Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:318718
ทั่วไป:28754356
ทั้งหมด:29073074
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 22, 23, 24 ... 299, 300, 301  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 25/01/2010 2:32 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคมเดินเครื่องระบบตั๋วร่วม นัดรถเมล์-รถไฟ-เรือด่วนถกวันนี้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2553 01:22 น.

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าระบบตั๋วร่วมว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานนโยบายและแผนขนส่งและจราจร (สนข.) ,องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ,บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส จะประชุมร่วมกันในวันนี้ (25 ม.ค.) เพื่อหารือถึงแนวทางการผลักดันการใช้บัตรโดยสารร่วมกัน โดยจะหารือให้ครอบคลุมการใช้งานร่วมทั้งระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน รถเมล์ ขสมก. และเรือด่วนเจ้าพระยา โดยที่ผ่านมาการดำเนินงานค่อนข้างล่าช้า เนื่องจากปัญหาการแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างเอกชนผู้ให้บริการ

ทั้งนี้ ที่ประชุมร่วมจะหาแนวทางเพื่อผลักดันการใช้ระบบบัตรโดยสารใบเดียวเดินทางได้ทุกระบบ โดยมีการคิดค่าโดยสารตามจริงไปก่อนให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยกระทรวงคมนาคมต้องการที่จะพยายามผลักดันให้มีการใช้ตั๋วร่วมให้ได้ภายในปี 2553 นี้

นายสุพจน์กล่าวว่า หากสามารถผลักดันให้ใช้ระบบบัตรโดยสารใบเดียวเดินทางได้ทุกระบบ จะช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกในการเดินทาง และการมีระบบ Clearing House เพื่อบริหารจัดการส่วนแบ่งรายได้ของแต่ละระบบ หรือ คิดสัดส่วนผลประโยชน์ที่ผู้ให้บริการแต่ละรายจะได้รับออกมา จะทำให้ค่าโดยสารลดลง เนื่องจากไม่ต้องมีการจ่ายค่าเข้าระบบใหม่ เมื่อผู้โดยสารมีการออกจากระบบหนึ่งไปยังอีกระบบหนึ่ง นอกจากนี้ จะทำให้สามารถออกโปรโมชั่นเพื่อจูงใจให้ประชาชนมาใช้บริการระบบขนส่งมวลชนร่วมกันให้มากขึ้นได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมเคยจัดให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อดำเนินงานระบบบัตรโดยสารร่วมในระยะแรกระหว่างบีทีเอส และ บีเอ็มซีแอล,การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เมื่อเดือนพ.ย.2550 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้บริการระบบขนส่งมวลชนโดยไม่ต้องถือบัตรโดยสารหลายใบ แต่จนถึงปัจจุบันการดำเนินการยังไม่มีความคืบหน้า โดยมีสนข.เป็นหน่วยงานหลัก แต่ยังไม่สามารถทำความเข้าใจกับเอกชนให้ร่วมมือตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมได้
Back to top
View user's profile Send private message
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 30/03/2006
Posts: 3642
Location: Thailand

PostPosted: 25/01/2010 10:21 am    Post subject: Reply with quote

เห็นข่าวนี้ ทำให้ผมนึกถึงบัตร T-money ตอนที่ไปเที่ยวโซล เกาหลีใต้ครับ

Click on the image for full size

มันเป็นบัตรที่สะดวกมากๆ ครับ ขึ้นรถไฟใต้ดินทุกสาย ทุกเส้นทาง ขึ้นรถเมล์ทุกสาย ขึ้นแท็กซี่ทั้งหมด ซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ใช้เป็นบัตรโทรศัพท์สาธารณะก็ได้ ฯลฯ

อยากให้ กทม.เราเองคิดสร้างบัตรชนิดนี้จริงๆ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 25/01/2010 2:23 pm    Post subject: Reply with quote

ให้ คจร.เคาะใครสร้างรถไฟฟ้าลดขัดแย้ง
เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 25 มกราคม 2553 เวลา 7:33 น

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ได้ส่งเรื่องถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อเตรียมการประชุมคณะกรรมการการจัดระบบการขนส่งและจราจรทางบก (คจร.) เพื่อพิจารณาผลการศึกษาปรับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (M Map) 12 สายทาง เพื่อใช้เป็นแผนหลักในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในอนาคต โดยปัจจุบันมีหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการรับผิดชอบโครงการ มีทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) เนื่องจากมีหลายหน่วยงานที่มีภารกิจในเรื่องการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ คจร. พิจารณาว่า รถไฟฟ้าสายใดควรจะเป็นหน่วยงานใดรับผิดชอบซึ่งจะต้องมีเหตุผลรองรับ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำงานเพื่อพัฒนาระบบขนส่งมวลชนร่วมกันทุกฝ่ายไม่ให้เกิดปัญหาอย่างที่ผ่านมา เพราะต่างก็มีอำนาจตามกฎหมายเหมือนกัน

นางสร้อยทิพย์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาการทำงานของหลายหน่วยงานถูกโยงเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งหากมีการกำหนดภารกิจให้หน่วยงานแต่ละส่วนให้ชัดเจนและมีเหตุผลรองรับเหมาะสม จะทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเดินหน้าภารกิจในอำนาจหน้าที่ของตนเองให้เต็มที่ไม่ว่าในอนาคตจะเป็นการเมืองระดับประเทศหรือระดับท้องถิ่นจะเป็นอย่างไรก็จะไม่เป็นปัญหากระทบต่อแผนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้โครงการสะดุดหรือเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานผู้ปฏิบัติ.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 04/02/2010 8:45 pm    Post subject: Reply with quote

บอร์ดต่างด้าวไปเขียวต่างชาติลงไทย25รายมูลค่า 739ล้านเน้นระบบรถไฟ

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 2 กุมภาพันธ์ 2553 11:37 น.

นาบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมได้อนุญตให้บริษัทต่างด้าวประกอบุรกิจในทยจำนวน 25 าย ซึ่งที่ให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตจำวน 739 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ไดรับอนุญตส่วนใหญ่เกี่ยวของกับการลงทุนระบบสาธารณูโภคพื้นฐาน เช่น ระบบการขนส่งของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น ได้แก่

1. บริษัทซินโว คอนสรัคชั่น แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างโครงการระบบถไฟชานเมืองช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน

2. บริษัทดีบี อินเตอร์เนชั่นแนล จีเอ็มบีเอช จากประเทศเยอรมนี ได้รับอนุญาตให้บริการให้คำปรึกษาด้านปฏิบัติการเดินรถในโครงการระบบขนสงทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง

3. บริษัทคอมมอร์ท แมนเนจเม้นท แอนด์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นนักลงทุนจากสิงคโปร์ ประกอบธุรกิจบริการทางวิศวกรรมเกี่ยวกับการตรวจสอบ ออกแบบ และปรับปรุงระบบพลังงานภายในอาคารให้แก่ผู้ประกอบการที่มีอาคารขนาดกลางและนาดใหญ่ ป็นต้น

สำหรับปี 2552 ที่ผ่านมา คณะกรรมการฯได้อนุญาตใหคนต่างด้าวประกอบธุรกิจจำวน 213 ราย ลดลง 21% เทียบกับปี 2551 ที่อนุญาตใหคนต่างด้าวประกอบธุรกิจ 268 ราย แม้ว่าจำนวนผู้ได้รับอนุาตในปี 2552 จะลดลงจากปี 2551 แต่การอนุญาตธุรกิจส่วนใหญ่จะเน้นให้คนต่างด้าว เข้าประกอบธุรกิจที่ป็นผลดีต่อการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศ มีการถ่ายทอดเทคโลยีหรือความรู้ที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งต้องเป็นธุรกิจที่ไม่กระทบต่อผู้ประกอบการไทยด้วย

ทังนี้ ตั้งแต่เดือมี.ค. 2543 ที่มีการบังคับใช้พ.ร.บ.การประกอธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จนถึงเดือนม.ค. 2553 คณะกรรมการฯได้พิจารณาให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจไปแล้ว 2,394 ราย มีการนำเงินเข้ามาใช้ในประเทศเพื่อประกอธุรกิจ 3.28 หมื่นล้านาท ซึ่งตามนโยบายของนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กำชับให้กรมพัฒนาธุรกจการค้าดำเนินการเกี่ยวกับการพิจาณาอนุญาตให้คนต่าด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจตามกฎหมาย และให้มีการตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของคนต่างด้าวที่ไดรับอนุญาตอย่างต่อเนื่อง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 08/02/2010 3:50 pm    Post subject: Reply with quote

คนกรุงได้ข่าวดี! รบ.เร่งเพิ่มรถไฟฟ้า "มาร์ค" ทุบโต๊ะทำ 6 สายรวด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 กุมภาพันธ์ 2553 13:30 น.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) โดยระบุว่า ที่ประชุมฯ วันนี้ มีมติเห็นชอบแผนแม่บทขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการในระยะ 10 ปี โดยเปิดให้บริการใน 6 สายภายในปี 2562 ดังนี้

1.สายสีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี ระยะทาง 36 กิโลเมตร
2.สายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ระยะทาง 17.5 กิโลเมตร และช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี ระยะทาง 20 กิโลเมตร
3.สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 19.8 กิโลเมตร
4.สายสีเขียว ช่วงสะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 7 กิโลเมตร และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-ยศเส ระยะทาง 1 กิโลเมตร
5.สายสีแดงเข้ม ช่วงหัวลำโพง-บางบอน ระยะทาง 18 กิโลเมตร
สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14 กิโลเมตร และ
6. สายที่ 6.เส้นทาง Airport Link ช่วงบางซื่อ-พญาไท ระยะทาง 7.9 กิโลเมตร

พร้อมกันนี้ ที่ประชุม คจร.ยังเห็นชอบในหลักการต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม จากช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 11.4 กิโลเมตร เป็นหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต รวมระยะทาง 18.4 กิโลเมตร และยกเลิกศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) บริเวณด้านทิศใต้ของสนามบินดอนเมือง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2551 โดยให้ใช้ศูนย์ซ่อมบำรุงบริเวณ อ.คูคต จ.ปทุมธานี แทน พร้อมมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ คจร.ยังเห็นชอบหลักการให้การก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน และช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง รวมทั้งโครงการ Airport Link ส่วนต่อขยาย ช่วงพญาไท-บางซื่อ ซึ่งได้ออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างแนวรางในระดับคลองแห้ง(Open Trench) โดยการขุดเจาะลึกลงไปในดิน และมีการวิ่งของขบวนรถไฟลึกลงไปจากผิวดินเดิม โดยอาจมีการปิดกั้นผิวดินด้านบนในลักษณะอุโมงค์หรือมีการเปิดผิวดินด้านบน โดยพิจารณานับรวมการก่อสร้างระดับคลองแห้งให้จัดรวมอยู่ในระดับใต้ดินด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ ยังได้อนุมัติในหลักการให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางขนาดรองในพื้นที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานได้เองที่มีแนวสายทางนอกเหนือและไม่ซ้ำซ้อนกับโครงข่ายที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทให้สามารถดำเนินการได้ กรณีที่เป็นระบบขนส่งมวลชนสายรองที่มีปริมาณผู้โดยสารในปีที่เริ่มเปิดดำเนินการต่ำกว่า 8,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง

อย่างไรก็ดี ที่ประชุมฯ ยังได้รับทราบความคืบหน้าของสถานะการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ณ สิ้นเดือนมกราคม 2553 โดยขณะนี้รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการสิ้นเดือน สิงหาคม 2557 สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 27 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการยื่นซองประกวดราคา คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ 2559

สายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 12 กิโลเมตร อยู่ระหว่าง รฟม.เตรียมจัดจ้างที่ปรึกษาศึกษาวิเคราะห์ตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนเข้าร่วมงานฯ (พ.ร.บ.ร่วมทุน) และสายสีเขียวอ่อน ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กิโลเมตร อยู่ระหว่าง รฟม.เตรียมจัดจ้างที่ปรึกษาศึกษาวิเคราะห์ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน เริ่มงานเดือนธันวาคม 2552 แล้วเสร็จเดือนมกราคม 2553 โดยคาดว่าจะเปิดบริการเดือนเมษายน 2558

สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มสถานีบางกรวย โดยจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 10 กิโลเมตร สำนักจราจรและขนส่ง (สนข.) อยู่ระหว่างการศึกษาโครงการส่วนต่อขยายช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มเติมสถานี ม.กรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต, สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก ระยะทาง 19 กิโลเมตร อยู่ระหว่าง รฟท.เตรียมนำเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติโครงการต่อไป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับเส้นทางทั้งหมดตั้งงบประมาณไว้ 8 แสนล้านบาท ซึ่งจะมีหลายเส้นทางจะเร่งให้เสร็จในปี 2557-2559 ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้การจราจรดีขึ้น

นอกจากนั้น ในวันนี้ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานดูในส่วนสายสีเขียวและสีส้มที่มีปัญหาอยู่ ในเบื้องต้นงานในส่วนโยธาของสายสีเขียว ยังเป็นขององค์การรถไฟฟ้ามหานคร (รฟม.) แต่การบริหารจัดการทั้งระบบให้ไปดูว่า รฟม. หรือ กทม. ควรเป็นผู้ดูแล โดยจะให้เวลาศึกษา 1 เดือน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 08/02/2010 4:56 pm    Post subject: Reply with quote

"มาร์ค"ยันไม่เปลี่ยนเลขาฯปชป.-ตั้ง"สุเทพ"ศึกษารถไฟฟ้าสีส้ม-เขียว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 กุมภาพันธ์ 2553 14:35 น.


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมีแนวคิดเสนอบุคคลมาเป็นเลขาธิการพรรคแทน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง โดยวาระการดำรงตำแหน่งของหัวหน้าและเลขาธิการ ยังมีอีก 2-3 ปี ซึ่งตอนนี้ยังทำงานกันไปโดยไม่มีปัญหาและยังอยู่ด้วยกัน ไปด้วยกัน


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เย็นวันนี้(8 ก.พ.) พล.ต.อ.วิศิษฐ์ เดชกุญชร ในฐานะประธานกรรมการสอบสวนการซื้อขายตำแหน่งนายตำรวจ จะมาพบเพื่อหารือถึงกรอบการทำงาน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ได้ตั้งอนุกรรมการเฉพาะกิจที่มี นายสุเทพเป็นประธานดูแลการศึกษาและก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีเขียว โดยให้รถไฟฟ้ามหานคร ดูแลงานโยธาธิการ ให้เวลา 1 เดือน ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี ส่วนแผนแม่บทขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 800,000 ล้านบาท ซึ่งตามแผนเดิมวางเส้นทางจาก สนามกีฬา-ยศเส-พรานนก ซึ่งลงทุนโดย กทม.แต่ตามแผนใหม่ช่วงพรานนกกลับไปอยู่ในสายส้ม จึงทำให้มีปัญหาว่าใครจะเป็นผู้ดูแล กทม.และ รฟม. โดยให้เวลาศึกษาใน 1 เดือน อีกทั้งอนุมัติหลักการในให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถทำโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรองในเส้นทางที่ไม่ซ้ำซ้อนกับแผนแม่บทและมีผู้ใช้บริการในปีที่เปิดดำเนินการต่ำกว่า 8,000 คน/ชั่วโมง

//------------------------------------------------------------------------
รัฐคลอดแผนแม่บทรถไฟฟ้า12สาย เงินลงทุน8แสนล. เร่งสร้างสายสีชมพู-ส้ม

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 08 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 16:36:26 น.

“มาร์ค”ขายฝันคนกทม. สั่งเพิ่มรถไฟฟ้า2สาย อนุมัติงบศึกษา400ล.

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 8 กุมภาพันธ์ 2553 22:02 น.


คจร.เห็นชอบแผนแม่บทขนส่งทางราง8แสนลบ.
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ ไทยรัฐออนไลน์ 9 กุมภาพันธ์ 2553, 02:10 น.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการจัดจราจรทางบก(คจร.) ว่าที่ประชุมได้อนุมัติแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 12 สาย ระยะทาง 495 กิโลเมตร เงินลงทุน 811,070 ล้านบาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยมีเพิ่มเติม 2 สายจากแผนเร่งรัดเดิมที่ก่อสร้างแล้วและอยู่ระหว่างก่อสร้าง คือ สีชมพู จากปากเกร็ด-มีนบุรีที่จะรองรับคนจากศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และสีส้ม จากมีนบุรี-บางกะปิ-ข้ามไปฝั่งธนบุรีที่ตลิ่งชัน ซึ่งแทนสายสีเขียวของกรุงเทพมหานครที่ออกแบบไว้ จากช่วงสนามกีฬา-พรานนก

นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นว่าควรจะให้สายแอร์พอร์ตเรลลิงก์ที่มาจากสนามบินสุวรรณภูมิมาเชื่อมกับสนามบินดินเมือง อีกทั้งเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา 2 สายทางที่มีปัญหาการใช้พื้นที่ในเขตเมืองในเรื่องของสายสีแดงช่วงบางซื่อ –พญาไท-มักกะสัน และบางซื่อ-หัวลำโพง รูปแบบการก่อสร้างที่ออกแบบไว้เป็นแบบอุโมงค์เปิด แต่ทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)ตีความว่าไม่ใช่โครงสร้างระดับใต้ดิน ซึ่งไม่สอดคล้องกับมติครม.ที่เคยอนุมัติไปก่อนหน้านี้ รวมถึงการก่อสร้างข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทางสิ่งแวดล้อมอยากให้เป็นอุโมงค์ แทนการก่อสร้างสะพานจะเสนอครม.พิจารณาว่ารูปแบบไหนเป็นการลดต้นทุนดีที่สุด

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้แต่ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 1 ชุด มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อไปดูความชัดเจนเรื่องการการบริหารจัดการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่และแบริ่ง-สมุทรปราการ และสีส้ม ระหว่างรฟม.กับกทม.จะให้ใครดำเนินการหรือจะร่วมกัน เพื่อให้ทางท้องถิ่นเข้ามาร่วมด้วย ให้เวลา 1 เดือน ส่วนเรื่องการก่อสร้างงานโยธายืนตามมติครม.เดิมเมื่อปี 2551 ระบุมให้รฟม.เป็นผู้ก่อสร้างงานโยธาอยู่แล้ว

“ให้ไปดูเรื่องก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงของสายสีเขียว จากหมอชิต-สะพานใหม่ด้วย ที่ย้ายจากเดิมที่ฐานทัพอากาศไปที่คูคต”

รายงานข่าวแจ้งว่า ใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยดี โดยทางกรุงเทพมหานคร(กทม.)ส่งนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯมาร่วมประชุมด้วย โดยกทม.จะขอสายสีส้มทั้งเส้นไปก่อสร้างเอง โดยจะออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนมาก่อสร้าง หลังจากที่สนข.ได้รวบสายสีเขียวช่วงสนามกีฬา-พรานนกของกทม.ที่ออกแบบไว้แล้วมาอยู่เป็นสายเดียวกับสีส้มเดิม ขณะเดียวกันกทม.เสนอให้สนข.ตัดส่วนต่อขยายสายสีเขียว 1 กิโลเมตรจากสนามกีฬา-ยศเสออกไป อีกด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีรีบตัดบทและให้นายสุเทพรองนายกรัฐมนตรีไปพิจารณาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในแผนแม่บทรถไฟฟ้า 12 สายนี้ สนข.ได้ทำการศึกษาภายใต้กรอบเวลา 20 ปี ถึงปี2572 แต่ได้ขออนุมัติดำเนินการก่อน 10 ปี(2553-2562) ระยะทาง 377 กิโลเมตร เงินลงทุน 628,340 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมคจร.อนุมัติตามที่สนข.เสนอ
โดยแผนงาน 10 ปี ประกอบด้วย

1.เป็นโครงข่ายระยะเร่งด่วน 5 ปีแรก ตามมติครม.ที่อนุมัติปี2549 เป็นโครงข่ายปัจจุบันและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ระยะทางรวม 236 กิโลเมตร เงินลงทุน 319,750 ล้านบาท
เปิดบริการปี 2557 มี
1.1.1.สีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชัน 15 กิโลเมตร
1.1.2.สีแดง บางซื่อ-รังสิต-ธรรมศาสตร์ 36.3 กิโลเมตร
1.1.3.สีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่ 11.4 กิโลเมตร
1.1.4.สีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ 12.8 กิโลเมตร
1.1.5.สีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระย่ะทาง 23 กิโลเมตร

เปิดบริการปี2559 มี
1.2.1.สีแดง ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง 6.5 กิโลเมตร
1.2.2.สีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-หัวหมาก 19 กิโลเมตร
1.2.3.สีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค 27 กิโลเมตร

2. โครงข่ายเพิ่มเติมเปิดให้บริการปี 2562 ระยะทางรวม 141 กิโลเมตร เงินลงทุน 308,590 ล้านบาท มี
2.1.สีแดงเข้ม ช่วงหัวลำโพง-บางบอน 18 กิโลเมตร
2.2.สีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา 14 กิโลเมตร
2.3.สีแดงเชื่อมแอร์พอร์ตลิงก์ ช่วงบางซื่อ-พญาไท 7.9 กิโลเมตร
2.4.สีเขียว ช่วงสะพานใหม่-คูคต 7 กิโลเมตร
2.5. สีเขียว ช่วงสนามกีฬา-ยศเส 1 กิโลเมตร
2.6.สีม่วง ช่วง บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ 19.8 กิโลเมตร
2.7.สีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม 17.5 กิโลเมตรช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี 20 กิโลเมตร รวม 37.5 กิโลเมตร
2.8.สีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี 36 กิโลเมตร

3.ส่วนโครงข่ายเพิ่มเติมภายในปี2572 ระยะทาง 118 กิโลเมตร เงินลงทุน 186,690 ล้านบาท มี
3.1.สีแดงเข้ม ช่วงบางบอน-มหาชัย 20 กิโลเมตร
3.2.สีแดงอ่อน ช่วงบางบำหรุ-มักกะสัน 10.5 กิโลเมตร
3.3.สีเขียว ช่วงคูคต-ลำลูกกาคลอง4 ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร
3.4.สีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู 7 กิโลเมตร
3.5. สีน้ำเงิน ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย4 ระยะทาง 8 กิโลเมตร
3.6. สีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-พัฒนาการ-สำโรง 30.4 กิโลเมตร
3.7.สีเทา ช่วงวัชรพล-ลาดพร้าว-พระราม4-สะพานพระราม9 ระยะทาง 26 กิโลเมตร
3.8. สีฟ้า ช่วงดินแดง-สาทร 9.5 กิโลเมตร

โดยรูปแบบการเดินรถ มี 2 รูปแบบ คือ ระบบรถไฟฟ้า จะเป็นโครงข่ายสายหลัก คือ สีแดง สีขียว สีน้ำเงิน สีม่วง สีส้ม อีกรูปแบบเป็นระบบโมโนเรล เป็นโครงข่ายสายรอง มี สีชมพู สีเหลือง สีเทาและสีฟ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สนข. ได้รายงานว่า

1. ขณะนี้รถไฟสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ 23 กม. อยู่ระหว่างก่อสร้างจะเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นเดือน ส.ค.2557
2. สายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค 27 กม. อยู่ระหว่างยื่นซองประกวดราคาคาดเปิดให้บริการได้ก.พ. 2559
3. สายสีเขียวเข้ม หมอชิต-สะพานใหม่ 12 กม.อยู่ระหว่างรฟม.จัดจ้างที่ปรึกษาวิเคราะห์ คาดเปิดบริการได้เม.ย.2558
4. สายสีเขียวอ่อนแบริ่ง-สมุทรรปาการ 13 กม. อยู่ระหว่าง รฟม. จัดจ้างที่ปรึกษาคาดเปิดบริการได้ เม.ย. 2558

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า คณะกรรมการชุดนี้ ไม่เคยมีการประชุมมาตั้งแต่ปี 2547สมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินสัตว์ เป็นนายกฯ ซึ่งที่ประชุมวันนี้เห็นพ้องให้เร่งเดินเครื่องสายสีส้มและสายสีชมพู ขณะเดียวกันสายสีเขียวอ่อนระยะทาง 33 กิโลเมตร(สนามกีฬาแห่งชาติ-พรานนก) ที่ดำเนินการช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-ยศเส มีความเห็นว่า อาจจะต้องยกเลิกโครงการนี้ แต่ปัญหาทั้งหมดได้มอบหมายให้อนุกรรมการชุดที่มีนายสุเทพ เป็นประธานไปหารืออีกครั้ง

“เบื้องต้น สายสีส้มนั้น กทม.ต้องการที่จะเข้ามาดำเนินการเอง แต่ติดอยู่ว่า รฟม.จะยินยอมหรือไม่ แต่สายสีเขียวอ่อนอาจจะต้องหยุดโครงการ แต่ทั้งหมดก็ต้องไปคุยกันก่อน เพื่มมารายงานนายกรัฐมนตรีใน 1 เดือนนี้”

ทั้งนี้เบื้องต้นการยกเลิกโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน เห็นว่าควรจะมีการปรับลดช่วงสนามกีฬา-พรานนก ที่กทม.ศึกษาไว้ เนื่องจากรูปแบบการเดินรถในปัจจุบันจะเป็นช่วงบางหว้า-สยาม-สนามกีฬา-พรานนก เป็นรูปตัวซี จึงไม่สอดคล้องกับรูปแบบการเดินทาง ทำให้ต้องเปลี่ยนขบวนรถและไม่สะดวก ขณะที่ต้องสูญเสียพื้นที่ถ.พระราม 1 ช่วงสะพานกษัตริย์ศึก ในระหว่างการก่อสร้าง 3 ช่องจราจร หากสร้างเสร็จจะเหลือ 2 ช่องจราจร จากปัจจุบันที่มี 5 ช่องจราจร รวมทั้งยังไม่ผ่าความเห็นชอบจากอีไอเอ

อย่างไรก็ตามได้มีการพิจารณาเพิ่มเติมโครงการสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม เพื่อทดแทนสายสีเขียว ที่มีแผนเปิดบริการในปี พ.ศ.2562

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า กทม.ได้ตั้งข้อสังเกตว่าที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กระทรวงคมนาคมพิจารณาว่าจะลดระยะทางสายสีเขียวจากสนามกีฬาแห่งชาติ-พรานนก ระยะทาง 7.7 กิโลเมตร ให้เหลือเพียง 1 กิโลเมตร เนื่องจากทับซ้อนกับสายสีส้มจากตลิ่งชัน –มีนบุรี ระยะทาง 37.5 กิโลเมตร ที่ขยายออกมาทับเส้นทางของสายดังกล่าว กทม.จึงแจ้งว่าหากเป็นเช่นนี้ กทม.จะขอรับสายสีส้มมาดำเนินการเองเพราะอยู่ในพื้นที่ กทม.โดยที่สามารถยกเลิกสายสีเขียวจากสนามกีฬาแห่งชาติ-พรานนก ได้แต่หากจะลดระยะทาง ให้เหลือ 1 กิโลเมตร กทม.ไม่เห็นด้วยเพราะการลงทุนในระยะทาง 1 กิโลเมตร ควรจะสร้างเป็น Sky walk แล้วมีบันไดเลื่อนเพื่อไปเชื่อมกับสายสีแดงจะเป็นประโยชน์มากกว่า
นายธีระชน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กทม.ยังได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อปี 2551 ว่าการที่ครม.มีมติมอบให้ รฟม.ดำเนินการสายสีเขียวเส้นทางหมอชิต-สะพานใหม่ และแบริ่ง-สมุทรปราการ เป็นการมีมติให้ทำเฉพาะงานโยธาเท่านั้น เพราะฉะนั้นขั้นตอนตั้งแต่การการออกแบบ การประสานงาน ขั้นตอนการดูแลระบบต่อเชื่อมระบบราง อาณัติสัญญาณ การบริหารจัดการยังเป็นของ กทม.อยู่ ดังนั้น โครงการนี้จึงควรเป็นของ กทม.โดยที่รฟม.มาร่วมโครงการในส่วนของการก่อสร้างเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า กทม.จะต้องเข้าไปร่วมตั้งแต่ต้นในการกำหนดระบบต่อเชื่อม
พร้อมกันนี้ กทม.ยังได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องที่จะสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและอู่จอดรถ(Depot) ที่คูคต จ.ปทุมธานี ว่าอาจจะไม่มีความจำเป็นเพราะถ้าหากตัดสินใจให้ กทม.ดำเนินการก็สามารถขยายศูนย์ซ่อมบำรุงและอู่จอดรถ(Depot) ที่หมอชิตเพื่อรองรับได้ และ กทม.ยืนยันว่าอย่างน้อยที่สุด ต้องมีการทำงานร่วมกันตั้งแต่การออกแบบ การกำหนดรายละเอียดต่างๆ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประธานในที่ประชุมได้ให้ที่ประชุมตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาการตัดสินใจสายสีส้มและสายสีเขียวโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานโดยให้กรอบระยะเวลาการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1เดือน
นายธีระชน กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังได้มีมติอนุญาตให้ท้องถิ่นสามารถสร้างระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพระบบรองได้ ซึ่งได้แก่ ระบบโมโนเรล(Monorail) ระบบไลท์เรล (Light rail) สามารถดำเนินการได้ จากเดิมที่มติไม่ให้ซ้อนกับโครงสร้างแผนแม่บทระยะเวลา 20 ปี ซึ่งตนได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า 2 สายที่ กทม.ศึกษาทับกับสายสีเทาและสายสีฟ้าคือเส้นทาง กทม.2 และเส้นทางทองหล่อ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ตัดสินใจมีมติให้ กทม.ดำเนินการได้โดยระบุไม่ทับซ้อนในแผน 10 ปีแรก เท่ากับว่า คจร.ไฟเขียวให้ กทม.สามารถสร้างระบบรองได้โดยที่มีการแก้ไขมติในส่วนที่ สนข.เสนอต่อ คจร.

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะเดียวกันที่ประชุมยังรับทราบโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีม่วง (บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ) ที่จะผ่านบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นในและผ่านบริเวณที่ตั้งสถานที่ก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่บริเวณเกียกกาย โดยรฟม.ได้ศึกษความเหมาะสมแล้ว โดยจะมีการศึกษาออกแบบและจัดทำเอกสารประกวดราคา แม้จะยังไม่มีการกำหนดงบประมาณ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 11/02/2010 12:20 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้า 12 สายผ่านที่ใดบ้าง?
เดลินิวส์ วันพุธ ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 7:54 น

เส้นทางรถไฟฟ้า ตามแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2553-2572) 12 เส้นทาง ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการขนส่งและจราจรทางบก (คจร.) เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2553

1 สายสีแดงเข้ม (ธรรมศาสตร์-มหาชัย) ระยะทาง 80.8 กิโลเมตร

แนวสายทางยกระดับเริ่มจากบนโครงข่ายทางรถไฟสายเหนือบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาตามแนวเขตทางรถไฟ ถึงสถานีหัวลำโพง จากนั้น มุ่งหน้าตามแนว ถนนมหาพฤฒาราม ริมคลองผดุงกรุงเกษม และข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณใกล้ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ เข้ามาตามแนว ถนนลาดหญ้า ถึงอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน (วงเวียนใหญ่) เบี่ยงออกถนนเจริญรัถ เข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ไปตามแนวทางรถไฟสายแม่กลองเดิม เข้าเขตอำเภอเมือง สมุทรสาคร ตีโค้งอ้อมตัวเมืองสมุทรสาครขึ้นไปทางเหนือ ผ่านถนนเอกชัยและยกระดับข้ามถนนพระราม 2 สิ้นสุดที่มหาชัย (ใหม่) ใกล้แม่น้ำท่าจีน

แผนการก่อสร้างขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างเตรียมประกวดราคาหาผู้รับเหมาก่อสร้างช่วงบางซื่อ-รังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2557 สำหรับส่วนต่อขยายจากหัวลำโพง-บางบอน กำหนดในแผน 10 เปิดให้บริการปี 2562 ส่วนช่วงที่เหลือคือ บางซื่อ-หัวลำโพง และช่วงจากบางบอน-มหาชัย อยู่ในแผน 20 ปีเปิดให้บริการปี 2572

2 สายสีแดงอ่อน (ศาลายา-หัวหมาก) ระยะทาง 58.5 กิโลเมตร

แนวสายทางเริ่มต้นบริเวณศาลายาจุดตัดทางรถไฟสายใต้กับถนนทวีวัฒนา ยกระดับเข้ามาตามเส้นทางรถไฟสายใต้ผ่านสถานีรถไฟ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานพระราม 6 จากนั้นเข้าสู่สถานีบางซื่อ วิ่งมาตามทางรถไฟใช้แนวเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มถึงพญาไท เลี้ยวตามทางรถไฟผ่าน มักกะสัน คลองตันและสิ้นสุดที่สถานีหัวหมาก นอกจากนี้ในสายสีแดงอ่อนจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าต่อขยายอีกเส้นหนึ่งแยกออกจากสายหลักบริเวณสถานีบางบำหรุ เป็นโครงสร้างใต้ดินทั้งหมดโดยใช้แนวถนนสิรินธร ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานกรุงธนฯ (สะพานซังฮี้) เข้าสู่แนวถนนราชวิถีลอดใต้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผ่านดินแดง ไปสิ้นสุดที่มักกะสัน ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางนี้ได้ปรับปรุงขึ้นเพื่อรองรับการเดินทางย่านในเมือง

แผนการก่อสร้าง ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างก่อสร้างช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน แล้วเสร็จปี 2555 ส่วนช่วงจากตลิ่งชัน-ศาลายาอยู่ในแผน ก่อสร้างช่วง 10 ปีเปิดให้บริการปี 2562 สำหรับช่วงบางบำหรุ-มักกะสัน อยู่ในแผนก่อสร้างภายใน 20 ปี เปิดให้บริการปี 2572

3 สายแอร์พอร์ตลิ้งก์ (บางซื่อ-พญาไท-สุวรรณภูมิ) ระยะทาง 36.4 กิโลเมตร

แนวสายทางเริ่มต้นบริเวณสถานีรถไฟบางซื่อ จากนั้นใช้แนวรถไฟเดียวกับสายสีแดงเข้มและแดงอ่อนมีถึงบริเวณพญาไท และก่อสร้างตามทางรถไฟจากบริเวณพญาไท ผ่านมักกะสัน สิ้นสุดที่ใต้อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยในการประชุมคจร.ล่าสุดได้เห็นชอบให้ขยายเส้นทางสายแอร์พอร์ตลิ้งก์ ต่อขยายจากบางซื่อ ตามแนวรถไฟสายเหนือไปถึงดอนเมืองเพื่อเชื่อมท่าอากาศยานดอนเมืองด้วย ซึ่งส่วนต่อขยายนี้จะมีระยะทางเพิ่มขึ้นอีก 13 กิโลเมตร

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างขณะการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมเปิดให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งก์ ช่วงพญาไท-สุวรรณภูมิภายในเดือน เม.ย. นี้ ส่วนช่วงจากพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง อยู่ในแผนการก่อสร้างระยะ 10 ปี เปิดให้บริการภายในปี 2562

4 สายสีเขียวเข้ม (ลำลูกกา-สมุทรปราการ) ระยะทาง 66.5 กิโลเมตร

แนวเส้นทางเริ่มจากบริเวณบิ๊กซีลำลูกกา ไปตามถนนลำลูกกาข้ามถนนวงแหวนรอบนอกผ่านคลองห้า คลองสี่ คลองสาม มาถึงบริเวณใกล้สถานีตำรวจคูคตแนวเส้นทางเบี่ยงเข้าพื้นที่เอกชนบริเวณประตูกรุงเทพ เข้าสู่แนวเกาะกลางถนนพหลโยธิน ถึงห้าแยกลาดพร้าว ยกข้ามดอนเมืองโทลล์เวย์ ไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่หมอชิต ส่วนอีกด้านต่อขยายจากบีทีเอสจากสถานีอ่อนนุช ไปตามแนวถนนสุขุมวิท ถึงบางปู

ขณะนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) อยู่ระหว่างก่อสร้างส่วนต่อขยายจากอ่อนนุช ถึงแบริ่ง กำหนดเปิดให้บริการปี 2554 ส่วนช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ และแบริ่ง-สมุทรปราการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อยู่ระหว่างสำรวจอสังหาริมทรัพย์เตรียมประกาศประกวดราคาก่อสร้าง คาดว่าเปิดให้บริการปี 2557 สำหรับแนวสายทางส่วนที่เหลือคือ จากคูคต-ลำลูกกา และจากสมุทรปราการ-บางปู ให้อยู่ในแผนดำเนินการระยะ 20 ปี เปิดให้บริการในปี 2572

5 สายสีเขียวอ่อน (ยศเส-บางหว้า) ระยะทาง 15.5 กิโลเมตร

แนวเส้นทางเริ่มจากบริเวณยศเสใกล้กับแยกเจริญผล ไปตามแนวถนนพระราม 1 เชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สนามกีฬาแห่งชาติ ไปตามทางรถไฟฟ้าสายสีลมที่ขณะนี้สิ้นสุดที่สถานีวงเวียนใหญ่ จากนั้นใช้แนวทางยกระดับตามคลองภาษีเจริญ ผ่านวัดโพธิ์นิมิตร ก่อนที่จะข้ามถนนรัชดาภิเษกแนวเส้นทางจะเบี่ยงไปทางทิศใต้ของถนนราชพฤกษ์ โดยวิ่งคู่ขนานทางทิศใต้ (ขาออก) ของโครงสร้างสะพานข้ามทางแยกถนนวุฒากาศ สะพานข้ามคลองภาษีเจริญ แล้วโค้งตามถนน เลยทางต่างระดับตัดกับถนนกัลปพฤกษ์ สิ้นสุดที่จุดบรรจบกับถนนเพชรเกษม

ขณะนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) อยู่ระหว่างเตรียมประกาศประกวดราคาจัดหาผู้ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและระบบรถไฟฟ้า ส่วนช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-ยศเส อยู่ในแผนก่อสร้างระยะ 10 ปีเปิดให้บริการปี 2562

6 สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-หัวลำโพง-ท่าพระ-พุทธมณฑลสาย 4) ระยะทาง 55 กิโลเมตร

ต่อรถไฟฟ้ามหานคร สถานีหัวลำโพงไปตามแนวถนนพระรามที่ 4 เข้าสู่ถนนเจริญกรุง ผ่านวัดมังกรกมลาวาส วังบูรพา เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสนามไชย ผ่านพระบรมมหาราชวัง ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองตลาด ลอดใต้คลองบางกอกใหญ่ เข้าสู่ถนนอิสรภาพ แล้วเปลี่ยนเป็นโครงสร้างยกระดับบริเวณเกาะกลางถนนวิ่งเข้าสู่สี่แยกท่าพระ แล้ววิ่งไปตามถนนเพชรเกษม ผ่านจุดตัดถนนกาญจนาภิเษก สิ้นสุดที่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ส่วนอีกด้านหนึ่งวิ่งเป็นวงกลมในแนวถนนรัชดาภิเษก ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ โดยเริ่มจากจุดเริ่มต้นของรถไฟฟ้ามหานครที่สถานีบางซื่อ ยกระดับผ่านแยกเตาปูน เข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ผ่านสี่แยกบางโพ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาขนานกับสะพานพระราม 7 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ ตรงไปสิ้นสุดที่แยกท่าพระ

ความคืบหน้าขณะนี้ สายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค รฟม.อยู่ระหว่างประกวดราคาหาผู้รับเหมาก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2559 ส่วนช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 อยู่ในแผนดำเนินการระยะ 20 ปี เปิดให้บริการปี 2572

7 สายสีม่วง (บางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ) 42.8 กิโลเมตร

เริ่มจากบางใหญ่ไปตามถนนกาญจนาภิเษก เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัตนาธิเบศร์ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ถึงแยกแคราย เลี้ยวขวาเข้าถนนติวานนท์ ผ่านถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี เข้าประชาราษฎร์ ถึงบริเวณเตาปูน จากนั้นลดระดับลงใต้ดิน เข้าแนวถนนประชาราษฎร์สาย 1 ผ่านแยกเกียกกาย ไปตามถนนสามเสน แล้วเลี้ยวเข้าถนนพระสุเมรุผ่านสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ภูเขาทอง แล้วลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระปกเกล้า เข้าสู่แนวของ ถนนประชาธิปก ลอดใต้อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ไปตามถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน เข้าสู่แนวถนนสุขสวัสดิ์ แล้วจึงเริ่มขึ้นมาเป็นโครงสร้างยกระดับ ผ่านดาวคะนอง ยกข้ามสะพานข้ามทางแยกบริเวณจุดตัด ถนนพระราม 2 ผ่านบางปะกอก ยกข้ามทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัดทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) สิ้นสุดที่ราษฎร์บูรณะ

ความคืบหน้าขณะนี้ โครงการช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ว่าจ้างผู้รับเหมาแล้ว กำหนดเปิดให้บริการปี 2557 ส่วนช่วงจากบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ อยู่ในแผนระยะ 10 ปี เปิดให้บริการปี 2562

8 สายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) ระยะทาง 37.5 กิโลเมตร

เริ่มต้นจากสถานีรถไฟตลิ่งชัน จากนั้นใช้แนวรถไฟสายบางกอกน้อย ผ่านบางขุนนนท์ ผ่านศิริราช ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ผ่านใต้ถนนราชดำเนินแล้วเบี่ยงใช้แนวถนนหลานหลวง ผ่านยมราชแล้วเข้าสู่แนวถนนเพชรบุรี เลี้ยวเข้าถนนราชปรารภถึงดินแดงแล้วเลี้ยว ไปตามถนนวิภาวดีรังสิต จากนั้นเลี้ยวขวาผ่านศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) ตัดตรงไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีศูนย์วัฒนธรรม แล้วเบี่ยงเข้าแนวถนนประชาอุทิศ ตัดผ่านถนนประดิษฐ์มนูธรรม เข้าซอยรามคำแหง 39 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามคำแหง ผ่านลำสาลี ถนนกาญจนาภิเษก สิ้นสุดที่จุดตัดกับถนนร่มเกล้า

รถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นโครงสร้างใต้ดินจากตลิ่งชันถึงบางกะปิ และเป็นทางยกระดับจากบางกะปิ-มีนบุรี กำหนดก่อสร้างในแผนระยะ 10 ปี เปิดให้บริการปี 2562

9 สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 36 กิโลเมตร

จุดต้นทางเริ่มจากบริเวณศูนย์ราชการนนทบุรี ถนนรัตนาธิเบศร์ โดยเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี วิ่งตามถนนติวานนท์ ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรามอินทรา จากแยกมีนบุรี วิ่งตามถนนสีหบุรานุกิจ มีจุดปลายทางบริเวณแยกร่มเกล้า สายนี้อยู่ในแผนดำเนินการใน 10 ปี เปิดให้บริการในปี 2562

10 สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร

เริ่มจากถนนลาดพร้าวที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว ไปตามถนนลาดพร้าว ถึงเดอะมอลล์บางกะปิเลี้ยวขวาเข้าถนนศรีนครินทร์ ไปตามถนนศรีนครินทร์ ถึงแยกศรีเทพา เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเทพารักษ์สิ้นสุดที่สำโรงบริเวณจุดตัดถนนเทพารักษ์กับถนนสุขุมวิท สายนี้อยู่ในแผนดำเนินการใน 10 ปี เปิดให้บริการในปี 2562

11 สายสีเทา (วัชรพล-สะพานพระราม 9) ระยะทาง 26 กิโลเมตร

เป็นรถโมโนเรล เริ่มบริเวณต่างระดับรามอินทรา ปากซอยวัชรพล ใช้แนวถนนประดิษฐ์มนูธรรม ตลอดสายถึงแยกตัดถนนพระราม 9 เลี้ยวที่แยกเอกมัยเหนือ เข้าสู่แนวเกาะกลางถนนเพชรบุรีตัดใหม่แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) ไปออกถนนสุขุมวิทแล้วยกข้ามรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีทองหล่อ เข้าแนวซอยสุขุมวิท 38 ถึงกลางซอย แล้วเบี่ยงแนวใช้เส้นทางซอยสุขุมวิท 40 (ซอยบ้านกล้วยใต้) ไปตามแนวคลองระบายน้ำ จนถึงแยกมหา วิทยาลัยกรุงเทพ เลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 4 ผ่านตลาดคลองเตย ถึงห้าแยก ณ ระนอง เลี้ยวเข้าถนนพระราม 3 ผ่านแยกรัชดา-นราธิวาส แยกด่วนสาธุประดิษฐ์ แยกต่างระดับบางโคล่สิ้นสุดที่เชิงสะพานพระราม 9 (สะพานแขวน) รถไฟฟ้าสายสีเทากรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นผู้ดำเนินการ อยู่ในแผนระยะ 20 ปี เปิดใช้ปี 2572

12 สายสีฟ้า (ดินแดง-สาทร) ระยะทาง 9.5 กิโลเมตร

เป็นรถโมโนเรล ตลอดสายเริ่มจากบริเวณศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ลงมาทางทิศใต้ผ่านเคหะชุมชนดินแดง แยกประชาสงเคราะห์ จุดตัดถนนอโศก-ดินแดง ยกระดับข้ามทางพิเศษศรีรัช (ด่วนขั้นที่ 2) ผ่านบึงมักกะสัน เข้าพื้นที่ภายในสถานีมักกะสัน ตรงไปออกบริเวณแยกอโศก-เพชรฯ แล้วเลี้ยวเข้าถนนเพชรบุรี จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิทยุ ยกระดับข้ามสะพานไทย-เบลเยี่ยม เข้าแนวถนนสาทรผ่านถนนสวนพลู สิ้นสุดที่แยกสาทร-นราธิวาสใกล้บีทีเอส สถานีช่องนนทรี รถไฟฟ้าสาย นี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นผู้ดำเนินการ อยู่ในแผนระยะ 20 ปี เปิดใช้ปี 2572.
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 11/02/2010 12:41 pm    Post subject: Reply with quote

ผมว่า คงแก่ตายก่อนที่จะทันเห็นแอร์พอร์ตลิ้งค์คืบคลานไปถึงดอนเมือง Rolling Eyes

งานก่อสร้างทางรถไฟ มันช่างยากเย็นแสนเข็ญจริงๆ หนอ Confused
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 11/02/2010 12:56 pm    Post subject: Reply with quote

black_express wrote:
ผมว่า คงแก่ตายก่อนที่จะทันเห็นแอร์พอร์ตลิ้งค์คืบคลานไปถึงดอนเมือง Rolling Eyes

งานก่อสร้างทางรถไฟ มันช่างยากเย็นแสนเข็ญจริงๆ หนอ Confused


เว้นแต่กรณีที่ ซาเล้ง อยากให้เปิดดอนเมืองเป็นสนามบินที่ 2 ทำให้ ต้องต่อขยาย Airport Link ไปดอนเมืองตามข่าวต่อไปนี้:

มึน!"โสภณ"พลิกลิ้นหนุนใช้ดอนเมือง จับโกหกซิงเกิ้ลแอร์พอร์ต

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 กุมภาพันธ์ 2553 08:11 น.


นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีวานนี้ (10 ก.พ.) ว่า ได้มีการหารือถึงแนวทางการใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเห็นว่า ควรส่งเสริมด้านทั้งด้านการบินและการพัฒนาเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานควบคู่กันไป ซึ่งจะเปิดให้สายการบินที่มีความสนใจเข้ามาใช้สนามบินดอนเมืองได้ ตามความสมัครใจ ทั้งสายการบินที่มีเที่ยวบินต่างประเทศ และในประเทศ เปิดให้บริการแบบเชิงพาณิชย์อีกครั้ง รวมทั้งศึกษารูปแบบการบริหารสนามบินดอนเมืองที่ทำให้เกิดความคล่องตัว เพื่อทำให้มีรายได้เพิ่ม เช่น ตั้งหน่วยธุรกิจ (Business Unit) หรือแยกบัญชีให้เห็นอย่างชัดเจน

“สนามบินดอนเมืองจะต้องบริหารแบบมืออาชีพ สายการบินไหนอยากบินก็มาได้ แต่ความสำคัญด้านการบินจะอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะสุวรรณภูมิเป็นสนามบินหลัก ดังนั้นการจัดการขึ้น-ลงของเครื่องบินจะต้องให้ความสำคัญที่สนามบินสุวรรณภูมิก่อน ผมไม่เคยพูดเรื่อง สนามบินเดี่ยว (Single Airport) ต้องใช้ 2 สนามบิน ซึ่งเรื่องนี้จะต้องศึกษาและจัดทำข้อมูลอีกครั้งซึ่งคงใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง”นายโสภณ กล่าว

ส่วนการเปิดให้สายการบินที่สนใจเข้ามาทำการบินที่สนามบินดอนเมืองนั้น หากสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส หรือสายการบินไทยแอร์เอเชีย จะกลับมาเปิดให้บริการที่ดอนเมืองได้หรือไม่ นายโสภณ กล่าวสั้นๆว่า “ก็ขึ้นอยู่กับว่าถ้าเขาอยากมาก็มา”

นอกจากนี้ที่ประชุมฯ ยังเห็นว่า ในการเสนอการลงทุนเพื่อเพื่อขีดความสามารถพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ควรจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังโครงการให้ชัดเจน เช่น การก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) เส้นที่ 3 , งานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (Domestic Terminal) รวมถึงศึกษาแนวทางการให้เอกชนเข้ามาบริหารสนามบินภูมิภาคของกรมการบินพลเรือน (บพ.) โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขระเบียบและข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อต้นปี 2552 ช่วงต้นรัฐบาลอภิสิทธิ์ นายโสภณ ซารัมย์ ได้โควตาพรรคภูมิใจไทยเป็นรมว.คมนาคมได้มีการชูนโยบายผลักดันให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินเดี่ยว (Single Airport)รองรับเที่ยวบินพาณิชย์ทั้งหมด ส่วนสนามบินดอนเมืองจะใช้สำหรับรองรับอุตสาหกรรมการบินเป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานและรองรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) เครื่องบินส่วนตัว (Private Jet)โดยให้ย้าย 3สายการบิน คือ การบินไทย นกแอร์ และวันทูโกจากสนามบินดอนเมืองกลับไปให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่การบินไทยรับนโยบายปฏิบัติทันทีโดยอ้างว่าการใช้ดอนเมืองคู่สุวรรณภูมิในการบินทำให้ขาดทุน

ในขณะที่นโยบายเดิมใช้สนามบินดอนเมืองรองรับเที่ยวบินภายในประเทศที่ไม่มีผู้โดยสารต่อเครื่องเพื่อช่วยลดความแออัดภายในอาคารผู้โดยสารและแผนขยายสุวรรณภูมิเฟส 2 ล่าช้า จึงมีข้อครหาในการย้ายเที่ยวบินการบินไทยไปสุวรรณภูมิว่าเป็นนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มคิงเพาเวอร์ที่รับสัมปทานพื้นที่เชิงพาณิชย์หรือไม่
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 12/02/2010 9:43 am    Post subject: Reply with quote

สนข.ใบ้สายสีส้มต้อง รฟม. นัดถกอนุ กก.สัปดาห์หน้า
โดย ทีมข่าว กทม.
ไทยรัฐออนไลน์ 12 กุมภาพันธ์ 2553, 05:00 น.

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงกรณีการแบ่งความรับผิดชอบโครงการรถ ไฟฟ้าตามแผนแม่บทสายสีส้มและสายสีเขียว ระหว่าง กทม.กับ รฟม.ว่า ที่ประชุม คจร.ได้แต่งตั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เป็นประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ พิจารณาหาข้อยุติ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ สายสีเขียวจะพิจารณาเรื่องการบริหารจัดการเดินรถ หลังจาก ครม.มีมติให้ รฟม.ดำเนินการด้านโยธา ส่วนการบริหารการเดินรถมอบให้ กทม.กับ รฟม. พิจารณาร่วมกัน ส่วนสายสีส้มที่ กทม.เสนอขอดำเนินการแทน รฟม.นั้น ถ้าพิจารณาตามโครงสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งแนวสายทางช่วงผ่านกลางเมืองจะต้องก่อสร้างเป็นอุโมงค์ใต้ดินและต่อเชื่อมกับสายสีน้ำเงิน รวมถึงใช้อู่จอดรถ ร่วมกัน ก็น่าจะรู้ว่าใครควรจะต้องทำ เรื่องนี้ชัดเจน มีเหตุผลอยู่ในตัวสามารถ อธิบายได้ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯจะนัดประชุมหารือสัปดาห์หน้า

ผอ.สนข.กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุม คจร.ได้มีมติเห็นชอบให้ ปรับปรุงคณะอนุกรรมการประสานการแก้ไขจราจรและขนส่งระยะเร่งด่วน จากเดิม ผอ.สนข.เป็นประธาน เป็นให้ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ผอ.สนข.เป็นรองประธาน และแต่งตั้งนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายก รัฐมนตรี เป็นอนุกรรมการที่ปรึกษา สำหรับกรรมการได้ระบุตำแหน่งชัดเจน เช่น กรรมการจาก กทม.ระบุตำแหน่ง ผอ.สำนักการโยธา ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง จากเดิมแค่ผู้แทนหน่วยงาน ทั้งนี้ เพื่อให้พิจารณาและทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 22, 23, 24 ... 299, 300, 301  Next
Page 23 of 301

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©