View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44044
Location: NECTEC
|
Posted: 01/06/2010 5:30 pm Post subject: |
|
|
รถไฟสายกรุงเทพฯ-อรัญฯ เปิดบริการจุดหยุดรถไฟรับ-ส่งหลังศาลากลาง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 มิถุนายน 2553 10:45 น.
นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เผยว่า ที่ผ่านมาได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่ารถไฟสายกรุงเทพฯ-อรัญประเทศ ซึ่งวิ่งผ่านด้านหลังศูนย์ราชการจังหวัดสระแก้วเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ถ้าหากรถไฟสายนี้ได้มีการจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร ณ ด้านหลังศูนย์ราชการจังหวัดสระแก้วด้วยก็จะสามารถอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ที่มาติดต่อราชการกับส่วนราชการต่างๆ ภายในศูนย์ราชการจังหวัดสระแก้วได้เป็นอย่างดี
จึงได้มอบหมายให้สำนักงานสถิติจังหวัดสระแก้ว ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของข้าราชการและประชาชนกลุ่มต่างๆ ว่าต้องการให้รถไฟจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร ณ ด้านหลังศูนย์ราชการจังหวัดสระแก้วหรือไม่ ซึ่งผลการสำรวจปรากฏว่า มีผู้ตอบว่าต้องการให้รถไฟหยุดรับ-ส่ง ณ จุดดังกล่าว คิดเป็นร้อยละ 86.1โดยให้เหตุผลว่าสะดวก รวดเร็ว ประหยัดและปลอดภัย รองลงมาคือเป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทาง
รวมทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการใช้บริการที่มาทำงานและ ประชาชนที่มาติดต่อราชการ ส่วนผู้ตอบแบบสอบถามที่ตอบว่าไม่ต้องการให้รถไฟจอดรับ-ส่ง ณ จุดนี้ คิดเป็นร้อยละ 13.9 โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้ใช้บริการ รองลงมาคือใช้รถส่วนตัวหรือพาหนะอื่นสะดวกกว่า รวมทั้งตารางเดินรถไฟไม่สะดวกต่อการเดินทางและไม่ตรงกับเวลามาทำงาน โดยสรุปคือประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้รถไฟจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร ณ บริเวณด้านหลังศูนย์ราชการจังหวัดสระแก้ว
ทางจังหวัดสระแก้ว จึงได้ประสานงานกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามความต้องการของประชาชนดังกล่าว ซึ่งต่อมาการรถไฟฯ ได้อนุญาตให้ขบวนรถไฟทั้งเที่ยวขึ้น (กรุงเทพฯ-อรัญประเทศ) และเที่ยวล่อง (อรัญประเทศ-กรุงเทพฯ) จอดรับ-ส่ง ผู้โดยสาร ณ จุดหยุดรถด้านหลังศูนย์ราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นการทดลอง มีระยะเวลา 3 เดือน
โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2553 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2553 วันละ 4 ครั้ง (เที่ยวขึ้น 2 ครั้ง เที่ยวล่อง 2 ครั้ง) คือ เที่ยวขึ้น (กรุงเทพฯ-อรัญประเทศ) จอดรับ-ส่ง เวลา 10.40 น. และเวลา 16.54 น. เที่ยวล่อง (อรัญประเทศ-กรุงเทพฯ) จอดรับ-ส่ง เวลา 07.26 น. และ 14.42 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เที่ยวปฐมฤกษ์ในวันนี้ 1 มิถุนายน 2553 นี้ นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้ขึ้นโดยสารรถไฟสายปฐมฤกษ์ทั้งเที่ยวขึ้นและเที่ยวล่อง (ไปและกลับ) ระหว่างสถานีรถไฟวัฒนานครถึงจุดหยุดรถไฟด้านหลังศูนย์ราชการจังหวัดสระแก้ว
พร้อมกันนี้ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป ร่วมเดินทางไปพร้อมกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว โดยขบวนรถไฟสายปฐมฤกษ์เที่ยวล่อง (อรัญประเทศ-กรุงเทพฯ) ขบวนรถที่ 282
//----------------------------------------------------------------
ได้ป้ายหยุดรถ ศาลากลาง มาใหม่แน่ๆ |
|
Back to top |
|
|
alderwood
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/04/2006 Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา
|
Posted: 07/06/2010 8:56 pm Post subject: |
|
|
*แก้ไข ย้ายไปยังกระทู้ตามที่เฮียหมีบอกมาครับ* _________________ รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
Last edited by alderwood on 10/06/2010 12:13 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44044
Location: NECTEC
|
Posted: 09/06/2010 11:54 pm Post subject: |
|
|
^^^
แมวย่อง, ผมว่าเราน่าจะย้ายข่าวเรื่องทางคู่โคราช งบบานปลายเป็น จาก ๑๑,๖๔๐ ล้านบาทเป็น ๓ หมื่นล้านบาท เพราะ ค่าอุโมงค์ ๑๐ กิโลเมตร ไปไว้ที่ รอมานาน ในที่สุด โครงการรางคู่ก็ได้รับการประมูลแล้วครับ จะเหมาะสมกว่านะครับ
//------------------------------------------------------------------------- |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44044
Location: NECTEC
|
Posted: 09/06/2010 11:57 pm Post subject: |
|
|
คมนาคมนำโครงการรถไฟฟ้า-แลนบริดจ์โรดโชว์จีนมิ.ย.นี้
หน้า ธุรกิจ
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 9 มิถุนายน 2553 19:00
นาย โสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมจะนำโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟทางคู่ และโครงการพัฒนาสะพานเศรษฐกิจสตูล-สงขลา เพื่อเชื่อมการขนส่งสินค้าท่าเรือน้ำลึกจากอ่าวไทยไปฝั่งอันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์ มูลค่าโครงการรวมกว่า 1 ล้านล้านบาท ไปโรดโชว์ที่ประเทศจีนภายในสิ้นเดือนนี้
ทั้งนี้ มั่นใจว่านักลงทุนจีนจะให้ความสนใจลงทุนโครงการในประเทศไทย เพราะที่ผ่านมามีผู้แทนจากประเทศจีนแสดงความสนใจและติดต่อเพื่อเข้าร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก การไปโรดโชว์ครั้งนี้จะทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งประเทศไทยจะได้พบกับนักลงทุนตัวจริง ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้นจะเป็นการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบ PUBLIC PRIVATE PARTNERSHIPS(PPPs)
ด้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะนำไปโรดโชว์ ประกอบด้วย
1. เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย
2. เส้นทางกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี
3. เส้นทางกรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์
4. เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง-จันทบุรี และ
5. เส้นทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ซึ่งคาดว่าเส้นทางนี้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนจีน เพราะเป็นเส้นทางที่สามารถรองรับการขนส่งทางรถไฟจากประเทศจีนได้
นอกจากนี้ จะนำโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างไปโรดโชว์เพื่อที่จะหาผู้ร่วมทุนในส่วนของระบบรถไฟฟ้าด้วย ไม่ว่าจะเป็น
1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่
2. โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ
3. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ และแบริ่ง-สมุทรปราการ
รวมทั้งโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั่วประเทศในส่วนที่เหลืออีกกว่า 2,700 กิโลเมตรด้วย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44044
Location: NECTEC
|
Posted: 10/06/2010 12:17 am Post subject: สัมปทานรถไฟความเร็วสูง? |
|
|
คมนาคมเร่ง4โปรเจ็กต์7แสนล. ใช้โมเดล"PPP"ล่อเอกชนลงทุน
ข่าวหน้า 1 ประชาชาติธุรกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 4217 วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553
สืบเนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายผลักดันการลงทุนกิจการโครงสร้างพื้นฐานภายใต้รูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า PPPs (Pubic Private Partnership) หรือการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนด้วยการโปรโมตให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนของรัฐเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน โดยรัฐบาลไม่ต้องนำเงินลงทุนเองทั้งหมดเหมือนในอดีต แต่ให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนโดยเสนอผลประโยชน์ตอบแทนใน รูปแบบต่าง ๆ
ล่าสุด นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในรูปแบบพีพีพี มีกำหนดประชุมช่วงปลายเดือนมิถุนายน-ต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ตามแผนคือจะเร่งดำเนินการในปี 2554 นี้เป็นต้นไป
1. รถไฟความเร็วสูง 7 แสนล้าน
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กระทรวงคมนาคมมีโครงการที่จะเสนอให้คณะกรรมการพีพีพีพิจารณา คือ โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (250 กิโลเมตร/ชั่วโมง) 4 สาย ระยะทางกว่า 2,500 กิโลเมตร เงินลงทุนประมาณ 7 แสนล้านบาท
โดยใน 4 สายนี้เป็นระยะทางที่วิ่งไปสุดเขตของประเทศ ได้แก่
1.ภาคเหนือ สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 745 กิโลเมตร วงเงิน 209,396 ล้านบาท
2.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สายกรุงเทพฯ-หนองคาย 615 กิโลเมตร 180,379 ล้านบาท
3.ภาคตะวันออก สายกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-ระยอง 221 กิโลเมตร 56,601 ล้านบาท
4.ภาคใต้ สายกรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ 982 กิโลเมตร 247,855 ล้านบาท
2. สายสีม่วงลงเพิ่ม 1.3 หมื่นล้าน
แหล่งข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ทางคณะกรรมการตามมาตรา 13 ภายใต้ พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ กำลังพิจารณาร่างทีโออาร์ประกาศเชิญชวนเอกชนเข้ามาลงทุนด้านการเดินรถไฟฟ้า ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตร โดยลงทุนรูปแบบ พีพีพี Gross Cost ซึ่งเอกชนจะลงทุนวางระบบรางและจัดหาขบวนรถไฟฟ้า ขณะที่ภาครัฐจะเก็บค่าโดยสารมาชำระคืนให้กับเอกชน วงเงินลงทุน 13,243 ล้านบาท เป็นค่างานระบบรถไฟฟ้า (M&E) วงเงิน 7,323 ล้านบาท และขบวนรถไฟฟ้าอีก 5,920 ล้านบาท
ในเบื้องต้นจะจ้างเอกชนระยะยาว 30 ปี คาดว่าจะออกประกาศทดลองตลาดรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนได้ในเดือนมิถุนายนนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน หลังจากนั้นภายในเดือนกรกฎาคมจึงจะประกาศร่างทีโออาร์
นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BMCL ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดินกล่าวว่า บริษัทจะเข้าร่วมประมูลแน่นอนโดยอาจจะร่วมกับพันธมิตรหลายราย เนื่องจากเอกชนต้องลงทุนก่อนแล้วรัฐ จ่ายเงินคืนให้ภายหลัง เพื่อเป็นจุดแข็งให้บริษัทมีโอกาสได้งานสูงกว่าคู่แข่ง เมื่อได้พันธมิตรด้านการเงิน และซัพพลายเออร์ผลิตรถไฟฟ้า หลังจากที่ รฟม.มีเงื่อนไขออกมาคาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนขึ้น |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44044
Location: NECTEC
|
Posted: 12/06/2010 3:32 am Post subject: |
|
|
ย้ายให้แล้วตามประสงค์ครับ เพราะ ตอนแรกก็กะจะลงต่อท่้ายบทความนั้นเช่นกัน
VVVV
Last edited by Wisarut on 12/06/2010 4:54 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44044
Location: NECTEC
|
Posted: 17/06/2010 12:59 am Post subject: |
|
|
"โสภณ"คิดการใหญ่ดึงจีนลงทุนขนส่งระบบราง1ล้านล้าน
ประชาชาติธุรกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 4218 วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานปีนี้ในช่วง 6 เดือนที่เหลือ จะเร่งผลักดันโครงการขนาดใหญ่ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะระบบราง ทั้งรถไฟทางคู่และรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ โดยในปลายเดือนมิถุนายนนี้ กระทรวงคมนาคมจะเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อโรดโชว์เชิญชวนเอกชน ผู้ที่สนใจให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ภายใต้รูปแบบ PPPs (Pubic Private Partnership) หรือการร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชน โดยจะโปรโมตว่ากระทรวงคมนาคมมีโครงการลงทุนอะไรบ้าง เช่น รถไฟความเร็วสูง ทางคู่ ท่าเรือแห่งใหม่ ที่ปากบารา จ.สตูล และโครงการแลนด์บริดจ์ เป็นต้น เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนว่ามีแผนงานที่จะดำเนินการจริง ๆ หลังจากที่ปัญหาการเมืองสงบแล้ว โดยจะทำควบคู่ไปกับแนวทางของกระทรวงการคลังที่จะมีการจัดทำ market sounding หรือการรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนที่มีต่อโครงการต่าง ๆ เร็ว ๆ นี้
เหตุที่เลือกประเทศจีน เพราะมีความสนใจจะเข้ามาลงทุนระบบรางอยู่แล้ว และได้รับการติดต่อมาเยอะมาก แต่ติดช่วงที่ผ่านมามีปัญหาการเมืองภายในมาตลอด และผลสืบเนื่องจากที่นายกรัฐมนตรี (อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปเยือนประเทศจีน และทางจีนให้เงินสนับสนุนมา 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ในอัตราดอกเบี้ย 5% ซึ่งกระทรวงจะนำมาซื้อหัวรถจักร แต่ยังนำมาใช้ไม่ได้ ติดเงื่อนไขที่ผูกมัดเกินไป ต้องซื้อของจากประเทศจีน ภาษี และอนุญาโตตุลาการที่ต้องใช้กฎหมายจีน ทางคลังกำลังพิจารณารายละเอียด"
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการที่จะนำไป โรดโชว์ประเทศจีน มีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท มีรถไฟความเร็วสูง 4 สาย คือ
กรุงเทพฯ-เชียงใหม่,
กรุงเทพฯ-ระยอง,
กรุงเทพฯ-หนองคาย และ
กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์
ประมาณ 7 แสนล้านบาท รถไฟทางคู่ส่วนที่เหลืออีก 2,700 ก.ม. นอกจากงบฯปรับปรุงของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่ ครม.อนุมัติลงทุน 1.9 แสนล้านบาท ประมาณ 5-6 หมื่นล้านบาท การพัฒนาโครงข่ายรถไฟสายใหม่ 2,651 ก.ม. เช่น
สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของที่เชื่อมกับประเทศจีน เป็นต้น
การพัฒนาท่าเรือแห่งใหม่ ที่ปากบารา จ.สตูล อีก 13,000 ล้านบาท โครงการพัฒนาสะพานเศรษฐกิจ จ.สตูล-สงขลา เพื่อเชื่อมการขนส่งสินค้าท่าเรือน้ำลึกจากอ่าวไทยไปฝั่งอันดามัน (แลนด์บริดจ์) ประมาณ 4-5 แสน ล้านบาท
การเดินรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ มี
สายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) 13,243 ล้านบาท
สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) วงเงิน 22,000 กว่าล้านบาท สายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่)
สายสีชมพู (แคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี) ให้ลงทุนแบบเทิร์นคีย์ (เบ็ดเสร็จ) |
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 17/06/2010 5:40 pm Post subject: |
|
|
^
^
จากข่าวข้างบน เป็น เรื่องที่รัฐบาล มีการประชุมการตั้งใข่ GMS ที่เชียงใหม่ โน้น
เมื่อ ประมาณ 8 ปีที่แล้ว สมัยคุณสมคิด เป็นรองนายก ส่วนในวงการเสวนา กับมาดามอู๋อี๋โน่นแหนะ....รายละเอียด มีเพิ่มเรื่องรถไฟฟ้า สารพัดสายที่เพิ่มมา ก็เท่านั้นเอง
หนึ่งในคนที่อยู่ในห้องประชุมที่เชียงใหม่ สมาชิกในเวบก็เจอในงาน เสวนาเรื่องรถไฟฟ้าความเร็วสูง ครั้งที่สองที่โรงแรมพูลแมน (อ.เอก กับ พี่น้อย ก็เจอด้วยแน...)
สรุปว่า "ขาใหญ่" ตัวจริงออกมาเคาะ แล้ววุ้ย...
ส่วนที่คิดว่า รถจีน มันห่วย ไม่ได้เรื่อง ...ถ้าในอดีต (ในความเห็นส่วนตัว)เป็นเรื่องจริง
แต่ตอนนี้ "ผู้ส่งออก" ระบบราง ในช่วงปีนี้ จีน มีสัดส่วนการส่งออก มากกว่า 50 % ในตลาดโลก
และมีการพัฒนาเทคโนโลยี และคุณภาพ รวมถึงการสร้างคน ที่เกี่ยวข้องในภาคการผลิต ของระบบราง อย่างต่อเนื่อง
สำหรับบ้านเรา คงต้องคิดกันต่อว่า ต่อไป ถ้าประเทศของเราคิดที่จะจะซื้อ ระบบรางที่มีเทคโนโลยีที่สูงขึ้นๆ ไปมาใช้
โดยไม่มีการพัฒนาองค์ความรู้ ที่เกี่ยวข้องกับระบบราง และการสร้างคนที่เข้าใจเข้าถึงเทคโนโลยี ของระบบราง และนำคนที่มีความรู้ความสามารถ มาใช้ระบบ
โดยมีนโยบายภาครัฐ ที่มาจากภาคการเมืองเป็นตัวชี้นำ เพราะผลงานจะตกกับผู้บริหารที่มาจากภาคการเมือง ที่เป็นคนผลักดันในนโยบายและผลสำเร็จ โดยระบบข้าราชการประจำที่สนองตอบโจทย์ ได้เป็นอย่างดี ผลสำเร็จมักจะวัดกันที่มีการผ่านการพิจารณานำงบประมาณของประเทศ ออกมาได้.......ในแต่ละยุกแต่ละสมัย แต่จะดำเนินการต่ออย่างไร ก็อีกขั้นตอนนึง อะอะ
จากนโยบายที่คิดว่าซื้อลูกเดียว แต่จะมีการสร้างคน รวมถึงการพัฒนาคนให้มีองค์ความรู้มาต่อยอดและถ่ายทอดสู่คนรุ่นต่อไปอย่างไร ตรงนี้ (ในความเห็นยังไม่มีแนวนโยบาย อะไรซักกะติ๊ด... วังเวง จริง ๆๆ)
จากความเห็นข้างต้น เมื่อกลับมาดูในแวดวงสมาชิกในบ้านเรา ....... คิดเห็นอย่างไร
ตัวชี้วัด อยู่ในหมวดไหน .......
ฝากเป็นประเด็นขำ ๆให้สมาชิกช่วยกันขบคิดกัน หละครับ
คนอายุเยอะอย่างผม คงได้แค่นับถอยหลัง มองตาปริบ ๆ ต่อไป อะอะ.... |
|
Back to top |
|
|
Cummins
2nd Class Pass
Joined: 28/03/2006 Posts: 719
Location: มหาวิทยาลัยราชมงคลอิสาน วิทยาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา
|
Posted: 18/06/2010 1:16 pm Post subject: |
|
|
nathapong wrote: | ^
สำหรับบ้านเรา คงต้องคิดกันต่อว่า ต่อไป ถ้าประเทศของเราคิดที่จะจะซื้อ ระบบรางที่มีเทคโนโลยีที่สูงขึ้นๆ ไปมาใช้
โดยไม่มีการพัฒนาองค์ความรู้ ที่เกี่ยวข้องกับระบบราง และการสร้างคนที่เข้าใจเข้าถึงเทคโนโลยี ของระบบราง และนำคนที่มีความรู้ความสามารถ มาใช้ระบบ
โดยมีนโยบายภาครัฐ ที่มาจากภาคการเมืองเป็นตัวชี้นำ เพราะผลงานจะตกกับผู้บริหารที่มาจากภาคการเมือง ที่เป็นคนผลักดันในนโยบายและผลสำเร็จ โดยระบบข้าราชการประจำที่สนองตอบโจทย์ ได้เป็นอย่างดี ผลสำเร็จมักจะวัดกันที่มีการผ่านการพิจารณานำงบประมาณของประเทศ ออกมาได้.......ในแต่ละยุกแต่ละสมัย แต่จะดำเนินการต่ออย่างไร ก็อีกขั้นตอนนึง อะอะ
จากนโยบายที่คิดว่าซื้อลูกเดียว แต่จะมีการสร้างคน รวมถึงการพัฒนาคนให้มีองค์ความรู้มาต่อยอดและถ่ายทอดสู่คนรุ่นต่อไปอย่างไร ตรงนี้ (ในความเห็นยังไม่มีแนวนโยบาย อะไรซักกะติ๊ด... วังเวง จริง ๆๆ) |
ถ้าเป็นยังงี้เราก็จะได้เห็น
1. เอารถเบ็นซ์มาวิ่งทางเกวียน หรือ
2. สร้างไฮเวย์ ให้รถบัสแดง กะสิบล้อหัวยาวเก่า ๆ วิ่ง และ
3. เอาช่างอู่ข้างถนนมาซ่อมรถเบ็นซ์ E class หรือ S class รุ่นใหม่ล่าสุด
อย่างงี้ใช่มั้ยครับ _________________ อดีตโชเฟอร์ล้อเหล็ก |
|
Back to top |
|
|
kikoo
1st Class Pass (Air)
Joined: 01/02/2010 Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง
|
Posted: 18/06/2010 7:04 pm Post subject: |
|
|
Cummins wrote: |
ถ้าเป็นยังงี้เราก็จะได้เห็น
1. เอารถเบ็นซ์มาวิ่งทางเกวียน หรือ
2. สร้างไฮเวย์ ให้รถบัสแดง กะสิบล้อหัวยาวเก่า ๆ วิ่ง และ
3. เอาช่างอู่ข้างถนนมาซ่อมรถเบ็นซ์ E class หรือ S class รุ่นใหม่ล่าสุด
อย่างงี้ใช่มั้ยครับ |
นี่แหล่ะครับ...เมืองไทยยุคใหม่ _________________ ความคืบหน้าโครงการปรับปรุงทางช่วงที่วัง-กันตัง
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5618 |
|
Back to top |
|
|
|