Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312065
ทั่วไป:13668524
ทั้งหมด:13980589
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 81, 82, 83 ... 489, 490, 491  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44036
Location: NECTEC

PostPosted: 01/02/2010 12:04 pm    Post subject: Reply with quote

“คมนาคม”เร่งแผน“รถไฟรางคู่”แสนล้าน ประเดิมเชื่อม“กทม.-โคราช-ขก.” 317 กม.

โดย ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ 1 กุมภาพันธ์ 2553 10:47 น.

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่โรงแรมราชพฤกษ์แกรนด์โฮเทล อ.เมือง จ.นครราชสีมา สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม นำโดย นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการสนข. และบริษัทที่ปรึกษา ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเชิงพื้นที่ (ภาคอีสาน) ในการจัดทำ “แผนแม่บทเพื่อพัฒนาระบบรางและรถไฟความเร็วสูง” โดยมีตัวแทนหน่วยงานรัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชน ใน จ.นครราชสีมา สระบุรี ขอนแก่น และหนองคาย เข้าร่วมกว่า 100 คน

ทั้งนี้เพื่อนำเสนอผลการศึกษาเบื้องต้นแผนแม่บทเพื่อพัฒนาระบบรางและรถไฟความเร็วสูง และรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และสะท้อนความต้องการของภูมิภาคอีสาน ต่อแผนแม่บทฯ ดังกล่าว

นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการ สนข. เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม โดย สนข. ศึกษารายละเอียดแนวทางการพัฒนาและแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อให้การเดินรถมีความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดและปลอดภัย รวมทั้งศึกษาความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและระบบรถไฟความเร็วสูง ซึ่งปัจจุบันมีการขนส่งสินค้าการเกษตรจากภาคอีสานไปยังภาคตะวันออกที่ท่าเรือแหลมฉบังเป็นจำนวนมาก หากได้รับการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและเป็นทางคู่ จะช่วยเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าได้มากขึ้น

การพัฒนาดังกล่าวนี้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ จ.นครราชสีมา 2 ด้าน คือ การเสริมสร้างขีดความสามารถของจังหวัดในการเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าเกษตร – อุตสาหกรรม และเสริมสร้างศักยภาพเพื่อพัฒนาไปสู่ความเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภาคอีสาน

นายประณต กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 พ.ย. 2552 มีมติรับทราบและเห็นชอบในหลักการพัฒนาระบบขนส่งทางรถไฟ และแนวทางการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยในด้านโครงสร้างพื้นฐานมีแนวทางการพัฒนา คือ “บูรณะทางเดิม เพิ่มเติมหัวรถจักร ขยายโครงข่าย เพิ่มสายทางคู่ มุ่งสู่ไฮสปีด”

สำหรับการพัฒนาแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วนระหว่างปี 2553-2557 ประกอบด้วย การปรับปรุงทางเก่าที่ไม่มั่นคงแข็งแรง ,ปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม, ปรับปรุงจุดตัดทางรถไฟกับถนน ,พัฒนาระบบรถไฟฟ้าสำหรับรถไฟทางไกล การปรับปรุงย่านสถานี จัดหาหัวรถจัก ตู้รถไฟ แคร่รถไฟเพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นใช้งบประมาณ 60,000 กว่าล้านบาท และ ระยะที่ 2 คือ ระยะยาวระหว่างปี 2558-2567 รวม 15 ปี

ประเดิมรางคู่เร่งด่วน 5 สาย 1 แสนล้าน

ส่วนการเพิ่มทางคู่ ขนาดความกว้างของราง 1 เมตร แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ 5 ปี , 10 ปี และ 15 ปี โดยในระยะแรกเป็นระยะเร่งด่วน ระหว่างปี 2553-2557 ก่อสร้างทางคู่ใน 5 เส้นทาง ประกอบด้วย

1. ลพบุรี-ปากน้ำโพธิ์ ระยะทาง 118 กิโลเมตร
2. มาบกะเบา จ.สระบุรี -ชุมทางจิระ จ.นครราชสีมา ระยะทาง 132 กิโลเมตร
3.ชุมทางจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร
4. นครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร และ
5. ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม.
รวมระยะทาง 767 กิโลเมตร ใช้งบประมาณก่อสร้าง 110,114 ล้านบาท

การก่อสร้างทางคู่ในระยะที่ 2 ระหว่างปี 2558-2562 ประกอบด้วย

1. แก่งคอย-ลำนารายณ์-บัวใหญ่ ระยะทาง 220 กิโลเมตร (30 กิโลเมตร ช่วงแก่งเสือเต้น - โคกสลุง - สุรนารายณ์งดไว้เพราะ ต้องตอกหลัก สะพานเขื่อนป่าสักซึ่งทำยาก),
2.ชุมทางจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 309 กม.,
3.ขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 172 กม.,
4. ปากน้ำโพ-ตะพานหิน ระยะทาง 69 กม.,
5.หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 89 กม. และ
6.ชุมพร-สุราษฏร์ธานี 166 กม.
รวมระยะทาง 1,025 กม.

การก่อสร้างทางคู่ในระยะที่ 3 ระหว่างปี 2563-2567 ประกอบด้วย

1. ตะพานหิน-เชียงใหม่ ระยะทาง 427 กม.,
2.สุราษฏร์ธานี -ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 339 กม.,
3.คลองสิบเก้า-กบินทร์บุรี ระยะทาง 76 กม.,
4.หาดใหญ่-สุไหงโกลก ระยะทาง 214 กม. (งดทำทางคู่ไปถึงเขตแดน) ,
5.ทุ่งสง-กันตัง ระยะทาง 93 กม. และ
6.กบินทร์บุรี-คลองลึก ระยะทาง 98
รวมระยะทาง 1,247 กม. รวมระยะทางทั้ง 3 ระยะทั้งสิ้น 3,039 กม.

นายประณต กล่าวอีกว่า กระทรวงคมนาคมได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา 5 บริษัท กว่า 20 ล้านบาท มีระยะการดำเนินงาน เม.ย.52- ก.พ. 53 ในการศึกษาแผนแม่บทเพื่อพัฒนาระบบรางและรถไฟความเร็วสูง มีเป้าหมายรองรับโครงสร้างพื้นฐานระบบรางและระบบรถไฟความเร็วสูง ที่มีการบริหารจัดการเดินรถและเทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถบูรณาการการขนส่งระบบรางกับรูปแบบการขนส่งอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาระบบรางและรถไฟความเร็วสูง เพื่อใช้ในกระบวนการตัดสินใจสำหรับแก้ไขอุปสรรคในการเดินรถ ความน่าเชื่อถือของตารางเดินรถและคุณภาพให้บริการ

“หลังรับฟังความเห็นที่ จ.นครราชสีมาแล้ว จะเปิดรับฟังความเห็นที่กรุงเทพฯ เป็นแห่งสุดท้าย ก่อนนำเสนอแผนฉบับสมบูรณ์ให้กระทรวงคมนาคมต่อไป” นายประณต กล่าว

เชื่อมอีสานกทม.-โคราช-ขก. 317 กม.

ด้าน นายกวีรัตน์ ดีประเสริฐวงศ์ วิศวกรอาวุโส บริษัท เอพซิลอน จำกัด ผู้จัดการโครงการฯ กล่าวว่า จากการศึกษารถไฟเส้นทางคู่ สายอีสาน

ระยะที่ 1 เริ่มจาก มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ จ.นครราชสีมา -ขอนแก่น รวมระยะทาง 317 กม. พบว่า มีข้อจำกัดในเรื่องความคดเคี้ยวและลาดชันของเส้นทางช่วงมาบกะเบาถึงลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา (แก่งคอย - ปากช่อง -> ดงพระยาเย็น) และผลกระทบต่อถนนท้องถิ่นที่ล้ำเข้ามาในเขตทางรถไฟ ส่วนผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมนั้นมีไม่มาก เพราะเส้นทางส่วนใหญ่สามารถก่อสร้างอยู่ในแนวเขตทางเดิม และไม่ติดขัดปัญหาข้อจำกัดสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่มีเส้นทางใดตัดผ่านพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ

สำหรับมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจของผลประโยชน์ที่ได้รับ คือ ประหยัดค่าใช้จ่ายยานพาหนะ , ประหยัดเวลาในการเดินทาง และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

ไฮสปีดกทม.-โคราช ผลาญงบ 3.3-9.4 หมื่นล.

นายกวีรัตน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จากการศึกษายังพบว่า ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 259 กม. หากใช้ความเร็วในการเดินรถไฟที่ 120 กม./ชม. ในทางคู่ขนาดความกว้างของราง 1 เมตร ต้องใช้งบประมาณการลงทุนรวมขบวนรถกว่า 3.3 หมื่นล้าน ใช้เวลาในการเดินทาง 2.70 ชม. อัตราค่าโดยสาร 311 บาท คาดว่าจะมีผู้โดยสารขึ้นลงทุกสถานีประมาณ 1.2 หมื่นคน/วัน

แต่หากวิ่งความเร็วที่ 160 กม./ ชม. ต้องใช้งบประมาณลงทุนรวมขบวนรถกว่า 5.8 หมื่นล้านบาท ใช้เวลาในการเดินทาง 2.02 ชม. อัตราค่าโดยสาร 337 บาท คาดว่าจะมีผู้โดยสารขึ้นลงทุกสถานีประมาณ 2.3 หมื่นคน/วัน ทางคู่ดังกล่าวสามารถเชื่อมโยงไปยังเส้นทางอื่น ๆได้ทั่วประเทศ ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อการขนส่งสินค้าของไทย (Logistic)

นอกจากนี้หาก วิ่งที่ความเร็ว 160 กม. /ชม. เช่นกัน แต่เป็นรถความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)ที่ใช้ทางพิเศษ หมายถึงต้องก่อสร้างรางรถไฟใหม่ทั้งหมดเป็นขนาดความกว้าง 1.435 เมตร ขึ้นมารองรับ ใช้งบประมาณลงทุนรวมขบวนรถเพิ่มมากขึ้นเป็นกว่า 8.6 หมื่นล้านบาท ใช้เวลาในการเดินทาง 2.02 ชม. อัตราค่าโดยสาร 389 บาท คาดว่าจะมีผู้โดยสารขึ้นลงทุกสถานีประมาณ 9.3 พันคน/วัน

หากวิ่งที่ความเร็ว 250 กม./ชม. ในเส้นทางพิเศษนี้ ต้องใช้งบประมาณในการลงทุนรวมขบวนรถกว่า 9.4 หมื่นล้าน ใช้เวลาในการเดินทาง 1.30 ชม. อัตราค่าโดยสาร 414 บาท คาดว่าจะมีผู้โดยสารขึ้นลงทุนสถานี 2.4 หมื่นคน/วัน

//-----------------------------------------------------------------------------------

ถ้า STECON & ช. การช่าง ได้เค้กก้อนใหญ่นี้ งานนี้ ได้ทั้งเงิน จากโครงการ และ ได้คะแนนเสียงภาคอีสานอีกจมหูเลยเทียว และ อาจจะดองโครงการ มอเตอร์เวย์อื้อฉาวได้ เพื่อแลกกับคะแนนเสียงในการเลือกตั้งสมัยหน้า เป็นแน่
Back to top
View user's profile Send private message
kikoo
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 01/02/2010
Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง

PostPosted: 03/02/2010 2:09 pm    Post subject: Re: CY ที่กันตัง Reply with quote

Wisarut wrote:
กันตังพัฒนาสถานีรถไฟอันดามัน

ข่าวสดรายวัน ปีที่ 19 ฉบับที่ 6989 วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553

ตรัง - นายสมเกียรติ ภาษีทวีเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองกันตัง เปิดเผยว่า กันตังเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดตรังที่มีศักยภาพหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการประมง การส่งออกและการท่องเที่ยว ถือเป็นเขตปกครองที่มีแผนพัฒนาศักยภาพเมืองให้มีความเจริญ เนื่องจากเป็นเมืองประวัติศาสตร์การค้าทางทะเลฝั่งอันดามัน อีกทั้งมีสถานีรถไฟจากกรุงเทพฯ มาถึงกันตังโดยตรง รู้จักกันดีในวงการท่องเที่ยวว่ารถไฟสุดสายอันดามัน

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ถึงวันนี้ตนในฐานะผู้บริหารท้องถิ่นจึงมีแนวคิดจะพัฒนาสถานีรถไฟกันตังสุดสายทะเลฝั่งอันดามัน ซึ่งขึ้นทะเบียนกับศิลปากรที่ 18 ภูเก็ต เมื่อปี 2539 โดยจะปรับปรุงตัวอาคารสถานีเนื้อที่ 1.5 ไร่ ให้กรมศิลปากรเป็นผู้ปรับปรุงด้วยการทาสีใหม่ ส่วนพื้นที่ 20 ไร่ บริเวณโดยรอบสถานีทางเทศบาลจะเข้าไปปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ

"นอกจากนี้ ยังจัดแบ่งพื้นที่วางกองตู้คอน เทนเนอร์สินค้า โดยอาศัยขบวนรถไฟชักลากเพื่อสร้างรายได้ให้กับการรถไฟเอง ซึ่งจะมีการปรับปรุงระบบรางรถไฟจากสถานีตรัง-กันตัง เพื่อสร้างความเจริญให้กับท้องถิ่นด้วยการวางตู้คอนเทนเนอร์ระบบซีไวน์ ทั้งนี้ นอกจากจะสร้างรายได้ให้กับการรถไฟฯแล้วยังสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นอีกด้วย" นายสมเกียรติ กล่าว

//----------------------------------------------

หวังใจว่า จะเอา ราง 70 ปอนด์ หมอนคอนกรีต ที่ ลิจาก ทางช่วงหัวหิน - ทุ่งสง มาเปลี่ยนกับราง 50-60 ปอนด์ ได้แล้ว


ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ไปกันตังคงไม่ต้องเบาทาง(30กม./ชม.)แบบตลอดทางเลยสินะ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44036
Location: NECTEC

PostPosted: 04/02/2010 9:00 pm    Post subject: Reply with quote

^^^
ขอให้มีหัวรถจักรลากรถสินค้าถึงกันตังก่อนเถอะ - หลังจากเอารางและ หินและ หมอนคอนกรีตมาเปลี่ยน
//------------------------------------------------------------------------
ชงครม.เพิ่มวงเงินปฏิรูปรถไฟ 1.6 แสนล้าน
หน้าธุรกิจ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553 01:00
เพิ่มรถไฟทางคู่1.1หมื่นล. เส้นทางแปดริ้ว-แก่งคอย
ข่าวไอที แนวหน้า วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553 01:00

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังการประชุมจัดทำแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ระยะเร่งด่วน วานนี้ (3 ก.พ.) ว่า ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอให้กระทรวงคมนาคมบรรจุโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทาง ชุมทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กม. มูลค่า 11,348.3 ล้านบาท ไว้ในแผนปฏิรูปกิจการ ร.ฟ.ท. วงเงิน 153,052 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2552 ดังนั้น กระทรวงคมนาคมจึงต้องเสนอ ครม.ขออนุมัติขยายกรอบวงเงิน

โดย สศช.ต้องการให้โครงการก่อสร้างของ ร.ฟ.ท.รวมเป็นภาพใหญ่ จากเดิม ร.ฟ.ท.มีแผนก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางฉะเชิงเทรา-แก่งคอย-คลองสิบเก้าอยู่แล้ว ซึ่งหากนำโครงการดังกล่าวบรรจุไว้ในแผนปฏิรูปกิจการ ร.ฟ.ท. จะทำให้สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติได้ภายในเดือน ก.พ.นี้

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจะสรุปการดำเนินงานภายใต้แผนปฏิรูปกิจการ ร.ฟ.ท. โดยจัดลำดับความสำคัญรายโครงการ และแบ่งระยะเวลาดำเนินการ ซึ่งระยะแรก คือ โครงการซ่อมบำรุงหัวรถจักร จำนวน 56 คัน ซึ่งจะใช้เวลาดำเนินการ 15 เดือน และโครงการจัดซื้อหัวรถจักรใหม่ จำนวน 21 คัน มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท โครงการปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณไฟสี ทั่วประเทศ จำนวน 223 สถานี และโครงการปรับปรุงจุดตัดทางรถไฟทั่วประเทศ กว่า 2,000 จุด

"กระทรวงคมนาคมได้สั่งให้ ร.ฟ.ท.จัดเตรียมรายละเอียดโครงการต่างๆ โดยเฉพาะการซ่อมบำรุงหัวรถจักร เพื่อดำเนินการได้ทันที หลังได้รับอนุมัติจาก ครม. และจัดทำตัวชี้วัดในแต่ละโครงการด้วย แต่ในส่วนของโครงการด้านความปลอดภัยจะมีตัวชี้วัด ที่ไม่เกี่ยวกับผลตอบแทนการลงทุนจากโครงการ ส่วนโครงการอื่นๆ จะดูจากผลตอบแทน และความคุ้มค่าการลงทุนเป็นหลัก" นายสุพจน์ กล่าว

ทั้งนี้เดิมรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วนมี 767 กิโลเมตร จำนวน 5 เส้นทาง วงเงินรวม 66,110 ล้านบาท แต่ในการประชุมฯครั้งนี้ทาง สำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เสนอให้ร.ฟ.ท.บรรจุทางคู่สายฉะเชิงเทรา-แก่งคอย-คลองสิบเก้า เข้าไปในแผนด้วย เพื่อให้ครบโครงข่าย ซึ่งจะทำให้วงเงินของแผนดังกล่าวปรับเพิ่มขึ้น หลังจากที่ประชุมฯได้เห็นชอบแล้ว ขั้นตอนต่อไป สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรจะรวบรวมรายละเอียดก่อนเสนอไปยังครม.เพื่อเห็นชอบ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ นี้

สำหรับงานพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วนมี 767 กิโลเมตร จำนวน 5 เส้นทาง วงเงินรวม 66,110 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กิโลเมตร วงเงิน 7,860 ล้านบาท
2.สายมาบกระเบา-นครราชสีมา ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 11,640 ล้านบาท
3.สายชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร วงเงิน 13,010 ล้านบาท
4.สายนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงิน 16,600 ล้านบาท และ
5.สายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 17,000 ล้านบาท

ขณะที่การดำเนินงานระยะที่ 2 ตั้งแต่ปี 2554-2555 จะประกอบด้วย โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ ระยะทาง 2,800 กม. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางราง และเพิ่มโครงข่ายการขนส่งระหว่างภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งโครงการจัดระบบโลจิสติกส์ โดยกำหนดจุดขนถ่ายสินค้าทั่วประเทศ เพื่อจัดตั้งสถานีขนส่งสินค้า โดยมีระบบราง ถนน และท่าเรือรองรับสินค้าเหล่านี้

ส่วนการดำเนินงานระยะที่ 3 ตั้งแต่ปี 2555-2556 ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง อาทิเช่น กรุงเทพฯ-ระยอง รวมทั้งโครงการก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน อาทิเช่น โครงการก่อสร้างทางรถไฟเส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เส้นทางปอยเปต-ศรีโสภณ

//------------------------------------------------------------------------
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47404
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/02/2010 4:30 pm    Post subject: Reply with quote

กรมพินิจฯ-รฟท.พาเด็กดีในสถานพินิจฯ เที่ยวรถไฟวันวาเลนไทน์

กระทรวง ยุติธรรม 10 ก.พ. 53- นายธวัชชัย ไทยเขียว อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนพร้อมด้วยนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แถลงข่าวโครงการ “พาน้องนั่งรถไฟปีที่ 7”



โดยนายธวัชชัย กล่าวว่า ปีนี้กรมพินิจฯ จัดกิจกรรมนำเยาวชนที่อยู่ในความดูแลของกรมพินิจฯ จำนวน 60 คน ซึ่งผ่านการคัดเลือกเฉพาะเด็กและเยาวชนที่มีความประพฤติดีจากศูนย์ฝึกและ อบรมเด็กและเยาวชนในส่วนกลาง 6 แห่ง แห่งละ 10 คน นั่งรถไฟไปทัศนศึกษาที่จังหวัดเพชรบุรี ระหว่างวันที่ 13-14 ก.พ. นี้ ซึ่งเป็นช่วงวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก ที่สังคมได้มีโอกาสให้ความรักกับเด็กในสถานพินิจฯ อีกรูปแบบหนึ่งเพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ผ่อนคลายความเครียดถือเป็นรางวัลของ เด็กที่ประพฤติดี ที่สำคัญเด็กหลายคนยังไม่เคยนั่งรถไฟเลย

ขณะที่ นายยุทธนา กล่าวว่า รฟท. มีนโยบายที่จะเพิ่มจำนวนการจัดกิจกรรมพาน้องนั่งรถไฟให้มีมากกว่าหนึ่งครั้ง ต่อปี เพื่อเป็นกำลังใจให้เด็กทำความดี นอกจากนี้ เครือข่ายรถไฟในความดูแลของ รฟท.โครงการใหม่ คือ แอร์พอร์ตลิงค์ก็จะเปิดโอกาสให้สถานพินิจฯ พิจารณาคัดเลือกเด็กและเยาวชนที่ประพฤติดีประมาณ 200 คน ได้สัมผัสและทัศนศึกษาเส้นทางแอร์พอร์ตลิงค์ ซึ่งเป็นเส้นทางใหม่ด้วย. -สำนักข่าวไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47404
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/02/2010 11:45 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟปัดฝุ่น โครงการรถไฟเชื่อมเพื่อนบ้านกว่าแสนล้าน คาดเสร็จในปี 57-58

ย้ายที่ตามคำแนะนำของคุณวิศรุตครับ Very Happy
|
|
V


Last edited by Mongwin on 18/02/2010 8:50 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44036
Location: NECTEC

PostPosted: 18/02/2010 4:52 pm    Post subject: Reply with quote

^^^
อาจารย์เอกครับบังเอิญ ข่าวชิ้นที่อาจารย์โพสต์ก่อนผม มันน่าจะอยู่หัวเรื่อง ทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย ตามที่ผมรวบรวมข่าวมาโพสต์ตามหัวข้อต่อไปนี้ครับ:

http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=167391
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44036
Location: NECTEC

PostPosted: 19/02/2010 11:01 am    Post subject: Reply with quote

“สามสี” มองข้ามช็อตรัฐนาวามาร์คอยู่รอด 2 ปี ฝันรถไฟรางคู่สายแรก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 กุมภาพันธ์ 2553 18:40 น.

วันนี้ (18 ก.พ.) นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังคณะที่ปรึกษาเข้าพบที่ห้องทำงาน ภายในตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 ก.พ.ว่า ขอยืนยันว่า ทีมที่ปรึกษาฯทุกคนที่เลือกมานั้นเป็นคนดี ไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์ และยังจะมีผู้เข้ามาช่วยในทีมที่ปรึกษาอีกประมาณ 40-50 คน เช่น นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล นายนิพนธ์ พัวพงศกร นายอัมมาร สยามวาลา โดยหลังจากมีการแบ่งกลุ่มเพื่อประชุมและเชิญมาให้ความเห็น

นายไตรรงค์กล่าวว่า ได้อธิบายนโยบายต่างๆ ให้ที่ปรึกษารับทราบความต้องการ เช่น นโยบายผลิตน้ำมันดีเซลจากเอทานอล เพื่อชดเชยความต้องการ (ดีมานด์) ใช้น้ำมัน ตั้งเป้าว่าภายใน 30 ปีน่าจะชดเชยได้อย่างน้อย 25-30% โดยต้องดูความต้องการของประชาชนในปัจจุบัน แต่จะต้องทำทั้งสองด้าน เพราะด้านการผลิต (ซัปพลาย) ก็ต้องเอา ไม่ว่าจะเป็นด้านเอทานอล ก็คือเอามันสำปะหลัง ชานอ้อย มาแปรสภาพ และก็ดีเซลเอาน้ำมันปาล์มมา ก็ต้องไปดูความต้องการว่าจะต้องทำอย่างไรให้มีการผลิตเอทานอลมากขึ้น แต่ดูด้านเดียวไม่ได้นะ ต้องดูด้านดีมานต์ เพราะถ้าผลิตมาแล้วคนไทยไม่ใช้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ผมต้องตั้งนักกฎหมายและทีมงานขึ้นมา ให้ไปตรวจดูว่า จะสร้างแรงจูงใจขึ้นมาอย่างไร

ทั้งนี้ ตัวอย่างในประเทศสวีเดน หากใครใช้น้ำมันประเภทเอทานอล หากจอดทิ้งไว้ในที่จอดรถ รัฐก็มีแรงจูงใจคือไม่ต้องจ่ายเงิน ดังนั้นเราต้องไปดูกฎหมายส่งเสริมการลงทุน (บีไอโอ) ว่าจะส่งเสริมการลงทุนอย่างไรได้บ้าง รัฐบาลต้องดูแลอย่างไร ด้านราคา ดูอย่างไร โดยสั่งการให้นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช เป็นหัวหน้าคณะไปศึกษากฎหมายบีโอไอ รวมทั้งการจูงใจให้กับภาคอุตสาหกรรม ว่าจะสามารถส่งเสริมอะไรมากกว่าอีกนี้หรือไม่ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ส่งนักกฎหมายจากกระทรวงการคลังมาให้ข้อมูลว่า จะสามารถสร้างแรงจูงใจอะไรได้บ้าง ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต

นายไตรรงค์กล่าวต่อว่า ได้อธิบายเรื่อง “ระบบชลประทาน” โดยเฉพาะที่สมบูรณ์ในประเทศไทย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 12.5 ล้านไร่ ไม่พอกับพื้นที่เพาะปลูกที่มีถึง 160 ล้านไร่ ขณะที่แหล่งน้ำในภาคเหนือและภาคกลาง มีรายงานว่ามีแหล่งน้ำกว่า 30 ล้านไร่ แต่กลับมีจริงๆ เพียง 24 ล้านไร่ ที่เป็นแหล่งน้ำชลประทานโดยผู้ที่ได้ประโยชน์ก็คือ คนที่มีพื้นที่ติดคลอง ที่ต้องทำผลผลิตเพิ่ม 20-30% โดยประมาณ

ขณะที่ชลประมานในภาคอีสานจะต้องไปดูว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลูกข้าวขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกนาปี ระบบชลประทานก็น้อยมาก แม้ในภาคอีสานจะมีปริมาณฝนมาก แต่ก็กักเก็บน้ำได้ไม่ถึง 2% หากเรากักเก็บ ได้ถึง 5% หรือ 10% ก็สามารถใช้ได้ทั้งปี แต่กลับปล่อยน้ำที่น่าจะกักเก็บได้ลงแม่น้ำโขงหมด

นายไตรรงค์กล่าวต่อว่า เรื่องนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพยายามที่จะแนะนำเราว่า ลักษณะภูมิประเทศให้ทำเป็นแก้มลิง เก็บน้ำเป็นทอดๆ เพราะเป็นที่ราบสูง สามารถเก็บเป็นทอดๆ ได้ น้ำก็จะไม่ท่วม ที่เหลือค่อยปล่อยลงแม่น้ำโขง แต่นี่กลับไม่มีการทำ เมื่อน้ำไม่มีทางไปก็ไหลผ่านชาวบ้าน ไร่นาสาโทพังพินาศหมด” นายไตรรงค์กล่าวและว่า เรื่องนี้เป็นความฝันที่จะต้องแก้ปัญหาตนจะหารือกับนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ว่ากระทรวงเกษตรฯ มีแผนจะทำอย่างไร และมีการออกแบบอะไรไว้แล้วบ้าง เบื้องต้นทราบว่า กระทรวงเกษตรฯมีแบบที่อยากจะทำเหมือนกัน ดังนั้นจะรับฟังว่า ส่วนไหนจะใช้งบประมาณปกติ ส่วนไหนใช้งบประมาณไทยเข้มแข็ง ส่วนไหนจะต้องเร่งรัด

“ผมจะทำแห่งแรกคือที่เกาะสมุย เพราะชัดเจนมาก ผมเป็นประธานกรรมาธิการแก้ไขปัญหาน้ำภาคใต้ ของสภาผู้แทนราษฎร แม้เดี่ยวนี้ต้องซื้อน้ำจากบริษัทอีตส์วอเตอร์ น้ำประปาก็ต้องซื้อ คิวหนึ่ง ต้องซื้อ 20-30 บาท เพราะมันไม่มี โดยเฉพาะเกาะสมุยมีคนเก็บน้ำแค่ 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ทั้งที่ฝนตกทั้งปี ก็ไม่คิดจะเก็บ ทั้งที่มันมีแหล่งเก็บกักน้ำอยู่แล้ว ทั้งนี้จะนำร่องโดยให้อดีตอธิบดีกรมชล ทำแผนปฏิบัติตการฯ (แอ็กชันแพลน)ให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นเจ้าของโครงการ และจะโมแดลไปใช้ทั้งประเทศ”

นายไตรรงค์กล่าวต่อว่า ได้อธิบายนโยบายลอจิสติกส์ โดยเฉพาะรถไฟรางคู่ ที่ตอนนี้จะต้องทำให้ได้ 3,039 กิโลเมตรทั่วประเทศ ไปเชื่อมกับทางรถไฟประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับนโยบายที่จะเพิ่มท่าเรือส่งสินค้า น้ำลึก โดยมอบให้นายจักรมณฑ์ไปคิดแผนว่า ถ้ารัฐบาลจะทำต้องประกาศอะไรบ้าง โดยจะต้องดำเนินการโดยด่วน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำหนดให้เร่งโครงการรถไฟความเร็วสูงคือ รถเอสเพสรเทรน (รถด่วนพิเศษ) จาก กทม.ไประยอง เพราะเราต้องการเป็น “ฮาเปอร์ซิตี้”

นายไตรงงค์กล่าวต่อว่า แม้จะยังไม่ได้เรียกประชุมคณะที่ปรึกษาทั้ง 30 ชุด แต่เห็นว่าต้องมาพิจารณาว่าจะทำอะไรบ้างในอนาคต ก่อนจะเรียกประชุมทุกชุด โดยยืนยันจะต้องตอกเสาเข้มทุกโครงการภายใน 2 ปีนี้

“เพราะรัฐบาลชุดนี้จะอยู่ถึง 2 ปีแน่นอน ผมมีความมั่นใจสูง โครงการจะอยู่ไปจนถึงเลือกตั้งปลายปีหน้า ระยะที่เลือกตั้งก็ให้เตรียมการ รัฐบาลใหม่ก็จะเข้ามาก็ทำต่อไป ตอกเสาเข็ม เริ่มต้นมันก็ไป ผมมั่นใจ ไม่เห็นมีอะไรเลย”
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44036
Location: NECTEC

PostPosted: 19/02/2010 11:02 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.เร่งทำแผนปฏิรูป วงเงินกว่า 1 แสนล.ชงสภาพัฒน์ สัปดาห์หน้า

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 กุมภาพันธ์ 2553 10:00 น.


นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ บอร์ด รฟท. อยู่ระหว่างเร่งทำแผนปฏิรูปกิจการการรถไฟ ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบอนุมัติงบฟื้นฟูกิจการการรถไฟฯ โดยอยู่ระหว่างการวางแผนบริหารการใช้จ่ายเงิน จำนวน 1.53 แสนล้านบาท เพื่อจัดการเงินให้มีประสิทธิภาพ คาดว่าจะสามารถนำเข้าที่ประชุม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ในสัปดาห์หน้า สำหรับงานด้านการบริหารบุคลากร จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานเข้าไปทำหน้าที่บริหารจัดการ เพื่อให้องค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ ในระยะแรก จะเร่งทำโครงการซ่อมบำรุงหัวรถจักร จำนวน 56 คัน และโครงการจัดซื้อหัวรถจักรใหม่ โครงการปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณไฟสี ทั่วประเทศ และโครงการปรับปรุงจุดตัดทางรถไฟ ทั่วประเทศ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47404
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/02/2010 5:18 pm    Post subject: Reply with quote

บุกจับสินค้าหนีภาษีกองทัพมดซุกขบวนรถไฟมูลค่ากว่า 1 ล้าน


Click on the image for full size

ชมคลิปวิดีโอข่าวได้ที่นี่ครับ
http://www.mcot.net/HipTV/24868
นราธิวาส 24 ก.พ.53 - เมื่อเวลา 06.45 น. วันนี้ พ.ต.อ.พีระพล ณ พัทลุง ผกก.สภ.สุไหงปาดี นำกำลังผสมตำรวจ ทหารหน่วย ฉก.นราธิวาส 31 และฝ่ายปกครอง ประมาณ 100 นาย บุกจับกุมสินค้าหนีภาษีบนขบวนรถไฟขบวนที่ 448 ออกจากต้นทาง อ.สุไหงโก-ลก ปลายทาง จ.สุราษฎร์ธานี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าใช้บริการรถไฟไม่สะดวก เนื่องจากถูกกลุ่มขนสินค้าหนีภาษีหรือกองทัพมดข่มขู่ขอใช้ที่นั่งโดยสารเป็น ที่วางสินค้าหนีภาษี โดยเมื่อขบวนรถไฟแล่นมาถึงสถานีสุไหงปาดี เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังจู่โจมขึ้นตรวจสอบในขบวนรถไฟ พบว่ากลุ่มกองทัพมดได้นำสินค้าหนีภาษีจำนวนมากวางซุกซ่อนไว้บนที่วางสัมภาระ และที่นั่งของผู้โดยสาร รวมทั้งภายในห้องน้ำ ซึ่งมีทั้งน้ำมันปาล์ม แป้งหมี่ น้ำตาล ชา กาแฟ ช็อกโกแลต นมข้นหวาน ผ้าอ้อมสำเร็จรูปและสินค้าอื่น ๆ รวมกว่า 1,000 รายการ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท โดยระหว่างตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้สอบถามหาผู้เป็นเจ้าของ แต่ไม่มีใครยอมรับ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดสินค้าหนีภาษีทั้งหมดนำไปไว้ที่ สภ.สุไหงปาดี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. -สำนักข่าวไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44036
Location: NECTEC

PostPosted: 25/02/2010 12:04 pm    Post subject: Reply with quote

ไฮสปีดเทรนสายใต้คุ้มสุด
เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 7:29 น

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยในการสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 2 ในการนำเสนอผลการศึกษาแผนแม่บทเพื่อพัฒนาระบบรางและรถไฟความเร็วสูงว่า ผลการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) 4 เส้นทาง คือ

สายเหนือกรุงเทพฯ-เชียงใหม่
สายตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพฯ-หนองคาย
สายตะวันออกกรุงเทพ-จันทบุรี และ
สายใต้ กรุงเทพฯ-หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ พบว่า

เส้นทางสายใต้ ระยะทาง 982 กม. มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูงสุดคือ 36.15% เนื่องจากเป็นเส้นทางระยะยาว มีประชาชน ใช้เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว และประชาชนในพื้นที่มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าภาคอื่น ๆ และ เชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่มาเลเซียไปจนถึงสิงคโปร์

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระ ทรวงคมนาคม กล่าวว่า หากทำรางคู่ในช่วงคอขวดของสถานีต่าง ๆ ทั่วประเทศ 767 กม. รวมทั้งลดจุดตัดถนนกับทางรถไฟทั่วประเทศจาก 2,000 กว่าแห่งให้เหลือน้อยที่สุด และจัดหาหัวรถจักร และการซ่อมบำรุงหัวรถจักรที่มีอยู่เดิมให้นำกลับมาใช้งานได้อย่างน้อย 90% จะทำให้ความเร็วของรถไฟโดยเฉลี่ยเพิ่มเป็น 80-100 กม.ต่อชั่วโมงได้


นายสุวัฒน์ วาณีสุบุตร รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า ในงบประมาณ 150,000 ล้านบาทที่นำมาแก้ไขปัญหาระบบรถไฟที่ครม.อนุมัตินั้นหากนำมาคิดเฉลี่ยเป็นปีแล้วจะเป็นงบที่ค่อนข้างน้อย และในระยะเวลา 5 ปีของแผนนั้นหากรถไฟ ทำได้ประมาณ 20% ของงบถือว่าดีแล้ว
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 81, 82, 83 ... 489, 490, 491  Next
Page 82 of 491

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©