Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:318718
ทั่วไป:28765232
ทั้งหมด:29083950
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 23, 24, 25 ... 299, 300, 301  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 16/02/2010 10:08 pm    Post subject: Reply with quote

ชงครม.รับทราบแผนแม่บทรถไฟฟ้า คมนาคมเร่งออกแบบสร้าง”ชมพู-ส้ม”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กุมภาพันธ์ 2553 06:42 น.

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโนยายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าตามแผนแม่บทว่า กระทรวงคมนาคมจะรายงานมติที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการขนส่งและจราจรทางบก (คจร.) ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (16 ก.พ.) หลังจากนั้น ตามแผนแม่บทจะเร่งดำเนินการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี ระยะทาง 36 กม. และสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม –บางกะปี-มีนบุรี ในขั้นตอนการออกแบบรายละเอียด

ทั้งนี้ในส่วนของการว่าจ้างที่ปรึกษา ออกแบบรายละเอียด สายสีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรีนั้นจะโอนงบประมาณจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) จำนวน 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณประจำปี 2552 สำหรับศึกษาและออกแบบโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน สายวงแหวนรอบในตามแนวถนนมาใช้ก่อน

“การว่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบละเอียดสายสีชมพูนั้น รวมถึงการทบทวนความเหมาะสม และจัดทำเอกสารประกวดราคา และรายงานการวิเคราะห์ตามพ.ร.บ. ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535“นางสร้อยทิพย์กล่าว

นอกจากนี้ที่ประชุม คจร.ยังเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาความเหมาะสมการบริหารโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม–บางกะปี-มีนบุรี และสายสีเขียวส่วนต่อขยายสะพานใหม่-คูคต และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-ยศเส โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยให้ดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน เพื่อรายงานให้คจร.รับทราบก่อนที่จะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อไป

ด้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานประธานคณะกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดรฟม.เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2553 ที่ผ่านมานั้น รฟม.ได้รายงานผลการประชุมของ คจร. เกี่ยวกับการดำเนินโครงการรถไฟฟ้า ซึ่ง คจร.ยืนยันให้ รฟม.ดำเนินการก่อสร้างในส่วนของสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่และ แบริ่ง-สมุทรปราการตามมติ ครม. ซึ่งหลังจากนี้ รฟม.จะเดินหน้าไปตามขั้นตอน โดยได้เตรียมจ้างเอกชนเพื่อดำเนินการสำรวจอสังหาริมทรัพย์ในแนวสายทาง พร้อมกับรอขั้นตอนการออกประกาศ พ.ร.ฎ.เวนคืน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 22/02/2010 12:18 am    Post subject: Reply with quote

"มาร์ค"เสกสายสีชมพู-สีส้ม จัดสรรจ่อเก็บที่ดินเก็งกำไร

โดย ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ 19 กุมภาพันธ์ 2553 15:48 น.




หลังจากที่รัฐบาลประกาศอนุมัติแผนแม่บทรถไฟฟ้า 12 เส้นทาง โดยมีทั้งเพิ่มและลดบางเส้นทาง เพื่อความเหมาะสมกับการขยายตัวของชุมชน ซึ่งได้ปรับลดเส้นทางสายสีน้ำตาล (บางกะปิ - มีนบุรี) ซึ่งอยู่ในแผนก่อสร้างในสมัยรัฐบาลสมัคร หรือปรับลดแนวเส้นทาง เช่น สายสีเหลือง เดิมจากเกษตรนวมินทร์-ศรีนครินทร์-เทพารักษ์-ปู่เจ้าสมิงพราย-ราชพฤษ์-พระราม5 เหลือเพียงลาดพร้าว-สำโรง หรือตัดเส้นทางสายสีน้ำเงินเดิมที่จะทำเป็นวงแหวนเชื่อมเป็นวงกลม เพราะยังไม่มีความจำเป็น

ขณะที่เส้นทางที่เพิ่มเข้ามาในแผนแม่บท ได้แก่ สายสีชมพู (แคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี ) โดยเส้นทางนี้มีการพูดถึงตั้งแต่ สมัยสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.กระทรวงคมนาคม แต่ก็เป็นการพูดถึงในครั้งนั้น เป็นการปั่นราคาที่ดินมากกว่าจะพัฒนาอย่างจริงจัง จนกระทั่งศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายปี2551 สายสีชมพูจึงถูกหยิบยกมาพูดถึงอีกครั้ง โดยครั้งนี้รัฐบาลได้บรรจุให้อยู่ในแผนเร่งด่วน 10 ปี ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ปี 2562 และแน่นอนว่าทันทีที่รัฐบาลประกาศจะลงทุนระบบขนส่งมวลชนเส้นทางดังกล่าว สิ่งที่ตามมา คือ ความคึกคักจากนักลงทุนที่เข้ามาจับจ้องพื้นที่เพื่อพัฒนาเป็นโครงการบ้านจัดสรร ซื้อเก็งกำไร และนักลงทุนบางรายได้เข้ามาลงทุนดักหน้ารถไฟฟ้าไว้แล้ว

นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ถนนแจ้งวัฒนะ กลายทำเลที่มีศักยภาพมากขึ้น มีบริษัทพัฒนาที่ดินค่ายใหญ่แทบทุกค่ายซื้อที่ดินพัฒนารองรับข้าราชการกลุ่มนี้ โดยราคาที่ดิน ขยับขึ้นเฉลี่ย 100,000-120,000 บาทต่อตร.วา จากเดิม 70,000 -80,000 บาทต่อตร.วา หรือปรับขึ้น 20-30% จากปีที่ผ่านมา จากการที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะเปิดให้บริการ รวมถึงในอนาคตจะมีระบบขนส่งมวลชนอีกหลายระบบ ไม่ว่าจะเป็น รถเมล์ด่วนพิเศษBRT รถไฟฟ้าสายสีชมพู

ส่วนบริเวณห้าแยกปากเกร็ด ราชพฤกษ์ ฝั่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงต้นๆ ก่อนหน้านี้ราคาที่ดินเปล่าเฉลี่ยที่ 50,000 บาทต่อตร.วา ขยับขึ้นเป็น 70,000 บาทต่อตร.วา ซึ่งในรัศมี 5-10 กม.จากศูนย์ราชการฯ จะเป็นทำเลที่อยู่อาศัยและศูนย์การค้าแห่งใหม่

อีกเส้นทาง คือ สายสีส้ม (ตลิ่งชัน -มีนบุรี) ที่ปรากฏในแผนแม่บทพัฒนารถไฟฟ้า 7 สาย สมัยสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจเช่นกัน ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด แต่ครั้งนี้รัฐบาลได้สร้างฝันขึ้นมาใหม่ โดยการบรรจุสายสีส้มลงในแผนเร่งด่วนเช่นเดียวกับสายสีชมพู เพราะเป็นเส้นทางที่มีความจำเป็น จะช่วยขนคนจากนอกเมืองเข้ามาในเมือง ซึ่งได้เพิ่มเส้นทางจากเดิม 12 กม. เป็น 37.5 กม.เปลี่ยนแนวเส้นทางจากจากบางบำหรุ-ศูนย์วัฒนธรรม เป็น ตลิ่งชัน - มีนบุรี ทำให้ราคาที่ดินที่จะพุ่งสูงทันที

ข้อมูลจากกรมธนารักษ์ระบุว่า ราคาที่ดินย่านตลิ่งชัน ปรับตัวขึ้น 32.91% โดยพื้นที่ปิ่นเกล้า ราคาเฉลี่ย 50,000-170,000บาทต่อตร.วา พรานนก ราคา 40,000-100,000บาทต่อตร.วา ส่วนเขตมีนบุรี ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 12,000-77,000 บาทต่อตร.วา ร่มเกล้า ราคา 4,300-30,000 บาทต่อตร.วา ซอยตลาดมีนบุรี ราคา 34,000-77,000บาทต่อตร.วา หรือถนนรามอินทรา ราคา 8,000-55,000 บาทต่อตร.วา ทั้งนี้ กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างการลงพื้นที่เพื่อเก็บราคาประเมินใหม่ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการปรับตัวที่สูงขึ้นจากนโยบายการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าของรัฐบาล

นอกจากรถไฟฟ้า 2 เส้นทางที่รัฐบาลบรรจุให้อยู่ในแผนแม่บทแล้ว ยังเพิ่มอีก 2 เส้นทาง คือ สายสีเทา (วัชรพล-สะพานพระราม9)และสายสีฟ้า (ดินแดง-สาทร) แต่เนื่องจากว่าทั้ง 2 เส้นทาง ไปทับซ้อนกับเส้นทางที่กทม.กำลังจะดำเนินการก่อสร้างระบบโมโนเรล คือ เส้นทางกทม.2 และเส้นทางทองหล่อ และเพื่อไม่ให้เส้นทางทับซ้อนกัน คณะกรรมการคจร.จึงมีมติให้กทม.ดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าระบบรองได้

สุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้รื้อเส้นทางรถไฟฟ้า เพียงแต่เพิ่มบางเส้นทางเข้ามาให้เกิดการก่อสร้างเร็วขึ้น เช่น สายสีส้ม ตลิ่งชัน -มีนบุรี และสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี โดยสายสีชมพูจะรองรับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะที่เปิดให้บริการแล้ว ส่วนสายสีส้มจะเป็นการขนคนจากนอกเมืองเข้ามาในเมือง โดยในส่วนของสายสีส้มทางสนข.ได้เปลี่ยนแนวเส้นทางจากเดิม บางบำหรุ-ศูนย์วัฒนธรรม ระยะทาง 12 กม. มาเป็น ตลิ่งชัน -มีนบุรี ระยะทาง 37.5 กม.ทั้งนี้เพื่อเป็นการขยายเส้นทางให้ครอบคลุมมากขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message
KT-Station
2nd Class Pass (Air)
2nd Class Pass (Air)


Joined: 03/11/2009
Posts: 948
Location: โรงเรียนบ้านหนองขุ่นเหล่าหลักวิทยา

PostPosted: 22/02/2010 12:38 am    Post subject: Reply with quote

เห็นกระทู้นี้แล้ว รู้สึกหวลถึงอดีต ที่มีรถรางวิ่งเส้นถนนเจริญกรุงจังครับ กิ๊ดตึ๊ง... กิ๊ดตึ๋ง... emot153
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49416
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/03/2010 8:56 pm    Post subject: Reply with quote

"สถานีต่อไป...ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต"
วันจันทร์ ที่ 01 มีนาคม 2553 เวลา 7:50 น

...ต้นแบบรถไฟฟ้าชานเมือง

ย้ายเรียบร้อยแล้วครับ Very Happy

|
|
V


Last edited by Mongwin on 02/03/2010 10:53 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 02/03/2010 9:05 am    Post subject: Reply with quote

^^^
ย้ายข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงไว้ที่ เผยโฉม รถ "สายสีแดงอ่อน" จะเหมาะกว่านะครับอาจารย์เอก Embarassed
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 17/03/2010 9:56 am    Post subject: Reply with quote

กทม.เตรียมชง'โมโนเรล'2 สายเข้า ครม. ได้ไฟเขียวยันเห็นผลงานใน 3 ปี
เดลินิวส์ - วันอังคาร ที่ 16 มีนาคม 2553 เวลา 7:22 น


นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เห็นชอบให้ กทม.ก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดรองเช่นรถไฟฟ้าโมโนเรลเพื่อเป็นขนส่งระบบรางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าขนาดใหญ่นั้น ขณะนี้ กทม.ได้ศึกษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว 3 สาย อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดเพื่อนำเสนอ ครม.พิจารณาเห็นชอบ อนุมัติโครงการเร่งด่วน 2 สายได้แก่

1. เส้นทางสายสยามที่จะวิ่งเป็นวงกลม จำนวน 5 สถานี เริ่มจากสนามกีฬาแห่งชาติ-บรรทัดทอง-พระราม 4-พญาไท หรืออังรีดูนังต์ สุดที่พระราม 1 ระยะทาง 5 กม. งบประมาณ 5,000 ล้านบาท
2. สายที่ 2 จากแยกบางนา-สนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทาง 18 กม. ค่าก่อสร้างราว 18,000 ล้านบาท เชื่อมรถไฟฟ้าขนาดหนักของบีทีเอสจากแยกบางนา ใช้แนวเส้นทางถนนบางนา-ตราด วิ่งคู่ขนานกับทางด่วนบางนา-ชลบุรี เลี้ยวเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ รองรับการเดินทางของประชาชนจากจังหวัดสมุทราปราการและกรุงเทพฯ ด้านตะวันออกเข้าสนามบิน
3. ส่วนเส้นทางที่ 3 จากศาลาว่าการ กทม. 2-ยมราช ระยะทาง 15 กม. งบ 15,000 ล้านบาท แนวเส้นทางจากศาลาว่าการ กทม. 2 วิ่งเข้าดินแดง แนวรถไฟฟ้าจะอยู่เหนือโครงการโทลล์เวย์ วกเข้าถนนราชปรารภ เข้าเพชรบุรีและสิ้นสุดที่แยกยมราช จะรองรับการย้ายศาลาว่าการ กทม. 1 ไปรวมที่อาคารใหม่ศาลาว่าการ กทม. 2 เชื่อมต่อรถไฟฟ้าใต้ดินที่บริเวณอโศกและเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสที่เพชรบุรีด้วย จะนำ เสนอ ครม.พิจารณาภายหลัง

นายธีระชน กล่าวต่อว่า คาดว่าจะนำเสนอ ครม.ได้หลังเหตุการณ์การชุมนุมสงบแล้ว หาก ครม.เห็นชอบ กทม. จะได้ดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ ต่อไปเช่นหารือคณะกรรมการนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (สผ.) เพื่อหารือว่าการสร้างรถโมโนเรลซึ่งเป็นล้อยางที่สร้างได้บนเสาเดี่ยวและบนทางพื้นราบ แต่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าต้องจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) หรือไม่ ส่วนงบประมาณจะขอการสนับสนุนจากรัฐบาล และสามารถใช้วิธีการออกพันธบัตรมาระดมทุนหรือให้เอกชนเข้ามาลงทุนโดย กทม.ค้ำประกันเงินกู้ให้ หรือใช้วิธีการผ่อนจ่ายคืนเอกชนภายหลัง ทั้งนี้ต้องการให้ผล ในสมัยผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ บริพัตร ให้ได้.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 26/03/2010 11:07 am    Post subject: Reply with quote

รฟม.ลัดคิว "ม่วงส่วนใต้-ชมพู" รับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ-รัฐสภาใหม่
ประชาชาติธุรกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 4195 วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553

ปัญหาความล่าช้าในหลาย ๆ ด้าน ตั้งแต่ขั้นตอนในการผลักดันโครงการ ไปจนถึงการเวนคืนที่ดิน รวมทั้งนโยบายภาครัฐ ทำให้เมกะโปรเจ็กต์รถไฟฟ้าต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่มี "สุพจน์ ทรัพย์ล้อม" ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน มีแนวโน้มว่าโครงการรถไฟฟ้าบางเส้นทางอาจล่าช้าไปจากแผน เพราะต้องขยับปรับเปลี่ยนแผนงานใหม่

ม่วง "บางซื่อ-บางใหญ่" ยืนเปิด ส.ค. 57

เริ่มที่สายนำร่อง "สีม่วง" ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ 23 กิโลเมตร วงเงิน 36,055 ล้านบาท ซึ่งผู้รับเหมาลงพื้นที่ตอกเสาเข็มเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างก่อสร้างทั้ง 3 สัญญา จะแล้วเสร็จมีนาคม 2556

ปัจจุบันงานก่อสร้างเป็นไปตามแผนงาน คืบหน้า 1% จะเริ่มเห็นงานโครงสร้างตั้งแต่เมษายนนี้ ส่วนการเวนคืนคืบหน้า 90% การก่อสร้าง 3 ปีครึ่งจึงไม่น่าจะมีปัญหา

ขณะที่งานส่วนที่เหลือ ในส่วนสัญญาที่ 5 งานระบบรถไฟฟ้า (เตาปูน-บางซื่อ) กำลังเจรจากับ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือบีเอ็มซีแอล ผู้รับสัมปทานเดินรถสายเดิมให้เป็นผู้ลงทุน สัญญาที่ 6 งานระบบราง 3,633 ล้านบาท องค์การเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) ยืนยัน ให้เงินกู้แล้ว จะเซ็นเงินกู้งวดที่ 2 สิ้นเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งจะรวมเม็ดเงินในส่วนนี้ด้วย คาดว่าจะเซ็นสัญญาก่อสร้างได้เดือนพฤศจิกายน 2554

ส่วนการเดินรถวงเงิน 13,243 ล้านบาท กำลังดำเนินการคัดเลือกชนมาลงทุนในลักษณะ PPP gross cost โดยรัฐลงทุนด้านโยธา เอกชนลงทุนระบบรถไฟฟ้า รัฐจะจัดเก็บค่าโดยสาร และว่าจ้างเอกชนเดินรถ ออกประกาศเชิญชวนได้สิงหาคมนี้ จะเปิดบริการตามกำหนดเดิมเดือนสิงหาคม 2557

น้ำเงินเปิดบริการ ก.พ. 59

ส่วนต่อขยาย "สีน้ำเงิน" ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค 27 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 52,257 ล้านบาท จะเปิดให้ผู้รับเหมาทั้ง 25 รายยื่นซองประมูลทั้ง 3 ซอง (คุณสมบัติ-เทคนิค-ราคา) 29 เมษายนนี้ มี 5 สัญญา

1.ว่าจ้างออกแบบควบคู่การก่อสร้าง เส้นทางใต้ดิน ช่วงหัวลำโพง-สนามไชย 2.8 กิโลเมตร สถานีใต้ดิน 2 แห่ง ระยะเวลา 1,890 วัน วงเงิน 11,592.99 ล้านบาท 2.การจ้างออกแบบควบคู่การก่อสร้าง เส้นทางใต้ดิน ช่วงสนามไชย-ท่าพระ 2.6 กิโลเมตร สถานีใต้ดิน 2 แห่ง ระยะเวลา 1,890 วัน 10,766.60 ล้านบาท

3.การจ้างก่อสร้างเส้นทางยกระดับ ช่วงเตาปูน-ท่าพระ 11 กิโลเมตร สถานี ยกระดับ 8 แห่ง สะพาน 1 สะพาน ระยะเวลา 1,640 วัน 11,352.75 ล้านบาท 4.การจ้างก่อสร้างเส้นทางยกระดับ ช่วงท่าพระ-หลักสอง 10.5 กิโลเมตร สถานี ยกระดับ 7 แห่ง ศูนย์ซ่อมบำรุง 1 ศูนย์ อาคารจอดแล้วจร 2 หลัง 1,640 วัน 13,390.34 ล้านบาท 5.การจ้างออกแบบควบคู่การก่อสร้างระบบรางรถไฟฟ้าทั้ง 70 กิโลเมตร 1,890 วัน 5,153.94 ล้านบาท

ซึ่งโครงการนี้ รฟม.ใช้เงินกู้ในประเทศ ขั้นตอนต่าง ๆ จะรวดเร็วไม่ใช้เวลานานเหมือนสายสีม่วงที่ต้องรอการอนุมัติจาก ไจก้า จะได้ตัวผู้รับเหมาเร็วขึ้น คาดว่าเซ็นสัญญาได้เดือนตุลาคม 2553 เริ่มก่อสร้างพฤศจิกายน 2553 จะแล้วเสร็จเปิดบริการได้เดือนกุมภาพันธ์ 2559

แบริ่งประมูลกลางปี-สะพานใหม่สิ้นปี

ด้านส่วนต่อขยายสีเขียว 2 ช่วง วงเงินลงทุนกว่า 6 หมื่นล้าน เลื่อนไปจากแผนเดิม 8 เดือน โดยช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ หลังกรุงเทพมหานคร (กทม.) ไม่ยอมให้ใช้พื้นที่เขตบางเขน และเปลี่ยนแปลงที่ตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงจากฐานทัพอากาศดอนเมืองไปลำลูกกาคลองสอง ต้องปรับแบบใหม่ เลื่อนการเปิดประมูลจากกลางปีนี้เป็น ปลายปีแทน เริ่มก่อสร้างสิงหาคม 2554 เปิดบริการธันวาคม 2558

ส่วนช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ รฟม.กำลังจัดหาบริษัทที่ปรึกษาสำรวจเวนคืนที่ดิน เดือนเมษายนนี้น่าจะได้ตัวที่ปรึกษา จากนั้นเดือนมิถุนายนเปิดประมูล และเปิดบริการธันวาคม 2558

เร่งสปีด "สีชมพู" ให้เอกชนทำเทิร์นคีย์

ขณะที่ สายสีชมพู (แคราย-แจ้งวัฒนะ-มีนบุรี) 36 กิโลเมตร วงเงิน 38,730 ล้านบาท หลังศูนย์ราชการแห่งใหม่ แจ้งวัฒนะ เปิดให้บริการ รฟม.จะเลื่อนการก่อสร้างเร็วขึ้น จากเดิมในแผนแม่บทจะเปิดบริการปี 2562 โดยจะก่อสร้างเป็นระบบโมโนเรล

ขณะนี้มีแบบรายละเอียดเบื้องต้นแล้ว โดยบอร์ด รฟม.จะให้ก่อสร้างแบบเทิร์นคีย์ให้เอกชนออกแบบ ก่อสร้าง และจัดหาระบบเดินรถ โดยจะขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนเชิญชวนเอกชนลงทุนในรูปแบบการลงทุนแบบ PPP และพิจารณาข้อเสนอเอกชนตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมนาน พ.ศ. 2535 มาตรา 13 ปลายปีนี้

ลัดคิว "ม่วงส่วนใต้" รับรัฐสภาใหม่

เช่นเดียวกับ สายสีม่วง ช่วงใต้ "บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ" ที่ รฟม.เตรียมลัดคิวให้เร็วขึ้นจากในแผนแม่บทรถไฟฟ้า 12 สายเดิม เพื่อจะให้เปิดใช้บริการได้ ปี 2562 เพื่อรับกับรัฐสภาแห่งใหม่บริเวณเกียกกาย โดยจะจ้างบริษัทที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียดทั้งเส้นทาง 19.8 กิโลเมตร แต่จะก่อสร้างก่อนเฉพาะสถานีเกียกกายที่เชื่อมต่อจากสถานีเตาปูนประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ เนื่องจากเป็นงานมีทั้งใต้ดินและยกระดับทั้งสายต้องใช้เงินลงทุนกว่า 66,000 ล้านบาท แต่หากก่อสร้างสถานีเกียกกายสถานีเดียวเป็นใต้ดินค่าก่อสร้างอยู่ที่ 4,000-5,000 ล้านบาท

สีส้ม "ตลิ่งชัน-มีนบุรี" ยังไม่มีแผน

สุดท้ายสาย "สีส้ม" จาก "ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี" 37.5 กิโลเมตร เงินลงทุนกว่า 137,000 ล้านบาท แม้จะบรรจุในแผนแม่บทรถไฟฟ้า 10 ปี และมีกำหนดเปิดบริการปี 2562 แต่ รฟม.ยังไม่มีแผนเร่งดำเนินการ เพราะต้องรอให้คณะอนุกรรมการที่ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ชี้ขาดว่าการบริหารจัดการจะให้ รฟม.หรือ กทม.ดำเนินการภายใน 1 เดือน ตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรและขนส่ง (คจร.) ที่นายกฯ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เป็นประธานเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

แต่คลื่นลมการเมืองกำลังร้อนแผนงานต่าง ๆ จึงชะงักไปชั่วคราว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 29/03/2010 12:49 am    Post subject: Reply with quote

รฟม.ลุยรถไฟสีชมพู"นนท์-มีนบุรี"
หน้า เศรษฐกิจ
ไทยโพสต์ 27 มีนาคม 2553 - 00:00

รฟม.สนองนี้ด "อภิสิทธิ์" เร่งเครื่องรถไฟฟ้าสายสีชมพู 4 หมื่นล้านบาท วิ่งจากนนท์ ไปมีนบุรี รองรับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ คาดไม่เกิน 2 เดือนได้ที่ปรึกษาโครงการ

นายชูเกียรติ โพธยานุวัตร ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เห็นชอบให้ รฟม.ดำเนินการโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร ให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธาน ที่ได้เร่งรัดโครงการดังกล่าว เพื่อรองรับศูนย์ราชการถนนแจ้งวัฒนะ

โดย รฟม.จะทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อขอใช้งบประมาณในการว่าจ้างที่ปรึกษาทบทวนความเหมาะสม รวมทั้งออกแบบและจัดทำเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) เพื่อหาผู้ที่สนใจเข้าร่วมลงทุนกับโครงการ โดยคาดว่า 1-2 เดือนจะได้ที่ปรึกษาโครงการ

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี มีระยะทางรวม 34.5 กิโลเมตร รูปแบบโครงการเป็นโครงสร้างยกระดับทั้งหมด จำนวน 24 สถานี แนวเส้นทางเริ่มจากแยกแคราย ผ่านแยกปากเกร็ด วิ่งไปตามถนนแจ้งวัฒนะ ผ่านแยกหลักสี่ ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธินช่วงแยกหลักสี่ ไปตามถนนรามอินทราสิ้นสุดที่มีนบุรี

เบื้องต้น วงเงินค่างานโยธา 17,500 ล้านบาท ค่าเวนคืน 3,800 ล้านบาท ส่วนค่าบริหารจัดการเดินรถ การออกแบบ และค่าจ้างที่ปรึกษากำลังอยู่ในช่วงการพิจารณาของ รฟม. ซึ่งคาดว่ามูลค่าโครงการจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 ล้านบาท.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 16/04/2010 4:28 pm    Post subject: Reply with quote

สนข.เดินเครื่องสายสีชมพู ปิดทางล็อกสเปคเอื้อพวกพ้อง

โดย ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ 16 เมษายน 2553 13:56 น.


ในที่สุดสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ก็ตัดสินใจเลือกใช้ระบบรถไฟฟ้าขนาดเบา (โมโนเรล)ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแยกแคราย (ติวานนท์)-รามอินทรา-สุวินทวงศ์ ระยะทาง 34.5 กม. มีความเหมาะสมมากที่สุด เพราะเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบาวิ่งคร่อมบนรางเดี่ยว ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1ปีครึ่ง ค่าก่อสร้างประมาณ 1,300 ล้านบาทต่อกม. สามารถบรรจุผู้โดยสารเฉลี่ย 20,000 คนต่อชม.ต่อทิศทาง ที่สำคัญค่าก่อสร้างถูกกว่าระบบรถไฟฟ้าขนาดหลัก (เฮฟวี่ เรล) ที่รถไฟฟ้าขนาดหนักแบบรถไฟฟ้าใต้ดินหรือรถไฟฟ้าบีทีเอสก่อสร้าง และแม้ว่าจะขนส่งผู้โดยสารได้มากถึง 50,000 คนต่อชม.ต่อทิศทาง แต่ราคาค่าก่อสร้างแพงกว่า 3-4 เท่า และใช้ระยะเวลาก่อสร้างนานถึง 3-4 ปี

ทั้งนี้ หากก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูด้วยระบบโมโนเรลเส้นทางนี้เป็นเส้นทางแรกในประเทศที่ใช้ระบบดังกล่าว และเพื่อความโปร่งใสในการประกวดราคา สนข.จึงเสนอให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กำหนดให้เอกชนที่สนใจเข้าประมูลเสนอแบบรายละเอียดการก่อสร้างมาพร้อมๆกัน เพื่อความรวดเร็วในการก่อสร้างและเป็นธรรม ทั้งนี้ เนื่องจากว่า มีเอกชนที่มีประสบการณ์ในการก่อสร้างระบบดังกล่าวหลายราย ดังนั้นหากสนข.กำหนดแบบรายละเอียดเอง อาจถูกมองว่าเป็นการล็อกสเปกให้กับรายใดรายหนึ่งได้

โดยเห็นได้จากโครงการในอดีตที่ถูกเอกชนหรือผู้รับเหมาออกมาโวยเรื่องการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใดรายหนึ่ง หรือให้กับบริษัทต่างชาติ เช่น โครงการประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า จำนวน308 คัน มูลค่า1,700 ล้านบาท ที่เอกชนหลายรายรวมตัวกันประท้วงรฟท.ว่ามีการกำหนดสเปกเพื่อเปิดทางให้กับผู้รับเหมาต่างชาติบางรายให้ชนะการประมูล หรือแม้แต่โครงการวางท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินภายในสนามบินสุวรรณภูมิที่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมถูกกล่าวหาว่าล็อกสเปก กำหนดคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน เป็นต้น

สร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสนข. กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูว่า เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูก่อสร้างแบบโมโนเรล ดังนั้น รูปแบบก่อสร้างจึงต้องเปิดกว้างให้เอกชน เพราะระบบรถไฟฟ้าแบบโมโนเรลในเส้นทางดังกล่าวถือว่าพิเศษกว่าเส้นทางอื่น เพราะหาก รฟม.กำหนดแบบรายละเอียดเองอาจถูกมองว่าเป็นการล็อกสเปกให้กับเอกชนรายใดรายหนึ่ง และเพื่อความโปร่งใสในการประกวดราคาสนข.จึงมีแนวคิดที่จะให้เอกชนที่สนใจเข้าร่วมประมูลเสนอแบบรายละเอียดมาพร้อมๆกัน ซึ่งหากแบบของเอกชนรายใดน่าสนใจ รฟม.ก็จะคัดเลือกแบบนั้น เพราะในตลาดเอกชนที่มีประสบการณ์ในการทำรางแบบโมโนเรล 4-5 ราย

“วิธีการดังกล่าวจะเป็นการหลีกเลี่ยงข้อครหาว่ารฟม.ล็อกสเปกให้เอกชนรายใดรายหนึ่ง อีกทั้งหากให้เอกชนออกแบบมาพร้อมกับยื่นซองประกวดราคา คาดว่าจะทำให้โครงการมีความรวดเร็วขึ้น ดังนั้นสนข.มีแนวคิดที่จะเปิดประมูลในลักษณะการประกวดราคาแบบเบ็ดเสร็จหรือดีไซน์ แอนด์ บิวท์ เพราะหากรัฐบาลเป็นผู้ออกแบบดีไซน์เองคาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 ปี ในการดำเนินการ ซึ่งอาจทำให้โครงการมีความล่าช้าและเข้าข่ายล็อกสเปกได้ ดังนั้น หากให้เอกชนที่เข้าเสนอประมูลเสนอแบบเบ็ดเสร็จจะเร็วกว่า และเป็นธรรมแก่ผู้เข้าประมูล” สร้อยทิพย์กล่าว

โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู นับว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนในการก่อสร้าง เพราะศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งจะรองรับการเดินทางของประชาชนจำนวนมากประมาณ 35,000 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าภายใน 6 เดือนจากนี้ จะนำเสนอให้ครม.อนุมัติได้ไม่เกินปลายปีนี้

สำหรับแนวเส้นทางเป็นโครงสร้างยกระดับตลอด จุดต้นทางเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ บริเวณสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เลี้ยวซ้ายผ่านทางแยกแครายเข้าสู่ถนนติวานนท์ จากนั้นวิ่งไปตามเกาะกลางถนนติวานนท์จนถึงห้าแยกปากเกร็ด เลี้ยวขวาเข้าถนนแจ้งวัฒนะผ่านทางด่วนขั้นที่ 2 ไปเชื่อมต่อกับระบบรถไฟสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต ที่แยกหลักสี่บนถนนวิภาวดีรังสิต และเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ บนถนนพหลโยธิน บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้มที่บริเวณมีนบุรี จากนั้นจะวิ่งไปบนถนนรามอินทราจนถึงทางแยกมีนบุรี แล้ววิ่งเข้าสู่เมืองมีนบุรี ตามแนวถนนสีหบุรานุกิจ จนถึงสะพานข้ามคลองสามวาเลี้ยวขวาข้ามคลองแสนแสบและข้ามถนนรามคำแหง หรือสุขาภิบาล 3 สิ้นสุดสถานีปลายทางที่บริเวณใกล้แยกถนนรามคำแหง-ร่มเกล้า ซึ่งจะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลในอนาคต

โดยมีสถานี 24 สถานี ประกอบด้วย

1. สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี อยู่บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี,
2. สถานีแคราย อยู่บนถนนติวานนท์ใกล้ห้างเทสโก้ โลตัส และโรงพยาบาลทรวงอก,
3. สถานีสนามบินน้ำ อยู่ใกล้กับทางแยกสนามบินน้ำ,
4. สถานีสามัคคี ใกล้แยกถนนสามัคคี,
5. สถานีชลประทาน ใกล้โรงพยาบาลชลประทาน และวัดชลประทานรังสฤษฏ์
6. สถานีปากเกร็ด อยู่ระหว่างห้าแยกปากเกร็ดกับห้างคาร์ฟูร์ แจ้งวัฒนะ ,
7. สถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ใกล้ทางแยกถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ดตัดกับถนนแจ้งวัฒนะ
8. สถานีเมืองทอง ใกล้กับถนนเข้าเมืองทองธานี และสะพานข้ามแยกเมืองทองธานี ,
9. สถานีทางด่วนศรีรัช ใกล้ทางด่วนศรีรัช,
10. สถานีมงกุฎวัฒนะ ใกล้กับโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และห้างบิ๊กซี แจ้งวัฒนะ
11. สถานีศูนย์ราชการ ใกล้กรมการกงสุล ,
12. สถานีหลักสี่ ใกล้แยกหลักสี่ ,
13. สถานีราชภัฏพระนคร ใกล้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ,
14. สถานีอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ อยู่บนถนนรามอินทรา กม. 1 ใกล้กับวงเวียน ,
15. สถานีลาดปลาเค้า ใกล้แยกลาดปลาเค้า,
16. สถานีเคหะรามอินทรา อยู่ด้านหน้าทางเข้าการเคหะรามอินทรา กม. 4,
17. สถานีวัชรพล ใกล้ซอยวัชรพล
18. สถานีนวมินทร์ บริเวณแยกนวมินทร์ หรือรามอินทรา กม.8 ,
19. สถานีคันนายาว อยู่หน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ,
20. สถานีสวนสยาม อยู่หน้าโรงพยาบาลนพรัตน์ธานี ,
21. สถานีบางชัน ใกล้ซอยรามอินทรา 109 ,
22. สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ อยู่หน้าโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ,
23. สถานีสีหบุรานุกิจ ใกล้ตลาดมีนบุรี และ
24. สถานีมีนบุรี อยู่ถนนรามคำแหงใกล้ทางแยกร่มเกล้า

โดยตามแผนแม่บทนั้นโครงการนี้จะต้องก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2557-2559

โดยโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีระยะทาง 34.5 กม. จะใช้เงินลงทุน 37,110 ล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 17,090 ล้านบาท งานไฟฟ้าและเครื่องกล 7,855 ล้านบาท งานจัดหาขบวนรถ 6,770 ล้านบาท งานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และออกแบบรายละเอียด 4,580 ล้านบท และงานจ้างที่ปรึกษา 815 ล้านบาท โดยโครงการนี้มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 34.75% และจะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นวันละ 1.95 แสนคนในปี 2559

ส่วนพื้นที่ถูกเวนคืน จากการสำรวจของบริษัทที่ปรึกษา พบว่าตลอดแนวเส้นทางมีพื้นที่ถูกเวนคืน 506 หลังคาเรือน ที่ดิน 180 ไร่ ค่าเวนคืนรวม 5,810 ล้านบาท โดยบริเวณที่ต้องเวนคืนส่วนใหญ่เป็นจุดขึ้น-ลงสถานีและจุดเลี้ยวโค้ง เช่น แยกแคราย แยกอนุสาวรีย์ชัยหลักสี่ แยกมีนบุรี ศูนย์ซ่อมบำรุงที่แยกร่มเกล้า โรงจอดพักรถที่แยกสนามบินน้ำ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 20/04/2010 12:31 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคมดันเมกะโปรเจกต์แสนล.
ยื่นซองสายแรกสีน้ำเงิน29เม.ย.นี้

ข่าวปก สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1091 ประจำวันที่ 17-20 เมษายน 2553

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการต่างๆ ในสังกัดกระทรวงคมนาคมยังมีอีกหลายโครงการที่ต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้การใช้งบประมาณ เป็นไปตามแผนที่วางไว้อย่าง เคร่งครัด และเพื่อไม่ให้โครงการเกิดความล่าช้าออกไป ประชาชนได้ใช้ประโยชน์เต็มที่

สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน มูลค่าโครงการกว่า 5.2 หมื่นล้านบาท ขณะนี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อยู่ระหว่างการประกวดราคาหาผู้รับเหมา ซึ่งที่ผ่านมา รฟม.ได้ขายเอกสารประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานโยธาไปแล้วเมื่อวันที่ 20-28 มกราคม 2553 มีผู้มาซื้อเอกสารรวมทั้งสิ้น 25 ราย และกำหนดยื่นข้อเสนอทั้ง 5 สัญญาในวันที่ 29 เมษายนนี้ โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในเดือนพฤศจิกายน 2553 และกำหนดแล้วเสร็จในปี 2559

ทั้งนี้ 5 สัญญาดังกล่าว ประกอบด้วย สัญญา

1 งานก่อสร้างเส้นทางใต้ดิน ช่วงหัวลำโพง-สนามไชย ระยะทาง 2.8 กม. ราคากลาง 11,592.99 ล้านบาท
2. สัญญา 2 งานก่อสร้างเส้นทางใต้ดิน ช่วงสนามไชย-ท่าพระ ระยะทาง 2.6 กม. ราคากลาง 10,766.60 ล้านบาท
3. สัญญา 3 งานก่อสร้าง เส้นทางยกระดับ ช่วงเตาปูน-ท่าพระ ระยะทาง 11 กม. ราคากลาง 11,352.75 ล้านบาท
4. สัญญา 4 งานก่อสร้างเส้นทางยกระดับ ช่วงท่าพระ-หลักสอง ระยะทาง 10.5 กม. พร้อมศูนย์ซ่อมบำรุง ราคากลาง 13,390.34 ล้านบาท และ
5. สัญญา 5 งานก่อสร้างระบบราง ระยะทาง 70 กม. ราคากลาง 5,153.94 ล้านบาท

ส่วนรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) นั้น ในส่วนของการขายเอกสารประกวดราคา งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ไจก้ากำหนดให้ประกวดราคาเสนอค่าก่อสร้างในสกุลเงินต่างประเทศ เนื่องจากเป็นงานที่บริษัทต่างชาติเข้าประกวดราคา ซึ่งกระทรวงคมนาคม ไม่เห็นด้วย เพราะไม่สามารถสรุปยอดวงเงิน ค่าก่อสร้างเป็นเงินบาทได้ และยังไม่มีโครงการใดเปิดประกวดราคาเป็นเงินสกุลอื่น หาก ไจก้าไม่ยินยอมเปลี่ยนเงื่อนไข สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 23, 24, 25 ... 299, 300, 301  Next
Page 24 of 301

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©