View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47395
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/01/2010 7:26 am Post subject: |
|
|
ksomchai wrote: | นายกเทศมนตรีนครสงขลา-นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ น่าจะนำตัวอย่างไปพัฒนา
รื้อฟื้นเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์หาดใหญ่-สงขลา นะครับ |
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับพี่สมชาย
สงขลากับกันตัง ในแง่ของสถานีรถไฟเปรียบเหมือนคู่แฝดกันเลย
-อาคารสถานีก็ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานทั้งคู่
-เปิดเดินรถในยุคสมัยใกล้เคียงกัน
-มีท่าเรือขนส่งสินค้าเช่นเดียวกัน
-ตรังกับกันตัง เป็นเส้นทางเชื่อมสองเทศบาลเหมือนสงขลา-หาดใหญ่ |
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 19/01/2010 12:17 pm Post subject: |
|
|
เรื่อง การพัฒนา เส้นทางสายใหญ่ - สงขลา โอกาสแจ้งเกิดมีมากกว่า สายทุ่งสง - ตรัง - กันตัง ครับ
คงเปรียบเทียบด้วยปัจจัยในสภาวะปัจจุบัน และอนาคต ข้างหน้า
เหตุผลส่วนตัวของผม ในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง มีดังนี้
สายหาดใหญ่ สงขลา
1.เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมต่อ ระหว่าง สองชุมชนขนาดใหญ่ ที่การขนส่งทางถนนมีข้อจำกัดมากขึ้น และส่งผลต่อการจราจร ที่คับคั่ง
2.รวมถึงการพัฒนาให้เมืองหาดใหญ่ เป็นจุดศูนย์การในการค้า การขนส่งระหว่างสองทะเล
2.1 การขนส่งที่ใช้ระบบรางขนส่งจาก ท่าเรือฝั่งอันดามันที่เป็นท่าเรือน้ำลึก (ที่เรือขนส่งที่กินน้ำลึกขนาด 25 เมตร เข้าเทียบท่าแบบสบาย ๆ) จาก จ.สตูล มา ที่ อ.หาดใหญ่ และขนส่งสู่ภาคเหนือ อิสาน ในประเทศไทย มาสู่ภูมิภาคในอนุภาคลุ่มน้ำโขง (GMS)
(ที่มีผลต่อการสร้างระบบรางจากเด่นชัย เชียงราย ขนานกับสาย R 3 จากสปล. ไป จีน)
2.2 มองว่าประเทศไทยมีท่าเรือฝั่งอันดามันเพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่สนับสนุนการส่งออก คำตอบ คือ ที่หาดใหญ่มีนิคมอุตสาหกรรม ที่สนับสนุนกิจกรรมหลังท่าเรือได้มากมาย เช่น
2.2.1 การแปรรูปสินค้าเกษตร กับอุตสาหกรรมอาหาร เข้าสู่ตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่ได้เครื่องหมาย ฮาลาล ที่ใช้วัตถุดิบทั้งในบ้านเรา และจากภูมิภาค ในอนุภาคลุ่มน้ำโขง มาแปรรูปที่นี่ ผลคือ คนไทยในเขต 5 จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะที่นับถือศาสนา อิสลาม ที่เข้าใจ การบริโภค และรู้การทำอาหาร ที่มาต่อยอดให้คนในพื้นที่มีการสร้างรายได้ และสร้างการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้
2.2.2 ภาคการส่งออก ที่สามารถส่งตรงขึ้นเรือไม่ต้องเสียเวลารอขนผ่านประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องมีค่าใช้จ่าย การขนส่งต่อเนื่อง ระหว่างประเทศ เช่นการขนส่งยางพารา / อื่น ๆ
2.2.3 กิจกรรมหลังท่าเรือเช่น การซ่อมตู้คอนเทนเนอร์* ที่คนไทยเรามีแรงงานมีฝีมือ เยอะ อยู่แล้ว รวมทั้งเรามีอุตสาหกรรมเหล็ก ในจังหวัดประจวบ ที่จะมาเป็นวัตถุดิบ ในการซ่อม หรือพัฒนา การสร้างตู้คอนเทนเนอร์ป้อนให้กับสายเรือที่ต้องใช้ ตู้คอนเทนเนอร์ เมื่อเปรียบเทียบ กับท่าเรือ ในเขตอาเซียน โดยเฉพาะสิงคโปร์ และมาเลเซีย บ้านเราเรื่องช่างฝีมือ เจ๋งกว่าเยอะ และต้นทุน เมื่อเทียบกับท่าเรืออื่น ๆ กิจกรรมหลังท่าเรือนี้ บ้านเรา มีฝีมือ และที่สำคัญค่าแรงถูกกว่าเยอะ
หากมีอุตสาหกรรมการซ่อมตู้ คอนเทนเนอร์ จะเป็น นางกวัก ให้สายเรือเข้ามาใช้บริการท่าเรือมากขึ้น ที่ส่งอานิสงค์คือ ประเทศไทยมีท่าเรือที่สายเรือใหญ่ ๆ เข้ามาใช้บริการที่สร้างโอกาสการขนส่งได้มากขึ้น ไม่ต้องรอเรือฟีดเดอร์ไปส่งที่สิงคโปร์หรือมาเลเซีย และถ่ายลำ อันเป็นต้นทุนโลจิสติกส์ (ภาคการขนส่ง)
2.3 ท่าเรือฝั่งอันดามันเพิ่มการนำเข้าสินค้าทุน ได้แก่พลังงาน รวมถึงการแปรรูปพลังงาน ที่เป็นยุทธศาสตร์ ที่ประเทศไทยสามารถสร้างโอกาศการลงทุน และสร้างมูลค่าเพิ่ม ในประเทศไทยได้มากและการเป็นศุนย์กลาง ธุรกิจพลังงาน นอกเหนือจากสิงคโปร์
(แต่ทั้งนี้การสร้างคัสเตอร์ อุตสาหกรรมนี้ ต้องศึกษาในแผนแม่บทรวมถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต มากกว่าที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด)
แต่เมื่อเปรียบเทียบการใช้ท่าเรือกันตังและสายทุ่งสงหาดใหญ่ แล้ว
ท่าเรือกันตัง มีข้อจำกัด เรื่องร่องน้ำ ที่เรือจะต้องเข้ามาในร่องน้ำที่ลึก 10 กว่าเมตร
พื้นที่หลังท่าเรือ มีส่วนทับซ้อน กับพื้นที่ป่าสงวน และที่สำคัญ การสนับสนุนการส่งออกเมื่อเทียบกับหาดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลาง ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก หรือการเป็นศูนย์กลางการขนส่ง และกิจกรรมอื่น ๆ
ในมุมมองของผม
ที่ กันตัง - ตรัง - ทุ่งสง เหมาะสำหรับอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวมากกว่า ภาคการค้าการลงทุนในภาคการผลิตเมื่อเทียบกับหาดใหญ่ - สงขลา
การที่จะลงทุนในระบบราง ที่ใช้งบประมาณที่สูง
การนำข้อมูลมาแชร์ เพื่อให้คนเกี่ยวข้องไม่ว่าในภาคส่วนใด ๆ และคนที่สนใจ ได้เห็นภาพ มากกว่าจะโฟกัส ไปที่จุดใดจุดหนึ่ง คงจะดีกว่า
ขอบคุณครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44027
Location: NECTEC
|
Posted: 19/01/2010 12:39 pm Post subject: |
|
|
^^^
ข้อนี้เป็นข้อน่าคิดอยู่ไม่ใช่น้อย และ เราก็ได้เห็นทัศนคติที่ผิดกันไกลดุจน้ำและน้ำมัน ระหว่าง คู่กรณีที่เราไม่ขอเอ่ยถึงในที่นี่เพราะเป็นรู้กันอยู่ .... เพิ่งรอดจากศาลแรงงานก็เอาซะแล้ว
//-------------------------------------------------
ถกคลังหารือเงินกู้จีนทำระบบราง ติดปัญหาเงื่อนไขทำไทยเสียเปรียบ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มกราคม 2553 01:10 น.
คมนาคมถกคลังแก้ปัญหาเงินกู้ 400 ล้านเหรียญฯ จากจีน เพื่อลงทุนระบบราง ชี้เงื่อนไขทำไทยเสียเปรียบ เร่งสรุปข้อมูลก่อนโสภณบินไปเจรจาจีน เผยรู้ปัญหานานแล้วแต่ละเลย ขณะที่บอร์ดร.ฟ.ท.นัดถกสู้มติ ครส.-สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF) ให้รับ 6 พนักงานกลับทำงาน อุทธรณ์สู้ยันคำสั่งไล่ออกถูกต้อง
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า แผนการกู้เงินจำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 14,000 ล้านบาทจากประเทศจีน เพื่อใช้ลงทุนระบบรางของประเทศไทยนั้น ขณะนี้ยังติดปัญหาเรื่องเงื่อนไขที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยต่ำ แต่มีเงื่อนไขในการกู้ เช่น การให้ใช้วัสดุก่อสร้างหรืออุปกรณ์จากจีนไม่ต่ำกว่า 50% หรือการใช้ผู้รับเหมาจากจีน เป็นต้น ซึ่งเงื่อนไขที่สูงมากเกินไปและไทยคงไม่สามารถรับได้ ซึ่งขณะนี้ สำนักงานนโยบายและแผนการจราจรและขนส่ง (สนข.) อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด และเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจพิจารณาอีกครั้ง พร้อมทั้งเป็นการเตรียมข้อมูลให้กับนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคมที่จะไปประเทศจีนในเดือนมี.ค. 53 นี้
ทั้งนี้ ปัญหาเรื่องเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำจากจีน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ทางเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานได้มีการหารือร่วมกันมาโดยตลอด ตั้งแต่รัฐบาล คมช. มีพลเรือเอกธีระ ห้าวเจริญ เป็นรมว.คมนาคม และได้สรุปว่า ไม่ควรใช้เงินกู้ดังกล่าวเพราะเงื่อนไขทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบมาก แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลปัญหาดังกล่าวไม่ได้ถูกนำเสนอขึ้นมาพิจารณาแต่อย่างใด
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า วานนี้ (18 ม.ค.) กระทรวงคมนาคม และร.ฟ.ท. ได้หารือร่วมกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อเกี่ยวกับแผนการกู้เงินจำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ จากจีน เพื่อลงทุนในระบบรางของประเทศไทย
โดยที่ประชุมฯเห็นว่ารายละเอียดของเงื่อนไขการกู้เงินดังกล่าวยังไม่เรียบร้อย ดังนั้นจึงมอบหมายให้ สบน.จัดทำรายละเอียดให้เสร็จสิ้น และเสนอกระทรวงคมนาคมรับทราบอีกครั้ง ซึ่งเงื่อนไขการกู้เงินยังติดปัญหาเกี่ยวกับขั้นตอนกฎหมาย และความชัดเจนการกู้เพื่อมาใช้กับโครงการใด ซึ่งก่อนหน้านี้ ร.ฟ.ท. ระบุความจำเป็นในการจัดซื้อหัวรถจักรใหม่กว่า 20 หัว เพื่อทดแทนรถจักรเดิมที่มีอาใช้งานมาก โดยจะซื้อขายในแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (Government to Government : G-to-G) และจัดซื้อรางรถไฟ
**ร.ฟ.ท.ถกสู้มติ ครส.- ITF
รายงานข่าวจากร.ฟ.ท.แจ้งว่า วันนี้ (19 ม.ค.) คณะกรรมการ ร.ฟ.ท.จะประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการไล่ออก 6 พนักงานร.ฟ.ท.กรณีที่คณะผู้แทนสหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ ( ITF ) จาก 5 ประเทศคือ นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น อินเดีย นอร์เวย์ และอังกฤษ เห็นว่าการกระทำของพนักงานรถไฟทั้ง 6 คนถูกต้อง และการที่ร.ฟ.ท.และผู้ที่เกี่ยวข้อมีคำสั่งไล่ออกพนักงานทั้ง 6 คน เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2552 ผิดพร้อมกับเรียกร้องให้ร.ฟ.ท.รับ พนักงาน 6 คนกลับเข้าทำงานโดยเร็วที่สุดโดยไม่มีเงื่อนไข รวมทั้งต้องถอนฟ้องพนักงานรถไฟในทุกๆ คดีทั้งคดีอาญาและการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายนั้น โดยบอร์ดร.ฟ.ท.จะยืนยัน คำสั่งไล่ออก 6 พนักงาน เพราะทำผิดระเบียบ ร.ฟ.ท. ประกอบกับกระบววนการพิจารณาขณะนี้อยู่ที่ศาลดังนั้นจะต้องรอให้ศาลเป็นผู้พิจารณา
และก่อนหน้านี้นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ยืนยันว่าร.ฟ.ท.จะต้องยื่นอุทธรณ์กรณีคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.) มีมติให้รับ 6 พนักงานร.ฟ.ท.กลับเข้าทำงาน โดยยืนยันว่า การไล่ออกพนักงานทั้ง 6 คนเพราะละทิ้งหน้าที่ โดยการหยุดงาน ส่งผลให้ ร.ฟ.ท.ไม่สามารถให้บริการเดินรถในเส้นทางสายใต้ได้ตามปกติ และการลงโทษโดยการไล่ออกเป็นการดำเนินการตามกฎระเบียบด้วยความถูกต้อง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44027
Location: NECTEC
|
Posted: 21/01/2010 9:32 am Post subject: |
|
|
ลำปางเตรียมหัวรถจักรสำรองลากรถไฟขึ้นเขาไม่ได้
Nation Hotnews 20 มค. 2553 17:50 น.
นายประพัฒน์ พยัครบุตร ประธานสหภาพแรงงานการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาภาคเหนือ จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ปัญหาหัวรถจักรที่ชำรุดและสภาพที่ไม่พร้อมใช้งาน ทำให้รถไฟล่าช้าเนื่องจากมีอายุการใช้งานมานานและเป็นอุปสรรคต่อการเดินรถไฟ พร้อมกระทบการให้บริการประชาชน โดยเฉพาะในสายเหนือที่มีทางขึ้นสูงชัน
โดยบนเขาขุนตาล เขตเชื่อมต่อระหว่าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง และ อ.แม่ทา จ.ลำพูน ซึ่งถือว่าหัวรถจักรไม่มีกำลังเต็มประสิทธิภาพ เดิมทีจะใช้หัวรถจักร จำนวน 1 หัว ลากขบวนรถไฟขึ้นได้โดยไม่มีปัญหา แต่ขณะนี้ได้มีการนำหัวรถจักรอีก1 หัว ไปรอลากขบวนรถไฟที่จะขึ้นเขาขุนตาล หากไม่สามารถขึ้นเขาได้ก็จะจำเป็นต้องใช้หัวรถจักรอีกหัวช่วยลากขึ้นเขา ปัจจุบันมีหลายขบวนที่ต้องใช้เนื่องจากหัวรถจักรที่ไม่มีกำลังวิ่งขึ้นเขาได้ ซึ่งทางสหภาพแรงงานการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาภาคเหนือ ต้องขออภัยแก่ประชาชนผู้ใช้บริการที่ได้รับความเดือดร้อนจากความล่าช้าในการวิ่งรถไฟ และสาเหตุส่วนใหญ่ มาจากหัวรถจักรเกิดชำรุด |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47395
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/01/2010 11:35 pm Post subject: จับเหล้านอกหนีภาษี-ขนทางรถไฟ |
|
|
จับเหล้านอกหนีภาษี-ขนทางรถไฟ
เมื่อเวลา 12.00 น วันที่ 26 ม.ค.53 ที่ชานชาลาสถานีรถไฟนครปฐม นายนิมิต แสงอำไพ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนปราบปรามทางบกที่ 2 กรมศุลกากร นำกำลังเข้าตรวจค้นรถไฟ ขบวนที่ 25 วิ่งจากยะลา เข้าสถานีหัวลำโพง
โดยรถไฟคันดังกล่าวจะจอดแวะจ.นครปฐม
จากการตรวจค้นโบกี้ตู้สัมภาระพบว่ามีการบรรทุกสิ่งผิดกฎหมาย เหล้า และไวน์ ที่ไม่ผ่านการเสียภาษี
ภายในตู้สัมภาระดังกล่าวมีลังถูกปิดผนึกอย่างดี เขียนจ่าหน้าลังติดอยู่เป็นชื่อข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในเขต กทม.และต่างจังหวัด
ของ กลางทั้งหมดมีจำนวน 25 ลัง เจ้าหน้าที่ได้เปิดลังดูปรากฏว่าเป็นเหล้า และไวน์เหล้ายี่ห้อแบล็กเลเบิ้ล เรดเลเบิ้ล และไวน์ บินทู เจ้าหน้าที่รถไฟ เผยว่าของดังกล่าวมีต้นทางมาจาก อ.หาดใหญ่ และ จ.ยะลา แต่ถูกปิดผนึกมาอย่างดีจึงไม่ทราบว่าข้างในเป็นอะไร เมื่อรถไฟถึงปลายทางก็จะมีคนมารอรับ
หัวหน้าฝ่ายสืบสวนปราบปรามทางบกที่ 2 กรมศุลกากร กล่าวว่า จากการตรวจค้นรถไฟขบวนนี้เป็นขบวนที่ 3 แล้ว
เนื่องจากในตอนเช้าเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ได้ทำการตรวจค้นและยึดเหล้าที่ไม่เสียภาษีที่ส่งมากับขบวนรถไฟบัตเตอร์เวิร์ธ- กทม.ขบวนที่ 19 ขบวนรถที่ 17 สุไหงโกลก-กทม. ตรวจค้นที่ชานชาลา จ.เพชรบุรี
ได้ เหล้าและไวน์มาแล้ว 36 ลัง ส่วนเหล้าทั้งหมดนี้จะยึดไว้ที่กรมศุลกากรเพื่อตรวจสอบเพราะไม่มีผู้แสดงตน เป็นเจ้าของ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางเนื่องจากเป็นสินค้าที่ลักลอบนำเข้ามาโดยเลี่ยง ภาษีศุลกากร
สำหรับขบวนการส่งสินค้าเถื่อนนี้ มักจ่าหน้าลังไว้เป็นชื่อของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่เพื่อเป็นการบังหน้า
ที่มา : นสพ.ข่าวสด
Last edited by Mongwin on 26/01/2010 11:52 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
therock
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/09/2007 Posts: 1575
Location: อดีตเด็กมหาชัย
|
Posted: 26/01/2010 11:39 pm Post subject: |
|
|
ขบวนไหนกันแน่ครับงงกับเลขขบวนมาก
ปล.ของหนีภาษีไม่ได้อยู่แค่ในตู้ขนของนะสิครับ |
|
Back to top |
|
|
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
|
Posted: 27/01/2010 8:23 am Post subject: |
|
|
^
ดูเหมือนสินค้าหนีภาษีที่ว่าถูกยกลงมาจากตู้...เลยครับ _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ................... |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44027
Location: NECTEC
|
Posted: 27/01/2010 9:28 pm Post subject: |
|
|
ดันไทยฮับลอจิสติกส์อาเซียน กดปุ่มรถไฟเฟสแรก4.6หมื่นล.
ข่าวปก สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1069 ประจำวันที่ 27 - 29 มกราคม 2553
นายอาคม เติมวิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผย สยามธุรกิจ ถึงการขับเคลื่อนระบบลอจิสติกส์ของประเทศ ว่า สืบเนื่องจากในปี 2552 ที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกอย่างหนัก ดังนั้นรัฐบาลจึงมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนก่อนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ จึงออกมาเป็นแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 1 และ 2 อย่างที่ผ่านมา แต่ในปี 2553 นี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายมาว่า ปีนี้ปัญหาเศรษฐกิจเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจากตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 4/2552 ที่ดีขึ้น ดังนั้นรัฐบาลจะเข้ามาลงในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาประเทศมากขึ้น
ทั้งนี้ในเดือน พ.ย.2552 ครม.ได้เห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แล้ว และได้อนุมัติงบประมาณในการดำเนินการทั้งสิ้น 153,052 ล้านบาท เพื่อพัฒนากิจการรถไฟ โดยในระยะแรก จะใช้งบประมาณ 46,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงระบบรางเดิมให้มีประสิทธิภาพ ได้แก่
1. โครงการปรับปรุงความแข็งแรงของทางระยะทาง 2,272 กม.
2. โครงการเปลี่ยนหมอนรองรางระยะทาง 1,382 กม.
3. โครงการเปลี่ยนรางให้เป็นขนาด 100 ปอนด์ ระยะทาง 2,835 กม.
4. โครงการเปลี่ยนประแจและระบบอาณัติสัญญาณจำนวน 223 สถานี
5. เร่งขยายรางคู่ช่วง คลอง 19-แก่งคอย เพื่อเพิ่มเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าจากทางภาคอีสานลงสู่ท่าเรือแหลมฉบัง
นายอาคม กล่าวต่อว่า หากกระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ สามารถจัดทำรายละเอียดต่างๆ ทั้งในเรื่องโครงการต่างๆ และแผนการปรับโครงการเป็น 3 หน่วยงานตามที่ครม.เห็นชอบแล้วเสร็จภายในเดือนนี้ สภาพัฒน์จะนำเข้าบอร์ดภายในเดือน ก.พ.นี้ จากนั้นก็จะนำเสนอให้ครม.พิจารณาทันที
นอกจากการนำเสนอแผนพัฒนากิจการรถไฟเข้าครม.แล้วทางสภาพัฒน์ยังจะนำเสนอแผนงานที่เกี่ยวข้องการพัฒนาระบบลอจิสติกส์ของประเทศใน 2 เรื่องใหญ่ด้วย
1.ทำอย่างไรให้ระบบลอจิสติกส์ภายในประเทศสามารถเชื่อมโยงกันได้ เพื่อให้การใช้บริการระบบขนส่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การลดต้นทุนได้อย่างแท้จริงและมีขีดความสามารถในการแข่งขันได้มากขึ้น ซึ่งการพัฒนากิจการรถไฟจะอยู่ในหัวข้อนี้
2.การเชื่อมโยงระบบลอจิสติกส์กับประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากประเทศไทยเป็นทางผ่านของเส้นทาง East-West Corridor เราจึงเป็นเหมือนหัวใจของเส้นทางนี้ ประเด็นคือ เราจะเชื่อมโยงระบบขนส่งอย่างไรกับประเทศเพื่อนบ้านให้เร็วที่สุด และจะใช้การขนส่งโหมดใดเชื่อมประเทศเพื่อนบ้านบ้าง ซึ่งในหัวข้อนี้ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เนื่อง จากขณะนี้ประเทศในกลุ่มอาเซียนได้มีการเปิดเสรีสินค้าและบริการร่วมกันแล้ว ซึ่งภาคเอกชนก็ต้องเตรียมความพร้อมที่จะออกไปลงทุนและค้าในประเทศเพื่อนบ้านด้วย
นอกจากนี้จะมีการนำเสนอการพัฒนาท่าเรือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบลอจิสติกส์ด้วย โดยประเด็นสำคัญคือ การพัฒนาท่าเรือฝั่งตะวันตก เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งไปยังฝั่งตะวันออกกลาง ในเบื้องต้นมองว่าท่าเรือที่ใกล้ที่สุดคือ ท่าเรือทวาย ในประเทศพม่า |
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 27/01/2010 9:59 pm Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: |
นอกจากนี้จะมีการนำเสนอการพัฒนาท่าเรือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบลอจิสติกส์ด้วย โดยประเด็นสำคัญคือ การพัฒนาท่าเรือฝั่งตะวันตก เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งไปยังฝั่งตะวันออกกลาง ในเบื้องต้นมองว่าท่าเรือที่ใกล้ที่สุดคือ ท่าเรือทวาย ในประเทศพม่า |
หึหึ... ใครได้งานก่อสร้างหว่า....
และแสนสงสัย สายเรือ ไม่ว่ายุโรบหรือ เอเซีย ค่ายไหน จะกล้าวิ่งไปรับสินค้า ณ ท่าเรือแห่งนี้
ที่สำคัญการใช้สิทธิทางภาษี ภายใต้ ข้อตกลงของ ASIAN และการทำข้อตกลงสินค้าข้ามแดนระหว่างบ้านเรากับพม่า ที่วันดีคืนร้ายปิดด่านตามชายแดน
คนทำมาค้าขายกับการบริหารความเสี่ยงแบบนี้ ในประเทศไทย ใครได้ประโยชน์ เสียประโยชน์
หินก้อนใหญ่ตกลงน้ำ กับคลื่นลูกโต จะพารัฐนาวาล่ม เสียรูปมวยเอาง่าย ๆ ถึงขั้นตายน้ำตื้น
แค่คิดก็วังเวงแล้ว เฮ้อ |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 27/01/2010 10:15 pm Post subject: |
|
|
"ท่าเรือทวาย" อยู่ตรงแนวเดียวกันกับจังหวัดอะไรของไทยครับ
ที่ ทวาย มีทางรถไฟไหมครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
|