RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:318677
ทั่วไป:28694927
ทั้งหมด:29013604
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 18, 19, 20 ... 299, 300, 301  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
donatt76
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 03/09/2006
Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ

PostPosted: 22/10/2009 4:15 pm    Post subject: Reply with quote

ทำไมเค้าคิดแค่ MonoRail ทำไมไม่คิดถึง LRT บ้างน้อ....LRT จุคนได้มากกว่า Mono Rail ตั้งเยอะแน่ะ....แต่สงสัยว่า
- สายที่เข้าสุวรรณภูมิ มันจะมุดเข้าไปตรงไหน?
- สายรามคำแหงน่ะ...แน่ใจแล้วเหรอ เดี๋ยวก็ออกมาเป็นป้ายประท้วงอีกเหมือนตอนจะขุดลาดพร้ามสร้างรถไฟฟ้าสานสีส้ม เพราะคนลาดพร้าวกลัวรถติดตอนขุดถนน
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail Visit poster's website MSN Messenger
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 22/10/2009 4:51 pm    Post subject: Reply with quote

donatt76 wrote:
ทำไมเค้าคิดแค่ MonoRail ทำไมไม่คิดถึง LRT บ้างน้อ....LRT จุคนได้มากกว่า Mono Rail ตั้งเยอะแน่ะ....แต่สงสัยว่า
- สายที่เข้าสุวรรณภูมิ มันจะมุดเข้าไปตรงไหน?
- สายรามคำแหงน่ะ...แน่ใจแล้วเหรอ เดี๋ยวก็ออกมาเป็นป้ายประท้วงอีกเหมือนตอนจะขุดลาดพร้ามสร้างรถไฟฟ้าสานสีส้ม เพราะคนลาดพร้าวกลัวรถติดตอนขุดถนน


ที่แคบ ไม่อยากเสียค่าเวนคืนแถวซ่อย ทองหล่อ - เอกมัย และ แถวประตูน้ำ ที่ต้องเอาดอลลาร์เขียวๆ หรือ ทองแท่ง ปูให้เต็มพิ้นที่ตามความต้องการ ถึงจะยอมขายให้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 26/10/2009 1:14 pm    Post subject: Reply with quote

สุขุมพันธุ์เล็งงบไทยเข้มแข็งผุดโมโนเรลสยาม
ข่าวสดรายวัน ปีที่ 19 ฉบับที่ 6906 วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552


นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ขณะนี้ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เห็นชอบในหลักการให้มีการดำเนินการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้ามวลชนรางเดี่ยว หรือโมโน เรลในเส้นทางสายสยาม จากสนามกีฬาแห่งชาติ-บรรทัดทอง-พระราม 4 ส่วนสถานีที่ 4 กำลังศึกษาว่าจะเป็นอังรีดูนังต์หรือพญาไทและมาจบที่เส้นพระราม 1 ระยะทาง 5 กิโลเมตร งบประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่ 3 ที่ผู้บริหารเห็นชอบ หลังจากที่เห็นชอบให้ดำเนินการก่อสร้างโมโนเรลเส้นทางจากศาลาว่าการกทม.2 ดินแดง-ยมราช ระยะทาง 8 กิโลเมตร และเส้นทางจากบางนา-สุวรรณภูมิ ระยะทาง 18 กิโลเมตร
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 02/11/2009 1:53 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมเดินหน้าระบบ'ตั๋วร่วม'
หน้า อสังหาฯ-คมนาคม
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2,475 01 พ.ย. - 04 พ.ย. 2552

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์คมนาคมผลักดัน"ตั๋วร่วม"ระบบขนส่งมวลชนทั้งระบบ เตรียมเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาข้อสรุปก่อนชง ครม.อนุมัติให้ทันใช้งานในปี 2553 ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอสซี) บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีเอ็มซีแอล) ซึ่งบางระบบได้ทดลองเปิดใช้งานไปบ้างแล้ว เช่นรถไฟฟ้า บีทีเอส เป็นต้น แต่ติดติดเงื่อนไขหลาย ๆ ประการ ทำให้ รถไฟฟ้าใต้ดินยังไม่สามารถใช้ตั๋วร่วมกับบีทีเอสได้ทำให้ผู้โดยสารไม่สะดวก จำเป็นต้องหาข้อสรุปร่วมกัน ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาต่อไป

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาสนข. ได้ร่วมมือกับกระทรวงการคลัง และธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ว่าจ้างบริษัท ซีอีซีไอ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จากประเทศไต้หวัน เพื่อดำเนินการศึกษาและกำหนดการดำเนินการตั๋วร่วม วางแผนการดำเนินการ อัตราค่าโดยสารที่จะใช้ ให้ครอบคลุมทั้งระบบรถไฟฟ้า รถเมล์ เรือโดยสาร ซึ่งข้อมูลการศึกษามีความพร้อมแล้วจึงจะผลักดันให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมได้ทันที


ขณะที่นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) คุยข่ม สนข. ว่า กทม. ได้ลงมือทำตั๋วร่วมก่อนใครในเส้นทางบีทีเอส โดยได้เคยลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อการดำเนินงานระบบบัตรโดยสารร่วมในระยะแรก ณ กระทรวงคมนาคม ร่วมกับ ผู้แทนสนข.) ผู้แทนร.ฟ.ท. ผู้แทนรฟม.ผู้แทนบีทีเอส และ ผู้แทนบีเอ็มซีแอล ตั้งแต่สมัย พล.ร.อ. ธีระ ห้าวเจริญ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมถึงการกำหนดมาตรฐานของระบบบัตรร่วมในปัจจุบัน และอนาคต เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้สามารถใช้บัตรโดยสารเพียงใบเดียวเบื้องต้นได้นำร่องทดลองใช้ในระยะแรกกับระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสกับระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ ที่สามารถต่อเชื่อมกันได้ทันทีเช่นรถยนต์โดยสารหรือเรือโดยสาร

หลังจากนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการระบบบัตรโดยสารร่วมขึ้น ประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาว่าจะออกบัตรในรูปแบบใด ซึ่งแนวโน้มจะตั้งบริษัทร่วมทุนบริหารจัดการบัตรโดยสารร่วม ส่วนหน่วยงานภาครัฐจะสนับสนุนให้มีการจัดทำ พัฒนา อำนวยความสะดวกด้านขั้นตอนการจัดการ และกำกับดูแลการทดลองใช้ระบบบัตรโดยสารร่วม ซึ่งในส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า และรถโดยสารด่วนพิเศษ บีอาร์ที ที่กทม.กำลังดำเนินการนั้นก็อยู่ในแผนการใช้บัตรโดยสารร่วมนี้ด้วยเช่นกัน

กทม. พร้อมรองรับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆในอนาคตทั้งส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า กทม. และรถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ทีเส้นทางแรก ช่องนนทรี - ราชพฤกษ์ ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการใช้บริการและการเดินทาง เพราะพูดเรื่องตั๋วร่วมมานานแล้ว

นอกจากนี้ยังจะให้ระบบขนส่งมวลชนต่างๆ สามารถใช้ตั๋วร่วมกันได้ เช่นจะทำตั๋วร่วมระหว่างบีทีเอสและเรือคลองแสนแสบอีกด้วย


ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ สายปฏิบัติการบริษัท บีทีเอสฯ เปิดเผยถึงการใช้ตั๋วร่วมของรถไฟฟ้าบีทีเอสว่า ขณะนี้บริษัทได้เปิดดำเนินการแล้วในรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลมในส่วนต่อขยายยังไม่พบปัญหาอะไร โดยจะใช้ร่วมกันได้กับทุกระบบขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ เรือโดยสาร รวมไปถึงส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆ ในอนาคตด้วย อีกทั้งจะพัฒนาให้เป็นตั๋วโดยสารนำไปจับจ่ายสินค้าตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งแนวทางนี้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่จะให้มีตั๋วโดยสารเพียงใบเดียวสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างครอบคลุม โดยที่ผ่านมาบริษัท ได้ตั้งคณะทำงานทางด้านเทคนิค เพื่อศึกษาข้อมูลในบัตรและนำไปปรับระบบบัตรในส่วนต่อขยายสายสีลม ซึ่งทำให้การใช้บัตรโดยสารข้ามระบบ (Intreoperability) ทั้ง 2 ระบบใช้ร่วมกันได้ ส่วนระยะที่ 2 จะพัฒนาระบบตั๋วร่วม (Common Ticketing) เพื่อจัดแบ่งรายได้ค่าโดยสาร (Clearing Houses ) ซึ่งผู้โดยสารไม่ต้องเสียค่าแรกเข้าระบบ 2 ต่อ อาจทำให้ค่าโดยสารถูกลงกว่าเดิม และเมื่อระบบตั๋วโดยสารร่วมเสร็จสมบูรณ์แล้วมั่นใจว่าจะเป็นรากฐานในการขยายการใช้ตั๋วโดยสารร่วมไปยังระบบขนส่งอื่นๆ และเป็นมาตรฐานสำหรับระบบขนส่งมวลชนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้"

อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นคาดว่าระยะแรก ปี 2553 จะสามารถนำตั๋วร่วมไปเริ่มทดลองใช้กับระบบรถไฟฟ้าของบีทีเอสกับขนส่งมวลชนอื่น ๆ จากนั้นระยะที่ 2 จะสามารถขยายระบบไปใช้กับรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที ระยะที่ 3 จะครอบคลุมรถเมล์ เรือโดยสาร และรถไฟฟ้าสายใหม่อีกด้วย
__________________
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 09/11/2009 8:16 am    Post subject: Reply with quote

ผุดโมโนเรลสายแรกในไทย
เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 09 พฤศจิกายน 2552 เวลา 7:42 น


นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้สรุปผลการศึกษาโครงการรถไฟฟ้ามวลชนรางเดี่ยว (Mono Rail) นำเสนอตนอย่างเป็นทางการแล้ว มี 3 สายทางที่เหมาะสมที่สุดได้แก่

1.จากแยกบางนา-สนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทาง 18 กม. งบ 18,000-20,000 ล้านบาทตก กม.ละ 1,000 ล้านบาท เชื่อมรถไฟฟ้า ขนาดหนักของบีทีเอสจากแยกบางนา ใช้แนวเส้นทางถนนบางนา-ตราด วิ่งคู่ขนานกับทางด่วนบางนา-ชลบุรี เลี้ยวเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ รองรับการเดินทางของประชาชนจาก จังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพฯด้านตะวันออกเข้าสนามบิน

2.จากศาลาว่าการกทม. 2-ยมราช 15 กม. งบ 19,500 ล้านบาท แนวเส้นทางจากศาลาว่าการกทม. 2 เข้าดินแดง แนวรถไฟฟ้าจะอยู่เหนือโครงการโทลล์เวย์ วกเข้าถนนราชปรารภ เข้าเพชรบุรีและสิ้นสุดที่แยกยมราช รองรับการย้ายศาลาว่าการกทม. 1 ไปรวมที่อาคารใหม่ศาลาว่าการกทม. 2 อีกทั้งตลอดสายทางเชื่อมรถไฟฟ้าใต้ดินที่บริเวณอโศกและเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสที่เพชรบุรี และ

3.เส้นทางสายสยาม จำนวน 5 สถานี เริ่มจากสนามกีฬาแห่งชาติ-บรรทัดทอง-พระราม 4-พญาไท หรืออังรีดูนังต์ สุดที่พระราม 1 ระยะทาง 5 กม.วงเงิน 5,000 ล้านบาท

จากนี้ไปจะเร่งสจส. ศึกษารายละเอียดด้านผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ใช้เวลา 8 เดือนและนำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมเห็นชอบ ใช้เวลาราว 1 ปี เหลืออีก 2 ปีเร่งก่อสร้างก่อนในสายที่ 1 และสายที่ 3 คาดว่าจะเป็นรูปเป็นร่างก่อนที่ผู้บริหารชุดนี้จะหมดวาระ

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า นอกจากจะเร่งรัดส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าขนาดหนักสายสีเขียวอ่อนนุช-แบริ่งจากตากสิน-เพชรเกษม กทม.ให้แล้วเสร็จเปิดบริการภายในปี 2554 ส่วนจากหมอชิต-สะพานใหม่ และแบริ่ง-สำโรงต้องรอความชัดเจนจากครม.ว่าจะคืนให้กทม.ก่อสร้างหรือไม่แล้ว ตนมีนโยบายจะสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลสายแรกในกรุงเทพฯให้ได้ก่อนหมดสมัยเพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน เพราะประเทศไทยยังไม่มีรถไฟฟ้าโมโนเรล โดยนอกจากจะของบไทยเข้มแข็งจากรัฐบาลให้ช่วยสนับสนุนแล้ว หากได้น้อยหรือไม่ได้ตนจะออกพันธบัตรมาก่อสร้างเพื่อให้ประชาชนช่วยสนับสนุน คาดว่าไม่มีปัญหาติดขัดเรื่องมติครม.เพราะยังไม่มีหน่วยงานไหนคิดก่อสร้างเหมือนกทม. อีกทั้งเป็นเสาเดี่ยวก่อสร้างได้รวดเร็วกว่าแม้ความจุน้อยกว่ารถไฟฟ้าขนาดหนักแต่เดินทางได้รวดเร็วเหมือนกัน.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 09/11/2009 11:34 pm    Post subject: Reply with quote

สภาฯห่วง กทม. ดึงงบไทยเข้มแข็งสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2552 18:19

นายสุธา นิติภานนท์ ส.ก. เขตภาษีเจริญ ฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญศึกษาการจัดการขนส่งมวลชนด้วยระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว Monorail ตามแนวคลองแสนแสบและถนนที่เป็นแหล่งธุรกิจที่มีประชาชนหนาแน่น ประชุมเพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการขนส่งมวลชนด้วยระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว โดยมีตัวแทนจากสำนักจราจรและขนส่ง สำนักสิ่งแวดล้อม และที่ปรึกษาโครงการร่วมให้ข้อมูลประกอบการพิจารณา ณ ห้องประชุม 6 สภากทม.

ที่ประชุมคณะกรรมการตั้งข้อสังเกตว่า การใช้งบประมาณในการดำเนินงานการก่อสร้าง ผู้บริหารควรคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจต่อการใช้จ่ายงบประมาณในปัจจุบัน ทั้งจะต้องศึกษาในรูปแบบการลงทุนว่าคุ้มหรือไม่ ทั้งในส่วนแนวทางของผู้บริหารที่หวังจะนำงบประมาณจากโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลเพื่อมาสนับสนุนโครงการดังกล่าว ควรศึกษาให้รอบคอบเพราะการก่อสร้างจำเป็นที่จะต้องใช้งบผูกพันในการดำเนินงาน อีกทั้งวัตถุประสงค์ในโครงการไทยเข้มแข็งก็เพื่อจะนำเงินงบประมาณมากระตุ้นเศรษฐกิจด้วย

รวมถึงกรณีหากก่อสร้างแบบร่วมทุนกับเอกชน กทม.ควรจะต้องนำบทเรียนจากการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้า BTS ถึงปัญหาและอุปสรรคในการก่อสร้างมาเป็นบทเรียน ผู้บริหารควรคำนึงถึงการก่อสร้างและดูแลในส่วนโครงสร้างหลัก โดยให้บริษัทเอกชนดูแลในระบบต่างๆแทน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสูญเสียงบประมาณเป็นต้น ทั้งในส่วนของกายภาพในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในระหว่างดำเนินงาน ทั้งนี้ผู้บริหารควรต้องศึกษาในรายละเอียดและรูปแบบการลงทุน โดยจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ที่กรุงเทพมหานครได้ในระยะยาว

นายสุธา กล่าวว่า หากอนาคต กทม.มีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว Monorail ในพื้นที่ฝั่งธนบุรีที่มีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ควรก่อสร้างแนวเส้นทางให้มีรูปแบบวงกลมเชื่อมต่อกัน เพื่อให้บริการประชาชนในพื้นที่ได้อย่างดี ซึ่งจะครอบคลุมและทั่วถึง แทนการก่อสร้างแบบทางเดี่ยวไป-กลับ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49411
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/11/2009 3:11 pm    Post subject: Reply with quote

แก้ไข ตามคำแนะนำครับ Very Happy

VVV


Last edited by Mongwin on 11/11/2009 3:55 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 11/11/2009 3:44 pm    Post subject: Reply with quote

^^^
ลงในข่าวรถไฟจะดีกว่าครับ และ เมื่อกี้นี้ผมเพิ่งลงข่าวการประชุมครม ที่เลือกทางรถไฟสายไปจันทบุรีแล้วหละ Embarassed
Back to top
View user's profile Send private message
manutd_eak
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 05/10/2009
Posts: 176
Location: ธำ - หใ

PostPosted: 15/11/2009 12:37 pm    Post subject: Reply with quote

ข่าวนี้ไม่รู้ผมลงถูกกระทู้หรือไม่ ยังไงก็บอกผมได้น่ะครับ
แต่เป็นข่าวเกียวกับการพัฒนารถไฟในอนาคตครับ

นายกฯย้ำพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงเพื่อนบ้านวงเงินแสนล้านบาท

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2552 11:03 น.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มีการกำหนดแนวทางชัดเจนในเรื่องการปฏิรูปการรถไฟแห่งประเทศไทย คือจะมีการลงทุนในการพัฒนาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งได้มีการสรุปเรียบร้อยแล้วว่าส่วนใดต้องมีการปรับปรุง
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจได้ตั้งเป้าให้รถไฟวิ่งได้ถึง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากต้องการให้รถไฟมีความสำคัญในระบบขนส่งมากขึ้น พร้อมกันนี้ จะพัฒนาการเดินรถไฟเพื่อให้เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ไปยังประเทศเวียดนาม จากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนจากภาคเหนือ ซึ่งจะเป็นเส้นทางลงทุนที่สำคัญ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 100,000 ล้านบาท
ส่วนเรื่องรถไฟความเร็วสูงนั้น นายกรัฐมนตรีแสดงความเห็นว่า เส้นทางรถไฟจากกรุงเทพมหานครไปยังภาคตะวันออกมีความเป็นไปได้มากที่สุด ในการสร้างทางรถไฟความเร็วสูง
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
manutd_eak
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 05/10/2009
Posts: 176
Location: ธำ - หใ

PostPosted: 15/11/2009 2:05 pm    Post subject: Reply with quote

“อภิสิทธิ์” ย้ำต้องปฏิรูป ร.ฟ.ท. ดึงเอกชนร่วมลงทุนระบบรางคู่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2552 13:08 น.

นายกรัฐมนตรีระบุปัญหา ร.ฟ.ท.ต้องทบทวนเพื่อนำไปสู่การปฏิรูป เตรียมลงทุนระบบรางคู่เชื่อมโยงการเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุน พร้อมปรับปรุงระบบการบริหารจัดการของการรถไฟฯ ทั้งเรื่องระบบราง การจัดการเดินรถและทรัยพ์สิน

วันนี้ (15 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” เป็นครั้งที่ 44 ซึ่งสัปดาห์นี้เป็นเทปบันทึกภาพที่นายอภิสิทธิ์บันทึกไว้ในระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (เอเปก) ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยนายกฯ กล่าวถึงมติของ ครม.เศรษฐกิจในเรื่องของการปรับปรุงการรถไฟฯ ว่า ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นในเรื่องของความขัดแย้งระหว่างฝ่ายพนักงาน ฝ่ายบริหาร และที่สำคัญคือว่าปัญหาความปลอดภัย หรือผลกระทบที่เกิดขึ้นเวลามีการหยุดให้บริการ ซึ่งตนได้เคยบอกกับพี่น้องประชาชนว่านอกจากการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อให้รถไฟกลับมาบริการตามปกติแล้ว ประเด็นปัญหาทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับรถไฟทั้งหมด รัฐบาลจะได้ดำเนินการมาทบทวนเพื่อนำไปสู่การปฏิรูป

“คณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจจึงได้มีการประชุมในเรื่องนี้และได้มีการกำหนดแนวทางที่ชัดเจนแล้ว นั่นก็คือว่า การลงทุนที่สำคัญที่จะต้องเกิดขึ้นในส่วนของการรถไฟฯ ต่อไปนั้น เริ่มตั้งแต่การลงทุนซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นใจในเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัยทั้งหมด มีการสำรวจตรวจสอบตั้งแต่เรื่องของทาง ระบบราง อาณัติสัญญาณ ไปจนถึงหัวรถจักร สรุปมาเรียบร้อยว่าขณะนี้อุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่มีส่วนไหนบ้างที่จำเป็นจะต้องมีการปรับปรุงอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณจากปฏิบัติการไทยเข้มแข็งไปแล้ว ในส่วนที่เหลือก็มีการรวบรวมเป็นตัวเลขขึ้นมา” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า ประการที่ 2 การปรับปรุงหรือการขยายบริการที่สำคัญคือว่าเราต้องที่จะให้รถไฟมีบทบาทสำคัญมากขึ้น หรือการขนส่งระบบรางมีความสำคัญมากขึ้นในการขนส่งทั้งสินค้าและคน ปัจจุบันข้อจำกัดอย่างหนึ่งนอกเหนือจากเรื่องของปัญหาที่ได้พูดไปแล้ว ก็คือว่าความเร็วที่รถไฟของเราวิ่งอยู่ จะอยู่ที่ประมาณ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยเหตุผลในเรื่องของอุปกรณ์ ด้วยเหตุผลในเรื่องของราง และด้วยเหตุผลที่มีระบบรางเดี่ยว ทำให้มีการเสียเวลาในเรื่องของการสับหลีก ซึ่ง ครม.เศรษฐกิจได้เป้าว่านอกเหนือจากการรวบรวมตัวเลขลงทุนในเรื่องของการเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว ตั้งเป้าว่ารถไฟนั้นจะต้องสามารถวิ่งอยู่ที่ประมาณ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งหมายถึงนอกจากการปรับปรุงรางหรือเส้นทางเดิม ก็จะมีการลงทุนในเรื่องของระบบรางคู่

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นอกจากนั้นยังจะมีหลายพื้นที่ซึ่งปัจจุบันนั้นยังไม่ได้รับบริการในเรื่องของรถไฟ ยกตัวอย่างเช่น พื้นที่ทางอีสาน ซึ่งจะมีการดำเนินการเพื่อที่จะทำให้รถไฟของเราเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะฉะนั้น เส้นทางที่สำคัญก็คือ เส้นทางที่ออกไปจากบัวใหญ่ก็จะไปทางมุกดาหาร และไปถึงนครพนม เพื่อที่จะเชื่อมโยงกับทางลาวและเวียดนามต่อไป หรือเส้นทางทางเหนือที่จะต้องไปเชื่อมโยงกับจีนที่จะลงมาทางด้านเหนือของเรา จากเด่นชัยไปเชียงรายและไปที่ชายแดน ก็จะเป็นเส้นทางลงทุนที่สำคัญนอกเหนือจากการเพิ่มรางคู่ในพื้นที่ที่จะลดเวลาในเรื่องของการสับหลีก และทำให้รถไฟวิ่งได้เร็วขึ้น

“การลงทุนตรงนี้ทั้งหมดอาจจะเป็นเงินประมาณ 100,000 ล้านบาท สิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการก็คือ บางส่วนจะดำเนินการในกรอบของไทยเข้มแข็ง บางส่วนจะนำไปสู่การเจรจาระหว่างประเทศ ซึ่งผมเองได้มีการเกริ่นนำเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่นกับทางประเทศจีนที่สนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนในเรื่องนี้ และนอกจากนั้นก็จะมีโครงการความเป็นไปได้ที่จะเชิญชวนภาคเอกชนที่จะเข้ามาลงทุน ซึ่งตรงนี้จะครอบคลุมไปถึงอีกโครงการหนึ่งคือรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะได้มีการศึกษาความเหมาะสมความเป็นไปได้ของเส้นทางและการเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วม” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อไปว่า เส้นทางที่ตอนนี้ดูจะมีความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ รถไฟความเร็วสูงที่จะวิ่งจากกรุงเทพฯ ออกไปยังภาคตะวันออก ก็ไประยอง จันทบุรี และอาจจะไปถึงตราด ซึ่งทั้งหมดนี้ ครม.เศรษฐกิจได้เห็นชอบในหลักการก็จะมีการนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป แล้วในเรื่องของแหล่งเงินทุนทางกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทางกระทรวงคมนาคมก็จะไปจัดออกมาว่าตรงไหนอยู่ในไทยเข้มแข็ง ตรงไหนอยู่ในงบประมาณปกติ ตรงไหนที่จะเป็นความร่วมมือกับต่างประเทศหรือกับภาคเอกชนต่อไป

นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนที่ 2 ในเรื่องของการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการ ตรงนี้ข้อเสนอก็จะมีการกลับมา ก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรีต้องการที่จะให้มีการแยกบริษัทออกมา แต่ว่าเมื่อมีการท้วงติงและยังมีความไม่สบายใจก็จะใช้วิธีการในเรื่องของการจัดทำเป็นหน่วยธุรกิจ คือมีการแยกบัญชี แต่ทั้งหมดยังอยู่ภายใต้การรถไฟ ก็จะแบ่งเป็นในส่วนหน่วยงานที่ดูแลเรื่องราง ที่ดูแลเรื่องการเดินรถ และหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องของทรัพย์สิน ซึ่งตรงนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการที่จะปรับปรุงทั้งโครงการ ทั้งในเรื่องของระบบบุคลากรทั้งหมดของการรถไฟฯ ต่อไป แต่ว่าความจำเป็นที่จะต้องมีการแยกอาจจะเป็นเรื่องของบริษัทที่มารองรับโครงการพิเศษ เช่นกรณีของรถไฟที่เชื่อมกับทางสนามบินสุวรรณภูมิเข้ามาสู่ตัวเมืองในขณะนี้ก็จะเป็นเรื่องที่เราจะมีการดำเนินการเพื่อไปหารือกับทางการรถไฟฯ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร พนักงาน สหภาพฯ ให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด ฉะนั้นทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องของการกำหนดแนวทาง วิสัยทัศน์ สำหรับการปฏิรูปรถไฟซึ่งกำลังจะเกิดขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 18, 19, 20 ... 299, 300, 301  Next
Page 19 of 301

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©