| View previous topic :: View next topic |
| Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 25/01/2010 2:32 am Post subject: |
|
|
คมนาคมเดินเครื่องระบบตั๋วร่วม นัดรถเมล์-รถไฟ-เรือด่วนถกวันนี้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2553 01:22 น.
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าระบบตั๋วร่วมว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานนโยบายและแผนขนส่งและจราจร (สนข.) ,องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ,บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส จะประชุมร่วมกันในวันนี้ (25 ม.ค.) เพื่อหารือถึงแนวทางการผลักดันการใช้บัตรโดยสารร่วมกัน โดยจะหารือให้ครอบคลุมการใช้งานร่วมทั้งระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน รถเมล์ ขสมก. และเรือด่วนเจ้าพระยา โดยที่ผ่านมาการดำเนินงานค่อนข้างล่าช้า เนื่องจากปัญหาการแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างเอกชนผู้ให้บริการ
ทั้งนี้ ที่ประชุมร่วมจะหาแนวทางเพื่อผลักดันการใช้ระบบบัตรโดยสารใบเดียวเดินทางได้ทุกระบบ โดยมีการคิดค่าโดยสารตามจริงไปก่อนให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยกระทรวงคมนาคมต้องการที่จะพยายามผลักดันให้มีการใช้ตั๋วร่วมให้ได้ภายในปี 2553 นี้
นายสุพจน์กล่าวว่า หากสามารถผลักดันให้ใช้ระบบบัตรโดยสารใบเดียวเดินทางได้ทุกระบบ จะช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกในการเดินทาง และการมีระบบ Clearing House เพื่อบริหารจัดการส่วนแบ่งรายได้ของแต่ละระบบ หรือ คิดสัดส่วนผลประโยชน์ที่ผู้ให้บริการแต่ละรายจะได้รับออกมา จะทำให้ค่าโดยสารลดลง เนื่องจากไม่ต้องมีการจ่ายค่าเข้าระบบใหม่ เมื่อผู้โดยสารมีการออกจากระบบหนึ่งไปยังอีกระบบหนึ่ง นอกจากนี้ จะทำให้สามารถออกโปรโมชั่นเพื่อจูงใจให้ประชาชนมาใช้บริการระบบขนส่งมวลชนร่วมกันให้มากขึ้นได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมเคยจัดให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อดำเนินงานระบบบัตรโดยสารร่วมในระยะแรกระหว่างบีทีเอส และ บีเอ็มซีแอล,การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เมื่อเดือนพ.ย.2550 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้บริการระบบขนส่งมวลชนโดยไม่ต้องถือบัตรโดยสารหลายใบ แต่จนถึงปัจจุบันการดำเนินการยังไม่มีความคืบหน้า โดยมีสนข.เป็นหน่วยงานหลัก แต่ยังไม่สามารถทำความเข้าใจกับเอกชนให้ร่วมมือตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมได้ |
|
| Back to top |
|
 |
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)


Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 25/01/2010 10:21 am Post subject: |
|
|
เห็นข่าวนี้ ทำให้ผมนึกถึงบัตร T-money ตอนที่ไปเที่ยวโซล เกาหลีใต้ครับ
มันเป็นบัตรที่สะดวกมากๆ ครับ ขึ้นรถไฟใต้ดินทุกสาย ทุกเส้นทาง ขึ้นรถเมล์ทุกสาย ขึ้นแท็กซี่ทั้งหมด ซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ใช้เป็นบัตรโทรศัพท์สาธารณะก็ได้ ฯลฯ
อยากให้ กทม.เราเองคิดสร้างบัตรชนิดนี้จริงๆ |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 25/01/2010 2:23 pm Post subject: |
|
|
ให้ คจร.เคาะใครสร้างรถไฟฟ้าลดขัดแย้ง
เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 25 มกราคม 2553 เวลา 7:33 น
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ได้ส่งเรื่องถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อเตรียมการประชุมคณะกรรมการการจัดระบบการขนส่งและจราจรทางบก (คจร.) เพื่อพิจารณาผลการศึกษาปรับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (M Map) 12 สายทาง เพื่อใช้เป็นแผนหลักในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในอนาคต โดยปัจจุบันมีหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการรับผิดชอบโครงการ มีทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) เนื่องจากมีหลายหน่วยงานที่มีภารกิจในเรื่องการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ คจร. พิจารณาว่า รถไฟฟ้าสายใดควรจะเป็นหน่วยงานใดรับผิดชอบซึ่งจะต้องมีเหตุผลรองรับ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำงานเพื่อพัฒนาระบบขนส่งมวลชนร่วมกันทุกฝ่ายไม่ให้เกิดปัญหาอย่างที่ผ่านมา เพราะต่างก็มีอำนาจตามกฎหมายเหมือนกัน
นางสร้อยทิพย์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาการทำงานของหลายหน่วยงานถูกโยงเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งหากมีการกำหนดภารกิจให้หน่วยงานแต่ละส่วนให้ชัดเจนและมีเหตุผลรองรับเหมาะสม จะทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเดินหน้าภารกิจในอำนาจหน้าที่ของตนเองให้เต็มที่ไม่ว่าในอนาคตจะเป็นการเมืองระดับประเทศหรือระดับท้องถิ่นจะเป็นอย่างไรก็จะไม่เป็นปัญหากระทบต่อแผนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้โครงการสะดุดหรือเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานผู้ปฏิบัติ. |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 04/02/2010 8:45 pm Post subject: |
|
|
บอร์ดต่างด้าวไปเขียวต่างชาติลงไทย25รายมูลค่า 739ล้านเน้นระบบรถไฟ
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 2 กุมภาพันธ์ 2553 11:37 น.
นาบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมได้อนุญตให้บริษัทต่างด้าวประกอบุรกิจในทยจำนวน 25 าย ซึ่งที่ให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตจำวน 739 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ไดรับอนุญตส่วนใหญ่เกี่ยวของกับการลงทุนระบบสาธารณูโภคพื้นฐาน เช่น ระบบการขนส่งของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น ได้แก่
1. บริษัทซินโว คอนสรัคชั่น แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างโครงการระบบถไฟชานเมืองช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน
2. บริษัทดีบี อินเตอร์เนชั่นแนล จีเอ็มบีเอช จากประเทศเยอรมนี ได้รับอนุญาตให้บริการให้คำปรึกษาด้านปฏิบัติการเดินรถในโครงการระบบขนสงทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง
3. บริษัทคอมมอร์ท แมนเนจเม้นท แอนด์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นนักลงทุนจากสิงคโปร์ ประกอบธุรกิจบริการทางวิศวกรรมเกี่ยวกับการตรวจสอบ ออกแบบ และปรับปรุงระบบพลังงานภายในอาคารให้แก่ผู้ประกอบการที่มีอาคารขนาดกลางและนาดใหญ่ ป็นต้น
สำหรับปี 2552 ที่ผ่านมา คณะกรรมการฯได้อนุญาตใหคนต่างด้าวประกอบธุรกิจจำวน 213 ราย ลดลง 21% เทียบกับปี 2551 ที่อนุญาตใหคนต่างด้าวประกอบธุรกิจ 268 ราย แม้ว่าจำนวนผู้ได้รับอนุาตในปี 2552 จะลดลงจากปี 2551 แต่การอนุญาตธุรกิจส่วนใหญ่จะเน้นให้คนต่างด้าว เข้าประกอบธุรกิจที่ป็นผลดีต่อการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศ มีการถ่ายทอดเทคโลยีหรือความรู้ที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งต้องเป็นธุรกิจที่ไม่กระทบต่อผู้ประกอบการไทยด้วย
ทังนี้ ตั้งแต่เดือมี.ค. 2543 ที่มีการบังคับใช้พ.ร.บ.การประกอธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จนถึงเดือนม.ค. 2553 คณะกรรมการฯได้พิจารณาให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจไปแล้ว 2,394 ราย มีการนำเงินเข้ามาใช้ในประเทศเพื่อประกอธุรกิจ 3.28 หมื่นล้านาท ซึ่งตามนโยบายของนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กำชับให้กรมพัฒนาธุรกจการค้าดำเนินการเกี่ยวกับการพิจาณาอนุญาตให้คนต่าด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจตามกฎหมาย และให้มีการตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของคนต่างด้าวที่ไดรับอนุญาตอย่างต่อเนื่อง |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 08/02/2010 3:50 pm Post subject: |
|
|
คนกรุงได้ข่าวดี! รบ.เร่งเพิ่มรถไฟฟ้า "มาร์ค" ทุบโต๊ะทำ 6 สายรวด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 กุมภาพันธ์ 2553 13:30 น.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) โดยระบุว่า ที่ประชุมฯ วันนี้ มีมติเห็นชอบแผนแม่บทขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการในระยะ 10 ปี โดยเปิดให้บริการใน 6 สายภายในปี 2562 ดังนี้
1.สายสีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี ระยะทาง 36 กิโลเมตร
2.สายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ระยะทาง 17.5 กิโลเมตร และช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี ระยะทาง 20 กิโลเมตร
3.สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 19.8 กิโลเมตร
4.สายสีเขียว ช่วงสะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 7 กิโลเมตร และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-ยศเส ระยะทาง 1 กิโลเมตร
5.สายสีแดงเข้ม ช่วงหัวลำโพง-บางบอน ระยะทาง 18 กิโลเมตร
สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14 กิโลเมตร และ
6. สายที่ 6.เส้นทาง Airport Link ช่วงบางซื่อ-พญาไท ระยะทาง 7.9 กิโลเมตร
พร้อมกันนี้ ที่ประชุม คจร.ยังเห็นชอบในหลักการต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม จากช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 11.4 กิโลเมตร เป็นหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต รวมระยะทาง 18.4 กิโลเมตร และยกเลิกศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) บริเวณด้านทิศใต้ของสนามบินดอนเมือง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2551 โดยให้ใช้ศูนย์ซ่อมบำรุงบริเวณ อ.คูคต จ.ปทุมธานี แทน พร้อมมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ คจร.ยังเห็นชอบหลักการให้การก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน และช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง รวมทั้งโครงการ Airport Link ส่วนต่อขยาย ช่วงพญาไท-บางซื่อ ซึ่งได้ออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างแนวรางในระดับคลองแห้ง(Open Trench) โดยการขุดเจาะลึกลงไปในดิน และมีการวิ่งของขบวนรถไฟลึกลงไปจากผิวดินเดิม โดยอาจมีการปิดกั้นผิวดินด้านบนในลักษณะอุโมงค์หรือมีการเปิดผิวดินด้านบน โดยพิจารณานับรวมการก่อสร้างระดับคลองแห้งให้จัดรวมอยู่ในระดับใต้ดินด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ ยังได้อนุมัติในหลักการให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางขนาดรองในพื้นที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานได้เองที่มีแนวสายทางนอกเหนือและไม่ซ้ำซ้อนกับโครงข่ายที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทให้สามารถดำเนินการได้ กรณีที่เป็นระบบขนส่งมวลชนสายรองที่มีปริมาณผู้โดยสารในปีที่เริ่มเปิดดำเนินการต่ำกว่า 8,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง
อย่างไรก็ดี ที่ประชุมฯ ยังได้รับทราบความคืบหน้าของสถานะการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ณ สิ้นเดือนมกราคม 2553 โดยขณะนี้รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการสิ้นเดือน สิงหาคม 2557 สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 27 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการยื่นซองประกวดราคา คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ 2559
สายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 12 กิโลเมตร อยู่ระหว่าง รฟม.เตรียมจัดจ้างที่ปรึกษาศึกษาวิเคราะห์ตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนเข้าร่วมงานฯ (พ.ร.บ.ร่วมทุน) และสายสีเขียวอ่อน ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กิโลเมตร อยู่ระหว่าง รฟม.เตรียมจัดจ้างที่ปรึกษาศึกษาวิเคราะห์ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน เริ่มงานเดือนธันวาคม 2552 แล้วเสร็จเดือนมกราคม 2553 โดยคาดว่าจะเปิดบริการเดือนเมษายน 2558
สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มสถานีบางกรวย โดยจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 10 กิโลเมตร สำนักจราจรและขนส่ง (สนข.) อยู่ระหว่างการศึกษาโครงการส่วนต่อขยายช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มเติมสถานี ม.กรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต, สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก ระยะทาง 19 กิโลเมตร อยู่ระหว่าง รฟท.เตรียมนำเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติโครงการต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับเส้นทางทั้งหมดตั้งงบประมาณไว้ 8 แสนล้านบาท ซึ่งจะมีหลายเส้นทางจะเร่งให้เสร็จในปี 2557-2559 ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้การจราจรดีขึ้น
นอกจากนั้น ในวันนี้ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานดูในส่วนสายสีเขียวและสีส้มที่มีปัญหาอยู่ ในเบื้องต้นงานในส่วนโยธาของสายสีเขียว ยังเป็นขององค์การรถไฟฟ้ามหานคร (รฟม.) แต่การบริหารจัดการทั้งระบบให้ไปดูว่า รฟม. หรือ กทม. ควรเป็นผู้ดูแล โดยจะให้เวลาศึกษา 1 เดือน |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 08/02/2010 4:56 pm Post subject: |
|
|
"มาร์ค"ยันไม่เปลี่ยนเลขาฯปชป.-ตั้ง"สุเทพ"ศึกษารถไฟฟ้าสีส้ม-เขียว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 กุมภาพันธ์ 2553 14:35 น.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมีแนวคิดเสนอบุคคลมาเป็นเลขาธิการพรรคแทน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง โดยวาระการดำรงตำแหน่งของหัวหน้าและเลขาธิการ ยังมีอีก 2-3 ปี ซึ่งตอนนี้ยังทำงานกันไปโดยไม่มีปัญหาและยังอยู่ด้วยกัน ไปด้วยกัน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เย็นวันนี้(8 ก.พ.) พล.ต.อ.วิศิษฐ์ เดชกุญชร ในฐานะประธานกรรมการสอบสวนการซื้อขายตำแหน่งนายตำรวจ จะมาพบเพื่อหารือถึงกรอบการทำงาน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ได้ตั้งอนุกรรมการเฉพาะกิจที่มี นายสุเทพเป็นประธานดูแลการศึกษาและก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีเขียว โดยให้รถไฟฟ้ามหานคร ดูแลงานโยธาธิการ ให้เวลา 1 เดือน ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี ส่วนแผนแม่บทขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 800,000 ล้านบาท ซึ่งตามแผนเดิมวางเส้นทางจาก สนามกีฬา-ยศเส-พรานนก ซึ่งลงทุนโดย กทม.แต่ตามแผนใหม่ช่วงพรานนกกลับไปอยู่ในสายส้ม จึงทำให้มีปัญหาว่าใครจะเป็นผู้ดูแล กทม.และ รฟม. โดยให้เวลาศึกษาใน 1 เดือน อีกทั้งอนุมัติหลักการในให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถทำโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรองในเส้นทางที่ไม่ซ้ำซ้อนกับแผนแม่บทและมีผู้ใช้บริการในปีที่เปิดดำเนินการต่ำกว่า 8,000 คน/ชั่วโมง
//------------------------------------------------------------------------
รัฐคลอดแผนแม่บทรถไฟฟ้า12สาย เงินลงทุน8แสนล. เร่งสร้างสายสีชมพู-ส้ม
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 08 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 16:36:26 น.
มาร์คขายฝันคนกทม. สั่งเพิ่มรถไฟฟ้า2สาย อนุมัติงบศึกษา400ล.
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 8 กุมภาพันธ์ 2553 22:02 น.
คจร.เห็นชอบแผนแม่บทขนส่งทางราง8แสนลบ.
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ ไทยรัฐออนไลน์ 9 กุมภาพันธ์ 2553, 02:10 น.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการจัดจราจรทางบก(คจร.) ว่าที่ประชุมได้อนุมัติแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 12 สาย ระยะทาง 495 กิโลเมตร เงินลงทุน 811,070 ล้านบาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยมีเพิ่มเติม 2 สายจากแผนเร่งรัดเดิมที่ก่อสร้างแล้วและอยู่ระหว่างก่อสร้าง คือ สีชมพู จากปากเกร็ด-มีนบุรีที่จะรองรับคนจากศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และสีส้ม จากมีนบุรี-บางกะปิ-ข้ามไปฝั่งธนบุรีที่ตลิ่งชัน ซึ่งแทนสายสีเขียวของกรุงเทพมหานครที่ออกแบบไว้ จากช่วงสนามกีฬา-พรานนก
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นว่าควรจะให้สายแอร์พอร์ตเรลลิงก์ที่มาจากสนามบินสุวรรณภูมิมาเชื่อมกับสนามบินดินเมือง อีกทั้งเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา 2 สายทางที่มีปัญหาการใช้พื้นที่ในเขตเมืองในเรื่องของสายสีแดงช่วงบางซื่อ พญาไท-มักกะสัน และบางซื่อ-หัวลำโพง รูปแบบการก่อสร้างที่ออกแบบไว้เป็นแบบอุโมงค์เปิด แต่ทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)ตีความว่าไม่ใช่โครงสร้างระดับใต้ดิน ซึ่งไม่สอดคล้องกับมติครม.ที่เคยอนุมัติไปก่อนหน้านี้ รวมถึงการก่อสร้างข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทางสิ่งแวดล้อมอยากให้เป็นอุโมงค์ แทนการก่อสร้างสะพานจะเสนอครม.พิจารณาว่ารูปแบบไหนเป็นการลดต้นทุนดีที่สุด
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้แต่ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 1 ชุด มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อไปดูความชัดเจนเรื่องการการบริหารจัดการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่และแบริ่ง-สมุทรปราการ และสีส้ม ระหว่างรฟม.กับกทม.จะให้ใครดำเนินการหรือจะร่วมกัน เพื่อให้ทางท้องถิ่นเข้ามาร่วมด้วย ให้เวลา 1 เดือน ส่วนเรื่องการก่อสร้างงานโยธายืนตามมติครม.เดิมเมื่อปี 2551 ระบุมให้รฟม.เป็นผู้ก่อสร้างงานโยธาอยู่แล้ว
ให้ไปดูเรื่องก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงของสายสีเขียว จากหมอชิต-สะพานใหม่ด้วย ที่ย้ายจากเดิมที่ฐานทัพอากาศไปที่คูคต
รายงานข่าวแจ้งว่า ใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยดี โดยทางกรุงเทพมหานคร(กทม.)ส่งนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯมาร่วมประชุมด้วย โดยกทม.จะขอสายสีส้มทั้งเส้นไปก่อสร้างเอง โดยจะออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนมาก่อสร้าง หลังจากที่สนข.ได้รวบสายสีเขียวช่วงสนามกีฬา-พรานนกของกทม.ที่ออกแบบไว้แล้วมาอยู่เป็นสายเดียวกับสีส้มเดิม ขณะเดียวกันกทม.เสนอให้สนข.ตัดส่วนต่อขยายสายสีเขียว 1 กิโลเมตรจากสนามกีฬา-ยศเสออกไป อีกด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีรีบตัดบทและให้นายสุเทพรองนายกรัฐมนตรีไปพิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในแผนแม่บทรถไฟฟ้า 12 สายนี้ สนข.ได้ทำการศึกษาภายใต้กรอบเวลา 20 ปี ถึงปี2572 แต่ได้ขออนุมัติดำเนินการก่อน 10 ปี(2553-2562) ระยะทาง 377 กิโลเมตร เงินลงทุน 628,340 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมคจร.อนุมัติตามที่สนข.เสนอ
โดยแผนงาน 10 ปี ประกอบด้วย
1.เป็นโครงข่ายระยะเร่งด่วน 5 ปีแรก ตามมติครม.ที่อนุมัติปี2549 เป็นโครงข่ายปัจจุบันและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ระยะทางรวม 236 กิโลเมตร เงินลงทุน 319,750 ล้านบาท
เปิดบริการปี 2557 มี
1.1.1.สีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชัน 15 กิโลเมตร
1.1.2.สีแดง บางซื่อ-รังสิต-ธรรมศาสตร์ 36.3 กิโลเมตร
1.1.3.สีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่ 11.4 กิโลเมตร
1.1.4.สีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ 12.8 กิโลเมตร
1.1.5.สีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระย่ะทาง 23 กิโลเมตร
เปิดบริการปี2559 มี
1.2.1.สีแดง ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง 6.5 กิโลเมตร
1.2.2.สีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-หัวหมาก 19 กิโลเมตร
1.2.3.สีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค 27 กิโลเมตร
2. โครงข่ายเพิ่มเติมเปิดให้บริการปี 2562 ระยะทางรวม 141 กิโลเมตร เงินลงทุน 308,590 ล้านบาท มี
2.1.สีแดงเข้ม ช่วงหัวลำโพง-บางบอน 18 กิโลเมตร
2.2.สีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา 14 กิโลเมตร
2.3.สีแดงเชื่อมแอร์พอร์ตลิงก์ ช่วงบางซื่อ-พญาไท 7.9 กิโลเมตร
2.4.สีเขียว ช่วงสะพานใหม่-คูคต 7 กิโลเมตร
2.5. สีเขียว ช่วงสนามกีฬา-ยศเส 1 กิโลเมตร
2.6.สีม่วง ช่วง บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ 19.8 กิโลเมตร
2.7.สีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม 17.5 กิโลเมตรช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี 20 กิโลเมตร รวม 37.5 กิโลเมตร
2.8.สีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี 36 กิโลเมตร
3.ส่วนโครงข่ายเพิ่มเติมภายในปี2572 ระยะทาง 118 กิโลเมตร เงินลงทุน 186,690 ล้านบาท มี
3.1.สีแดงเข้ม ช่วงบางบอน-มหาชัย 20 กิโลเมตร
3.2.สีแดงอ่อน ช่วงบางบำหรุ-มักกะสัน 10.5 กิโลเมตร
3.3.สีเขียว ช่วงคูคต-ลำลูกกาคลอง4 ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร
3.4.สีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู 7 กิโลเมตร
3.5. สีน้ำเงิน ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย4 ระยะทาง 8 กิโลเมตร
3.6. สีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-พัฒนาการ-สำโรง 30.4 กิโลเมตร
3.7.สีเทา ช่วงวัชรพล-ลาดพร้าว-พระราม4-สะพานพระราม9 ระยะทาง 26 กิโลเมตร
3.8. สีฟ้า ช่วงดินแดง-สาทร 9.5 กิโลเมตร
โดยรูปแบบการเดินรถ มี 2 รูปแบบ คือ ระบบรถไฟฟ้า จะเป็นโครงข่ายสายหลัก คือ สีแดง สีขียว สีน้ำเงิน สีม่วง สีส้ม อีกรูปแบบเป็นระบบโมโนเรล เป็นโครงข่ายสายรอง มี สีชมพู สีเหลือง สีเทาและสีฟ้า
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สนข. ได้รายงานว่า
1. ขณะนี้รถไฟสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ 23 กม. อยู่ระหว่างก่อสร้างจะเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นเดือน ส.ค.2557
2. สายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค 27 กม. อยู่ระหว่างยื่นซองประกวดราคาคาดเปิดให้บริการได้ก.พ. 2559
3. สายสีเขียวเข้ม หมอชิต-สะพานใหม่ 12 กม.อยู่ระหว่างรฟม.จัดจ้างที่ปรึกษาวิเคราะห์ คาดเปิดบริการได้เม.ย.2558
4. สายสีเขียวอ่อนแบริ่ง-สมุทรรปาการ 13 กม. อยู่ระหว่าง รฟม. จัดจ้างที่ปรึกษาคาดเปิดบริการได้ เม.ย. 2558
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า คณะกรรมการชุดนี้ ไม่เคยมีการประชุมมาตั้งแต่ปี 2547สมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินสัตว์ เป็นนายกฯ ซึ่งที่ประชุมวันนี้เห็นพ้องให้เร่งเดินเครื่องสายสีส้มและสายสีชมพู ขณะเดียวกันสายสีเขียวอ่อนระยะทาง 33 กิโลเมตร(สนามกีฬาแห่งชาติ-พรานนก) ที่ดำเนินการช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-ยศเส มีความเห็นว่า อาจจะต้องยกเลิกโครงการนี้ แต่ปัญหาทั้งหมดได้มอบหมายให้อนุกรรมการชุดที่มีนายสุเทพ เป็นประธานไปหารืออีกครั้ง
เบื้องต้น สายสีส้มนั้น กทม.ต้องการที่จะเข้ามาดำเนินการเอง แต่ติดอยู่ว่า รฟม.จะยินยอมหรือไม่ แต่สายสีเขียวอ่อนอาจจะต้องหยุดโครงการ แต่ทั้งหมดก็ต้องไปคุยกันก่อน เพื่มมารายงานนายกรัฐมนตรีใน 1 เดือนนี้
ทั้งนี้เบื้องต้นการยกเลิกโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน เห็นว่าควรจะมีการปรับลดช่วงสนามกีฬา-พรานนก ที่กทม.ศึกษาไว้ เนื่องจากรูปแบบการเดินรถในปัจจุบันจะเป็นช่วงบางหว้า-สยาม-สนามกีฬา-พรานนก เป็นรูปตัวซี จึงไม่สอดคล้องกับรูปแบบการเดินทาง ทำให้ต้องเปลี่ยนขบวนรถและไม่สะดวก ขณะที่ต้องสูญเสียพื้นที่ถ.พระราม 1 ช่วงสะพานกษัตริย์ศึก ในระหว่างการก่อสร้าง 3 ช่องจราจร หากสร้างเสร็จจะเหลือ 2 ช่องจราจร จากปัจจุบันที่มี 5 ช่องจราจร รวมทั้งยังไม่ผ่าความเห็นชอบจากอีไอเอ
อย่างไรก็ตามได้มีการพิจารณาเพิ่มเติมโครงการสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม เพื่อทดแทนสายสีเขียว ที่มีแผนเปิดบริการในปี พ.ศ.2562
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า กทม.ได้ตั้งข้อสังเกตว่าที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กระทรวงคมนาคมพิจารณาว่าจะลดระยะทางสายสีเขียวจากสนามกีฬาแห่งชาติ-พรานนก ระยะทาง 7.7 กิโลเมตร ให้เหลือเพียง 1 กิโลเมตร เนื่องจากทับซ้อนกับสายสีส้มจากตลิ่งชัน มีนบุรี ระยะทาง 37.5 กิโลเมตร ที่ขยายออกมาทับเส้นทางของสายดังกล่าว กทม.จึงแจ้งว่าหากเป็นเช่นนี้ กทม.จะขอรับสายสีส้มมาดำเนินการเองเพราะอยู่ในพื้นที่ กทม.โดยที่สามารถยกเลิกสายสีเขียวจากสนามกีฬาแห่งชาติ-พรานนก ได้แต่หากจะลดระยะทาง ให้เหลือ 1 กิโลเมตร กทม.ไม่เห็นด้วยเพราะการลงทุนในระยะทาง 1 กิโลเมตร ควรจะสร้างเป็น Sky walk แล้วมีบันไดเลื่อนเพื่อไปเชื่อมกับสายสีแดงจะเป็นประโยชน์มากกว่า
นายธีระชน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กทม.ยังได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อปี 2551 ว่าการที่ครม.มีมติมอบให้ รฟม.ดำเนินการสายสีเขียวเส้นทางหมอชิต-สะพานใหม่ และแบริ่ง-สมุทรปราการ เป็นการมีมติให้ทำเฉพาะงานโยธาเท่านั้น เพราะฉะนั้นขั้นตอนตั้งแต่การการออกแบบ การประสานงาน ขั้นตอนการดูแลระบบต่อเชื่อมระบบราง อาณัติสัญญาณ การบริหารจัดการยังเป็นของ กทม.อยู่ ดังนั้น โครงการนี้จึงควรเป็นของ กทม.โดยที่รฟม.มาร่วมโครงการในส่วนของการก่อสร้างเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า กทม.จะต้องเข้าไปร่วมตั้งแต่ต้นในการกำหนดระบบต่อเชื่อม
พร้อมกันนี้ กทม.ยังได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องที่จะสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและอู่จอดรถ(Depot) ที่คูคต จ.ปทุมธานี ว่าอาจจะไม่มีความจำเป็นเพราะถ้าหากตัดสินใจให้ กทม.ดำเนินการก็สามารถขยายศูนย์ซ่อมบำรุงและอู่จอดรถ(Depot) ที่หมอชิตเพื่อรองรับได้ และ กทม.ยืนยันว่าอย่างน้อยที่สุด ต้องมีการทำงานร่วมกันตั้งแต่การออกแบบ การกำหนดรายละเอียดต่างๆ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประธานในที่ประชุมได้ให้ที่ประชุมตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาการตัดสินใจสายสีส้มและสายสีเขียวโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานโดยให้กรอบระยะเวลาการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1เดือน
นายธีระชน กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังได้มีมติอนุญาตให้ท้องถิ่นสามารถสร้างระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพระบบรองได้ ซึ่งได้แก่ ระบบโมโนเรล(Monorail) ระบบไลท์เรล (Light rail) สามารถดำเนินการได้ จากเดิมที่มติไม่ให้ซ้อนกับโครงสร้างแผนแม่บทระยะเวลา 20 ปี ซึ่งตนได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า 2 สายที่ กทม.ศึกษาทับกับสายสีเทาและสายสีฟ้าคือเส้นทาง กทม.2 และเส้นทางทองหล่อ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ตัดสินใจมีมติให้ กทม.ดำเนินการได้โดยระบุไม่ทับซ้อนในแผน 10 ปีแรก เท่ากับว่า คจร.ไฟเขียวให้ กทม.สามารถสร้างระบบรองได้โดยที่มีการแก้ไขมติในส่วนที่ สนข.เสนอต่อ คจร.
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะเดียวกันที่ประชุมยังรับทราบโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีม่วง (บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ) ที่จะผ่านบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นในและผ่านบริเวณที่ตั้งสถานที่ก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่บริเวณเกียกกาย โดยรฟม.ได้ศึกษความเหมาะสมแล้ว โดยจะมีการศึกษาออกแบบและจัดทำเอกสารประกวดราคา แม้จะยังไม่มีการกำหนดงบประมาณ |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 11/02/2010 12:20 pm Post subject: |
|
|
รถไฟฟ้า 12 สายผ่านที่ใดบ้าง?
เดลินิวส์ วันพุธ ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 7:54 น
เส้นทางรถไฟฟ้า ตามแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2553-2572) 12 เส้นทาง ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการขนส่งและจราจรทางบก (คจร.) เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2553
1 สายสีแดงเข้ม (ธรรมศาสตร์-มหาชัย) ระยะทาง 80.8 กิโลเมตร
แนวสายทางยกระดับเริ่มจากบนโครงข่ายทางรถไฟสายเหนือบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาตามแนวเขตทางรถไฟ ถึงสถานีหัวลำโพง จากนั้น มุ่งหน้าตามแนว ถนนมหาพฤฒาราม ริมคลองผดุงกรุงเกษม และข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณใกล้ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ เข้ามาตามแนว ถนนลาดหญ้า ถึงอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน (วงเวียนใหญ่) เบี่ยงออกถนนเจริญรัถ เข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ไปตามแนวทางรถไฟสายแม่กลองเดิม เข้าเขตอำเภอเมือง สมุทรสาคร ตีโค้งอ้อมตัวเมืองสมุทรสาครขึ้นไปทางเหนือ ผ่านถนนเอกชัยและยกระดับข้ามถนนพระราม 2 สิ้นสุดที่มหาชัย (ใหม่) ใกล้แม่น้ำท่าจีน
แผนการก่อสร้างขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างเตรียมประกวดราคาหาผู้รับเหมาก่อสร้างช่วงบางซื่อ-รังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2557 สำหรับส่วนต่อขยายจากหัวลำโพง-บางบอน กำหนดในแผน 10 เปิดให้บริการปี 2562 ส่วนช่วงที่เหลือคือ บางซื่อ-หัวลำโพง และช่วงจากบางบอน-มหาชัย อยู่ในแผน 20 ปีเปิดให้บริการปี 2572
2 สายสีแดงอ่อน (ศาลายา-หัวหมาก) ระยะทาง 58.5 กิโลเมตร
แนวสายทางเริ่มต้นบริเวณศาลายาจุดตัดทางรถไฟสายใต้กับถนนทวีวัฒนา ยกระดับเข้ามาตามเส้นทางรถไฟสายใต้ผ่านสถานีรถไฟ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานพระราม 6 จากนั้นเข้าสู่สถานีบางซื่อ วิ่งมาตามทางรถไฟใช้แนวเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มถึงพญาไท เลี้ยวตามทางรถไฟผ่าน มักกะสัน คลองตันและสิ้นสุดที่สถานีหัวหมาก นอกจากนี้ในสายสีแดงอ่อนจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าต่อขยายอีกเส้นหนึ่งแยกออกจากสายหลักบริเวณสถานีบางบำหรุ เป็นโครงสร้างใต้ดินทั้งหมดโดยใช้แนวถนนสิรินธร ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานกรุงธนฯ (สะพานซังฮี้) เข้าสู่แนวถนนราชวิถีลอดใต้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผ่านดินแดง ไปสิ้นสุดที่มักกะสัน ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางนี้ได้ปรับปรุงขึ้นเพื่อรองรับการเดินทางย่านในเมือง
แผนการก่อสร้าง ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างก่อสร้างช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน แล้วเสร็จปี 2555 ส่วนช่วงจากตลิ่งชัน-ศาลายาอยู่ในแผน ก่อสร้างช่วง 10 ปีเปิดให้บริการปี 2562 สำหรับช่วงบางบำหรุ-มักกะสัน อยู่ในแผนก่อสร้างภายใน 20 ปี เปิดให้บริการปี 2572
3 สายแอร์พอร์ตลิ้งก์ (บางซื่อ-พญาไท-สุวรรณภูมิ) ระยะทาง 36.4 กิโลเมตร
แนวสายทางเริ่มต้นบริเวณสถานีรถไฟบางซื่อ จากนั้นใช้แนวรถไฟเดียวกับสายสีแดงเข้มและแดงอ่อนมีถึงบริเวณพญาไท และก่อสร้างตามทางรถไฟจากบริเวณพญาไท ผ่านมักกะสัน สิ้นสุดที่ใต้อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยในการประชุมคจร.ล่าสุดได้เห็นชอบให้ขยายเส้นทางสายแอร์พอร์ตลิ้งก์ ต่อขยายจากบางซื่อ ตามแนวรถไฟสายเหนือไปถึงดอนเมืองเพื่อเชื่อมท่าอากาศยานดอนเมืองด้วย ซึ่งส่วนต่อขยายนี้จะมีระยะทางเพิ่มขึ้นอีก 13 กิโลเมตร
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างขณะการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมเปิดให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งก์ ช่วงพญาไท-สุวรรณภูมิภายในเดือน เม.ย. นี้ ส่วนช่วงจากพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง อยู่ในแผนการก่อสร้างระยะ 10 ปี เปิดให้บริการภายในปี 2562
4 สายสีเขียวเข้ม (ลำลูกกา-สมุทรปราการ) ระยะทาง 66.5 กิโลเมตร
แนวเส้นทางเริ่มจากบริเวณบิ๊กซีลำลูกกา ไปตามถนนลำลูกกาข้ามถนนวงแหวนรอบนอกผ่านคลองห้า คลองสี่ คลองสาม มาถึงบริเวณใกล้สถานีตำรวจคูคตแนวเส้นทางเบี่ยงเข้าพื้นที่เอกชนบริเวณประตูกรุงเทพ เข้าสู่แนวเกาะกลางถนนพหลโยธิน ถึงห้าแยกลาดพร้าว ยกข้ามดอนเมืองโทลล์เวย์ ไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่หมอชิต ส่วนอีกด้านต่อขยายจากบีทีเอสจากสถานีอ่อนนุช ไปตามแนวถนนสุขุมวิท ถึงบางปู
ขณะนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) อยู่ระหว่างก่อสร้างส่วนต่อขยายจากอ่อนนุช ถึงแบริ่ง กำหนดเปิดให้บริการปี 2554 ส่วนช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ และแบริ่ง-สมุทรปราการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อยู่ระหว่างสำรวจอสังหาริมทรัพย์เตรียมประกาศประกวดราคาก่อสร้าง คาดว่าเปิดให้บริการปี 2557 สำหรับแนวสายทางส่วนที่เหลือคือ จากคูคต-ลำลูกกา และจากสมุทรปราการ-บางปู ให้อยู่ในแผนดำเนินการระยะ 20 ปี เปิดให้บริการในปี 2572
5 สายสีเขียวอ่อน (ยศเส-บางหว้า) ระยะทาง 15.5 กิโลเมตร
แนวเส้นทางเริ่มจากบริเวณยศเสใกล้กับแยกเจริญผล ไปตามแนวถนนพระราม 1 เชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สนามกีฬาแห่งชาติ ไปตามทางรถไฟฟ้าสายสีลมที่ขณะนี้สิ้นสุดที่สถานีวงเวียนใหญ่ จากนั้นใช้แนวทางยกระดับตามคลองภาษีเจริญ ผ่านวัดโพธิ์นิมิตร ก่อนที่จะข้ามถนนรัชดาภิเษกแนวเส้นทางจะเบี่ยงไปทางทิศใต้ของถนนราชพฤกษ์ โดยวิ่งคู่ขนานทางทิศใต้ (ขาออก) ของโครงสร้างสะพานข้ามทางแยกถนนวุฒากาศ สะพานข้ามคลองภาษีเจริญ แล้วโค้งตามถนน เลยทางต่างระดับตัดกับถนนกัลปพฤกษ์ สิ้นสุดที่จุดบรรจบกับถนนเพชรเกษม
ขณะนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) อยู่ระหว่างเตรียมประกาศประกวดราคาจัดหาผู้ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและระบบรถไฟฟ้า ส่วนช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-ยศเส อยู่ในแผนก่อสร้างระยะ 10 ปีเปิดให้บริการปี 2562
6 สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-หัวลำโพง-ท่าพระ-พุทธมณฑลสาย 4) ระยะทาง 55 กิโลเมตร
ต่อรถไฟฟ้ามหานคร สถานีหัวลำโพงไปตามแนวถนนพระรามที่ 4 เข้าสู่ถนนเจริญกรุง ผ่านวัดมังกรกมลาวาส วังบูรพา เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสนามไชย ผ่านพระบรมมหาราชวัง ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองตลาด ลอดใต้คลองบางกอกใหญ่ เข้าสู่ถนนอิสรภาพ แล้วเปลี่ยนเป็นโครงสร้างยกระดับบริเวณเกาะกลางถนนวิ่งเข้าสู่สี่แยกท่าพระ แล้ววิ่งไปตามถนนเพชรเกษม ผ่านจุดตัดถนนกาญจนาภิเษก สิ้นสุดที่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ส่วนอีกด้านหนึ่งวิ่งเป็นวงกลมในแนวถนนรัชดาภิเษก ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ โดยเริ่มจากจุดเริ่มต้นของรถไฟฟ้ามหานครที่สถานีบางซื่อ ยกระดับผ่านแยกเตาปูน เข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ผ่านสี่แยกบางโพ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาขนานกับสะพานพระราม 7 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ ตรงไปสิ้นสุดที่แยกท่าพระ
ความคืบหน้าขณะนี้ สายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค รฟม.อยู่ระหว่างประกวดราคาหาผู้รับเหมาก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2559 ส่วนช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 อยู่ในแผนดำเนินการระยะ 20 ปี เปิดให้บริการปี 2572
7 สายสีม่วง (บางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ) 42.8 กิโลเมตร
เริ่มจากบางใหญ่ไปตามถนนกาญจนาภิเษก เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัตนาธิเบศร์ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ถึงแยกแคราย เลี้ยวขวาเข้าถนนติวานนท์ ผ่านถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี เข้าประชาราษฎร์ ถึงบริเวณเตาปูน จากนั้นลดระดับลงใต้ดิน เข้าแนวถนนประชาราษฎร์สาย 1 ผ่านแยกเกียกกาย ไปตามถนนสามเสน แล้วเลี้ยวเข้าถนนพระสุเมรุผ่านสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ภูเขาทอง แล้วลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระปกเกล้า เข้าสู่แนวของ ถนนประชาธิปก ลอดใต้อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ไปตามถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน เข้าสู่แนวถนนสุขสวัสดิ์ แล้วจึงเริ่มขึ้นมาเป็นโครงสร้างยกระดับ ผ่านดาวคะนอง ยกข้ามสะพานข้ามทางแยกบริเวณจุดตัด ถนนพระราม 2 ผ่านบางปะกอก ยกข้ามทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัดทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) สิ้นสุดที่ราษฎร์บูรณะ
ความคืบหน้าขณะนี้ โครงการช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ว่าจ้างผู้รับเหมาแล้ว กำหนดเปิดให้บริการปี 2557 ส่วนช่วงจากบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ อยู่ในแผนระยะ 10 ปี เปิดให้บริการปี 2562
8 สายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) ระยะทาง 37.5 กิโลเมตร
เริ่มต้นจากสถานีรถไฟตลิ่งชัน จากนั้นใช้แนวรถไฟสายบางกอกน้อย ผ่านบางขุนนนท์ ผ่านศิริราช ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ผ่านใต้ถนนราชดำเนินแล้วเบี่ยงใช้แนวถนนหลานหลวง ผ่านยมราชแล้วเข้าสู่แนวถนนเพชรบุรี เลี้ยวเข้าถนนราชปรารภถึงดินแดงแล้วเลี้ยว ไปตามถนนวิภาวดีรังสิต จากนั้นเลี้ยวขวาผ่านศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) ตัดตรงไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีศูนย์วัฒนธรรม แล้วเบี่ยงเข้าแนวถนนประชาอุทิศ ตัดผ่านถนนประดิษฐ์มนูธรรม เข้าซอยรามคำแหง 39 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามคำแหง ผ่านลำสาลี ถนนกาญจนาภิเษก สิ้นสุดที่จุดตัดกับถนนร่มเกล้า
รถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นโครงสร้างใต้ดินจากตลิ่งชันถึงบางกะปิ และเป็นทางยกระดับจากบางกะปิ-มีนบุรี กำหนดก่อสร้างในแผนระยะ 10 ปี เปิดให้บริการปี 2562
9 สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 36 กิโลเมตร
จุดต้นทางเริ่มจากบริเวณศูนย์ราชการนนทบุรี ถนนรัตนาธิเบศร์ โดยเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี วิ่งตามถนนติวานนท์ ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรามอินทรา จากแยกมีนบุรี วิ่งตามถนนสีหบุรานุกิจ มีจุดปลายทางบริเวณแยกร่มเกล้า สายนี้อยู่ในแผนดำเนินการใน 10 ปี เปิดให้บริการในปี 2562
10 สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร
เริ่มจากถนนลาดพร้าวที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว ไปตามถนนลาดพร้าว ถึงเดอะมอลล์บางกะปิเลี้ยวขวาเข้าถนนศรีนครินทร์ ไปตามถนนศรีนครินทร์ ถึงแยกศรีเทพา เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเทพารักษ์สิ้นสุดที่สำโรงบริเวณจุดตัดถนนเทพารักษ์กับถนนสุขุมวิท สายนี้อยู่ในแผนดำเนินการใน 10 ปี เปิดให้บริการในปี 2562
11 สายสีเทา (วัชรพล-สะพานพระราม 9) ระยะทาง 26 กิโลเมตร
เป็นรถโมโนเรล เริ่มบริเวณต่างระดับรามอินทรา ปากซอยวัชรพล ใช้แนวถนนประดิษฐ์มนูธรรม ตลอดสายถึงแยกตัดถนนพระราม 9 เลี้ยวที่แยกเอกมัยเหนือ เข้าสู่แนวเกาะกลางถนนเพชรบุรีตัดใหม่แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) ไปออกถนนสุขุมวิทแล้วยกข้ามรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีทองหล่อ เข้าแนวซอยสุขุมวิท 38 ถึงกลางซอย แล้วเบี่ยงแนวใช้เส้นทางซอยสุขุมวิท 40 (ซอยบ้านกล้วยใต้) ไปตามแนวคลองระบายน้ำ จนถึงแยกมหา วิทยาลัยกรุงเทพ เลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 4 ผ่านตลาดคลองเตย ถึงห้าแยก ณ ระนอง เลี้ยวเข้าถนนพระราม 3 ผ่านแยกรัชดา-นราธิวาส แยกด่วนสาธุประดิษฐ์ แยกต่างระดับบางโคล่สิ้นสุดที่เชิงสะพานพระราม 9 (สะพานแขวน) รถไฟฟ้าสายสีเทากรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นผู้ดำเนินการ อยู่ในแผนระยะ 20 ปี เปิดใช้ปี 2572
12 สายสีฟ้า (ดินแดง-สาทร) ระยะทาง 9.5 กิโลเมตร
เป็นรถโมโนเรล ตลอดสายเริ่มจากบริเวณศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ลงมาทางทิศใต้ผ่านเคหะชุมชนดินแดง แยกประชาสงเคราะห์ จุดตัดถนนอโศก-ดินแดง ยกระดับข้ามทางพิเศษศรีรัช (ด่วนขั้นที่ 2) ผ่านบึงมักกะสัน เข้าพื้นที่ภายในสถานีมักกะสัน ตรงไปออกบริเวณแยกอโศก-เพชรฯ แล้วเลี้ยวเข้าถนนเพชรบุรี จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิทยุ ยกระดับข้ามสะพานไทย-เบลเยี่ยม เข้าแนวถนนสาทรผ่านถนนสวนพลู สิ้นสุดที่แยกสาทร-นราธิวาสใกล้บีทีเอส สถานีช่องนนทรี รถไฟฟ้าสาย นี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นผู้ดำเนินการ อยู่ในแผนระยะ 20 ปี เปิดใช้ปี 2572. |
|
| Back to top |
|
 |
black_express
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 11/02/2010 12:41 pm Post subject: |
|
|
ผมว่า คงแก่ตายก่อนที่จะทันเห็นแอร์พอร์ตลิ้งค์คืบคลานไปถึงดอนเมือง
งานก่อสร้างทางรถไฟ มันช่างยากเย็นแสนเข็ญจริงๆ หนอ  |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 11/02/2010 12:56 pm Post subject: |
|
|
| black_express wrote: | ผมว่า คงแก่ตายก่อนที่จะทันเห็นแอร์พอร์ตลิ้งค์คืบคลานไปถึงดอนเมือง
งานก่อสร้างทางรถไฟ มันช่างยากเย็นแสนเข็ญจริงๆ หนอ  |
เว้นแต่กรณีที่ ซาเล้ง อยากให้เปิดดอนเมืองเป็นสนามบินที่ 2 ทำให้ ต้องต่อขยาย Airport Link ไปดอนเมืองตามข่าวต่อไปนี้:
มึน!"โสภณ"พลิกลิ้นหนุนใช้ดอนเมือง จับโกหกซิงเกิ้ลแอร์พอร์ต
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 กุมภาพันธ์ 2553 08:11 น.
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีวานนี้ (10 ก.พ.) ว่า ได้มีการหารือถึงแนวทางการใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเห็นว่า ควรส่งเสริมด้านทั้งด้านการบินและการพัฒนาเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานควบคู่กันไป ซึ่งจะเปิดให้สายการบินที่มีความสนใจเข้ามาใช้สนามบินดอนเมืองได้ ตามความสมัครใจ ทั้งสายการบินที่มีเที่ยวบินต่างประเทศ และในประเทศ เปิดให้บริการแบบเชิงพาณิชย์อีกครั้ง รวมทั้งศึกษารูปแบบการบริหารสนามบินดอนเมืองที่ทำให้เกิดความคล่องตัว เพื่อทำให้มีรายได้เพิ่ม เช่น ตั้งหน่วยธุรกิจ (Business Unit) หรือแยกบัญชีให้เห็นอย่างชัดเจน
สนามบินดอนเมืองจะต้องบริหารแบบมืออาชีพ สายการบินไหนอยากบินก็มาได้ แต่ความสำคัญด้านการบินจะอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะสุวรรณภูมิเป็นสนามบินหลัก ดังนั้นการจัดการขึ้น-ลงของเครื่องบินจะต้องให้ความสำคัญที่สนามบินสุวรรณภูมิก่อน ผมไม่เคยพูดเรื่อง สนามบินเดี่ยว (Single Airport) ต้องใช้ 2 สนามบิน ซึ่งเรื่องนี้จะต้องศึกษาและจัดทำข้อมูลอีกครั้งซึ่งคงใช้เวลาอีกระยะหนึ่งนายโสภณ กล่าว
ส่วนการเปิดให้สายการบินที่สนใจเข้ามาทำการบินที่สนามบินดอนเมืองนั้น หากสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส หรือสายการบินไทยแอร์เอเชีย จะกลับมาเปิดให้บริการที่ดอนเมืองได้หรือไม่ นายโสภณ กล่าวสั้นๆว่า ก็ขึ้นอยู่กับว่าถ้าเขาอยากมาก็มา
นอกจากนี้ที่ประชุมฯ ยังเห็นว่า ในการเสนอการลงทุนเพื่อเพื่อขีดความสามารถพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ควรจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังโครงการให้ชัดเจน เช่น การก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) เส้นที่ 3 , งานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (Domestic Terminal) รวมถึงศึกษาแนวทางการให้เอกชนเข้ามาบริหารสนามบินภูมิภาคของกรมการบินพลเรือน (บพ.) โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขระเบียบและข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อต้นปี 2552 ช่วงต้นรัฐบาลอภิสิทธิ์ นายโสภณ ซารัมย์ ได้โควตาพรรคภูมิใจไทยเป็นรมว.คมนาคมได้มีการชูนโยบายผลักดันให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินเดี่ยว (Single Airport)รองรับเที่ยวบินพาณิชย์ทั้งหมด ส่วนสนามบินดอนเมืองจะใช้สำหรับรองรับอุตสาหกรรมการบินเป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานและรองรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) เครื่องบินส่วนตัว (Private Jet)โดยให้ย้าย 3สายการบิน คือ การบินไทย นกแอร์ และวันทูโกจากสนามบินดอนเมืองกลับไปให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่การบินไทยรับนโยบายปฏิบัติทันทีโดยอ้างว่าการใช้ดอนเมืองคู่สุวรรณภูมิในการบินทำให้ขาดทุน
ในขณะที่นโยบายเดิมใช้สนามบินดอนเมืองรองรับเที่ยวบินภายในประเทศที่ไม่มีผู้โดยสารต่อเครื่องเพื่อช่วยลดความแออัดภายในอาคารผู้โดยสารและแผนขยายสุวรรณภูมิเฟส 2 ล่าช้า จึงมีข้อครหาในการย้ายเที่ยวบินการบินไทยไปสุวรรณภูมิว่าเป็นนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มคิงเพาเวอร์ที่รับสัมปทานพื้นที่เชิงพาณิชย์หรือไม่ |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 12/02/2010 9:43 am Post subject: |
|
|
สนข.ใบ้สายสีส้มต้อง รฟม. นัดถกอนุ กก.สัปดาห์หน้า
โดย ทีมข่าว กทม.
ไทยรัฐออนไลน์ 12 กุมภาพันธ์ 2553, 05:00 น.
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงกรณีการแบ่งความรับผิดชอบโครงการรถ ไฟฟ้าตามแผนแม่บทสายสีส้มและสายสีเขียว ระหว่าง กทม.กับ รฟม.ว่า ที่ประชุม คจร.ได้แต่งตั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เป็นประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ พิจารณาหาข้อยุติ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ สายสีเขียวจะพิจารณาเรื่องการบริหารจัดการเดินรถ หลังจาก ครม.มีมติให้ รฟม.ดำเนินการด้านโยธา ส่วนการบริหารการเดินรถมอบให้ กทม.กับ รฟม. พิจารณาร่วมกัน ส่วนสายสีส้มที่ กทม.เสนอขอดำเนินการแทน รฟม.นั้น ถ้าพิจารณาตามโครงสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งแนวสายทางช่วงผ่านกลางเมืองจะต้องก่อสร้างเป็นอุโมงค์ใต้ดินและต่อเชื่อมกับสายสีน้ำเงิน รวมถึงใช้อู่จอดรถ ร่วมกัน ก็น่าจะรู้ว่าใครควรจะต้องทำ เรื่องนี้ชัดเจน มีเหตุผลอยู่ในตัวสามารถ อธิบายได้ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯจะนัดประชุมหารือสัปดาห์หน้า
ผอ.สนข.กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุม คจร.ได้มีมติเห็นชอบให้ ปรับปรุงคณะอนุกรรมการประสานการแก้ไขจราจรและขนส่งระยะเร่งด่วน จากเดิม ผอ.สนข.เป็นประธาน เป็นให้ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ผอ.สนข.เป็นรองประธาน และแต่งตั้งนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายก รัฐมนตรี เป็นอนุกรรมการที่ปรึกษา สำหรับกรรมการได้ระบุตำแหน่งชัดเจน เช่น กรรมการจาก กทม.ระบุตำแหน่ง ผอ.สำนักการโยธา ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง จากเดิมแค่ผู้แทนหน่วยงาน ทั้งนี้ เพื่อให้พิจารณาและทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น. |
|
| Back to top |
|
 |
|