View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44053
Location: NECTEC
|
Posted: 13/09/2010 10:04 pm Post subject: เรื่องสะเทือนทราง |
|
|
รถไฟรอเวลาเจ๊ง
บทบรรณาธิการ หน้า 2
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
เมื่อเวลา 8:44:00 วันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2553
ในบรรดารัฐวิสาหกิจไทยที่ประกอบธุรกิจแบบสาละวันเตี้ยลง ยิ่งบริหารนานเท่าไหร่กิจการยิ่งขาดทุนย่อยยับมากเท่านั้น หนึ่งในจำนวนรัฐวิสาหกิจของประเทศไทย ที่ประกอบการไม่เคยรู้ว่าผลกำไรเป็นอย่างไร ทุกปีเป็นต้องแบมือขอเงินสนับสนุนจากรัฐบาล นั่นคือการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าประกอบการเดินรถไฟมาแล้วถึง 113 ปี ที่ถือว่ายาวนานกว่าประเทศเพื่อบ้านในภูมิภาคนี้
เมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีโครงการที่จะก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง นัยว่าเริ่มแรกนี่จะเริ่ม 5 เส้นทางก่อน กล่าวคือกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี, กรุงเทพฯ-หนองคาย, กรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-ระยอง และ กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ ถ้าโครงการนี้เกิดขึ้นจริง ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปจังหวัดหนองคายริมฝั่งแม่น้ำโขงติดกับประเทศลาว จะใช้เวลาในการเดินทางแค่ 3 ชั่วโมง
แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าโครงการดังกล่าวนี้จะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล เพราะถ้ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ จะเดินหน้าเพื่อปรับปรุงกิจการรถไฟครั้งใหญ่ จะต้องใช้เงินในการลงทุนไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท เงินจำนวนมหาศาลนี้คือกำแพงขวางกั้นความเป็นไปได้สำหรับโครงการนี้ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีเงินกู้ซึ่งต้องแบกอยู่จำนวนมากเช่นกัน ทั้งที่เป็นหนี้ในระบบงบประมาณและหนี้นอกระบบงบประมาณ
เมื่อมองย้อนกลับไปที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่สภาพการบริหารจัดการไม่หนีห่างไปจากภาพลักษณ์รถไฟที่ว่าถึงก็ชั่งไม่ถึงก็ชั่ง แม้ว่าประเทศไทยจะมีกิจการรถไฟก่อนหน้าประเทศเพื่อนบ้าน แต่วันนี้กิจการรถไฟของประเทศเพื่อนบ้านรุดหน้าและนำหน้าประเทศไทยชนิดที่เรียกว่าไม่เห็นฝุ่น และที่สำคัญกิจการรถไฟไทยนำหน้าประเทศในภูมิภาคนี้ตลอดกาลคือตะบี้ตะบันขาดทุนมันทุกปี
ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย มีหนี้พ่วงท้ายอยู่กว่า 70,000 ล้านบาท และผลประกอบการปีที่ผ่านมาก็เป็นหนี้เพิ่มขึ้นมาอีก 900 ล้านบาท เพราะฉะนั้นการที่รัฐบาลเข้ามาปรับปรุงกิจการรถไฟจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องและเหมาะสม ไม่ใช่ปล่อยให้บริหารกันแบบกิจการขาดทุน แต่เจ้าพนักงานร่ำรวย ทั้งที่มีที่ดินอยู่ในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดมากมายมหาศาล แต่มีผู้บริหารและพนักงานที่บริหารจัดการย่ำแย่ที่สุด |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 14/09/2010 10:30 am Post subject: |
|
|
^
^
ก็ว่ากันไปนะครับ ผู้เขียนน่าจะวิเคราะห์เจาะลึกลงไปอีกสักหน่อยว่า กิจการรถไฟในบ้านเรา โดน "ตอน" ในแคระแกร็น โดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐมาตั้งไม่รู้กี่ปีแล้ว แถมยังไม่ให้ขึ้นราคาค่าโดยสารตามต้นทุนข้อเท็จจริงอีกด้วย อ้างว่าประชาชนผู้มีรายได้น้อยจะเดือดร้อน แต่คนสั่งการกลับนั่งเครื่องบินเดินทางเป็นว่าเล่น แล้วจะมองเห็นข้อเท็จจริงได้อย่างไร
ค่ารถ ขสมก. รถสองแถวหรือรถเมล์ ตจว.เมื่อเทียบกับระยะทางเท่าๆ กันแล้ว แพงกว่าค่ารถชั้น 3 ของ รฟท.ด้วยซ้ำไปมั้ง ? ไม่เห็นมีใครคิด และถ้าไม่มีเงิน จะเอาอะไรมาปรับปรุงกิจการล่ะ ?
เอาเถอะน่า ไหนๆ รัฐเพิ่งจะมาเหลียวแลกิจการรถไฟตอนนี้แล้ว ก็อยู่ที่คนในองค์กรเองนั่นแหละที่จะช่วยกันแจว ช่วยกันพายอย่างไรให้อยู่รอด ต้องวัดใจ วัดฝีมือกันดูนะครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47436
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 14/09/2010 10:24 pm Post subject: |
|
|
ททท. ชวน การรถไฟฯ จัด ไม้หมอน MART และ กอดไม้หมอน ตะลอนทัวร์
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย นายกมลชนก มุกดา (นศ.ม. หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยวการรถไฟแห่งประเทศไทย) ร่วมกันเป็นประธานในงาน แถลงข่าว การจัด 2 โครงการ ไม้หมอน Mart และ กอดไม้หมอน ตะลอนทัวร์ วัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระแส การเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟ ในช่วงเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม 2553 โดยมีคณะผู้บริหาร ททท. , คณะผู้บริหาร การรถไฟฯ เข้าร่วมงาน และเซเลบริตี้ ชื่อดัง ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ เข้าร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การเดินทาง ท่องเที่ยวทางรถไฟอย่างเป็นกันเอง
ไม้หมอน MART ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของการจัดงานส่งเสริมการขายบนขบวนรถไฟ โดยเปิดให้ ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้มีโอกาสพบปะกับผู้ซื้อ และเดินทางร่วมกันเพื่อเจรจาซื้อขาย การท่องเที่ยวในเส้นทางกรุงเทพฯ หัวหิน ในวันที่ 18 19 กันยายน 2553 และยังเป็นการเปิดโอกาสให้ นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ โดยรับจำนวนจำกัดเพียง 140 ท่าน ในราคา 999 บาทเท่านั้น
ในขณะที่แคมเปญ กอดไม้หมอน ตะลอนทัวร์ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมนำเที่ยวในเส้นทางสายใหม่ๆ ที่น่าสนใจและมีศักยภาพ ออกเดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ เริ่มเคลื่อนขบวนเส้นทางแรก ในวันเสาร์ที่ 25 กันยายน และทุกวันเสาร์ตลอดเดือนตุลาคม รวม 5 เส้นทาง โดยที่นั่งมีจำนวนจำกัด เส้นทางละ 150 ที่นั่ง ราคาเพียง 499 บาทเท่านั้น ได้แก่
เส้นทางการท่องเที่ยวที่ 1 กรุงเทพฯ อยุธยา อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร, ตลาดน้ำอโยธยา, ตลาดน้ำอยุธยา คลองสระบัว
เส้นทางการท่องเที่ยวที่ 2 กรุงเทพฯ หัวหิน ห้องสมุดรถไฟ, เพลินวาน, วัดห้วยมงคล, ไร่องุ่น หัวหิน ฮิล วินยาร์ด
เส้นทางการท่องเที่ยวที่ 3 กรุงเทพฯ สระบุรี องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย, สนามมวกเหล็ก ATV
เส้นทางการท่องเที่ยวที่ 4 กรุงเทพฯ ลพบุรี ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายพหลโยธิน, ค่าย A03
เส้นทางการท่องเที่ยวที่ 5 กรุงเทพฯ พัทยา ตลาดน้ำสี่ภาค, ปราสาทสัจธรรม, ตลาดนาเกลือ
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละเส้นทาง จะได้พบกับความประทับใจในเอกลักษณ์วัฒนธรรมภายในท้องถิ่น ทั้ง สถานที่ท่องเที่ยวตามเส้นทาง อาหารการกินที่เลื่องชื่อ รวมไปถึงสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านของแต่ละท้องถิ่น พร้อม ด้วยกิจกรรมสันทนาการจากศิลปินนักแสดง ที่ร่วมเดินทางตลอดเส้นทางอย่างใกล้ชิดอาทิ อิม-อชิตะ ธนาศาสตนันท์
มาร่วมกันปลุกลมหายใจและชีวิตแห่งการเดินทางสัญลักษณ์แห่งการสัญจร และความทรงจำที่น่าจดจำ ด้วยกิจกรรมการเดินทางทางรถไฟในทริปนี้ร่วมกัน ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สายด่วนท่องเที่ยว 1672 และสายด่วนรถไฟ 1690 |
|
Back to top |
|
|
RORONOA
2nd Class Pass
Joined: 06/12/2007 Posts: 705
|
Posted: 14/09/2010 10:38 pm Post subject: |
|
|
ดีเซลรางปรับอากาศ จะมีโอกาสเป็นสปินเตอร์ที่กำลังปรับปรุงใหม่อยู่หรือเปล่าครับ สังเกตจากจำนวนที่นั่ง 140-150 ก็ 2 คันพอดี หรือจะเป็นชุดรถใดครับ อ่อ เส้นทางนำร่องหัวหินวันที่ 19/09/2553 กำหนดให้หยุดที่บ้านโป่งเป็นเวลา 4 นาที คงต้องไปประชาสัมพันธ์ให้ข้าวกระทงหนองปลาดุกมารอลูกค้ากันเสียหน่อยแล้ว |
|
Back to top |
|
|
jojoja
3rd Class Pass
Joined: 04/02/2010 Posts: 133
|
Posted: 14/09/2010 11:08 pm Post subject: Re: เรื่องสะเทือนทราง |
|
|
Wisarut wrote: | รถไฟรอเวลาเจ๊ง
บทบรรณาธิการ หน้า 2
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
เมื่อเวลา 8:44:00 วันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2553
ในบรรดารัฐวิสาหกิจไทยที่ประกอบธุรกิจแบบสาละวันเตี้ยลง ยิ่งบริหารนานเท่าไหร่กิจการยิ่งขาดทุนย่อยยับมากเท่านั้น หนึ่งในจำนวนรัฐวิสาหกิจของประเทศไทย ที่ประกอบการไม่เคยรู้ว่าผลกำไรเป็นอย่างไร ทุกปีเป็นต้องแบมือขอเงินสนับสนุนจากรัฐบาล นั่นคือการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าประกอบการเดินรถไฟมาแล้วถึง 113 ปี ที่ถือว่ายาวนานกว่าประเทศเพื่อบ้านในภูมิภาคนี้
เมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีโครงการที่จะก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง นัยว่าเริ่มแรกนี่จะเริ่ม 5 เส้นทางก่อน กล่าวคือกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี, กรุงเทพฯ-หนองคาย, กรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-ระยอง และ กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ ถ้าโครงการนี้เกิดขึ้นจริง ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปจังหวัดหนองคายริมฝั่งแม่น้ำโขงติดกับประเทศลาว จะใช้เวลาในการเดินทางแค่ 3 ชั่วโมง
แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าโครงการดังกล่าวนี้จะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล เพราะถ้ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ จะเดินหน้าเพื่อปรับปรุงกิจการรถไฟครั้งใหญ่ จะต้องใช้เงินในการลงทุนไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท เงินจำนวนมหาศาลนี้คือกำแพงขวางกั้นความเป็นไปได้สำหรับโครงการนี้ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีเงินกู้ซึ่งต้องแบกอยู่จำนวนมากเช่นกัน ทั้งที่เป็นหนี้ในระบบงบประมาณและหนี้นอกระบบงบประมาณ
เมื่อมองย้อนกลับไปที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่สภาพการบริหารจัดการไม่หนีห่างไปจากภาพลักษณ์รถไฟที่ว่าถึงก็ชั่งไม่ถึงก็ชั่ง แม้ว่าประเทศไทยจะมีกิจการรถไฟก่อนหน้าประเทศเพื่อนบ้าน แต่วันนี้กิจการรถไฟของประเทศเพื่อนบ้านรุดหน้าและนำหน้าประเทศไทยชนิดที่เรียกว่าไม่เห็นฝุ่น และที่สำคัญกิจการรถไฟไทยนำหน้าประเทศในภูมิภาคนี้ตลอดกาลคือตะบี้ตะบันขาดทุนมันทุกปี
ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย มีหนี้พ่วงท้ายอยู่กว่า 70,000 ล้านบาท และผลประกอบการปีที่ผ่านมาก็เป็นหนี้เพิ่มขึ้นมาอีก 900 ล้านบาท เพราะฉะนั้นการที่รัฐบาลเข้ามาปรับปรุงกิจการรถไฟจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องและเหมาะสม ไม่ใช่ปล่อยให้บริหารกันแบบกิจการขาดทุน แต่เจ้าพนักงานร่ำรวย ทั้งที่มีที่ดินอยู่ในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดมากมายมหาศาล แต่มีผู้บริหารและพนักงานที่บริหารจัดการย่ำแย่ที่สุด | นี่แปลว่าพวกผมทำงานแย่ ว่างั้น นักหนังสือพิมพ์ เขียนเอามันเข้าว่า ใส่ความรู้สึกลงไป แย่มาก _________________ เราโตมาได้ด้วยเงินจากรถไฟครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44053
Location: NECTEC
|
Posted: 15/09/2010 12:39 am Post subject: |
|
|
^^
งั้นก็ส่งจดหมายไป "ขอแสดงความนับถือ" ไปที่กองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์บ้านเมือง ในประเด็นนี้ก็แล้วกันนะครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47436
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44053
Location: NECTEC
|
Posted: 20/09/2010 11:57 am Post subject: |
|
|
^^^
ย้ายมาต่อกับข่าว รถไฟสีแดงอ่อนดีกว่านะครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44053
Location: NECTEC
|
Posted: 30/09/2010 12:29 am Post subject: |
|
|
ททท ชวนเที่ยว น้องครึกครื้นชวนเที่ยว...ฉึกฉักทัวร์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กันยายน 2553 13:20 น.
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เผยว่า ททท. เปิดตัวโครงการ น้องครึกครื้นชวนเที่ยว...ฉึกฉักทัวร์ ภายใต้โครงการ เที่ยวรถไฟครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก เพื่อให้เป็นโครงการหนึ่งในการฉลองครบรอบ 50 ปีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยจะเป็นโครงการนำร่องในการปรับปรุงขบวนโบกี้รถไฟให้มีความสะดวกสบาย ทันสมัย และสนองตอบต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวได้สูงสุด
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยตระหนักดีว่า หากเราสามารถปรับปรุงรถไฟให้สามารถดึงดูดประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติให้มีความสนใจการท่องเที่ยวทางรถไฟมากขึ้น จะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวโดยทางรถไฟได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ หากการท่องเที่ยวใน 5 เส้นทางครอบคลุมทั้ง 5 ภาคทั่วไทยภายใต้โครงการนี้ได้รับการตอบรับที่ดี ททท. จะเดินหน้าจัดทำโครงการท่องเที่ยวโดยรถไฟหรือ เที่ยวรถไฟครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก ต่อไปอีกเรื่อยๆ นายสุรพล กล่าว
ด้าน นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รฟท. รู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศผ่านการท่องเที่ยวภายใต้โครงการ น้องครึกครื้นชวนเที่ยว...ฉึกฉักทัวร์ ซึ่ง รฟท. คาดว่า โครงการนี้ จะทำให้มีคนเดินทางโดยรถไฟมากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การเดินทางที่แปลกใหม่ ที่จะทำให้มีทัศนคติที่ดีต่อการท่องเที่ยวและเดินทางโดยรถไฟ
นายยุทธนา กล่าวต่อว่า ในอนาคต การรถไฟแห่งประเทศไทยจะมีการปรับปรุงขบวนรถไฟให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มอีกหนึ่งจุดเด่นและข้อดีของการเดินทางโดยรถไฟ นอกเหนือจากความปลอดภัยและการที่รถไฟเป็นเพียงยานพาหนะเดียวที่ผู้โดยสารสามารถเดินจากที่นั่งตนเองไปยังโบกี้อื่นๆ หรือรับประทานอาหารในร้านอาหารในโบกี้เสบียงได้อย่างสะดวก จึงทำให้ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถไฟเพิ่มมากขึ้น และเราคาดหวังว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอีกในปีต่อ ๆ ไป
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เสริมว่า การเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟในปัจจุบัน จะสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยการปรับปรุงที่นั่งใหม่ให้มีความสบายและกว้างขวาง นอกจากนั้น โบกี้รถไฟภายใต้โครงการ น้องครึกครื้นชวนเที่ยว...ฉึกฉักทัวร์ ยังถือว่าเป็นรถไฟเพียงขบวนเดียวในประเทศไทยที่มีห้องคาราโอเกะ มินิบาร์เครื่องดื่ม ห้องน้ำที่สะอาดทันสมัยและกิจกรรมสนุกๆ ที่จัดขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้เดินทางสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความบันเทิง ความสนุกสนานและความประทับใจได้ตลอดเส้นทางโดยไม่ต้องรอให้ไปถึงสถานที่เป้าหมายอย่างเช่นการเดินทางด้วยยานพาหนะอื่น
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะส่งเสริมให้คนไทยได้ท่องเที่ยวทั่วไทยด้วยรถไฟมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นการเดินทางที่ประหยัด ปลอดภัยและได้ชื่นชมกับทัศนียภาพอันงดงามของประเทศไทยตลอดเส้นทาง นายวันเสด็จ กล่าว
สำหรับรายละเอียดของเส้นทางการเดินทางทั้ง 5 เส้นทาง มีดังต่อไปนี้
ภาคตะวันออก: 25 - 26 กันยายน 2553 (2 วัน 1 คืน) เส้นทางกรุงเทพฯ - นครนายก -- ปราจีนบุรี - ฉะเชิงเทรา ราคา 1,999 บาท เขื่อนขุนด่านปราการชล - ล่องแก่ง- ส่องสัตว์ยามค่ำคืนที่เขาใหญ่ - ชมตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร - และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
ภาคใต้: 23-25 ตุลาคม 2553 (3 วัน 2 คืน) เส้นทางกรุงเทพฯ - ประจวบคีรีขันธ์ -- ชุมพร ราคา 2,999 บาท พักผ่อนท่ามกลางหาดทรายขาวสะอาดและทะเลใสที่บ้านกรูดพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศงดงามของมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศยามค่ำคืน - นมัสการพระพุทธกิติสิริชัยบนยอดเขาธงชัยและสักการะศาลกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พร้อมชมเวิ้งอ่าวบ้านกรูดสุดปลายแหลมแม่รำพึง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมาก
ภาคอีสาน: 6 - 7 พฤศจิกายน 2553 (2 วัน 1 คืน) เส้นทางกรุงเทพฯ - นครราชสีมา (ปากช่อง)
ราคา 1,999 บาท เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย - ดื่มด่ำกับอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย - ลิ้มรสผัดหมี่โคราช - และกิจกรรมอื่นๆ
ภาพเหนือ: 20-22 พฤศจิกายน 2553 (3 วัน 2 คืน) เส้นทางกรุงเทพฯ - นครสวรรค์ - พิษณุโลก -- สุโขทัย ราคา 2,999 บาท ชมสถาปัตยกรรมในยุคสมัยทวารวดี ณ พิพิธภัณฑ์จันเสน - ไหว้พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุและศาลพระนเรศวรที่พระราชวังจันทน์ - และร่วมกิจกรรมลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ
ภาคกลาง: 4 - 5 ธันวาคม 2553 (2 วัน 1 คืน) เส้นทางกรุงเทพฯ - นครปฐม -- กาญจนบุรี
ราคา 1,599 บาท ชิมข้าวหมูแดงรสเลิศพร้อมนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ - ถ่ายภาพแห่งความทรงจำ ณ สะพานข้ามแม่น้ำแคว และเส้นทางสายมรณะ - ตั้งแคมป์เชิงหน้าผาริมลำแควน้อย - และร่วมกิจกรรมต่างๆอีกมาก
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ น้องครึกครื้นชวนเที่ยว...ฉึกฉักทัวร์ หรือต้องการซื้อแพ็คเกจทัวร์สามารถติดต่อได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร.1672 หรือ 0-2250- 5500 ต่อ 2105 และ 2115-9 หรือติดต่อที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร.1690 ทั้งนี้ จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพียง 70 คน/ทริปเท่านั้น |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47436
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 30/09/2010 12:45 am Post subject: |
|
|
เสียดาย น่าจะมีกรุงเทพ-สุพรรณบุรี ชมวัดป่าเลไลยก์ หอคอยบรรหาร พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร (ไม่ไกลจากที่หยุดรถมาลัยแมนเลย) |
|
Back to top |
|
|
|