ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[kikoo]

[black_express]

ขบวนรถเฟิสต์คลาส ไม่น่ามีปัญหา ผมเกรงว่ามีปัญหาด้านรถจักรมากกว่าน่ะครับ

[therock]

ตอนนี่แค่ตู้นอนแอร์ส่วนใหญ่เห็นจอดทำวาระรอเครื่องแอร์ใหม่เต็มไปหมดแถมของเก่าที่มีอยู่แล้วก็ไม่ได้ซ่อมเอาออกมาใช้อีกต่างหาก

[Wisarut]

คมนาคมรุกต่อระบบราง เข็นรถไฟความเร็วสูงเข้าครม.

โดย ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ 5 มีนาคม 2553 12:04 น.


รถไฟความเร็วสูง(High-speed trains) ถูกหยิบยกมาพูดอีกครั้งหลังจากถูกดองมานานถึง 16 ปี เช่นเดียวกับโครงการลงทุนระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ ที่ถูกดองมานานหลายปี สำนักงานนโยบายการและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จึงอาศัยจังหวะที่กระทรวงคมนาคมเตรียมแผนจะก่อสร้างรถไฟรางคู่ โดยเสนอแผนการศึกษารถไฟความเร็วสูงให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพราะโครงการรถไฟความเร็วสูงอยู่ในแผนการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของรฟท. อีกทั้งที่ผ่านมาสภาพัฒน์ฯเคยศึกษาความเหมาะสมของรถไฟความเร็วสูง และหากสนข.จะนำมาสานต่อคงไม่ใช่เรื่องยาก เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการก่อสร้าง

สร้อยทิพย์ ไตรสุทธ์ ผู้อำนวยการสนข.กล่าวว่า หลังจากนี้สนข.จะรวบรวมข้อมูลการประชุมความเห็นและแนวทางการลงทุนไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อให้พิจารณาภายในสัปดาห์นี้ โดยจะเสนอแนวทางการลงทุนให้กระทรวงพิจารณา 2 แนวทาง คือ แนวทางปกติ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน เช่น เรียงลำดับความสำคัญของเส้นทาง ตั้งงบประมาณ ตั้งคณะกรรมการตามมาตรา13 เพื่อเสนอให้ครม.พิจารณา ส่วนอีกแนวทางหนึ่ง คือ การให้เอกชนร่วมลงทุนหรือ PPP เช่น รัฐบาลอนุมัติให้ก่อสร้างทุกเส้นทาง สนข.ก็จะนำโครงการทั้งหมดมาให้เอกชนพิจารณาว่าสนใจโครงการใด ก็ให้เสนอแผนการลงทุนมา ซึ่งแนวทางนี้จะช่วยลดขั้นตอนการดำเนินงานได้มากกว่าแนวทางแรก แต่ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวจะต้องเสนอไปยังคณะกรรมการPPP ของกระทรวงการคลังที่มีไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นประธานพิจารณาก่อน

สุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานบอร์ดรฟท. กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมจะเสนอแผนก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงทั้ง 4 เส้นทางเข้าครม.พิจารณาในเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งหากครม.เห็นชอบก็จะให้เอกชนเข้ามาดำเนินการก่อสร้างในราวปลายปี 2554 และเสร็จปี 2559 โดยโครงการรถไฟความเร็วสูง มีระยะทาง 2,000 กม.มูลค่า 650,000 ล้านบาท ประกอบด้วย

สายเหนือ กรุงเทพ-เชียงใหม่,
สายตะวันออกเฉียงเหนือ, กรุงเทพ-หนองคาย ,
สายตะวันออก กรุงเทพ-จันทบุรี และ
สายใต้ กรุงเทพ-หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์

โดยเส้นทางที่ให้ผลตอบแทนและมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ คือ เส้นทางสายใต้ ระยะทาง 982 กม.วงเงินก่อสร้าง270,000 ล้านบาท ที่สำคัญคือสามารถเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์

“ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้รฟท.ตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 13 เพื่อศึกษาผลตอบแทนทางการเงิน แนวเส้นทาง รวมถึงการสำรวจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเวนคืนที่ดิน ซึ่งหากได้รับงบประมาณเวนคืนก็จะเข้าไปดำเนินโครงการได้ทันที”สุพจน์กล่าว

ส่วนกรณีที่ทางสภาพัฒน์ฯระบุว่าการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ควรก่อสร้างในรัศมีไม่เกิน 300 กม.จากกทม.นั้น ตนมองว่าจะไม่คุ้มกับเงินที่ลงทุนไป เพราะเป็นเส้นทางระยะสั้น อีกทั้งวัตถุประสงค์หลักของรถไฟความเร็วสูง คือ การขนส่งผู้โดยสารเดินทางไกล ดังนั้นหากจะสร้างเพียงรัศมี 300 กม. ไม่น่าจะเกิดประโยชน์มาก

นอกจากนี้เพื่อให้การพัฒนาระบบรางและรถไฟความเร็วสูงให้พัฒนาได้เร็ว กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอของบประมาณในการดำเนินการสร้างระบบรางเพิ่มอีก 18,000 ล้านบาท จากเดิมที่ขอไป 150,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากมีความจำเป็นที่ต้องปรับปรุงและเพิ่มการก่อสร้างในส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ศูนย์ซ่อมหัวรถจักร ศูนย์ขนส่งและกระจายสินค้าแห่งที่2 เป็นต้น โดยกระทรวงจะเสนอให้ที่ประชุมครม.อนุมัติในเดือนมี.ค.นี้เช่นกัน

ด้านแหล่งข่าวจากรฟท.กล่าวว่า “รถไฟความเร็วสูงคงไม่ได้ลงทุนในเร็ว ๆนี้ เพราะขนาดรถไฟรางคู่รัฐบาลยังไม่สามารถผลักดันให้เกิดการลงทุนได้ และมองว่าโครงการดังกล่าวหวังผลทางการเมืองมากกว่าที่ต้องการสร้างกระแสความนิยม ”

[Wisarut]

แผนลงทุนร.ฟ.ท.บาน1.7แสนล้าน สอดไส้3โครงการธ.โลก-ไจก้าให้กู้
ประชาชาติธุรกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 4190 วันที่ 08 มีนาคม พ.ศ. 2553 หน้า 10

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้รวบรวมรายละเอียดโครงการตามแผนปรับปรุงกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ด้านระบบรางระยะเร่งด่วน 5 ปี (2553-2557) เสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากเร็ว ๆ นี้ได้ประชุมหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยจะนำรายละเอียดเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) สศช. เดือนมีนาคมนี้ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี

ล่าสุด ปรากฏว่ามีโครงการเพิ่มเติมจากเดิม 3 โครงการ คือ

1. โครงการรถไฟรางคู่ สายฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย วงเงิน 11,348.35 ล้านบาท
2. ศูนย์กระจายสินค้า แห่งที่ 2 หรือไอซีดี แห่งที่ 2 วงเงิน 6,066 ล้านบาท และ
3. โรงซ่อมหัวรถจักร 3 แห่ง ที่ศรีราชา ลาดกระบัง และแก่งคอย อีก 1,300 ล้านบาท (เพื่อทดแทนโรงรถจักรมักกะสันที่ต้องโดนยุบเพื่อ เปิดทางทำ Makkasan Complex)

เงินลงทุนรวมเพิ่มจาก 153,052 ล้านบาท เป็น 171,766 ล้านบาท

แหล่งข่าวกล่าวว่า ในวันประชุมร่วมกับ สศช. นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ สศช. ชี้แจงว่าปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศยังไม่ค่อยดี ให้กระทรวงคมนาคมจัดลำดับความสำคัญโครงการจากแผนงานทั้งหมด ซึ่งจากการวิเคราะห์โครงการและลำดับความสำคัญ กระทรวงยังคงเดิมตามแผนเดิม โดยเน้นความปลอดภัยของการเดินรถเป็นหลัก อันดับแรก

1. เป็นเรื่องการปรับปรุงหัวรถจักรที่ใช้งานมานาน 56 คัน หารถจักรแทนรถจีอี 50 คัน
2. ปรับปรุงทางที่ไม่ปลอดภัย เพิ่มขนาดรางเป็น 100 ปอนด์
3. ปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณ เครื่องกั้น เป็นต้น
4. การซื้อหัวรถจักร เฟส 2 อีก 13 คัน
5. โครงการรถไฟฟ้ารางคู่ ตามแผนแม่บท 5 สาย ระยะทาง 767 กิโลเมตร สายที่เปิดประมูลได้ทันที คือ ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย
6. สุดท้ายเป็นรถไฟความเร็วสูง

สำหรับงบประมาณลงทุน สศช.แจ้งว่าหลายหน่วยงานต้องการใช้งบฯไทยเข้มแข็ง จึงอยากให้ ร.ฟ.ท.ออก พ.ร.บ.เงินกู้ โดยกู้เงินจากต่างประเทศ เป็นการกู้ระยะยาวและเป็นแพ็กเกจทั้งกว่า 170,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารโลกและไจก้าสนใจจะปล่อยกู้

[nathapong]

[RORONOA]

[Mongwin]

สุไหงโก-ลกยังไม่พบเสื้อแดงเคลื่อนไหว-แปดริ้วคุมเข้มพื้นที่

ภูมิภาค 10 มี.ค. - ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ระบุยังไม่พบความเคลื่อนไหวกลุ่มเสื้อแดง แต่กำชับดูแลพื้นที่ใกล้ชิดป้องกันมือที่สามฉวยก่อเหตุ ขณะที่ตั๋วรถไฟปลายทางกรุงเทพฯ เป็นปกติ ด้านผู้ว่าฯ แปดริ้ว รับมือเต็มที่ประสานตำรวจ-ทหารเฝ้าระวัง

พ.ต.อ.นิตินัย หลังยาหน่าย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงในพื้นที่สุไหงโก-ลก เพื่อรวมตัวกันชุมนุมครั้งใหญ่ว่าจากการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดยังไม่มีความ เคลื่อนไหวเกิดขึ้น แต่ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง พร้อมรายงานความคืบหน้าให้ทราบทุกระยะเพื่อประเมินสถานการณ์รายวัน เพราะอาจมีกลุ่มไม่หวังดีฉวยโอกาสเข้ามาสร้างความวุ่นวายทางการเมือง

ด้านนายอาลาวี อูมา นายสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก กล่าวว่า ช่วงสัปดาห์นี้การจำหน่ายตั๋วโดยสารปลายทางกรุงเทพฯ ด้วยขบวนรถเร็วและรถด่วนยังเป็นปกติ ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากที่จับตามองว่ามีการเดินทางไปร่วมชุมนุม อย่างไรก็ตาม ขอฝากถึงผู้ร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองให้แสดงออกอย่างเหมาะสมตามกรอบของ กฎหมายเพื่อไม่ให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย เพราะทั้งสองฝ่ายเป็นคนไทยด้วยกัน

ส่วนนายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และ พล.ต.ต.มณฑล มีอนันต์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมวางมาตรการดูแลความเรียบร้อยของพื้นที่ในระยะนี้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งประสานกับกองพลทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี เพื่อดูแลการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและ ป้องกันเหตุวุ่นวาย เบื้องต้นทราบว่ากลุ่มเสื้อแดง 4 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว จะรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทราในวันที่ 13 มีนาคม ก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งจังหวัดฉะเชิงเทรานั้นเป็นจังหวัดหนึ่งที่รัฐบาลประกาศใช้พระราชบัญญัติ ความมั่นคงในเขตอำเภอเมืองตั้งแต่วันที่ 11-23 มีนาคมนี้. - สำนักข่าวไทย

[alderwood]

[Mongwin]

เสื้อแดงไม่นิยมใช้รถไฟบุกเข้ากรุง
นสพ.เดลินิวส์ 14 มี.ค. 53

วันนี้( 13 มี.ค. 53) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า สำหรับการติดตามสถานการณ์การเดินทางของประชาชนที่โดยสารทางรถไฟ ภายใต้การเคลื่อนไหวของการชุมนุมกกลุ่มเสื้อแดงวันนี้ (13 มี.ค.) พบว่าการเดินทางของผู้ชุมนุมที่จะเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ด้วยการเดินทางโดยรถไฟนั้น ถือว่ามีปริมาณน้อยมาก ในขณะที่การเดินทางของประชาชนทั่วไปมีปริมาณลดลงถึงร้อยละ 10-20 จากวันทั่วไปที่จะมีผู้เดินทางเฉลี่ยวันละ 97,000 คน แต่ รฟท.มีรถวิ่งให้บริการตลอดทั้งวันใน 250 ขบวน

ทั้งนี้ เชื่อว่า ตัวเลขการเดินทางที่ลดลงนี้ มาจากความวิตกกังวลและไม่ต้องการเดินทางในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยของสถานีและขบวนรถต่างๆ นั้น ซึ่งได้มีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟและเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาดูแลพื้นที่ เต็มอัตรา จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งการรถไฟฯ จะติดตามสถานกาณ์และรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ดังนั้น ประชาชนสามารถสอบถามการเดินรถและรายงานเหตุการณ์ผิดปกติได้ที่สายด่วน 1690 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง