Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311899
ทั่วไป:13571660
ทั้งหมด:13883559
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - เรื่องจากอดีต : สร้างคอกใหม่ให้ม้าเหล็ก
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

เรื่องจากอดีต : สร้างคอกใหม่ให้ม้าเหล็ก
Goto page 1, 2  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 20/12/2006 5:35 pm    Post subject: เรื่องจากอดีต : สร้างคอกใหม่ให้ม้าเหล็ก Reply with quote

มาอีกเรื่องหนึ่ง จากนิตยสาร “ เสรีภาพ ” ฉบับที่ 45 ปี พ.ศ. 2502 ลองอ่านดูสำนวนเก่าๆ ที่ผมคัดมาพร้อมภาพประกอบเช่นเคยครับ
.............................

สร้างคอกใหม่ให้ม้าเหล็ก

Click on the image for full size
โรงงานรถไฟโคราชซ่อมล้อเลื่อนรถไฟทุกประเภท ในภาพ เป็นที่กลับหัวรถจักรขนาดมหึมาซึ่งหมุนได้รอบตัว

ประเทศไทยขยายกิจการบำรุงรักษาการรถไฟ

ในประเทศไทยนั้น แม่น้ำลำคลองเคยเป็นวิถีทางสำหรับการคมนาคมที่ใช้การได้ตลอดปี แต่บัดนี้ถนนหลวงและทางรถไฟกำลังเพิ่มความสำคัญมากขึ้นทุกวัน เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงในวิธีการขนส่งของประเทศไทย ก็คือ ความเจริญเติบใหญ่ของเศรษฐกิจ ผลิตภัณฑ์กสิกรรมและป่าไม้จะต้องส่งไปตลาดและโรงงาน และสินค้าสำหรับบริโภคก็ต้องแจกจ่ายไปทั่วประเทศอย่างเร่งรีบและสม่ำเสมอยิ่งขึ้น

รัฐบาลไทย มุ่งประโยชน์ในการปรับปรุงการรถไฟให้ดีขึ้น จึงใช้ทุนช่วยเหลือจากสหรัฐ สั่งซื้อรถไฟ และเครื่องมือที่ใช้ในการรถไฟมากหลาย อีกทั้งยังได้สร้างทางรถไฟใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ และปรับปรุงทางรถไฟเก่าๆ ให้ดีขึ้น

Click on the image for full size
พลตรี เนตร์ เขมะโยธิน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี อดีต ร.ม.ต.ช่วยคมนาคม (ซ้าย) ถ่ายร่วมกับผู้อำนวยการการรถไฟ

เพื่อที่ทางรถไฟเหล่านี้จะได้ดำเนินไปอย่างราบรื่น จึงต้องขยายบริการซ่อมรักษาในการรถไฟขึ้นอีกด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้สั่งซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ในโรงงานรถไฟมาเป็นราคา ๑.๕ ล้านเหรียญ เพื่อใช้ในโรงงานซ่อมรถไฟแห่งหนึ่งอยู่ที่มักสันในกรุงเทพฯ

และเมื่อไม่นานมานี้เอง โรงซ่อมแบบเดียวกันนี้ก็มีเปิดขึ้นใหม่อีกแห่งหนึ่งที่โคราช อันเป็นจังหวัดใหญ่แห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

โรงงานรถไฟนี้มีเครื่องมือสมบูรณ์และทันสมัยพอๆ กับในประเทศชั้นนำอื่นๆ ในอาเซียอาคเนย์ทีเดียว โรงงานนี้ ประกอบด้วยโรงตรวจ ซ่อม รถจักรและรถตู้ แท่นหมุนสำหรับกลับหัวรถจักรแบบใหม่ ซึ่งสับรางให้รถเข้ารางต่างๆ ได้ถึง ๑๖ ราง โรงเก็บรถซึ่งจุรถจักรได้ทีละ ๑๔ คัน และโรงไฟฟ้าไอน้ำซึ่งผลิตไฟฟ้าออกมาใช้ในโครงการนี้ทั้งหมด

นอกจากจะได้เงินช่วยเหลือจากสหรัฐแล้ว ประเทศไทยยังกู้เงินได้อีก ๑๕,๓๐๐,๐๐๐ เหรียญ จากธนาคารฟื้นฟูและพัฒนาการสากล เพื่อส่งเสริมโครงการนี้อีกด้วย

Click on the image for full size
โรงงานซ่อมรถไฟที่โคราชมีเครื่องมือทันสมัยสำหรับใช้งานหนักได้ ภาพนี้ คือโรงซ่อมรถด้วยเครื่องจักร

ประเทศที่กำลังสร้างตัวเพื่ออนาคต ไม่แต่จะต้องเพิ่มสมรรถภาพในทางการผลิตสิ่งของเท่านั้น แต่ยังต้องสามารถขนส่งและขายผลผลิตได้โดยรวดเร็วอย่างมีความสามารถอีกด้วย และประเทศไทยอันเป็นประเทศเอกราชมาเก่าแก่นี้ ก็กำลังประกอบการนี้ ด้วยความช่วยเหลือร่วมมือของประเทศที่เป็นมิตรกับโลกเสรีอย่างเต็มที่

Click on the image for full size
ช่างกลไทยผู้ชำนาญกำลังซ่อมหม้อน้ำรถจักร

...................................

แถมด้วยข้อมูลการก่อสร้างโรงงานที่ชุมทางทุ่งสง นครราชสีมา และโรงงานอุตรดิตถ์ จากหนังสือครบรอบ 72 ปี การรถไฟฯ ซึ่งได้กล่าวถึงโดยสรุป ดังนี้ครับ

สืบเนื่องจากการดำเนินงานตามโครงการบูรณะกิจการรถไฟ ภายหลังสภาวะสงครามโลก ครั้งที่ 2 ได้สิ้นสุดลง มีรถจักร และล้อเลื่อนใช้งานเพิ่มจำนวนมากขึ้น เหลือกำลังที่โรงงานมักกะสัน จะรับภาระทำการซ่อมทุกประเภทการซ่อม แก่รถจักร และล้อเลื่อนให้ทันใช้การ และครบถ้วนตามกำหนดได้ ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2504 ทางการจึงได้กำหนดแผนงานให้มีโรงงานซ่อมในภูมิภาค ที่นครราชสีมา ชุมทางทุ่งสง และอุตรดิตถ์ ดำเนินการซ่อมประเภทปานกลาง และตามวาระ ( บางวาระ ) แก่รถจักรไอน้ำและล้อเลื่อน เพื่อแบ่งเบาภาระของโรงงานมักกะสัน โดยคงให้โรงงานมักกะสันดำเนินการซ่อมประเภทหนัก และผลิตอุปกรณ์อะไหล่ของรถจักรและล้อเลื่อนป้อนให้แก่โรงงานเหล่านั้น

นอกจากนี้ ยังอำนวยประโยชน์ให้แก่รถจักรและล้อเลื่อนมีโอกาสรับใช้งานเดินรถซึ่งเพิ่มขึ้นได้โดยเต็มที่ เพราะกระจายไปรับการซ่อมบำรุงทั้ง 2 ประเภทการซ่อมตามวาระ ที่โรงงานเหล่านั้นได้อย่างทั่วถึง และใช้เวลาการซ่อมรวดเร็วขึ้น โดยไม่ต้องรวบรวมจำนวนให้มาก และเสียเวลาเดินทางเข้าโรงงานมักกะสัน

ในโอกาสเดียวกันกับที่ตั้งโรงงานขึ้น ก็ได้สร้างโรงรถจักรขึ้นใหม่ด้วย เพื่อทดแทนของเดิมที่ได้รับความเสียหาย หรือชำรุดทรุดโทรมจากภาวะสงคราม และใช้การมานาน โดยปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สอดคล้องกับกิจการเดินรถและกิจการโรงงานซ่อม

แผนการนี้ ดำเนินการภายใต้การอำนวยการของ นายอาชว์ กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการกองลากเลื่อนในขณะนั้น มีการออกแบบ วางผังตัวโรงงาน กำหนดรายการเครื่องมือกล เครื่องจักรกล และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง Mr. Eurl R Uwin ( ผู้ล่วงลับไปแล้ว ) แห่งองค์การบริหารวิสาหกิจของสหรัฐอเมริกาในประเทศไทย ( USOM ) ทำหน้าที่เป็นวิศวกรปรึกษาด้านช่างกลให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย นายสหทัย โดษะนันทน์ วิศวกรประจำกองช่างกล ฝ่ายการช่างกล พร้อมด้วยวิศวกร เจ้าหน้าที่ในแผนกแบบแผน กองช่างกล เป็นผู้ดำเนินการด้านรายละเอียดต่างๆ หลักการดำเนินงานซ่อม การวางผัง และลักษณะตัวอาคาร อุปกรณ์เครื่องมือกล เครื่องจักรกลต่างๆ ที่จะนำมาติดตั้งใช้งานโดยครบครัน ยกเว้นอาคารโรงรถจักรแต่ละแห่ง ซึ่งแตกต่างกันตามสถานที่ตั้ง จำนวนรถจักร และสถานการณ์เดินรถที่มีอยู่ในภาคนั้นๆ

เพื่อเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลที่ต้องการใช้ถ่านหินลิกไนต์ซึ่งเป็นทรัพยากรในประเทศ ที่จังหวัดลำปาง และกระบี่ เป็นเชื้อเพลิง จึงกำหนดให้มี โรงผลิตไฟฟ้ากำลังแบบความร้อน ( Thermal generating power plant ) เพื่อจ่ายกำลังไฟฟ้าให้แก่โรงงานแต่ละแห่งขึ้น โดยใช้ถ่านลิกไนต์เป็นเชื้อเพลิงกับ หม้อน้ำแบบนอนเดินในท่อ ( Water tube boiler ) ยี่ห้อ Bancock และ Wilcock จำนวน 2 ชุด ( ชุดหนึ่งเป็นสำรอง ) แต่ละชุดมีกำลังผลิตไอสด 1,2000 ปอนด์/ ชั่วโมง และนำเอาไอน้ำนี้ไปเดินเครื่องกังหันไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์ 2 ชุด ( ชุดหนึ่งเป็นสำรอง ) ที่ทุ่งสง และเดินเครื่องกลไกไอน้ำแบบลูกสูบไฟฟ้าขนาดเดียวกัน 2 ชุด ( สำรองหนึ่งชุด ) ที่นครราชสีมา สำหรับไอน้ำที่เหลืออยู่จากการเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแล้ว ก็นำไปใช้เดินเครื่องสูบน้ำไอน้ำ สำหรับระบบล้างหม้อน้ำรถจักรด้วยน้ำร้อน และเดินเครื่องอัดอากาศ เพื่อจ่ายอากาศอัดไปใช้การยังโรงซ่อม

นอกจากนี้แล้ว แต่ละโรงงาน ได้ติดตั้งระบบล้างหม้อน้ำรถจักรด้วยน้ำร้อน และเร่งการกำเนิดไอน้ำรถจักรด้วยไอน้ำ ( Hot water boiler washing and steam raising plant ) เพื่อใช้การกับรถจักรไอน้ำให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น มีเวลาที่จะนำไปใช้การ ( Availability ) เร็วขึ้นด้วย

สำหรับการนำเอาไอเสียจากอุปกรณ์ต่างๆ ในโรงจำหน่ายกำลัง มาใช้การให้เป็นประโยชน์ แทนที่จะทิ้งไปในบรรยากาศ โดยนำมาทำให้น้ำเย็นที่เก็บอยู่ในถังร้อนขึ้น ( Make up water ) แล้วนำเอาน้ำร้อนนั้นไปล้างหม้อน้ำรถจักร ( แทนที่จะใช้น้ำเย็นตามวิธีทั่วไป ) และนำเอาไอดีจากหม้อน้ำในโรงหม้อน้ำไปช่วยเติม และเพิ่มความร้อนให้แก่หม้อน้ำรถจักร ที่เติมน้ำร้อนไว้ก่อนแล้ว ทำให้ไอน้ำเกิดขึ้นเร็วพอที่จะนำไปทำขบวนต่อไป การติดตั้งอุปกรณ์นี้ ทำให้ลดเวลาที่ใช้ล้างหม้อน้ำและติดไฟเพื่อกำเนิดไอจากวิธีปกติไม่ต่ำกว่า 5 - 6 ชั่วโมงต่อคัน เหลือเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมง

สรุปค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสร้างโรงงานที่นครราชสีมา การรถไฟฯ ได้รับความช่วยเหลือส่วนหนึ่งเป็นเงิน 280,000 ดอลล่าร์ จาก USOM ซึ่งมีเจตจำนงให้สามารถใช้ถ่านลิกไนต์จากเหมืองแม่เมาะ ลำปาง มาเป็นเชื้อเพลิงเผาหม้อน้ำ และการรถไฟฯ ได้ออกเงินสมทบ ( Counterpart fund ) เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอย่างเดียวที่ชุมทางทุ่งสง

ในส่วนของโรงงานซ่อม และโรงรถจักรที่ชุมทางทุ่งสง ได้ดำเนินการก่อสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ.2497 และติดตั้งเครื่องมือ เครื่องจักรกลเสร็จ เปิดทำการเมื่อปี พ.ศ.2500 สำหรับโรงงานและโรงรถจักรที่นครราชสีมา ดำเนินการสร้างเมื่อปี พ.ศ.2498 และเปิดทำการเมื่อปี พ.ศ.2501 ทั้งสองแห่งได้ดำเนินการโดย นายสหทัย โดษะนันทน์ วิศวกรกำกับการช่างกลเขต 4 กองลากเลื่อนที่ทุ่งสง และต่อมา ได้ดำรงตำแหน่งวิศวกรกำกับการแผนกแบบแผน กองช่างกล ในฐานะวิศวกรพิเศษที่นครราชสีมา พร้อมด้วยสารวัดโรงงาน และช่าง คนงานของโรงงานแต่ละแห่ง

เฉพาะตัวโรงงานทั้งสองแห่ง ซึ่งเหมือนกัน มีพื้นที่ประมาณ 3,280 ตารางเมตร ( 42.5 x 82 เมตร ) มีรางจอดรถซ่อม 9 ทาง และมีอุปกรณ์ความสะดวก เครื่องมือกลเพื่อการผลิต และซ่อมงานโลหะและไม้อยู่ภายในนั้น และยังประกอบด้วย อาคารต่างๆ อีก คือ อาคารโรงหม้อน้ำ โรงจำหน่ายกำลังไฟฟ้า สูบน้ำและลมอัด โรงเหล็ก โรงเก็บน้ำมัน ระบบล้าง หม้อน้ำรถจักรด้วยน้ำร้อน บ่อและสะพานเลื่อนสำหรับถ่ายรถ หอถังน้ำพร้อมสูบน้ำไฟฟ้า อาคารโรงรถจักรแบบสี่เหลี่ยม ผืนผ้าที่ชุมทางทุ่งสง และแบบทรงกลม ( Roundhouse ) ที่นครราชสีมา สิ้นค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น รวมทั้งค่าอุปกรณ์ความสะดวก เครื่องจักรกล และเครื่องมือกลของโรงงานที่ทุ่งสง 11,780,000.00 บาท และที่นครราชสีมาเป็นเงินประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งรวมเงินจำนวน 280,000 ดอลล่าร์ ช่วยเหลือโดย USOM อยู่ด้วย

ปัจจุบัน การปฏิบัติงานของโรงงานซ่อมทั้งสองแห่ง มีดังนี้

1. การซ่อมรถจักร มีหน้าที่รับซ่อมวาระ 1 ปี 6 เดือน และซ่อมพิเศษให้กับรถจักรไอน้ำแขวงต่างๆ ภายในเขต 4 คือ แขวงรถจักรชุมพร ทุ่งสง และหาดใหญ่ สำหรับโรงงานที่ทุ่งสง และภายในเขต 2 คือ แขวงรถจักรแก่งคอย และนครราชสีมา สำหรับโรงงานที่นครราชสีมา
2. การซ่อมวาระรถพ่วง ได้ดำเนินการซ่อมวาระรถพ่วงของเขต โดยทำการซ่อมวาระ 4 เดือน วาระปานกลาง 20 เดือน ให้กับรถโดยสาร และซ่อมวาระ 8 เดือน วาระปานกลาง 2 ปี ให้กับรถสินค้า กับซ่อมหนักรถสินค้าจำนวนหนึ่งตามที่รับมอบหมายนโยบายจากฝ่ายการช่างกล
3. ผลิตเครื่องอุปกรณ์อะไหล่ต่างๆ ให้แขวงโรงรถจักรภายในเขตใช้การตามกำลังความสามารถของโรงงาน เป็นการแบ่งเบาภาระงานของโรงงานมักกะสันได้อีกทางหนึ่ง
4. โรงกำลังไฟฟ้า มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 2 เครื่อง ผลัดเปลี่ยนการทำงาน เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นกำลังงานของเครื่องมือกลทั้งหมด และใช้งานแสงสว่างภายในย่านสถานีด้วย

สำหรับโรงงานที่อุตรดิตถ์นั้น ได้ใช้หลักการซ่อม ออกแบบและอื่นๆ อย่างเดียวกับโรงงานสองแห่งแรก แต่อาศัยประสบการณ์ที่ได้รับจากการดำเนินงานของโรงงานทั้งสองมาก่อน จึงได้ปรับปรุงตัวอาคารโรงงานต่างๆ และเครื่องมือ เครื่องจักรกลบางประการให้เหมาะสมขึ้น สำหรับกระแสไฟฟ้ากำลัง ได้ใช้จากแหล่งของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงไม่มีโรงหม้อน้ำและจำหน่ายไฟฟ้า ส่วนโรงรถจักรไอน้ำซึ่งย้ายมาจากสถานีพิษณุโลก ได้สร้างขึ้นชั่วคราว พร้อมที่จะสร้างเป็นโรงรถจักรดีเซลขึ้นถาวร เมื่อใช้การรถจักรดีเซลแทนรถจักรไอน้ำ ได้รับการปฏิบัติโดยสมบูรณ์ในอนาคต

โรงงานอุตรดิตถ์แห่งนี้ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2502 แล้วเสร็จใช้การเมื่อปี พ.ศ.2508 โดยผู้ที่ดำรงตำแหน่งวิศวกรกำกับการช่างกลเขต 3 กองลากเลื่อนในขณะนั้น คือ นายสมพงษ์ จารุภูมิ และต่อมา นายชูพงษ์ อุดมพิทยภูมิจารณ์ เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ สิ้นค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ( รวมทั้งอาคารบ้านพัก ) ประมาณ 17 ล้านบาทเศษ ปัจจุบันได้ดำเนินการปฏิบัติการให้กับรถจักรไอน้ำ รถพ่วง ในเขต 3 คือ แขวงรถจักรปากน้ำโพ อุตรดิตถ์ และลำปาง

...............................................


Last edited by black_express on 15/09/2014 10:51 am; edited 7 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
narita_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 28/03/2006
Posts: 1170
Location: PSU. Original Campus

PostPosted: 20/12/2006 5:57 pm    Post subject: Reply with quote

โอ้ว...ว้าว สุดยอดเลยครับสำหรับภาพเก่าเหล่านี้ โดยเฉพาะภาพแรกเนี่ย ผมประทับใจรางทั้งหลายจริงๆ ช่างมากระจุกตัวได้อย่างคลาสิคยิ่งเลยครับ... สงสัยคงเป็นรางที่ส่งรถจักรเข้าไปโรงเก็บเป็นแน่แท้เลยนะครับ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website Yahoo Messenger MSN Messenger
Schnellzug
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 03/07/2006
Posts: 170
Location: ศาลายา

PostPosted: 20/12/2006 6:08 pm    Post subject: Reply with quote

ผมก็ชอบภาพแรกเหมือนกันเลยครับ สุดยอดจริงๆๆ วงเวียนกลับรถจักรประเทศไทยมีอย่างนี้ด้วย สุดยอด
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website MSN Messenger
anusorn
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/09/2006
Posts: 1642
Location: มณฑลอาคเนย์

PostPosted: 20/12/2006 6:22 pm    Post subject: Reply with quote

ตอแรกดูภาพแล้วนึกว่าสหรัฐอเมริกาซะอีกน่ะครับ Laughing
Back to top
View user's profile Send private message
Cummins
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 28/03/2006
Posts: 719
Location: มหาวิทยาลัยราชมงคลอิสาน วิทยาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา

PostPosted: 23/12/2006 11:34 am    Post subject: ที่เดียวกัน Reply with quote

ที่เดียวกันเป็นภาพถ่ายจากดาวเทียม ครับพ้ม
Click on the image for full size
_________________
อดีตโชเฟอร์ล้อเหล็ก
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 25/12/2006 9:49 am    Post subject: Reply with quote

เสียดาย ที่โปรแกรมนี้ ในเครื่องผมใช้ไม่ได้ แหม..ดีมากๆ ครับ ที่ อ.กิตติ หามาประกอบเรื่องให้

ยังเด่นสง่าเหมือนเดิม..


Last edited by black_express on 25/12/2006 10:05 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
BanPong1
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 07/12/2006
Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี

PostPosted: 07/09/2008 11:29 am    Post subject: Reply with quote

ดูจากข้อมูลทั้งภาพและเรื่องราวข้างบนแล้ว

รถไฟไทยของเราเมื่อเกือบ 50 ปี ที่แล้วนี่เจริญเติบโตและยิ่งใหญ่จริงๆนะครับ

Very Happy Very Happy Very Happy Very Happy Very Happy
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
bennakrab
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 05/08/2006
Posts: 70
Location: อุบลราชธานี

PostPosted: 07/09/2008 12:35 pm    Post subject: Reply with quote

ถ้าของเราพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เราคงนั่งรถไฟอุบล-กรุงเทพแค่ 4-5 ชั่วโมง แน่ๆ เลย ก็หวังว่าในอนาคตคงจะได้มีโอกาสสัมผัสกับรถไฟความเร็วสูงในเมืองไทยบ้าง (เพราะเมืองนอกคงไม่มีโอกาสได้ไป Sad ) Laughing Laughing
Back to top
View user's profile Send private message
Intersec
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 18/11/2006
Posts: 104
Location: หัวตะเข้

PostPosted: 07/09/2008 11:54 pm    Post subject: Reply with quote

black_express wrote:
เสียดาย ที่โปรแกรมนี้ ในเครื่องผมใช้ไม่ได้ แหม..ดีมากๆ ครับ ที่ อ.กิตติ หามาประกอบเรื่องให้

ยังเด่นสง่าเหมือนเดิม..
ไม่ต้องใช้โปรแกรมก็ดูได้ครับพี่

ปกติผมก็ดูผ่านเว็บเอาครับ http://maps.google.com ก็ดูในโหมด Satellite ได้ครับผม

http://maps.google.com/?ie=UTF8&ll=14.969869,102.073722&spn=0.002638,0.004828&t=h&z=18

อันนี้เป็นลิงค์เดียวกับรูปของอาจารย์ cummins ครับ
Back to top
View user's profile Send private message MSN Messenger
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 07/09/2008 11:56 pm    Post subject: Reply with quote

ตอนนี้ผมลงโหลดโปรแกรมใหม่ ใช้งานได้เรียบร้อยแล้วครับ Wink
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page 1, 2  Next
Page 1 of 2

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©