ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

nathapong · Posted: 08/08/2010 4:50 pm Post subject:

^
^
สงสัย ทำงานบ้านให้แม่บ้านเสร็จแล้ว....มีเวลา มาลงข้อมูลให้ดิ Embarassed

pak_nampho · Posted: 08/08/2010 5:36 pm Post subject:

nathapong · Posted: 08/08/2010 6:07 pm Post subject:

Wisarut · Posted: 10/08/2010 5:52 pm Post subject:

รฟท.เร่งปรับปรุงหัวรถจักร 45คัน ภายใน 1ปี

หน้า ธุรกิจ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 10 สิงหาคม 2553 15:00

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า รฟท.มีแผนปรับปรุงหัวรถจักร 45 คัน โดยใช้งบประมาณในการปรับปรุง 5-6 แสนบาทต่อคัน (รวม 27 กว่าล้านบาท) โดยจะปรับปรุงทั้งภายใน ภายนอก รวมทั้งระบบเบรกให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้จะประเมินผลการปรับปรุงหัวรถจักร ทั้งนี้คาดว่า ภายใน 1 ปี จะต้องปรับปรุงหัวรถจักรที่มีคุณภาพไม่น้อยกว่า 165 คัน

pak_nampho · Posted: 11/08/2010 11:47 am Post subject:

รถไฟความเร็วสูง สาย ปชป. เอาอะไรไปแลกกับจีน ?

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 สิงหาคม 2553 01:31 น.

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000111111

เชื่อหรือไม่ อีก 3-5 ปี ประเทศไทยจะมีรถไฟความเร็วสูง วิ่งได้ชั่วโมงละ 350 กิโลเมตร ไปถึงหาดใหญ่ ภายในเวลา 3 ชั่วโมง

คนจำนวนมากไม่เชื่อ เพราะเรื่องรถไฟความเร็วสูงนี้ ที่ผ่านมาเป็นได้แค่ เรื่องที่นักการเมืองใส่เอาไว้ในนโยบายเพื่อหาเสียง แต่ไม่เคยเป็นจริงสักที รถไฟความเร็วสูง
จึงเป็นได้เพียงความฝัน ที่คนไทยทำใจได้แล้วว่า ยากที่จะกลายเป็นจริง

บัดนี้ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กำลังจะขายฝันเรื่อง รถไฟความเร็วสูงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากฝันครั้งนี้จะกลายเป็นจริงขึ้นมาได้ ก็น่าจะเป็นเพราะว่า ไม่ใด้ให้
การรถไฟแห่งประเทศไทย รับผิดชอบ

การผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูงเที่ยวล่าสุดนี้ เกิดขึ้นอย่างรีบด่วน หลังจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กลับจากจีนพร้อมกับ นายวีระชัย วีระเมธีกุล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ โดยระหว่างที่อยู่ที่จีน นายสุเทพ ได้พบกับ ผู้บริหารด้านกิจการรถไฟของจีนเพื่อหารือในเรื่องความร่วมมือในการพัฒนาระบบรถไฟไทย

นายสุเทพ เสนอใน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 28 กรกฎาคม ให้แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษารายละเอียดโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย กับรัฐบาลจีน
ในโครงการพัฒนากิจการรถไฟในระยะแรกจำนวน 2 โครงการ คือโครงการก่อสร้างรถไฟที่มีขนาดความกว้างของรางที่เป็นมาตรฐาน ( กว้าง 1.43 เมตร
ส่วนรางรถไฟไทยกว้างเพียง 1 เมตร) จากชายแดนไทย-ลาว ที่จังหวัดหนองคาย ไปสุดชายแดนไทยภาคใต้ที่สุไหงโก-ลก และโครงการรถไฟความเร็วสูง
เชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครและจังหวัดระยอง

คณะกรรมการชุดนี้ มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ส่วนกรรมการ ได้แก่ ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไม่มีการรถไฟแห่งประเทศไทย และปลัดกระทรวงคมนาคม ในคณะกรรมการชุดนี้
เพราะเป็นรถไฟความเร็วสูงสาย ปชป. ไม่ผ่าน สถานีภูมิใจไทย ยังดีที่นายสุเทพยอมตั้งนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการ เพราะ
นายโสภณทักท้วงในที่ประชุมวันนั้นว่า อาจจะไปทับซ้อนกับโครงการของ การรถไฟฯ

คณะกรรมการชุดนี้จะศึกษารายละเอียดการดำเนินงานให้ทัน การเดินทางไปเยือนจีนของนายอภิสิทธิ์ ภายในปีนี้ ซึ่งจะมีการลงนามในเอ็มโอยู ระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน
โดยหลักการคร่าวๆ จะมีการตั้งบริษัทร่วมทุนไทย-จีนขึ้นรับผิดชอบ บริหารจัดการโครงการทั้งสอง โดยฝ่ายไทยไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแต่หาที่ดินซึ่งจะใช้ที่ดิน ในเขตรถไฟ
สร้างรางรถไฟคู่ขนานไปกับ รางรถไฟในปัจจุบัน ที่เหลือฝ่ายจีนทำเองทั้งหมด ทั้งออกเงิน และลงมือสร้างราง โครงสร้างพื้นฐานในการเดินรถรวมทั้งการจัดหาขบวนรถไฟ

จีนมีเครือข่ายรถไฟที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชีย รองจากอินเดีย และลงทุนพัฒนาประสิทธิภาพของเครือข่ายมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ การพัฒนารถไฟความเร็วสูง

ห้าปีก่อน จีนไม่มีรถไฟความเร็วสูงเลย แต่ปัจจุบัน จีนมีเครือข่ายรถไฟความเร็วสูง มากกว่าทุกประเทศในทวีปยุโรป รวมกัน และคาดว่า อีก 2 ปีข้างหน้า จีนจะมีเส้นทางรถไฟ
ความเร็วสูงยาว 12,000 กิโลเมตร ยาวกว่าทุกประเทศใดลกรวมกัน

จีนยังสามารถผลิตรถไฟความเร็วสูงที่สามารถวิ่งได้เร็วกว่า 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 3 ปี ซึ่งเป็นผลจากการที่จีนตั้งเงื่อนไขให้
บริษัทที่เป็นเจ้าเทคโนโลยีระบบราง ทั้งในยุโรป แคนาดา และญี่ปุ่น ที่ต้องการเข้าไปลงทุนในจีน ต้องร่วมทุนกับบริษัทของรัฐบาล และถ่ายทอดเทคโนโลยี่ให้ด้วย

นอกจากการสร้างทางรถไฟความเร็วสูงในประเทศแล้ว จีนยังขยายเส้นทางรถไฟไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศที่อยู่ต่อเนื่องถัดไปด้วย

ศาสตราจารย์ หวัง เมิ่งฉู่ จากมหาวิทยาลัย ปักกิ่ง เจียวถง และเป็นสมาชิกของสถาบันวิศวกรรมศาสตร์แห่งชาติจีน เรียกการขยายเส้นทางรถไฟนี้ว่า "การทูตรถไฟ"
ซึ่งมีเป้าหมาย สองข้อ ข้อแรกคือ จีนต้องการพัฒนาภูมิภาคตะวันตกของตนเอง ซึ่งคาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จะมีผู้อพยพจำนวนหลายร้อยล้านคน
เคลื่อนย้ายศูนย์กลางธุรกิจและการผลิตไปยังภูมิภาคตะวันตกที่ยังรกร้างและ เข้าถึงยาก ข้อสอง เพื่อแลกกับทรัพยากรธรรมชาติของประเทศเพื่อนบ้าน

เส้นทางรถไฟความเร็วสูงของจีน แบ่งเป็น 3 เส้นทางคือ เส้นทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมคุนหมิง สิงคโปร์ เวียดนาม ไทย พม่า ลาว มาเลเซีย และสิงคโปร์
เส้นทางเอเชียกลางจากมณฑลซินเจียง ผ่านไปยังคาซัคสถาน อุซเบกิสถาน และเติร์กเมนิสถาน และหากเป็นไปได้อาจขยายยาวไปถึงเยอรมนี เส้นทางที่สาม
เริ่มจากมณฑลเฮยหลงเจียงในทางตะวันออกเฉียงเหนือ ขึ้นไปถึงรัสเซีย โดยมีปลายทางอยู่ที่ ยุโรปตะวันตก

ประเทศไทยจะเอาอะไรไปแลก ?

สิ่งที่จีนหวังจะได้จากการลงทุนสร้างรถไฟความเร็วสูง ให้ไทยในครั้งนี้ คงไม่ใช่ทรัพยากรธรรมชาติ แต่น่าจะเป็น ประโยชน์ในตัวของโครงการเอง
คือ ประเทศไทยเป็นทางที่จะต้องผ่านไปออกทะเลที่คาบสมุทรมลายาอยู่แล้ว แผนการเชื่อมทางรถไฟจากคุนหมิงไปถึงสิงคโปร์ จึงต้องได้รับความร่วมมือจากประเทศไทย
ทั้งยังเป็นการส่งออก อุตสาหกรรมรถไฟความเร็วสูง มาหารายได้จากค่าขนส่ง และค่าโดยสารในต่างประเทศ ส่วนประโยชน์ข้างเคียงที่จะได้คือ
เรื่องการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในภูมิภาค สองข้างทางรถไฟ เพื่อเสริมสร้างสถานะของจีน ในเวทีโลก

สำหรับประเทศไทยเรื่องนี้นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะไม่ต้องฝากความหวังไว้กับ การรถไฟฯ และกระทรวงคมนาคมอีกต่อไป หากสามารถบรรลุข้อตกลงกับจีนได้
โดยไม่เสียเปรียบ ความฝันที่จะได้นั่งรถไฟความเร็วสูง คงจะได้เป็นความจริงเสียที
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
Click on the image for full size

....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................

alderwood · Posted: 11/08/2010 2:12 pm Post subject:

จากบ้านหนองยาง สู่"ลำปลายมาศ"ด้วยรถไฟ

จาก
คมชัดลึก
11 สิงหาคม 2553
http://www.komchadluek.net/detail/20100811/69469/จากบ้านหนองยางสู่ลำปลายมาศด้วยรถไฟ.html

คมชัดลึก :ลำปลายมาศเป็นอำเภอใหม่ กระทรวงมหาดไทย ประกาศจัดตั้งให้เป็นกิ่ง อ.ลำปลายมาศ เมื่อ พ.ศ.2479 และต่อมาก็ได้ยกฐานะเป็น อ.ลำปลายมาศเมื่อ พ.ศ.2490

ลำปลายมาศแต่ดั้งเดิมทีเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ชาวบ้านเรียกว่า บ้านหนองยาง จนกระทั่งทางราชการได้สร้างทางรถไฟจากนครราชสีมาผ่านบุรีรัมย์ไปถึงอุบลราชธานี เมื่อ พ.ศ.2468

ทางรถไฟที่ว่านี้ได้ตัดผ่านบ้านหนองยาง จนชาวบ้านเรียกกันว่า สถานีบ้านหนองยาง หรือ สะเตหนองยาง เป็นภาษาเขมรตามภาษาถิ่นของชาวบ้าน

สถานีรถไฟที่บ้านหนองยางนี้เองที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ จากนั้นก็เริ่มมีผู้คนเดินทางเข้ามาตั้งรกราก ทำการค้าขายโดยมีสถานีรถไฟเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า

ความสำคัญของบ้านหนองยางก็เพิ่มขึ้น จนกระทั่งได้ยกฐานะ จาก บ้านหนองยาง มาเป็น กิ่ง อ.ลำปลายมาศ โดยขึ้นอยู่กับ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ สุดท้ายเป็ย อ.ลำปลายมาศ และเปลี่ยนชื่อสถานีรถไฟตามไปในที่สุด

ชื่อ อ.ลำปลายมาศนี้ได้มาจากชื่อลำน้ำที่ไหลผ่านดังที่ สมเด็จฯ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ได้ประทานอธิบายไว้ใน หนังสือบันทึกความรู้เรื่องต่างๆ เกี่ยวกับอำเภอแห่งนี้ว่า

"อำเภอตั้งใหม่ดูเหมือนจะอยู่ในจังหวัดนางรอง เรียกว่า อำเภอปลายมาศ ที่แท้นั้นชื่อ ไพรมาศ เปนชื่อแม่น้ำ พลเมืองโดยมากเปนเขมร เขมรออกเสียง ไพร เปน เปรย แล้วคงไปถูกใครพูด ร เปน ล เข้าอีกซ้ำหนึ่ง จึ่งกลายเปน ปลายมาศ”

ดังนั้น ความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานชื่อลำปลายมาศจึงแปลว่า
ลำ หมายถึง เส้นทาง, สายน้ำ ส่วน ปลาย เพี้ยนและกร่อนมาจากคำว่า ไพร หรือ เปรย แปลว่า ป่า, ขอบ, ริม หรือเรียกตอกเส้นกลมๆ ที่อยู่ใต้ขอบกระบุงกระจาดเป็นต้นว่า ตอกไพร และ มาศ เป็นคำสันสกฤต แปลว่า ทอง โดยรวมแล้วหมายความว่า เส้นทางหรือสายน้ำเงินทอง นั่นเอง!

"เรือนอินทร์ หน้าพระลาน"
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter

Wisarut · Posted: 11/08/2010 3:22 pm Post subject:

^^^
รายงานปี 2467 ก็ยังเรียกสถานีลำปลายมาศที่กำลังก่อสร้างเพื่อเป็นจุดเติมน้ำรถจักรว่าสถานีบ้านหนองยางนะครับ ก่อนจะเปิดการเดินรถถึงบุรีรัมย์ เมื่อ 1 เมษายน 2468

ช่วงปี 2468-73 มีเรือกลไปรับส่งจากสถานีท่าช้างไปเมืองอุบล พอ ตั้งสถานีวารินทร์ (สถานีอุบลราชธานี) ได้ก็เลยเลิกเดินเรือลงไฟที่ต้องรอน้ำขึ้นน้ำลงไป

Mongwin · Posted: 12/08/2010 11:27 am Post subject:

จัดรถไฟขบวนพิเศษ กรุงเทพฯ-อยุธยา “12 สิงหาพาแม่เที่ยว แม่ลูกผูกพัน"

กรุงเทพฯ 12 ส.ค.53 - กระทรวงคมนาคมจัดรถไฟขบวนพิเศษ กรุงเทพฯ - อยุธยา “12 สิงหาพาแม่เที่ยว แม่ลูกผูกพัน"

ชมวิดีโอคลิปที่นี่ครับ
http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/89279.html

นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปล่อยขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษ กรุงเทพฯ - อยุธยา ตามโครงการ “12 สิงหาพาแม่เที่ยว แม่ลูกผูกพัน” โดยมีคู่แม่ลูกเดินทางไปกับขบวนรถไฟเป็นจำนวนมาก เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวโบราณสถาน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยขบวนรถออกจากสถานีหัวลำโพง เวลาประมาณ 08.00 น. ถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเวลา 10.10 น. และเดินทางกลับในวันเดียวกัน นอกจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ยังจัดกิจกรรมให้พนักงานและประชาชน ช่วยกันทำความสะอาดสถานีรถไฟทุกแห่ง ถวายเป็นพระราชกุศล และรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดให้ประชาชนโดยสารฟรีไป – กลับ ระหว่างสถานีพญาไทถึงสถานีสุวรรณภูมิ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.

ส่วนเย็นวันนี้ จะมีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติที่สถานีหัวลำโพง และสถานีพระนครศรีอยุธยา โดยมีการฉายภาพประกอบแสง สี เสียง และถ่ายวีดิทัศน์ 4 มิติ ก่อนจุดเทียนชัยถวายพระพร. -สำนักข่าวไทย

Wisarut · Posted: 12/08/2010 9:09 pm Post subject:

^^^
ไปขึ้นรถ Aiport Link เมื่อบ่ายวันนี้เพราะ วันนี้กว่าจะตื่นก็ 11 โมงครึ่งหงะ Embarassed