ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

RORONOA · 2nd Class Pass Joined: 06/12/2007 Posts: 705

ขอบคุณครับที่นำข่าวมาบอกกัน หวังว่าคงจะได้เห็นเป็นรูปร่างในเร็วๆนี้นะครับ

ขอบคุณครับ ผมได้แก้ไขข้อความที่สะกดผิดในรีไพล์ดังกล่าว ซึ่งทำให้ความหมายเปลี่ยนออกไปแล้ว

pattharachai 03/12/2552

Wisarut · Posted: 07/12/2009 5:35 pm Post subject:

รถไฟสายใต้เต็มทุกขบวน ประชาชนแห่เดินทางช่วงวันหยุดยาว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 ธันวาคม 2552 11:19 น.

วันนี้ (7 ธ.ค.) บรรยากาศการเดินทางของประชาชนในวันสุดท้ายช่วงวันหยุดยาว 5 ธันวามหาราช ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา เนืองแน่นไปด้วยประชาชนที่ไปรอเดินทางไปยังจังหวัดต่างในภาคใต้และขึ้นกรุงเทพฯ ในขณะที่รถไฟทุกขบวนทั้งรถท้องถิ่นและขบวนรถสายยาวเต็มทุกขบวน

นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุว่า ตั๋วรถไฟสายใต้ทั้งขาขึ้นและขาล่องตั้งแต่วันที่ 4-7 ธันวาคม ถูกจองเต็มทั้งหมดทุกขบวนและทุกที่นั่งทั้งชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น3 ซึ่งเป็นรถไฟฟรี ซึ่งเป็นการเดินทางในช่วงวันหยุดยาวที่มากที่สุดอีกครั้งหนึ่งในรอบปี

เช่นเดียวกันในระหว่างวันที่ 9-13 ธันวาคมนี้ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาว วันรัฐธรรมนูญ ตั๋วเดินทางสายใต้ทุกขบวนถูกจองเต็มแล้วเช่นกัน ประชาชนที่ต้องการเดินทางในช่วงดังกล่าวควรตรวจสอบที่นั่งที่สถานีรถไฟต่างๆ ก่อนการเดินทางเพื่อไม่ให้ตกค้าง

Mongwin

รถไฟสายใต้กรุงเทพฯ-ยะลา ล่าช้ากว่า 10 ชม.
ชมคลิปวิดีโอข่าวได้ที่นี่ครับ

http://news.mcot.net/local/inside.php?value=bmlkPTQwMjExJm50eXBlPWNsaXA=

สงขลา 9 ธ.ค. - รถไฟเกิดปัญหาอีก ล่าสุดขบวนรถเร็วกรุงเทพฯ-ยะลา ล่าช้ากว่ากำหนดเดิมถึงกว่า 10 ชั่วโมง เนื่องจากต้องเปลี่ยนหัวรถจักรเสียถึง 2 ครั้ง

รถไฟสายใต้ขบวน 169 กรุงเทพฯ-ยะลา ซึ่งกำหนดถึงสถานีหาดใหญ่ตั้งแต่เมื่อเวลา 11.00 น. แต่จนถึงขณะนี้กลับยังเดินทางไม่ถึง โดยอยู่ระหว่างสถานีสุราษฎร์ธานี ซึ่งนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สาเหตุซึ่งทำให้รถไฟล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมถึงกว่า 10 ชั่วโมง เนื่องมาจากหัวรถจักรเสียที่จังหวัดราชบุรี และเพชรบุรี ทำให้ต้องนำหัวรถจักรจากกรุงเทพฯ มาเปลี่ยนใหม่ถึง 2 ครั้ง และคาดว่ารถไฟขบวนดังกล่าวจะมาถึงสถานีหาดใหญ่ในช่วงค่ำ ทำให้ไม่สามารถเดินทางต่อไปยังสถานีปลายทางที่จังหวัดยะลาได้

สำหรับผู้โดยสารที่ตกค้าง 48 คน ทางการรถไฟจะจัดที่พักให้ฟรี ก่อนจะเดินทางต่อในเช้าวันรุ่งขึ้น และจะกระทบต่อการเดินรถไฟสายใต้เพียงขบวนเดียว คือ รถเร็วที่ 170 ยะลา-กรุงเทพฯ ซึ่งจะออกจากสถานีหาดใหญ่แทนสถานียะลา. - สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2009-12-09 14:02:28

chairat · 1st Class Pass (Air) Joined: 02/04/2008 Posts: 1023

ช้ามโหฬารเลยนะครับ

RORONOA · 2nd Class Pass Joined: 06/12/2007 Posts: 705

จะว่าไปเรื่องช้า 10 ชม.ของรถไฟโดยเฉพาะขบวน 170 นี่ผมไม่ค่อยจะแปลกใจเท่าไรครับ เพียงแต่ช่วงนี้รถไฟกระดิกพลิกตัวนิดหน่อยก็เป็นข่าว(โดยเฉพาะด้านเสียหาย) ไอที่ไม่ผิดเขาก็โยนให้ผิดจนได้ แต่ข่าวดีๆหรือการปรับปรุงพัฒนาของเรากลับไม่เคยได้ลงข่าว ทั้งการเปิดทดลองแอร์พอร์ตลิงก์ นำรถไฟพระที่นั่งมาจัดแสดง จัดรถรับส่งผู้โดยสารในช่วงร่วมงานเฉลิมพระเกียรติฯ หัวลำโพงที่นำจอ LCD มาติดตั้ง(หรูจริงๆ) รถนำเที่ยวสายแม่กลอง ฯลฯ ข่าวดีๆแบบนี้ผมแทบไม่เห็นในหนังสือพิมพ์เลยนะครับ เห็นแล้วน่าเหนื่อยใจจริงๆ Wink

black_express · Posted: 09/12/2009 11:28 pm Post subject:

ข่าวความผิดพลาด คนจะเห็นได้ชัดเจนกว่าข่าวโปรโมทครับ Razz

Mongwin · Posted: 10/12/2009 8:31 am Post subject:

รถไฟกรุงเทพฯ-ยะลาถึงหาดใหญ่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถไฟสายใต้ขบวนรถเร็วที่ 169 กรุงเทพฯ - ยะลา เดินทางถึงสถานีหาดใหญ่แล้วเมื่อเวลา 19.20 น.วันที่ 9 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา หลังจากที่ล่าช้ากว่ากำหนดการเดินทางตามตารางเดินรถปกติที่จะถึงสถานี หาดใหญ่ในเวลา 09.00 น.วันนี้ เนื่องจากประสบปัญหาหัวรถจักรเสียที่จ.ราชบุรีและจ.เพชรบุรี จนต้องเปลี่ยนหัวรถจักรใหม่ถึงสองครั้ง ผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถไฟดังกล่าวส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่อิดโรยและ เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางที่นานกว่า 28 ชั่วโมง
ในขณะที่ทางสถานีรถไฟหาดใหญ่ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารที่มีปลายทางที่ จ.ยะลา สามารถติดต่อขอพักค้างคืนที่หาดใหญ่ได้ ซึ่งได้เปิดโรงแรมให้พักฟรี เนื่องจากรถไฟขบวนนี้ไม่สามารถเดินทางไปยังปลายทางถึงสถานียะลาได้เพราะไม่ ปลอดภัย แต่ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะนัดให้ญาติมารอรับที่สถานีหาดใหญ่เกือบทั้งหมด
ส่วนขบวนรถเร็วที่ 170 ยะลา - กรุงเทพฯ ก็ออกจากสถานีหาดใหญ่ในเวลา 20.00 น.แล้วเช่นกันหลังจากที่ล่าช้ากว่า 6 ชั่วโมงจากเดิมที่ออกเดินรถในเวลาประมาณ 14.00 น. เพราะต้องรอขบวนรถที่ 169 ซึ่งเป็นขบวนเดียวกันที่จะตีกลับกรุงเทพฯ
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย เผยว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายช่างตรวจสอบหัวรถจักรให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดก่อน ออกเดินทางเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเสียกลางทางโดยเฉพาะที่ขบวนทางไกล

Wisarut · Posted: 10/12/2009 2:35 pm Post subject:

คมนาคมส่งรถไฟเสริมแลนด์บริดจ์
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหาริมทรัพย์ - คมนาคม
วันอังคารที่ 08 ธันวาคม 2009 เวลา 16:20 น.
พิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2,486 10-12 ธันวาคม พ.ศ. 2552
Click on the image for full size

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผน การขนส่งและจราจร (สนข.) เผยถึงรูปแบบการศึกษาในเบื้องต้นนั้น สนข.ได้นำเสนอ 4 ทางเลือกสำหรับการให้แนวเส้นทางรถไฟสามารถเชื่อมโยงการขนส่งสินค้า ระหว่างท่าเรือฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดา- มันได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีรายละเอียดแนวเส้นทางเบื้องต้นคือ

แนวเส้นทางที่ 1 ระยะทางเขตทางรถไฟเดิม 53.2 กิโลเมตร (ควนเนียง - วัดควนมีดที่จะนะ) ระยะทางเขตทางรถไฟใหม่ 107.4 กิโลเมตร ระยะทางรวม 160.6 กิโลเมตร

รูปแบบตามแนวเส้นทางที่ 1 (A+B+D+ Existing ROW +H) นั้นจะพบว่ามีระยะทางยาวที่สุด แต่เวนคืนที่ดิน น้อยที่สุด เชื่อมต่อกับโครงข่ายของ รฟม.ที่สถานีควนเนียง และใช้เขตทางของ ร.ฟ.ท. สายหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ถึงสถานีรถไฟจะนะแล้วแยกไปท่าเรือสงขลา 2

แนวเส้นทางที่ 2 ระยะทางเขตทางรถไฟเดิม 26.5 กิโลเมตร (หาดใหญ่ - วัดควนมีดที่จะนะ) ระยะทางเขตทางรถไฟใหม่ 112.6 กิโลเมตร รวมระยะทาง 139.1 กิโลเมตร

รูปแบบตามแนวทางเลือกที่ 2( A+B+E+ Existing ROW +H) พบว่ามีระยะทางค่อนข้างยาว เวนคืนค่อนข้างน้อย เชื่อมต่อกับโครงข่ายของร.ฟ.ท.ที่บริเวณด้านใต้ของชุมทางหาดใหญ่ และใช้เขตทางของ ร.ฟ.ท.สายหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ถึงสถานี รถไฟวัดควนมีดที่จะนะแล้วแยกไปท่าเรือสงขลา 2

แนวเส้นทางที่ 3 ระยะทางเขตทางรถไฟใหม่ 133.3 กิโลเมตร (รวมระยะทางของแนวอุโมงค์ 8 กิโลเมตร) ระยะทางรวม 133.3 กิโลเมตร และ

แนวทางเลือกที่ 3 (A+C+F) มีระยะทางค่อนข้างสั้น เวนคืนมาก เนื่องจากไม่ใช้เขตทางเดิมของ ร.ฟ.ท.โดยต้องก่อสร้างอุโมงค์ผ่านเทือกเขาบรรทัด ตัดผ่านทางรถไฟสายหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ (น่าจะแถว สถานีคลองแงะ) แล้วไปบรรจบกับทางรถไฟสายหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ถึงสถานีรถไฟวัดควนมีดที่จะนะแล้วแยกไปท่าเรือสงขลา 2

แนวเส้นทางที่ 4 ระยะทางเขตทางรถไฟใหม่ 131.9 กิโลเมตร (รวมระยะทางของแนวอุโมงค์) 131.9 กิโลเมตร และรูปแบบตามแนวเส้นทางที่ 4 (A+C+G) จะเห็นว่ามีระยะทางสั้นที่สุด อยู่ด้านทิศใต้ของแนวทางเลือกที่ 3 ลักษณะคล้ายกับแนวทางเลือกที่ 3 คือต้องก่อสร้างอุโมงค์ผ่านเทือกเขาบรรทัด ตัดผ่านทางรถไฟสายหาด ใหญ่-ปาดังเบซาร์ (น่าจะแถว สถานีคลองแงะ) และหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก (สถานีวัดควนมีดที่จะนะ) เพื่อไปท่าเรือสงขลา 2

ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมโดยกรมเจ้าท่ามีแผนการก่อสร้างท่าเรือปากบารา ฝั่งอันดามันที่จังหวัด สตูลเพื่อรองรับโครงการดังกล่าวนี้ไว้แล้ว ดังนั้นสนข.จึงได้เร่งศึกษาและ รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเสนอกระทรวง คมนาคมคาดว่าจะเสร็จสิ้นช่วงกลางปี 2553 นี้

//-----------------------------------------------------------

ตามความเห็นของผม ทางเลือกที่ 1 แม้จะยาวที่สุด แต่ เวนคืนน้อย เสียค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ไม่มาก แม้จะต้อง Rehab ทางช่วง ควนเนียง - หาดใหญ่ - วัดควนมีดที่จะนะ แบบเต็มขั้น และ อาจต้องทำทางคู่จาก ควนเนียง ไป วัดควนมีดที่จะนะ ด้วยทางเลือก 2 เสียค่า Rehab ทาง เต็มขั้น เพียงช่วง หาดใหญ่ - วัดควนมีดที่จะนะ แต่ ก็ต้องเวนคืน ไม่ใช่น้อย นี่นังไม่นับทางคู่จากหาดใหญ่ไปวัดควนมีดนะ

ส่วน ทางเลือก 3-4 แพงค่าเวนคืน และ ค่า เจาะอุโมงค์ 8000 เมตร แม้จะตัดค่า Rehab ทาง ออกไปแล้ว

ตอนนี้ ก็มีเสียงฮึ่มๆ จาก บ้านสวนกง ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ ที่จะตั้งท่าเรือ จะนะ แล้ว

REF: http://wbns.oas.psu.ac.th/shownews.php?news_id=83904

Wisarut · Posted: 11/12/2009 9:13 am Post subject:

เอกชนฝันสร้างรถไฟความเร็วสูงจากขอนแก่น-อุดร-หนองคาย

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
คอลัมน์ อสังหาริมทรัพย์
กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 11 ธันวาคม 2552 01:00

นายอำนาจ ผการัตน์ ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานการประชุมร่วม 3 จังหวัด คือ จ.อุดรธานี , ขอนแก่น,อุดรธานี และหนองคาย โดยเป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจราจร คือ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และสำนักงานเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (สภาพัฒน์ฯ) ตัวแทนของกรมการขนส่งทางบก กรมทางหลวง รวมถึงภาคเอกชน โดยมีตัวแทนจากบริษัท เทอดดำริ จำกัด เจ้าของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเชื่อมต่อจังหวัดขอนแก่น อุดรธานี และจังหวัดหนองคาย หรือโครงการไตรนครา และคณะกรรมการจราจรทางบก จ.อุดรธานี เข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟังและให้ความคิดเห็นจากโครงการดังกล่าว

ดร.สุพล ศิวิลัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เทอดดำริ จำกัด ได้ชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ของโครงการ ว่า โครงการดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่เป็นการลงทุนของเอกชนแต่ฝ่ายเดียว คือโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเชื่อมต่อ 3 จังหวัดคือ ขอนแก่น อุดรธานี ถึงหนองคาย ระยะทางประมาณ 240 กม. ซึ่งเป็นการก่อสร้างระบบขนส่งระบบรางขนาดใหญ่ด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูงและจากการที่มีเส้นทางที่ผ่านทั้ง 3 จังหวัด จึงให้ชื่อว่า ”โครงการไตรนครา”และเป็นโครงการก่อสร้างระบบรางที่เป็นรูปแบบใหม่ หรือเรียกว่าเป็นโครงการย้อนศร กล่าวคือแทนที่จะทำโครงการออกมาจากตัวเมืองหลวงหรือเมืองหลัก แต่กลับมาเริ่มโครงการจากส่วนภูมิภาคเข้าไปหาตัวเมืองหลัก หรือเมืองหลวง

“บริษัท เทอดดำริ จำกัด เป็นบริษัทที่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างการขนส่งระบบของการรถไฟแห่งประเทศไทยมาหลายโครงการแล้ว รวมถึงทางกรุงเทพมหานครด้วย รวมไปถึงการก่อสร้างระบบขนส่งระบบรางของ สปป.ลาว จากกรุงเวียงจันทน์-เมืองฮาตินห์ ประเทศเวียดนาม ซึ่งจะเข้าไปเริ่มลงมือก่อสร้างในต้นปี 2553 นี้ โดยหากว่าโครงการดังกล่าวเสร็จแล้ว ภาคอีสานจะได้รับผลประโยชน์มากมายจากการค้า การลงทุน การเดินทาง การท่องเที่ยว และโครงการ ”ไตรนครา” นี้ ถือว่าเป็นโครงการล่าสุด และจะเป็นโครงการของเอกชนของไทยและต่างประเทศ"

ดร.สุพล กล่าวถึงรายละเอียดของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเชื่อม 3 จังหวัดอีกว่า ในเบื้องต้นนี้จากการทำการศึกษาโครงการและความเป็นไปได้ จะใช้รถไฟฟ้ามาตรฐานของยุโรป (อียู) โดยจะใช้เทคโนโลยีของประเทศเยอรมันเป็นหลัก ซึ่งในขณะนี้มีบริษัทที่ทำรถไฟฟ้าความเร็วสูงอยู่ 4 บริษัท คือ อัลสะตอม, ซีเมน, ที.ที.ที. และ ซี.เอ.เอฟ. ซึ่งล้วนแต่บริษัทที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งสิ้น

รูปแบบของรางนั้นจะใช้พื้นที่เกาะกลางของถนนมิตรภาพเป็นพื้นที่ก่อสร้างตัวระบบ โดยจะใช้วิธีการก่อสร้างแบบยกระดับสูงจากพื้นดิน เป็นระบบ 2 ราง สวนไป-กลับ โดยที่รถไฟฟ้าจะไม่ต้องจอดรอหลีกเหมือนกับระบบเก่า และใต้คานของรางรถไฟฟ้า จะมีระบบขนส่งน้ำมันของ ปตท. และระบบขนส่งน้ำ

"ส่วนของเงินการลงทุนในโครงการนั้น ทางบริษัทเจ้าของโครงการจะเป็นผู้จัดหามาลงทุนเอง โดยไม่ต้องใช้งบประมาณของประเทศแต่อย่างใด รวมถึงข้อกังวลด้านต่างๆ ทางบริษัทฯรับรองว่าจะไม่เกิดผลกระทบ เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ของกลุ่มประเทศอียู ได้ทำหนังสือรับรองมาตรฐานของรถไฟฟ้าจากกลุ่มประเทศ อียู แล้ว จะไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด และในสาวนความเป็นไปได้นั้น โดยโครงการทำอยู่ในพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงไม่น่ามีปัญหา เพราะอาศัยข้อกฎหมายของ พ.ร.บ.การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น พ.ศ. 2542"

จากนั้นตัวแทนของหน่วยงานต่างๆ ได้แสดงความคิดเห็นทั้งเห็นด้วย และไม่ค่อยเห็นด้วย โดยมีการแสดงความเป็นห่วงในหลายๆ เรื่อง เช่น ตัวแทนของ สนข. ได้กล่าวว่า ในส่วนของ สนข.เองก็มีแผนงานโครงการที่จะทำระบบขนส่งมวลชนในส่วนภูมิอยู่แล้ว เช่น ที่ จ.ขอนแก่น ได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเทศบาลนครขอนแก่น ที่ทำโครงการรถไฟฟ้า โดยมีส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง ซึ่งโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้จะต้องมีหน่วยงานต่างๆ ของรัฐเข้าไปมีส่วนร่วม เนื่องจากประเทศไทยมีกฎหมาย และ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก โครงการดังกล่าวอาจจะขัดแย้งกับกฎหมาย หรือ พ.ร.บ.หลายๆ ฉบับได้ โดยน่าที่จะใช้พื้นที่ของการรถไฟไทยที่มีอยู่ทั่วประเทศจำนวนมากมาย ใช้ทำโครงการ

ในส่วนของตัวแทนสภาพัฒน์ฯ ภาคอีสาน กล่าวแสดงความเป็นห่วงในลักษณะเดียวกับตัวแทนของ สนข. นอกจากนี้ก็ยังกล่าวถึงความเป็นห่วงใยในส่วนที่จะเกิดผลกระทบด้านต่างๆ ของโครงการ โดยเฉพาะส่วนร่วมของประชาชน และการศึกษาความเป็นไปได้ และการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

ด้านนายอำนาจ ผการัตน์ ผวจ. อุดรธานี กล่าวกับตัวแทนของ บริษัท เทอดดำริ จำกัด ว่า แม้ว่าหลายหน่วยเห็นชอบในหลักการ และหลายหน่วยงานยังแสดงความเป็นห่วงต่อโครงการ ดังนั้นจึงต้องการให้เจ้าของโครงการกลับไปทำการศึกษารายละเอียด ความเป็นไปได้ รูปแบบของโครงการอย่างละเอียด กลับมาเสนอต่อที่ประชุมของคณะกรรมการจราจรทางบกจังหวัดทั้ง 3 จังหวัดใหม่อีกครั้งหนึ่ง

//-------------------------------------------------------------

ด้วยความเคารพนะครับท่านผู้ว่าฯ อุดรธานี, การสร้างทางรถไฟ โดยให้ ขนานไปกับ ถนนมิตรภาพ มันจะดีหรือครับ? ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า จะมีการปั่นราคาที่ดินหรือเปล่าครับท่าน และ ถ้าไม่ทำทางช่วงกรุงเทพ - โคราชให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเสียก่อนแล้ว การจะทำทางรถไฟ จากขอนแก่น ไป หนองคาย ชะรอย จะเป็นความคิด ของ ผู้ที่ หนีโรงเรียนตอนที่มีการเล่านิทานเรื่อง อึ่งอ่างกับวัว เป็นแน่แท้