพนักงานรถจักรทุกขบวนอยู่ในสภาพที่ เสื่อมโทรม จนพนักงานต้องทนทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีทั้งทางด้านเสียงและการสั่น สะเทือนตลอดเวลากว่า 12-14 ชั่วโมง ในการเดินทาง ขณะที่ขบวนรถที่บรรทุกผู้โดยสารโดยเฉพาะขบวนรถไฟชั้น 3 ที่ทั้งเก้าอี้ ระบบไฟ ชั้นวางสัมภาระและห้องน้ำต่างเสื่อมโทรมและชำรุด

นายประชาวิวัฒน์ บัวศรี รองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย เผยว่า ความไม่พร้อมของหัวรถจักรและสภาพความเสื่อมโทรมของห้องปฏิบัติงานของเจ้า หน้าที่รวมถึงขบวนรถโดยสารจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงซึ่งได้มีการเรียก ร้องให้ผู้บริหารการรถไฟแก้ไขมาตลอด แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับการตอบสนองทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญเพราะเกี่ยวกับความ ปลอดภัยของพนักงานและผู้โดยสาร

ทั้ง นี้ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทางสหภาพรถไฟฯ หาดใหญ่ยังไม่สามารถนำหัวรถจักรออกเดินรถได้จนกว่าจะได้รับคำตอบในการแก้ไข ปัญหาที่ชัดเจนจากผู้บริหารการรถไฟ

//--------------------------------------------------------

สร.รฟท.จี้ผู้บริหาร-คค.เร่งแก้ปัญหาความปลอดภัยหัวรถจักร
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ตุลาคม 2552 15:34 น.
นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การรถไฟแห่ง ประเทศไทย กล่าวว่า รัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม รวมทั้งผู้บริหารการรถไฟฯ ต้องแก้ปัญหาความปลอดภัยของหัวรถจักร เนื่องจากขณะนี้หัวรถจักรที่มีอยู่ 196 หัว มากถึงร้อยละ 90 อยู่ในสภาพไม่ปลอดภัย แต่อีกจำนวนไม่น้อยยังไม่สามารถออกให้บริการได้ เนื่องจากขาดแคลนอะไหล่ที่จะนำมาซ่อมบำรุง พนักงานขับรถจึงเป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัยผู้โดยสาร จากความไม่พร้อมกรณีดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาเคยเสนอให้ฝ่ายบริหารแก้ไขแล้ว แต่จนถึงขณะนี้เรื่องยังไม่เรียบร้อย และความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้น นำอุบัติรถตกรางที่หัวหิน เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

//--------------------------------------------------------------------
รถไฟสายใต้เหลือ 3 ขบวน- ยัน ปชช.คืนตั๋วได้เต็มราคา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ตุลาคม 2552 14:36 น.
การรถไฟแห่ง ประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงว่า ขณะนี้มีขบวนรถจากกรุงเทพมหานครไปยังพื้นที่ภาคใต้เพียง 3 ขบวน คือ รถด่วนที่ 83 กรุงเทพฯ-ตรัง ออกเวลา 17.05 น. ขบวนรถด่วนที่ 85 กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช ออกเวลา 19.30 น.และขบวนรถด่วนดีเซลราง 39 กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี
ส่วนอีก 7 ขบวนที่ไปสุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ยะลา นครศรีธรรมราช กันตัง และยะลา งดให้บริการ หากผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสารไว้แล้ว หากประสงค์จะเปลี่ยนวันเดินทาง หรือต้องการยกเลิกการเดินทาง สามารถติดต่อได้ที่นายสถานีรถไฟทุกแห่ง โดยการรถไฟฯ จะคืนเงินให้เต็มราคา หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1690
ขณะเดียวกัน ผู้บริหารการรถไฟฯ อยู่ระหว่างเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับพนักงานการรถไฟฯ ว่าระบบการทำงานของหัวรถจักรยังสามารถทำงาน และขับเคลื่อนหัวรถจักรได้ ทั้งนี้เพื่อเร่งเปิดการเดินรถไฟให้เร็วที่สุด

//--------------------------------------------------------

“อภิสิทธิ์” วอน รฟท.อย่าซ้ำเติมองค์กร เชื่อเป็นปัญหาภายใน จ่อปฏิรูปครั้งใหญ่
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ตุลาคม 2552 13:59 น.


นายกฯ เชื่อปัญหาพนักงานหยุดเดินรถไฟไม่ใช่เรื่องการเมือง ชี้อาจเป็นปัญหาภายใน สั่ง “โสภณ” เร่งเคลียร์ปัญหา ข้องใจระเบียบการรถไฟ พนักงานลาหยุดพร้อมกันไม่ผิด วอนอย่าซ้ำเติมองค์กร ชี้ประชาชนเดือดร้อนผู้บริหารต้องรับผิดชอบ เผยกำลังจะดูแผนปฏิรูปครั้งใหญ่ ภายใน 2-3 สัปดาห์จะนำเข้า ครม.

วันนี้ (18 ต.ค.) ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหารถไฟหยุดเดินรถว่า ในช่วงเช้าวันนี้ได้ตรวจสอบไปยังนายโสภณ ซารัมย์ รมว.กระทรวงคมนาคม บอกว่าปัญหาขณะนี้คือตัวพนักงานมีวิธีการลาพร้อมๆ กัน อาจจะ 20-30 คน เวลานี้กำลังตรวจสอบดูว่าระเบียบการลาเป็นอย่างไร ขณะนี้ให้ฝ่ายบริหารเข้าไปดูแลเข้าไปดูแลในหลักการดังกล่าว ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นในขณะที่ยังควบคุมเรื่องนี้ตามระเบียบยังไม่ชัดเจน จะให้รถสินค้าได้รับผลระทบก่อน ส่วนรถของผู้โดยสารจะไม่ให้เกิดผลกระทบ ซึ่งนายโสภณบอกว่าขณะนี้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องความล่าช้าของรถ สินค้า

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรไม่ให้เกิดในลักษณะนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องไปดูระเบียบ ซึ่งตนได้ตั้งข้อสงสัยไปว่าการลาโดยเฉพาะการลากิจที่ไม่ต้องบอกล่วงหน้าและ ต้องอนุมัติเสมอไปหรือไม่ อันนี้เป็นเรื่องที่ทางผู้บริหารต้องคุมไม่ให้เกิดผลกระทบกับการบริการ เมื่อถามว่าหมายถึงผู้บริหารจะต้องเอาผิดกับพนักงานที่ลาโดยไม่มีเหตุผลด้วย หรือไม่ นาอยภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องดูระเบียบ แต่ที่เขาชี้แจงมาเบื้องต้นบอกว่าตามระเบียบทำได้ ซึ่งตนได้กำชับรัฐมนตรีลงไปว่าให้ดูว่ามันเป็นไปได้อย่างไร

ต่อข้อถามที่ว่าในขณะที่การรถไฟฯ กำลังจะมีการปฏิรูปองค์กร แต่มาเกิดปัญหาในลักษณะนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยากจะเรียกร้องทุกฝ่ายในองค์กรว่า หัวใจสำคัญที่สุด คือ การบริการประชาชน ขณะนี้แม้ในสถานการณ์ปกติพี่น้องประชาชนก็เรียกร้องอยู่แล้วว่าต้องมีการ ปรับปรุงบริการ เพราะฉะนั้น อย่าทำอะไรที่ซ้ำเติมตัวองค์กร รัฐบาลเองกำลังจะดูแผนในเรื่องของรถไฟทั้งหมด ซึ่งเดิมจะเอาเข้าที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทางกระทรวงคมนาคมขอทำข้อมูลเพิ่มเติม ภายใน 2-3 สัปดาห์จะกลับเข้ามาใหม่ ก็จำเป็นจะต้องมีการปรับปรุงปฎิรูปครั้งใหญ่

ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีบางคนเอาองค์กรรถไฟฯ เป็นเครื่องมือทางการเมือง แล้วเอาความเดือดร้อนประชาชนมาเป็นเครื่องต่อรองนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในเบื้องต้นขณะนี้ไม่คิดว่าเป็นเรื่องการเมือง ตรงนี้หมายถึงข้างนอก แต่อาจจะเป็นปัญหาภายในองค์กรกันเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขและถ้าเป็นเรื่องปัญหาภายในต้องไปแก้ภายในอย่า ให้กระทบพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า การที่ตัวแทนสหภาพมีความเกี่ยวพันกับพันธมิตรฯ หรือพรรคการเมืองใหม่ เป็นเหตุผลที่ทำให้มีการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้หรือเปล่า นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนได้สอบถามหลายๆ ฝ่าย ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเช่นนั้น แต่หากมีก็ไม่เหมาะสมอยู่แล้ว แต่เท่าที่ตรวจสอบขณะนี้ยังไม่พบ ซึ่งตนสอบถามไปเหมือนกันว่าทำไมมันเกิดขึ้นในช่วงนี้เพราะอะไร เมื่อถามว่า ข้อเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงตัวผู้ว่าฯ การรถไฟ คิดว่าปัญหาขณะนี้ไปถึงขั้นที่ต้องเปลี่ยนตัวผู้บริหารหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องดูที่เหตุ ที่ผล อย่างที่ตนย้ำหากเป็นเรื่องนี้ควรจะมาใช้วิธีการกระบวนการอื่น ไม่ควรทำอย่างนี้

เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดควาเมดือดร้อนกับประชาชนซ้ำซากแบบ นี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้ทางเราบริหารจัดการอยู่และได้เข้มงวดลงไปแล้วว่าไปดูให้ดีว่าจริงหรือ เปล่าว่าทำได้ตามระเบียบแบบนี้ เพราะมันไม่น่าจะเป็นอย่างนี้ เมื่อถามว่าที่นายกฯบอกว่าอาจจะเ ป็นปัญหาภายในของการรถไฟ ตัวผู้ว่าฯ ต้องรับผิดชอบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องดูว่าข้อเรียกร้องของแต่ละฝ่ายคืออะไร แต่ผู้บริหารก็มีความรับผิดชอบอยู่แล้วก็ต้องไปจัดการเรื่องนี้ให้ได้

ส่วนกรณีที่มีข่าวคนพนักงานเดินรถไล่ผู้โดยสารลงที่สถานีรถไฟละแมนั้น ในช่วงเช้านี้(18 ต.ค.) นั้น จากการคุยกับนายโสภณในช่วงเช้าไม่ได้มีเรื่องนี้ มีแต่เรื่องผลกระทบการเดินรถสินค้า

//------------------------------------------------------------------

รถไฟตรังป่วนหยุดวิ่งเป็นวันแรก หลัง พนง.ชุมนุมประท้วง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ตุลาคม 2552 18:17 น.


ตรัง - รถไฟตรัง 2 ขบวน ทั้งรถเร็ว และรถด่วน หยุดวิ่งเป็นวันแรก หลังจากพนักงานการรถไฟเคลื่อนไหวชุมนุมประท้วง สร้างความวุ่นวายให้กับผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก-ทางสถานีจัดรถบัสให้ 10 คัน เพื่อเดินทางไปขึ้นรถที่สุราษฎร์ฯ สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปกรุงเทพฯ

วันนี้ (18 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง รายงานว่า ผลจากการหยุดงานชุมนุมประท้วงของพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย ในหลายจังหวัดทั่วประเทศนั้น ส่งผลต่อผู้โดยสารที่ใช้บริการยังสถานีรถไฟตรัง ซึ่งมีจำนวนประมาณวันละกว่า 2,000 คน เป็นอย่างมาก เนื่องจากขบวนรถไฟทั้ง 2 ขบวน คือ รถเร็ว ขบวนที่ 168 กันตัง-กรุงเทพฯ ซึ่งออกในเวลาประมาณ 13.30 น. และรถด่วน ขบวนที่ 84 ตรัง-กรุงเทพฯ ซึ่งออกในเวลาประมาณ 17.30 น. ต่างไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติเหมือนอย่างเช่นทุกวัน

ทั้งนี้ สถานีรถไฟตรัง ได้ประกาศให้ผู้โดยสารทั้งหมดทราบว่า หากผู้ใดประสงค์จะเดินทางไปยังกรุงเทพฯ ทางสถานีได้จัดรถบัสไว้ให้บริการ จำนวน 10 คัน ทำการขนส่งผู้โดยสารไปยังสถานีสุราษฎร์ธานี เพื่อขึ้นรถไฟไปยังกรุงเทพฯ ทั้ง 2 ขบวน แต่หากผู้โดยสารคนใดเห็นว่าจะเกิดความไม่สะดวก ก็สามารถนำตั๋วไปคืนเงินกลับมาได้ครบ 100% หรือจะเลื่อนไปวันอื่นแทนก็ได้ สร้างความวุ่นวายให้กับผู้โดยสารเป็นอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมตัวมาล่วงหน้า จึงต้องวิ่งไปหาตั๋วรถทัวร์ หรือตั๋วเครื่องบิน โดยสารแทน

สำหรับ ในวันพรุ่งนี้ (19 ต.ค.) นั้น ได้รับแจ้งจากสถานีตรัง ว่า รถเร็ว ขบวนที่ 167 กรุงเทพฯ-กันตัง ซึ่งจะมาถึงในเวลาประมาณ 10.00 น. ต้องงดให้บริการไปก่อนโดยไม่มีกำหนด ส่วนรถด่วน ขบวนที่ 83 กรุงเทพฯ-ตรัง ซึ่งจะมาถึงในเวลาประมาณ 08.00 น. ยังคงต้องรอผลการประชุมของพนักงานการรถไฟฯ อีกครั้ง ว่า จะยังคงวิ่งมายังจังหวัดตรังตามปกติ หรือต้องงดให้บริการเช่นกัน

//-----------------------------------------------------------------

โสภณถามหาจรรยาบรรณพนง.รถไฟ
คมชัีดลึก วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม 2552

คมชัดลึก : รถไฟโคราชให้บริการปกติ ไม่มีเค้ารางการนัดหยุดงาน
สายใต้ 6 ขบวน วิ่งเข้ากรุงเทพฯตามปกติ โดยใช้สถานีต้นทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

วันที่ 18 ตุลาคม 52 บรรยากาศที่สถานีรถไฟนครราชสีมา เหตุการณ์ปกติ ขบวนรถไฟทั้ง ขาขึ้นขาล่องทุกเที่ยวก็ยังคงให้บริการเหมือนเช่นเดิม ซึ่งอาจจะมีการล่าช้าในบางขบวน โดยผู้โดยสารบางราย เกรงจะมีปัญหาจากการนัดหยุดงานของพนักงานการรถไฟ จึงมีการสอบถามทางโทรศัพท์กับ จนท.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ตลอดทั้งวัน

นายสมศักดิ์ เตียนพลกรัง นายสถานีรถไฟนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ที่สถานีรถไฟนครราชสีมา ขบวนรถที่แล่นผ่าน หรือออกจากสถานี ยังคงปฏิบัติหน้าที่เดินรถตามปกติ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ยอดจำหน่ายตั๋วโดยสารต่อวันเฉลี่ยประมาณ 2 หมื่นบาท ก็ไม่ได้ลดลงหรือเพิ่มขึ้น แสดงว่ายังคงอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ยังไม่สามารถยืนยันหรือกำหนดได้ว่ารถไฟขบวนใดจะเกิดปัญหาขึ้นมาอีกหรือไม่ ต้องรอการประสานงานแจ้งข้อมูลจากสหภาพ ฯ ว่าขบวนรถไฟสายใดไม่พร้อมใช้งาน หากทราบก็จะแจ้งประชาสัมพันธ์ทันที เพื่อมิให้ผู้โดยสารต้องเสียเวลารอขบวนรถ

นายรังสี อุปแก้ว รอง ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่ง ประเทศไทย สาขา จ.นครราชสีมา กล่าวว่า มีภาวะแรงกดดันจากฝ่ายบริหาร อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดช่วงสายที่ผ่านมา ได้มีเอกสารด่วน เลขที่ ชก.1/2361/592 เรื่อง ขอให้พิจารณาค่าตอบแทนกรณีพิเศษ เป็นแรงจูงใจให้กับพนักงานรถจักรที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงาน และการเสียสละให้ความช่วยเหลือการรถไฟไทย ให้สามารถเดินขบวนรถทุกขบวนได้ตามปกติ ในขณะที่พนักงานรถจักรส่วนหนึ่งกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นอุปสรรคต่อการเดินรถตามปกติ จึงเห็นสมควรพิจารณาให้ค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานคนละ 500 บาทต่อเที่ยว โดยไม่นับเป็นค่าจ้าง ทำนองเดียวกันกับค่าเสี่ยงภัยของพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่บนขบวนรถแก๊ส

" นี่คือธาตุแท้ของฝ่ายบริหาร ที่ต้องการสร้างความแตกแยกในกลุ่มของพนักงานรถจักร โดยใช้เงินมาเป็นตัวล่อ อ้างเป็นแรงจูงใจ จึงต้องขอความร่วมมือให้ปฏิบัติหน้าที่ในยามคับขัน จนถึงขณะนี้ สหภาพ ฯ ก็มิได้ห้ามปราม หรือมติคัดค้านแต่อย่างใด เป็นสิทธิ และดุลยพินิจของพนักงานรถจักรแต่ละคน ที่จะทำหน้าที่ขับรถต่อไปหรือไม่ หากเน้นความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินเป็นสิ่งสำคัญ อุปกรณ์ต่างๆบนรถจักร,รถพ่วง และ รถโดยสาร ก็จะต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มิเช่นนั้นหากเกิดอุบัติเหตุเช่นที่ภาคใต้ พนักงานรถจักรก็จะเป็นแพะ รับโทษทั้งทางวินัย และอาญา " นายรังสีกล่าว

6ขบวนรถไฟสายใต้วิ่งสุราษฎร์ฯ-กรุงเทพฯ

ภายหลังจากรถไฟทุกขบวนสายใต้ที่เดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพงมุ่งหน้าลงใต้จำนวน 12 ขบวน ต้องทยอยหยุดรถกะทันหันที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีโดยส่งผู้โดยสารหลายพันคนที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี จากนั้นการรถไฟแห่ง ประเทศไทย ได้จัดหารถโดยสารประจำทางปรับอากาศและรถโดยสารประจำทางธรรมดาทยอยขนถ่ายผู้ โดยสารส่งไปยังจังหวัดต่าง ๆ โดยสิ้นสุดที่ปลายทางอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ตามข่าวที่นำเสนอไปในช่วงเช้านั้น

ปรากฏว่าในช่วงบ่ายที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีได้ปิดป้ายประกาศแจ้งว่ารถไฟบาง ขบวนทยอยเดินทางจากสถานีสุราษฎร์ธานีเป็นสถานีต้นทางมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพ ๆ ตามปกติโดยส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารใน จ.สุราษฎร์ธานีที่รอเดินทาง แต่ค่อนข้างน้อยกว่าช่วงปกติ

โดยผู้โดยสารบางรายระบุว่าก่อนเดินทางมาซื้อตั๋วและรอขึ้นรถไฟได้ โทรศัพท์สอบถามความคืบหน้าก่อนแล้ว และมั่นใจว่าเดินทางถึงจุดหมายอย่างแน่นอน ไม่ได้กลัวอะไร ขณะที่ผู้โดยสารบางรายได้เดินทางมาซื้อตั๋วล่วงหน้า เพื่อรอเดินทางเข้ากรุงเทพ ฯ ในสัปดาห์ แม้จะไม่มั่นใจว่าจะได้ไปหรือไม่ โดยที่ใช้บริการรถไฟเพราะราคาถูก

อย่างไรก็ตามสำหรับรถไฟที่ เดินทางเข้ากรุงเทพ ฯโดยเริ่มสถานีสุราษฎร์ธานีเป็นสถานีต้นทางออกเดินทางในช่วงเย็นวันนี้มี จำนวน 6 ขบวน คือ

1 .รถเร็ว ขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราช - กรุงเทพ ฯ
2 .รถเร็ว ขบวนที่ 168 กันตัง - กรุงเทพ ฯ
3 .รถด่วนขบวนที่ 86 นครศรีธรรมราช - กรุงเทพ
4 .รถดีเซลราง ขบวนที่ 42 ยะลา - กรุงเทพ
5 .รถดีเซลราง ขบวนที่ 44 สุราษฎร์ธานี - กรุงเทพ และ
6 .รถด่วนขบวนที่ 84 กันตัง - กรุงเทพ

ซึ่ง รถเร็ว ขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราช - กรุงเทพ ฯ ออกเดินทางเป็นขบวนแรกจากสถานีสุราษฎร์ธานีเวลา 16.46 น. จากนั้นจะทยอยปล่อยตามเวลาซึ่งทางเจ้าหน้าที่รถไฟได้ปิดป้ายประกาศไว้เพื่อให้ผู้โดยสารเห็นเด่นชัด

รถไฟตรังวุ่นวายหนักหยุดวิ่งชุมนุมประท้วง

ผลจากการหยุดงานชุมนุมประท้วงของพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย ในหลายจังหวัดทั่วประเทศนั้น ส่งผลกระต่อผู้โดยสารที่ใช้บริการยังสถานีรถไฟตรัง ซึ่งมีจำนวนประมาณวันละ 2 พันคน เป็นอย่างมาก เนื่องจากขบวนรถไฟทั้ง 2 ขบวน คือ รถเร็ว ขบวนที่ 168 กันตัง-กรุงเทพฯ ซึ่งออกในเวลาประมาณ 13.30 น. และรถด่วน ขบวนที่ 84 ตรัง-กรุงเทพฯ ซึ่งออกในเวลาประมาณ 17.30 น. ต่างไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติเหมือนอย่างเช่นทุกวัน

ทั้งนี้ สถานีรถไฟตรัง ได้ประกาศให้ผู้โดยสารทั้งหมดทราบว่า หากผู้ใดประสงค์จะเดินทางไปยังกรุงเทพฯ ทางสถานีได้จัดรถบัสไว้ให้บริการ จำนวน 10 คัน ทำการขนส่งผู้โดยสารไปยังสถานีสุราษฎร์ธานี เพื่อขึ้นรถไฟไป ยังกรุงเทพฯ ทั้ง 2 ขบวน แต่หากผู้โดยสารคนใดเห็นว่าจะเกิดความไม่สะดวก ก็สามารถนำตั๋วไปคืนเงินกลับมาได้ครบ 100 % หรือจะเลื่อนไปวันอื่นแทนก็ได้ สร้างความวุ่นวายให้กับผู้โดยสารเป็นอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมตัวมาล่วงหน้า จึงต้องวิ่งไปหาตั๋วรถทัวร์ หรือตั๋วเครื่องบิน โดยสารแทน

สำหรับในวันที่ 19 ตุลาคมนั้น ได้รับแจ้งจากสถานีตรัง ว่า รถเร็ว ขบวนที่ 167 กรุงเทพฯ-กันตัง ซึ่งจะมาถึงในเวลาประมาณ 10.00 น. ต้องงดให้บริการไปก่อนโดยไม่มีกำหนด ส่วนรถด่วน ขบวนที่ 83 กรุงเทพฯ-ตรัง ซึ่งจะมาถึงในเวลาประมาณ 08.00 น. ยังคงต้องรอผลการประชุมของพนักงานการรถไฟฯ อีกครั้ง ว่า จะยังคงวิ่งมายังจังหวัดตรังตามปกติ หรือต้องงดให้บริการเช่นกัน

โสภณถามหาจรรยาบรรณพนักงานรถไฟ

ขณะที่นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในการรถไฟฯ ว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมทำแผนพัฒนาปรับปรุงการรถไฟฯ ทั้งระบบ โดยมีคณะกรรมการขึ้นมาดูแลแบบบูรณาการเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่เมื่อออกมาเรียกร้อง หรือเกิดปัญหาแต่ละครั้งแล้วเข้ามาแก้ปัญหา คาดว่าภายใน 3 สัปดาห์ จะนำแผนพัฒนาการรถไฟฯ เสนอให้ ครม.พิจารณาได้

ส่วนกรณีที่พนักงานการรถไฟฯ ยื่นลาหยุดพร้อมกันจำนวนมากนั้น นายโสภณ กล่าวว่า แม้พนักงานมีสิทธิลาหยุด แต่หากทำให้เกิดปัญหาและความเดือดร้อนก็ต้องมาพิจารณากันถึงเหตุผลที่แท้ จริง ผู้ที่มีอำนาจในการอนุมัติให้ลาหยุดเป็นใคร ต้องดูให้สมเหตุสมผลและเป็นการดำเนินการตามกฎระเบียบ ซึ่งนอกเหนือจากกฎระเบียบแล้วพนักงานก็ต้องมีจรรยาบรรณด้วย เพราะเรื่องนี้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนจำนวนมาก

“กำลังหาหัวรถจักรใหม่ให้ โดยจัดสรรเงินจากงบไทยเข้มแข็ง แต่มันต้องใช้เวลาเป็นไปตามกระบวนการ ไม่ใช่จะได้เลยในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ส่วนการเรียกร้องให้ปลดผู้ว่าการการรถไฟฯ ก็ต้องดูไปตามกฎหมายและกฎระเบียบ ว่าได้ทำผิดอะไร ไม่ใช่นึกอยากปลดก็ปลดได้ ซึ่งผมไม่มีข้อตกลงอะไร” นายโสภณ กล่าว

ด้านนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และในฐานะกรรมการบริหารการรถไฟฯ (บอร์ดการรถไฟ) แถลงการติดตามปัญหาของการรถไฟฯ ว่า ในต้นสัปดาห์นี้บอร์ดการรถไฟฯ จะเรียกประชุม เพื่อกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าวทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้ปัญหาจบโดยเร็ว เบื้องต้นอยากให้พนักงานหยุดงานกลับเข้ามาทำงาน และอยากให้คิดว่าการหยุดงานนอกจากสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนแล้ว ยังทำให้องค์กรตกต่ำลงทุกวัน หากประชาชนขาดความเชื่อมั่นไม่ใช้บริการในอนาคตการรถไฟฯ ก็อยู่ไม่ได้ ซึ่งจะกระทบต่อพนักงานทุกคน

“พนักงานควรนึกถึงองค์กรที่ชุบเลี้ยง และไม่ทำให้องค์กรต้องเสียหายไปมากกว่านี้ ส่วนการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนเบื้องต้น ขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกและบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. นำรถโดยสารเข้ามาทดแทน เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน หากประชาชนที่จะเดินทางไม่ได้รับความสะดวก แจ้งได้ที่สายด่วน 1584 ของกรมการขนส่งทางบกได้ตลอด 24 ชั่วโมง" นายชัยรัตน์ กล่าว

//---------------------------------------------------------------------

สถานีรถไฟสุราษฎร์คึกคักผู้โดยสารรอเข้ากรุงเทพเพียบ

Nation Hotnews 18 ตค. 2552 20:23 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีในช่วงค่ำคืนนี้บรรยากาศเริ่ม คึกคักเนื่องจากมีผู้โดยสารรอขึ้นรถไฟเข้ากรุงเทพ ฯเป็นจำนวนมากหลังจากที่รถไฟเริ่มบริการเป็นปกติ โดยขบวนสุดท้ายที่ออกจากสถานีสุราษฎร์ธานีซึ่งเป็นสถานีต้นทางของรถไฟของ รถไฟสายใต้ทุกขบวนเข้ากรุงเทพ ฯ คือรถด่วนตรัง-กรุงเทพ ฯ ออกจากสถานีรถไฟ สุราษฎร์ธานี เวลา 20.47 น.หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปล่อยรถออกไปแล้วจำนวน 5 ขบวน

สำหรับในส่วนของรถด่วนตรัง -กรุงเทพ นั้นทางสถานีรถไฟตรังได้จัดรถขนถ่ายผู้โดยสารจาก จ.ตรังมาขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพ ฯ โดยมีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ขณะที่ในส่วนของรถไฟขาล่องลงใต้จากกรุงเทพ -สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสถานีปลายทางในขณะนี้มีเพียง 2ขบวนคือรถด่วน กรุงเทพ - ตรัง ถึงสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีเวลา 04.00 น. และรถด่วน กรุงเทพ - นครศรีธรรมราช เดินทางถึงสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีเวลา 06.42 น.

[pattharachai]

ประทับใจมากๆครับ รฟท. ครับกับภาพเช่นนี้

[pak_nampho]

ข่าวทีวีเมื่อเช้าสัมภาษณ์ ผคร.ภาคใต้ทางโทรศัพท์ไม่ใช่ พขร.ทิ้งผู้โดยสาร นะครับ
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++

....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................

[black_express]

ทำไมต้องหยุดทำขบวนที่สถานีละแม ?

รถจักรตาย น้ำท่วมทางขาด หรือมีอุบัติเหตุรถขวางทางข้างหน้า จนสุดวิสัยที่จะทำขบวนต่อไปได้ ก็ว่าไปอย่าง อีกประการหนึ่ง สถานีละแมเป็นสถานีระดับอำเภอ นำผู้โดยสารร่วมพันคนไปแออัดอยู่ที่นั่น ผคร.เห็นว่าเรื่องเล็กหรือครับ ?

ถ้าเป็นสถานีใหญ่ เช่น ชุมพร สุราษฎร์ธานี หรือ ทุ่งสง ที่หาบริการรถโดยสารเดินทางต่อได้สะดวก มีที่พัก มีอาหารให้ผู้โดยสารได้ประทังท้อง ยังพอให้เห็นความรับผิดชอบบ้าง

[Wisarut]

[rimura]

งามจริงๆครับ ตั๋วขบวน 36 ที่อุตส่าห์บรรจงเลือกที่นั่งมานับเดือนของผมวันนี้เป็นหมันซะแล้ว....

เฮ้อออออ.... ว่าจะนอนรถแดวูสบายๆเป็นการพักผ่อนวันกลับบ้านซะหน่อย

[pak_nampho]

[HaRaRuKi]

รถไฟใต้ท้องถิ่นยังงดวิ่งปชช.โวยแจ้งความพขร.

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/region/40692



รถไฟสายใต้ท้องถิ่น ยังหยุดให้บริการ ส่วนรถไฟสายยาว วิ่งจากหัวลำโพง ถึง สุราษฎร์ธานีเท่านั้น ขณะประชาชนที่เดือดร้อน ได้แจ้งความดำเนินคดีพนักงานขับรถไฟแล้ว ...

ช่วงเช้าวันนี้ (19 ต.ค.) รถไฟสายใต้ท้องถิ่น ยังหยุดให้บริการ ขณะที่ขบวนกรุงเทพฯ - ตรัง วิ่งไปกลับได้ตามปกติ ส่วนสายอื่นวิ่งจากหัวลำโพง ถึงสถานีสุราษฎร์ธานีเท่านั้น โดยหัวรถจักร จำนวน 21 คัน ยังจอดอยู่ภายในโรงรถจักรหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อรอซ่อมบำรุง ทำให้วันนี้ ขบวนรถไฟท้องถิ่นสายใต้ ยังหยุดให้บริการทั้งหมด ส่วนรถไฟสายยาว ออกจากหัวลำโพง มีจุดหมายปลายทางถึงสถานีจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นได้จัดรถบัสนำผู้โดยสารไปส่งยังจังหวัดอื่นต่อไป ล่าสุด มีประชาชนเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับพนักงานขับรถไฟแล้ว

ด้าน นายวิรุฬ สะแกคุ้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ กล่าวว่า สหภาพแรงงานรอคำตอบจากฝ่ายบริหาร ซึ่งจะประชุมกันวันนี้ว่าจะซ่อมบำรุงหัวรถจักร ให้อยู่ในสภาพใช้งานได้หรือไม่ คาดว่าทุกอย่างจะเข้าสู่สภาวะปกติวันพุธนี้

โดยบรรยากาศที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี ยังวุ่นวายเมื่อพนักงานรถไฟนำผู้โดยสารจากกรุงเทพฯ มาปล่อยไว้ที่สถานีจำนวนมาก ด้านบรรยากาศที่สถานีหาดใหญ่ เงียบเหงา
_________________

[HaRaRuKi]

ผลสอบตกราง พขร.ผิด ไล่ออก-ตัดเงิน

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/eco/39157

กรรมการสอบข้อเท็จจริงไล่ออก-ตัดเงินเดือนพนักงานขับรถและช่างเครื่อง ระบุความผิดเกิดจากความประมาท ขณะที่สร.รฟท.จี้ปลดผู้ว่ารฟท.เซ่นม้าเหล็กตกราง...

วันนี้(12 ต.ค.)นายภากร ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีอุบัติเหตุขบวนรถไฟด่วนที่ 84 ซึ่งประสบอุบัติเหตุตกรางและพลิกคว่ำที่สถานีเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยผลการสอบข้อเท็จจริงว่า จากคำให้การทั้งหมด คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง สรุปความเห็นว่า สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากความประมาทของพนักงานเป็นหลัก โดย รฟท.ยืนยันว่า อุปกรณ์และอาณัติสัญญาณทุกอย่างปกติ คณะกรรมการจึงเสนอให้ รฟท.พิจารณาโทษแก่พนักงานที่เกี่ยวข้อง 3 ราย คือ

1.นายเริงศักดิ์ พันธุ์เทพ พนักงานขับรถขบวน 84 มีความผิด คือ ไม่ปฏิบัติตามระบียบข้อบังคับในการขับรถของ รฟท. ส่งผลให้เกิดความเสียหาย มีโทษไล่ออก 2.นายบวรรัตน์ เสือทิม ช่างเครื่อง มีความผิดคือไม่ปฏิบัติตามระเบียบของ รฟท.ในการช่วยดูแลสัญญาณประจำ และ 3.นายอุทัย รักษาเกตุ พนักงานรักษารถ มีความผิดในการไม่ช่วยดูแลขบวนเรื่องการหลีกขบวนรถ ตามที่ระเบียบได้ระบุไว้ มีโทษตัดเงินเดือน 15 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 10 เดือน ซึ่งโทษทั้งหมดจะมีผลก็ต่อเมื่อผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสอบวินัย ซึ่งจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวภายใน 1-2 วันนี้ โดยระหว่างนั้น พนักงานที่ต้องโทษทั้งหมด จะต้องหยุดพักการทำงานทันที

วันเดียวกัน เวลา 11.30 น.ที่กระทรวงคมนาคม นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) พร้อมสมาชิก สร.รฟท. จำนวนหนึ่งรวมตัวชุมนุมที่ด้านหน้ากระทรวงคมนาคม เพื่อเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พิจารณาปลด นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ออกจากตำแหน่ง ภายใน 7 วัน จากการบริหารงานที่ล้มเหลว ทำให้หมดความชอบทำในการบริหารงาน โดยเฉพาะกรณีขบวนรถด่วนที่ 84 ที่เกิดอุบัติเหตุจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งนี้ สร.รฟท.ได้มีการติดตั้งเต๊นท์ และเครื่องขยายเสียง ด้านหน้ากระทรวงคมนาคม พร้อมประกาศจะปักหลักชุมนุมขับไล่ ผู้ว่า รฟท. ยืดเยื้อไม่มีกำหนด.
_________________