RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312064
ทั่วไป:13662968
ทั้งหมด:13975032
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 77, 78, 79 ... 489, 490, 491  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47385
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/01/2010 7:25 pm    Post subject: โสภณ สั่ง รฟท.แก้ปัญหาจุดตัดรถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง Reply with quote

โสภณ สั่ง รฟท.แก้ปัญหาจุดตัดรถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง

ฉะเชิงเทรา 8 ม.ค.53 - นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเดินทางตรวจเยี่ยมพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา -ศรีราชา-แหลมฉบัง พร้อมผู้บริหารกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยระบุว่า จากการตรวจความคืบหน้าของงาน พบว่าขณะนี้งานก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วร้อยละ 52 แต่การเบิกจ่ายงบประมาณมีเพียงร้อยละ 38 ซึ่งเรื่องนี้ขอให้ รฟท. บริษัทที่ปรึกษาและผู้รับเหมาโครงการไปพิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล หากโครงการมีการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้าก็จะส่งผลต่อความล่าช้าในการเบิกจ่าย งบประมาณในภาพรวมของกระทรวงคมนาคมด้วย

นอกจากนี้ยังขอให้ผู้บริหาร รฟท.ไปเร่งแก้ปัญหาจุดตัดของทางรถไฟกับถนน ซึ่งจากเดิมที่การก่อสร้างรถไฟทางคู่นี้จะมีการกั้นรั้ว เพื่อไม่ให้มียานพาหนะอื่นตัดขวางเส้นทาง ซึ่งจะช่วยให้รถไฟที่วิ่งขนส่งสินค้าสามารถทำเวลาและความเร็วได้ แต่จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าระยะทางตลอดเส้นทางของโครงการ 78 กิโลเมตร มีจุดตัดทั้งสิ้น 53 แห่ง ซึ่งจุดตัดเหล่านี้มีชุมชนที่อยู่อาศัยทั้ง 2 ฝั่งของเขตทางรถไฟ ซึ่งจะต้องมีการเดินทางเชื่อมโยงไปมา และเดิมบริษัทที่ปรึกษาออกแบบเตรียมทำประตูผ่านเข้าออกรั้วเขตทาง เพื่อข้ามไปมา ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจจะไม่เกิดความคล่องตัว ดังนั้น ได้ให้ผู้บริหาร รฟท.กลับไปพิจารณาสร้างสะพานข้ามทางรถไฟหรืออุโมงค์ลอดทางรถไฟ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและความสะดวกของประชาชนที่อยู่ใน 2 ข้างทาง

หาก การดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้งบประมาณของโครงการต้องปรับสูงขึ้น ก็ให้ไปพิจารณางบประมาณของ รฟท.ที่เหลือว่าจะมีวงเงินใดนำมาใช้ปรับปรุงได้บ้าง หากมีงบประมาณไม่เพียงพอกระทรวงคมนาคมและรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนงบประมาณ เพิ่มเติม ทั้งนี้ การดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนที่อยู่ 2 ข้างทางนั้น เป็นไปตามนโยบายที่กระทรวงคมนาคมประกาศว่าให้ปี 2553 เป็นปีแห่งความปลอดภัยในการคมนาคมของประเทศ

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า สัปดาห์หน้าสั่งให้บริษัทที่ปรึกษาสำรวจพื้นที่จุดตัดทั้ง 53 แห่ง โดยให้มีการไปพูดคุยกับชาวบ้านชุมชนใกล้เคียงว่ามีความต้องการให้ก่อสร้าง สะพานหรืออุโมงค์ในการข้ามทางรถไฟในโครงการรถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง ซึ่ง รฟท.พร้อมดำเนินการตามนโยบายกระทรวงคมนาคม เบื้องต้นการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟขนาด 1 เลน ใช้งบประมาณประมาณ 15 ล้านบาท หากขุดอุโมงค์ใช้งบประมาณ เบื้องต้น 10 ล้านบาท โดย รฟท.จะพิจารณาในการจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่แล้วมาดำเนินการ หากไม่เพียงพอก็จะมีการเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อไป.- สำนักข่าวไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44022
Location: NECTEC

PostPosted: 11/01/2010 1:45 am    Post subject: Reply with quote

บอร์ด รฟท.แจงคืบหน้าปรับโครงสร้าง ทาบ 3 ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 มกราคม 2553 10:23 น.


นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ในฐานะประธานบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. เปิดเผยว่า กรณีความคืบหน้าในการปรับโครงการการทำงานของ รฟท. ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งสรุปให้มีการจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นใหม่ เพื่อดูแลบริหารงานของ รฟท. โดยขณะนี้เหลือเพียงขั้นตอนการทาบทามผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันพระปกเกล้า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือ ก.พ.ร. และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ รวม 3 ท่าน เพื่อดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ ในเบื้องต้นได้รับคำยืนยันเข้าดำรงตำแหน่งจากบุคลากรบางท่านแล้ว คาดว่ามีความชัดเจนภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ และวางโครงสร้างบุคลากรแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม

นายสุพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงสร้างการบริหารงานดังกล่าว มีตนทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการ ส่วนคณะกรรมการในเบื้องต้นประกอบด้วย นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา กรรมการและประธานกรรมการตรวจสอบการรถไฟแห่งประเทศไทย พล.ต.ท.บริหาร เสี่ยงอารมณ์ คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้แทนจากกระทรวงคมนาคม และผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างจาก ก.พ.ร.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44022
Location: NECTEC

PostPosted: 11/01/2010 5:43 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมเร่งยกเครื่องรถไฟ ฯ
คอลัมน์ Real Estate - อสังหาฯ Real Estate
เขียนโดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 08 มกราคม 2010 เวลา 12:35 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสัง
พิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,495 10 - 13 มกราคม พ.ศ. 2553

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าล่าสุดได้เซ็นข้อตกลงความร่วมมือเบื้องต้น (เอ็มโอยู ) กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี (บางมด) เพื่อผลิตบุคลากร ระดับปริญญาตรี ด้านวิศวกรรมรถไฟรองรับแผนการพัฒนาบริการของ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นการผลิตนักศึกษาใหม่ และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นการฝึกอบรมบุคลากรของร.ฟ.ท. ที่มีอยู่แล้วให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้ กำลังอยู่ระหว่างการร่างหลักสูตรการเรียนการสอน คาดว่าจะเริ่มรับสมัครนักศึกษาใหม่ได้ทันภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษาปี 2553

วัตถุประสงค์หลักของการผลิตบุคลากรส่วนหนึ่งเพื่อรองรับแผนการพัฒนารถไฟแล้วยังเป็นการเตรียมความพร้อมของบุคลากรเพื่อรองรับ โครงการรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ส่วนต่อขยาย ทั้งแอร์พอร์ตลิงค์ สายสีม่วง สีน้ำเงิน สีแดง ที่กำลังจะเปิดบริการใน 5-6 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้บุคลากรทั้งฝ่ายวิศวกรรมและช่างนับ1,000คน แต่ยังไม่มีสถาบันใดผลิตบุคลากรทางด้านนี้โดยตรง จึงจำเป็นต้องเร่งผลิตบุคลากรรองรับ

ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวอีกว่าเริ่มต้นเทอมแรกน่าจะรับนักศึกษาใหม่ได้ราว 100-150 คน รวมกับพนักงานของร.ฟ.ท.อีก 100 คน ที่ส่งไปฝึกอบรมคาดว่าภายใน 2-3 ปีน่าจะผลิตบุคลากรได้ราว 700 คน โดยจะใช้โครงการแอร์พอร์ตลิงค์ รองรับเป็นสถานที่ฝึกงาน รวมทั้งอาจจะมีการรื้อฟื้นโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟที่ปิดไปแล้วอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีแผนจัดโครงสร้าง ร.ฟ.ท.ใหม่เพื่อรองรับการพัฒนา โดยตั้ง 3 หน่วยธุรกิจ และ 1 บริษัทลูก โดย คณะกรรมการและผู้บริหารร.ฟ.ท.จะทำความเข้าใจกับพนักงานทั้งหมด เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ได้รับอยู่จะไม่ลดลง แต่จะเพิ่มขึ้น โดยจะประเมินประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละหน่วยธุรกิจ เพื่อนำผลกำไรมาจ่ายเงินโบนัสพนักงาน เชื่อว่าพนักงานรวมทั้งสหภาพแรงงานฯจะเข้าใจและยอมรับการปรับโครงสร้าง

ส่วนหน่วยธุรกิจที่จะจัดตั้งขึ้น ประกอบด้วย

1.ฝ่ายการเดินรถให้บริการขนส่งสินค้า
2.ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ทำหน้าที่พัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์ และ
3.ฝ่ายการช่างกล มีหน้าที่ซ่อมบำรุง

ขณะที่บริษัทลูก ทำหน้าที่บริหารจัดการเดินรถในโครงการแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ เพราะในอนาคตบริษัทนี้ต้องรับผิดชอบการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อ-รังสิต ด้วย

ทั้งนี้หลังคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้อนุมัติงบ 1 แสนล้านเพื่อพัฒนาสภาพรางรถไฟ จัดหาหัวรถจักรและขบวนรถ รวมทั้งก่อสร้างรถไฟทางคู่ แล้วยังเตรียมของบอีก 5 หมื่นล้านเพื่อก่อสร้างรถไฟรางคู่ ซึ่งจะเสนอ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ในเร็ว ๆ นี้ส่งผลให้งบรวมอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท

สำหรับโครงการที่จะดำเนินการในวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท เช่น เพิ่มขนาดรางเป็น 100 ปอนด์ ระยะทาง 2,835 กม. เปลี่ยนไม้หมอนคอนกรีต 1,382 กม. ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณไฟสี 230 สถานี ปรับปรุงสะพาน 1,321แห่ง ส่วนนี้จะใช้งบรวม 63,200 ล้านบาท หลังปรับปรุงแล้วเสร็จ จะช่วยให้ความเร็วของรถขนส่งผู้โดยสารเพิ่มเป็น 120 กม.ต่อชม. ความเร็วรถขนส่งสินค้าเพิ่มเป็น 80 กม.ต่อชม. ปัจจุบันอยู่ที่ 50-60 กม.ต่อชม.

นอกจากนี้ยังมีแผนปรับปรุงหัวรถจักร โดยแบ่งเป็นจัดหาหัวรถจักร 77 คัน ซ่อมบำรุงอีก 56 คัน และขบวนรถ ประกอบด้วย รถจักรดีเซลไฟฟ้า 27 คัน รถจักรดีเซลไฟฟ้าทดแทนรถจีอี 50 คัน รถโดยสารรูปแบบชุด 6 ขบวน (13-14 ตู้ต่อ 1 ขบวน) รถโดยสารดีเซลปรับอากาศ 20 ขบวน รถดีเซลราง 58 คัน และการปรับปรุงรถจักรเดิม 56 คัน ส่วนนี้จะใช้งบ 26,782 ล้านบาท ส่วนการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วนจะมี 5 เส้นทาง

"เมื่อมีการพัฒนาตามแผนงานแล้ว ขีดความสามารถการขนส่งผู้โดยสารจะเพิ่มเป็นวันละ 417 ขบวน จากปัจจุบัน 202 ขบวน ขนส่งผู้โดยสารได้เป็นปีละ 97 ล้านคน จากปีละ 47 ล้านคน ส่วนการขนส่งสินค้าจะเพิ่มเป็นวันละ 216 ขบวน จากปัจจุบัน 62 ขบวน โดยจะเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าปีละ 63 ล้านตัน จากปัจจุบัน 12 ล้านตัน"

นายสุพจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งเป้าไว้ภายใน 5 ปีต้องลดสัดส่วนค่าขนส่งของประเทศหรือ LOGISTIC COST ให้เหลือ10-12%ของจีดีพี จากปัจจุบันอยู่ที่ 18.4%ของจีดีพี ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้ปีละ 10,970 ล้านบาท โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางราง จากปัจจุบัน 2% เป็น 5%
Back to top
View user's profile Send private message
BanPong1
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 07/12/2006
Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี

PostPosted: 11/01/2010 10:04 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:

ทั้งนี้หลังคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้อนุมัติงบ 1 แสนล้านเพื่อพัฒนาสภาพรางรถไฟ จัดหาหัวรถจักรและขบวนรถ รวมทั้งก่อสร้างรถไฟทางคู่ แล้วยังเตรียมของบอีก 5 หมื่นล้านเพื่อก่อสร้างรถไฟรางคู่ ซึ่งจะเสนอ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ในเร็ว ๆ นี้ส่งผลให้งบรวมอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท

สำหรับโครงการที่จะดำเนินการในวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท เช่น เพิ่มขนาดรางเป็น 100 ปอนด์ ระยะทาง 2,835 กม. เปลี่ยนไม้หมอนคอนกรีต 1,382 กม. ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณไฟสี 230 สถานี ปรับปรุงสะพาน 1,321แห่ง ส่วนนี้จะใช้งบรวม 63,200 ล้านบาท หลังปรับปรุงแล้วเสร็จ จะช่วยให้ความเร็วของรถขนส่งผู้โดยสารเพิ่มเป็น 120 กม.ต่อชม. ความเร็วรถขนส่งสินค้าเพิ่มเป็น 80 กม.ต่อชม. ปัจจุบันอยู่ที่ 50-60 กม.ต่อชม.

นอกจากนี้ยังมีแผนปรับปรุงหัวรถจักร โดยแบ่งเป็นจัดหาหัวรถจักร 77 คัน ซ่อมบำรุงอีก 56 คัน และขบวนรถ ประกอบด้วย รถจักรดีเซลไฟฟ้า 27 คัน รถจักรดีเซลไฟฟ้าทดแทนรถจีอี 50 คัน รถโดยสารรูปแบบชุด 6 ขบวน (13-14 ตู้ต่อ 1 ขบวน) รถโดยสารดีเซลปรับอากาศ 20 ขบวน รถดีเซลราง 58 คัน และการปรับปรุงรถจักรเดิม 56 คัน ส่วนนี้จะใช้งบ 26,782 ล้านบาท ส่วนการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วนจะมี 5 เส้นทาง

"เมื่อมีการพัฒนาตามแผนงานแล้ว ขีดความสามารถการขนส่งผู้โดยสารจะเพิ่มเป็นวันละ 417 ขบวน จากปัจจุบัน 202 ขบวน ขนส่งผู้โดยสารได้เป็นปีละ 97 ล้านคน จากปีละ 47 ล้านคน ส่วนการขนส่งสินค้าจะเพิ่มเป็นวันละ 216 ขบวน จากปัจจุบัน 62 ขบวน โดยจะเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าปีละ 63 ล้านตัน จากปัจจุบัน 12 ล้านตัน"

นายสุพจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งเป้าไว้ภายใน 5 ปีต้องลดสัดส่วนค่าขนส่งของประเทศหรือ LOGISTIC COST ให้เหลือ10-12%ของจีดีพี จากปัจจุบันอยู่ที่ 18.4%ของจีดีพี ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้ปีละ 10,970 ล้านบาท โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางราง จากปัจจุบัน 2% เป็น 5%


อยากให้ผู้บริหาร+ผู้มีอำนาจ ทำสัญญากับประชาชนทั้งประเทศจังเลยครับ
ว่า "จะทำตามที่กล่าวไว้ทุกประการ" อย่าให้เป็นแค่ความฝันนะครับ

ผมจำได้ว่า
"รถดีเซลราง" แบบไม่ปรับอากาศเพื่อมาใช้้กับรถท้องถิ่นนี่เราซื้อมาใช้ล็อตหลังสุดคือพวก THN NFK เมื่อจะเือบ 30 ปีแล้วนะครับ
"รถโดยสารดีเซลปรับอากาศ" นี่ก็ล็อตสุดท้ายราว 15 ปีได้แล้วกระมัง ระยะเวลาพอๆกับรถจักรดีเซลคันล่าสุดที่ซื้อมา
"รถโดยสารรูปแบบชุด 6 ขบวน" นี่ก็อยากเห็นครับจะได้เป็นหน้าเป็นตาประเทศชาติสักที

จอให้เป็นความจริงนะครับ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
therock
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 25/09/2007
Posts: 1575
Location: อดีตเด็กมหาชัย

PostPosted: 11/01/2010 10:08 pm    Post subject: Reply with quote

สั่งมาแล้วจะเอาไปใช้วิ่งไกลเกินจนสภาพโทรมเร็วอีกหรือเปล่านะสิครับ
Back to top
View user's profile Send private message
BanPong1
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 07/12/2006
Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี

PostPosted: 11/01/2010 11:00 pm    Post subject: Reply with quote

therock wrote:
สั่งมาแล้วจะเอาไปใช้วิ่งไกลเกินจนสภาพโทรมเร็วอีกหรือเปล่านะสิครับ


นั่นสิครับ ผิดวัตถุประสงค์หมดเลย
ผมสังเกตุว่าเจ้าพวกรถ THN NFK ไม่ค่อยจะเห็นวิ่งรถชานเมืองเลย
จริงๆแล้วมัเหลืออยู่สักกี่คันนะครับ
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44022
Location: NECTEC

PostPosted: 12/01/2010 1:08 pm    Post subject: Reply with quote

BanPong1 wrote:
therock wrote:
สั่งมาแล้วจะเอาไปใช้วิ่งไกลเกินจนสภาพโทรมเร็วอีกหรือเปล่านะสิครับ


นั่นสิครับ ผิดวัตถุประสงค์หมดเลย
ผมสังเกตุว่าเจ้าพวกรถ THN NFK ไม่ค่อยจะเห็นวิ่งรถชานเมืองเลย
จริงๆแล้วมัเหลืออยู่สักกี่คันนะครับ


ผิดวัตถุประสงค์กระไรได้!
ก็ในเมือวิ่งชานเมืองมันไม่ได้เงิน ก็ต้อง เอา ไป วิ่งระหว่าเมือง เป็นรถเร็วรถด่วนไปตามเรื่อง! นี่แหละ ผลของ Price control จนเกินการ ทำให้ ของขาดตลาด เช่นนี้แล

//-------------------------------------------------------------------------------------
อพท.ชงรถไฟรางคู่สุวรรณภูมิ-พัทยา
อพท. ชงอภิ โปรเจกต์รถไฟรางคู่-โมโนเรล เชื่อมสุวรรณภูมิ-พัทยา

โพสต์ทูเดย์ วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553



พล.อ.สุนทร ขำคมกุล ประธานองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารเมืองพัทยา และ ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เชื่อมโยงว่า จะเสนอแผนแม่บทการบริหารการพัฒนาเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยงเพื่อเสริมศักยภาพการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชน ซึ่งมีทั้งรถไฟรางคู่ และ รถรางโมโนเรลต่อรัฐบาลในเร็วๆ นี้
พล.อ.สุนทร กล่าวว่า แผนแม่บท ดังกล่าวมีหัวข้อหลัก 2 ประการ คือ 1.การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิม 2.สร้างจุดท่องเที่ยวใหม่และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโต

“โครงการหลักประกอบด้วย 1.พัฒนาพื้นที่เปลี่ยนถ่ายการสัญจรระยะเร่งด่วน 5 ปี โดยจะเสนอก่อสร้างรถไฟรางคู่จากสนามบินสุวรรณภูมิมายังพัทยา รองรับด้วยระบบรถรางไฟฟ้าโมโนเรล 2.โครง การพัฒนาพื้นที่หน้าหาดพัทยา ด้วยการขยายพื้นที่ชายหาดในระยะ 50 เมตร การก่อสร้างถนน 2 ชั้นบริเวณชายหาดที่มีระบบรถรางไฟฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการขนส่ง 3.โครงการพัฒนาพื้นที่แหลมบาลีฮาย ระยะเร่งด่วน 5 ปี และ 4.โครงการพัฒนาพื้นที่นาเกลือ ระยะเร่งด่วน 5 ปี” พล.อ.สุนทร กล่าว

พล.อ.สุนทร กล่าวว่า ผู้บริหารเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยงต่างเห็นชอบกับแผนแม่บทดังกล่าว จากนี้จะดำเนินการรับฟังประชามติ และประชาพิจารณ์จากประชาชน เพื่อรวบรวมเสนอต่อหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความเห็นชอบ ก่อนจะนำเรื่องเสนอตรงต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อขอจัดความเห็นชอบและอนุมัติงบประมาณในการดำเนินการต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
therock
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 25/09/2007
Posts: 1575
Location: อดีตเด็กมหาชัย

PostPosted: 12/01/2010 1:56 pm    Post subject: Reply with quote

เรื่องวิ่งรถชานเมืองแล้วขาดทุนคิดแต่ว่ายังไงได้เงินเร็วแต่ในความเป็นจริงเราเอาไปวิ่งไกลเกินความเป็นจริงทำให้ตัวรถชำรุดเร็วกว่าปกติรวมทั้งยังไปเจออุบัติเหตุกันเป็นจำนวนมากยิ่งวิ่งไกลเกินความชำรุดก็เยอะทำให้ต้องมาเสียเงินค่าซ่อมและทำให้อายุของเครื่องยนตร์และตัวรถเสื่อมลงเร็วขึ้นด้วยนะครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44022
Location: NECTEC

PostPosted: 18/01/2010 11:20 pm    Post subject: CY ที่กันตัง Reply with quote

กันตังพัฒนาสถานีรถไฟอันดามัน

ข่าวสดรายวัน ปีที่ 19 ฉบับที่ 6989 วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553

ตรัง - นายสมเกียรติ ภาษีทวีเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองกันตัง เปิดเผยว่า กันตังเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดตรังที่มีศักยภาพหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการประมง การส่งออกและการท่องเที่ยว ถือเป็นเขตปกครองที่มีแผนพัฒนาศักยภาพเมืองให้มีความเจริญ เนื่องจากเป็นเมืองประวัติศาสตร์การค้าทางทะเลฝั่งอันดามัน อีกทั้งมีสถานีรถไฟจากกรุงเทพฯ มาถึงกันตังโดยตรง รู้จักกันดีในวงการท่องเที่ยวว่ารถไฟสุดสายอันดามัน

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ถึงวันนี้ตนในฐานะผู้บริหารท้องถิ่นจึงมีแนวคิดจะพัฒนาสถานีรถไฟกันตังสุดสายทะเลฝั่งอันดามัน ซึ่งขึ้นทะเบียนกับศิลปากรที่ 18 ภูเก็ต เมื่อปี 2539 โดยจะปรับปรุงตัวอาคารสถานีเนื้อที่ 1.5 ไร่ ให้กรมศิลปากรเป็นผู้ปรับปรุงด้วยการทาสีใหม่ ส่วนพื้นที่ 20 ไร่ บริเวณโดยรอบสถานีทางเทศบาลจะเข้าไปปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ

"นอกจากนี้ ยังจัดแบ่งพื้นที่วางกองตู้คอน เทนเนอร์สินค้า โดยอาศัยขบวนรถไฟชักลากเพื่อสร้างรายได้ให้กับการรถไฟเอง ซึ่งจะมีการปรับปรุงระบบรางรถไฟจากสถานีตรัง-กันตัง เพื่อสร้างความเจริญให้กับท้องถิ่นด้วยการวางตู้คอนเทนเนอร์ระบบซีไวน์ ทั้งนี้ นอกจากจะสร้างรายได้ให้กับการรถไฟฯแล้วยังสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นอีกด้วย" นายสมเกียรติ กล่าว

//----------------------------------------------

หวังใจว่า จะเอา ราง 70 ปอนด์ หมอนคอนกรีต ที่ ลิจาก ทางช่วงหัวหิน - ทุ่งสง มาเปลี่ยนกับราง 50-60 ปอนด์ ได้แล้ว
Back to top
View user's profile Send private message
ksomchai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2009
Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู

PostPosted: 19/01/2010 6:42 am    Post subject: Reply with quote

Laughing นายกเทศมนตรีนครสงขลา-นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ น่าจะนำตัวอย่างไปพัฒนา

รื้อฟื้นเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์หาดใหญ่-สงขลา นะครับ
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 77, 78, 79 ... 489, 490, 491  Next
Page 78 of 491

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©