View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44053
Location: NECTEC
|
Posted: 31/07/2010 11:08 am Post subject: |
|
|
นครศรีฯซ้อมแผนวินาศกรรมขบวนรถไฟ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กรกฎาคม 2553 17:00 น.
วันนี้ (30 ก.ค.) ที่สถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทอง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากการก่อวินาศกรรม ที่มีผลกระทบรุนแรงระดับกลุ่มจังหวัด ประจำปี 2553 ณ สถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทอง อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยมี นายปริญญา จาติเสถียร ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และพัทลุง ให้การต้อนรับ
นายปริญญา จาติเสถียร ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในบ้านเมือง ส่งผลให้ภัยจากการก่อวินาศกรรมมีแนวโน้มเกิดบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงมากขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและรับมือภัยจากการก่อวินาศกรรม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยโดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ได้แก่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง และสุราษฎร์ธานี ดำเนินการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากการก่อวินาศกรรมที่มีผลกระทบรุนแรง ระดับกลุ่มจังหวัด ประจำปี พ.ศ.2553
โดยแบ่งการฝึกซ้อมแผนเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้ การฝึกซ้อมแผนรูปแบบในที่บังคับการ เพื่อประชุมซักซ้อมทำความเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติงานตามแผนป้องกันภัยจากการก่อวินาศกรรม และการฝึกซ้อมแผนรูปแบบปฏิบัติการจริง ณ สถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทอง อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยจำลองสถานการณ์ฉุกเฉินจากการก่อวินาศกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังปฏิบัติงานตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในแผน ตั้งแต่การเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ การแจ้งเตือน การประสานการปฏิบัติ การจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ เพื่ออำนวยการและสั่งการ การเผชิญเหตุ การค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ซึ่งการฝึกซ้อมแผนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดระบบการป้องกันอันตรายจากการก่อวินาศกรรมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเผชิญเหตุภัยพิบัติและปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ภายหลังการฝึกซ้อมแผนจะมีการประเมินผล เพื่อตรวจสอบข้อบกพร่อง และนำไปแก้ไขปรับปรุงในการดำเนินงานป้องกันภัยจากการก่อวินาศกรรม ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในระบบมาตรฐานความปลอดภัยของภาครัฐให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป |
|
Back to top |
|
|
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
|
Posted: 31/07/2010 3:08 pm Post subject: |
|
|
รฟท. สุดอั้นขอปรับค่าโดยสารทุกชั้นเพิ่ม 10%
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=310&contentID=81977
เอื้อเฟื้อโดย นสพ.เดลินิวสฺ วันเสาร์ ที่ 31 กรกฎาคม 2553 เวลา 6:02 น
วันนี้ 31 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กระทรวงคมนาคม นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ว่า รฟท.ได้เสนอขออนุมัติปรับโครงสร้างอัตราค่าโดยสารรถไฟเพิ่มขึ้น 10% สำหรับรถไฟชั้น 1 ,2 ,3 แต่เพื่อไม่ให้กระทบต่อนโยบายการให้ความช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาล และเพื่อไม่ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยต้องรับภาระเพิ่มขึ้น จึงมีมติให้รฟท.พิจารณาปรับค่าโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 เท่านั้น โดยชะลอการปรับค่าโดยสารชั้น 3 ไว้ก่อน และให้รฟท.หารือกับกระทรวงการคลังว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ หากกระทรวงการคลังเห็นชอบ รฟท.จะเริ่มใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้
ตอนแรกรฟท.ได้เสนอขอปรับค่าโดยสารเฉพาะรถไฟชั้น 3 ซึ่งจะส่งผลให้รฟท.มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ114 ล้านบาท และหากปรับราคาทุกชั้นจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 211 ล้านบาท สาเหตุที่ชะลอการปรับค่าโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 เป็นเพราะอัตราค่าโดยสารในปัจจุบันค่อนข้างสูง หากปรับเพิ่มอาจส่งผลให้ผู้โดยสารรถไฟชั้น 1 และชั้น 2 ลดลง เพราะประชาชนจะเลือกใช้บริการระบบขนส่งอื่นที่มีค่าโดยสารใกล้เคียงกันแทน โดยการปรับอัตราค่าโดยสารดังกล่าวจะส่งผลให้ค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ในระยะทาง100 กม.แรกเพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.237 บาท จากเดิม 0.215 บาท แต่บอร์ดเห็นว่า หากขึ้นค่าโดยสารชั้น 3 จะกระทบต่อผู้มีรายได้น้อย จึงให้ปรับราคาค่าโดยสารชั้น 1 และ 2 เท่านั้น
สำหรับการปรับค่าโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 เพิ่มขึ้น 10% จะส่งผลให้ค่าโดยสารชั้น 1 ในระยะทาง 100 กม.แรกเพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 1.025 บาท จากเดิมกม.ละ 0.932 บาท ส่วนระยะทางตั้งแต่ 101-200 กม. จะเพิ่มเป็นกม.ละ 0.938 บาท จากเดิม 0.853 บาท ระยะทางตั้งแต่201-300 กม. เพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.864 บาท จากเดิม 0.785 บาท และระยะทางตั้งแต่ 301 กม.ขึ้นไป เพิ่มเป็นกม.ละ 0.813 บาท จากเดิมกม.ละ 0.739 บาท
ส่วนค่าโดยสารรถไฟชั้น 2 ในระยะทาง 100 กม.แรก จะเพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.537 บาท จากปัจจุบันกม.ละ 0.488 บาท ระยะทางตั้งแต่101-200 กม. เพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ0.462 บาท จากเดิมกม.ละ 0.420 บาท ระยะทางตั้งแต่ 201-300 กม.เพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.413 บาท จากเดิมกม.ละ 0.375 บาท และระยะทางตั้งแต่ 301 กม.ขึ้นไปเพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.370 บาท จากเดิมกม.ละ 0.336 บาท
"การเสนอขอปรับค่าโดยสารรถไฟครั้งนี้ เป็นไปตามข้อตกลงการให้บริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2553 และข้อเสนอขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2554 ระหว่างรฟท.และกระทรวงการคลัง ซึ่งการปรับโครงสร้างค่าโดยสารเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงดังกล่าว และคาดว่าการปรับค่าโดยสารดังกล่าวจะส่งผลให้ รฟท.มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 97 ล้านบาท"นายยุทธนา กล่าว
อย่างไรก็ตาม อัตราค่าโดยสารรถไฟในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ยังคงเป็นโครงสร้างที่ใช้เมื่อปี 2528 และรฟท.ได้รับอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารครั้งล่าสุดในปี 2539 โดยเป็นปรับเฉพาะค่าโดยสารรถไฟชั้น 1 และชั้น 2เท่านั้น ซึ่งในช่วงนั้นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ราคาลิตรละประมาณ 8 บาท แต่ปัจจุบันมีราคาลิตรละ 28.79 บาท ส่งผลให้รฟท.มีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นทุกปี ในขณะที่การขนส่งทางถนนได้ปรับค่าโดยสารให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันอยู่ตลอด เวลา _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ................... |
|
Back to top |
|
|
suraphat
1st Class Pass (Air)
Joined: 12/02/2007 Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง
|
Posted: 31/07/2010 3:35 pm Post subject: เสนอให้มีการขึ้นค่าโดยสาร |
|
|
กระผมเห็นด้วยเลยนะครับ ที่จะให้มีการขึ้นค่าโดยสารชั้น 3 นะสิครับ โดยอยากจะให้มีการขึ้นเป็นขั้นต่ำ 5 บาทนะสิครับ(จากเดิมขั้นต่ำ2 บาท)
เช่นเมื่อมีการซื้อตั๋วโดยสารจาก กรุงเทพไปลงที่สามเสนหรือบางซื่อ ก็ให้เสียค่าโดยสาร 5 บาท(จากเดิมเสียแค่ 2 บาท)ดังนี้เป็นต้น
ซึ่งกระผมเห็นว่าควรที่จะเริ่มค่าโดยสารอัตราใหม่นี้ ภายหลังจากโครงการรถไฟฟรีนี้เสร็จสิ้นนะสิครับ |
|
Back to top |
|
|
Kan
3rd Class Pass
Joined: 05/07/2010 Posts: 189
Location: กรุงเทพ - ชุมทางทุ่งสง
|
Posted: 31/07/2010 6:21 pm Post subject: |
|
|
อยากให้เพิ่มค่าโดยสารชั้น 3 มากกว่า และอยากให้มีการปรับโครงสร้างราคาค่าโดยสารด้วยถ้าเป็นไปได้ ส่วนจะขึ้นราคาในชั้น 1 และ 2 ไม่น่าจะดีเพราะลำพังราคาในปัจจุบันก็แทบจะแข่งขันกับบรรดารถทัวร์ยากอยู่แล้วน่ะครับ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 31/07/2010 9:33 pm Post subject: |
|
|
ผมว่าไม่น่าจะเดือดร้อนเท่าไหร่นะครับ สำหรับผู้โดยสารชั้น 3
เพราะตอนนี้ก็เป็นรถไฟฟรีอยู่แล้วนี่นา |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44053
Location: NECTEC
|
Posted: 02/08/2010 10:00 am Post subject: |
|
|
แต่พอมาดูข่าวมติชน กลับบอกว่าขึ้นราคาเฉพาะ ชั้น 1- 2 - ชั้น 3 ยังตรึงไว้ - ฟังดูพิกลๆ อยู่
//----------------------------------------------------------------------------------------------
รถไฟฯปรับค่าโดยสารชั้น1และ2 ขึ้น 10% มีผล1ต.ค.53 ส่วนชั้น3ยังไม่ขึ้น
มติชนออนไลน์ วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 16:06:14 น.
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ รฟท.เมื่อวันที่30 ก.ค.มีมติให้ รฟท.ปรับขึ้นค่าโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 เพิ่มขึ้น10% มีผล 1ตุลาคม2553 อย่างไรก็ตามรฟท.ยังต้องมีการหารือกับกระทรวงการคลังว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ส่วนค่าโดยสารชั้น3ยังไม่มีการปรับขึ้น เนื่องจากที่ประชุมเห็นว่า เพื่อไม่ให้กระทบต่อนโยบายการให้ความช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาล และเพื่อไม่ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยต้องรับภาระเพิ่มขึ้น
นายยุทธนากล่าวว่า การเสนอขอปรับค่าโดยสารรถไฟครั้งนี้ เป็นไปตามข้อตกลงการให้บริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2553 และข้อเสนอขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2554 ระหว่าง รฟท. และกระทรวงการคลัง ซึ่งการปรับโครงสร้างค่าโดยสารเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงดังกล่าว และคาดว่าการปรับค่าโดยสารดังกล่าวจะส่งผลให้ รฟท.มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ ประมาณ 97 ล้านบาท
ทั้งนี้ อัตราค่าโดยสารรถไฟในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ยังคงเป็นโครงสร้างที่ใช้เมื่อปี 2528 และ รฟท.ได้รับอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารครั้งล่าสุดในปี 2539 โดยเป็นปรับเฉพาะค่าโดยสารรถไฟชั้น 1 และชั้น 2 เท่านั้น ซึ่งในช่วงนั้นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ราคาลิตรละประมาณ 8 บาท แต่ปัจจุบันมีราคาลิตรละ 28.79 บาท ส่งผลให้ รฟท.มีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นทุกปี ในขณะที่การขนส่งทางถนนได้ปรับค่าโดยสารให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันอยู่ตลอดเวลา
และหลังการ การปรับค่าโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 เพิ่มขึ้น 10% จะส่งผลให้ค่าโดยสารชั้น 1 ในระยะทาง 100 กม.แรกเพิ่มขึ้นเป็น กม.ละ 1.025 บาท จากเดิม กม.ละ 0.932 บาท ส่วนระยะทางตั้งแต่ 101-200 กม. จะเพิ่มเป็น กม.ละ 0.938 บาท จากเดิม 0.853 บาท ระยะทางตั้งแต่ 201-300 กม. เพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.864 บาท จากเดิม 0.785 บาท และระยะทางตั้งแต่ 301 กม.ขึ้นไป เพิ่มเป็น กม.ละ 0.813 บาท จากเดิมกม.ละ 0.739 บาท
สำหรับค่าโดยสารรถไฟชั้น 2 ในระยะทาง 100 กม.แรก จะเพิ่มขึ้นเป็น กม.ละ 0.537 บาท จากปัจจุบัน กม.ละ 0.488 บาท ระยะทางตั้งแต่ 101-200 กม. เพิ่มขึ้นเป็น กม.ละ 0.462 บาท จากเดิม กม.ละ 0.420 บาท ระยะทางตั้งแต่ 201-300 กม.เพิ่มขึ้นเป็น กม.ละ 0.413 บาท จากเดิม กม.ละ 0.375 บาท และระยะทางตั้งแต่ 301 กม.ขึ้นไปเพิ่มขึ้นเป็น กม.ละ 0.370 บาท จากเดิม กม.ละ 0.336 บาท
//---------------------------------------------------------------------------------
รฟท.ยันไม่ขึ้นค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 แน่นอน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 สิงหาคม 2553 12:52 น.
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ยืนยันว่า ยังไม่อนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารทั้งชั้น 1 2 และ 3 แต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวมาจากกรณีที่กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังเคยมีข้อตกลงการจัดหารายได้เพิ่ม ซึ่งรวมถึงการปรับค่าโดยสาร แต่นโยบายของรัฐบาลชัดเจนว่า จะดูแลผู้โดยสารที่รายได้น้อย ดังนั้นเชื่อว่าจะไม่ปรับค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 อย่างแน่นอน
ขณะที่บอร์ดรถไฟ เห็นควรให้สอบถามไปยังกระทรวงการคลัง ว่ารถไฟชั้น 1 และ2 ควรปรับราคาหรือไม่ รวมทั้งอาจเพิ่มรายได้จากแหล่งอื่นแทน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44053
Location: NECTEC
|
Posted: 03/08/2010 6:46 pm Post subject: |
|
|
คค.ชง ครม.จัดตั้งโครงการพัฒนาศูนย์ขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 สิงหาคม 2553 12:21 น.
การประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (3 ส.ค.) มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม มีวาระที่น่าสนใจ ดังนี้ กระทรวงคมนาคม เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องการดำเนินงานโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยขออนุมัติให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการพัฒนาขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ใช้งบประมาณลงทุนวงเงิน 2,025 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และจัดหาเครื่องมือขนส่งหลักสำหรับใช้ในโครงการ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44053
Location: NECTEC
|
Posted: 03/08/2010 7:48 pm Post subject: |
|
|
ขาน 1 ต.ค. ดีเดย์โครงสร้างใหม่การรถไฟ
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 18:39:35 น.
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่านับตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้ ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยจะเข้าสู่ระบบการทำงาน ภายใต้โครงสร้างใหม่ ซึ่งจะแยกเป็น 3 หน่วยธุรกิจ คือ
1.หน่วยธุรกิจด้านการเดินรถ
2.หน่วยธุรกิจซ่อมบำรุง
3.หน่วยธุกิจบริหารทรัพย์สิน และ
บริษัทลูก คือบริษัทเดินรถไฟฟ้า รฟท. จำกัด เพื่อทำหน้าที่เดินรถไฟแอร์พอร์ตลิ้งค์และรถไฟชานเมืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โดยยืนยันว่าโครงสร้างใหม่จะไม่กระทบกับพนักงานที่มีอยู่ เพราะใช้วิธีการโอนย้ายพนักงานทั้งหมดไปไว้ในกลุ่มธุรกิจต่างๆร่วมถึงไม่มีการปรับลดเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆด้วย
สำหรับเหตุผลในการปรับโครงสร้างครั้งนี้เพื่อให้การรถไฟมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นโดยเฉพาะหน่วยธุรกิจการเดินรถและบริหารทรัพย์สินที่มีโอกาสสร้างรายได้หลักเพิ่มขึ้นซึ่งมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและการนำที่ดินของการรถไฟมาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มที่ ภายในเดือนสิงหาคม คณะกรรมการแต่งตั้ง ซีอีโอ ดำเนินการคัดสรรคนในการรถไฟที่มีความเหมาะสมจากการแสดงวิสัยทัศน์เพื่อทำหน้าที่ ซีอีโอ แต่ละหน่วยธุรกิจ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44053
Location: NECTEC
|
Posted: 04/08/2010 4:03 am Post subject: |
|
|
ตั๋วรถไฟชั้น1-2ขึ้น1ต.ค. สั่งเร่งทางคู่แหลมฉบัง
หน้า เศรษฐกิจ
ไทยโพสต์ 4 สิงหาคม 2553 - 00:00
ชาวบ้านเตรียมช้ำใจค่ารถไฟขึ้น 10%
วันอังคาร ที่ 03 สิงหาคม 2553 เวลา 20:00 น
นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มีนโยบายให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งศึกษาข้อมูลในการหารายได้เพิ่มเติม โดยการปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งในวันที่ 1 ต.ค.นี้ จะต้องใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ ซึ่งเพิ่มจากเดิม 10% หรือกิโลเมตรละ 4 สตางค์ ส่วนรถไฟชั้น 3 จะยังไม่ปรับขึ้น
วันนี้ (3ส.ค.) ที่กระทรวงคมนาคม นายโสภณ ซารัมย์ รมว. คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังมีนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งศึกษาข้อมูลในการหารายได้เพิ่มเติม โดยการปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารชั้น 1 และ ชั้น 2 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยคาดว่า ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ จะใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ ซึ่งเพิ่มราคาจากเดิม 10 % หรือประมาณ กม.ละ 4 สตางค์ ส่วนค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ยังไม่ปรับราคา เนื่องจากไม่ต้องการให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ต้องเดือดร้อน
สำหรับการปรับค่าโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 เพิ่มขึ้น 10% จะส่งผลให้
ค่าโดยสารชั้น 1 ในระยะทาง 100 กม.แรกเพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 1.025 บาท จากเดิมกม.ละ 0.932 บาท ส่วนระยะทางตั้งแต่ 101-200 กม. จะเพิ่มเป็นกม.ละ 0.938 บาท จากเดิม 0.853 บาท ระยะทางตั้งแต่201-300 กม. เพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.864 บาท จากเดิม 0.785 บาท และระยะทางตั้งแต่ 301 กม.ขึ้นไป เพิ่มเป็นกม.ละ 0.813 บาท จากเดิมกม.ละ 0.739 บาท
ส่วนค่าโดยสารรถไฟชั้น 2 ในระยะทาง 100 กม.แรก จะเพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.537 บาท จากปัจจุบันกม.ละ 0.488 บาท ระยะทางตั้งแต่101-200 กม. เพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ0.462 บาท จากเดิมกม.ละ 0.420 บาท ระยะทางตั้งแต่ 201-300 กม.เพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.413 บาท จากเดิมกม.ละ 0.375 บาท และระยะทางตั้งแต่ 301 กม.ขึ้นไปเพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.370 บาท จากเดิมกม.ละ 0.336 บาท
สำหรับอัตราค่าโดยสารรถไฟในปัจจุบันไม่สอดคล้องราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ยังคงเป็นโครงสร้างที่ใช้เมื่อปี 2528 และ รฟท.ได้รับอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารครั้งล่าสุดในปี 2539 โดยเป็นปรับเฉพาะค่าโดยสารรถไฟชั้น 1 และชั้น 2เท่านั้น ซึ่งในช่วงนั้นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ราคาลิตรละประมาณ 8 บาท แต่ปัจจุบันมีราคาลิตรละ 28.79 บาท ส่งผลให้ รฟท.มีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นทุกปี.
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะทำงานติดตามการดำเนินงานโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง ระยะทาง 78 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 5,850 ล้านบาท กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการมีความคืบหน้า 69.7% ซึ่งล่าช้ากว่าแผนถึง 17%
เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถเปิดใช้ได้ตามแผนในเดือน มี.ค.2554 จึงมอบหมายให้ รฟท.ไปเร่งรัดผู้รับเหมาในทุกส่วนเร่งมือในการก่อสร้างให้เสร็จตามแผน หากไม่สามารถดำเนินงานได้เสร็จตามกำหนด จะต้องถูกปรับวันละ 3.9 ล้านบาท
Last edited by Wisarut on 05/08/2010 12:57 am; edited 3 times in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44053
Location: NECTEC
|
Posted: 04/08/2010 4:20 am Post subject: |
|
|
ครม.สั่งศึกษาแผนลงทุนขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือ
โดยทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์ 3 สิงหาคม 2553, 21:00 น.
ด้านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ พัฒนาศูนย์ขนส่งตู้รถไฟประจำท่าเรือแหลมฉบังของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) โดยใช้งบของ กทท.จำนวน 2,025 ล้านบาท โดย ครม.สั่งให้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อกลั่นกรองรายละเอียดโครงการอีกครั้ง.
โดยแผนการลงทุน ทาง กทท. จะทำการก่อสร้างลานขนถ่ายตู้สินค้าทางรถไฟ ในพื้นที่โซน 4 อยู่ระหว่างท่าเทียบเรือชุด B และชุด C ของท่าเรือแหลมฉบังเนื้อที่ประมาณ 600 ไร่ ซึ่งจะใช้ในครั้งนี้ประมาณ 370 ไร่ และสำรองไว้อีกประมาณ 230 ไร่ โดยลักษณะของลานขนถ่ายตู้สินค้าทางรถไฟ จะมีการติดตั้งรางรถไฟลักษณะเป็นพวงราง จำนวน 6 ราง โดยติดตั้งเครื่องมือยกขนตู้สินค้าชนิดเดินบนราง ที่สามารถทำงานคร่อมทางรถไฟได้ทั้ง 6 ราง ในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะมีขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าได้ถึง 2.0 ล้านทีอียู/ปี
ส่วนงบประมาณลงทุน แบ่งเป็น 2 ระยะ โดย
ระยะที่ 1 เป็นการพัฒนาเพื่อรองรับตู้สินค้าจนถึงระดับ 1.0 ล้านทีอียู/ปี
และพัฒนาเพิ่มเติมในระยะที่ 2 เพื่อให้สามารถรองรับตู้สินค้าได้ถึง 2.0 ล้านทีอียู/ปี ซึ่ง กทท.จะลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและจัดหาเฉพาะระบบเครื่องมือยกขนหลัก และเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าร่วมงานโดยเลือกจาก 2 ทางเลือก คือ
1. เอกชนจัดหาบุคลากรมาทำงานด้านการยกขนตู้สินค้า (Operation) ซึ่งผู้รับจ้างจะต้องจัดหาเครื่องมือย่อยและระบบไอที สำหรับปฏิบัติการ โดย กทท. เป็นผู้จัดเก็บรายได้และควบคุมกำกับการดำเนินงานของเอกชนและควบคุมด้านการ เงิน
2. เอกชนเป็นผู้ลงทุนจัดหาเครื่องมือย่อยและระบบไอที สำหรับปฏิบัติการและดำเนินการด้านการบริหารประกอบการทั้งหมด ซึ่งการ ให้เอกชนเข้าร่วมงานจะต้องดำเนินการตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้ เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ซึ่ง กทท. จะเสนอครม.พิจารณาอนุมัติหลักการในภายหลังพร้อมกับการเสนอขอปรับปรุง โครงสร้างและอัตราค่าภาระขั้นต่ำ/สูงของการยกขนตู้สินค้าขึ้นลงรถไฟใหม่ให้ เหมาะสม โดยในชั้นนี้เป็นการขออนุมัติดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและ จัดหาเครื่องมือยกขนหลักก่อน.
Last edited by Wisarut on 04/08/2010 9:16 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
|