ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

Mongwin · Posted: 21/12/2009 3:55 pm Post subject:

แนวเส้นทางทั้ง 4 เส้นทางครับ

Click on the image for full size

ที่มา : http://www.prachatai.com/journal/2009/12/27081

Wisarut · Posted: 21/12/2009 4:27 pm Post subject:

เพิ่มเติมจากประชาไทย:

แนวเส้นทางเลือกที่ 1 : ปากบารา – รัตภูมิ – ควนเนียง – จะนะ โดยเป็นเขตทางรถไฟใหม่ที่ต้องมีการเวนคืนที่ดิน ระยะทาง 107.4 กิโลเมตร เขตทางรถไฟเดิมของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ระยะทาง 53.2 กิโลเมตร ระยะทางรวม 160.6 กิโลเมตร

แนวเส้นทางเลือกที่ 2 : ปากบารา – รัตภูมิ – หาดใหญ่ – จะนะ โดยเป็นเขตทางรถไฟใหม่ที่ต้องมีการเวนคืนที่ดิน ระยะทาง 112.6 กิโลเมตร เขตทางรถไฟเดิมของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ระยะทาง 26.5 กิโลเมตร ระยะทางรวม 139.1 กิโลเมตร

แนวเส้นทางเลือกที่ 3 : ปากบารา – ควนกาหลง – คลองหอยโข่ง - บ้านพรุ – จะนะ โดยเป็นเขตทางรถไฟใหม่ที่ต้องมีการเวนคืนที่ดินทั้งหมด ระยะทาง 133.3 กิโลเมตร แต่ต้องมีการขุดอุโมงค์ลอดเทือกเขาบรรทัด ระยะทาง 8 กิโลเมตร

แนวเส้นทางเลือกที่ 4 : ปากบารา – ควนกาหลง – สะเดา – จะนะ เป็นเขตทางรถไฟใหม่ที่ต้องมีการเวนคืนที่ดินทั้งหมดเช่นกัน ระยะทาง 131.9 กิโลเมตร แต่ต้องมีการขุดอุโมงค์ลอดเทือกเขาบรรทัด ระยะทาง 8 กิโลเมตร

สำหรับการก่อสร้างทางรถไฟดังกล่าว จะก่อสร้างทางเดี่ยวก่อน แล้วเพิ่มเป็นทางคู่ โดยการตัดทางรถไฟสายใหม่จะมีเขตทาง 40 เมตร แต่ในเขตชุมชนจะมีเขตทาง 70 เมตร เพื่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟ ส่วนการก่อสร้างในเขตทางรถไฟเดิมของการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้นจะมีเขตทางสำหรับทางรถไฟในโครงการนั้น มีระยะ 40 เมตร นับจากแนวรางรถไฟเดิมของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับทางรถไฟเดิม

//----------------------------------------------------------------------------

หวยน่าจะออก แนวทางที่ 1 หรือ 2 เพราะ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ คงไม่ยอมให้เจาะอุโมงค์ 8000 เมตรผ่านลุ่มน้ำ A1 เป็นแน่

แต่งานนี้ Track Rehab ช่วง ควนเนียง - หาดใหญ่ - วัดควนมีด ต้องเป็นสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามา นอกเหนือจากการสร้างทางคู่ ควนเนียง - หาดใหญ่ - วัดควนมีด ถ้าเลือกแนวทางที่ 1

Mongwin · Posted: 21/12/2009 10:33 pm Post subject:

ถ้าเลือกแนวทางที่ 2
ชุมทางหาดใหญ่ จะเป็นชุมทางที่มีทางแยกมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Rolling Eyes

ไปกรุงเทพ ปาดังเบซาร์ สงขลา สุไหงโกลกและปากบารา

Wisarut · Posted: 23/12/2009 2:34 pm Post subject:

เขียนเรื่องรถไฟในช่วงที่ไม่มีใครนึกถึงดีกว่า
ประชาธิปไตยที่รัก
คมชัดลึก วันอังคารที่ 22 ธันวาคม 2552

คมชัดลึก : ช่วงนี้เรื่องราวของรถไฟดูเหมือนจะเงียบหายไปในสายลมอีกครั้งหนึ่ง และก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาสู่ความสนใจสาธารณะอีกครั้งเมื่อไหร่

แต่ไหนๆ ก็จะเข้าสู่ช่วงปีใหม่ ซึ่งก็คงจะมีข่าวเรื่องการจองตั๋วรถไฟที่แน่น และก็คงจะมีภาพข่าวความหนาแน่นของผู้โดยสารที่สถานีรถไฟ ก็เลยอยากจะพูดถึงเรื่องรถไฟสักหน่อย

ผมคิดว่าการแก้ปัญหาเรื่องของการบริหารจัดการรถไฟนั้น จะต้องคิดกันในสองเรื่องหลัก กล่าวคือ เรื่องของการปรับเปลี่ยนวิธีคิดในการบริหารจัดการรถไฟ และในเรื่องของการวางแผนพื้นที่ทั้งประเทศซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการบริหารจัดการรถไฟ

ในประการที่หนึ่ง เมื่อพูดถึงการบริหารจัดการรถไฟนั้น เรามักจะเข้าใจกันในภาพง่ายๆ ว่า จะให้รัฐหรือเอกชนทำดี ในความหมายของการไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ดำรงอยู่ หรือการให้เอกชนเข้ามาดำเนินกิจการ

ผมคิดว่าเรื่องที่สำคัญในตอนนี้อาจจะยังไม่ใช่ตัวแบบว่าเราจะบริหารจัดการรถไฟอย่างไรในภาพรวม แต่ส่วนที่จะต้องมีให้ได้ก็คือ เครือข่ายภาคประชาชนที่คอยจับตาและบริหารตรวจสอบการดำเนินกิจการรถไฟ

ยิ่งเมื่อเราเห็นแล้วว่า ที่ผ่านมาสหภาพการรถไฟฯ มักจะตอบคำถามสังคมไม่ค่อยได้ในเรื่องของคุณภาพและความมุ่งมั่นในการให้บริการประชาชนในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา (สหภาพอ้างว่าปกป้องผลประโยชน์ลูกจ้าง และผลประโยชน์ประเทศชาติ หรืออาจจะมองว่าหมายถึงประชาชน แต่สหภาพไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการแสดงออกซึ่งการปรับปรุงการให้บริการกับประชาชนเป็นเรื่องแรก) เราก็ยิ่งจะต้องมีเครือข่ายภาคประชาชนที่ตรวจสอบการให้บริการรถไฟ คือตรวจสอบทั้งผู้บริหารและสหภาพไปพร้อมๆ กัน

การตรวจสอบของเครือข่ายภาคประชาชนนั้น สามารถทำได้หลายทาง เช่น การทำแบบสอบถามกับผู้โดยสาร การมีเว็บไซต์เพื่อติดตามผลการบริการ เป็นต้น

ในประการที่สอง การพัฒนาและปรับปรุงการรถไฟฯ นั้นเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ เพราะรถไฟนั้นเป็นเทคโนโลยีสมัยโบราณที่เขาเลิกใช้กันไปแล้ว เพราะต้นทุนสูง รถไฟที่เราฝันจะมีนั้นเป็นรถไฟในอีกยุคหนึ่งคือรถไฟที่แพงกว่ารถยนต์ เรื่องนี้ต้องไม่หลงประเด็น ในแง่ว่าการปรับปรุงรถไฟนั้นไม่สามารถทำให้รถไฟราคาถูกกว่ารถทัวร์ หรือรถยนต์ได้ ทั้งตัวเทคโนโลยีเอง และการบริหารจัดการ รวมถึงการลงทุน อย่าลืมว่า รถทัวร์และรถยนต์นั้นผู้ให้บริการไม่ต้องแบกภาระถนน (หรือค่าผ่านทางก็ไม่แพงมาก) และถนนนั้นมีคนใช้ได้หลายอย่างพร้อมกัน ขณะที่รถไฟมีรางของตนเอง และต้องการการลงทุนสูง มีคนใช้ได้น้อย

รถไฟจะเหนือกว่ารถยนต์ก็ต่อเมื่อรถไฟวิ่งด้วยความเร็วที่สูงกว่า (ดังนั้นไม่ใช่รถไฟหวานเย็นที่ใช้กันตอนนี้) เพราะจะเป็นรถไฟที่วิ่งผ่านเมืองหลักสองเมือง ซึ่งเมืองเหล่านี้เรามีอยู่มาก แต่เราละเลยพัฒนา ซึ่งเมืองเหล่านี้ก็คือหัวเมืองหลักในยุคอาณาจักรของเรา ที่วางตามลุ่มน้ำหลัก อาทิ นครสววรค์ พิษณุโลก สุโขทัย ประจวบคีรีขันธ์ ขอนแก่น นครราชสีมา ซึ่งเมืองเหล่านี้จะใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณห้าชั่วโมง หรือถ้าบินก็จะเสียเวลาการเดินทางไปกลับสนามบินและพิธีกรรมการบินที่วุ่นวาย

ดังนั้นรถไฟความเร็วสูงย่อมได้เปรียบ และเป็นทางเลือกจากรถทัวร์ที่ถูกกว่า และจากเครื่องบินที่อาจแพงกว่า หรือเท่ากัน แต่ยุ่งยากเมื่อเทียบกับต้นทุนที่ต้องจ่ายแท็กซี่ไปกลับสนามบิน ขณะที่รถไฟขึ้นในเมืองได้ แต่การจะพัฒนาเรื่องนี้จะผลักให้เป็นเรื่องของการรถไฟฯ อย่างเดียวไม่ได้ ต้องมองการวางแผนพัฒนาพื้นที่ในภาพรวมให้ออกก่อน แล้วมองว่ารถไฟเป็นส่วนหนึ่งในนั้น ซึ่งถ้ามองเป็นระบบเช่นนี้เราจะพบกับการวางแผนพัฒนาภูมิภาคแนวใหม่ ที่ต้องมีกลไกการวางแผนที่ดีกว่า จังหวัด สภาพัฒน์ และการรถไฟฯ แต่อาจจะต้องมีการสร้างองค์กรใหม่ในการวางแผนพัฒนาพื้นที่ที่เชื่อมโยงกับการทำงานขององค์กรปกครองท้องถิ่นของจังหวัดเหล่านั้น

ไม่รักไม่เขียนถึงหรอกครับ...

BanPong1 · Posted: 24/12/2009 2:06 pm Post subject:

Wisarut · Posted: 25/12/2009 1:07 pm Post subject:

รถไฟช่วงปีใหม่บุรีรัมย์ถูกจองตั๋วเต็มหมดแล้วทั้งขาขึ้น-ขาล่อง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 ธันวาคม 2552 19:14 น.

บุรีรัมย์ - บุรีรัมย์เตรียมเสริมขบวนรถไฟเที่ยวขาขึ้น 3 เที่ยวและขาล่อง 2 เที่ยว รับเทศกาลปีใหม่ ส่วนตั๋วได้ถูกจองเต็มทั้งไป-กลับแล้ว ขณะนายสถานีรถไฟประกาศเตือนปชช.ไม่ควรดื่มสุราก่อนเดินทาง ทั้งห้ามผู้โดยสารขึ้นนั่งบนหลังคาเด็ดขาด เกรงพลัดตกรถบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

วันนี้ ( 24 ธ.ค.52) นายสวัสดิ์ ปานน้อย นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 นี้ ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้เพิ่มขบวนรถไฟเที่ยวขาขึ้นสายกรุงเทพฯ – อุบลราชธานี เพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางกลับมาเที่ยวเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ยังภูมิลำเนา ในวันที่ 30 – 31 ธ.ค. 2552 จำนวน 3 เที่ยว จากปกติมีขบวนรถไฟวิ่งให้บริการประชาชนวันละ 10 เที่ยว

อย่างไรก็ตามขณะนี้ตั๋วรถไฟเที่ยวขาล่องที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ได้ถูกจองเต็มตั้งแต่วันที่ 25 – 31 ธ.ค. 2552 เต็มหมดทุกที่นั่งแล้ว เพราะเกรงจะมีผู้คนเดินทางหนาแน่นไม่มีที่นั่ง ขณะที่ตั๋วรถไฟเที่ยวขาขึ้นปลายทางกรุงเทพฯ ก็ได้ถูกจองเต็มไว้ล่วงหน้าไปจนถึงวันที่ 4 ม.ค. 2553 เช่นกัน ซึ่งหากไม่เพียงพอทางสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ก็จะได้ประสานกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้มีการเสริมโบกี้หรือขบวนรถอีก จนเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนทั้งไปและกลับ เพื่อระบายผู้โดยสารไม่ให้ตกค้าง

“ขอแจ้งเตือนประชาชน และผู้โดยสาร ไม่ควรดื่มสุราระหว่างเดินทาง ทั้งห้ามขึ้นไปนั่งบนหลังคาโบกี้รถไฟโดยเด็ดขาด เพราะเกรงจะเกิดอุบัติเหตุพลัดตกได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตได้” นายสวัสดิ์ กล่าว

nop2 · Posted: 25/12/2009 2:28 pm Post subject:

Wisarut · Posted: 25/12/2009 3:31 pm Post subject:

ศูนย์ภาคใต้การรถไฟเตรียมหัวรถจักรสำรองรับการเดินทางช่วงปีใหม่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 ธันวาคม 2552 10:21 น.

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ -
วันนี้ (25 ธ.ค.) นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้การถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวถึงมาตรการเตรียมความพร้อมของรถไฟ เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ว่า ได้มีการซ่อมแซมหัวรถจักรทุกขบวนทั้งขบวนท้องถิ่น และขบวนรถทางไกลให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด และได้สั่งอะไหล่มาสำรองเอาไว้เพื่อทดแทนระบบที่ชำรุดซึ่งมีทีมช่างและฝ่ายเทคนิคคอยตรวจสภาพอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ยังได้เตรียมหัวรถจักรสำรองเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากรณีหัวรถจักรเกิดเสียระหว่างทาง เพื่อให้สามารถนำไปสับเปลี่ยนได้ทันเวลาโดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อความสะดวกในการเดินทางของผู้โดยสาร ซึ่งขณะนี้มีการจองตั๋วล่วงหน้ารถไฟสายใต้ทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ทั้งขาขึ้นและขาล่องเต็มตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคมไปจนถึง 4 มกราคมซึ่งมีการเดินทางหนาแน่นที่สุด

ส่วนบรรยากาศที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา มีประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดทางภาคอีสานและภาคเหนือ ที่มาทำงานอยู่ใน จ.สงขลา แม้จะยังไม่ถึงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ แต่หลายครอบครัวบอกว่าจำเป็นต้องเดินทางล่วงหน้า เพื่อความสะดวกเพราะขณะนี้จำนวนผู้โดยสารยังไม่มากนัก หากรอเดินทางใกล้ถึงช่วงปีใหม่เกรงว่าตั๋วรถไฟอาจจะเต็ม และไม่สะดวกเพราะต้องต่อรถหลายช่วงกว่าจะถึงปลายทาง ที่สำคัญการเดินทางล่วงหน้าจะสามารถอยู่ร่วมฉลองเทศกาลปีใหม่กับครอบครัวหลายวัน

Wisarut · Posted: 28/12/2009 9:57 am Post subject:

รัฐเตรียมขนคนปีใหม่รถไฟ-บขส.รถตู้
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหา Real
ออนไลน์เมื่อ วันอังคารที่ 22 ธันวาคม 2009 เวลา 10:07 น.
พิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,490 24-26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

คมนาคมรับมือเทศกาลปีใหม่เต็มที่เสริมบริการสาธารณะทั้ง รถไฟ-บขส.-รถตู้เต็มพิกัดรับคลื่นมหาชนเดินทางกลับบ้าน มอเตอร์เวย์ฟรี 10 วัน ด้านบขส.เสริมรถกว่า 2,300 เที่ยว ส่วนรถไฟเสริม194 ขบวน รถฟรียังมีบริการ

นางสาวมณฑกาญจน์ ศรีวิลาศ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)เปิดเผยว่า ได้จัดเดินขบวนรถเสริมอีก 194 ขบวน จากที่วิ่งบริการอยู่ในปัจจุบันวันละ 254 ขบวน โดยเฉพาะขบวนรถให้บริการฟรีในเส้นทางต่าง ๆ จำนวนมากถึง 172 ขบวน แบ่งเป็นรถเร็วธรรมดาจำนวน 8 ขบวน และรถไฟชั้น 3 จำนวน 164 ขบวน ซึ่งจะเพิ่มโบกี้จากปกติขบวนละ 10 โบกี้ เพิ่มอีก 5-6 โบกี้ ในเส้นทางต่าง ๆ ที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมากคาดว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50,000 คนต่อวันและจะรองรับได้ตลอดช่วงเทศกาลนี้รวมทั้งหมดประมาณ 150,000 คน ส่วนรถไฟฟรีก็ยังมีบริการเช่นกัน