Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312069
ทั่วไป:13675425
ทั้งหมด:13987494
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 100, 101, 102 ... 490, 491, 492  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44053
Location: NECTEC

PostPosted: 04/08/2010 5:57 am    Post subject: Reply with quote

ครม.เด้งคืนศูนย์ขนส่งรถไฟ สศช.กรองผวาเข้าก.ม.ร่วมทุน
เดลินิวส์ วันพุธ ที่ 04 สิงหาคม 2553 เวลา 8:10 น

นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประ จำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงคมนาคมได้เสนอขอให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ดำเนินโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยใช้งบประมาณลงทุนของกทท.วงเงิน 2,025 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและจัดหาเครื่องมือยกขนหลักสำหรับใช้ในโครงการฯ แต่ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปพิจารณารายละเอียดให้รอบคอบอีกครั้งก่อนเสนอให้ครม.เห็นชอบ

ทั้งนี้ระหว่างการพิจารณานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสศช.ว่าจะ พิจารณาคณะกรรมการสศช.เมื่อใด โดยให้ นำเรื่องนี้เข้าไปพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการด้วย เพราะมีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ โดยเฉพาะกรณีการปฏิบัติพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 หรือกฎหมายร่วมทุนปี 2535

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลกล่าวว่า ในข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมในครั้งนี้ทางกทท.ได้ระบุว่าจะเสนอขอความเห็นชอบจากครม.อีกครั้งว่าจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายร่วมทุนปี 2535 ในภายหลังพร้อมกับการเสนอขอปรับปรุง โครงสร้างและอัตราภาระขั้นต่ำและขั้นสูงของการยกขนตู้สินค้าขึ้นลงรถไฟอีกครั้งหนึ่ง จึงทำให้นายกฯได้ให้สศช. ไปพิจารณามาให้เรียบร้อยก่อน

ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมได้รายงานว่า กทท.ได้เสนอโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อพัฒ นาโครงสร้างพื้นฐานและจัดหาเครื่องมือยกขนหลักสำหรับใช้ในโครงการ โดยแผนการลงทุน ทางกทท. จะทำการก่อสร้างลานขนถ่ายตู้สินค้าทางรถไฟในพื้นที่โซน 4 อยู่ระหว่างท่าเทียบเรือชุด บี และชุด ซี ของท่าเรือแหลมฉบังเนื้อที่ประมาณ 600 ไร่ ซึ่งจะใช้ในครั้งนี้ประมาณ 370 ไร่ และสำรองไว้อีกประมาณ 230 ไร่ โดยลักษณะของลานขนถ่ายตู้สินค้าทางรถไฟ จะมีการติดตั้งรางรถไฟลักษณะเป็นพวงรางจำนวน 6 ราง โดยติดตั้งเครื่องมือยกขนตู้สินค้าชนิดเดินบนราง ที่สามารถทำงานคร่อมทางรถไฟได้ทั้ง 6 ราง ในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะมีขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าได้ถึง 2.0 ล้านทีอียูต่อปี

สำหรับงบประมาณลงทุนแบ่งเป็น 2 ระยะ โดย
ระยะที่ 1 เป็นการพัฒนาเพื่อรองรับตู้สินค้าจนถึงระดับ 1.0 ล้านทีอียูต่อปี และ
พัฒนาเพิ่มเติมในระยะที่ 2 เพื่อให้สามารถรองรับตู้สินค้าได้ถึง 2.0 ล้านทีอียูต่อปี.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44053
Location: NECTEC

PostPosted: 04/08/2010 11:31 pm    Post subject: กรรมาธืการคมนาคมวุฒิสภาบี้ รฟท. ให้สร้าง ICD 2 ที่อื่น Reply with quote

จี้ปรับICD2รับสินค้าสู่แหลมฉบัง
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหา
ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 30 กรกฏาคม 2010 เวลา 09:45 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,553 1-4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ รองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ)การคมนาคม วุฒิสภา เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าได้ให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ ไปปรับเปลี่ยนแผนการพัฒนาโครงการก่อสร้างสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง ICD แห่งที่ 2 ที่มีการศึกษามานานกว่า 5 ปีแล้ว อีกทั้งสถานที่ก่อสร้างคือย่านลาดกระบังที่เคยศึกษาไว้นั้น ยังไม่มีความเหมาะสมหลายประการ เนื่องจาก

1. ไม่สามารถรองรับสินค้าจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้สะดวก
2. เสียเวลาการขนย้าย

แต่หากใช้พื้นที่ย่านแก่งคอย สระบุรี หรือฉะเชิงเทราแทนเชื่อว่าจะสามารถขนสินค้ามุ่งตรงสู่ท่าเรือแหลมฉบังได้และช่วยร่นระยะทางและเวลาลงไปได้อีกมาก ที่สำคัญพื้นที่แหลมฉบังอาจจะมีปัญหาน้ำท่วมขังในอนาคต และปัญหาการจราจรตามมาเนื่องจากปัจจุบันเริ่มติดขัดมากขึ้นแล้ว

"จะซื้อหรือเวนคืนก็ต้องทำจึงควรเลือกพื้นที่ที่สามารถรองรับระบบโลจิสติกส์ในอนาคตไว้ด้วย โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าจากภาคเหนือที่จะมาจากจีนในอนาคตหรือจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ไปสู่ท่าเรือเพื่อการส่งออกที่แหลมฉบังได้รวดเร็วขึ้น ส่วนสถานีปัจจุบันควรบริหารจัดการใหม่ให้มีพื้นที่รองรับได้อีกเนื่องจากการจัดสร้างแห่งใหม่คาดว่าจะต้องใช้เวลา 2-3 ปีจึงจะแล้วเสร็จ ใช้งบประมาณสูงถึง 6,000 ล้านบาท และเกือบ 2,000 ล้านบาทเป็นค่าซื้อที่ดินหรือเวนคืน ส่วนที่เหลือเป็นการจัดซื้ออุปกรณ์เช่น เครน ตู้สินค้า จึงต้องควบคุมไม่ให้เกิดความล่าช้าเพราะประเทศไทยเสียเวลาและโอกาสทางธุรกิจมาแล้วหลายปีแล้ว"

ด้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่าได้มอบหมายให้ร.ฟ.ท.ไปศึกษาสาเหตุที่สินค้าล้นลานของสถานี ICD ลาดกระบังว่าเกิดจากสาเหตุใด หากสินค้ามาจากภาคเหนือและภาคอีสานก็ต้องหาพื้นที่แถวแก่งคอยหรือฉะเชิงเทราแทนเพื่อความสะดวกในการขนส่งต่อไปยังแหลมฉบังโดยไม่ต้องวกเข้ามาสร้างปัญหาจราจรในพื้นที่ลาดกระบัง ซึ่งหากศึกษาดีจะช่วยลดงบประมาณไปได้อีก

นอกจากนั้นยังต้องศึกษาการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายคมนาคมขนส่งอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย โดยเฉพาะทางถนนหรือทางด่วนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ พนักงานให้สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกและปลอดภัย และให้เร่งรัดให้ทันเปิดประมูลในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

"โครงการนี้คาดว่าต้องเวนคืนพื้นที่ให้ได้ประมาณ 900-1,000 ไร่ โดยต้องเปรียบเทียบผลดีผลเสียตลอดจนการรองรับในอนาคตด้วย ต้องให้สอดคล้องกับแผนการยกเครื่องการรถไฟฯเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการขนส่งสินค้าและขนส่งผู้โดยสารให้เกิดการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายให้มากที่สุดเกิดประสิทธิภาพสูงสุด"

แหล่งข่าวระดับสูงของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)เปิดเผยว่า การก่อสร้าง ICD แห่งที่ 2 เป็นโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการก่อสร้างทางคู่สายตะวันออกที่กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งผลักดัน อยู่ในแผนยกเครื่องระบบโครงสร้างพื้นฐานการรถไฟฯภายใต้งบประมาณ 1.7 แสนล้านบาท

ขณะที่สถานี ICD ลาดกระบังที่ให้บริการในปัจจุบัน ได้ถูกออกแบบให้รองรับปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ เข้า-ออกจำนวน 800,000 ทีอียู แต่รองรับปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ถึง 1.7 ล้านทีอียู

ส่วนปริมาณการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางรถไฟระหว่าง ICD ลาดกระบังและท่าเรือแหลมฉบังอยู่ที่ประมาณ 450,000 ทีอียูต่อปีเท่านั้น จึงจำเป็นต้องสร้าง ICD แห่งที่ 2 ควบคู่กับการก่อสร้างทางคู่สายตะวันออก เพื่อรองรับปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ที่เพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับที่ตั้ง ICD แห่งที่ 2 ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งตะวันออก (กพอ.) ซึ่งมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นว่าควรใช้พื้นที่ของที่หยุดรถทับยาว (ที่หยุดรถ กม. 35 - ยังไม่เปิดให้บริการจนจะย้าย ครฟ. ออกจาก กม. 11 และ ตึกแดง ให้หมด) ที่ใกล้กับลาดกระบังปัจจุบันประมาณ 5 กิโลเมตรเป็นสถานที่ก่อสร้างมูลค่า 6,066 ล้านบาท ตามโครงการไทยเข้มแข็งที่จะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2554

"ล่าสุดบริษัทที่ปรึกษาทบทวนความเหมาะสมด้านสถานที่ก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จต้นเดือนสิงหาคม 2553 นี้ ส่วนงบประมาณ 6,066 ล้านบาทนั้นจัดเป็นงบผูกพัน 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2554(2,000 ล้านบาท) ปี 2555(2,000 ล้านบาท) และปี 2556(2,066 ล้านบาท) มีทั้งเงินลงทุนค่าทดแทนที่ดินและอาคารสิ่งปลูกสร้าง รวมกว่า 1 พันล้านบาท และค่าก่อสร้างรวมกว่า 5 พันล้านบาท โดยเป็นการกู้จากแหล่งเงินตามที่กระทรวงการคลังเห็นชอบและ ร.ฟ.ท.จะรับผิดชอบดอกเบี้ยพร้อมการผ่อนชำระทั้งหมด โครงการนี้ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาแนวเวนคืนที่ดิน การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม การจัดทำเอกสารประกวดราคา คาดว่าจะประกาศขายซองได้ในต้นปี 2554 และเริ่มก่อสร้างได้ในปลายปี 2554 เพื่อให้เปิดใช้งานได้ในปี 2555-2556"

//-------------------------------------------------------------------

งวดนี้ รัฐบาลกะวุฒิสภาคงได้ ปะฉะดะ เอาก็คราวนี้เอง เพราะ วุฒิสภาอยากให้สร้าง ICD2ที่ ฉะเชิงเทราหรือแก่งคอย แต่ รัฐบาลจะเอาที่ทับยาว (กม. 35 สายตะวันออก)
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44053
Location: NECTEC

PostPosted: 05/08/2010 1:19 am    Post subject: Reply with quote

ปลัด คค.ห่วงขึ้นค่ารถไฟกระทบ ปชช.สั่ง รฟท.ศึกษาหารายได้ส่วนอื่นทดแทน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 สิงหาคม 2553 09:53 น.

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขออนุมัติปรับโครงสร้างค่าโดยสารรถไฟชั้น 1 และชั้น 2 ขึ้นอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนชั้น 3 ยังคงตรึงราคาเดิม โดยจะมีผลในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ว่า กระทรวงคมนาคมจะพิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่า เป็นห่วงว่าจะมีผลกระทบต่อประชาชนหากมีการขึ้นค่าโดยสารชั้น 3 ด้วย และมองว่าจะสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะลดค่าครองชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชน ทั้งนี้ ได้ให้ รฟท.ไปศึกษาหาแนวทางอื่น อาทิ การหารายได้ส่วนอื่นเข้ามาทดแทน เพื่อเตรียมเสนอรัฐบาลก่อนวันที่ 1 ตุลาคมนี้
นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยด้วยว่า ค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ขณะนี้ยังคงต่ำกว่าทุน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหากมีการปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟจริง ประชาชนก็ยังคงใช้บริการอยู่ และมองว่ารถไฟยังมีค่าโดยสารถูกกว่ารถโดยสารประเภทอื่น
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47428
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/08/2010 6:18 pm    Post subject: Reply with quote

นายกฯ เดินหน้าพัฒนาระบบรถไฟเพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุและเพิ่มความสะดวกมากขึ้น

ประจวบคีรีขันธ์ 7 ส.ค. 53 -นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดใช้เครื่องกั้นถนนอัตโนมัติ อย่างเป็นทางการ บริเวณที่หยุดรถสวนสนประดิพัทธ์ และสถานีรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คณะผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับโดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุทางรถไฟบ่อยครั้งซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้โดยสาร ทั้งที่ระบบรางควรเป็นระบบขนส่งหลักของประเทศที่สะดวก ปลอดภัยและประหยัดพลังงาน แต่ที่ผ่านมาการพัฒนาระบบรถไฟเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะต้องใช้งบประมาณสูง และยังไม่มีการส่งเสริมการใช้ระบบรางอย่างจริงจัง แต่ในรัฐบาลชุดนี้ ยืนยันชัดเจนว่า จะส่งเสริมการพัฒนาระบบรางให้เป็นระบบขนส่งหลัก โดยมีการวางแผนการใช้งบประมาณ การใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อปรับปรุงระบบรางทั่วประเทศอย่างเร่งด่วน ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารและเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะลงทุนเพื่อพัฒนาระบบรางใน 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย การปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบราง เพื่อให้การเดินทางเป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว การปรับปรุงพัฒนาหัวรถจักร และ การปรับปรุงระบบความปลอดภัย โดยรัฐบาลเทงบลงทุนใน 3 ด้านดังกล่าวกว่า 170,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มความเร็วของรถไฟได้มากขึ้นอีก 1 เท่าตัว จากเดิมที่ความเร็วเฉลี่ยรถไฟอยู่ที่ประมาณ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และการจัดทำเครื่องกั้นรางรถไฟอัตโนมัติ ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่การรถไฟแห่งประเทศไทยและกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการแล้ว ซึ่งระบบดังกล่าวจะมีประมาณ 2,000 จุดทั่วประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องความปลอดภัยในจุดตัดทางรถไฟทั่วประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงใน 4 เส้นทาง กรุงเทพ-หนองคาย,กรุงเทพ-ระยอง,กรุงเทพ-เชียงใหม่ และกรุงเทพ-ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังแสวงหาความร่วมมือกับประเทศจีน เพื่อพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงดังกล่าว

นอกจากนี้ ภายหลังนายกรัฐมนตรีได้เปิดใช้งานเครื่องกั้นทางรถไฟอัตโนมัติเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ขึ้นรถไฟไปยังสถานีรถไฟหัวหิน พร้อมกับอัดเทปรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ กับนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม บนขบวนรถไฟ และจะมีการแถลงข่าวภายหลังจากเสร็จสิ้นการอัดรายการแล้ว และมีกำหนดจะเดินทางกลับกรุงเทพในทันที โดยความร่วมมือโครงการพัฒนาเครื่องต้นแบบระบบเครื่องกั้นถนนอัตโนมัติ ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมผู้บริหารของกระทรวงคมนาคมให้การต้อนรับ ณ สถานีรถไฟหัวหิน และที่หยุดรถสวนสนประพัทธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเป็นเรื่องที่น่ายินดีของชาวหัวหินที่ได้ให้ความสำคัญเป็นแห่งแรก ในการเปิดตัวโครงการพัฒนาความปลอดภัยและเพื่อประสิทธิภาพในการเดินรถไฟ การดำเนินกรดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือของกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย เป็นต้น.- สำนักข่าวไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44053
Location: NECTEC

PostPosted: 08/08/2010 5:49 am    Post subject: Reply with quote

นายกฯ กดปุ่มใช้งานเครื่องกั้นถนนอัตโนมัติ ที่หัวหิน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 สิงหาคม 2553 10:11 น.


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดใช้เครื่องต้นแบบระบบเครื่องกั้นถนนอัตโนมัติอย่างเป็นทางการ และเปิดพิธีแถลงข่าวความร่วมมือโครงการพัฒนาเครื่องต้นแบบระบบเครื่องกั้นสนอัตโนมัติ(***) ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยและบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด โดยมี นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะให้การต้อนรับ ที่สถานีรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีของชาวหัวหินที่ได้รับความสำคัญเป็นแห่งแรก ในการเปิดตัวโครงการพัฒนาระบบความปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพ ความสำเร็จเครื่องต้นแบบระบบเครื่องกั้นถนนอัตโนมัติ ที่เปิดใช้งานในวันนี้ เป็นสัญญาณของการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชน ด้วยการเดินทางและการสัญจรอย่างปลอดภัย ภายใต้การดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ด้วยพันธสัญญาที่รัฐบาลมีให้กับประชาชนทั้งประเทศ ร่วมกันสร้างความสำเร็จของยุทธศาสตร์คมนาคมปลอดภัยสังคมไทยเป็นสุข ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งมั่นจะพัฒนาเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมทุกระบบ เพื่อสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งและจราจรในภูมิภาคต่อไป

//-----------------------------------------------------------------------------------

คมนาคมเร่งแก้ปัญหาจุดตัดรถไฟเร่งด่วน 900 จุดลดอุบัติเหตุ
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 12:41:24 น.


นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังร่วมในพิธีเปิดใช้เครื่องต้นแบบเครื่องกั้นทางรถไฟอัตโนมัติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยกล่าวว่า เครื่องกั้นทางรถไฟอัตโนมัติที่นำร่องติดตั้งบริเวณที่หยุดรถสวนสนประดิพัทธ์ และสถานีรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นการใช้งบแก้ไขปัญหาการรถไฟ วงเงิน 170,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลอนุมัติการสนับสนุน เป็นก้อนแรกจำนวน 3 ล้านบาทในการดำเนินการพัฒนาและติดตั้งเครื่องดังกล่าว


ส่วนเงินงบประมาณแก้ไขปัญหาส่วนที่เหลืออีก 169,997 ล้านบาท ที่จะขยายผลระบบเครื่องกั้นทางรถไฟทั่วประเทศอีก 2,000 กว่าจุด และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบราง การพัฒนาระบบหัวรถจักร และการพัฒนาด้านความปลอดภัยอื่น ๆ ตามโครงการพัฒนาและยกระดับการขนส่งระบบรางของประเทศ จะต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะจัดหาเงินมาสนับสนุนระบบราง โดยนายกรัฐมนตรีได้รับปากแล้วว่าจะเดินหน้าผลักดันระบบรางอย่างจริงจัง โดยจะเดินหน้าพัฒนารถไฟทั้ง 3 ด้านควบคู่กันไป ซึ่งความคืบหน้าการจัดหาหัวรถจักร ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเร่งทำทีโออาร์เพื่อจัดซื้อจัดจ้าง และการพัฒนาระบบรางขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาแผนการลงทุน

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่ รฟท.นำร่องระบบเครื่องกั้นรถไฟแบบใหม่นี้ที่หัวหิน หลังจากนี้ก็จะทยอยดำเนินการติดตั้งระบบนี้ที่จุดตัดรถไฟในพื้นที่สำคัญที่ได้มีการนำร่องโครงการสมาร์ท สเตชั่น ไปก่อนหน้านี้ เช่น

จ.พระนครศรีอยุธยา
จ.เชียงใหม่
จ.ลพบุรี และ
จ.กาญจนบุรี เป็นต้น

และจะดำเนินการให้ครบทั้งหมดภายในปี 2557 โดยจุดตัดที่การรถไฟจะดำเนินการเร่งด่วนนั้น นอกจากจะเป็นจังหวัดสำคัญก็จะมีการพิจารณาจากสถิติอุบัติเหตุของแต่ละจังหวัด ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 988 จุด ที่จะต้องดำเนินการปรับปรุงเร่งด่วน โดยหากการรถไฟได้รับงบประมาณสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ก็เชื่อว่าจะช่วยลดสถิติอุบัติเหตุในแต่ละปีได้เฉลี่ยปีละ 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนจุดลักผ่านอีก 540 จุด ที่อยู่นอกเขตทางของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทนั้น ส่วนนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ก็จะเข้ามาปรับปรุงเพื่อให้เกิดความปลอดภัย

สำหรับการทำงานของเครื่องกั้นทางรถไฟอัตโนมัตินี้ เป็นการควบคุมเครื่องกั้นทางรถไฟที่ตัดผ่านถนน โดยมีอุปกรณ์ตรวจจับขบวนรถด้วยสัญญาณจีพีเอส ซึ่งสัญญาณเหล่านี้จะแสดงสัญญาณไฟแจ้งการทำงานของเครื่องกั้นถนนให้พนักงานควบคุมหัวรถจักรทราบ รวมทั้งการแสดงสัญญาณไฟจราจรเพื่อควบคุมบริเวณจุดตัด มีระบบสัญญาณเตือนนับถอยหลังให้แก่ผู้ที่ขับรถผ่านจุดตัดดังกล่าวทราบโดยจะมีทั้งสัญญาณเสียงและสัญญาณไฟบอกทิศทางของหัวจักรรถไฟ นอกจากนี้สำหรับผู้ขับหัวรถจักรก็จะมีจอบอกตำแหน่งจุดตัดทางรถไฟของสถานีถัดไป แสดงสถานะของเครื่องกั้น รวมทั้งสามารถส่งพิกัดตำแหน่งและความเร็วของขบวนรถไปยังอุปกรณ์ควบคุมเครื่องกั้นอัตโนมัติและจะมีการรายงานผลให้นายสถานีใกล้เคียงรับทราบด้วยเช่นกัน
Back to top
View user's profile Send private message
nathapong
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom

PostPosted: 08/08/2010 6:19 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:

และจะดำเนินการให้ครบทั้งหมดภายในปี 2557 โดยจุดตัดที่การรถไฟจะดำเนินการเร่งด่วนนั้น นอกจากจะเป็นจังหวัดสำคัญก็จะมีการพิจารณาจากสถิติอุบัติเหตุของแต่ละจังหวัด ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 988 จุด ที่จะต้องดำเนินการปรับปรุงเร่งด่วน โดยหากการรถไฟได้รับงบประมาณสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ก็เชื่อว่าจะช่วยลดสถิติอุบัติเหตุในแต่ละปีได้เฉลี่ยปีละ 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนจุดลักผ่านอีก 540 จุด ที่อยู่นอกเขตทางของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทนั้น ส่วนนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ก็จะเข้ามาปรับปรุงเพื่อให้เกิดความปลอดภัย

สำหรับการทำงานของเครื่องกั้นทางรถไฟอัตโนมัตินี้ เป็นการควบคุมเครื่องกั้นทางรถไฟที่ตัดผ่านถนน โดยมีอุปกรณ์ตรวจจับขบวนรถด้วยสัญญาณจีพีเอส ซึ่งสัญญาณเหล่านี้จะแสดงสัญญาณไฟแจ้งการทำงานของเครื่องกั้นถนนให้พนักงานควบคุมหัวรถจักรทราบ รวมทั้งการแสดงสัญญาณไฟจราจรเพื่อควบคุมบริเวณจุดตัด มีระบบสัญญาณเตือนนับถอยหลังให้แก่ผู้ที่ขับรถผ่านจุดตัดดังกล่าวทราบโดยจะมีทั้งสัญญาณเสียงและสัญญาณไฟบอกทิศทางของหัวจักรรถไฟ นอกจากนี้สำหรับผู้ขับหัวรถจักรก็จะมีจอบอกตำแหน่งจุดตัดทางรถไฟของสถานีถัดไป แสดงสถานะของเครื่องกั้น รวมทั้งสามารถส่งพิกัดตำแหน่งและความเร็วของขบวนรถไปยังอุปกรณ์ควบคุมเครื่องกั้นอัตโนมัติและจะมีการรายงานผลให้นายสถานีใกล้เคียงรับทราบด้วยเช่นกัน


^
^
การป้องกันอุบัติเหตุ จะได้มรรคได้ผล
ขึ้นอยู่กับวินัยและการเคารพกฎของผู้ขับขี่รถยนต์ด้วยเช่นกัน....
...............................................................
ส่วนจะติดอุปกรณ์ ในรถจักรเพิ่มเติมนั้น เช่น GPS ก็ดี
แต่ ผู้บริหารของ รฟท อย่าลืมหันไปดูเกจ์วัด อุปกรณ์ต่าง ๆ บนรถจักร ให้ใช้งานได้ครบถ้วน ขนาดประชุมกับฝ่ายบริหารก็แล้ว ผลที่ออกมา ก็ "บุ๊กมาเดิม" จริงไหมเอ่ย หุหุ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
BanPong1
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 07/12/2006
Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี

PostPosted: 08/08/2010 1:27 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:

สำหรับการทำงานของเครื่องกั้นทางรถไฟอัตโนมัตินี้ เป็นการควบคุมเครื่องกั้นทางรถไฟที่ตัดผ่านถนน โดยมีอุปกรณ์ตรวจจับขบวนรถด้วยสัญญาณจีพีเอส ซึ่งสัญญาณเหล่านี้จะแสดงสัญญาณไฟแจ้งการทำงานของเครื่องกั้นถนนให้พนักงานควบคุมหัวรถจักรทราบ รวมทั้งการแสดงสัญญาณไฟจราจรเพื่อควบคุมบริเวณจุดตัด มีระบบสัญญาณเตือนนับถอยหลังให้แก่ผู้ที่ขับรถผ่านจุดตัดดังกล่าวทราบโดยจะมีทั้งสัญญาณเสียงและสัญญาณไฟบอกทิศทางของหัวจักรรถไฟ นอกจากนี้สำหรับผู้ขับหัวรถจักรก็จะมีจอบอกตำแหน่งจุดตัดทางรถไฟของสถานีถัดไป แสดงสถานะของเครื่องกั้น รวมทั้งสามารถส่งพิกัดตำแหน่งและความเร็วของขบวนรถไปยังอุปกรณ์ควบคุมเครื่องกั้นอัตโนมัติและจะมีการรายงานผลให้นายสถานีใกล้เคียงรับทราบด้วยเช่นกัน


พอจะมีภาพเครื่องกั้น+อุปกรณ์ที่ว่านี้ให้ดูไหมครับ
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 08/08/2010 2:13 pm    Post subject: Reply with quote

กำลังนำลงภาพข่าวในเวปเรานี่แหละครับ อ.วิรัตน์

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดเครื่องกั้นอัตโนมัติ
Back to top
View user's profile Send private message
BanPong1
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 07/12/2006
Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี

PostPosted: 08/08/2010 3:20 pm    Post subject: Reply with quote

ขอบคุณครับพี่ตึ๋ง
อย่างนี้แสดงว่าถ้าใช้ GPS ในรถจักรทุกคันก็ต้องติดให้ครบซิครับ
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
nathapong
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom

PostPosted: 08/08/2010 4:37 pm    Post subject: Reply with quote

^
^
อึ๋ย.... ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มในระยะยาว กับ GPS ใครจะออก หละเนี่ย Embarassed
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 100, 101, 102 ... 490, 491, 492  Next
Page 101 of 492

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©