RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312066
ทั่วไป:13671812
ทั้งหมด:13983878
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 93, 94, 95 ... 490, 491, 492  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
nathapong
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom

PostPosted: 19/06/2010 12:34 pm    Post subject: Reply with quote

kikoo wrote:
Cummins wrote:

ถ้าเป็นยังงี้เราก็จะได้เห็น
1. เอารถเบ็นซ์มาวิ่งทางเกวียน หรือ
2. สร้างไฮเวย์ ให้รถบัสแดง กะสิบล้อหัวยาวเก่า ๆ วิ่ง และ
3. เอาช่างอู่ข้างถนนมาซ่อมรถเบ็นซ์ E class หรือ S class รุ่นใหม่ล่าสุด
อย่างงี้ใช่มั้ยครับ


นี่แหล่ะครับ...เมืองไทยยุคใหม่ Wink


เป็นสิ่งที่คนในยุกต่อๆ ไป ต้องลงไปรับไปดูแล... หรือ จะรอดูเฉย ๆ ในรูปแบบของขยะ ก็แล้วแต่ .... อนาคต อยู่ในมือท่าน ครับ Question
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44044
Location: NECTEC

PostPosted: 22/06/2010 4:00 am    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.ชง ครม.ข้อเงินกู้ 1900 ล. นำร่องรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มิถุนายน 2553 21:33 น.

คมนาคมสรุปรถไฟ'ไฮสปีด'4เส้นทาง ส่ง สนข.ศึกษา'
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์ 21 มิถุนายน 2553, 16:50 น.

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการพิจารณาความพร้อมใน โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง คือ

กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 745 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 209,936 ล้านบาท,
กรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะทาง 615 กิโลเมตร วงเงิน 180,379 ล้านบาท,
กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ระยะทาง 937 กิโลเมตร วงเงิน 234,071 ล้านบาท และ
กรุงเทพ-ระยอง ระยะทาง 221 กิโลเมตร วงเงิน 56,601 ล้านบาท

พบว่าเส้นทางที่ควรดำเนินการก่อน คือ สายใต้ กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ และสายเหนือ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เพราะเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์ และจีนได้ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้เตรียมรายละเอียดโครงการเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เศรษฐกิจต่อไป

ทั้งนี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาแล้วแต่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม เนื่องจากส่วนใหญ่ศึกษาเรื่องการเดินทางภายในประเทศเท่านั้น หรือมีข้อมูลที่ล้าสมัยไปแล้ว เช่น การต่อเชื่อมการเดินทางกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งน่าจะเป็นประเด็นที่สำคัญและจะดึงดูดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน โดยเฉพาะสายใต้และสายเหนือ เนื่องจากเชื่อมต่อได้กับหลายประเทศ

โดยรูปแบบการลงทุนนั้นมี 4 รูปแบบ คือ

สำหรับการลงทุนแนวทางแรก และแนวทางที่สาม รัฐลงทุน 70% เอกชนลงทุน 30% สรุปความคุ้มค่าการลงทุนได้ 4-8%


1. รัฐลงทุนทั้งหมด 8แสนล้านบาท

2. รัฐบาลจะต้องรับภาระลงทุนงานโยธาทั้งหมด และให้เอกชนลงทุนตัวรถ ทำให้รัฐต้องใช้จ่ายถึง 8 แสนล้านบาท แต่ได้ความคุ้มค่ามากถึง 20-30%

3. รัฐและเอกชนร่วมลงทุนอย่างละครึ่ง หรือสัดส่วนๆ ละ 4 แสนล้านบาท มีความคุ้มค่าด้านการลงทุนเพียง 2-5 % และ

4. รัฐลงทุน 70% เอกชนลงทุน 30% สรุปความคุ้มค่าการลงทุนได้ 4-8%
ของมูลค่าโครงการ หรือ อาจให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด และดำเนินการแบบให้สัมปทานอายุ 30 ปี แต่ยังข้อกังวลว่าเอกชนอาจแบกรับภาระไม่ไหว เพราะผลตอบแทนทางการเงินไม่มากพอที่จะจูงใจ แม้ว่าแนวทางนี้จะดีสำหรับร.ฟ.ท. โดยร.ฟ.ท.จะได้รับผลตอบแทนเป็นค่าสัมปทาน, ค่าเช่า ,ส่วนแบ่งรายได้ และเมื่อครบ 30 ปีแล้ว ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นของ ร.ฟ.ท.ด้วย ซึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องความทรุดโทรมของวัสดุ อุปกรณ์ เพราะระหว่างที่เอกชนบริหารงานก็ต้องมีการปรับปรุงตามเวลาที่กำหนดในสัญญาสัมปทาน

ด้านนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า ความคุ้มทุนในการให้บริการนั้นจะต้องมีความถี่การเดินรถทุก 1 ชั่วโมง และแต่ละสายทางต้องมีผู้โดยสารถึง 70,000 คนต่อวัน ดังนั้นบางเส้นทางจึงต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ เช่น สายเหนือ ข้อมูลที่ไดจากการสัมมนารับฟังความคิดเห็นผู้ประกอบการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือที่จะพานักท่องเที่ยวมาเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงแทนเครื่องบิน เพราะประหยัดกว่า และใช้เวลาเดินทางไม่นาน กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงที่ความเร็วเฉลี่ย 170 กิโลเตรต่อชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันการเดินทางด้วยรถทัวร์ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง และเห็นว่าควรให้เอกชนเป็นผู้เดินรถ เพราะมีความคล่องตัวมากกว่าให้ ร.ฟ.ท.หรือบริษัทลูกรับผิดชอบ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา รัฐบาลเลือกที่จะให้ รฟท. ผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูงในเส้นทาง กรุงเทพ-ระยอง ระยะทาง 221 กิโลเมตร จากทั้งหมด 4 เส้นทาง เพราะเห็นว่าเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด น่าจะเกิดขึ้นได้ก่อนเส้นทางอื่นๆ แต่หากเปรียบเทียบศักยภาพทั้งหมด จะเห็นว่า ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูงสุดคือ เส้นทางกรุงเทพ-หาดใหญ่ จากผลวิเคราะห์ด้านการลงทุนด้านการเงินของ 4 เส้นทาง ที่ความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดย สนข.เห็นว่า รูปแบบที่รัฐรับภาระงานโยธาทั้งหมดเอกชนลงทุนระบบรถ ฯลฯ และทำในรูปแบบพีพีพีรัฐร่วมลงทุนกับเอกชนดีที่สุด ที่ประชุมจึงให้ รฟท.ไปสรุปและเสนอรายงานเข้ามาในการประชุมครั้งต่อไป

นายยุทธนากล่าวว่า ภายในเดือนต.ค.นี้ ร.ฟ.ท.จะเสนอครม. ขอกู้เงินเพิ่มอีก 1,900 ล้านบาท หลังจากที่เคยขอกู้ไปแล้ว 4,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง ในปีงบประมาณ 2553 เนื่องจากไม่สามารถจัดเก็บค่าโดยสารให้คุ้มทุนได้ แม้ว่ารัฐจะให้การอุดหนุนค่าโดยสารเชิงสังคมแต่มีความล่าช้าโดยปีนี้ ร.ฟ.ท.จะต้องได้รับเงินอุดหนุน 2,335 ล้านบาท แต่จะต้องรอไปอีก 2 ปี จึงจะได้รับเงินเข้ามาทำให้มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง โดยคาดว่าจะเสนอต่อที่ประชุม ครม.ได้ภายในเดือนต.ค.นี้
Back to top
View user's profile Send private message
BanPong1
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 07/12/2006
Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี

PostPosted: 22/06/2010 7:09 am    Post subject: Reply with quote

^
เอาแบบที่ 2 หรือ 3 หรือ 4 ก็ได้ครับ
บริษัทเอกชนควรเป็นบริษัทมหาชนนะครับ และกระจายหุ้นให้กับองค์กรท้องถิ่นรายทางรวมถึงพนักงานอย่างแท้จริง
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
heerchai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/07/2006
Posts: 7730
Location: อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

PostPosted: 22/06/2010 8:44 am    Post subject: Reply with quote

ผมแปลกใจว่า ไม่ไปทำสายรถไฟฟ้าความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ภูเก็ต ใช้แนวเส้นทางสายคีรีรัฐนิคม-ทับปุด-ภูเก็ต เผื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ น่าจะได้มากกว่า
Back to top
View user's profile Send private message
jojoja
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 04/02/2010
Posts: 133

PostPosted: 22/06/2010 9:44 am    Post subject: Reply with quote

ได้ยินว่าเอกชนเป้นผู้เดินรถแล้วรู้สึกหนาว
อืม เคยดูรายการตกผลึกตอน รถไฟ แล้ว
ที่พิธีกรพุดตอนท้ายๆว่า ประเทสไทยอาจจะไม่ต้องถึงกับมีรถไฟความเร็วสูง
เอาแค่รถไฟแบบปัจจุบันที่ดูคลาสสิค และมีความขลังเป็นเสน่ห์ที่มีในตัว
แต่ขอให้รัฐบาล เอาใจใส่การรถไฟหน่อย ไม่ใช่ปล่อยแบบตามมีตามเกิด
เวลาที่มีเหตุอะไรแย่ๆเกี่ยวกับรถไฟก็ดูเหมือนภาครัฐจะโยนความผิดมาให้การรถไฟและพนักงาน
รถไฟความเร็วสูงก็ดี แต่ลงทุนแล้วจะคุ้มค่าและคืนทุนได้วันไหน
ประชาชนคนไทยแค่ทุกวันนี้ก็แทบจะแย่งกันขึ้นรถไฟฟรีแล้ว
รถเร็ว รถด่วน ดูได้เลยว่าที่นั่งว่างแค่ไหนแล้วจะเอาปัญญาที่ไหนไปขึ้นรถไฟความเร็วสูง
_________________
เราโตมาได้ด้วยเงินจากรถไฟครับ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
BanPong1
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 07/12/2006
Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี

PostPosted: 22/06/2010 1:05 pm    Post subject: Reply with quote

heerchai wrote:
ผมแปลกใจว่า ไม่ไปทำสายรถไฟฟ้าความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ภูเก็ต ใช้แนวเส้นทางสายคีรีรัฐนิคม-ทับปุด-ภูเก็ต เผื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ น่าจะได้มากกว่า


เห็นด้วยครับเอียใช้
ควรแยกปลายทางออกเป็น 2 แฉก ได้ทั้ง 2 ฝั่งทะเล
หรือไม่ข้างภูเก็ตก็ทำ Feeder ให้ดูมีมาตรฐานหน่อย วิ่งได้สัก 160 กม./ชม.ก็โอเคแล้ว แล้วจะได้ใช้ขนส่งสินค้าได้ด้วย
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
digimontamer
3rd Class Pass (Air)
3rd Class Pass (Air)


Joined: 12/05/2009
Posts: 487

PostPosted: 22/06/2010 2:36 pm    Post subject: Reply with quote

Quote:

ด้านนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า จากการศึกษา เบื้องต้นพบว่า ความคุ้มทุนในการให้บริการนั้นจะต้องมีความถี่การเดินรถทุก 1 ชั่วโมง และแต่ละสายทางต้องมีผู้โดยสารถึง 70,000 คนต่อวัน


70,000 คนต่อวัน นี่เป็นตัวเลขที่มหาศาลมากๆครับ ผมยังสงสัยว่าจะหาผู้โดยสารจำนวนมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนได้ทุกวี่ทุกวัน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44044
Location: NECTEC

PostPosted: 22/06/2010 7:26 pm    Post subject: Reply with quote

ครม.อนุมัติปรับปรุงทางรถไฟ
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์ 22 มิถุนายน 2553, 18:30 น.


ครม.เทงบปรับปรุงทางรถไฟ 1.5 หมื่นล้าน-ซื้อหัวรถจักร 3 พันล.
มติชนออนไลน์ วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เวลา 16:36:42 น.


เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2553 นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)

1. ดำเนินการในโครงการปรับปรุงเส้นทางระยะที่ 5 ระยะทางกว่า 308 กม. ช่วงสถานีชุมทางแก่งคอย-แก่งเสือเต้น /สถานีสุรนารายณ์-บัวใหญ่/สถานีชุมทางถนนจิระ-ชุมทางบัวใหญ่ วงเงินกว่า 8,508 ล้านบาท และ

2. โครงการปรับปรุงทางระยะที่ 6 ระยะทาง 278 กม. จากชุมทางบัวใหญ่-หนองคาย วงเงิน 6,778 ล้านบาท สำหรับสาเหตุที่ที่คมนาคมเสนอขอปรับปรุงเนื่องจากปัจจุบันรางอยู่ในสภาพ เสื่อมโทรม มีขนาด 70 ปอนด์ต่อหลา และมีอายุการใช้งานมากว่า 43 ปี นับตั้งแต่การเปิดใช้เส้นทางแก่งคอย - บัวใหญ่ เมื่อ 19 สิงหาคม 2510

ครม. ให้สำนักงบประมาณเป็นผู้จัดสรรงบประมาณให้กับรฟท.หากไม่สามารถจัดสรรงบให้ได้ ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจาณาแห่งเงินกู้ และให้ค้ำประกันเงินกู้ด้วย เช่นเดียวกับกรณีการ โครงการปรับปรุงเส้นทางระยะที่ 1-2-3 ที่สำเร็จได้ด้วยเงินกู้ ธํนาคารเจบิก (ปัจจุบันคือไจก้า)

หากมีการปรับปรุง จะทำให้การขนส่งผู้โดยสารและสินค้ามีความปลอดภัยมากขึ้น และสามารถเพิ่มความจุของราง และทำให้เพิ่มขบวนรถได้มากขึ้นโดยหลังจากนี้รฟท.จะเร่งประกวดราคาคัดเลือก ผู้รับเหมาปรับปรุงทางระยะที่ 5 และ 6 ภายในปีนี้ ซึ่งมั่นใจว่ารฟท.จะสามารถดำเนินงานได้ตามแผนที่วางไว้ แม้ว่าที่ประชุมครม.จะมีความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าของกระบวนการจัดซื้อ จัดจ้างของรฟท. ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้รฟท.อยู่ระหว่างการปฏิรูปองค์การในการจัดตั้งหน่วย ธุรกิจ และการปรับปรุงแก้ไขระเบียบที่เป็นอุปสรรคในการทำงาน

นายโสภณ กล่าวต่อว่า ขณะที่การทำงานระหว่างผู้บริหารและสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรฟท.ก็สามารถ เชื่อมการทำงานด้วยกันได้ และจะไม่มีปัญหาในการดำเนินโครงการต่างๆ ภายในการปฏิรูปโครงสร้างรถไฟที่รัฐอนุมัติวงเงิน 1.76 แสนล้านบาท ซึ่งได้เริ่มโครงพัฒนาระบบอาณัติสัญญาณเป็นโครงการแรก

ขณะเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอโครงการจัดหาหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าน้ำหนักกดเพลาสูงสุด 15 ตัน/เพลา จำนวน 7 คันพร้อมอะไหล่ วงเงิน 833.4 ล้านบาท โดยใช้วิธีการจัดหาแบบแลกเปลี่ยนสินค้าที่มีมูลค่าเท่ากัน (Barter Trade) ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่าย และกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ค้ำประกัน และอนุมัติโครงการจัดหาหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าน้ำหนักกดเพลาะสูงสุด 20 ตัน/เพลาจำนวน 13 คันพร้อมอะไหล่ วงเงิน 2,145 ล้านบาท
(ชอบกลแฮะ Rolling Eyes )
Back to top
View user's profile Send private message
milkonline
2nd Class Pass (Air)
2nd Class Pass (Air)


Joined: 02/07/2009
Posts: 810
Location: อ.เมือง จ.ลพบุรี

PostPosted: 22/06/2010 9:41 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
[url=http://www.thairath.co.th/content/eco/91220]

เมื่จัดหาหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าน้ำหนักกดเพลาสูงสุด 15 ตัน/เพลา จำนวน 7 คันพร้อมอะไหล่ วงเงิน 833.4 ล้านบาท โดยใช้วิธีการจัดหาแบบแลกเปลี่ยนสินค้าที่มีมูลค่าเท่ากัน (Barter Trade) ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่าย และกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ค้ำประกัน และอนุมัติโครงการจัดหาหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าน้ำหนักกดเพลาะสูงสุด 20 ตัน/เพลาจำนวน 13 คันพร้อมอะไหล่ วงเงิน 2,145 ล้านบาท
(ชอบกลแฮะ Rolling Eyes )


เด่นชัด ขึ้นแล้วสินะครับ
จะออกมาแบบใดนั้น? คงต้องรอดูต่อไป Rolling Eyes
_________________
N-Scale model train lovers.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44044
Location: NECTEC

PostPosted: 23/06/2010 11:17 am    Post subject: รายละเอียด ข่าว Track Rehab สายอีสาน - รถจักรจีนแดง Reply with quote

ครม.อนุมัติ ร.ฟ.ท.จัดซื้อหัวรถจักร รบ.จีน 800 กว่า ล.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มิถุนายน 2553 19:32 น.


วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าน้ำหนักกดเพลาสูงสุด 15 ตันต่อเพลา จำนวน 7 คัน วงเงิน 757.680 ล้านบาท พร้อมอะไหล่วงเงิน 75.768 ล้านบาท วงเงินรวม 833.448 ล้านบาท โดยเปลี่ยนวิธีการจัดหาจากวิธีแลกเปลี่ยนสินค้าที่มีมูลค่าเท่ากัน (Barter Trade) ระหว่างรัฐบาลไทย และรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นการจัดหาด้วยวิธีปกติ โดย ร.ฟ.ท.จะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายจากเงินกู้และให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ และอนุมัติให้ ร.ฟ.ท.จัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าน้ำหนักกดเพลาสูงสุด 20 ตันต่อเพลา จำนวน 13 คัน ในราคาคันละ 165 ล้านบาท วงเงินรวม 2,145 ล้านบาท โดย ร.ฟ.ท.รับภาระค่าใช้จ่ายจากเงินกู้และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้

พร้อมอนุมัติดำเนินโครงการปรับปรุงทางระยะที่ 5 และ 6 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟม.) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยเส้นทางระยะที่ 5 ในเส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ รวมระยะทางประมาณ 308 กม. แบ่งเป็น 3 ช่วงคือ

ช่วงสถานีชุมทางแก่งคอย-แก่งเสื้อเต้น
ช่วงสถานีสุรนารายณ์-ชุมทางบัวใหญ่ และ
ช่วงสถานีชุมทางถนนจิระ-ชุมทางบัวใหญ่

ภายในกรอบวงเงิน 8,508 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี และรัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งสิ้น โดยให้สำนักงบประมาณ (สงป.) จัดสรรงบประมาณให้ ร.ฟ.ท. ดำเนินโครงการปรับปรุงทางระยะที่ 6 ในเส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือช่วงสถานีชุมทางบัวใหญ่-หนองคาย รวมระยะทาง ประมาณ 278 กม.ภายในกรองวงเงิน 6,779 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี และรับบาลรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งสิ้น โดยให้ สงป.จัดสรรงบประมาณให้ร.ฟ.ท.

ทั้งนี้ ครม.อนุมัติในหลักการกรณีที่ สงป.ไม่สามารถจัดสรรงบประมาณให้ ร.ฟ.ท.ได้ให้กระทรวงการคลัง ร่วมกับ ร.ฟ.ท.เป็นผู้พิจารณาแหล่งเงินกู้ วิธีกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอี้ยดต่างๆ ของการกู้เงินที่เหมาะสม ตลอดจนให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ และให้ สงป.ตั้งงบประมาณเพื่อชำระค่าธรรมเนียมการกู้เงินค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ดอกเบี้ย และเงินต้นของเงินกู้ดังกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 93, 94, 95 ... 490, 491, 492  Next
Page 94 of 492

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©