| View previous topic :: View next topic |
| Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 24/05/2010 11:03 pm Post subject: |
|
|
ยุบสถานี'เกริก'ใช้ร่วมสายสีเขียว
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหาฯ-คมนาคม
เขียนเมื่อ วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2010 เวลา 13:05 น. พิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,533 23-26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
รถไฟฟ้าสายสีชมพู "แคราย-มีนบุรี " ได้รับพิจารณาคัดเลือก เป็น ระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว แบบยกระดับ (Monorail) เพื่อรองรับการแก้ปัญหาจราจรบริเวณศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ล่าสุด จากการสอบถาม "สร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ " ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ออกมายืนยันว่า วันที่ 15 มิถุนายน 2553 นี้ สนข.จะนำ โครงการดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการEIA หรือ การทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่สำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.)
ในช่วงที่ทำEIA จะมีการพิจารณาปรับแบบใหม่ เพื่อให้สอดรับกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิตสะพานใหม่ ด้วยการยุบหรือ ยกเลิกสถานีบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกริก แล้วขยับให้มาอยู่บริเวณ วงเวียนหลักสี่แทน โดยจะใช้เป็นสถานีร่วมกับ สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว เนื่องจากไม่สามารถก่อสร้างสถานีบริเวณสำนักงานเขตบางเขน ของกทม.ได้
ดังนั้น มองว่า การปรับเปลี่ยนสถานีเกริก และย้ายมาอยู่บริเวณกลางวงเวียนหลักสี่แทน ซึ่งเป็นสถานีต่อเชื่อมการเดินทาง จะช่วยลดระยะการเดินทางของประชาชนลงได้มากเพียง 200 เมตร จากมหาวิทยาลัยเกริกมาที่สถานีร่วมวงเวียนหลักสี่ และหากยังคงใช้สถานีเกริกเดิม จะมีปัญหาผู้โดยสารต้องเดินไกลถึง 700 เมตร ต่อเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีเขียวบริเวณสถานีบางเขน ที่สำคัญยังลดงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท กรณี รถไฟฟ้าสายสีเขียว ไม่ใช้พื้นที่สำนักงานเขตบางเขนของกทม. เนื่องจากไม่ต้องสร้างอาคารชดเชยใหม่ และ อาคารจอดรถ
ส่วนผลกระทบที่ทุกฝ่ายต่างเป็นห่วงว่า อนุสรณ์สถานบริเวณวงเวียนหลักสี่จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ล่าสุดกรมศิลปากรชี้แจงว่าเนื่องจาก อนุสรณ์สถานดังกล่าวไม่ใช่บริเวณที่มีผู้เสียชีวิตจริงแต่หากเป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น ดังนั้นสามารถที่จะทำสถานียกระดับหรือ ก่อสร้างโครงการต่างๆบริเวณวงเวียนได้
สำหรับความคืบหน้า ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วง "แคราย-มีนบุรี " คาดว่าช่วงปลายปี 2553 จะเปิดให้มีการประมูลหาผู้รับเหมา และกลางปี 2554 จะเริ่มก่อสร้างได้ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ปี จึงจะสามารถเปิดทดลองและบริการเชิงพาณิชย์ได้ อย่างไรก็ดี รฟม.ได้ใช้งบเกือบ 100 ล้านบาทปรับแบบใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จอีกไม่นานนี้
นอกจากนี้ยังมีปัญหาถกเถียงกันระหว่างกระทรวงคมนาคมและสนข.ว่า จะก่อสร้างแนวรถไฟฟ้าบริเวณเกาะกลางถนนแจ้งวัฒนะ หรือ ชิดริมเขตทาง ซึ่ง วิศวกรมองว่า หากก่อสร้างชิดเขตทางด้านใดด้านหนึ่งจะช่วยรองรับการเดินทางเข้าถึงพื้นที่สะดวกขึ้น แต่จะกระทบกับการเวนคืน ขณะที่หากก่อสร้างบริเวณเกาะกลางถนน จะส่งผลดีก็คือ ไม่มีผลกระทบต่อการเวนคืน แต่จะมีปัญหาการเดินเชื่อมสู่ที่อยู่อาศัยและหน่วยงานจะลำบากมากขึ้น
โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีสถานี ทั้งหมด 24 สถานี มีจุดเริ่มต้นโครงการ จากบริเวณศูนย์ราชการนนทบุรี ผ่านถนนรัตนาธิเบศร์ โดยเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี วิ่งตามถนนติวานนท์ ถนนแจ้งวัฒนะ จากนั้น จะเข้าสู่สถานีร่วม ระหว่างสายสีชมพูและสายสีเขียว บริเวณกลางวงเวียนหลักสี่ โดยจะยกเลิกสถานีเกริก จากนั้นวิ่งเข้าสู่ ถนนรามอินทรา จากแยกมีนบุรี จากนั้นวิ่งไปตามถนนสีหบุรานุกิจ มีจุดปลายทางใกล้แยกร่มเกล้า
ยักษ์รับเหมาทั้งหลายเตรียมตัวปลายปีนี้ ได้ชิงดำแน่!!! |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 29/05/2010 4:16 am Post subject: |
|
|
ธนายงให้ที่ทำศูนย์ซ่อมรถไฟฟ้าโมโนเรล ชงครม.3สายพร้อมรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม
เดลินิวส์ วันศุกร์ ที่ 28 พฤษภาคม 2553 เวลา 9:18 น
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เห็นชอบให้กทม.ก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดรอง เช่น รถไฟฟ้าโมโนเรลเพื่อเป็นขนส่งระบบราง เชื่อมต่อรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ และกทม.ได้ศึกษารายละเอียดโครงการรถไฟฟ้ามวลชนรางเดี่ยว (Mono Rail) เสร็จเรียบร้อยแล้วรวม 3 สาย อยู่ระหว่าง จัดทำรายละเอียดเพื่อนำเสนอครม.พิจารณาเห็นชอบในการอนุมัติโครงการนั้น ล่าสุดตนได้รับการประสานจากบริษัทธนายง จำกัด ผู้ถือหุ้นโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมทั้งทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยินดีให้ กทม.ใช้พื้นที่บริษัทบริเวณย่านบางนาเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล และพร้อมหารือรายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ กับกทม. เรื่องการให้พื้นที่ดังกล่าว ตนจะเร่งหารือบริษัท เร็ว ๆ นี้ และจะหารือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่พร้อมสนับสนุนโครงการโมโนเรลด้วย อย่างไรก็ตาม กทม.ต้องรอครม.อนุมัติโครงการ รวมทั้งต้องจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมด้วย ตนวางแผนว่าโครงการน่าจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างและเปิดให้บริการได้ราวปี 2555-2556
นายธีระชน กล่าวต่อว่า สำหรับเส้นทางโมโนเรล 3 สายที่กทม.ศึกษาไว้ ได้แก่
1.สายสยามจะวิ่งเป็นวงกลม จากสนามกีฬาแห่งชาติ-บรรทัดทอง-พระราม 4-พญาไท หรืออังรีดูนังต์ สุดที่พระราม 1 ระยะทาง 5 กม. งบ ประมาณ 5,000 ล้านบาท
2. สายที่ 2 จากแยกบางนา-สนามบินสุวรรณภูมิ 18 กม. งบ 18,000 ล้านบาท เชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสจากแยกบางนา แนวเส้นทางถนนบางนา-ตราด วิ่งขนานทางด่วนบางนา-ชลบุรี เลี้ยวเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ รองรับการเดินทางประชาชนจากจังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพฯ ด้านตะวันออกเข้าสนามบิน และ
3. จากศาลาว่าการกทม. 2-ยมราช 15 กม. งบ 15,000 ล้านบาท แนวเส้นทางจากศาลาว่าการกทม. 2 วิ่งเข้าดินแดง แนวรถไฟฟ้าอยู่เหนือโครงการโทลล์เวย์ วกเข้าถนนราชปรารภ เพชรบุรีสิ้นสุดที่แยกยมราช รองรับการย้ายศาลาว่าการกทม. 1 ไปรวมที่อาคารใหม่ศาลาว่าการกทม. 2 เชื่อมต่อรถไฟฟ้าใต้ดินที่อโศกและเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสที่เพชรบุรีด้วย โดยจะของบสนับสนุนจากรัฐบาลพร้อมออกพันธบัตรรองรับ. |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 04/06/2010 3:11 pm Post subject: |
|
|
เร่งสรุปผลศึกษาทำโมโนเรล 4 สาย ส.ค.นี้ หวังกู้หนี้'บีอาร์ที'ติดปัญหาเพียบ
เดลลินิวส์ วันศุกร์ ที่ 04 มิถุนายน 2553 เวลา 7:45 น
รายงานข่าวจากสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) แจ้งว่า จากที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) ซึ่งก่อนหน้านี้ทางที่ปรึกษาเสนอแนวเส้นทาง 4 เส้นทาง คือ
1.สายกทม.2 (ดินแดง) -กทม.1 (เสาชิงช้า)
2.สายรามคำแหง-ทองหล่อ
3.สายบางนา-สุวรรณภูมิ และ
4. สายสยามวิ่งเป็นวงกลม จากสนามกีฬาแห่งชาติ-บรรทัดทอง-พระราม 4-พญาไท หรืออังรีดูนังต์ สุดที่พระราม 1
ทั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมการศึกษารายละเอียด ในส่วนของสาย กทม.2-กทม.1 ได้ปรับตัดสายทางเพื่อหลบแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีนบุรี-บางกะปิ-ศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ออกแบบไว้ โดยเส้นทางใหม่ จะวิ่งจากศาลาว่าการ กทม. 2-สามเหลี่ยมดินแดง-ถนนราชปรารภ-ซอยรางน้ำ เชื่อมบีทีเอสที่สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนั้นเข้าแนวซอยโยธีสิ้นสุดที่ปากซอยโยธีตัดถนนพระราม 6
นอกจากนี้ทางที่ปรึกษายังได้เสนอให้ปรับปรุงในส่วนของสายบางนา-สุวรรณภูมิ ที่เชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสจากแยกบางนา ไปตามแนวเส้นทางถนนบางนา-ตราด วิ่งขนานทางด่วนบางนา-ชลบุรี เลี้ยวเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งในการศึกษาช่วงที่ผ่านมาเป็นระบบรถโมโนเรลนั้นอาจจะไม่เหมาะสมเนื่องจากเป็นระยะทางไกลถึง 18 กิโลเมตร และเป็นเส้นทางหลักที่จะรองรับการเดินทางของประชาชนจำนวนมาก จึงให้ใช้เป็นระบบรถไฟฟ้าขนาดเบา (ไลท์เรล) แทน ที่มีความสามารถในการขนส่งผู้โดยสารสูงกว่าโมโนเรล
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า โครงการศึกษาดังกล่าวกำหนดสิ้นสุดการศึกษาตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจาก กทม.มีการปรับแก้ไขรายละเอียดการศึกษาจึงเตรียมขยายเวลาให้ทางที่ปรึกษา โดยจะมีการสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนอีก 1 ครั้ง หลังจากนั้นคาดว่าจะสรุปผลการศึกษาทั้งหมดได้ภายในเดือน ส.ค. นี้ เพื่อนำเสนอผู้บริหาร กทม. พิจารณาดำเนินโครงการต่อไป ซึ่งจะเป็นทางเลือกของระบบขนส่งมวลชนรูปแบบใหม่ให้กับคนกรุงเทพฯ หลังจากที่ขณะนี้โครงการรถเมล์บีอาร์ทีที่อยู่ระหว่างเริ่มทดลองให้บริการ ติดปัญหาอุปสรรคบางประการ. |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 15/06/2010 10:09 am Post subject: |
|
|
นักลงทุนเกาหลีสนใจเข้าดำเนินการโมโนเรลพัทยา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มิถุนายน 2553 11:25 น.
ศูนย์ข่าวศรีราชา - ความคืบหน้าโครงการจัดทำระบบขนส่งมวลชนแบบรถรางไฟฟ้า แบบรางเดี่ยวทั่วรอบเมืองพัทยา อยู่ในกระบวนการศึกษาและเปิดรับบริษัทเข้ามารับสัมปทานไปดำเนินการ ล่าสุดบริษัทเอกชนประเทศเกาหลีสนใจและพร้อมจะดำเนินการในเฟสแรก ระยะ 6 กิโลเมตร ปธ.การท่องเที่ยวพัทยาชี้ต้องเลือกเฟ้นบริษัทที่มีศักยภาพในการผลิตและการ ก่อสร้างเพื่อประโยชน์ของชาวพัทยาเป็นหลัก
ASTV ผู้จัดการออนไลน์ รายงานความคืบหน้าในการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำระบบขนส่งมวลชนแบบรถราง ไฟฟ้าแบบรางเดี่ยว หรือ "โมโนเรล รอบเมืองพัทยา ในการพัฒนาระบบขนส่งและรองรับการเติบโตของเมืองท่องเที่ยวในอนาคต โดยมีการว่าจ้าง บ.โชติจิตดามูเชลล์ จำกัด และ บ.เทสโก้ เข้ามาทำการศึกษาสภาพแวดล้อม รายละเอียด การดำเนินการ ผลดีและผลเสีย รวมถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมด้วยงบประมาณ 15 ล้านบาท ตามที่สภาเมืองพัทยาอนุมัติไปแล้วนั้น
นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวและกีฬาเมืองพัทยา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งระบบในเร็วๆ นี้ ประกอบกับขณะนี้เมืองพัทยาได้เปิดกว้างหาผู้รับสัมปทานในการดำเนินการก่อ สร้างโครงการดังกล่าวในระยะที่ 1 หรือเฟสแรกเป็นระยะทางรวม 6 กิโลเมตร ซึ่งจากการศึกษา เฟสแรกน่าจะเป็นส่วนของพื้นที่ถนนพัทยาสายสองเป็นต้นไปก่อน ซึ่งการเปิดรับบริษัทผู้มาดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เมืองพัทยาจะให้ความสำคัญในเรื่องของความเชี่ยวชาญและศักยภาพการผลิตของ บริษัทต่างๆ อย่างกว้างขวาง เพื่อจะได้ตัวแทนที่ทีศักยภาพการทำงานด้านระบบขนส่งรถรางไฟฟ้าโมโนเรล เพื่อให้คนพัทยาได้ใช้ของดี และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมเมืองพัทยาโดยรวม
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดเรื่องการศึกษาโครงการดังกล่าวในเฟสแรก ยังเน้นไปที่เรื่องผลกระทบในเรื่องของสิ่งแวดล้อม รวมถึงแผนการลงทุน รูปแบบสถานีโดยสาร เส้นทางการโดยสารที่ครอบคลุม อาคารจอดรับส่งผู้โดยสาร และศูนย์ซ่อมบำรุง ซึ่งจากตามรายละเอียดที่เมืองพัทยาต้องการนั้น
ขณะนี้มีบริษัทจากประเทศเกาหลีเสนอเข้ารับดำเนินการในเฟสแรกแล้ว ซึ่งขณะนี้ก็ยังอยู่ในการพิจารณาและรอรายอื่นว่าจะมีความสนใจมาดำเนินการ หรือไม่เช่นกัน ซึ่งรูปแบบความชัดเจนของการดำเนินการนั้นคงจะมีให้ทราบกันในเร็ววันนี้ |
|
| Back to top |
|
 |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 49416
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 29/06/2010 1:43 pm Post subject: |
|
|
ศึกษาแนวทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง
นสพ.เดลินิวส์ วันอังคาร ที่ 29 มิถุนายน 2553
ย้ายตามคำแนะนำของคุณวิศรุตครับ 
Last edited by Mongwin on 29/06/2010 4:04 pm; edited 1 time in total |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 29/06/2010 6:07 pm Post subject: |
|
|
กทม.-จุฬาฯ ผุดโมโนเรล 3 สาย เส้นทางแรกเปิดใช้ปี'56
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 มิถุนายน 2553 16:25 น.
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการดำเนินการด้านความร่วมมือเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่เขตพาณิชย์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการประชุมร่วมกับทางจุฬาฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีแนวทางความร่วมมือกันใน 3 เรื่อง ได้แก่ การพัฒนาการเดินรถระบบโมโนเรลจำนวน 3 เฟส การจัดสรรพื้นที่สร้างศูนย์ราชการ และการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยนอกจุดผ่อนผันบริเวณ ถ.พระรามที่ 1 และ ถ.พญาไท
โดยการพัฒนาระบบเดินรถโมโนเรลสายสีน้ำเงิน เริ่มจากสยามสแควร์ถึงอาคารจามจุรีสแควร์ 2 เป็นการเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวกับรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน
ระยะที่ 2 สายสีชมพูที่จะพัฒนาในพื้นที่ซอยจุฬา 5 และซอยจุฬา 12 โดยผ่านพื้นที่ที่ใช้จัดสร้างศูนย์ราชการในอนาคต และ
ระยะที่ 3 สายสีส้ม จะให้บริการในเส้นถนนอังรีดูนังต์ถึงสยามสแควร์ ซึ่งมีการยกเว้นการจอดรถในบางบริเวณ
คาดว่าปีหน้านี้ โครงการจะเริ่มเดินหน้า ทั้งงบประมาณ การจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) และจะเร่งดำเนินการสายสีน้ำเงินเป็นสายแรกให้ทันในปี 2554 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสทรงมีพระชนมพรรษา 84 พรรษา คาดว่าน่าจะเปิดใช้ได้ในเดือนมกราคมปี 2556 นี้
นายธีระชน กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดสร้างศูนย์ราชการที่เป็นที่ตั้งของหน่วยงานของกทม.ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดสรรที่ดินจำนวน 5 ไร่ให้กับกทม.เพื่อดำเนินการก่อสร้างสำนักงานเขตปทุมวัน สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบรรทัดทอง ศูนย์บริการสาธารณสุข ศูนย์เยาวชนปทุมวัน และศูนย์ฝึกอาชีพลุมพินี ขณะเดียวกันจะมีการตั้งคณะทำงานจัดเตรียมงบประมาณ และแผนการดำเนินงาน และรายงานผลใน 3 เดือน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินการต่อไปอย่างไรก็ตาม ทาง กทม.ได้ให้สำนักการโยธาออกแบบอาคารส่วนราชการแห่งใหม่ โดยการใช้ประโยชน์พื้นที่ในแนวตั้ง หรือเป็นอาคารสูง ซึ่งไม่ต้องกินพื้นที่โดยรอบอีกด้วย สำหรับการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยในพื้นที่ของจุฬาฯนั้น ทางจุฬาฯจะขอสงวนสิทธิ์บริเวณโดยรอบสยามสแควร์ เพื่อจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย เนื่องจากมีการตั้งวางสิ่งของจำหน่ายมากกว่า 300 แผง |
|
| Back to top |
|
 |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 49416
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 15/07/2010 4:18 pm Post subject: นำร่อง รถรางไฟฟ้า พัทยาสายสอง |
|
|
นำร่อง รถรางไฟฟ้า พัทยาสายสอง
คณะกรรมการที่ปรึกษากลุ่มยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองท่องเที่ยว น่าอยู่ ดันโครงการรถรางไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรมหลังทำสำรวจแล้วเสร็จ เสนอทำเส้นทางนำร่องถนนพัทยาสายสองระยะทาง 5.5 กิโลเมตร ซึ่งจะทำการเดินถนจากถนนพัทยาเหนือ- พัทยาสาย 2 - พัทยาใต้ - บาลีฮาย เป็นการเบื้องต้น
โดยระยะนี้จะแบ่งเฟสการก่อสร้างเพื่อทำ โครงการนำร่องระยะทาง 5 กิโลเมตร โดยจะมีการก่อสร้างสถานีจอดจำนวน 5 จุด ได้แก่ บริเวณหน้าศาลาว่าการเมืองพัทยา่ หน้าห้างบิ๊กซีพัทยา สาย 2 ห้างเซ็นทรัล พัทยาใต้ และแหลมบาลีฮาย โดยจะมี
ระยะห่างระหว่าง สถานีจำนวน 800 เมตร ขณะที่แต่ละสถานีนั้นจะมีความสูง 12 เมตร และมีทางเดินขึ้นลงทั้งสองข้าง ส่วนสาเหตุที่เลือกเส้นทางดังกล่าว เป็นโครงการนำร่องนั้น เนื่องจากไม่ติดปัญหาในเรื่องของสิ่งแวดล้อม สาธารณูปโภค และการเวนคืนที่ดิน ซึ่งจะติดปัญหาอย่างมากหากไปดำเนินการในเส้นทางพัทยาสาย 1 หรือสายเลียบชายหาด
จาก พัทยาโพสต์ 20 กรกฏาคม 2553 |
|
| Back to top |
|
 |
heerchai
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/07/2006 Posts: 7730
Location: อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
|
Posted: 15/07/2010 7:36 pm Post subject: |
|
|
| ถ้าเมืองพัทยา ทำรถไฟฟ้าโมโนเวลสำเร็จ หาดใหญ่คงทำตามอย่างแน่นอน ครับ ^^ |
|
| Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 45546
Location: NECTEC
|
Posted: 02/08/2010 4:15 am Post subject: |
|
|
สุพจน์ ทรัพย์ล้อม 4-5 ปี ระบบรางเป็นตัวหลักการเดินทาง
คอลัมน์ อีโคโฟกัส
ไทยโพสต์ 2 สิงหาคม 2553 - 00:00
ช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ กระทรวงคมนาคม ซึ่งนำคณะโดย นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรงคมนาคม และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม เตรียมเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศจีน
โดยจะนำโครงการการลงทุนในระบบรางทั้งหมด เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รวมทั้งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่จะหาผู้เข้าร่วมลงทุนในส่วนของระบบรถไฟฟ้า ไปโรดโชว์เพื่อเชิญชวนนักลงทุนจากประเทศจีนเข้ามาร่วมลงทุนกับโครงการทั้งหมด
การไปโรดโชว์ครั้งนี้ ข้อมูลของกระทรวงคมนาคมพร้อมหรือยัง คนที่จะให้คำตอบได้ดีคงไม่พ้น สุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ควบเก้าอี้ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
0 สายสีม่วงลงเข็มก่อสร้าง
นายสุพจน์กล่าวว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ขณะนี้ได้มีการประมูลและก่อสร้างไปแล้ว ซึ่งการดำเนินงานนั้นเป็นไปตามแผนงานทุกอย่าง แม้ว่าจะติดขัดปัญหาทางด้านการเวนคืน 117 หลังคาเรือน แต่ไม่กระทบต่อการเดินหน้าตามแผน ซึ่งจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2557
ทั้งนี้ การก่อสร้างได้แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงจากบางซื่อ-บางใหญ่ และช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ รวมระยะทางทั้งสิ้น 43 กิโลเมตร โดยปัจจุบันได้เริ่มก่อสร้างช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตร ซึ่งก่อสร้างไปแล้ว 3.113% ทั้งนี้ การก่อสร้างได้แบ่งออกเป็น 3 สัญญา ประกอบด้วย
งานสัญญาที่ 1 โครงสร้างยกระดับ ช่วงบางซื่อ-สะพานพระนั่งเกล้า ดำเนินการโดยกลุ่มบริษัท CKTC ขณะนี้ได้ดำเนินงานเจาะสำรวจดิน ทดสอบเสาเข็ม รื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค พร้อมทั้งจัดทำเสาเข็มเจาะบางส่วนและก่อสร้างฐานรากแล้ว โดยมีความก้าวหน้าร้อยละ 4.68
งานสัญญาที่ 2 โครงสร้างยกระดับ ช่วงสะพานพระนั่งเกล้า-บางใหญ่ ดำเนินการโดย บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ขณะนี้ได้ดำเนินงานเจาะสำรวจดิน ทดสอบเสาเข็ม รื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค ก่อสร้างฐานราก รวมทั้งการเตรียมก่อสร้างทางวิ่งรถไฟฟ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีความก้าวหน้าร้อยละ 2.65
และงานสัญญาที่ 3 ศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถแล้ว ดำเนินการโดยกลุ่มบริษัท PAR ขณะนี้ได้ดำเนินการสำรวจขอบเขตและพื้นที่บริเวณศูนย์ซ่อมบำรุง งานปรับพื้นที่งานสำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมออกแบบสะพานกลับรถบริเวณหน้าศูนย์ซ่อมบำรุง และงานเจาะสำรวจดินแล้วเสร็จ โดยมีความก้าวหน้าร้อยละ 0.147
สำหรับงานสัญญาที่ 6 งานระบบราง ขณะนี้องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศไทยแห่งประเทศญี่ปุ่น (JICA) กำลังพิจารณาเอกสารประกวดราคางานโยธาสัญญาที่ 6 ซึ่งมีการสอบถามเกี่ยวกับประเด็นทางด้านเทคนิคและรายละเอียดบางส่วน
"งานด้านระบบและการเดินรถ จะใช้รูปแบบเอกชนเข้าร่วมลงทุนกับรัฐ หรือ Public Private Partnership (PPP-Gross Cost) หรือไม่ ขณะนี้คณะกรรมการตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 ที่มีนายเยี่ยมชาย ฉัตรแก้ว รองผู้ว่าการ รฟม. เป็นประธาน อยู่ระหว่างการจัดทำร่างเงื่อนไขการประมูล เพื่อหาเอกชนมาร่วมเดินรถ ซึ่งมั่นใจว่าภายในเดือน ก.ย.นี้ การจัดทำร่าง TOR จะเสร็จสิ้น พร้อมประกาศเชิญชวนหาผู้ร่วมลงทุนได้ ซึ่งจะมีการพิจารณาอีก 4 เรื่องหลักๆ คือ รถ ระบบ การเดินรถ และการซ่อมบำรุง ว่าจะมีประโยชน์ต่อรัฐและผู้ใช้บริการมากน้อยแค่ไหน" นายสุพจน์กล่าว
0 สายสีน้ำเงินเร่งต่อรองราคา
สำหรับสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ เพิ่งจะเปิดซองประกวดราคางานโยธา 3 สัญญา ไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2553 โดยขณะนี้ที่ปรึกษายังอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดการเสนอราคาสัญญาที่ 1-2 ว่า บมจ.ช.การช่าง (CK) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดจริงหรือไม่ ส่วนสัญญาที่ 3 กลุ่ม SH-UN Joint Venture เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด และสัญญาที่ 4 บมจ.ซิโน-ไทยฯ เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด ยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อปรับค่าก่อสร้าง แต่ละรายการให้เป็นไปตามที่ที่ปรึกษา รฟม.คำนวณ รวมถึงสัญญาที่ 5 ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น
ด้านปัญหาการเวนคืนที่ดินย่านวัดมังกรกัมลาวาสเพื่อการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าวัดมังกรกัมลาวาส ขณะนี้ได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว โดย รฟม.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มูลนิธิจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ เพื่อแก้ปัญหา และให้ รฟม.สามารถเดินหน้างานก่อสร้างได้ตามแผน
โดยจะใช้วิธีรอนสิทธิ ด้วยการเจรจากับผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบในส่วนของสำนักงานทรัพย์สินฯ ให้ย้ายออกและส่งมอบพื้นที่ให้ รฟม. จนกว่าการก่อสร้างจะเสร็จสิ้น จึงกลับมาอยู่ในพื้นที่เดิมบริเวณพื้นดินเหนือสถานี ยกเว้นจุดขึ้น-ลงสถานี และปล่องระบายอากาศ และระหว่างการก่อสร้างสำนักงานทรัพย์สินฯ และมูลนิธิฯ จะหาพื้นที่อื่นให้ผู้เช่ารายเดิมใช้อยู่อาศัยหรือค้าขายไปก่อนชั่วคราว
0 สายสีเขียวช้ากว่าแผน
ส่วนสีเขียวทั้ง 2 สาย คือ สายเหนือ หมอชิต-สะพานใหม่ และสายใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ ขณะนี้ได้ล่าช้าไปกว่าแผนประมาณ 5 เดือน ทำให้กำหนดแล้วเสร็จจากเดือน ธ.ค.2558 เลื่อนไปเป็น พ.ค.2559
"แต่ผมได้บอกว่า ถ้าดูตามแผน สามารถที่จะปรับให้มาเป็นเดือน ธ.ค.2558 ซึ่งก็ยืนยันว่าทั้งหมดยังอยู่ในแผนเดิม" นายสุพจน์กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงหมอชิต-สะพานใหม่นั้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาหาข้อยุติเรื่องหน่วยงานเจ้าของโครงการ การเชื่อมต่อเส้นทางกับโครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ และพิจารณารูปแบบการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนที่เหมาะสม เพื่อเปิดให้บริการโดยเร็ว และนำเสนอต่อ ครม.พิจารณาต่อไป คาดว่าภายในเดือน ก.พ.2554 จะประกวดราคาได้ ส่วนช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ คาดประกวดราคาได้ประมาณปลายปี 2553
ส่วนสายสีชมพู ช่วงปากเกร็ด-มีนบุรี อยู่ระหว่างการจ้างที่ปรึกษาออกแบบประกวดราคา คาดว่าประกวดราคาได้ประมาณเดือน ม.ค.-ก.พ.2554
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดการประชุมบอร์ด รฟม.เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติกรอบวงเงินว่าจ้างที่ปรึกษาศึกษาออกแบบโครงการวงเงิน 210 ล้านบาท และแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1.มีนบุรี-บางกะปิ เป็นโครงสร้างแบบยกระดับทั้งหมด ซึ่งที่ปรึกษาจะต้องศึกษาออกแบบโครงการใหม่ รวมทั้งจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ด้วย
ระยะที่ 2.บางกะปิ-ศูนย์วัฒนธรรม-ดินแดง จะใช้การก่อสร้างลักษณะออกแบบพร้อมก่อสร้าง (Design-Build) เนื่องจากเป็นโครงสร้างใต้ดินทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาในการศึกษาออกแบบได้รวดเร็วกว่าระยะแรก ส่วนระยะที่ 3.ดินแดง-ตลิ่งชัน จะต้องศึกษาออกแบบใหม่ รวมทั้งจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่
"คาดว่าการศึกษาออกแบบทั้ง 3 ช่วง ที่ปรึกษาจะดำเนินการได้เสร็จสิ้นภายในปี 2554" นายสุพจน์กล่าว
0 สายสีแดงขายซอง 2-17 ส.ค.
นอกจากโครงการรถไฟฟ้าของ รฟม.แล้ว ในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ครม.ยังได้เร่งรัดให้ดำเนินการเช่นกัน โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูว่าจะลงทุนอย่างไร รูปแบบไหน จะทำสายไหนบ้าง รวมถึงแผนการก่อสร้างทางคู่ที่อยู่ในแผน 176,000 ล้านบาท ขณะนี้กำลังดำเนินการ และที่มีอยู่ 767 กิโลเมตรก็เริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2554 ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี
นอกจากนี้ ร.ฟ.ท.ยังมีรถไฟฟ้าอีกหลายสายที่จะต้องเร่งดำเนินการ เช่น รถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชั่น โดยการก่อสร้างงานโยธาได้คืบหน้าไปมากแล้ว แต่ติดขัดในเรื่องการบุกรุกของชุมชนย่านพระราม 6 ซึ่งทำให้การดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนอย่างมาก
ส่วนรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ขณะนี้มีความล่าช้าไปมาก เนื่องจากโครงการนี้รับเงินกู้จาก JICA ทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบใช้เวลานาน ซึ่งคาดว่าภายในวันที่ 2-17 ส.ค.นี้ จะเปิดขายซองประมูลสัญญาที่ 1 และ 2 จากนั้นจะให้เวลาเอกชนคิดราคาก่อสร้างภายใน 90 วัน โดยเปิดให้ยื่นเอกสาร 3 ซอง ได้แก่ ซองคุณสมบัติ ซองเทคนิค และซองราคา
ตามขั้นตอน จะทยอยเปิดซองคุณสมบัติก่อนว่ามีผู้ผ่านกี่ราย และรายงานให้ JICA ทราบและอนุมัติ จากนั้นจึงจะพิจารณาซองเทคนิคและราคา คาดว่าภายในปี 2554 จึงจะได้ตัวผู้รับเหมา
"โครงการนี้รับเงินกู้จาก JICA ทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบใช้เวลานาน เช่นเดียวกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ที่ใช้เวลาประมาณ 8-10 เดือนกว่าจะได้ลงนามสัญญากับผู้รับเหมา โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี หลังจากเปิดขายซองสำหรับสัญญาแรก และสัญญาที่ 2-3 ก็ยังใช้เวลา 10 เดือน เขาจะดูทีละขั้นตอน ทุกกระบวนการ ผมก็คิดว่าน่าจะใช้เวลาสัก 8 เดือน ปีหน้าถึงจะได้เซ็นสัญญากับผู้รับเหมา" นายสุพจน์กล่าว
ส่วนสัญญา 3 ซึ่งเป็นงานวางระบบ ต้องรอให้ JICA ให้ความเห็นชอบทีโออาร์ก่อน ซึ่งยังไม่สามารถระบุเวลาได้
แม้ว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ยังคืบหน้าไม่มาก แต่นายสุพจน์ยืนยันว่า หลังจากนี้ไป 4-5 ปี การเดินทางของประเทศไทยนั้น ระบบรางจะเป็นตัวหลัก
คงต้องติดตามกันว่าเมื่อถึงเวลานั้นจะเป็นจริงหรือไม่. |
|
| Back to top |
|
 |
|