View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
yoskmitlme06
3rd Class Pass
Joined: 08/04/2010 Posts: 22
|
Posted: 20/08/2010 8:26 am Post subject: |
|
|
วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:18:27 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
โครงข่ายรถไฟลุ่มน้ำโขงใกล้เป็นจริงไปอีกขั้น
ระบบรางรถไฟที่จะเชื่อมโยงประชากรกว่า 300 ล้านคนในแถบอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเข้าด้วยกัน เข้าใกล้ความเป็นรูปธรรมอีกขั้นหนึ่งแล้ว
เอเอฟพี รายงานว่า ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เปิดเผยว่า แผนการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟในอนุภูมิภาคดังกล่าวกำลังจะได้รับการรับรองจาก รัฐมนตรีจากประเทศกัมพูชา จีน ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม
คูนิโอะ เซ็นกะ ผู้อำนวยการเอดีบี ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระบุว่า "นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาและเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟในอนุภูมิภาคให้เป็น หนึ่งเดียวกัน"
ทั้งนี้ นอกเหนือจากทางรถไฟระหว่างจีนกับเวียดนามที่เชื่อมต่อกันแล้ว เส้นทางรางของ 6 ชาติที่แม่น้ำโขงไหลผ่านยังไม่มีการเชื่อมโยงกันเลย โดยในประเทศลาวนั้นไม่มีทางรถไฟเลยด้วยซ้ำ ขณะที่โครงข่ายทางรถไฟระหว่างประเทศแถบนี้ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ เส้นทางที่เริ่มจากกรุงเทพฯ พาดผ่านไปยังพนมเปญ โฮจิมินห์ซิตี้ ฮานอย จากนั้นวกขึ้นเหนือไปยังหนานหนิงแล้วสิ้นสุดลงที่คุนหมิง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทางรถไฟที่มีอยู่แล้วหรือกำลังก่อสร้าง
ส่วนที่ยังขาดหายไปของแผนการข้างต้นคือ ทางรถไฟระหว่างกรุงพนมเปญกับโฮจิมินห์ซิตี้ ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการสร้างกว่า 1.09 พันล้านดอลลาร์ โดยยังไม่รวมอีก 7 พันล้านดอลลาร์ สำหรับใช้ปรับปรุงมาตรฐานรางในส่วนที่มีอยู่แล้ว
คาดกันว่าเมื่อโครงข่ายนี้เสร็จสมบูรณ์ในปี 2568 จะมีผู้โดยสารใช้บริการ 3.2 ล้านคนต่อปี และขนส่งสินค้าได้ประมาณ 23 ล้านตัน _________________ "คำพูดร้อยคำพูด ยังไม่เท่าหนึ่งครั้งที่ลงมือกระทำ" |
|
Back to top |
|
|
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 20/08/2010 8:51 am Post subject: |
|
|
^^
ก่อนที่ ADB จะจัดการเรื่องนี้ให้คืบหน้าไปอีกขั้น ก็ต้องรอให้สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่าง ไทย - กัมพูชา ดีขึ้นกว่านี้ก่อนล่ะครับ
และก่อนที่ ADB จะทำได้สำเร็จ หากโครงการทางรถไฟสแตนดาร์ดเกจ 1.435 เมตร ระหว่าง จีน-ลาว-ไทย สามารถลุล่วงไปได้ก่อน เพราะประเทศเหล่านี้ช่วยกันผลักดันกันอย่างจริงๆ จังๆ แล้ว
บางทีของโครงการของ ADB ที่ไทยจะต้องผ่านไปกัมพูชาก่อนจะขึ้นไปจีนนั้น อาจจะอยู่ในขึ้นพิจารณาไปเรื่อยๆ ก็เป็นได้ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47436
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 20/08/2010 2:52 pm Post subject: |
|
|
รัฐมนตรี GMS เร่งหารือพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงระหว่างประเทศ
ฮานอย 20 ส.ค.53 ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เร่งหารือกรอบข้อตกลงพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิก 6 ประเทศ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะผู้แทนไทย ได้เข้าร่วมประชุมโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคกลุ่มลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ หรือ GMS ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีตัวแทนระดับรัฐมนตรี เศรษฐกิจของทั้ง 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม ลาว พม่า กัมพูชา และจีน รวมถึงตัวแทนผู้ให้การสนับสนุนโครงการต่าง ๆ กว่า 10 ประเทศเข้าร่วมประชุม โดยกรอบข้อตกลงสำคัญ คือ โครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงอนุภูมิภาค หลังจากที่ประชุมระดับผู้นำ มีมติให้ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ ADB ศึกษาแผนยุทธ์ศาสตร์ด้านคมนาคมขนส่ง โดยเฉพาะโครงข่ายระบบรางในเส้นทางเชื่อมโยงของระดับอนุภูมิภาคให้มีประโยชน์สูงสุด
ก่อนเข้าร่วมการประชุม นายสาทิตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ทุกประเทศให้ความสำคัญกับการประชุมครั้งนี้ เพื่อให้มีข้อตกลงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยไทยยืนยันให้การสนับสนุนข้อตกลงการขนส่งข้ามพรมแดนและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศกลุ่มสมาชิก วงเงินกว่า 4,208 ล้านบาท อีกทั้งเตรียมเสนอแนวคิดการจัดตั้งกองทุน SME ในระดับอนุภูมิภาค เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการเข้ามามีส่วนร่วมของภาคเอกชนทั้ง 6 ประเทศ รวมถึงผลักดันข้อตกลงการผ่านแดนของคนและสินค้า ซึ่งในส่วนของฝ่ายไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภา.-สำนักข่าวไทย |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 20/08/2010 10:08 pm Post subject: |
|
|
มีข่าวหลังการประชุมออกมาแล้วยังครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47436
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 21/08/2010 1:27 pm Post subject: |
|
|
มีข่าวออกมาแล้วครับอาจารย์วิรัตน์ แค่อนุมัติกรอบกว้าง ๆ ไม่เห็นมีรายละเอียดอะไรครับ
ที่ประชุม GMS ผ่านกรอบยุทธศาสตร์เชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟ
เวียดนาม 21 ส.ค.53 - ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (จีเอ็มเอส) ครั้งที่ 16 ที่กรุงฮานอย ปิดฉากแล้ว ที่ประชุมมีมติอนุมัติกรอบยุทธศาสตร์เชื่อมโยงโครงข่ายเส้นทางรถไฟ ขณะที่แนวคิดตั้งกองทุนเอสเอ็มอี มอบเอดีบีศึกษา เชื่อการประชุมครั้งหน้าจะมีความชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการประชุมรัฐมนตรี 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 16 ที่กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยม เวียดนาม ตัวแทนของทั้ง 6 ประเทศได้แถลงการณ์ร่วมกันโดยระบุว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติกรอบยุทธศาสตร์การเชื่อมโยงโครงข่ายเส้นทางรถไฟอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในพื้นที่เศรษฐกิจจีเอ็มเอส ใน 4 เส้นทางหลักครอบคลุมประเทศสมาชิก เพื่อสนับสนุนแนวทางการเชื่อมโครงข่ายคมนาคมและอนุมัติแผนปฎิบัติการด้านการอำนวยความสะดวกการค้าและการขนส่งข้ามพรมแดน ที่จะสามารถขยายขอบเขตสิทธิการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศกลุ่มสมาชิกเพื่อเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้ง 6 ประเทศ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังอนุมัติโครงการใหม่ เน้นด้านพลังงานทดแทนเชื้อเพลิงสะอาด และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในอนุภูมิภาค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงความมั่นคงด้านพลังงานและรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยอาศัยแหล่งพลังงานสะอาดเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างมีคุณภาพ ขณะเดียวกันได้รับทราบความก้าวหน้าในแผนงานของจีเอ็มเอสที่มีโครงการครอบคลุม 9 ด้านสำคัญได้แก่ โครงการด้านคมนาคม พลังงาน โทรคมนาคม เกษตร ท่องเที่ยว ทรัพยากรมนุษย์ สิ่งแวดล้อม การค้าและการลงทุน
ทางด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนของไทย กล่าวว่า ไทยได้ยืนยันให้ความช่วยเหลือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเต็มที่ ในส่วนของแนวคิดกองทุนเอสเอ็มอี ได้รับการตอบรับจากประเทศสมาชิกเป็นอย่างดี โดยขณะนี้ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) กำลังเร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนและเชื่อว่าจะศึกษาแล้วเสร็จภายในการประชุมจีเอ็มเอสระดับรัฐมนตรีในครั้งหน้า.- สำนักข่าวไทย |
|
Back to top |
|
|
siriwadhna
3rd Class Pass
Joined: 05/10/2009 Posts: 126
|
Posted: 23/08/2010 11:59 am Post subject: |
|
|
Connecting Great Mekong Subregion Railways, A Strategic Framework
August 2010
ดาวน์โหลด
Figure 3: Four Potential GMS Railway Routes (หน้า17)
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 23/08/2010 12:10 pm Post subject: |
|
|
เป็นเพียงกรอบนโยบายว่า อนาคตข้างหน้า ที่ประชุม GMS ตกลงจะให้มีโครงการนี้ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยด้านต่างๆ นั้น จะได้มีการหารือกันในกลุ่มประเทศต่อไป
ยังมีปัญหาที่ต้องนำมาคิด มาถกกันอีกหลายขั้นตอนครับ เพราะเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของแต่ละประเทศด้วย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44053
Location: NECTEC
|
Posted: 06/09/2010 12:13 pm Post subject: |
|
|
12รายชิงประมูลซื้อโบกี้308คัน770ล้านโดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 03 กันยายน 2010 เวลา 10:41 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,563 5-8 กันยายน พ.ศ. 2553
นายประจักษ์ มโนธัม รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถโบกี้บรรทุก ตู้สินค้า 308 คัน เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าขณะนี้ได้ปิดการขายซองประกวดราคาการจัดซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า 308 คัน มูลค่าโครงการรวม 770 ล้านบาทแล้วตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมาปรากฏว่ามีผู้ซื้อซองทั้งสิ้นจำนวน 12 ราย ขั้นตอนต่อจากนี้ไปคณะกรรมการจะจัดประชุมเพื่อชี้แจง ก่อนที่จะกำหนดให้ยื่นเอกสารประกวดราคาในวันที่ 24 กันยายนนี้ โดยจะแจ้งผลการพิจารณาคัดเลือกเบื้องต้นในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ต่อจากนั้นจะกำหนดผู้ที่ผ่านการคัดเลือกได้นำเสนอราคาทาง อิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2553
"โครงการจัดซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า 308 คัน ครั้งนี้จัดประมูลเป็นครั้งที่ 2 โดยในครั้งที่ 1 นั้นปรากฏว่ามีจำนวน 11 ราย แต่กลับถูกร้องเรียนเรื่องการล็อกสเปกเครื่องพ่วง พร้อมเครื่องรับแรงกระแทกและลูกปืนล้อว่าเป็นการเอื้อให้ชาวต่างชาติ ซึ่ง ร.ฟ.ท.ก็ได้ชี้แจงกับผู้ร้องเรียนรายดังกล่าวไปแล้ว ในครั้งนี้ก็ยังยืนยันว่าต้องการให้รับน้ำหนักได้ 180 ตัน เพราะเหมาะกับการใช้งานในประเทศไทย โดยการเปิดประมูลใหม่ในครั้งนี้ปรากฏว่าทั้ง 12 รายมีรายใหม่เข้ามาร่วมจำนวนหนึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดี
"คาดว่าในวันยื่นซองประกวดราคาอาจจะมีการร่วมทุนกันเกิดขึ้นแน่ระหว่างไทย กับไทยและไทยกับต่างประเทศ โดยเฉพาะบริษัทผู้ผลิตจากต่างประเทศเช่นจีน (CSR/CNR) และญี่ปุ่น (Hitachi/Kawasaki) ที่ขณะนี้ยังไม่ทราบ แน่ชัด ส่วนผู้ประกอบการไทยน่าจะเป็นในรูปการร่วมทุน โดยงบประมาณทั้งหมดกระทรวงการคลังเป็นผู้จัดหาเงินกู้ ส่วนการรถไฟฯรับผิดชอบการผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย โดยงบ 700 ล้านบาทเป็นการจัดซื้อรถ ส่วน อีก 70 ล้านบาทเป็นเครื่องอะไหล่ ทั้งนี้โบกี้เท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันประมาณ 1,000 คัน ซึ่งล้วนมีอายุการใช้งานมานาน 40-50 ปีแล้ว" [หมายถึงรถ BCF ที่ดัดแปลงมาจาก รถ บขต. + บขส. + บทค. นะครับ]
นายประจักษ์เปิดเผยอีกว่าภายหลังจากวันที่ 9 พฤศจิกายน 2553 ไปแล้วคณะกรรมการจะเปิดซองเสนอราคาเพื่อดูข้อมูลแหล่งเงินกู้ที่แต่ละรายนำ เสนอมาเพื่อพิจารณาเปรียบเทียบให้กระทรวงการคลังพิจารณาก่อนที่จะสรุปราย ละเอียดทั้งหมดนำเสนอบอร์ดการรถไฟฯ นำเสนอกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาแหล่งเงินกู้เพื่อการจัดซื้อต่อไป ทั้งนี้จะต้องสามารถส่งมอบได้ทั้งหมดภายใน 15 เดือนซึ่งคาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบรถได้ประมาณเดือนเมษายนปี 2556
สำหรับผู้ที่สนใจซื้อซองเอกสารประกวดราคาทั้ง 12 รายประกอบไปด้วย
1.บริษัท จีซีเอส กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด
2.บริษัทบีโอเอช ไทยแลนด์ จำกัด
3.บริษัทแอโรกรีต(ประเทศไทย) จำกัด
4. บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1967) จำกัด
5. บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) => รายนี้รับซ่อมรถพ่วง รฟท. อยู่เลยรู้เหมือนกันว่า รฟท. ต้องการรถ บทต.สเปกแบบไหน
6. กิจการร่วมค้านามประเสริฐ-เอสซีไอ
7. บริษัท บรอดไทย จำกัด
8. บริษัท สยามโบกี้ จำกัด => จับตาดูให้ดีว่าจะชนะการประมูลเหมือนงวดแรกหรือไม่ เพราะ ตอนนี้ รถบทต. 308 หลังที่ สยามโบกี้สั่งจาก CSR ก็นำออกมาใช้การแล้ว
9. บริษัทไทยพีค่อนและอุตสาหกรรม จำกัด
10. บริษัท ซี.เอส.เอส.เคเบิ้ล แอนด์แอคเซสซอรี่ส์ จำกัด
11.บริษัทพนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด และ
12. บริษัท เต็มโก้ จำกัด(มหาชน)
Note สังเกตให้ดีไม่พบว่า มิตซุย (ประเทศไทย) จะมาร่วมวงประมูลในคราวนี้ คงเพราะ ของแพง ราคาเลยไม่จูงใจให้ รฟท. สั่งซื้อ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44053
Location: NECTEC
|
Posted: 07/09/2010 10:47 am Post subject: |
|
|
ประเด็นร้อน
โพสต์ทูเดย์ 07 กันยายน 2553 เวลา 06:28 น.
เจาะแฟ้มครม.
โพสต์ทูเดย์ 07 กันยายน 2553 เวลา 07:59 น.
ชงครม.ทุ่ม1.3หมื่นล.โละหัวรถจักรเก่า
โดย ทีมข่าวการเมือง
ไทยรัฐออนไลน์ 7 กันยายน 2553, 00:47 น.
จับตากระทรวงคมนาคมเสนอแนวทางและนโยบายการกู้เงิน วงเงิน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ13,671 ล้านบาท จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน เพื่อนำมาพัฒนาระบบรางตามแผนของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เงินกู้ดังกล่าวมีอายุ 15 ปี ดอกเบี้ย 3% ต่อปีระยะเวลาปลอดหนี้ 5 ปี เพื่อนำไปซื้อ รถจักร 50 หลังแทนรถจักร GE ที่เก่า (อายุประมาณ 45 ปี) เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการเดินรถ และ ซ่อมทางช่วงพิษณุโลก - เชียงใหม่ และ ทุ่งสง - หาดใหญ่
วาระครม.วันนี้ คค.ชงกู้จีน 1.36 หมื่น ล.สังคยานารถไฟไทย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 กันยายน 2553 07:05 น.
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้(7ก.ย.) กระทรวงคมนาคมจะเสนอแนวทางและนโยบายการกู้เงินวงเงิน 400 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 13,671 ล้านบาท จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน เพื่อนำมาพัฒนาระบบรถราง ตามแผนของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเงินกู้ดังกล่าวมีระยะเวลา 15 ปี ดอกเบี้ย 3% ต่อปี ระยะเวลาปลอดหนี้ 5 ปี มีค่าธรรมเนียมเงินกู้ 0.5% ต่อปี ของวงเงินที่ไม่ได้เบิกจ่าย และค่าธรรมเนียมการจัดการ 0.5% ต่อปีของวงเงิน และต้องจ่ายคืนเงินต้นเป็นเงินเหรียญสหรัฐปีละ 2 ครั้ง
การกู้เงินครั้งนี้ จะนำไปปรับปรุงระบบรางของไทย ดังนี้ คือ
1.โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่เพื่อทดแทนรถจักร GE ที่มีอายุใช้งานมากกว่า 45 ปีจำนวน 50 คัน มูลค่าโครงการประมาณ 6,562.25 ล้านบาทหรือ ประมาณ 195 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจุบัน หัวรถจักรที่ใช้งานมีอายุการใช้งานเกินกว่า 25 ปี มีจำนวนถึง 151 หัว
2.โครงการปรับปรุงระบบรางสายประธาน (รางหมอน ประแจ สะพานและคอนกรีต อัดแรงที่ทางจัดผ่านเสมอระดับ) ช่วงพิษณุโลก-เชียงใหม่ มูลค่าโครงการ 4,428 ล้านบาท หรือประมาณ 132 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ
3.โครงการปรับปรุงระบบรางสายประธานช่วงทุ่งสง ชุมทางหาดใหญ่ มูลค่าโครงการประมาณ 2,680.8 ล้านบาท หรือประมาณ 80 ล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ในสัญญาการกู้เงินจีนได้กำหนดเงื่อนไขการกู้เงินให้ไทยต้องซื้อสินค้าจากจีนไม่น้อยกว่า 50% ของวงเงินกู้ ซึ่งสำนักบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) แสดงความกังวลในเรื่องการสั่งซื้อสินค้าจากจีนที่เป็นการผูกมัดฝ่ายไทยมากไป จึงส่งหนังสือขอเจรจากับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน เพื่อแก้ไขร่างกรอบความตกลงดังกล่าวไปแล้ว 3 ครั้ง เพราะกลัวว่าไทยจะเสียเปรียบเพราะเป็นสัญญาผูกมัดมากเกินไป และกระทรวงการคลังได้ตั้งข้อสังเกตว่าข้อตกลงการกู้เงินทั้งหมดระหว่างไทยและจีนยังไม่อาจตกลงเพราะยังไม่มีข้อสรุปร่วมกัน และการที่ไทยต้องซื้อสินค้าจากจีนไม่ต่ำกว่า 50% นั้น ถือว่าไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นการจ้างงานและการลงทุนภายในประเทศภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำในปัจจุบัน
สำหรับผลการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยกับแหล่งเงินกู้อื่นๆ เมื่อสวอป(swap)เป็นเงินบาทแล้ว เงินกู้จากจีนมีอัตราสูงกว่าการกู้จากแหล่งอื่น ดังนี้คือ
1. แหล่งเงินกู้จากธนาคารโลก อัตราดอกเบี้ย 5.05%
2. ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) อัตราดอกเบี้ย 3.74%
3. องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (JICA) อัตราดอกเบี้ย 3.61%
4. พันธบัตรไทยอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.08% และ
5. พันธบัตรอายุ 15 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.31% และ
เงื่อนไขการกู้ของจีนยังผูกผันไม่สามารถเจรจาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้คณะทำงานเพื่อดำเนินงานความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างไทย-จีน เข้าร่วมประชุมคณะทำงานเพื่อดำเนินงานความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีรองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง) เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทย และอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการรถไฟ ทำหน้าที่หัวหน้าคณะฝ่ายจีน สรุปผลการประชุมได้ คือ
1. รัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญในการสร้างทางรถไฟ และมีนโยบายการก่อสร้างและพัฒนารถไฟทั่วประเทศ กระทรวงการรถไฟได้ดำเนินงานด้านคมนาคมและการสร้างระบบรถไฟความเร็วสูง โดยปัจจุบันสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารจำนวน 1,400 ล้านคนต่อปี และขนส่งสินค้าได้ 340 ล้านตันต่อปี
2. ฝ่ายไทยได้แจ้งผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 และขอรับการสนับสนุนด้านเทคนิคเกี่ยวกับการพัฒนาระบบรถไฟจากผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงการรถไฟจีนศึกษาข้อมูลในประเทศไทย ซึ่งฝ่ายจีนยินดีให้การการสนับสนุนเรื่องดังกล่าว
3. ฝ่ายจีนได้สอบถามเรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้ขอรับการสนับสนุนสินเชื่อจากจีน จำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อพัฒนาด้านระบบขนส่งทางรางของไทย พร้อมทั้งเสนอให้ความช่วยเหลือในการพิจารณารายละเอียดโครงการตามข้อ 2.1.3 ในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล เพื่อให้เป็นโครงการนำร่องความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรม ซึ่งฝ่ายไทยแจ้งว่า กระทรวงคมนาคมได้นำเสนอนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว
4. ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นร่วมกันที่จะกำหนดให้มีการประชุมร่วมกันและการเยือนในระดับผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลร่วมกันต่อไป |
|
Back to top |
|
|
yoskmitlme06
3rd Class Pass
Joined: 08/04/2010 Posts: 22
|
Posted: 07/09/2010 4:02 pm Post subject: |
|
|
ครม.เห็นชอบ ขอสินเชื่อ400ล้านดอลล์ จากจีน
รายงานข่าวแจ้งว่า นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบ ในการที่รัฐบาลจะขอใช้สินเชื่อจำนวน 400 ล้านดอลลาร์ จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของจีน
โดยสินเชื่อดังกล่าวจะนำมาใช้ใน 3 โครงการคือ
1.โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่เพื่อทดแทนรถจักร GE มูลค่า 195 ล้านดอลลาร์ (6,562.25 ล้านบาท)
2.โครงการปรับปรุงระบบรางสายประธานช่วง พิษณุโลก-เชียงใหม่ มูลค่า 132 ล้านดอลลาร์(4,428 ล้านบาท)
3.โครงการปรับปรุงระบบรางสายประธาน ช่วงทุ่งสง-ชุมทางหาดใหญ่ มูลค่า 80 ล้านดอลลาร์ (2,680.8 ล้านบาท)
ทั้ง นี้ ที่ประชุม ครม. ยังเห็นชอบในร่างกรอบการเจรจาความร่วมมือด้านการพัฒนากิจการรถไฟระหว่าง ไทย-จีน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และจะได้นำเสนอให้รัฐสภาพิจารณาตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป _________________ "คำพูดร้อยคำพูด ยังไม่เท่าหนึ่งครั้งที่ลงมือกระทำ" |
|
Back to top |
|
|
|