RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:318718
ทั่วไป:28775428
ทั้งหมด:29094146
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 25, 26, 27 ... 299, 300, 301  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 24/05/2010 11:03 pm    Post subject: Reply with quote

ยุบสถานี'เกริก'ใช้ร่วมสายสีเขียว
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหาฯ-คมนาคม
เขียนเมื่อ วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2010 เวลา 13:05 น. พิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,533 23-26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553


รถไฟฟ้าสายสีชมพู "แคราย-มีนบุรี " ได้รับพิจารณาคัดเลือก เป็น ระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว แบบยกระดับ (Monorail) เพื่อรองรับการแก้ปัญหาจราจรบริเวณศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ล่าสุด จากการสอบถาม "สร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ " ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ออกมายืนยันว่า วันที่ 15 มิถุนายน 2553 นี้ สนข.จะนำ โครงการดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการEIA หรือ การทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่สำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.)

ในช่วงที่ทำEIA จะมีการพิจารณาปรับแบบใหม่ เพื่อให้สอดรับกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิตสะพานใหม่ ด้วยการยุบหรือ ยกเลิกสถานีบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกริก แล้วขยับให้มาอยู่บริเวณ วงเวียนหลักสี่แทน โดยจะใช้เป็นสถานีร่วมกับ สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว เนื่องจากไม่สามารถก่อสร้างสถานีบริเวณสำนักงานเขตบางเขน ของกทม.ได้

ดังนั้น มองว่า การปรับเปลี่ยนสถานีเกริก และย้ายมาอยู่บริเวณกลางวงเวียนหลักสี่แทน ซึ่งเป็นสถานีต่อเชื่อมการเดินทาง จะช่วยลดระยะการเดินทางของประชาชนลงได้มากเพียง 200 เมตร จากมหาวิทยาลัยเกริกมาที่สถานีร่วมวงเวียนหลักสี่ และหากยังคงใช้สถานีเกริกเดิม จะมีปัญหาผู้โดยสารต้องเดินไกลถึง 700 เมตร ต่อเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีเขียวบริเวณสถานีบางเขน ที่สำคัญยังลดงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท กรณี รถไฟฟ้าสายสีเขียว ไม่ใช้พื้นที่สำนักงานเขตบางเขนของกทม. เนื่องจากไม่ต้องสร้างอาคารชดเชยใหม่ และ อาคารจอดรถ

ส่วนผลกระทบที่ทุกฝ่ายต่างเป็นห่วงว่า อนุสรณ์สถานบริเวณวงเวียนหลักสี่จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ล่าสุดกรมศิลปากรชี้แจงว่าเนื่องจาก อนุสรณ์สถานดังกล่าวไม่ใช่บริเวณที่มีผู้เสียชีวิตจริงแต่หากเป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น ดังนั้นสามารถที่จะทำสถานียกระดับหรือ ก่อสร้างโครงการต่างๆบริเวณวงเวียนได้

สำหรับความคืบหน้า ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วง "แคราย-มีนบุรี " คาดว่าช่วงปลายปี 2553 จะเปิดให้มีการประมูลหาผู้รับเหมา และกลางปี 2554 จะเริ่มก่อสร้างได้ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ปี จึงจะสามารถเปิดทดลองและบริการเชิงพาณิชย์ได้ อย่างไรก็ดี รฟม.ได้ใช้งบเกือบ 100 ล้านบาทปรับแบบใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จอีกไม่นานนี้
นอกจากนี้ยังมีปัญหาถกเถียงกันระหว่างกระทรวงคมนาคมและสนข.ว่า จะก่อสร้างแนวรถไฟฟ้าบริเวณเกาะกลางถนนแจ้งวัฒนะ หรือ ชิดริมเขตทาง ซึ่ง วิศวกรมองว่า หากก่อสร้างชิดเขตทางด้านใดด้านหนึ่งจะช่วยรองรับการเดินทางเข้าถึงพื้นที่สะดวกขึ้น แต่จะกระทบกับการเวนคืน ขณะที่หากก่อสร้างบริเวณเกาะกลางถนน จะส่งผลดีก็คือ ไม่มีผลกระทบต่อการเวนคืน แต่จะมีปัญหาการเดินเชื่อมสู่ที่อยู่อาศัยและหน่วยงานจะลำบากมากขึ้น

โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีสถานี ทั้งหมด 24 สถานี มีจุดเริ่มต้นโครงการ จากบริเวณศูนย์ราชการนนทบุรี ผ่านถนนรัตนาธิเบศร์ โดยเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี วิ่งตามถนนติวานนท์ ถนนแจ้งวัฒนะ จากนั้น จะเข้าสู่สถานีร่วม ระหว่างสายสีชมพูและสายสีเขียว บริเวณกลางวงเวียนหลักสี่ โดยจะยกเลิกสถานีเกริก จากนั้นวิ่งเข้าสู่ ถนนรามอินทรา จากแยกมีนบุรี จากนั้นวิ่งไปตามถนนสีหบุรานุกิจ มีจุดปลายทางใกล้แยกร่มเกล้า

ยักษ์รับเหมาทั้งหลายเตรียมตัวปลายปีนี้ ได้ชิงดำแน่!!!
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 29/05/2010 4:16 am    Post subject: Reply with quote

ธนายงให้ที่ทำศูนย์ซ่อมรถไฟฟ้าโมโนเรล ชงครม.3สายพร้อมรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม
เดลินิวส์ วันศุกร์ ที่ 28 พฤษภาคม 2553 เวลา 9:18 น

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เห็นชอบให้กทม.ก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดรอง เช่น รถไฟฟ้าโมโนเรลเพื่อเป็นขนส่งระบบราง เชื่อมต่อรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ และกทม.ได้ศึกษารายละเอียดโครงการรถไฟฟ้ามวลชนรางเดี่ยว (Mono Rail) เสร็จเรียบร้อยแล้วรวม 3 สาย อยู่ระหว่าง จัดทำรายละเอียดเพื่อนำเสนอครม.พิจารณาเห็นชอบในการอนุมัติโครงการนั้น ล่าสุดตนได้รับการประสานจากบริษัทธนายง จำกัด ผู้ถือหุ้นโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมทั้งทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยินดีให้ กทม.ใช้พื้นที่บริษัทบริเวณย่านบางนาเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล และพร้อมหารือรายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ กับกทม. เรื่องการให้พื้นที่ดังกล่าว ตนจะเร่งหารือบริษัท เร็ว ๆ นี้ และจะหารือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่พร้อมสนับสนุนโครงการโมโนเรลด้วย อย่างไรก็ตาม กทม.ต้องรอครม.อนุมัติโครงการ รวมทั้งต้องจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมด้วย ตนวางแผนว่าโครงการน่าจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างและเปิดให้บริการได้ราวปี 2555-2556

นายธีระชน กล่าวต่อว่า สำหรับเส้นทางโมโนเรล 3 สายที่กทม.ศึกษาไว้ ได้แก่
1.สายสยามจะวิ่งเป็นวงกลม จากสนามกีฬาแห่งชาติ-บรรทัดทอง-พระราม 4-พญาไท หรืออังรีดูนังต์ สุดที่พระราม 1 ระยะทาง 5 กม. งบ ประมาณ 5,000 ล้านบาท

2. สายที่ 2 จากแยกบางนา-สนามบินสุวรรณภูมิ 18 กม. งบ 18,000 ล้านบาท เชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสจากแยกบางนา แนวเส้นทางถนนบางนา-ตราด วิ่งขนานทางด่วนบางนา-ชลบุรี เลี้ยวเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ รองรับการเดินทางประชาชนจากจังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพฯ ด้านตะวันออกเข้าสนามบิน และ

3. จากศาลาว่าการกทม. 2-ยมราช 15 กม. งบ 15,000 ล้านบาท แนวเส้นทางจากศาลาว่าการกทม. 2 วิ่งเข้าดินแดง แนวรถไฟฟ้าอยู่เหนือโครงการโทลล์เวย์ วกเข้าถนนราชปรารภ เพชรบุรีสิ้นสุดที่แยกยมราช รองรับการย้ายศาลาว่าการกทม. 1 ไปรวมที่อาคารใหม่ศาลาว่าการกทม. 2 เชื่อมต่อรถไฟฟ้าใต้ดินที่อโศกและเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสที่เพชรบุรีด้วย โดยจะของบสนับสนุนจากรัฐบาลพร้อมออกพันธบัตรรองรับ.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 04/06/2010 3:11 pm    Post subject: Reply with quote

เร่งสรุปผลศึกษาทำโมโนเรล 4 สาย ส.ค.นี้ หวังกู้หนี้'บีอาร์ที'ติดปัญหาเพียบ
เดลลินิวส์ วันศุกร์ ที่ 04 มิถุนายน 2553 เวลา 7:45 น

รายงานข่าวจากสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) แจ้งว่า จากที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) ซึ่งก่อนหน้านี้ทางที่ปรึกษาเสนอแนวเส้นทาง 4 เส้นทาง คือ

1.สายกทม.2 (ดินแดง) -กทม.1 (เสาชิงช้า)
2.สายรามคำแหง-ทองหล่อ
3.สายบางนา-สุวรรณภูมิ และ
4. สายสยามวิ่งเป็นวงกลม จากสนามกีฬาแห่งชาติ-บรรทัดทอง-พระราม 4-พญาไท หรืออังรีดูนังต์ สุดที่พระราม 1

ทั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมการศึกษารายละเอียด ในส่วนของสาย กทม.2-กทม.1 ได้ปรับตัดสายทางเพื่อหลบแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีนบุรี-บางกะปิ-ศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ออกแบบไว้ โดยเส้นทางใหม่ จะวิ่งจากศาลาว่าการ กทม. 2-สามเหลี่ยมดินแดง-ถนนราชปรารภ-ซอยรางน้ำ เชื่อมบีทีเอสที่สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนั้นเข้าแนวซอยโยธีสิ้นสุดที่ปากซอยโยธีตัดถนนพระราม 6

นอกจากนี้ทางที่ปรึกษายังได้เสนอให้ปรับปรุงในส่วนของสายบางนา-สุวรรณภูมิ ที่เชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสจากแยกบางนา ไปตามแนวเส้นทางถนนบางนา-ตราด วิ่งขนานทางด่วนบางนา-ชลบุรี เลี้ยวเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งในการศึกษาช่วงที่ผ่านมาเป็นระบบรถโมโนเรลนั้นอาจจะไม่เหมาะสมเนื่องจากเป็นระยะทางไกลถึง 18 กิโลเมตร และเป็นเส้นทางหลักที่จะรองรับการเดินทางของประชาชนจำนวนมาก จึงให้ใช้เป็นระบบรถไฟฟ้าขนาดเบา (ไลท์เรล) แทน ที่มีความสามารถในการขนส่งผู้โดยสารสูงกว่าโมโนเรล

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า โครงการศึกษาดังกล่าวกำหนดสิ้นสุดการศึกษาตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจาก กทม.มีการปรับแก้ไขรายละเอียดการศึกษาจึงเตรียมขยายเวลาให้ทางที่ปรึกษา โดยจะมีการสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนอีก 1 ครั้ง หลังจากนั้นคาดว่าจะสรุปผลการศึกษาทั้งหมดได้ภายในเดือน ส.ค. นี้ เพื่อนำเสนอผู้บริหาร กทม. พิจารณาดำเนินโครงการต่อไป ซึ่งจะเป็นทางเลือกของระบบขนส่งมวลชนรูปแบบใหม่ให้กับคนกรุงเทพฯ หลังจากที่ขณะนี้โครงการรถเมล์บีอาร์ทีที่อยู่ระหว่างเริ่มทดลองให้บริการ ติดปัญหาอุปสรรคบางประการ.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 15/06/2010 10:09 am    Post subject: Reply with quote

นักลงทุนเกาหลีสนใจเข้าดำเนินการโมโนเรลพัทยา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มิถุนายน 2553 11:25 น.


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ความคืบหน้าโครงการจัดทำระบบขนส่งมวลชนแบบรถรางไฟฟ้า แบบรางเดี่ยวทั่วรอบเมืองพัทยา อยู่ในกระบวนการศึกษาและเปิดรับบริษัทเข้ามารับสัมปทานไปดำเนินการ ล่าสุดบริษัทเอกชนประเทศเกาหลีสนใจและพร้อมจะดำเนินการในเฟสแรก ระยะ 6 กิโลเมตร ปธ.การท่องเที่ยวพัทยาชี้ต้องเลือกเฟ้นบริษัทที่มีศักยภาพในการผลิตและการ ก่อสร้างเพื่อประโยชน์ของชาวพัทยาเป็นหลัก

ASTV ผู้จัดการออนไลน์ รายงานความคืบหน้าในการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำระบบขนส่งมวลชนแบบรถราง ไฟฟ้าแบบรางเดี่ยว หรือ "โมโนเรล” รอบเมืองพัทยา ในการพัฒนาระบบขนส่งและรองรับการเติบโตของเมืองท่องเที่ยวในอนาคต โดยมีการว่าจ้าง บ.โชติจิตดามูเชลล์ จำกัด และ บ.เทสโก้ เข้ามาทำการศึกษาสภาพแวดล้อม รายละเอียด การดำเนินการ ผลดีและผลเสีย รวมถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมด้วยงบประมาณ 15 ล้านบาท ตามที่สภาเมืองพัทยาอนุมัติไปแล้วนั้น

นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวและกีฬาเมืองพัทยา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งระบบในเร็วๆ นี้ ประกอบกับขณะนี้เมืองพัทยาได้เปิดกว้างหาผู้รับสัมปทานในการดำเนินการก่อ สร้างโครงการดังกล่าวในระยะที่ 1 หรือเฟสแรกเป็นระยะทางรวม 6 กิโลเมตร ซึ่งจากการศึกษา เฟสแรกน่าจะเป็นส่วนของพื้นที่ถนนพัทยาสายสองเป็นต้นไปก่อน ซึ่งการเปิดรับบริษัทผู้มาดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เมืองพัทยาจะให้ความสำคัญในเรื่องของความเชี่ยวชาญและศักยภาพการผลิตของ บริษัทต่างๆ อย่างกว้างขวาง เพื่อจะได้ตัวแทนที่ทีศักยภาพการทำงานด้านระบบขนส่งรถรางไฟฟ้าโมโนเรล เพื่อให้คนพัทยาได้ใช้ของดี และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมเมืองพัทยาโดยรวม

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดเรื่องการศึกษาโครงการดังกล่าวในเฟสแรก ยังเน้นไปที่เรื่องผลกระทบในเรื่องของสิ่งแวดล้อม รวมถึงแผนการลงทุน รูปแบบสถานีโดยสาร เส้นทางการโดยสารที่ครอบคลุม อาคารจอดรับส่งผู้โดยสาร และศูนย์ซ่อมบำรุง ซึ่งจากตามรายละเอียดที่เมืองพัทยาต้องการนั้น

ขณะนี้มีบริษัทจากประเทศเกาหลีเสนอเข้ารับดำเนินการในเฟสแรกแล้ว ซึ่งขณะนี้ก็ยังอยู่ในการพิจารณาและรอรายอื่นว่าจะมีความสนใจมาดำเนินการ หรือไม่เช่นกัน ซึ่งรูปแบบความชัดเจนของการดำเนินการนั้นคงจะมีให้ทราบกันในเร็ววันนี้
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49416
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/06/2010 1:43 pm    Post subject: Reply with quote

ศึกษาแนวทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง

นสพ.เดลินิวส์ วันอังคาร ที่ 29 มิถุนายน 2553

ย้ายตามคำแนะนำของคุณวิศรุตครับ Very Happy


Last edited by Mongwin on 29/06/2010 4:04 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 29/06/2010 2:24 pm    Post subject: Reply with quote

^^^
ผมว่าเอาไปไว้ในหมวด ข่าว รฟท. จากหนังสือพิมพ์ ท่าจะเหมาะกว่านะครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 29/06/2010 6:07 pm    Post subject: Reply with quote

กทม.-จุฬาฯ ผุดโมโนเรล 3 สาย เส้นทางแรกเปิดใช้ปี'56

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 มิถุนายน 2553 16:25 น.



นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการดำเนินการด้านความร่วมมือเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่เขตพาณิชย์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการประชุมร่วมกับทางจุฬาฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีแนวทางความร่วมมือกันใน 3 เรื่อง ได้แก่ การพัฒนาการเดินรถระบบโมโนเรลจำนวน 3 เฟส การจัดสรรพื้นที่สร้างศูนย์ราชการ และการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยนอกจุดผ่อนผันบริเวณ ถ.พระรามที่ 1 และ ถ.พญาไท

โดยการพัฒนาระบบเดินรถโมโนเรลสายสีน้ำเงิน เริ่มจากสยามสแควร์ถึงอาคารจามจุรีสแควร์ 2 เป็นการเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวกับรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน

ระยะที่ 2 สายสีชมพูที่จะพัฒนาในพื้นที่ซอยจุฬา 5 และซอยจุฬา 12 โดยผ่านพื้นที่ที่ใช้จัดสร้างศูนย์ราชการในอนาคต และ

ระยะที่ 3 สายสีส้ม จะให้บริการในเส้นถนนอังรีดูนังต์ถึงสยามสแควร์ ซึ่งมีการยกเว้นการจอดรถในบางบริเวณ

คาดว่าปีหน้านี้ โครงการจะเริ่มเดินหน้า ทั้งงบประมาณ การจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) และจะเร่งดำเนินการสายสีน้ำเงินเป็นสายแรกให้ทันในปี 2554 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสทรงมีพระชนมพรรษา 84 พรรษา คาดว่าน่าจะเปิดใช้ได้ในเดือนมกราคมปี 2556 นี้

นายธีระชน กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดสร้างศูนย์ราชการที่เป็นที่ตั้งของหน่วยงานของกทม.ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดสรรที่ดินจำนวน 5 ไร่ให้กับกทม.เพื่อดำเนินการก่อสร้างสำนักงานเขตปทุมวัน สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบรรทัดทอง ศูนย์บริการสาธารณสุข ศูนย์เยาวชนปทุมวัน และศูนย์ฝึกอาชีพลุมพินี ขณะเดียวกันจะมีการตั้งคณะทำงานจัดเตรียมงบประมาณ และแผนการดำเนินงาน และรายงานผลใน 3 เดือน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินการต่อไปอย่างไรก็ตาม ทาง กทม.ได้ให้สำนักการโยธาออกแบบอาคารส่วนราชการแห่งใหม่ โดยการใช้ประโยชน์พื้นที่ในแนวตั้ง หรือเป็นอาคารสูง ซึ่งไม่ต้องกินพื้นที่โดยรอบอีกด้วย สำหรับการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยในพื้นที่ของจุฬาฯนั้น ทางจุฬาฯจะขอสงวนสิทธิ์บริเวณโดยรอบสยามสแควร์ เพื่อจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย เนื่องจากมีการตั้งวางสิ่งของจำหน่ายมากกว่า 300 แผง
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49416
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 15/07/2010 4:18 pm    Post subject: นำร่อง รถรางไฟฟ้า พัทยาสายสอง Reply with quote

นำร่อง รถรางไฟฟ้า พัทยาสายสอง

คณะกรรมการที่ปรึกษากลุ่มยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองท่องเที่ยว น่าอยู่ ดันโครงการรถรางไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรมหลังทำสำรวจแล้วเสร็จ เสนอทำเส้นทางนำร่องถนนพัทยาสายสองระยะทาง 5.5 กิโลเมตร ซึ่งจะทำการเดินถนจากถนนพัทยาเหนือ- พัทยาสาย 2 - พัทยาใต้ - บาลีฮาย เป็นการเบื้องต้น

โดยระยะนี้จะแบ่งเฟสการก่อสร้างเพื่อทำ โครงการนำร่องระยะทาง 5 กิโลเมตร โดยจะมีการก่อสร้างสถานีจอดจำนวน 5 จุด ได้แก่ บริเวณหน้าศาลาว่าการเมืองพัทยา่ หน้าห้างบิ๊กซีพัทยา สาย 2 ห้างเซ็นทรัล พัทยาใต้ และแหลมบาลีฮาย โดยจะมี
ระยะห่างระหว่าง สถานีจำนวน 800 เมตร ขณะที่แต่ละสถานีนั้นจะมีความสูง 12 เมตร และมีทางเดินขึ้นลงทั้งสองข้าง ส่วนสาเหตุที่เลือกเส้นทางดังกล่าว เป็นโครงการนำร่องนั้น เนื่องจากไม่ติดปัญหาในเรื่องของสิ่งแวดล้อม สาธารณูปโภค และการเวนคืนที่ดิน ซึ่งจะติดปัญหาอย่างมากหากไปดำเนินการในเส้นทางพัทยาสาย 1 หรือสายเลียบชายหาด

จาก พัทยาโพสต์ 20 กรกฏาคม 2553
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
heerchai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/07/2006
Posts: 7730
Location: อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

PostPosted: 15/07/2010 7:36 pm    Post subject: Reply with quote

ถ้าเมืองพัทยา ทำรถไฟฟ้าโมโนเวลสำเร็จ หาดใหญ่คงทำตามอย่างแน่นอน ครับ ^^
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45546
Location: NECTEC

PostPosted: 02/08/2010 4:15 am    Post subject: Reply with quote

สุพจน์ ทรัพย์ล้อม 4-5 ปี ระบบรางเป็นตัวหลักการเดินทาง
คอลัมน์ อีโคโฟกัส
ไทยโพสต์ 2 สิงหาคม 2553 - 00:00

ช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ กระทรวงคมนาคม ซึ่งนำคณะโดย นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรงคมนาคม และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม เตรียมเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศจีน
โดยจะนำโครงการการลงทุนในระบบรางทั้งหมด เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รวมทั้งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่จะหาผู้เข้าร่วมลงทุนในส่วนของระบบรถไฟฟ้า ไปโรดโชว์เพื่อเชิญชวนนักลงทุนจากประเทศจีนเข้ามาร่วมลงทุนกับโครงการทั้งหมด
การไปโรดโชว์ครั้งนี้ ข้อมูลของกระทรวงคมนาคมพร้อมหรือยัง คนที่จะให้คำตอบได้ดีคงไม่พ้น สุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ควบเก้าอี้ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

0 สายสีม่วงลงเข็มก่อสร้าง
นายสุพจน์กล่าวว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ขณะนี้ได้มีการประมูลและก่อสร้างไปแล้ว ซึ่งการดำเนินงานนั้นเป็นไปตามแผนงานทุกอย่าง แม้ว่าจะติดขัดปัญหาทางด้านการเวนคืน 117 หลังคาเรือน แต่ไม่กระทบต่อการเดินหน้าตามแผน ซึ่งจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2557
ทั้งนี้ การก่อสร้างได้แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงจากบางซื่อ-บางใหญ่ และช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ รวมระยะทางทั้งสิ้น 43 กิโลเมตร โดยปัจจุบันได้เริ่มก่อสร้างช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตร ซึ่งก่อสร้างไปแล้ว 3.113% ทั้งนี้ การก่อสร้างได้แบ่งออกเป็น 3 สัญญา ประกอบด้วย
งานสัญญาที่ 1 โครงสร้างยกระดับ ช่วงบางซื่อ-สะพานพระนั่งเกล้า ดำเนินการโดยกลุ่มบริษัท CKTC ขณะนี้ได้ดำเนินงานเจาะสำรวจดิน ทดสอบเสาเข็ม รื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค พร้อมทั้งจัดทำเสาเข็มเจาะบางส่วนและก่อสร้างฐานรากแล้ว โดยมีความก้าวหน้าร้อยละ 4.68
งานสัญญาที่ 2 โครงสร้างยกระดับ ช่วงสะพานพระนั่งเกล้า-บางใหญ่ ดำเนินการโดย บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ขณะนี้ได้ดำเนินงานเจาะสำรวจดิน ทดสอบเสาเข็ม รื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค ก่อสร้างฐานราก รวมทั้งการเตรียมก่อสร้างทางวิ่งรถไฟฟ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีความก้าวหน้าร้อยละ 2.65
และงานสัญญาที่ 3 ศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถแล้ว ดำเนินการโดยกลุ่มบริษัท PAR ขณะนี้ได้ดำเนินการสำรวจขอบเขตและพื้นที่บริเวณศูนย์ซ่อมบำรุง งานปรับพื้นที่งานสำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมออกแบบสะพานกลับรถบริเวณหน้าศูนย์ซ่อมบำรุง และงานเจาะสำรวจดินแล้วเสร็จ โดยมีความก้าวหน้าร้อยละ 0.147
สำหรับงานสัญญาที่ 6 งานระบบราง ขณะนี้องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศไทยแห่งประเทศญี่ปุ่น (JICA) กำลังพิจารณาเอกสารประกวดราคางานโยธาสัญญาที่ 6 ซึ่งมีการสอบถามเกี่ยวกับประเด็นทางด้านเทคนิคและรายละเอียดบางส่วน
"งานด้านระบบและการเดินรถ จะใช้รูปแบบเอกชนเข้าร่วมลงทุนกับรัฐ หรือ Public Private Partnership (PPP-Gross Cost) หรือไม่ ขณะนี้คณะกรรมการตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 ที่มีนายเยี่ยมชาย ฉัตรแก้ว รองผู้ว่าการ รฟม. เป็นประธาน อยู่ระหว่างการจัดทำร่างเงื่อนไขการประมูล เพื่อหาเอกชนมาร่วมเดินรถ ซึ่งมั่นใจว่าภายในเดือน ก.ย.นี้ การจัดทำร่าง TOR จะเสร็จสิ้น พร้อมประกาศเชิญชวนหาผู้ร่วมลงทุนได้ ซึ่งจะมีการพิจารณาอีก 4 เรื่องหลักๆ คือ รถ ระบบ การเดินรถ และการซ่อมบำรุง ว่าจะมีประโยชน์ต่อรัฐและผู้ใช้บริการมากน้อยแค่ไหน" นายสุพจน์กล่าว

0 สายสีน้ำเงินเร่งต่อรองราคา
สำหรับสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ เพิ่งจะเปิดซองประกวดราคางานโยธา 3 สัญญา ไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2553 โดยขณะนี้ที่ปรึกษายังอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดการเสนอราคาสัญญาที่ 1-2 ว่า บมจ.ช.การช่าง (CK) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดจริงหรือไม่ ส่วนสัญญาที่ 3 กลุ่ม SH-UN Joint Venture เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด และสัญญาที่ 4 บมจ.ซิโน-ไทยฯ เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด ยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อปรับค่าก่อสร้าง แต่ละรายการให้เป็นไปตามที่ที่ปรึกษา รฟม.คำนวณ รวมถึงสัญญาที่ 5 ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น
ด้านปัญหาการเวนคืนที่ดินย่านวัดมังกรกัมลาวาสเพื่อการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าวัดมังกรกัมลาวาส ขณะนี้ได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว โดย รฟม.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มูลนิธิจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ เพื่อแก้ปัญหา และให้ รฟม.สามารถเดินหน้างานก่อสร้างได้ตามแผน
โดยจะใช้วิธีรอนสิทธิ ด้วยการเจรจากับผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบในส่วนของสำนักงานทรัพย์สินฯ ให้ย้ายออกและส่งมอบพื้นที่ให้ รฟม. จนกว่าการก่อสร้างจะเสร็จสิ้น จึงกลับมาอยู่ในพื้นที่เดิมบริเวณพื้นดินเหนือสถานี ยกเว้นจุดขึ้น-ลงสถานี และปล่องระบายอากาศ และระหว่างการก่อสร้างสำนักงานทรัพย์สินฯ และมูลนิธิฯ จะหาพื้นที่อื่นให้ผู้เช่ารายเดิมใช้อยู่อาศัยหรือค้าขายไปก่อนชั่วคราว

0 สายสีเขียวช้ากว่าแผน
ส่วนสีเขียวทั้ง 2 สาย คือ สายเหนือ หมอชิต-สะพานใหม่ และสายใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ ขณะนี้ได้ล่าช้าไปกว่าแผนประมาณ 5 เดือน ทำให้กำหนดแล้วเสร็จจากเดือน ธ.ค.2558 เลื่อนไปเป็น พ.ค.2559
"แต่ผมได้บอกว่า ถ้าดูตามแผน สามารถที่จะปรับให้มาเป็นเดือน ธ.ค.2558 ซึ่งก็ยืนยันว่าทั้งหมดยังอยู่ในแผนเดิม" นายสุพจน์กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงหมอชิต-สะพานใหม่นั้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาหาข้อยุติเรื่องหน่วยงานเจ้าของโครงการ การเชื่อมต่อเส้นทางกับโครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ และพิจารณารูปแบบการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนที่เหมาะสม เพื่อเปิดให้บริการโดยเร็ว และนำเสนอต่อ ครม.พิจารณาต่อไป คาดว่าภายในเดือน ก.พ.2554 จะประกวดราคาได้ ส่วนช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ คาดประกวดราคาได้ประมาณปลายปี 2553
ส่วนสายสีชมพู ช่วงปากเกร็ด-มีนบุรี อยู่ระหว่างการจ้างที่ปรึกษาออกแบบประกวดราคา คาดว่าประกวดราคาได้ประมาณเดือน ม.ค.-ก.พ.2554
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดการประชุมบอร์ด รฟม.เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติกรอบวงเงินว่าจ้างที่ปรึกษาศึกษาออกแบบโครงการวงเงิน 210 ล้านบาท และแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1.มีนบุรี-บางกะปิ เป็นโครงสร้างแบบยกระดับทั้งหมด ซึ่งที่ปรึกษาจะต้องศึกษาออกแบบโครงการใหม่ รวมทั้งจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ด้วย
ระยะที่ 2.บางกะปิ-ศูนย์วัฒนธรรม-ดินแดง จะใช้การก่อสร้างลักษณะออกแบบพร้อมก่อสร้าง (Design-Build) เนื่องจากเป็นโครงสร้างใต้ดินทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาในการศึกษาออกแบบได้รวดเร็วกว่าระยะแรก ส่วนระยะที่ 3.ดินแดง-ตลิ่งชัน จะต้องศึกษาออกแบบใหม่ รวมทั้งจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่
"คาดว่าการศึกษาออกแบบทั้ง 3 ช่วง ที่ปรึกษาจะดำเนินการได้เสร็จสิ้นภายในปี 2554" นายสุพจน์กล่าว

0 สายสีแดงขายซอง 2-17 ส.ค.
นอกจากโครงการรถไฟฟ้าของ รฟม.แล้ว ในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ครม.ยังได้เร่งรัดให้ดำเนินการเช่นกัน โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูว่าจะลงทุนอย่างไร รูปแบบไหน จะทำสายไหนบ้าง รวมถึงแผนการก่อสร้างทางคู่ที่อยู่ในแผน 176,000 ล้านบาท ขณะนี้กำลังดำเนินการ และที่มีอยู่ 767 กิโลเมตรก็เริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2554 ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี
นอกจากนี้ ร.ฟ.ท.ยังมีรถไฟฟ้าอีกหลายสายที่จะต้องเร่งดำเนินการ เช่น รถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชั่น โดยการก่อสร้างงานโยธาได้คืบหน้าไปมากแล้ว แต่ติดขัดในเรื่องการบุกรุกของชุมชนย่านพระราม 6 ซึ่งทำให้การดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนอย่างมาก
ส่วนรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ขณะนี้มีความล่าช้าไปมาก เนื่องจากโครงการนี้รับเงินกู้จาก JICA ทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบใช้เวลานาน ซึ่งคาดว่าภายในวันที่ 2-17 ส.ค.นี้ จะเปิดขายซองประมูลสัญญาที่ 1 และ 2 จากนั้นจะให้เวลาเอกชนคิดราคาก่อสร้างภายใน 90 วัน โดยเปิดให้ยื่นเอกสาร 3 ซอง ได้แก่ ซองคุณสมบัติ ซองเทคนิค และซองราคา
ตามขั้นตอน จะทยอยเปิดซองคุณสมบัติก่อนว่ามีผู้ผ่านกี่ราย และรายงานให้ JICA ทราบและอนุมัติ จากนั้นจึงจะพิจารณาซองเทคนิคและราคา คาดว่าภายในปี 2554 จึงจะได้ตัวผู้รับเหมา
"โครงการนี้รับเงินกู้จาก JICA ทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบใช้เวลานาน เช่นเดียวกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ที่ใช้เวลาประมาณ 8-10 เดือนกว่าจะได้ลงนามสัญญากับผู้รับเหมา โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี หลังจากเปิดขายซองสำหรับสัญญาแรก และสัญญาที่ 2-3 ก็ยังใช้เวลา 10 เดือน เขาจะดูทีละขั้นตอน ทุกกระบวนการ ผมก็คิดว่าน่าจะใช้เวลาสัก 8 เดือน ปีหน้าถึงจะได้เซ็นสัญญากับผู้รับเหมา" นายสุพจน์กล่าว
ส่วนสัญญา 3 ซึ่งเป็นงานวางระบบ ต้องรอให้ JICA ให้ความเห็นชอบทีโออาร์ก่อน ซึ่งยังไม่สามารถระบุเวลาได้
แม้ว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ยังคืบหน้าไม่มาก แต่นายสุพจน์ยืนยันว่า หลังจากนี้ไป 4-5 ปี การเดินทางของประเทศไทยนั้น ระบบรางจะเป็นตัวหลัก
คงต้องติดตามกันว่าเมื่อถึงเวลานั้นจะเป็นจริงหรือไม่.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 25, 26, 27 ... 299, 300, 301  Next
Page 26 of 301

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©