RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312063
ทั่วไป:13660382
ทั้งหมด:13972445
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 65, 66, 67 ... 489, 490, 491  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 06/11/2009 2:23 am    Post subject: รายละเอีียดเพิ่มเติม ว่าด้วยแผนการพัฒนาโครงสร้าง ร.ฟ.ท. Reply with quote

เปิดแผน ‘โสภณ’ ชง ‘อภิสิทธิ์’ ทุ่มแสนล้าน ผ่าตัด รฟท.ขนานใหญ่
Written by Administrator
Transport Journal Saturday, 31 October 2009 03:50

แผนการ พัฒนาโครงสร้าง ร.ฟ.ท. จึงได้กำหนดกรอบการพัฒนาความปลอดภัยระยะเร่งด่วน ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2553-2557 วงเงิน 42,000 ล้านบาท ซึ่งแผนดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องทำให้รางทั่วประเทศ ระยะทาง 4,440 กิโลเมตร แข็งแรง เพื่อทำให้รถไฟสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากที่ปัจจุบันรถไฟสามารถวิ่งด้วยความเร็วเพียง 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดย

1. การเปลี่ยนไม้หมอนคอนกรีตทั่วประเทศ 1,250 กิโลเมตร
2. เปลี่ยนรางและประแจให้เป็นขนาด 100 ปอนด์ รับน้ำหนักได้ 20 ตัน/เพลา ระยะทาง 2,570 กิโลเมตร
3. ปรับปรุงสภาพทางและสะพานทั่วประเทศ 1,321 แห่ง
4. ปรับปรุงอาณัติ สัญญาณไฟสีทั่วประเทศ ระยะทาง 2,100 กิโลเมตร
5. ปรับปรุงจุดตัดต่างระดับให้กรมทางหลวง และกรมทาง หลวงชนบท ดำเนินการ เพื่อให้บริการทั้งการโดยสารและสินค้า ครอบคลุมพื้นที่ 47 จังหวัด บนระยะทางให้บริการรวม 4,440 กิโลเมตร

แผนก่อสร้างรถไฟทางคู่ รวมระยะทางทั้งหมด 3,039 กิโลเมตร งบก่อสร้างรวม 342,410 ล้านบาท แบ่งออกตามระยะเวลา 3 ปี 6 ปี 9 ปี 12 ปี ตามลำดับ ได้แก่

1. ระยะเร่งด่วนปี พ.ศ. 2553-2555 (3 ปี) ระยะทาง 762 กิโลเมตร งบก่อสร้าง 66,110 ล้านบาทประกอบด้วย
1.1 ลพบุรี-นครสวรรค์
1.2 มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ
1.3 ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น
1.4 นครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน
1.5 ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร

2. ส่วนทางคู่ระยะที่ 2 ปี พ.ศ. 2556-2558 ระยะทาง 549 กิโลเมตร งบก่อสร้าง 64,300 ล้านบาท ประกอบด้วย
2.1 แก่งคอย-บัวใหญ่
2.2 นครสวรรค์-ตะพานหิน
2.3 หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์
2.4 ชุมพร-สุราษฎร์ธานี

3. ทางคู่ระยะที่ 3 ปี พ.ศ. 2559-2561 ระยะทาง 1,323 กิโลเมตร งบก่อสร้าง 162,600 ล้านบาท ประกอบด้วย
3.1 ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี
3.2 ขอนแก่น-หนองคาย
3.3 ตะพานหิน-เชียงใหม่
3.4 สุราษฎร์ธานี-ปาดังเบซาร์
3.5 คลองสิบเก้า-กบินทร์บุรี และ

4. ทางคู่ระยะที่ 4 ปี พ.ศ. 2562-2564 ระยะทาง 405 กิโลเมตร งบก่อสร้าง 49,400 ล้านบาท ประกอบด้วย
4.1 หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก
4.2 ทุ่งสง-กันตัง
4.3 กบินทร์บุรี-อรัญประเทศ

นอกจากนี้ จะมีการต่อขยายโครงข่ายเส้นทางรถไฟด้วย ประกอบด้วย

1. เส้นทางเด่นชัย-เชียงราย เพื่อให้โครงข่ายรถไฟทะลุจนถึงชายแดน เชื่อมต่อไปยังประเทศจีนตอนล่างได้
2. อีกเส้นทางคือ สายบัวใหญ่-ร้อยเอ็ด ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังประเทศลาว ที่สะพานข้ามแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม

นอกจากนี้ จะต้องพัฒนาหัวจักรรถไฟ จำนวน 209 หัว ซึ่งบางยี่ห้อใช้งานมากกว่า 40 ปี แล้วจะต้องเลิกใช้งานให้เหลือไว้เพียงที่ใช้งานมา 15 ปีเท่านั้น
สำหรับหัวรถจักรจำนวน 209 หัว แบ่งเป็นยี่ห้อ GEA จำนวน 38 หัว อายุการใช้งาน 12 ปี ยี่ห้อ HITACHI จำนวน 22 หัว อายุใช้งาน 15 ปี ซึ่งรุ่นนี้ใช้งานได้แต่ต้องดูแลก่อนที่จะออกวิ่งขณะที่ยี่ห้อ ALSTOM จำนวน 104 หัว อายุการใช้งาน 33 ปี ยี่ห้อ GE จำนวน 48 หัว อายุการใช้งาน 42-44 ปี ซึ่งยี่ห้อนี้ควรจะเป็นรุ่นที่ถูกยกเลิกการใช้แม้ว่ายังสามารถใช้ได้ก็ตาม (เอ ... ไม่ดีนาท่าน)

กลุ่มกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ซึ่งจะต้องมีการรื้อกฎหมายขนานใหญ่ เพราะบางฉบับไม่เอื้อต่อการบริหาร และบางฉบับก็ไม่เอื้อต่อระบบการทำงาน ทำให้ขาดประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน

กลุ่มบริหารจัดการทรัพย์สิน ซึ่ง ร.ฟ.ท. ต้องพัฒนาที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะมีที่ดินหลายแปลงอยู่ในทำเลทอง และสามารถพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้ทันที เช่น พื้นที่เขตมักกะสัน ย่านพหลโยธิน และอีกหลายๆ ที่ที่อยู่ในเขตรางรถไฟเพื่อเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า สองข้างทางรถไฟ เพื่อทำรางคู่ในอนาคต เพื่อความทันสมัยและสามารถใช้งานได้มากขึ้น

ปัจจุบันที่ดินของการรถไฟมีทั้งสิ้น 234,976 ไร่ ประกอบด้วย ที่ดินที่ใช้เพื่อการเดินรถ 84% และที่ดินทำประโยชน์ด้านการพาณิชย์ 15.4% ซึ่งก่อให้เกิดรายได้จากการบริหารทรัพย์สินประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้ ร.ฟ.ท. ได้เสนอโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งของกระทรวงคมนาคม ปี 2553-2555 ด้านโครงการพัฒนาการขนส่งทางราง จำนวน 17 โครงการ วงเงิน 40,447 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการที่สำคัญ ได้แก่
1. โครงการจัดการโบกี้บรรทุกตู้สินค้า 308 คัน
2. โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ จำนวน 7 คัน

ถ้าหากรวมแผนฟื้นฟูครั้งนี้จะทำให้ ร.ฟ.ท. มีความเข้มแข็งทั้งโครงสร้าง บุคลากร และรายได้
Back to top
View user's profile Send private message
RORONOA
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 06/12/2007
Posts: 705

PostPosted: 06/11/2009 8:07 am    Post subject: Reply with quote

รถจักรถ้าเอาเกณฑ์ท่านรมต.ที่ว่าใช้งานไม่เกิน 15 ปีมันจะเหลือรุ่นไหนใช้ได้ล่ะครับ เห็นท่านเข้าใจเรื่องปรับปรุงราง 1 เมตรก่อนทำราง 1.435 เมตรดีแล้ว นี่ยังต้องมานั่งชี้แจงเรื่องอายุการใช้งานรถจักรให้ท่านฟังอีกหรือครับ ญี่ปุ่นที่เปลี่ยนรุ่นเป็นว่าเล่นยังใช้เป็น 30 ปีเลย แล้วบ้านเราผลิตรถก็ไม่ได้(ทั้งที่ความสามารถมี) จะดีหรือครับถ้าทำเช่นนั้น
เรื่องรางนี่ผมว่าตกประเด็นเรื่องทางสายท่านุ่น ทางคู่ถึงมาบตาพุดไปหรือเปล่าครับ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 06/11/2009 9:11 am    Post subject: Reply with quote

RORONOA wrote:
รถจักรถ้าเอาเกณฑ์ท่านรมต.ที่ว่าใช้งานไม่เกิน 15 ปีมันจะเหลือรุ่นไหนใช้ได้ล่ะครับ เห็นท่านเข้าใจเรื่องปรับปรุงราง 1 เมตรก่อนทำราง 1.435 เมตรดีแล้ว นี่ยังต้องมานั่งชี้แจงเรื่องอายุการใช้งานรถจักรให้ท่านฟังอีกหรือครับ ญี่ปุ่นที่เปลี่ยนรุ่นเป็นว่าเล่นยังใช้เป็น 30 ปีเลย แล้วบ้านเราผลิตรถก็ไม่ได้(ทั้งที่ความสามารถมี) จะดีหรือครับถ้าทำเช่นนั้น
เรื่องรางนี่ผมว่าตกประเด็นเรื่องทางสายท่านุ่น ทางคู่ถึงมาบตาพุดไปหรือเปล่าครับ


สาย สุราษฎร์ธานี - ท่านุ่น นั้น ถ้ากู้จีนแดงหรือญี่ปุ่นได้ก็ดี
ส่วนทางคู่ ศรีราชา - มาบตาพุด คงได้สร้าง ถ้าความต้องการมีถึง โดยเฉพาะถ้าเริ่มมีการเปิดการเดินรถโดยสาร
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47367
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/11/2009 7:06 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟสายใต้ขัดข้อง 2 ขบวน

สงขลา 9 พ.ย. 52- ขบวนรถไฟสายใต้เกิดขัดข้องระหว่างวิ่งรับส่งผู้โดยสาร 2 ขบวน ทำให้การเดินทางของผู้โดยสารต้องล่าช้ากว่า 5 ชั่วโมง

ขบวนแรกเป็นรถไฟด่วนพิเศษ 38 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ กระปุกเฟืองเกียร์ของหัวรถจักรหลุดไปขัดกับล้อรถจักร ทำให้ต้องจอดกะทันหันขณะวิ่งมาถึง ต.ป่าชิง อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างสถานีจะนะกับสถานีวัดควนมีด เจ้าหน้าที่ช่างของแขวงรถจักรหาดใหญ่ ได้ทำการแก้ไขนานกว่า 5 ชั่วโมง จึงกลับมาเดินรถได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารกว่า 200 คน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นนักเรียนและครูโรงเรียนทวีรัตน์ ที่จะเดินทางไปเข้าค่ายที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต้องติดอยู่ที่สถานีหาดใหญ่นานกว่า 5 ชั่วโมง

อีกขบวนเป็นรถไฟท้องถิ่นขบวนที่ 447 สุราษฎร์ธานี-สุไหงโก-ลก เครื่องยนต์เกิดมีปัญหา ทำให้ต้องจอดซ่อมที่สถานีทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ผู้โดยสารนับ 100 คน จึงต้องเปลี่ยนไปเดินทางด้วยรถโดยสาร. -สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-11-09 00:07:27


Last edited by Mongwin on 09/11/2009 9:15 am; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 09/11/2009 8:08 am    Post subject: Reply with quote

^^^
ขบวน 447 มากกว่านะครับ แก้ด้วยครับ Sad
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 10/11/2009 5:21 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคม ชงพัฒนารฟท.เข้าครม.ศก.พรุ่งนี้
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 15:24


นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ (11พ.ย.) จะยื่นแผนพัฒนาการรถไฟแห่งประเทศไทยในที่ประชุมครม. เศรษฐกิจ โดยจะมีการปรับโครงสร้างองค์กร ตั้ง 3 หน่วยธุรกิจ ประกอบไปด้วย

1. ฝ่ายเดินรถ
2. ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน
3. ฝ่ายซ่อมบำรุง และ

หนึ่งบริษัทลูกเดินรถ Airport Link (ขอจากสหภาพแล้ว ไม่มีปัญหา)

รวมทั้งแผนการดำเนินงาน 3 ระยะ

ส่วนภาระหนี้เดิม 70,000 ล้านบาทนั้น ก็ให้รัฐบาลรับไปปลดหนี้ ซึ่งหากผ่าน ครม. เศรษฐกิจ ก็จะนำเข้าที่ประชุม ครม. ต่อไป ซึ่งมั่นใจว่าแผนดังกล่าวสหภาพรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทยจะไม่คัดค้าน เพราะถือว่าการรถไฟมีการยอมรับเงื่อนไขบางข้อของสหภาพมาดำเนินการ

ด้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในแผนเร่งด่วนของการรถไฟ อาทิ การเปลี่ยนไม้หมอน ราง ระบบ อาณัติสัญญาณจุดตัด การซ่อมหัวรถจักร และการทดแทนหัวรถจักร ซึ่งจะใช้วงเงินประมาน 40,000-60,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี ส่วนแผน 20 ปีนั้นวงเงินกว่า 1 ล้านล้านบาท

//----------------------------------------------------

รฟท. ผ่าตัดได้แล้ว!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤศจิกายน 2552 17:22 น.

ปัญหาสารพัดสารพันรุมเร้าชาติบ้านเมืองโถมถาไม่เว้นแต่ละสัปดาห์ โดยเฉพาะจากนอกประเทศ ใครทำอะไรที่ไหน เราคงรู้อยู่แก่ใจ แต่คราวนี้มาว่ากันถึง สภาพปัญหาของ “การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)” ที่เกิดการ “ประท้วง” ของ บรรดาพนักงานและสหภาพการรถไฟ ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่าน มิใช่เกิดเพียงครั้งแรก แต่เกิดมาหลายครั้งแล้ว แทบปีละ 2-3 ครั้งก็ว่าได้

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นปัญหาที่ค่อนข้างรุนแรงมากกว่าทุกครั้ง เนื่องด้วยเป็นการปิดการเดินทางเส้นทางเดียว ซึ่งเป็น “สายหลักสายเดียว” สำหรับ “ระบบการขนส่งคน-สินค้า” จากกรุงเทพมหานครถึงชุมทางหาดใหญ่ที่ภาคใต้ และกระจายสู่เส้นทางท้องถิ่น โดยเฉพาะสู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

ปัญหาสำคัญของเส้นทางรถไฟสายใต้นี้ ก่อให้เกิด “อัมพาต” ของ เส้นทางระบบรางที่มีเพียงสายเดียว จนสร้างความเสียหายเฉพาะค่าเงินประมาณเกือบจะ 50-60 ล้านบาท แต่ถ้าประมวลสิริรวมค่าเสียหายทั้งด้านสินค้าและมูลค่าเสียโอกาสของประชาชน น่าจะประมาณนับร้อยล้านบาททีเดียว!

รถไฟที่ตกรางอย่างถี่ยิบไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้ง ในช่วงระยะเวลาเพียง 2-3 สัปดาห์เท่านั้น คงจะส่งผลสะท้อนว่า “หัวรถจักร-รางรถไฟ-ขบวนรถไฟ” น่าจะถึงเวลาที่ต้องรื้อทิ้ง และ/หรือยกเลิกได้แล้ว พูดง่ายๆ ก็หมายความว่า “อายุงาน” ของอุปกรณ์หลักๆ ครบวงจรของรถไฟไทยได้ “หมดสภาพ” ไปแล้ว!

หรือไม่ก็เป็น “ขบวนการเจาะยาง” หรือ “อ้างเหตุ” ในการที่ต้อง “ผ่าตัด” ระบบรถไฟไทยทั้งหมด ด้วยการสร้างเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นมา จนในที่สุด “การประท้วง” จึงเกิดขึ้นจากทั้งพนักงานและกลุ่มสหภาพการรถไฟ

อย่างไรก็ตาม จากสภาพเหตุการณ์ของปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น “น่าเชื่อว่า” เกิดจาก 3 ปัจจัยสำคัญ กล่าวคือ หนึ่ง สภาพหัวรถจักร ตลอดจนตัวขบวนรถไฟและรางถึงสภาพแล้วที่ต้องมีการ “ผ่าตัด-ปฏิรูป-รื้อ” ทั้งระบบ สอง ระบบรถไฟของไทยเราต้องยอมรับว่า “ล้าสมัย-หมดสภาพ” ที่ไม่ได้ปรับปรุงมาตลอดเกือบ 100 กว่าปี และสาม “เกมการเมือง” ของพรรคการเมืองที่จ้องแสวงหาผลประโยชน์จากการสร้างสถานการณ์ว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องกำหนดโครงการระบบรถไฟไทยใหม่หมดแบบครบวงจร ซึ่งน่าจะมีเม็ดเงินมูลค่านับแสนล้านบาททีเดียว ใน “การยกเครื่อง” ทั้งระบบทั่วประเทศ

เพียงแต่ว่า จากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นของการวิเคราะห์ 3 ปัจจัยหลักข้างต้นนั้น ได้ก่อให้เกิดปัญหาส่งผลกระทบตรงต่อ “ประชาชน” ที่เปรียบเสมือนเป็น “ตัวประกัน” สร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่ประชาชนที่ต้องเดินทางสัญจรไปมา และแน่นอนที่สุดคือ “สินค้า” ที่ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจและธุรกิจทางภาคใต้

ทั้งนี้ “การประท้วงหยุดเดินรถไฟ” ก็ ได้ยุติไปเรียบร้อย สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ แต่น่าจะยังมีแรงกระเพื่อมอยู่บ้างเล็กน้อย กรณีการไล่ออกของกลุ่มแกนนำสหภาพฯ และพนักงานจำนวน 10 กว่าคน แต่น่าเชื่อว่า สถานการณ์จะค่อยๆ คลี่คลายไปในทางที่เจรจากันได้ แต่คงไม่สำคัญเท่ากับ “ผู้ว่าฯ รถไฟ” คุณยุทธนา ทัพเจริญ และโดยเฉพาะรัฐมนตรีฯ คมนาคม โสภณ ซารัมย์ ยังคงเหนียวแน่นกับเก้าอี้ต่อไป!

ตามประวัติความเป็นมาของกิจการรถไฟไทย เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2429 ที่ทางการไทยเราได้ให้สัมปทานแก่บริษัทชาวเดนมาร์กสร้างรถไฟสายแรก จากกรุงเทพฯ ถึงจังหวัดสมุทรปราการ ระยะทาง 21 กิโลเมตร ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2433 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทางโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งกรมรถไฟขึ้น สังกัดกระทรวงโยธาธิการ

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2439 พระองค์เสด็จฯ ประกอบพระราชพิธีเปิดการเดินรถไฟระหว่างกรุงเทพมหานครถึงอยุธยา ระยะทาง 71 กิโลเมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็น “วันสถาปนากิจการรถไฟหลวง”

ปัจจุบันประเทศไทยเรามีเส้นทางรถไฟสำคัญอยู่ด้วยกันทั้งสิ้นรวม 4 สาย คือ “สายเหนือ” ถึงจังหวัดเชียงใหม่และสุโขทัย “สายใต้” ถึงประเทศมาเลเซีย “สายตะวันออก” ถึงจังหวัดสระแก้ว และ “สายตะวันออกเฉียงเหนือ” ถึงประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและอุบลราชธานี รวมเส้นทางระยะทาง 3,855 กิโลเมตร

ต่อมาได้มีการขยายเส้นทางเพิ่มมากขึ้น กระจัดกระจายตามภูมิภาคต่างๆ รวมระยะทางปัจจุบันนี้ 4,346 กิโลเมตรทั่วประเทศ และขอย้ำอีกครั้งว่า “รัชกาลที่ 5” ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่ก่อสร้างและสถาปนารถไฟไทย

ระยะเวลาผ่านไป 113 ปี รถไฟไทยมิได้มีการปฏิรูปมากมายใดๆ เลย จะมีก็เพียงแต่เปลี่ยนไม้หมอนรถไฟจากไม้เป็นแท่งคอนกรีต ส่วนหัวรถจักรและขบวนรถไฟ ตลอดจนรางมีทั้งเก่าและใหม่ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเก่าเสียมากกว่า ตัวหัวรถจักรเก่าๆ ที่ยังใช้กันมายาวนานนับ 100 ปี น่าจะมี
ประมาณ 200 กว่าหัวรถจักร

พูดภาษาชาวบ้านว่า ทั้ง “โครงสร้าง-ระบบราง” และ “เส้นทาง” ไม่ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย ถ้าจะมีก็แทบจะไม่สามารถระบุชัดเจนได้ ตลอดจน “ระบบรางคู่-รางเดี่ยว” ก็มีแต่เพียง “โครงการ-ไอเดีย” เท่านั้น ยังไม่มีความคืบหน้าอย่างใด

จนในที่สุด “รถไฟไทย” จึงถูกล้อเลียนและขนานนามในเชิงเสียหายมาโดยตลอดว่า “หวานเย็น” และ “ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง” แปลนัยความหมาย ก็หมายความว่า “ช้า-ล้าสมัย”

เท่านั้นยังไม่พอ ตัวหัวรถจักรและขบวนก็ “เก่าคร่ำครึ-ปะผุ-สกปรก-เหม็นอับ” จนแม้กระทั่งที่นั่งก็ยังไม่สามารถนั่งอย่างเต็มที่ได้ เพราะมีทั้งสารพัดแมลง โดยเฉพาะเลือดไร!

ยิ่งห้องน้ำไม่ต้องกล่าวถึง ทั้งๆ ที่ประเทศไทยเจริญรุดหน้าทันสมัยเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ แต่รถไฟไทยกลับเหมือนอยู่ในสภาพของสังคมด้อยพัฒนาล้าหลัง

ปัญหาหลักๆ ของการรถไฟ นอกเหนือจาก “การประท้วงหยุดเดินรถไฟ” ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ น่าเชื่อว่า “ยืดเยื้อ!” แน่ นอน ที่ทั้งกลุ่มสหภาพฯ ตลอดจนพนักงานที่ถูกไล่ออกได้ถูกนำเสนอถึงระดับนายกรัฐมนตรี ให้มีการทบทวนจนถึงขั้นต้องการให้ไล่ออกฝ่ายบริหาร ตั้งแต่ระดับผู้ว่าการรถไฟฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

จากกรณีการประท้วงแล้ว ขณะนี้ในส่วนของ “สมาพันธ์รัฐวิสาหกิจ” ได้ระดมสรรพกำลังที่จะเคลื่อนไหวสืบเนื่องต่อไป ทั้งนี้ปัญหาที่สำคัญมากไปกว่านั้น คือ “สภาพของหัวรถจักร” และ “ขบวนรถ” ตลอดจน “ราง” ที่ต้องยอมรับความจริงว่า “เสื่อมสภาพ” จนอาจถึงขั้น “หมดสภาพ” จนก่อให้เกิด “การชำรุด” แทบจะครบวงจรของรถไฟ จน “ตกราง” สร้างความเสียหาย โดยเฉพาะในช่วงตลอด 1 เดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา

ขอฟันธงได้เลยว่า “ปัญหารถไฟ” ถึงเวลาแล้วที่จะต้อง “ปฏิรูป” และเลยเถิดไปจนถึง “ยกเครื่อง-ผ่าตัด มิเช่นนั้น “ความถี่” และ “ความยืดเยื้อ” ของปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ จะดำเนินต่อไปจนอาจถึงขั้นรุนแรง ถ้าไม่มีการประสานงานและหาข้อยุติ ทั้งๆ ที่ความพยายามในการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาหาแนวทางในการปฏิรูปรถไฟไทย

ความจริงที่เราต้องยอมรับว่า “สภาพรถไฟไทย” ที่ “เก่าคร่ำครึ!” ตลอด จนมีหนี้สินมหาศาลประมาณ 70,000 กว่าล้านบาท ที่ทับถมสะสมมายาวนาน ซึ่งเป็นที่เอือมระอมของผู้บริหารมาโดยตลอด พร้อมทั้งแบกภาระหนี้สินของเราคนไทยทุกคน

การผ่าตัดรถไฟนั้น ต้องยกเครื่องใหม่ทั้งระบบ ซึ่งเท่าที่ประมวลตัวเลขมานั้นน่าจะแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรก ใช้งบประมาณสูงถึงสามแสนล้านบาท และถ้าปรับปรุงไปจนถึงขั้นที่ 3 กำหนดระยะเวลา 20 ปี มูลค่าจะสูงถึง 1.1 ล้านล้านบาททีเดียว

ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลชุดปัจจุบันต้องเร่งระดมความคิดเห็น พร้อมทั้งเร่งดำเนินการในการปฏิรูป ยกเครื่อง โดยต้องไม่คำนึงถึง “ผลประโยชน์” ของกลุ่มระบบขนส่งรถบรรทุก ที่น่าเชื่อว่า เป็น “กลุ่มผลประโยชน์” ที่พยายามให้ “ระบบขนส่งระบบราง” ต้อง “ถึงก็ช่าง-ไม่ถึงก็ช่าง!” เช่นนี้มายาวนานนับหลายสิบปี!
Back to top
View user's profile Send private message
nathapong
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom

PostPosted: 10/11/2009 11:31 pm    Post subject: Reply with quote

แต่ที่แน่ ๆ มาลุ้นข่าวเกี่ยวกับ รฟท ช่วงบ่าย ๆ วันพรุ่งนี้ 11 พย 52 ว่า เงิน 14.5 ล้าน จ่ายหรือไม่ Rolling Eyes
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 25/06/2007
Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต

PostPosted: 11/11/2009 8:51 am    Post subject: Reply with quote

^
จ่ายไปเสีย.... Laughing
เอาหมู....แลกแมว....สมประสงค์ลงตัว....ที่ผ่านมา..ผ่านไป กลับมาเฮกันใหม่ Embarassed ...
ที่มาจากรีไพล์เฮียวิศ " ชงพัฒนารถไฟเข้า ครม " Razz
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
Click on the image for full size
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
nathapong
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom

PostPosted: 11/11/2009 10:08 am    Post subject: Reply with quote

pak_nampho wrote:
^
จ่ายไปเสีย.... Laughing
เอาหมู....แลกแมว....สมประสงค์ลงตัว....ที่ผ่านมา..ผ่านไป กลับมาเฮกันใหม่ Embarassed ...
ที่มาจากรีไพล์เฮียวิศ " ชงพัฒนารถไฟเข้า ครม " Razz


โห้...พี่นพ

ผลยังไม่ออกมา ฟันธง แล้วเหรอพี่
ถ้างั้นก่อนวันที่ 16/11/52 ผมขอเลขเด็ด.... สักงวดนะพี่
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 25/06/2007
Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต

PostPosted: 11/11/2009 10:21 am    Post subject: Reply with quote

ป๋า...มนุษยธรรมคือเหตุผลครับ Wink
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
Click on the image for full size
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 65, 66, 67 ... 489, 490, 491  Next
Page 66 of 491

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©