ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[Wisarut]

^^^
ข่าวซ้ำแล้วครับ ดูได้ที่นี่ครับ

http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=195997&highlight=#195997

[Mongwin]

ปฏิบัติการตำรวจรถไฟ

ชมวิดีโอคลิปข่าวได้ที่นี่
http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/116071.html

17 ต.ค.53 - ช่วงเล่าเรื่องวันนี้ คุณนิมิต สุขประเสริฐ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย จะพาเราไปดูปฏิบัติการชิงตัวประกันของตำรวจรถไฟ ที่จำลองสถานการณ์ว่ามีกลุ่มคนร้ายแฝงตัวมากับผู้โดยสารในขบวนรถไฟ แล้วใช้อาวุธสงครามจี้จับผู้โดยสารเป็นตัวประกัน ซึ่งการซ้อมแผนปฏิบัติการนี้ ก็เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนที่ใช้บริการรถไฟในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้.- สำนักข่าวไทย

[yoskmitlme06]

ปชป.ค้านไทยกู้เงินจีนสร้างรถไฟความเร็วสูง


ปชป.ค้านไทยกู้เงินจีนสร้างรถไฟความเร็วสูง ชี้ดอกเบี้ยแพงเกินไป จี้เปิดแผนบริหารโครงการไม่ให้ขาดทุน

วันนี้ (19 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างกรอบการเจรจาความร่วมมือด้านการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างราช อาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่ ครม. ซึ่งในช่วงบ่ายผู้อภิปรายฯส่วนใหญ่ยังคงตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับโครงการดัง กล่าวว่าทำไมรัฐบาลไทยถึงสร้างความร่วมมือกับจีนเพียงประเทศเดียว รวมไปถึงความโปร่งใสในการดำเนินการ

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ควรกู้เงินจากประเทศจีนมาดำเนินการเพราะมีดอกเบี้ยแพงมากถึง 5% ต่อปี ซึ่งเห็นว่ารัฐบาลไทยควรไปกู้เงินกับประเทศญี่ปุ่นในนามองค์กรความร่วมมือ ระหว่างประเทศของญี่ปุ่นหรือไจก้าน่าจะดีกว่า นอกจากนี้ การกู้เงินจากจีนยังมีต้องมีเงื่อนไขในการใช้ผู้รับเหมาและอุปกรณ์ของจีน ด้วย แบบนี้จะทำให้ไทยเสียเปรียบค่อนข้างมาก ผิดกับจีนที่จะได้กำไรถึงสองส่วนจากเงินกู้และค่าวัสดุก่อสร้าง

“ไม่เห็นประโยชน์อะไรเลยหากไทยจะกู้เงินจากจีนเพียงอย่างเดียว ทางที่รัฐบาลไทยควรใช้ระบบการลงทุนร่วมระหว่างภาครัฐกับเอกชนน่าจะดีกว่า ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยมีการวางแผนเกี่ยวกับการบริหารจัดการอย่างไรไม่ให้ขาดทุนเหมือนกับ บางประเทศเพราะโครงการพวกนี้ส่วนใหญ่เวลาสร้างรัฐบาลมักจะมั่นใจว่าจะมีกำไร แต่ปรากฏว่าสุดท้ายก็ขาดทุน ดังนั้น รัฐบาลไทยต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้ดีโดยเฉพาะการวางแผนพัฒนาพื้นที่สองข้าง ทางรถไฟเชิงพาณิชย์เพื่อหากำไรทางอ้อมลดภาระความเสี่ยงจากการขาดทุน โดยส่วนตัวเห็นว่าหากรัฐบาลจะดำเนินการก่อสร้างควรเริ่มสร้างเส้นทางระหว่าง กรุงเทพ-หนองคายก่อนเพราะภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่มีประชาชนมากที่สุดและยัง สามารถเชื่อมต่อกับจีนตอนใต้ได้ด้วย” นายสามารถ กล่าว

ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธุ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นที่น่าสงสัยว่าทำไมการดำเนินการโครงการนี้ถึงได้เจาะจงไปที่ประเทศจีน ประเทศเดียวกันทั้งๆที่การพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงของจีนเพิ่งเริ่ม ต้นเมื่อปีพ.ศ.2547 ตรงกันข้ามกับประเทศญี่ปุ่นที่เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปีพ.ศ.2507 ทำไมถึงไทยถึงไม่ประสานความร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่นที่มีการพัฒนาเทคโนโลยี มานานกว่าจีน เช่นเดียวกับประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นประเทศที่มี เทคโนโลยีที่ดีที่สุดประเทศหนึ่งและมีการพัฒนามาเป็นเวลานาน

“อีกประเด็นที่สำคัญ คือ ทำไมโครงการนี้ถึงให้รองนายกรัฐมนตรีเข้ามาเป็นผู้ดูแลแทนที่ควรจะเป็น กระทรวงคมนาคมในการดำเนินการ จึงสงสัยว่ามีลับลมคมในอะไรหรือไม่” ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธุ์ กล่าว

นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา กล่าวว่า สิ่งที่กังวลที่สุด คือ มีความเป็นไปได้ที่โครงการดังกล่าวจะได้สร้างผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ค่อนข้างสูง เพราะอย่างในเส้นทางกรุงเทพ-อุบลราชธานีพบว่ามีแนวทางสร้างเส้นทางผ่านแหล่ง ชุมชนถึง 213 แห่งรวมแหล่งโบราณสถาน เช่นเดียวกับเส้นทางกรุงเทพ-หนองคายสร้างผ่านแหล่งชุมชน 100 แห่งรวมแหล่งโบราณสถาน ปัญหาเหล่านี้รัฐบาลจะมีแนวทางรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างไรตามบท บัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง

นายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เกรงว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงสุดท้ายจะเป็นแบบโฮปเวลล์ภาค 2 ซึ่งได้ยินว่าผู้ใหญ่ในรัฐบาลที่ได้ไปร่วมงานเอ็กซ์โปที่จีนและไปพบกับนัก ธุรกิจจีนกลุ่มหนึ่ง มีการกินไวน์ หูฉลามร่วมกัน แล้วพอกลับมาไทยก็มีการเสนอเรื่องกลับมาที่รัฐบาลอย่างเร่งด่วนพร้อมกับขอ อนุมัติจากรัฐสภา โดยใช้รัฐสภาเป็นตรายางอนุมัติด้วยกระดาษแผ่นเดียวทั้งที่โครงการนี้มีวง เงินสูงถึง 4 แสนล้านบาท จึงอยากเรียกร้องให้รัฐสภาร่วมกันตรวจสอบถ่วงดุลไม่ให้ผ่านเรื่องนี้ไป.
_________________
"คำพูดร้อยคำพูด ยังไม่เท่าหนึ่งครั้งที่ลงมือกระทำ"

[Wisarut]

^^^
ข่าวจากโพสต์ทูเดย์ หละสิท่า: ให้ทำ Link แบบนี้

ปชป.ค้านไทยกู้เงินจีนสร้างรถไฟความเร็วสูง
โพสต์ทูเดย์ 19 ตุลาคม 2553 เวลา 15:15 น.

งานนี้สส. เพื่อไทยบอกว่า จะกลายเป็นโฮปเวลล์ 2 ส่วนประชาธิปัตย์ก็ตีเรื่องเงินกู้ดอกแพง - ถ้าเป็นร่วมทุนจะสวยกว่า

[Mongwin]

เป็นโฮปเวลล์ 2 ก็ดีครับ จะได้มีเสาสโตนเฮนจ์ไว้ดูแถวคลองรำ + อุโมงค์ที่ขุดไม่เสร็จไว้ให้เข้าไปสำรวจ
ว่าแต่ข่าวนี้ ที่จริงไปอยู่ที่ข่าวรถไฟความเร็วสูงน่าจะเหมาะกว่านะครับ
ไม่ได้เกี่ยวกับ รฟท.(ในปัจจุบัน) โดยตรง

[Wisarut]

สุพจน์”สั่งรฟท.เร่งประมูล โครงสร้างพื้นฐาน1.7แสนล.

โดย ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ 21 ตุลาคม 2553 14:19 น.



แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 1.7 แสนล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ที่ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนในการเรื่องของการดำเนินงาน ทำให้ทั้งอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงว่าแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะล่าช้า ซึ่งเกิดความสูญเสียต่อประเทศอย่างประเมินค่าไม่ได้
ทำให้สุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ต้องออกมาเร่งรัดให้รฟท.เร่งจัดทำแผนดำเนินงานให้ชัดเจน เพื่อให้เปิดประมูลโครงการตามแผนการ

สุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากการประชุมหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคมถึงการเร่งรัดงานโครงการขนาดใหญ่พบว่า หน่วยงานที่เป็นห่วงที่สุด คือ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ที่ไม่มีแผนดำเนินงานที่ชัดเจน โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาที่มีมูลค่าสูงถึง1.7แสนล้านบาท จึงมอบหมายให้รองปลัดกระทรวงคมนาคมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ไปจัดทำแผนการดำเนินโครงการตามแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และเร่งรัดให้เปิดประกวดราคาภายใน 4 เดือน

โครงการที่ใช้เงินลงทุน1.7แสนล้านบาท แบ่งเป็น 2ช่วง คือโครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินงาน รวม 11 โครงการ วงเงิน 87,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการปรับปรุงทางรถไฟระยะที่ 5 2.โครงการปรับปรุงทางรถไฟระยะที่ 6 3.โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย 4.การจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า 13 คัน 5.โครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 6.โครงการปรับปรุงสะพาน 7.โครงการติดตั้งอาณัติสัญญาณไฟสี 8.โครงการติดตั้งเครื่องกั้นถนน 9.งานติดตั้งรั้วสองข้างทางตามแนวเขตทางรถไฟ 10.โครงการสร้างโรงรถจักรแก่งคอย และ11.โครงการก่อสร้างโรงรถศรีราชา

ส่วนโครงการที่ต้องดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและจัดทำEIA เพื่อนำเสนอครม.ขอความเห็นชอบอีก 10 โครงการ มูลค่าก 89,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางสายมาบกระเบา-ถนนจิระ ทางคู่นครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน ทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ และทางคู่ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ,การจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าทดแทน GE 50 คัน , จัดหารถโดยสารรุ่นใหม่เชิงพาณิชย์115 คัน ,โครงการก่อสร้างICD แห่งที่2 ,โครงการติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคม และRefurbish รถจักร 15 คัน ซึ่งคาดว่าจะประกาศประกวดราคาได้ในปลายปี2554

“นายกรัฐมนตรี(อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ให้ความสนใจการการปรับโครงสร้างพื้นฐานของรฟท.เป็นอย่างมาก โดยรัฐบาลได้เตรียมเงินลงทุน 1.7แสนล้านบาทให้แล้ว โดยหลังจากนี้กระทรวงคมนาคมจะเร่งรัดให้รฟท.จัดทำแผนการปฏิบัติงาน และให้เริ่มการประกวดราคาพร้อมกัน ไม่ต้องรอทยอยดำเนินการ”สุพจน์ กล่าว

สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อ-รังสิต คืบหน้า 40% ช้ากว่าแผน 10 % ส่วนช่วงบางซื่อ-รังสิต คาดว่าจะเปิดให้เอกชนยื่นซองประกวดราคาก่อสร้างงานโยธา สัญญาที่ 1 และ 2 วงเงิน45,000 ล้านบาท วันที่ 1และ2 ธ.ค.2553 ส่วนสัญญาที่ 3 (งานระบบไฟฟ้าและอาณัติสัญญาณ)วงเงิน 20,000 ล้านบาท ยื่นซองวันที่ 17 ม.ค.2554

ขณะเดียวกัน รฟท.เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ขออนุมัติจดทะเบียนและเพิ่มเงินลงทุนในบริษัทเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์ จากเดิม500 ล้านบาท เพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเสนอเข้าครม.ได้ประมาณปลายเดือนต.ค.หรือต้นพ.ย.
เล็งเสนอครม.สร้างปากบารา

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอครม. เพื่อก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา จังหวัดสตูล มูลค่า 9,741ล้านบาท ที่กรมเจ้าท่าเป็นผู้รับชอบ ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะสรุปเรื่องเสนอครม.ภายในเดือนพ.ย.นี้ เพื่อยืนยันว่าการก่อสร้างท่าเรือปากบาราเป็นท่าเรือน้ำลึกตามเดิมไม่ใช่ท่าเรืออเนกประสงค์ นอกจากนี้ได้ส่งการให้กรมเจ้าท่าจัดประชุมรับฟังความเห็นประชาชนในพื้นที่ และว่าจ้างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วงเงิน 14 ล้านบาท ศึกษาการเชื่อมโยงระบบขนส่งเพื่อเชื่อมโยงท่าเรือปากบาราและท่าเรือสงขลาแห่งที่ 2 และประสานกระทรวงพลังงาน กรณีวางท่อเชื่อมระหว่าง 2 ท่าเรือ และประสานกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อวางแผนและจัดทำผังเมืองการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณพื้นที่หลังท่าเรือ เพื่อจัดกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับท่าเรือ โดยยืนยันจะไม่มีพื้นที่สำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีแน่นอน

[Wisarut]

มิติม้าเหล็กไทย(1)
คอลัมน์ หนึ่งคิดหนึ่งทำ

โดย สันติ โยนกพันธ์, ชนายุส ตินารักษ์
หน้า 31
ประชาชาติธุรกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 4258
วันที่ 01 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553



แผนการลงทุน 1.76 แสนล้านบาทเพื่อปรับโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย และการจับมือกับจีนสร้างโครงข่ายรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมโยงประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นสัญญาณแห่งความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจมากที่สุดของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตั้งแต่เริ่มดำเนินการมาเมื่อ พ.ศ. 2439 ซึ่งนับถึงปัจจุบันก็กว่า 113 ปี

ผลลัพธ์มนตรา 1.76 แสนล้าน

งบประมาณมหาศาลย่อมหวังผลที่ดีงาม เรื่องที่เห็นได้ง่ายคือคุณภาพใหม่ในการบริการผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าสัมผัสได้ รวดเร็วขึ้น มีความถี่ของขบวนรถไฟมากขึ้น

มาตรฐานใหม่ที่การรถไฟฯมั่นใจว่าทำได้คือ รถไฟเพิ่มความเร็วถึงระดับ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในการขนส่ง ผู้โดยสาร และ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในการขนส่งสินค้า และมีขบวนรถไฟบริการมากขึ้น

ความมั่นใจนี้มาจากการเปลี่ยนไม้หมอนรางรถไฟจากไม้หมอนไม้เป็นไม้หมอนคอนกรีต ปรับปรุงทางวิ่งปรับปรุงสะพาน ติดตั้งอาณัติควบคุมการเดินรถเป็นแบบสัญญาณอัตโนมัติ ติดตั้งเครื่องกั้นการจราจรทางถนนทุกจุดที่ถนนตัดผ่านทางรถไฟ และติดตั้งรั้วสองข้างทางตามแนวเขตทางรถไฟ รวมทั้งผลบวกจากการลงทุนสร้างทางรถไฟทางคู่เพิ่มขึ้นระยะเร่งด่วน 767 กิโลเมตร

เพื่อลดการสับหลีกรถไฟทำให้รถไฟวิ่งได้ต่อเนื่อง การจัดซื้อหัวรถจักรใหม่ ซ่อมหัวรถจักรเดิม จัดซื้อรถโดยสารรุ่นใหม่เพิ่มเติม ทั้งหมดนี้ดำเนินการบนโครงข่ายรางรถไฟขนาดเท่าเดิมกว้าง 1 เมตร และในช่วงเวลาเดียวกันรถไฟไทยเปิดมิติใหม่ในเรื่องการสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงมากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ไทยจีนใกล้กันแค่นี้เอง

การรถไฟฯมีโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านดังนี้

เส้นทางสายใต้ความยาวประมาณ 1,900 ก.ม. เริ่มต้นที่กรุงเทพฯ ตรงไปสุราษฎร์ธานี แล้วแยกออกเป็น 2 เส้นทาง ทางแรกไปภูเก็ต ส่วนอีกทางผ่านหาดใหญ่ ปีนัง กัวลาลัมเปอร์ และไปสิ้นสุดที่ประเทศสิงคโปร์

เส้นทางสายเหนือความยาวประมาณ 1,100 ก.ม. เริ่มต้นที่กรุงเทพฯไปนครสวรรค์ ตาก จากนั้นแยกออกเป็น 2 ทาง ทางแรกไปนครย่างกุ้ง อีกทางหนึ่งไปเชียงใหม่ เชื่อมต่อไปยังเชียงราย และเมืองคุนหมิง ประเทศจีนในอนาคต

เส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ความยาวประมาณ 600 ก.ม. เริ่มจากกรุงเทพฯ ผ่านนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี หนองคายไปสุด ณ เมืองเวียงจันทน์ สามารถเชื่อมต่อไปยังเมืองคุนหมิงประเทศจีน และฮานอยประเทศเวียดนามในอนาคต

เส้นทางสายตะวันออก ความยาวประมาณ 800 ก.ม. เริ่มจากกรุงเทพฯ ผ่านฉะเชิงเทราไปยังระยอง ต่อไปเชื่อมถึงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา และไปสุดสายที่เมืองโฮจิมินหŒซิตี ประเทศเวียดนาม

ประเทศจีนสนใจร่วมลงทุนกับไทยในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ สายตะวันออก และสายใต้ ความคืบหน้าในเรื่องนี้มีการสำรวจเส้นทางร่วมกันและ เริ่มต้นกรอบเจรจาความร่วมมือเพื่อให้สภาผู้แทนฯพิจารณาอนุมัติ ทั้งนี้ทางจีนได้ร่วมทุนกับลาวสร้างทางรถไฟขนาดมาตรฐานจากชายแดนจีนมายังนครเวียงจันทน์แล้ว

เมื่อโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงสร้างเสร็จ จีนกับไทยจะใกล้กันนิดเดียว ความสัมพันธ์ด้านต่าง ๆ ระหว่างไทย-จีนและประเทศเพื่อนบ้านมีโอกาสพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจากการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูงภายในเวลาไม่ถึง 1 วัน

หน่วยธุรกิจหมัดเด็ดการบริหารใหม่

ขณะเดียวกันการรถไฟแห่งประเทศไทยมีการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารใหม่เพิ่มความคล่องตัวในการทำงานประกอบด้วย 3 หน่วยธุรกิจภายใน (business unit) และ 1 บริษัทลูก ได้แก่ หน่วยธุรกิจการเดินรถ หน่วยธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน หน่วยธุรกิจการซ่อมบำรุง บริษัทดำเนินโครงการ Airport Rail Link โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยถือหุ้นทั้งหมด รวมทั้งการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานส่วนกลางที่ดูแลงานโครงสร้างพื้นฐานและอำนวยการการทำงานของ 3 หน่วยธุรกิจภายใน

แนวคิดของหน่วยธุรกิจที่สำคัญคือประสิทธิภาพ โดยมีการวัดผลการประกอบการ และผลสัมฤทธิ์ในการทำงาน ตามภารกิจของแต่ละหน่วยธุรกิจ ทั้งนี้หน่วยธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน ซึ่งบริหารจัดการ "ที่ดินรถไฟ" ได้รับการจับตามองมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาการรถไฟฯมีแผนการเบื้องต้นในการพัฒนาที่ดินย่านมักกะสัน ย่านพหลโยธิน และย่านสถานีแม่น้ำ รวมทั้งที่ดินบริเวณสถานีรถไฟหัวเมืองสำคัญ เช่น เชียงใหม่และหาดใหญ่ เป็นต้น

เมื่อโครงการการบริหารจัดการใหม่เริ่มต้นวันที่ 1 ตุลาคม 2553 นี้ หน่วยธุรกิจการบริหารทรัพย์สินได้เวลาเดินหน้าแผนพัฒนาที่ดินรถไฟเสียที หลังจากเงื้อง่าราคาแพงมาแสนนาน

ความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ส่งผลให้ม้าเหล็กไทยที่เก่าแก่ชราภาพ เจ็บป่วย ใกล้ทุพพลภาพ จักมีฤทธิ์มีเดชขึ้นใหม่ เหมือนปลุกเสกม้าแกลบให้เป็นม้านิลมังกร (ม้าของสุดสาครในเรื่องพระอภัยมณี) แต่ม้าต้องมีคนขี่

ดังนั้น จุดสำคัญคือการเตรียมบุคลากรรองรับ ?

หน้า 31

[Wisarut]

สถานศึกษาหนีภัยน้ำท่วม พานักเรียนขึ้นรถไฟทัศนศึกษา เข้าค่ายนอกสถานที่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤศจิกายน 2553 12:44 น.


ศูนย์ข่าวศรีราชา - อุบัติภัยเกิดขึ้นเพียงใด การศึกษายังต้องขับเคลื่อนอย่างไม่หยุดยั้ง การเดินทางโดยรถไฟ อีกหนึ่งทางเลือกในการพานักเรียนทัศนศึกษา และการท่องเที่ยวภายในประเทศ สถาบันการศึกษาหลีกเลี่ยงภัยน้ำท่วมทางรถยนต์ ใช้การเดินทางโดยรถไฟ สะดวก และปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ขณะนี้ได้เกิดภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ทำให้การจราจรทางรถยนต์หลายจังหวัดถูกตัดขาด อีกทั้งยังอันตรายต่อการเดินทางสัญจรไปมา ทำให้ภาคธุรกิจต่าง ๆ หยุดชะงัก เกิดผลกระทบอย่างหนัก ส่วนโรงเรียน สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ต้องปิดการเรียน การสอน แต่ก็ยังมีโรงเรียนจำนวนมากที่ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาด้านการศึกษาให้กับเยาวชน ด้วยการพานักเรียนเข้าค่าย ทัศนศึกษา นอกสถานที่โดยเปลี่ยนเป็นการพานักเรียนเดินทางโดยรถไฟมาลงที่สถานีสวนนงนุชพัทยา เพื่อพานักเรียน ลูกเสือ เนตรนารีเดินทางเข้าไปยัง ค่ายสวนนงนุชพัทยา ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ ชลบุรี

นางพัทธนันท์ ขันติสุขพันธุ์ ผู้จัดการทั่วไปสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า ขณะนี้การเดินทางโดยรถยนต์ไปยังพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ มีอุปสรรคอย่างมาก และมีอันตราย แต่ก็ยังมีทางเลือกการเดินทางด้วยการใช้รถไฟ จะสะดวก สบาย ไม่ต้องกังวล ซึ่งทำให้โรงเรียน และสถาบันการศึกษาพื้นที่ต่าง ๆ ได้พานักเรียนมาทัศนศึกษาเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาโลกร้อน เข้าค่ายลูกเสือ เนตรนารี ภายในค่ายนงนุชพัทยา ด้วยการพานักเรียนนั่งรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟสวนนงนุช

จากนั้นสวนนงนุชพัทยาก็จะอำนวยความสะดวกด้วยการนำรถชมวิวออกมารับ และบริการส่งกลับยังสถานีรถไฟตามเวลาที่กำหนดอีกด้วย ซึ่งจากการสอบถามนักเรียนปรากฏว่าทุกคนพึงพอใจกับการเดินทางโดยรถไฟ สามารถชมทัศนีภาพตามเส้นทางผ่าน ปลอดภัย สนุกเพราะนักเรียนจำนวนมากเกิดมาพ่อ แม่ ไม่เคยพาขึ้นรถไฟ ในอนาคตจะทำให้พวกเข้าได้เปลี่ยนเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ด้วยการใช้รถไฟ

สำหรับเส้นทางเดินรถไฟสายตะวันออกที่เชื่อมโยงกับพื้นที่อื่น ๆ มีทางแยกออกทางเส้นทางสายเหนือช่วงระหว่างสถานีกรุงเทพ -สถานีสามเสน บริเวณยมราช เลี้ยวผ่านไปยังสถานีมักกะสัน คลองตัน ลาดกระบัง หัวตะเข้ จนถึงสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา จากนั้นจะแยกเป็น 2 เส้นทาง โดยเส้นทางแรกจะมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก ผ่านสถานีชุมทางคลองสิบเก้า ปราจีนบุรี กบินทร์บุรี สระแก้ว วัฒนานคร แล้วไปสุดทางที่สถานีอรัญประเทศ และไปเชื่อมต่อกับทางรถไฟของประเทศกัมพูชา (ระยะทางถึงสถานีอรัญประเทศประมาณ 254.5 กิโลเมตร)

ส่วนเส้นทางที่สองจะมุ่งหน้าลงไปทางทิศใต้ผ่านสถานีชลบุรี บางพระ ชุมทางศรีราชา ชุมทางเขาชีจรรย์ บางละมุง พัทยา วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร สวนนงนุชพัทยา แล้วสุดสายที่สถานีบ้านพลูตาหลวง และท่าเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยที่สถานีชุมทางศรีราชานั้นมีทางแยกไปยังท่าเรือแหลมฉบัง และที่สถานีชุมทางเขาชีจรรย์มีทางแยกไปยังนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง

ที่สถานีชุมทางคลองสิบเก้าจะมีทางแยกไปทางทิศเหนือเพื่อบรรจบกับเส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณสถานี ชุมทางแก่งคอย โดยจะผ่านสถานีองครักษ์ วิหารแดง บุใหญ่ และช่วงระหว่างวิหารแดง - บุใหญ่ จะต้องลอดอุโมงค์พระพุทธฉาย ความยาว 1,197 เมตร อีกด้วย

[Mongwin]

[tamz]

http://www.facebook.com/photo.php?fbid=163133420385227&set=a.163132673718635.34456.100000657101791

จะบอกว่าวันนั้นผมก็อยู่บนขบวนรถด้วยสิครับเนี่ย... หุหุหุ.... แถมหลังจากนั้นยังเป็นวันแรกในรอบสองเดือนที่ ข.๕๓๖/๕๓๕ เปิดเดินถึงมาบตาพุดเสียด้วยสิครับ ทำขบวนมายาวเหยียดโดยปู่ GEK จะดับแหล่มิดับแหล่ ๒๐ กม.ต่อชั่วโมง (รถเปล่า) จนแทบจะเอาตัวไม่รอด เหอะๆๆๆ...
_________________
ผู้โดยสารโปรดทราบ  ที่นี่สถานีพัทยา