Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312065
ทั่วไป:13666841
ทั้งหมด:13978906
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 80, 81, 82 ... 489, 490, 491  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
BanPong1
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 07/12/2006
Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี

PostPosted: 28/01/2010 9:03 pm    Post subject: Reply with quote

Rakpong wrote:
เรื่องทางรถไฟจากกาญจนบุรีไปทวาย ทาง KOICA เคยมาสำรวจแล้วล่ะครับ บอกว่ายากเหมือนกัน เพราะต้องตัดผ่านภูเขาสูงชันหลายแห่ง

แต่นึกถึงสมัยญี่ปุ่นมาสร้างไปตันบีอูซายัต ยังทำได้เลย เทคโนโลยีปัจจุบัน ถ้าทุ่มทุนหน่อย น่าจะทำได้

ว่าแต่ใครจะทุ่มทุน Rolling Eyes


อยู่ที่ว่าบ้านเรากับบ้านเขาจะไว้ใจกันได้มากกว่านี้เมื่อไรกระมังครับ
ผมว่าเรื่องเทคโนโลยีสมัยนี้น่าจะช่วยสร้างได้เสร็จไม่น่าเกิน 5 ปี ครับคุณหมอ
เราอาจจะมีรถไฟท่องเที่ยวแบบในยุโรปข้ามประเทศได้หลายประเทศ
และน่าจะมี Asian Railpass แบบ 1 - 2 -3 - 4 -....10 ประเทศแบบ Eurail Pass นะครับ ฝันนี้จะเป็นจริงไหมนี่ Laughing Laughing

Mongwin wrote:
ถ้าสร้างได้จริง ๆ จะสามารถนั่งรถไฟจากกรุงเทพไปย่างกุ้งได้ครับ Very Happy


อย่างนั้นผมก็อาจจะได้ขึ้นรถไฟระหว่างประเทศที่สถานีบ้านโป่งใหม่นะซิครับอาจารย์เอก
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 28/01/2010 10:04 pm    Post subject: Reply with quote

อ่า..ป๋าครับ ผมว่าที่ล่าช้าอาจเป็นว่าเป็นเรื่องแบ่งเค้กไม่ลงตัวมากกว่ามั้ง ? Razz
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44032
Location: NECTEC

PostPosted: 29/01/2010 5:41 pm    Post subject: Reply with quote

^^^
ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น ตามข่าวต่อไปนี้:
//-----------------------------------------------------------------

ฉวยจังหวะสหภาพระส่ำหนัก'โสภณ'สั่งตั้งบริษัทลูกเดินรถ

โดย ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ 29 มกราคม 2553 16:06 น.


โดยเมื่อ 2สัปดาห์ก่อน โสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศหหนุนหลังให้ยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่ารฟท.เดินหน้ายื่นอุทธรณ์ต่อศาลแรงงานกลาง ภายหลังที่คณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(ครส.) มีมติให้รฟท.รับ 6 พนักงาน ประกอบด้วย

ธวัชชัย บุญวิสูตร ช่างเครื่อง 5 ,
สรวุฒิ พ่อทองคำ ช่างเครื่อง 5 ,
สาโรจน์ รักจันทร์ ช่างเครื่อง 5
ประชานิวัฒน์ บัวศรี พนักงานรถจักร 6 ,
วิรุฬห์ สะแกคุ้ม พนักงานรถจักร 6 และ
นิตินัย ไชยภูมิ นายสถานีบางกล่ำ ฝ่ายการเดินรถ

ที่กระทำความผิดจากการหยุดเดินรถไฟสายใต้เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่ผ่านมากลับเข้ามาทำงาน

สาเหตุที่โสภณ หนุนหลังรฟท.เพราะเห็นว่า 6 พนักงานมีความผิดฐานทำให้รฟท.เสียชื่อเสียที่สำคัญยังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อองค์กรโดยรวม อีกทั้งทำประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความเดือนร้อน

ล่าสุดรฟท.เดินหน้าจัดตั้งบริษัทลูก เพื่อรองรับการเดินรถไฟฟ้าชานเมือง แอร์พอร์ตลิงก์ สุวรรณภูมิ-พญาไท เพราะหากรฟท.ยังไม่ดำเนินการจัดตั้งบริษัทลูกอาจจะมีผลต่อการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์แน่นอน โสภณ กล่าวว่า ให้บอร์ดรฟท.สั่งการให้รฟท.ตั้งคณะกรรมการฯขึ้นมามาเร่งรัดติดตามงาน เพราะเห็นว่าโครงการมีความล่าช้าต้องการที่จะให้เปิดใช้บริการเชิงพาณิชย์ตามกำหนดการเดิมคือในเดือนเม.ย.นี้ โดยคณะกรรมการจะต้องรายงานความคืบหน้าให้บอร์ดทราบทุกๆ 2 สัปดาห์ เพื่อให้ทราบถึงปัญหาและหาแนวทางการแก้ไขให้ตรงจุด

'การดำเนินการดังกล่าวไม่ใช้เป็นการซื้อเวลา แต่เป็นการแก้ไขปัญหาอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเรื่องนี้รฟท.จะต้องโชว์ว่ามีศักยภาพที่มีอยู่ในสังคมให้ประชาชนผู้รอใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เห็น เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่างบประมาณที่ครม.อนุมัติกว่า 1.5 แสนล้านบาทมีความโปร่งใสและมีมาตรฐานสากลในทุกๆด้าน '

ด้านสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะบอร์ดรฟท.กล่าวว่า บอร์ดมีมติให้ผู้บริหาร รฟท.ไปจดทะเบียนบริษัทลูกตามมติ ครม.โดยใช้ชื่อบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ส่วนกรณีที่ สร.รฟท.จะคัดค้านเรื่องดังกล่าวนั้น เชื่อว่าสร.รฟท.จะไม่คัดค้าน เนื่องจากที่ผ่านมาได้พบกันครึ่งทางแล้ว เพราะเดิมนั้นสภาพัฒน์ฯเคยเสนอให้ตั้งเป็น 2 บริษัท คือบริษัทเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ลิงก์ กับบริษัทบริหารทรัพย์สิน แต่เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งกระทรวงคมนาคมได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยการตั้งหนึ่งบริษัทลูกกับ2 หน่วยธุรกิจ(BU)ตามความต้องการของ สร.รฟท.แล้ว จึงไม่น่าจะมีปัญหา

ทั้งนี้ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ บริการด้วยความเร็วสูงถึง 160 กม.ต่อชั่วโมง วิ่งบนทางยกระดับ จากสถานีพญาไท ไปตามแนวเส้นทางรถไฟสายตะวันออก ก่อนลดระดับลงสู่ใต้ดิน เข้าสู่สถานีปลายทางสนามบินสุวรรณภูมิ รวมระยะทาง 28 กม. สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 14,000 - 15,000 คนต่อวัน ค่าโดยสารเฉลี่ยประมาณ 15 - 150 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานของประเทศอื่นๆแล้ว ถือว่าโครงการของประเทศไทยคิดค่าโดยสารถูกที่สุด

สำหรับข้อดีของการมีบริษัทลูกแอร์พอร์ตลิงก์ คือ มีการแยกบัญชีทรัพย์สิน การบริหารจัดการ และทรัพยากร อย่างชัดเจน ส่วนข้อเสียคือ รฟท.อาจจะต้องแบกรับภาระหนี้สินกรณีบริษัทลูกขาดทุน
Back to top
View user's profile Send private message
RORONOA
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 06/12/2007
Posts: 705

PostPosted: 29/01/2010 7:29 pm    Post subject: Reply with quote

tamz wrote:
"ไตรรงค์" ปลุกผีเซาเทิร์นซีบอร์ด วาดฝันลงขัน 1 ล้านล.ปั้นเศรษฐกิจยาว 30 ปี
ไทยรัฐออนไลน์วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ.2553 http://www.thairath.co.th/content/eco/61314

รองนายกฯใหม่ เปิดไอเดียสร้างเศรษฐกิจระยะยาว 1 ล้านล้านบาท ใน 30 ปี ข้างหน้า เปิดนโยบายปลุกผี "เซาเทิร์นซีบอร์ด-แลนด์บริดจ์" ระบุมีต่างชาติสนใจลงทุนให้เดินหน้าสร้างระบบชลประทานขนาดใหญ่ ขณะที่แทงกั๊ก พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทสร้างถนนปลอดฝุ่นเฟส 2บ่อน้ำ ลั่นไม่เอาโครงการเบี้ยหัวแตก

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวทางการทำงาน ในฐานะที่ดูแลเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ ว่า การแก้ปัญหาระยะสั้นที่รัฐบาลชุดนี้ทำมาถือว่าถูกต้องจะไม่ เปลี่ยนแปลงอะไร จะเร่งต่อยอดการทำงานเพื่อวางรากฐานการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะยาว โดยวางโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ให้กับประเทศ รวมวงเงินลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท ในช่วง 5 ปี 10 ปี และ 15 ปีต่อจากนี้ เพื่อวางรากฐานให้กับประเทศไทยในอีก 30 ปีข้างหน้าประกอบด้วย การฟื้นโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคใต้ (เซาเทิร์นซีบอร์ด) ก่อสร้างสะพานเศรษฐกิจหรือแลนด์บริดจ์จากสตูล-สงขลา ระยะทาง 30 กม. พร้อมด้วยรถไฟ ท่อส่งน้ำมัน และท่าเรือน้ำลึกเพิ่มในฝั่งอันดามัน เพื่อขนส่งสินค้าไปยุโรปและตะวันออกกลาง เนื่องจากการใช้พื้นที่มาบตาพุดและแหลมฉบังใกล้เต็มแล้ว โดยจะใช้เงินลงทุน 400,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้ประเทศไทยไม่ต้องลงทุนเอง มีหลายประเทศสนใจลงทุนให้ โดยเฉพาะประเทศที่ต้องการขายน้ำมันอย่าง คูเวต รัฐอาบูดาบี ของดูไบ รวมทั้งญี่ปุ่น และให้ไทยถือหุ้น 51% ซึ่งตนจะเรียกประชุมคณะกรรมการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคใต้เร็วๆ นี้ และคาดภายใน 5 เดือน จะออกประกาศเชิญชวนให้ต่างประเทศที่สนใจมาสำรวจการลงทุนได้

ขณะเดียวกัน ต้องการก่อสร้างรถไฟรางคู่ทั่วประเทศ ระยะทาง 3,039 กม. เงินลงทุน 60,000-70,000 ล้านบาท เพื่อลดต้นทุนระบบโลจิสติกส์ของไทย โดยเห็นว่าขนาดของรางรถไฟกว้าง 1 เมตรเหมาะสมและเหมือนกับเพื่อนบ้าน เช่น ลาว มาเลเซีย พม่า โดยระบบรางคู่นี้จะเชื่อมตั้งแต่จีนลงมาถึงเซาเทิร์นซีบอร์ด เป็นการเปิดเส้นทางขนถ่ายสินค้าใหม่ ช่วยลดต้นทุน และคนได้บริโภคสินค้าถูกลงพร้อมกับต้องการวางระบบชลประทานเพิ่มขึ้น ซึ่งใช้เงินลงทุน 200,000-300,000 ล้านบาท เนื่องจากพื้นที่เขตชลประทานในภาคกลางปัจจุบัน บอกว่ามี 24 ล้านไร่ แต่ที่สามารถปลูกข้าวได้ปีละ 2 ครั้งจริงมีเพียง 12 ล้านไร่เท่านั้น จำเป็นต้องทำเพิ่มอีก 11 ล้านไร่ และที่ว่าประเทศไทยมีฝนตกอุดมสมบูรณ์ แต่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้เพียง 5% ของฝนที่ตกลงมาทั้งหมด ภาคอีสานเก็บได้เพียง 3% นอกนั้นไหลลงแม่น้ำโขงหมด จึงจะต้องทำแก้มลิงในภาคอีสานหลายๆ จุด เพื่อบริหารจัดการน้ำได้อย่างเต็มที่

นายไตรรงค์ยังได้กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.การกู้เงิน 400,000 ล้านบาทที่ยังอยู่ในสภาฯว่า หากจะกู้เงินก้อนนี้ ก็ควรจะนำมาลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ เพื่อวางพื้นฐานให้กับประเทศในระยะยาวมากกว่า เพราะการจะนำไปสร้างถนนไร้ฝุ่น สะพานข้ามคลอง จะไม่คุ้มที่จะทำให้รายได้ประชาชาติ (จีดีพี) เพิ่มขึ้นตามที่ได้จ่ายเงินออกไป และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ก็วิจัยออกมาแล้วว่า ตอนนี้ถนนในประเทศมีจำนวนมากเกินเหตุแล้ว ขอให้หยุดและชะลอ เพื่อนำเงินมาปรับใช้กับโครงการขนาดใหญ่

"ที่ผ่านมารัฐบาลต้องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น รัฐบาลเร่งทำโครงการขนาดเล็กถูกต้องแล้ว เพราะเศรษฐกิจโลกทรุด นักท่องเที่ยวไม่มา ส่งออกติดลบเกือบ 30% คนไม่มีเงินในกระเป๋า ต้องอัดฉีดเงินเข้าระบบ ทำโครงการถนนไร้ฝุ่น บ่อน้ำ มีโกงกันบ้าง แต่เศรษฐกิจพยุงขึ้นมาได้ ตอนนี้เศรษฐกิจโลกรับไม้จากเรา จึงหมดความจำเป็นต้องทำโครงการเร่งด่วน หากจะกู้อีก 400,000 ล้านบาทมาทำโครงการเร่งด่วนอีกผมไม่ยอม จะทำแบบเบี้ยหัวแตกไม่ได้ แต่หากกู้มาลงทุนอีก 30 ปี ให้ลูกหลานอยู่สบายผมเห็นด้วย"

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า จะตั้งคณะที่ปรึกษาขึ้นมาศึกษาข้อมูลต่างๆ ตามที่ตนวางนโยบายไว้ 6 คณะ จะพยายามไม่ให้เกิน 45 คน หรือคณะละ 6-7 คน เช่น ได้นายตีรณ พงษ์มฆพัฒน์ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ ดูภาพรวมโครงสร้างอุตสาหกรรมทั่วประเทศ นอกจากนั้น ยังได้ขอให้ กระทรวงการคลังกลับไปจัดทำรายละเอียดการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2554 ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 1.65 ล้านล้านบาทให้ชัดเจน โดยเฉพาะการจัดเก็บรายได้จากภาษีนิติบุคคลธรรมดา เนื่องจากเห็นว่าภาคเอกชนซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเพิ่งพ้นภาวะบาดเจ็บจากวิกฤติเศรษฐกิจ แม้ว่าจะดีขึ้นในปี 2553 แต่เห็นว่าควรเปิดโอกาสให้ได้รักษาบาดแผลบ้าง ไม่ใช่รีดภาษีจนไม่มีเงินเหลือไว้รักษาบาดแผล.
...........................................................

นับว่าเป็นข่าวดีและเป็นนโยบายที่เด่นชัดและตรงเป้าที่สุดเท่าที่พรรคนี้เป็นรัฐบาลมา... สิ่งที่ไทยเราขาดแคลนมากที่สุดก็คือการวางแผนพัฒนาประเทศระยะยาวในนั่นเอง

ไม่รู้เป็นไง รู้สึกรักท่านไตรรงค์ฯ ที่สุดเลยครับ Embarassed Embarassed Embarassed

ปล.ท่านไตรรงค์ครับ หนึ่งปีที่ผ่านมา รัฐบาลเอาท่านไปทิ้งไว้ที่ใหนครับเนี่ยยยยย..... Confused Confused Confused


กลับบ้านไปหลายวัน เพิ่งเข้ามาอ่านครับ เกิดมารู้จักรัฐมนตรีมาตั้งหลายคน เพิ่งจะเจอท่านนี้ล่ะครับ ที่นโยบายและวิสัยทัศน์ท่านช่างถูกใจเสียจริงครับ ขอให้ท่านดำเนินตามนโยบายของท่านได้อย่างราบรื่น และประสบผลสำเร็จนะครับ ถ้าเหล่านักการเมืองมีวิสัยทัศน์อย่างนี้บ้างสัก 10% ประเทศไทยคงเจริญไม่น้อย ว่าแต่สัก 1% จะเป็นไปได้ไหมครับ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
siriwadhna
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 05/10/2009
Posts: 126

PostPosted: 30/01/2010 3:01 pm    Post subject: Reply with quote

RORONOA wrote:
กลับบ้านไปหลายวัน เพิ่งเข้ามาอ่านครับ เกิดมารู้จักรัฐมนตรีมาตั้งหลายคน เพิ่งจะเจอท่านนี้ล่ะครับ ที่นโยบายและวิสัยทัศน์ท่านช่างถูกใจเสียจริงครับ ขอให้ท่านดำเนินตามนโยบายของท่านได้อย่างราบรื่น และประสบผลสำเร็จนะครับ ถ้าเหล่านักการเมืองมีวิสัยทัศน์อย่างนี้บ้างสัก 10% ประเทศไทยคงเจริญไม่น้อย ว่าแต่สัก 1% จะเป็นไปได้ไหมครับ


ผมก็เพิ่งเคยได้ยิน นักการเมืองที่โปรราง 1 เมตร คนแรกนี่แหละครับ ส่วนใหญ่มักจะเอารางมาตรฐานมาพูดอวดรู้กันอยู่นั่น (ขออภัยคนที่โปรรางมาตรฐานด้วย)
Back to top
View user's profile Send private message
nathapong
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom

PostPosted: 30/01/2010 10:35 pm    Post subject: Reply with quote

siriwadhna wrote:

ผมก็เพิ่งเคยได้ยิน นักการเมืองที่โปรราง 1 เมตร คนแรกนี่แหละครับ


ก็เป็นลูกศิษย์ของ อ.สง่า นาวีเจริญ ขอรับ... Rolling Eyes
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44032
Location: NECTEC

PostPosted: 31/01/2010 9:41 am    Post subject: Reply with quote

"รถไฟ-แลนด์บริดจ์" 4 แสน ล. เบรกคลังบี้ภาษีนิติบุคคล
สัมภาษณ์พิเศษ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี

ประชาชาติธุรกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 4179 วันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

ประชาชาติธุรกิจ : นอกจากระบบน้ำ มีระบบอะไรอีก ที่ต้องจัดลำดับลงทุนใหม่?

ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี: ระบบโลจิสติกส์ ซึ่งผมอยากทำรถไฟรางคู่ ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2494 ไม่มีการพัฒนาเพิ่มเติม ผมต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบรางให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้องเปลี่ยนหัวรถจักรทั้งหมด เปลี่ยนรางทั้งประเทศ คาดว่าจะใช้เงิน 8.5 หมื่นล้านบาท เพื่อปรับปรุงของเก่าทั้งหมด โดยจะโยงรถไฟขนส่งไปเหนือสุด ใต้สุด เข้าสู่ภาคกลาง และเข้าสู่ท่าเรือ มาบตาพุด ท่าเรือแหลมฉบัง และต้องมีท่าเรืออันดามันเพิ่มอีกหนึ่งท่า เชื่อมกับระบบแลนด์บริดจ์ ซึ่งต้องใช้งบฯอีก 6-7 หมื่นล้านบาท

ประชาชาติธุรกิจ : ต้องทำแผนการรถไฟรางคู่ทั่วประเทศ

ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี: สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี เคยทำไว้แล้ว 234 กิโลเมตร แต่ระยะต่อไปต้องทำทั่วประเทศให้ครบ 3,039 กิโลเมตร ผมอยากเห็นรถไฟรางคู่โยงไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน มีศูนย์กลาง ขนถ่ายสินค้า

ประชาชาติธุรกิจ : เรื่องระบบท่าเรือ ต้องเพิ่มที่ไหนบ้าง

ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี: ที่มีอยู่ 2 ท่า คือมาบตาพุดกับแหลมฉบังไม่พอ ต้องทำเพิ่ม ต้องมีท่าเรือที่อันดามัน เพื่อรองรับการส่งออกไปยุโรป การขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลาง เราควรฉวยโอกาสทำแลนด์บริดจ์เพื่อเชื่อมกับระบบรถไฟ เชื่อมกับระบบขนส่งน้ำมันผ่านท่อ โครงการนี้รัฐบาลไทยจะลงทุน 51% ที่เหลือจะเชิญชวนนักลงทุนต่างประเทศมาร่วมลงทุน จะมีประกาศเชิญชวนเร็ว ๆ นี้

ประชาชาติธุรกิจ : พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับทำโครงการแลนด์บริดจ์เลือกที่ไหน

ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี: ผมเลือกพื้นที่สตูล-สงขลา จากท่าเรือปากบารา ซึ่งเป็นผลการศึกษาความ เหมาะสม และผลการศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจแล้ว โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ระยะทาง 30 กิโลเมตร พื้นที่เหมาะสมทั้งสั้น-แคบ ขณะนี้มีกลุ่มประเทศอาบูดาบี คูเวต และญี่ปุ่นสนใจมาลงทุนร่วมกับเรา

โครงการนี้จะต่อเชื่อมกับระบบรถไฟ ไปถึงประเทศจีน มีเขตอุตสาหกรรมต่อเนื่อง มีโรงกลั่น โรงงานประกอบชิ้นส่วนรถยนต์เพื่อส่งออก ผมเชื่อว่าหากเราลงทุนโครงการนี้ ญี่ปุ่นจะอยากมาร่วมลงทุนกับไทย เพื่อผลิตสินค้าส่งออกไปจีน ผมจะออกประกาศเชิญชวนนักลงทุนจัดทำ MOU ภายใน 5 เดือน และกำหนดรูปแบบการลงทุนแบบ international bid คาดว่าจะใช้งบฯลงทุนประมาณ 4 แสนล้านบาท

ประชาชาติธุรกิจ : การจัดลำดับความสำคัญลงทุนผ่าน พ.ร.บ.-พ.ร.ก.เงินกู้และงบประมาณ จะทำเช่นไร?

ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี: ถ้าประเทศกู้เงินมาต้องลงทุน 3 อย่างเท่านั้น คือ ระบบน้ำ-ชลประทาน, ระบบขนส่ง-รถไฟรางคู่ และโครงการท่าเรือแลนด์บริดจ์เท่านั้น ไม่ใช่ไปทำโครงการถนนไร้ฝุ่น สร้างคลอง ทำถนน ไปทำแบบเบี้ยหัวแตก ต้องหยุด ชะลอ หรือเปลี่ยนแนวทางใช้งบฯไปลงทุนระบบรางมากขึ้น

ที่ผ่านมาการลงทุนเพื่อรองรับเศรษฐกิจโลกตกต่ำนั้นถือว่าถูกต้อง โกงบ้าง...ไม่รู้ แต่ต้องอัดฉีดเงินไปสู่ระบบ แต่ต่อไปนี้ไม่จำเป็นอีกแล้ว เศรษฐกิจฟื้นแล้ว เงินกู้อีก 4 แสนล้าน ต้องลงทุน 3 ระบบเท่านั้น ต่อไปนี้ถ้ากู้มาทำโครงการเล็ก ๆ ระยะสั้น ๆ อีกผมไม่ยอม...ไม่ถูกเรื่อง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44032
Location: NECTEC

PostPosted: 31/01/2010 10:05 am    Post subject: Reply with quote

สนข.เร่งดัน 'แลนด์บริดจ์'เข้าครม
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ หน้า อสังหาฯ Real Estate
วันอังคารที่ 26 มกราคม 2010 เวลา 13:37 น.
จาก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,500 28 -30 มกราคม พ.ศ. 2553


ดร.จุฬา สุขมานพ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความคืบหน้าของโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้หรือแลนด์บริดจ์ว่าจากความล่าช้าของการศึกษาจึงได้มอบหมายนโยบายให้คณะทำงานทำการศึกษาใหม่โดยแยกการศึกษาโครงการท่อต่อส่งน้ำมันออกเพราะเกรงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และทำให้โครงการเกิดขึ้นได้ยาก

ส่วนการเปิดรับฟังความคิดเห็นของนักธุรกิจและประชาชนในพื้นที่โครงการแล้วหลายฝ่ายเห็นด้วยเพียงแต่ต้องปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติมบางส่วน เท่านั้นและไหน ๆ โครงการก็ล่าช้าออกไปมากแล้ว แต่การศึกษานั้นยังดำเนินการต่อไปแม้ว่า "ดูไบเวิลด์" จะมีปัญหาทางการเงินเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่โครงการยังเดินหน้าและเชื่อว่าภายในเดือนมกราคมนี้น่าจะสรุปผลการศึกษาได้และนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้ในเร็ว ๆ นี้ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงใด ก็ต้องส่งให้กระทรวงนั้น ๆ ดำเนินการ

"เรื่องนี้ถือเป็นภาพใหญ่ของประเทศ กระทรวงใดเกี่ยวข้องก็ต้องรับเรื่องไปดำเนินการ ส่วนการลงทุนนั้นกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ดำเนินการ เป็นเจ้าภาพในการเชิญชวนนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาดำเนินการ ส่วนรูปแบบจะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องดูกับต่อไป รูปแบบการศึกษาเบื้องต้นจะต้องมีการก่อสร้างท่าเทียบเรือ 2 ที่คือ ปากบารา จังหวัดสตูล และอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา และคาดภายในเดือนมกราคมนี้น่าจะได้ผลสรุปเบื้องต้น"

อย่างไรก็ตามแม้ว่า "ดูไบเวิลด์" จะมีปัญหาเรื่องการเงินก็ตามแต่ในเรื่องการลงทุนนั้นไม่น่าเป็นห่วงเพราะดูไบเวิลด์ ไม่ได้เป็นผู้ลงทุนแต่จะเป็นตัวกลางในการหานักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาดำเนินการเหมือนเป็นนายหน้าหลังจากเขาได้ทำลักษณะนี้ในท่าเรือขนาดใหญ่หลายแห่งทั่วโลก ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้นอาจจะเป็นการลงทุนโดยฝ่ายไทยร่วมทุนกับต่างชาติ ซึ่งขณะนี้มีนักลงทุนจากต่างประเทศให้ความสนใจทั้ง ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง ส่งคนเข้ามาคุยแล้ว

ทั้งนี้รูปแบบการศึกษาเบื้องต้นจะมีการสร้างท่าเทียบเรือจากอ่าวไทยเชื่อมโยงมายังฝั่งทะเลอันดามันมีการพัฒนาพื้นที่ เขตนิคมอุตสาหกรรมใหม่ ที่จะเกิดขึ้นเพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการลงทุน แนวทางเส้นทางรถไฟ ระยะทาง 130 กิโลเมตร เพื่อให้เกิดการ เชื่อมโยงการคมนาคม ทั้งทางบกและทางน้ำเพื่อให้ผลการศึกษาออกมาน่าลงทุนมากที่สุด และคาดว่าเบื้องต้นคงลงทุนไม่ต่ำกว่า 3 -5 หมื่นล้านบาท บางส่วนอาจจะต้องมีการเวนคืน โดยโครงการรถไฟอาจจะใช้งบถึงหมื่นล้านบาทและถ้ารวมทั้งโครงการนั้นคาดต้องลงทุนเป็นแสนล้านบาท

อนึ่งการพัฒนาระบบขนส่งเพื่อการเชื่อมโยงท่าเรือนั้น สนข.ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาคือบริษัทเอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด เป็นเงินจำนวน 91 ล้านบาท เพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้น ส่วนกรมเจ้าท่าได้ก่อสร้างท่าเรือปากบาราวงเงิน 12,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขนส่งสินค้า
Back to top
View user's profile Send private message
BanPong1
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 07/12/2006
Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี

PostPosted: 31/01/2010 10:46 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:

ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี: ระบบโลจิสติกส์ ซึ่งผมอยากทำรถไฟรางคู่ ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2494 ไม่มีการพัฒนาเพิ่มเติม ผมต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบรางให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้องเปลี่ยนหัวรถจักรทั้งหมด เปลี่ยนรางทั้งประเทศ คาดว่าจะใช้เงิน 8.5 หมื่นล้านบาท เพื่อปรับปรุงของเก่าทั้งหมด โดยจะโยงรถไฟขนส่งไปเหนือสุด ใต้สุด เข้าสู่ภาคกลาง และเข้าสู่ท่าเรือ มาบตาพุด ท่าเรือแหลมฉบัง และต้องมีท่าเรืออันดามันเพิ่มอีกหนึ่งท่า เชื่อมกับระบบแลนด์บริดจ์ ซึ่งต้องใช้งบฯอีก 6-7 หมื่นล้านบาท

ประชาชาติธุรกิจ : ต้องทำแผนการรถไฟรางคู่ทั่วประเทศ

ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี: สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี เคยทำไว้แล้ว 234 กิโลเมตร แต่ระยะต่อไปต้องทำทั่วประเทศให้ครบ 3,039 กิโลเมตร ผมอยากเห็นรถไฟรางคู่โยงไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน มีศูนย์กลาง ขนถ่ายสินค้า

ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี: ถ้าประเทศกู้เงินมาต้องลงทุน 3 อย่างเท่านั้น คือ ระบบน้ำ-ชลประทาน, ระบบขนส่ง-รถไฟรางคู่ และโครงการท่าเรือแลนด์บริดจ์เท่านั้น ไม่ใช่ไปทำโครงการถนนไร้ฝุ่น สร้างคลอง ทำถนน ไปทำแบบเบี้ยหัวแตก ต้องหยุด ชะลอ หรือเปลี่ยนแนวทางใช้งบฯไปลงทุนระบบรางมากขึ้น

ที่ผ่านมาการลงทุนเพื่อรองรับเศรษฐกิจโลกตกต่ำนั้นถือว่าถูกต้อง โกงบ้าง...ไม่รู้ แต่ต้องอัดฉีดเงินไปสู่ระบบ แต่ต่อไปนี้ไม่จำเป็นอีกแล้ว เศรษฐกิจฟื้นแล้ว เงินกู้อีก 4 แสนล้าน ต้องลงทุน 3 ระบบเท่านั้น ต่อไปนี้ถ้ากู้มาทำโครงการเล็ก ๆ ระยะสั้น ๆ อีกผมไม่ยอม...ไม่ถูกเรื่อง


ขอ quote คำให้สัมภาษณ์สำคัญๆของท่านรองนายกฯดร.ไตรรงค์ ครับ
ต้องมีผู้บริหาร พูดชัดๆ และ พูดดังๆ อย่างนี้ครับ ขอให้พูดบ่อยๆ ไม่เบื่อครับ
และขอให้ผลักดันให้ถึงที่สุดครับ เป็นประโยขน์ให้กับประเทศและประชาชน และเป็นบุญให้กับผู้ทำครับ
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
nathapong
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom

PostPosted: 31/01/2010 12:04 pm    Post subject: Reply with quote

^
^
อ.บ้านโป่งครับ

ว่าแต่ประชุม ครม.เศรษฐกิจรอบหน้า

นักข่าวสายทำเนียบ จะเอาที่ อาจารย์.กบ ให้สัมภาษณ์ เรื่องท่าเรือทวาย ไปถาม อ.ไตรรงค์ก่อนประชุม หรือไม่ Question Question

อยากรู้จริง ๆ นะเนี่ย ......อิอิ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 80, 81, 82 ... 489, 490, 491  Next
Page 81 of 491

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©