View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
tamz
3rd Class Pass (Air)
Joined: 01/10/2008 Posts: 457
Location: พัทยา
|
Posted: 06/05/2010 1:00 pm Post subject: ข่าวคราวของการรถไฟเกาหลีเหนือ |
|
|
โจทก์เยอะ
รถไฟขบวนพิเศษ 17 โบกี้ แล่นข้ามแดนจากเกาหลีเหนือ สู่แผ่นดินใหญ่จีนเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางการคาดเดา น่าจะเป็นการเดินทางของนายคิม จอง-อิล ผู้นำโสมแดง และคณะ
ซึ่งก็เป็นความจริง เมื่อภาพข่าว ของสื่อจีนในวันเดียวกัน แสดงให้เห็น คิมโผล่ออกจากโรงแรมที่พัก ในเมือง ต้าเหลียน มณฑล เหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ขึ้นนั่งรถยนต์ที่คาดว่าทางการปักกิ่งส่งไปรับ
ที่บอกว่า รถไฟขบวนพิเศษ ก็เพราะเป็นขบวนรถส่วนตัวของคิม จอง-อิล หัวจักรและตู้ขบวน หุ้มเกราะกันกระสุนและระเบิด และแน่นอนว่าต้องเต็มไปด้วยหน่วยองครักษ์ รวมทั้งแพทย์พยาบาล พร้อมรับมือเหตุไม่คาดฝัน
เป็นการเดินทางออกต่างแดน เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีของคิม จอง-อิล โดยครั้งก่อนหน้านี้เยือนจีนโดยรถไฟเช่นกัน ในเดือน ม.ค. 2549 ซึ่งคิมและคณะเน้นการ ดูงาน ศูนย์การค้าและธุรกิจของจีน ทำให้ถูกมองว่า กำลังหันเข้าหาทุนนิยม ตามรอยพี่ใหญ่
และเยือนจีน 2 ครั้งก่อนหน้านั้น ในปี 2543 และ 2547 คิมเดินทางข้ามแดนโดยขบวนรถไฟเช่นกัน
ความเคลื่อนไหวไม่รอดพ้นสายตา เครือข่ายข่าวกรองฝ่ายตรงข้าม ซึ่งโดยหลักหมายถึงเกาหลีใต้ และสหรัฐ ที่มีดาวเทียมจารกรรม ลอยปักหลักสอดส่องอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง
ข้ามแดนไปหาพี่ใหญ่เที่ยวนี้ คาดว่าคิมจะขอความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ และความคุ้มกันทางการทูต จากหลายปัญหาระหว่างประเทศ ที่เกาหลีเหนือเกี่ยวพันอยู่ในขณะนี้
ที่จะพูดถึง เป็นเรื่องส่วนตัวมุมหนึ่งของคิม จอง-อิล จากการเปิดเผยของ ลี ยอง-กุ๊ค อดีตองครักษ์คนสนิทใกล้ชิดกับคิมยาวนาน ก่อนการแปรพักตร์สู่เกาหลีใต้เมื่อ 10 ปีก่อน
ลีบอกว่า คิมหวาดกลัวการนั่งเครื่องบินเป็นที่สุด จะไม่ยอมใช้บริการเป็นเด็ดขาด หากต้องเดินทางไกลไป ต่างแดน หรือแม้แต่การเดินทางภายในประเทศ จะใช้รถยนต์หรือเรือเท่านั้น
ใช่ คิมกลัวเครื่องบินตก ไม่ใช่กลัวตกเพราะอุบัติเหตุทั่วไป แต่กลัวจะถูกสอยร่วง ยิงตกโดยศัตรูที่มีอยู่จำนวนมาก ลีบอกว่าคิมรู้ตัว ก่ออาชญากรรมไว้เยอะ และรู้ว่าอันตรายที่สุด หากเลือกเดินทางโดยเครื่องบิน
ตอนยังเป็นทายาททางการเมือง รอขึ้นครองอำนาจต่อจากคิม อิล-ซุง ผู้เป็นพ่อ ใครต่อใครต่างก็เชื่อว่า คิมเป็นคนวางแผน ระเบิด เครื่องบินโดยสารของเกาหลีใต้ เมื่อปี 2530 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 115 ศพ
ลีถูกคัดเลือกจากเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง ทางเหนือของประเทศ เข้ารับการฝึกเป็นสายลับตั้งแต่ปี 2521 หลังจากนั้นก็ได้รับการคัดเลือกอีกที เป็น 1 ใน 150 องครักษ์ส่วนตัวของคิม จอง-อิล ที่เตรียมขึ้นครองอำนาจ ต่อจากคิม อิล-ซุง ที่อสัญกรรมในปี 2537
ทุกย่างก้าว คิมจะเน้นความปลอด ภัยเป็นอันดับแรก ไม่ยอมเผลอการ์ดตก ให้ศัตรูเห็นช่องโหว่ได้ง่าย ๆ ก่อนการเดินทางบางครั้ง จะมีขบวนรถไฟ รถยนต์ หรือขบวนเรือ หลอกตาหน่วยข่าวกรองต่างชาติด้วย
ลีเผยอีกว่า ทุกแห่งที่คิมอยู่ ต้องมีหน่วยอารักขาอย่างน้อย 3 ชั้น ห้องทำงานหลักส่วนตัว เป็นผนังคอนกรีตหนา 32 นิ้ว (80 ซม.) และบานประตูโลหะกันระเบิด.
โดย : เลนซ์ซูม วันพฤหัสบดี ที่ 06 พฤษภาคม 2553 เวลา 0:00 น.
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=31&contentID=63951 _________________ ผู้โดยสารโปรดทราบ ที่นี่สถานีพัทยา |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43731
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 24/10/2010 8:17 am Post subject: |
|
|
ขอบคุณครับ
ได้เห็นภาพของเกาหลีเหนือ ซึ่งหาได้ยากมาก ฝรั่งกลุ่มนั้นได้เข้าไปเกาหลีเหนือคงในฐานะของแขกรัฐบาลหรือเปล่า ถึงได้ถ่ายภาพอย่างอิสระได้แบบนี้
เห็นภาพชาวเกาหลีเหนือใช้ชีวิตเป็นปกติมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าในใจลึกๆของพวกเขาแล้ว มีความสุขมากน้อยแค่ไหนในประเทศที่ปิดตัวเองมานานหลายทศวรรษเช่นนี้ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46893
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/10/2010 9:12 pm Post subject: |
|
|
เพื่อนคนญี่ปุ่นเล่าให้ฟังว่า เครื่องบินโดยสารจากโตเกียวไปปักกิ่ง
ถ้าบินตรงดิ่งไปเลย ต้องผ่านน่านฟ้าของเกาหลีเหนือพอดีครับ
ดังนั้น เวลาบินต้องอ้อมลงมาทางใต้เพื่อผ่านน่านฟ้าเกาหลีใต้แล้วค่อยวกกลับขึ้นไปปักกิ่งครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43731
Location: NECTEC
|
Posted: 09/11/2010 12:05 am Post subject: |
|
|
เคลียร์ทางรถไฟ แบบ เกาหลีเหนือ:
โดย Lee Sung Jin
Daily NK 24 เมษายน 2009 17:47
ทางรถไฟเกาหลีเหนือไม่มีรั้วกันเขตทาง แม้่ว่าทางรถไฟจะผ่าเข้าไปกลางเมือง แม้จะมีกฏห้่ามก่อสร้างอาคารบ้านเรือนหรือสถานที่ราชการ ในรัศมี 50 เมตรจากศูนย์กลางทางรถไฟแต่ ก็เป็นเพียงกฏในตำรากฏหมาย ที่ ไม่มีใครบังคับใช้จริงๆ จังๆ ทำให้ชาวบ้านพากัน มาตั้งบ้านเรือนชิดเขตทางรถไฟกันมานานแล้ว เพราะ พื้นที่รอบทางรถไฟเป็นเขตที่มีการค้าขายกันสะดวกที่สุด แม้จะมีรถไฟมา ก็มีเพียงวันละ 1-2 ขบวน เลยไม่มีเหตุจูงใจให้ย้ายออกจากเขตทางรถไฟ
แม้แต่ชาวบ้านเองก็อาศัยทางรถไฟเดินทางไปมาเพราะ ถนนส่วนใหญ่เป็นเพียงดินลูกรังหรือถนนหินอัดแน่น จะมีราดยางมะตอยหรือคอนกรีตก็น้อยเต็มที และ ทางรถไฟ ที่มณฑล Yangkang และ มณฑล North Hamkyung แล้วทางรถไฟที่เลียบแม่น้ำยาลูและ แม่น้ำ ทูเหมิน เป็นทางขนของหนีภาษี จากเมืองจีนเข้ามายังเกาหลี หรือ จากเกาหลีเหนือไปเมืองจีน
ตอนช่วงต้นทศวรรษ 2000 มีการสร้างบ้านชิดเขตทางรถไฟ ถึงระดับ 10 เมตรจากศูนย์กลางทางรถไฟ ซึ่งทำได้โดยต้องติดสินบนเจ้าหน้าที่ รถไฟ
ต่อมา เมื่อ ผู้บัญชาการสูงสุด คิมจองอิล ได้ไปเห็นการสร้างบ้านเรือนริมทางรถไฟ ในเมือง Samjiyeon และ มณฑล Yangkang ขณะตรวจรัฐการ เข้าจึงออกคำสั่งเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2009 ให้รื้อทำลายบ้านเรือนในเขตทาง 50 เมตร ออกไปให้หมด
แม้จะรื้อไปแล้ว แต่ เวลาขนย้ายคนนับร้อยนับพันครัวเรือนไปอยู่ที่ใหม่ ก็ทุลักทุเล เพราะ เล่นออกคำสั่งแบบกระทันหัน แถม ที่ดินที่เหลืออยู่ก็ต้องออกไปชานเมือง ซึ่้งเส้นทาง เชื่อมกับตัวเมือง ไม่สะดวก ไม่มีถนนวงแหวน ดีๆ ไม่มีทางรถไฟวงแหวน หรือ ไม่ก็ไปในเขตกันดาร แม้จะสร้างบ้านให้ที่ชานเมืองแต่ อยู่ในสภาพจะพังแหล่มิพังแหล่ เลวกว่าบ้านที่รื้อลงไปเสียอีก ทำให้ ชาวบ้านที่โดนรื้อบ้าน ถึงแก้ขว้างปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่
รัฐน่าจะให้เงินกู้ไปสร้างบ้านเองยังจะได้บ้านพอคุ้มหัวได้ดีกว่าบ้านตุ๊กตาของรัฐบาล
แม้แต่ทหารปลดประจำการ ที่ต้องอยู่ห้องเช่า ที่นอนเดียว ริมทางรถไฟ ขณะศึกษาต่อก็ต้องระทมกับมาตรการของ ผู้บัญชาการสูงสุด คิมจองอิล เพราะ การรื้อห้องเช่าอย่างกระทันหัน มีหวังได้นอน ข้างถนนเหมือนขอทานทั้งๆที่เป็นทหารที่ปลดประจำการ ทำให้ต้องมีการชกต่อยเพื่อแย่งที่อยู่ใหม่ที่ดี มีให้เห็นประจำ
แม้แต่ทางพรรคฯ สาขาเมือง Hyesan ที่รับผิดชอบเรื่องการ รื้อถอนและสร้างบ้านใหม่ ให้ ก็ต้องปวดหัวเพราะ ปูนขาด เนื่องจาก โปลิตบูโร ปันส่วนซีเมนต์ให้แค่ 300 กิโลกรัม ซึ่งแม้จะสร้างบ้านชั้นเดียวที่มีระบบ ทำความร้อนใต้พื้นบ้านแบบโบราณก็ยังแทบจะไม่พอ ถ้าจะสร้างโรงงานบ้านเรือนร้านค้าใหม่ ก็ต้องได้ปูนมากกว่านี้ มาก
แม้แต่คนที่ไม่ได้อยู่ริมทางรถไฟ ก็ พลอย ทุกข์ยากเพราะ คำสั่งเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2009 เนื่องจากมีคำสั่งให้ แต่ละครัวเรือนไปหาอิฐทำจากโคลนและฟาง 500 ก้อน และ โรงงานต้องลดค่าแรงคนงาน จากข้าว วันละ ไม่ถึง 2 กิโลกรัมเป็นข้าววันละ ไม่ถึง 1 กิโลกรัมเพื่อ จะได้มีเงินซื้อเชื้อเพลิงและ วัตถุดิบเพื่อผลิตวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างให้พอ
แม้แต่หมู่บ้านทหารปลดประจำการ 1000 หลัง แถวเหมือง Hyesan ก็สรี้างไว้เลวมาก แค่ 3 ปี ทหารปลดประจำการก็หนีไปอยู่ที่อื่น เกือบครึ่ง แม้แต่บ้าน แถวเมือง Potae-ri, Samjiyeon หรือ Daehongdan จะดูดีจากภายนอก แต่ก็สร้างอย่างชุ่ยๆ จนแม้แต่ทหารที่จะได้กินดีอยู่กว่าชาวบ้านก็ต้อง อยู่่บ้านที่ไม่ต่างจากสลัม
Last edited by Wisarut on 09/11/2010 2:01 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 09/11/2010 12:33 am Post subject: |
|
|
ก็ว่าไปตามอัตคัต สไตล์บ้านเมืองเขาล่ะครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43731
Location: NECTEC
|
Posted: 09/11/2010 2:46 am Post subject: |
|
|
การเดินรถไฟ แบบ เกาหลีเหนือ: มีรถระหว่างเมืองเดินทุกๆ 10 วัน
โดย Kim Young Jin
Daily NK 6 กันยายน 2006 17:53
มีรายงานจากฝั่งเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2006 ว่าทางรถไฟสายหลัก Pyong-ra (เปียงยาง - ด่านราจิน -> Pyongyang-Rajin) ที่เชื่อมชายฝั่งตะวันออกเข้ากับเมืองหลวง งดเดิน ทำให้ การโดยสารต้องลำบากกว่าเดิม - การเดินทางจาก เมือง Pyongsung ในมณฑล Pyongan ไปเมือง Hoiryeong ในมณฑล North Hamkyung เพื่อไปเมือง Suncheon ใช้เวลามากกว่า 1 เดือน และ ต้องจ่ายเงินค่าเดินทางไปกีับรถบรรทุก จนเกือบหมดตัว เมื่อกรกฎาคมที่แล้ว เนื่องจากรถไฟโดยสาร จาก Pyongan ไป Chongjin ในมณฑล North Hamkyung มีเดินทุกๆ 10 วัน ทำให้ ชาวบ้านต้องอาศัย รถบรรทุกและ รถเมล์ ถึงจะไปได้
ที่เป็นเช่นนี้่ก็เพราะ ขณะนี้ รถไฟขบวน Shinuiju-Chongjin ที่วิ่งจาก เมือง Chongjin ในมณฑล North Hamkyung ไป Shinuiju นั้นขณะนี้เดินได้เพียง สถานี Kowon ในมณฑลNorth Hamkyung เพราะ ยังซ่อมทางรถไฟช่วง Kowon - Yangduk ไม่เสร็จ ทำให้รถไฟต้องวิ่งจาก Kowon กลับ Chongjin ซึ่งต้องใช้เวลา 10 วัน
ที่ต้องมาซ่อมทางกันแบบนี้ก็เพราะ อุบัติเหตุเมื่อ 23 เมษายน 2006 ที่ รถโดยสาร 13 หลัง จาก กรุงเบียงยางไปเปียงกัง (Pyongyang - Pyonggang) ชนกับรถสินค้า ทำให้
ทหารตาย 270 คน พลเรือนตาย 400 คน และ ทางรถไฟระหว่างสถานี Yangduk ในมณฑล South Pyongan และ สถานี Kowon ในมณฑล North Hamkyung ชำรุดหนัก - รถคว่ำ แถมยังมีน้ำท่วม ปิดอุโมงค์ พร้อมพัดพาหินโรยทางไป แถม รางรถไฟ ขาด บิดเบี้ยว ชี้ฟ้าไปยาว 50 เมตร
เพื่อไม่ให้เรื่องนี้รั่วไหล รัฐบาลเลยสั่งงดเดิน จาก กรุงเปียงยาง ไป ด่านราจิน ทุกขบวน
ทำให้การเดินทางจาก Yangduk ในมณฑล Pyongyang และ ชายฝั่งตะวันออกถูกปิดตาย
ค่าตั๋วรถไฟ ขั้นต่ำราคา 5000 วอนเกาหลีเหนือ (1.67 ดอลลาร์สหรัฐ) ผลจากการงดเดินรถไฟฝั่งตะวันออก ทำให้ต้องนั่งแท้กซี่ร่วมกัน โดยคิดขั้นต่ำคนละ 5000 วอนเกาหลีเหนือ ถ้ามีสัมภาระคิดเพิ่มอีกคนละ 5000 วอนเกาหลีเหนือ
จะเดินทางจากเมืองท่า Wonsan ในมณฑล Gangwon ไป Kowon ในมณฑล South Hamkyung คิด 5,000 วอนเกาหลีเหนือ
จากเมืองท่า Wonsan ไปกรุงเปียงยาง คิด 20,000 วอนเกาหลีเหนือ (6.67 ดอลลาร์สหรัฐ) และ จากเมืองท่า ไป Hamheung ในมณฑล North Hamkyung คิด 10,000 วอนเกาหลีเหนือ (3.33 ดอลลาร์สหรัฐ).
ชาวบ้านพากัน นั่งรถแท็กซี่ร่วมกันจาก Yangduk ไป Wonsan แล้วนั่งรถไฟ จาก Wonsan แบบวิ่งผลัดเช่นนี้มักจะหมดตัวเมื่อถึงบ้าน
บางรายที่เดินเท้า เลาะ และ ปีนป่าย ไปตาม เขา Bukdaeryeong จาก Yangduk ไป Sudonggu มณฑล North Hamkyung ต้องใช้เวลา 10 กว่าวันกว่าถึงจุดหมาย เพราะ ทางกันดารมาก จนต้องขโมยลักขโมยข้าวโพดและมันฝรั่ง ข้างทางกินกันตาย จนชาวไร่พากันบ้่นไปถึงตำรวจ
เมื่อทางสายตะวันออกกับเมืองหลวงขาดตอน เศรษฐกิจเกาหลีเหนือ ตกอยู่ในภาวะวิกฤตขึ้นมาทันที แม้แต่ มณฑล North Hamkyung ที่มีปัญหาน้ำท่วมไร่้นาไม่มาก ก็ตกอยู่ในภาวะลำบากเพราะ สินค้าจากเมืองหลวงและ ที่อื่นที่มาแลกกับข้าวปลาอาหารมาไม่ถึง แม้แต่การแลกสินค้าในตลาดมืดก็ทำไม่ได้เรพาะ รถไฟไม่มีเดิน
ทางรถไฟเกาหลบีนั้นเป้ฯดังเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจเกาหลีทีเดียว แม้ปิดทางรถไฟแค่สายเดียวก็ทำให้เศรษฐกิจชะงักงัน จนถึงขั้นความอดหยากเกิดขึ้นมาทันที ที่งดเดินรถ
ผลจากการงดเดินรถไฟ ทำให้ข้าวของแพงอย่างบ้าเลือด - ดังรายการจาก ตลาดกลางสินค้าเกษตร Jangmadang (장마당) ระบุดังนี้
ข้าวสารราคากิโลกรัมละ 1,300 วอนเกาหลีเหนือ (43 เซนต์สหรัฐ)
ข้าวโพดราคากิโลกรัมละ 300 วอน (10 เซนต์สหรัฐ),
น้ำมันข้าวโพด ขวดละ 2800 วอน (93 เซนต์สหรัฐ),
น้ำมันถั่วขวดละ 3200 วอน (1.07 ดอลลาร์สหรัฐ),
เนื้อหมูขีดละ 3300 วอน (1.10 ดอลลาร์สหรัฐ),
แต่ก่อน ไม่แพงขนาดนี้
ตอนนี้ พวก เด็กข้างถนน (Kotjebi - 꽃제비) เพ่นพ่านแถว Chongjin ในมณพล North Hamkyung และเมืองท่า Dancheon ในมณฑล South Hamkyung และ พวกเด็กข้างถนน พากันไปที่ ชายแดนจีน เช่นที่ Rajin-Sunbong, Chongjin, Hamheung, Nampo Hoiryeong, Musan และ Onsung คอยล้วงกระเป๋า หรือ ที่โตหน่อยก็ ดักจี้ปล้นฆ่าข่มขืน และชิงทรัพย์ แก้อดตายและ ขนทรัพย์ไปแลกข้าวและอาหาร ไปวันๆ
ตอนนี้ถ้ารถหยุดเดินเมื่อไหร่เป็นได้รื้อหน้าต่าง ม่านและ ที่นั่งไม้ในรถไฟ ไปโยนเข้ากองไปเพื่อแทนฟืนและถ่านหินที่ขาดแคลน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43731
Location: NECTEC
|
Posted: 09/11/2010 3:54 am Post subject: |
|
|
ไฟฟ้าขาดแคลนและการปลดคนรถไฟ ทำให้วิศวกรรถไฟ ต้องไปทำไร่บนเขา
โดย Kim Young Jin
Daily NK 5 กันยายน 2005 15:54
หลังจากแผนการจัดการเศรษฐกิจฉบับที่ 7.1 ปี 2002 วิศวกรรถไฟ ในมณฑล North Hamkyong ร้อยละ 90 ต้องตกงาน ส่วนวิศวกรรถไฟที่เหลือไม่ถึง 10% ได้ค่าแรงเดือนละ ไม่ถึง 3000 วอนเกาหลีเหนือ (1.5 ดอลลาร์สหรัฐ)
หลังจากแผนการจัดการเศรษฐกิจฉบับที่ 7.1 ปี 2002 ค่าแรงวิศวกรระดับ 1 (entrance level) ได้รับการยกจาก 78 วอนเกาหลีเหนือ (3.9 เซนต์สหรัฐ) เป็๋น 1700 วอนเกาหลีเหนือ (85 เซนต์สหรัฐ) และ ระดับ 5 คิดที่ 3000 วอนเกาหลีเหนือ (1.5 ดอลลาร์สหรัฐ) แต่ คนงานร้อยละ 90 โดยเฉพาะคนเก่าคนแก่ที่เคยขับรถจักรไอน้ำ นั้นไม่เคยได้ค่าแรง ระดับนั้นเลย ทำให้ต้องลาออกไปทำไร่ไถนากับครอบครัว ตามภูเขา
เกาหลีเหนือเลิกการเดินรถจักรไอน้ำแต่ปี 2004 และ รถไฟที่เดินตอนนี้มีเดินไม่ถึงร้อยละ 10 จากที่กำหนดในตารางเดินรถ เพราะ ไม่มีไฟฟ้าให้รถจักรไฟฟ้าเดินรถ มา 2-3 ปีได้แล้ว
ปกติหน่วยรถไฟแต่ละหน่วยจะมีคนงานและครอบครัวไม่ต่ำกว่า 800 คน
หลังปี 1990 มีรถเดินไม่ถึงร้อยละ 10 จากตารางปกติ - ซึ่งปกติจะมีเดิน 5-7 เที่ยวต่อวัน ในตอนใต้ของ Chongjn ใน มณฑล North Hamkyong และ วันละ 2-3 ขบวน ในตอนเหนือของ Chongjn ใน มณฑล North Hamkyong ซึ่งในยามปกติแล้วจะมีรถโดยสารเดิน ถึง 10 เที่ยวในตอนใต้ของ Chongjn ใน มณฑล North Hamkyong ตอนนี้มีรถเดินเพียง วันละ 2-3 ขบวนเป็นอย่างมาก โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำรถ และ ขับรถจักรแค่ 10 คน อีก 30 คนคุมสถานีและ ย่านสถานี
ส่วนรถสินค้านั้น มีแต่รถขนถ่านหิน และสินค้าจากเมืองจีน ซึ่งอาจมีอาหารจากเมืองจีนมาด้วยบางขบวน แต่ นั้นมันของสำหรับพวกใหญ่โตภายในพรรค ซึ่งมักจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า หรือ แม้แต่ขนมหวาน
รถจักรไอน้ำ ก็เลิกเดินไปแต่ปี 2004 แล้วขายเป็นเศษเหล็กที่เมืองจีน เพราะ ถ่านหินขาดแคลนที่เกาหลีเหนือ
สมัยก่อนที่ ท่านประธานคิมอิลซุงจะถึงแก่อสัญกรรม เคยมีรถไฟพิเศษ เดินฉลองปีใหม่และ ฉลองวันหยุดฤดูเก็บเกี่ยว (Chuseok) แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว
ช่วงที่ไม่มีงานเดินรถ ผู้กำกับรถไฟก็ให้ไปทำไร่ไถนา ในภูเขา แต่จะคอยเช็คว่ามาทำงานหรือไม่ ถ้ามาก็ทำปุ๋ยก่อน และ เมือ่ถึงฤดูใบไม้ผลิก็ ขึ้นเขาไปปลุกถั่วและข้าวโพด
ใครมีญาติโยมที่เมืองจีน ก็ให้ไป วิ่งเทียวไล้เทียวขื่อเอากับญาติเพื่อทำธุระกิจตลาดมืด เพื่อนำเงินตราต่างประเทศส่งเข้ามา ให้รัฐ
ส่วนการปันส่วนอาหาร ก็ขึ้นกับขนาดครอบครัว และ จำนวนเวลาในการทำงาน ทำมาก็ได้มาก ครัวใหญ่ก็ต้องแบ่งคำใหญ่ แต่ ส่วนใหญ่มักอดๆหยากๆเพราะ ผลผลิตต้องนำไปใช้หนี้สิน ที่กู้เขามากินช่วงก่อนการเก็บเกี่ยว ปกติรัฐจะไม่มายุ่งเรื่องภาษีเพราะ ได้ผลผลิตกันไม่เท่าไหร่ แต่บางที เจ้าหน้าที่ป่าไม้ (Forestry Protection Agency) จะขึ้นมาเก็บภาษี ในฐานะที่รัฐเป็นเจ้าของที่ดินภูเขา ซึ่งให้คนรถไฟทำไร่ไถนา ซึ่งปกติจะจ่ายภาษีไม่กี่ร้อยวอนเกาหลีเหนือ เพราะถือว่าเป็นหน่วยราชการใช้ที่ดินรัฐ เพาะปลูกเลยไม่กล้าเก็บภาษีหนักเหมือนกรณี ไร่เอกชน
โดยมากคนรถไฟมักจะแอบทำธุรกิจ - เพาะปลูกส่วนตัว ที่ทำให้มีชีวิตอยู่ได้ แต่ก็อดๆหยากๆ เต็มที ที่เกาะหลีเหนือ ถือว่าสำนักงานรถไฟในแต่ละเมืองและมณฑลจะเป็นเหมือนหน่วยทหาร แม่้จะไม่ใช่ฤดูเพาะปลุกแเละเก็บเกี่ยว ผู้ชายก็ต้องทำงานผู้หญิง ต้องทำธุรกิจ
ค่าแรงคนรถไฟมักจะเป็นอาหารแห้ง - 15 กิโลกรัมต่อเดือน แย่งให้คนงาน 30-40 คน ซึ่งไม่ได้เป็นเงิืนเดือนจากส่วนกลางแต่เป็นรายได้ที่ได้จากการให้ผู้หญิงทำธุรกิจ หรือ จากการ ทำมาค้าขายพืชไร่ ใครทำงานก็มีข้าวกินบ้าง ใครไม่ทำงานก็อดตาย
บางทีเราก็ให้ คนแอบขึ้นรถทั้งๆที่ไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้า เลยให้ไปนั่งในรถจักร โดยจ่ายเงินให้พขร. และ ผู้ช่วย พอมีรายได้ติดมือบ้าง
ตอนนี้ไม่ค่อยมีใครอยากเป็นคนรถไฟเพราะ คนรถไฟแทบไม่มีงานทำ ต้องไปทำไร่ไถนา ส่วนพสที่ขับรถต้กต้องรับสินบนเพื่อหารายได้ เรพาะรัฐเล่้นจ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง
ใครอยบากทำงานรถไฟต้องผ่าน Railway Education Training Institute หลักสูตรหนึ่งปี โดยใช้การเกณฑ์หรืออาสา และ ต้องผ่านประสบการคุมการเดินรถตามสั่ง คุมรถจักร คุมการเดินรถ คุมรถโดยสารและรถสินค้า และ อื่นๆ
กว่าจะเปลี่ยนจากขีด 1-2-3-4 มาเป็นดาว ก็ต้องจบจากสถาบันฝึกการรถไฟเป็นผู้ช่วยระดับ 1-2-3-4 ก่อนเพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการเดินรถและซ่อมรถ ก่อนจะ เข้ามหาวิทยาลัยรถไฟ หลักสูตร 3 ปี ก่อนได้เป็นวิศวกรรรถไฟอิสระ กว่าจะได้ดาวก็ต้องจบหลักสูตร 3 ปี จาก วิทยาลัย ก่อนจะส่งไปคุุมหน่วยรถไฟ
การบริหารรถไฟก็ไม่ต่างจากการคุมกองทัพตามสายการบังคับบัญชา โดยคุมจากศูนย์กลางพรรค ฝ่ายการจัดการก็เดหมือนทหาร ส่วน ฝ่ายทั่วไปคุมมณฑล โดยมีเลขาธิการกลางคุมในระดับมณฑล ที่มีระดับชั้นสูงขึ้นไปตามลำดับ
คนรถไฟไม่เคยได้รับอาหารและ เงินทองที่ต่างประเทศบริจาค เพราะ เงินทองข้าวของที่ต่าประเทศบริจาค จะโดนเก็บเข้าคลังก่อนจะนำออกขายในตลาดกลางเกษตร ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าของบริจาคจขากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและสหรรัฐรั่วออกมาจากคลังเข้าตลาดกลางเกษตรได้อย่างไร
Last edited by Wisarut on 08/10/2014 6:50 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43731
Location: NECTEC
|
Posted: 09/11/2010 4:04 am Post subject: |
|
|
ค่าโดยสารรถไฟแพงทะลุฟ้า
โดย Kim Young Jin
Daily NK 23 มิถุนายน 2005 15:41
เพราะ ไฟฟ้าขาดแคลนทำให้มีรถเดินวันละ 2-3 ขบวน บางที่ไม่มีรถเดินมา 15 วัน จถ้าเห็ฌนรถสินค้าก็กระโดดเกาะหรือปีนป่านกันโดยยอมเสี่ยงไถลให้โดนรถทับหรือโดนไฟฟ้าดุด ตาย
ใครไม่มีใบอนุญาตให้เดินทาง ก็ต้องจ่ายสินบนให้คนรถไฟเพื่อซื้อตั๋วเดินทางได้ แต่ก่อนเดินทางรถท้องถิ่นก็แค่ 5.70 วอนแต่ตอนนี้คต้องจ่าย ถึง 150 วอนในระยะทางเดียวกัน ถ้าจะไปกรุงเปียงยางก็ต้องจองตั๋วไว้ให้ดีเพราะ แต่ละสถานีมีโควต้าไม่เท่ากัน |
|
Back to top |
|
|
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 09/11/2010 5:18 am Post subject: |
|
|
เดินทางในประเทศ ยังต้องมีใบอนุญาตเดินทางด้วยหรือครับนี่ |
|
Back to top |
|
|
|