| View previous topic :: View next topic |
| Author |
Message |
donatt76
1st Class Pass (Air)


Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 22/10/2009 4:15 pm Post subject: |
|
|
ทำไมเค้าคิดแค่ MonoRail ทำไมไม่คิดถึง LRT บ้างน้อ....LRT จุคนได้มากกว่า Mono Rail ตั้งเยอะแน่ะ....แต่สงสัยว่า
- สายที่เข้าสุวรรณภูมิ มันจะมุดเข้าไปตรงไหน?
- สายรามคำแหงน่ะ...แน่ใจแล้วเหรอ เดี๋ยวก็ออกมาเป็นป้ายประท้วงอีกเหมือนตอนจะขุดลาดพร้ามสร้างรถไฟฟ้าสานสีส้ม เพราะคนลาดพร้าวกลัวรถติดตอนขุดถนน _________________
 |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 22/10/2009 4:51 pm Post subject: |
|
|
| donatt76 wrote: | ทำไมเค้าคิดแค่ MonoRail ทำไมไม่คิดถึง LRT บ้างน้อ....LRT จุคนได้มากกว่า Mono Rail ตั้งเยอะแน่ะ....แต่สงสัยว่า
- สายที่เข้าสุวรรณภูมิ มันจะมุดเข้าไปตรงไหน?
- สายรามคำแหงน่ะ...แน่ใจแล้วเหรอ เดี๋ยวก็ออกมาเป็นป้ายประท้วงอีกเหมือนตอนจะขุดลาดพร้ามสร้างรถไฟฟ้าสานสีส้ม เพราะคนลาดพร้าวกลัวรถติดตอนขุดถนน |
ที่แคบ ไม่อยากเสียค่าเวนคืนแถวซ่อย ทองหล่อ - เอกมัย และ แถวประตูน้ำ ที่ต้องเอาดอลลาร์เขียวๆ หรือ ทองแท่ง ปูให้เต็มพิ้นที่ตามความต้องการ ถึงจะยอมขายให้ |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 26/10/2009 1:14 pm Post subject: |
|
|
สุขุมพันธุ์เล็งงบไทยเข้มแข็งผุดโมโนเรลสยาม
ข่าวสดรายวัน ปีที่ 19 ฉบับที่ 6906 วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ขณะนี้ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เห็นชอบในหลักการให้มีการดำเนินการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้ามวลชนรางเดี่ยว หรือโมโน เรลในเส้นทางสายสยาม จากสนามกีฬาแห่งชาติ-บรรทัดทอง-พระราม 4 ส่วนสถานีที่ 4 กำลังศึกษาว่าจะเป็นอังรีดูนังต์หรือพญาไทและมาจบที่เส้นพระราม 1 ระยะทาง 5 กิโลเมตร งบประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่ 3 ที่ผู้บริหารเห็นชอบ หลังจากที่เห็นชอบให้ดำเนินการก่อสร้างโมโนเรลเส้นทางจากศาลาว่าการกทม.2 ดินแดง-ยมราช ระยะทาง 8 กิโลเมตร และเส้นทางจากบางนา-สุวรรณภูมิ ระยะทาง 18 กิโลเมตร |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 02/11/2009 1:53 pm Post subject: |
|
|
คมนาคมเดินหน้าระบบ'ตั๋วร่วม'
หน้า อสังหาฯ-คมนาคม
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2,475 01 พ.ย. - 04 พ.ย. 2552
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์คมนาคมผลักดัน"ตั๋วร่วม"ระบบขนส่งมวลชนทั้งระบบ เตรียมเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาข้อสรุปก่อนชง ครม.อนุมัติให้ทันใช้งานในปี 2553 ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอสซี) บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีเอ็มซีแอล) ซึ่งบางระบบได้ทดลองเปิดใช้งานไปบ้างแล้ว เช่นรถไฟฟ้า บีทีเอส เป็นต้น แต่ติดติดเงื่อนไขหลาย ๆ ประการ ทำให้ รถไฟฟ้าใต้ดินยังไม่สามารถใช้ตั๋วร่วมกับบีทีเอสได้ทำให้ผู้โดยสารไม่สะดวก จำเป็นต้องหาข้อสรุปร่วมกัน ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาต่อไป
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาสนข. ได้ร่วมมือกับกระทรวงการคลัง และธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ว่าจ้างบริษัท ซีอีซีไอ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จากประเทศไต้หวัน เพื่อดำเนินการศึกษาและกำหนดการดำเนินการตั๋วร่วม วางแผนการดำเนินการ อัตราค่าโดยสารที่จะใช้ ให้ครอบคลุมทั้งระบบรถไฟฟ้า รถเมล์ เรือโดยสาร ซึ่งข้อมูลการศึกษามีความพร้อมแล้วจึงจะผลักดันให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมได้ทันที
ขณะที่นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) คุยข่ม สนข. ว่า กทม. ได้ลงมือทำตั๋วร่วมก่อนใครในเส้นทางบีทีเอส โดยได้เคยลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อการดำเนินงานระบบบัตรโดยสารร่วมในระยะแรก ณ กระทรวงคมนาคม ร่วมกับ ผู้แทนสนข.) ผู้แทนร.ฟ.ท. ผู้แทนรฟม.ผู้แทนบีทีเอส และ ผู้แทนบีเอ็มซีแอล ตั้งแต่สมัย พล.ร.อ. ธีระ ห้าวเจริญ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมถึงการกำหนดมาตรฐานของระบบบัตรร่วมในปัจจุบัน และอนาคต เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้สามารถใช้บัตรโดยสารเพียงใบเดียวเบื้องต้นได้นำร่องทดลองใช้ในระยะแรกกับระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสกับระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ ที่สามารถต่อเชื่อมกันได้ทันทีเช่นรถยนต์โดยสารหรือเรือโดยสาร
หลังจากนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการระบบบัตรโดยสารร่วมขึ้น ประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาว่าจะออกบัตรในรูปแบบใด ซึ่งแนวโน้มจะตั้งบริษัทร่วมทุนบริหารจัดการบัตรโดยสารร่วม ส่วนหน่วยงานภาครัฐจะสนับสนุนให้มีการจัดทำ พัฒนา อำนวยความสะดวกด้านขั้นตอนการจัดการ และกำกับดูแลการทดลองใช้ระบบบัตรโดยสารร่วม ซึ่งในส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า และรถโดยสารด่วนพิเศษ บีอาร์ที ที่กทม.กำลังดำเนินการนั้นก็อยู่ในแผนการใช้บัตรโดยสารร่วมนี้ด้วยเช่นกัน
กทม. พร้อมรองรับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆในอนาคตทั้งส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า กทม. และรถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ทีเส้นทางแรก ช่องนนทรี - ราชพฤกษ์ ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการใช้บริการและการเดินทาง เพราะพูดเรื่องตั๋วร่วมมานานแล้ว
นอกจากนี้ยังจะให้ระบบขนส่งมวลชนต่างๆ สามารถใช้ตั๋วร่วมกันได้ เช่นจะทำตั๋วร่วมระหว่างบีทีเอสและเรือคลองแสนแสบอีกด้วย
ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ สายปฏิบัติการบริษัท บีทีเอสฯ เปิดเผยถึงการใช้ตั๋วร่วมของรถไฟฟ้าบีทีเอสว่า ขณะนี้บริษัทได้เปิดดำเนินการแล้วในรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลมในส่วนต่อขยายยังไม่พบปัญหาอะไร โดยจะใช้ร่วมกันได้กับทุกระบบขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ เรือโดยสาร รวมไปถึงส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆ ในอนาคตด้วย อีกทั้งจะพัฒนาให้เป็นตั๋วโดยสารนำไปจับจ่ายสินค้าตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งแนวทางนี้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่จะให้มีตั๋วโดยสารเพียงใบเดียวสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างครอบคลุม โดยที่ผ่านมาบริษัท ได้ตั้งคณะทำงานทางด้านเทคนิค เพื่อศึกษาข้อมูลในบัตรและนำไปปรับระบบบัตรในส่วนต่อขยายสายสีลม ซึ่งทำให้การใช้บัตรโดยสารข้ามระบบ (Intreoperability) ทั้ง 2 ระบบใช้ร่วมกันได้ ส่วนระยะที่ 2 จะพัฒนาระบบตั๋วร่วม (Common Ticketing) เพื่อจัดแบ่งรายได้ค่าโดยสาร (Clearing Houses ) ซึ่งผู้โดยสารไม่ต้องเสียค่าแรกเข้าระบบ 2 ต่อ อาจทำให้ค่าโดยสารถูกลงกว่าเดิม และเมื่อระบบตั๋วโดยสารร่วมเสร็จสมบูรณ์แล้วมั่นใจว่าจะเป็นรากฐานในการขยายการใช้ตั๋วโดยสารร่วมไปยังระบบขนส่งอื่นๆ และเป็นมาตรฐานสำหรับระบบขนส่งมวลชนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้"
อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นคาดว่าระยะแรก ปี 2553 จะสามารถนำตั๋วร่วมไปเริ่มทดลองใช้กับระบบรถไฟฟ้าของบีทีเอสกับขนส่งมวลชนอื่น ๆ จากนั้นระยะที่ 2 จะสามารถขยายระบบไปใช้กับรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที ระยะที่ 3 จะครอบคลุมรถเมล์ เรือโดยสาร และรถไฟฟ้าสายใหม่อีกด้วย
__________________ |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 09/11/2009 8:16 am Post subject: |
|
|
ผุดโมโนเรลสายแรกในไทย
เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 09 พฤศจิกายน 2552 เวลา 7:42 น
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้สรุปผลการศึกษาโครงการรถไฟฟ้ามวลชนรางเดี่ยว (Mono Rail) นำเสนอตนอย่างเป็นทางการแล้ว มี 3 สายทางที่เหมาะสมที่สุดได้แก่
1.จากแยกบางนา-สนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทาง 18 กม. งบ 18,000-20,000 ล้านบาทตก กม.ละ 1,000 ล้านบาท เชื่อมรถไฟฟ้า ขนาดหนักของบีทีเอสจากแยกบางนา ใช้แนวเส้นทางถนนบางนา-ตราด วิ่งคู่ขนานกับทางด่วนบางนา-ชลบุรี เลี้ยวเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ รองรับการเดินทางของประชาชนจาก จังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพฯด้านตะวันออกเข้าสนามบิน
2.จากศาลาว่าการกทม. 2-ยมราช 15 กม. งบ 19,500 ล้านบาท แนวเส้นทางจากศาลาว่าการกทม. 2 เข้าดินแดง แนวรถไฟฟ้าจะอยู่เหนือโครงการโทลล์เวย์ วกเข้าถนนราชปรารภ เข้าเพชรบุรีและสิ้นสุดที่แยกยมราช รองรับการย้ายศาลาว่าการกทม. 1 ไปรวมที่อาคารใหม่ศาลาว่าการกทม. 2 อีกทั้งตลอดสายทางเชื่อมรถไฟฟ้าใต้ดินที่บริเวณอโศกและเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสที่เพชรบุรี และ
3.เส้นทางสายสยาม จำนวน 5 สถานี เริ่มจากสนามกีฬาแห่งชาติ-บรรทัดทอง-พระราม 4-พญาไท หรืออังรีดูนังต์ สุดที่พระราม 1 ระยะทาง 5 กม.วงเงิน 5,000 ล้านบาท
จากนี้ไปจะเร่งสจส. ศึกษารายละเอียดด้านผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ใช้เวลา 8 เดือนและนำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมเห็นชอบ ใช้เวลาราว 1 ปี เหลืออีก 2 ปีเร่งก่อสร้างก่อนในสายที่ 1 และสายที่ 3 คาดว่าจะเป็นรูปเป็นร่างก่อนที่ผู้บริหารชุดนี้จะหมดวาระ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า นอกจากจะเร่งรัดส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าขนาดหนักสายสีเขียวอ่อนนุช-แบริ่งจากตากสิน-เพชรเกษม กทม.ให้แล้วเสร็จเปิดบริการภายในปี 2554 ส่วนจากหมอชิต-สะพานใหม่ และแบริ่ง-สำโรงต้องรอความชัดเจนจากครม.ว่าจะคืนให้กทม.ก่อสร้างหรือไม่แล้ว ตนมีนโยบายจะสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลสายแรกในกรุงเทพฯให้ได้ก่อนหมดสมัยเพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน เพราะประเทศไทยยังไม่มีรถไฟฟ้าโมโนเรล โดยนอกจากจะของบไทยเข้มแข็งจากรัฐบาลให้ช่วยสนับสนุนแล้ว หากได้น้อยหรือไม่ได้ตนจะออกพันธบัตรมาก่อสร้างเพื่อให้ประชาชนช่วยสนับสนุน คาดว่าไม่มีปัญหาติดขัดเรื่องมติครม.เพราะยังไม่มีหน่วยงานไหนคิดก่อสร้างเหมือนกทม. อีกทั้งเป็นเสาเดี่ยวก่อสร้างได้รวดเร็วกว่าแม้ความจุน้อยกว่ารถไฟฟ้าขนาดหนักแต่เดินทางได้รวดเร็วเหมือนกัน. |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 09/11/2009 11:34 pm Post subject: |
|
|
สภาฯห่วง กทม. ดึงงบไทยเข้มแข็งสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2552 18:19
นายสุธา นิติภานนท์ ส.ก. เขตภาษีเจริญ ฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญศึกษาการจัดการขนส่งมวลชนด้วยระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว Monorail ตามแนวคลองแสนแสบและถนนที่เป็นแหล่งธุรกิจที่มีประชาชนหนาแน่น ประชุมเพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการขนส่งมวลชนด้วยระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว โดยมีตัวแทนจากสำนักจราจรและขนส่ง สำนักสิ่งแวดล้อม และที่ปรึกษาโครงการร่วมให้ข้อมูลประกอบการพิจารณา ณ ห้องประชุม 6 สภากทม.
ที่ประชุมคณะกรรมการตั้งข้อสังเกตว่า การใช้งบประมาณในการดำเนินงานการก่อสร้าง ผู้บริหารควรคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจต่อการใช้จ่ายงบประมาณในปัจจุบัน ทั้งจะต้องศึกษาในรูปแบบการลงทุนว่าคุ้มหรือไม่ ทั้งในส่วนแนวทางของผู้บริหารที่หวังจะนำงบประมาณจากโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลเพื่อมาสนับสนุนโครงการดังกล่าว ควรศึกษาให้รอบคอบเพราะการก่อสร้างจำเป็นที่จะต้องใช้งบผูกพันในการดำเนินงาน อีกทั้งวัตถุประสงค์ในโครงการไทยเข้มแข็งก็เพื่อจะนำเงินงบประมาณมากระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
รวมถึงกรณีหากก่อสร้างแบบร่วมทุนกับเอกชน กทม.ควรจะต้องนำบทเรียนจากการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้า BTS ถึงปัญหาและอุปสรรคในการก่อสร้างมาเป็นบทเรียน ผู้บริหารควรคำนึงถึงการก่อสร้างและดูแลในส่วนโครงสร้างหลัก โดยให้บริษัทเอกชนดูแลในระบบต่างๆแทน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสูญเสียงบประมาณเป็นต้น ทั้งในส่วนของกายภาพในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในระหว่างดำเนินงาน ทั้งนี้ผู้บริหารควรต้องศึกษาในรายละเอียดและรูปแบบการลงทุน โดยจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ที่กรุงเทพมหานครได้ในระยะยาว
นายสุธา กล่าวว่า หากอนาคต กทม.มีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว Monorail ในพื้นที่ฝั่งธนบุรีที่มีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ควรก่อสร้างแนวเส้นทางให้มีรูปแบบวงกลมเชื่อมต่อกัน เพื่อให้บริการประชาชนในพื้นที่ได้อย่างดี ซึ่งจะครอบคลุมและทั่วถึง แทนการก่อสร้างแบบทางเดี่ยวไป-กลับ |
|
| Back to top |
|
 |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 49413
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 11/11/2009 3:11 pm Post subject: |
|
|
แก้ไข ตามคำแนะนำครับ
VVV
Last edited by Mongwin on 11/11/2009 3:55 pm; edited 1 time in total |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 11/11/2009 3:44 pm Post subject: |
|
|
^^^
ลงในข่าวรถไฟจะดีกว่าครับ และ เมื่อกี้นี้ผมเพิ่งลงข่าวการประชุมครม ที่เลือกทางรถไฟสายไปจันทบุรีแล้วหละ  |
|
| Back to top |
|
 |
manutd_eak
3rd Class Pass


Joined: 05/10/2009 Posts: 176
Location: ธำ - หใ
|
Posted: 15/11/2009 12:37 pm Post subject: |
|
|
ข่าวนี้ไม่รู้ผมลงถูกกระทู้หรือไม่ ยังไงก็บอกผมได้น่ะครับ
แต่เป็นข่าวเกียวกับการพัฒนารถไฟในอนาคตครับ
นายกฯย้ำพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงเพื่อนบ้านวงเงินแสนล้านบาท
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2552 11:03 น.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มีการกำหนดแนวทางชัดเจนในเรื่องการปฏิรูปการรถไฟแห่งประเทศไทย คือจะมีการลงทุนในการพัฒนาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งได้มีการสรุปเรียบร้อยแล้วว่าส่วนใดต้องมีการปรับปรุง
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจได้ตั้งเป้าให้รถไฟวิ่งได้ถึง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากต้องการให้รถไฟมีความสำคัญในระบบขนส่งมากขึ้น พร้อมกันนี้ จะพัฒนาการเดินรถไฟเพื่อให้เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ไปยังประเทศเวียดนาม จากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนจากภาคเหนือ ซึ่งจะเป็นเส้นทางลงทุนที่สำคัญ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 100,000 ล้านบาท
ส่วนเรื่องรถไฟความเร็วสูงนั้น นายกรัฐมนตรีแสดงความเห็นว่า เส้นทางรถไฟจากกรุงเทพมหานครไปยังภาคตะวันออกมีความเป็นไปได้มากที่สุด ในการสร้างทางรถไฟความเร็วสูง |
|
| Back to top |
|
 |
manutd_eak
3rd Class Pass


Joined: 05/10/2009 Posts: 176
Location: ธำ - หใ
|
Posted: 15/11/2009 2:05 pm Post subject: |
|
|
อภิสิทธิ์ ย้ำต้องปฏิรูป ร.ฟ.ท. ดึงเอกชนร่วมลงทุนระบบรางคู่
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2552 13:08 น.
นายกรัฐมนตรีระบุปัญหา ร.ฟ.ท.ต้องทบทวนเพื่อนำไปสู่การปฏิรูป เตรียมลงทุนระบบรางคู่เชื่อมโยงการเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุน พร้อมปรับปรุงระบบการบริหารจัดการของการรถไฟฯ ทั้งเรื่องระบบราง การจัดการเดินรถและทรัยพ์สิน
วันนี้ (15 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ เป็นครั้งที่ 44 ซึ่งสัปดาห์นี้เป็นเทปบันทึกภาพที่นายอภิสิทธิ์บันทึกไว้ในระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (เอเปก) ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยนายกฯ กล่าวถึงมติของ ครม.เศรษฐกิจในเรื่องของการปรับปรุงการรถไฟฯ ว่า ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นในเรื่องของความขัดแย้งระหว่างฝ่ายพนักงาน ฝ่ายบริหาร และที่สำคัญคือว่าปัญหาความปลอดภัย หรือผลกระทบที่เกิดขึ้นเวลามีการหยุดให้บริการ ซึ่งตนได้เคยบอกกับพี่น้องประชาชนว่านอกจากการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อให้รถไฟกลับมาบริการตามปกติแล้ว ประเด็นปัญหาทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับรถไฟทั้งหมด รัฐบาลจะได้ดำเนินการมาทบทวนเพื่อนำไปสู่การปฏิรูป
คณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจจึงได้มีการประชุมในเรื่องนี้และได้มีการกำหนดแนวทางที่ชัดเจนแล้ว นั่นก็คือว่า การลงทุนที่สำคัญที่จะต้องเกิดขึ้นในส่วนของการรถไฟฯ ต่อไปนั้น เริ่มตั้งแต่การลงทุนซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นใจในเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัยทั้งหมด มีการสำรวจตรวจสอบตั้งแต่เรื่องของทาง ระบบราง อาณัติสัญญาณ ไปจนถึงหัวรถจักร สรุปมาเรียบร้อยว่าขณะนี้อุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่มีส่วนไหนบ้างที่จำเป็นจะต้องมีการปรับปรุงอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณจากปฏิบัติการไทยเข้มแข็งไปแล้ว ในส่วนที่เหลือก็มีการรวบรวมเป็นตัวเลขขึ้นมา นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ประการที่ 2 การปรับปรุงหรือการขยายบริการที่สำคัญคือว่าเราต้องที่จะให้รถไฟมีบทบาทสำคัญมากขึ้น หรือการขนส่งระบบรางมีความสำคัญมากขึ้นในการขนส่งทั้งสินค้าและคน ปัจจุบันข้อจำกัดอย่างหนึ่งนอกเหนือจากเรื่องของปัญหาที่ได้พูดไปแล้ว ก็คือว่าความเร็วที่รถไฟของเราวิ่งอยู่ จะอยู่ที่ประมาณ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยเหตุผลในเรื่องของอุปกรณ์ ด้วยเหตุผลในเรื่องของราง และด้วยเหตุผลที่มีระบบรางเดี่ยว ทำให้มีการเสียเวลาในเรื่องของการสับหลีก ซึ่ง ครม.เศรษฐกิจได้เป้าว่านอกเหนือจากการรวบรวมตัวเลขลงทุนในเรื่องของการเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว ตั้งเป้าว่ารถไฟนั้นจะต้องสามารถวิ่งอยู่ที่ประมาณ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งหมายถึงนอกจากการปรับปรุงรางหรือเส้นทางเดิม ก็จะมีการลงทุนในเรื่องของระบบรางคู่
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นอกจากนั้นยังจะมีหลายพื้นที่ซึ่งปัจจุบันนั้นยังไม่ได้รับบริการในเรื่องของรถไฟ ยกตัวอย่างเช่น พื้นที่ทางอีสาน ซึ่งจะมีการดำเนินการเพื่อที่จะทำให้รถไฟของเราเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะฉะนั้น เส้นทางที่สำคัญก็คือ เส้นทางที่ออกไปจากบัวใหญ่ก็จะไปทางมุกดาหาร และไปถึงนครพนม เพื่อที่จะเชื่อมโยงกับทางลาวและเวียดนามต่อไป หรือเส้นทางทางเหนือที่จะต้องไปเชื่อมโยงกับจีนที่จะลงมาทางด้านเหนือของเรา จากเด่นชัยไปเชียงรายและไปที่ชายแดน ก็จะเป็นเส้นทางลงทุนที่สำคัญนอกเหนือจากการเพิ่มรางคู่ในพื้นที่ที่จะลดเวลาในเรื่องของการสับหลีก และทำให้รถไฟวิ่งได้เร็วขึ้น
การลงทุนตรงนี้ทั้งหมดอาจจะเป็นเงินประมาณ 100,000 ล้านบาท สิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการก็คือ บางส่วนจะดำเนินการในกรอบของไทยเข้มแข็ง บางส่วนจะนำไปสู่การเจรจาระหว่างประเทศ ซึ่งผมเองได้มีการเกริ่นนำเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่นกับทางประเทศจีนที่สนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนในเรื่องนี้ และนอกจากนั้นก็จะมีโครงการความเป็นไปได้ที่จะเชิญชวนภาคเอกชนที่จะเข้ามาลงทุน ซึ่งตรงนี้จะครอบคลุมไปถึงอีกโครงการหนึ่งคือรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะได้มีการศึกษาความเหมาะสมความเป็นไปได้ของเส้นทางและการเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วม นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า เส้นทางที่ตอนนี้ดูจะมีความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ รถไฟความเร็วสูงที่จะวิ่งจากกรุงเทพฯ ออกไปยังภาคตะวันออก ก็ไประยอง จันทบุรี และอาจจะไปถึงตราด ซึ่งทั้งหมดนี้ ครม.เศรษฐกิจได้เห็นชอบในหลักการก็จะมีการนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป แล้วในเรื่องของแหล่งเงินทุนทางกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทางกระทรวงคมนาคมก็จะไปจัดออกมาว่าตรงไหนอยู่ในไทยเข้มแข็ง ตรงไหนอยู่ในงบประมาณปกติ ตรงไหนที่จะเป็นความร่วมมือกับต่างประเทศหรือกับภาคเอกชนต่อไป
นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนที่ 2 ในเรื่องของการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการ ตรงนี้ข้อเสนอก็จะมีการกลับมา ก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรีต้องการที่จะให้มีการแยกบริษัทออกมา แต่ว่าเมื่อมีการท้วงติงและยังมีความไม่สบายใจก็จะใช้วิธีการในเรื่องของการจัดทำเป็นหน่วยธุรกิจ คือมีการแยกบัญชี แต่ทั้งหมดยังอยู่ภายใต้การรถไฟ ก็จะแบ่งเป็นในส่วนหน่วยงานที่ดูแลเรื่องราง ที่ดูแลเรื่องการเดินรถ และหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องของทรัพย์สิน ซึ่งตรงนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการที่จะปรับปรุงทั้งโครงการ ทั้งในเรื่องของระบบบุคลากรทั้งหมดของการรถไฟฯ ต่อไป แต่ว่าความจำเป็นที่จะต้องมีการแยกอาจจะเป็นเรื่องของบริษัทที่มารองรับโครงการพิเศษ เช่นกรณีของรถไฟที่เชื่อมกับทางสนามบินสุวรรณภูมิเข้ามาสู่ตัวเมืองในขณะนี้ก็จะเป็นเรื่องที่เราจะมีการดำเนินการเพื่อไปหารือกับทางการรถไฟฯ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร พนักงาน สหภาพฯ ให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด ฉะนั้นทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องของการกำหนดแนวทาง วิสัยทัศน์ สำหรับการปฏิรูปรถไฟซึ่งกำลังจะเกิดขึ้น |
|
| Back to top |
|
 |
|