View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46894
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 13/02/2010 11:38 am Post subject: |
|
|
Tanaset wrote: | ขอบคุณมากๆครับ สำหรับทริปนี้ ที่ทำให้ผมนั้น ได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นด้วยครับ ว่างๆจะ
หาเวลาไปสำรวจกับเค้ามั่ง |
ครับมาช่วยกันรณรงค์ให้ฟื้นฟูทางรถไฟสายสงขลากันดีกว่า
รอชมผลงานการสำรวจของคุณ Tanaset อยู่นะครับ
-------------------------
สถานีสงขลานั้น ตั้งอยู่ที่ กม. 958.04
ภาพขยายของโปสการ์ด เห็นหลักฐานชัดเจนครับ
เพราะเห็นหลัก กม.อยู่หน้าสถานี ตรงราง 3 ด้านซ้ายของภาพครับ
(อยู่ก่อนถึงสถานีเล็กน้อย)
|
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 13/02/2010 12:12 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | Tanaset wrote: | ขอบคุณมากๆครับ สำหรับทริปนี้ ที่ทำให้ผมนั้น ได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นด้วยครับ ว่างๆจะ
หาเวลาไปสำรวจกับเค้ามั่ง |
ครับมาช่วยกันรณรงค์ให้ฟื้นฟูทางรถไฟสายสงขลากันดีกว่า
รอชมผลงานการสำรวจของคุณ Tanaset อยู่นะครับ |
ใช่ครับอาจารย์ ผมในฐานะศิษย์เก่าของรถไฟสายนี้ รอลุ้นอยู่
เรามาช่วยรณรงค์ให้ฟื้นฟูทางรถไฟสายสงขลา ให้สามารถเดินรถได้เพื่อฉลองครบรอบ ๑๐๐ ปี
รถไฟสายสงขลา ในปี ๒๕๕๗ แต่ในเบื้องต้นนี้ น่าจะปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสถานีรถไฟสงขลาให้ดูดีกว่าที่เป็นอยู่
ให้สมกับเป็นโบราณสถาน ที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของคนสงขลา คิดว่าคนสงขลา คงไม่ขัดข้อง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่บริเวณนั้น(ผู้บุกรุก นะ.) _________________
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46894
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 15/02/2010 2:44 pm Post subject: |
|
|
จากด้านหลังโปสการ์ดภาพสถานีสงขลาและสถานีควนหิน
ที่ใช้กระดาษอัดรูปจากบริษัทเดียวกันนี้
ผมยังพบภาพโปสการ์ดที่มีด้านหลังแบบเดียวกัน แต่เป็นภาพเครื่องบินมาลงที่สงขลาด้วยครับ ไม่ทราบปี พ.ศ.อีกอยู่ดี พยายามดูตราประทับแล้ว อ่านไม่ออกครับ
(จากหนังสือ มรดกเมืองสงขลา มหาวชิราวุธ ของคุณเอนก นาวิกมูลและ อ.จรัส จันทร์พรหมรัตน์)
เปรียบเทียบดูครับ โปรดสังเกตฐานสามเหลี่ยมที่โผล่มานิด ๆ หลังดวงแสตมป์น่ะครับ เป็นแบบเดียวกับหลังโปสการ์ดสถานีสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/03/2006 Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง
|
Posted: 15/02/2010 10:25 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | มองข้ามหนองน้ำไป ก็เห็นสะพานรถไฟสายที่ไปกรุงเทพ
นั่นคือ เส้นทางในชุมชนสะพานดำ คือคันทางเก่าของทางรถไฟสายสงขลา-อู่ตะเภานั่นเอง
ที่แปลกคือ ถนนผ่านชุมชนสะพานดำ ซึ่งเคยเป็นคันทางเก่าของทางรถไฟสายอู่ตะเภา-สงขลานั้น มีระดับต่ำกว่าคันทางสายกรุงเทพและแม้แต่สายสงขลาในปัจจุบันมาก
|
ถ้าอ้างอิงตามรายงานประจำปี 2465 ก็จะมีคำอธิบายในเรื่องนี้ครับ
เนื้อหาส่วนหนึ่งรายงานประจำปี 2465 ที่ตีพิมพ์ในหนังสือ เพื่อระฤกถึงพระคุณ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ครับ
อนุสนธิ์ดังที่ได้กล่าวไว้ในรายงานประจำปีฉบับก่อนถึงการที่จะเปลี่ยนทางสายแยกสงขลาให้เข้าหาหาดใหญ่ โดยยกเลิกชุมทางที่อู่ตะเภา ซึ่งอยู่ติดๆกันถึง ๒ แห่ง ในชั่วระยะเพียง ๓ ก.ม.เพื่อยังเศรษฐกิจให้ลดน้อยในภาคน่านั้น ในศกนี้งานเปลี่ยนทางคงได้อนุวัตร์จัดทำกล่าวคือเมื่อวันที่ ๙ เมษายน ได้ถอนรางบนคันทางเดิมไปวางลงบนพื้นดินชั่วคราวพอให้ขบวนรถเดินไปมาได้พลาง และในรวดเดียวกันนี้ได้ขนดินถมที่แนวทางแยกใหม่เพื่อทำมูลดินขึ้นเปนคันทาง ถัดมาจึงได้วางราง ครั้นเมื่อได้วางรางเสร็จแลมีผู้บัญชาการได้ตรวจแลเดินรถไปบนทางที่ทำโดยตลอดแล้ว ได้เริ่มเดินรถบนทางแยกใหม่นี้ระหว่างสงขลากับหาดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม เปนต้นมา โดยมิต้องผ่านเข้าหาอู่ตะเภา โสหุ้ยที่ได้ใช้จ่ายไปในการนี้ ได้คิดเอาในงบเงินค่าก่อสร้างทางสายสาขาซึ่งสิ้นไปเปนจำนวน ๖๖,๒๗๙ บาท ๖๔ สตางค์ ส่วนสถานีอู่ตะเภานั้นยุบลงเปนสถานีธรรมดาแทนที่เปนชุมทาง
ไหนๆกระทู้นี้ก็พูดถึงอู่ตะเภาแล้ว ผมจำได้ว่าในเว็บเก่าพี่มิงค์ (rodfaithai) ก็เคยตั้งกระทู้เปิดประเด็นเรื่องสถานีอู่ตะเภาไว้เหมือนกัน แล้วมีคุณ hatyai ซึ่งเป็นสมาชิกรุ่นอาวุโส และเป็นลูกหลาน ครฟ. ที่หาดใหญ่ เคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับอู่ตะเภาไว้เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2548 มีเนื้อความดังนี้ครับ
hatyai wrote: | สถานีอู่ตะเภา ตั้งแต่จำความได้ และได้ใช้บริการ (ราวปี พ.ศ.2504-05) เป็นป้ายปูนเหมือนที่เห็นตามสถานีต่างๆ แต่ไม่มีตัวสถานี ไม่มีรางหลีก มีต้นไม้ใหญ่มากๆอาศัยเป็นร่มเวลาคอยรถ
ถ้าออกจากหาดใหญ่ป้ายจะอยู่ทางซ้ายมือ สมัยนั้นบริเวณนี้ไม่ได้เป็นแหล่งชุมชน
รถจะจอดเป็นบางขบวน มองออกไปรอบๆจะเป็นทุ่งนา ตรงข้ามสถานีจะเป็นสวนยาง เป็นบ้านคนน้อยมาก แต่ละหลังจะอยู่ห่างกัน
บ้านคนจะไปมากก็ตรงริมคลองตรงสพานโค้งเพราะตรงนั้นก็จะเป็นท่าเรือ
ที่มีเรือจากหาดใหญ่ในแล่นมาตามลำคลองอู่ตะเภาแวะรับส่งคนโดยสาร
แต่ปลายทางที่ไหนจำไม่ได้จากป้ายสถานีถึงสะพานโค้งห่างกันประมาณเกือบๆกิโล
เพราะเคยเดินจากสะพานโค้งมายังสถานีเพื่อรอรถไฟกลับหาดใหญ่ ตอนนั้นรู้สึกว่าไกลมาก
ลืมเล่าไป ที่ได้ใช้สถานีนี้เพราะบ้านปู่อยู่อู่ตะเภา
แต่บางครั้งพ่อก็จะพาเดินจนถึงหาดใหญ่โตขึ้นมาหน่อย
เวลาปิดเทอมก็จะชวนพรรคพวกลูกรถไฟด้วยกันเดินไปบ้านปู่เพื่อเก็บผลไม้
และผจญภัยไปในตัวเราจะเดินกันตามทางรถไฟทั้งไปและกลับ
ช่วงที่ตื่นเต้นก็เป็นตอนที่เดินข้ามสะพานคอยคิดกันว่าถ้ารถไฟมาเราจะทำอย่างไร
แต่ก็ไม่เคยเจอเราเคยแปลกใจตามประสาเด็กๆว่าทำไมพ่อถึงรู้ว่าขบวนไหนจะจอดที่สถานีในเวลานี้ ลืมคิดไปว่าพ่อเราทำงานรถไฟ
เดี๋ยวนี้สองข้างทางเต็มไปด้วยบ้านคนที่เราไม่รู้ว่าเขามีสิทธ์อะไรมาปลูกสร้าง
ในขณะที่เรากลับต้องไปอยู่ห่างจากสิ่งที่เราเคยเห็นมาตั้งแต่เกิด
เล่าไปเล่ามาชักจะออกในแนวนางอิจฉาซะแล้ว
เอาไว้นึกอะไรออกจะมาเล่าให้ฟังอีก |
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46894
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 15/02/2010 11:21 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณพี่หนุ่มมากครับ
สรุปได้ว่าดินคันทางถูกขุดเอาไปถมทำคันทางใหม่นั่นเอง
คำบรรยายของคุณ hatyai สอดคล้องกับหลักฐานทางภาพถ่ายทางอากาศทุกประการครับ
ในภาพถ่ายทางอากาศภาพนี้
http://www.songkhlaline.com/image/utaphao_aerial.jpg
ยังเห็นต้นไม้ใหญ่อยู่ริมทางรถไฟ ตรงตำแหน่งที่เคยเป็นสถานีอู่ตะเภา
(ด้านบนซ้ายของภาพ)
ตรงข้ามสถานีเป็นสวนยาง ไม่มีบ้านคน
และจากที่หยุดรถอู่ตะเภาไปสะพานโค้ง ระยะทางประมาณ 600 เมตรครับ
ภาพสถานีอู่ตะเภา ยุคแรก ๆ ที่ยังมีอาคารสถานีอยู่ครับ
|
|
Back to top |
|
|
Adithepc20
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/07/2006 Posts: 3403
Location: ลาดพร้าว 71 หรือ ชานเมือง 9
|
Posted: 15/02/2010 11:42 pm Post subject: |
|
|
อ.เอก ครับ ขออนุญาตนอกเรื่องนิดนึงครับ สาวใต้นางแบบคนข้างบนนี่ใครหรือครับ น่ารักจัง _________________ ฮิตาชิ 4506 ขณะทำขบวนรถสินค้าที่ 879 ออกจากสถานีชุมทางศรีราชา วันที่ 20 เม.ย. 2553 เวลา 16.50 น.
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46894
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/03/2006 Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง
|
Posted: 17/02/2010 9:05 pm Post subject: |
|
|
จากภาพถ่ายทางอากาศข้างต้นนี้ ผมให้ความสนใจบางประการกับร่องรอยบริเวณแนวคันทางเดิมในแนวสงขลาเข้าหาอู่ตะเภาที่เกี่ยวเนื่องกับกระบวนการย้ายแนวเส้นทางตามข้อมูลในรายงานครับ
การย้ายแนวเส้นทางในกรณีนี้ดูแปลกตรงที่มีการนำดินจากแนวคันทางเดิมไปใช้สร้างแนวคันทางใหม่ แทนที่จะปล่อยไว้ก่อน แต่ผมยังจะไม่ค้นหาเหตุผลในเรื่องนี้ แต่กำลังสนใจเรื่องรางชั่วคราวตามแนวเส้นทางเก่าครับ
ลองสังเกตร่องรอยเส้นทางเก่าจากภาพถ่ายทางนี้ให้ดี จะเห็นว่าจะมีร่องรอยพื้นดินที่ไม่ใช่ท้องนาช่วงโค้งเข้าหาอู่ตะเภาค่อนข้างกว้างกว่าแนวคันทางปกติมาก ในขณะที่ด้านที่เข้าหาสงขลานั้นไม่ได้กว้างอะไรมากมาย ซึ่งแนวทางเดิมจากสงขลาเข้าหาอู่ตะเภาจะเชื่อมกับแนวทางที่ไปทางหาดใหญ่ด้านใต้ของสะพานใต้สถานีอู่ตะเภา ผมก็เลยจะลองหาเหตุผลมาอธิบายพื้นที่ตรงแนวศรชี้ว่าทำไมจึงมีลักษณะเช่นนั้น
มาถึงตอนวางรางชั่วคราว ที่บอกว่าเป็นการวางบนพื้นนั้น ผมคิดว่าถึงอย่างไรเสียก็ต้องมีการบดอัดและยกระดับพื้นให้สูงกว่าพื้นท้องนาอย่างแน่นอน ดังนั้นความแน่นและระดับความสูงของพื้นตรงนั้นจึงน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พื้นที่ตรงนั้นไม่กลายเป็นท้องนาไปเมื่อถูกทิ้งร้าง
เมื่อพิจารณาพื้นที่ต้องสงสัยตรงศรชี้ประกอบกับคำอธิบายถึงวิธีการย้ายแนวเส้นทางแล้วผมคิดว่า
1.ทางชั่วคราวน่าจะวางเข้าหาอู่ตะเภาโดยตรงบริเวณรางหลีก โดยไม่ผ่านสะพานด้านใต้อู่ตะเภา ส่วนด้านเข้าสงขลาน่าจะเชื่อมด้วยการทำทางเบี่ยงพร้อมเชิงลาดลงมาที่ระดับพื้นบริเวณช่วงคอสะพาน จึงทำให้เห็นแนวพื้นทางโค้งที่กว้างกว่าปกติและอยู่ห่างจากแนวคันทางเดิมตรงบริเวณลูกศรชี้
2.จากข้อ 1 การเชื่อมรางชั่วคราวเข้ากับรางเดิมนั้นน่าจะทำโดยการวางรางและเชื่อมต่อรางเดิมบริเวณรางหลีกที่อู่ตะเภาให้เรียบร้อยก่อน ส่วนด้านสงขลาก็วางรางมาจ่อไว้ เมื่อพร้อมแล้วจึงค่อยย้ายแนวรางมาต่อกับทางเบี่ยง
^
ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้ ก็เพราะว่าด้านอู่ตะเภานั้นมีรางหลีกในย่านสถานีอยู่แล้ว การเชื่อมทางชั่วคราวเข้ากับรางหลีกจึงทำได้สะดวกโดยไม่กระทบกับการเดินรถ ซึ่งย่อมมีขบวนรถเดินไปมาตลอดอยู่แล้ว ในขณะที่ด้านสงขลาเป็นทางปกติที่อยู่ในตอน ไม่มีประแจทางแยกอยู่เดิม การกระทำเพื่อการเปลี่ยนแปลงใดๆก็จะมีผลกระทบกับการเดินรถอย่างแน่นอน แต่ด้วยปริมาณการเดินรถที่ไม่หนาแน่น การย้ายแนวรางช่วงสั้นๆเข้ากับทางที่สร้างมาจ่อเอาไว้แล้ว สามารถใช้ช่วงเวลาที่ปลอดการเดินรถที่มีอยู่มากดำเนินการได้ไม่ยากครับ
ภาพข้างล่างนี้อธิบายถึงแนวเส้นทางรางชั่วคราวตามที่ผมคิดไว้ครับ แต่ก็ต้องเรียนย้ำไว้ก่อนว่านี่เป็นเพียงความคิดของผมที่นำข้อสงสัยจากภาพถ่ายทางอากาศมาประมวลกับคำอธิบายเรื่องการย้ายแนวเส้นทางเท่านั้นครับ ไม่ได้มีเอกสารหลักฐานใดๆมายืนยันความถูกต้องทั้งสิ้นครับ
Last edited by Nakhonlampang on 19/06/2015 9:50 pm; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46894
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 17/02/2010 11:20 pm Post subject: |
|
|
นับเป็นสมมุติฐานที่น่าสนใจมาก และผมเชื่อว่าเหตุการณ์เมื่อเกือบ ๙๐ ปีก่อนต้องเป็นแบบที่พี่หนุ่มว่าจริง ๆ ครับ
ขอบคุณมากครับ คงได้ฤกษ์จัดทำคำบรรยายภาพแยกอู่ตะเภา ก่อน พ.ศ. ๒๔๖๕ ส่งให้ หจช.เสียทีครับ และจะแนบข้อคิดเห็นของพี่หนุ่มไปด้วย เพราะใครดูภาพข้างล่างนี้แล้วมักจะบอกผิดว่า ซ้ายไปกรุงเทพ ขวาไปสงขลาครับ
http://www.songkhlaline.com/image/utaphao_point.jpg |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46894
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 22/02/2010 10:44 am Post subject: |
|
|
บทความเรื่องบ่อโอใน นสพ.โฟกัสภาคใต้ ฉบับประจำวันที่ 20-26 ก.พ.53 ครับ
เพิ่มเติม
อ.วุฒิชัย เพ็ชรสุวรรณ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับที่มาของชื่อ บ่อโอ ว่าดังนี้ครับ
Quote: | โอ ความหมาย คือ อู่ บ่อโอ หมายว่า บ่ออู่ คือบ่อซึ่งอยู่ที่อู่รถไฟ (เช่น อู่ตะเภา) |
Last edited by Mongwin on 22/02/2010 4:43 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
|