Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312070
ทั่วไป:13678934
ทั้งหมด:13991004
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 109, 110, 111 ... 490, 491, 492  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
nathapong
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom

PostPosted: 08/11/2010 3:42 pm    Post subject: Reply with quote

^
หึหึ...... ในการประชุม ครม. รอบต้นเดือน ธ.ค.
คงสนุกสนาน หละ ก๊า....
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
saraburi
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 03/07/2006
Posts: 3321
Location: ถิ่นเนื้อนุ่ม นมดี กะหรี่(ปํ๊บ)ดัง สระบุรี

PostPosted: 08/11/2010 5:33 pm    Post subject: Reply with quote

Shocked แวะมาตกใจกับจำนวนเงินในข้อ 10 ครับ emot107

.................... หวังเล็กๆว่า ทุกโครงการจะเสร็จทันลูกผมบวชนะครับ Laughing
_________________
ช่างภาพระดับพื้นโลก

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message MSN Messenger
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 25/06/2007
Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต

PostPosted: 08/11/2010 6:20 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
สำหรับ 11 โครงการที่สามารถดำเนินการได้เลย ประกอบด้วย

9. โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าน้ำหนักกดลงเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 13 คัน วงเงิน 2,145 ล้านบาท


11 โครงการที่สามารถทำได้เลยแต่ ข้อ 9. กลางปี 2553 ครม. อนุมัติจัดหารถจักร 13 คัน วงเงิน 2,145 ต่อคัน 165 ล้าน ปีไหนไม่รู้จะได้ 7 คันก่อนหน้าไปถึงไหนแล้วหว่า.... Rolling Eyes
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
Click on the image for full size
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44053
Location: NECTEC

PostPosted: 09/11/2010 12:19 am    Post subject: Reply with quote

ไหมหละ - ตูว่าแล้ว:

///----------------------
บี้รฟท.ทำแผนบริหารงบฟื้นกิจการ
หน้าเศรษฐกิจ
ไทยโพสต์9 พฤศจิกายน 2553 - 00:00

กนร.เร่ง รฟท.ทำแผนฟื้นธุรกิจ สบน.เล็งหาเงินกู้ให้ รฟท. 1.1 แสนล้าน ใช้ในแผนฟื้นฟูการรถไฟฯ ด้านกอร์ปศักดิ์สั่งทำแผนใช้เงินกลับมาเสนอ หวั่นทำงานช้า

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ประชุมมีมติให้การจัดทำแผนธุรกิจเพื่อพลิกฟื้นฐานะทางการเงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่ประชุมจึงได้มีมติให้แต่งตั้งกรรมการเพิ่ม ในคณะกรรมการติดตามการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินงานให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น อีกทั้งให้เร่งดำเนินการตามแผนการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการของ รฟท. และแผนการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานระบบราง เพื่อให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี ได้มีการแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับการบริหารจัดการงบประมาณ ตามแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ระยะเร่งด่วน พ.ศ.2553-2557 วงเงิน 1.76 แสนล้านบาท เนื่องจากเกรงว่าอาจมีความล่าช้า ดังนั้นจึงได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมกลับไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการใช้งบประมาณในแต่ละโครงการเสนอต่อที่ประชุมฯ เพื่อพิจารณาอีกครั้ง

"เลขาฯ ได้เร่งรัดให้จัดทำแผนมาดูว่า ในแต่ละโครงการมีกรอบการใช้เงินอย่างไร ทั้งเรื่องของเวลา และต้องดูด้วยว่าโครงการใดจะต้องกู้เงิน และโครงการใดที่ ร.ฟ.ท.จะจัดหาเงินมาเองก่อนนำเสนอที่ประชุมอีกครั้งเพื่อพิจารณา ซึ่งเบื้องต้นในส่วนของเงินกู้นั้น สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ระบุว่า เบื้องต้นจะจัดหาเงินกู้มาให้จำนวน 1.1 แสนล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นหน้าที่ของ ร.ฟ.ท.หามาเอง" นายจำรูญกล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในขณะนี้ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม และประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. ได้มอบหมายให้ ร.ฟ.ท.กลับไปจัดทำแผนแล้ว โดยเฉพาะแผนการใช้เงินตามโครงการที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2554 ให้เสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายน 2553 นี้.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44053
Location: NECTEC

PostPosted: 09/11/2010 6:50 pm    Post subject: Reply with quote

เที่ยวละไม นั่งรถไฟไป“โพธาราม” ชมความงาม เสน่ห์วิถีถิ่นคนสวย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤศจิกายน 2553 17:46 น.


นั่งรถไฟ ไปโพธาราม ชมความงามของสถานที่ท่องเที่ยวและวิถีชีวิตในอดีตที่ยังคงอยู่ พร้อมกับร่วมชมงานนิทรรศการภาพถ่ายสัญจร ซึ่งช่วยแต่งแต้มให้ที่นี้มีความน่าหลงไหลมากยิ่งขึ้น

ที่ไหนเอ่ย ผู้คนจอแจ เดินไปมาวุ่นวาย บ้างนั่ง บ้างนอน รายรอบไปด้วย เสียงหวูด และกลิ่นไอสนิม ที่ยังคงไม่เคยจางไปจากความรู้สึก ใช่แล้ว ที่นี่คือสถานีรถไฟแบบไทยๆ นี่เอง ซึ่งทริปนี้ “ตะลอนเที่ยว” ได้เก็บกระเป๋าเดินทาง โดดขึ้นรถไฟที่หัวลำโพง แอบตามทัวร์กะทิกะลา มุ่งหน้ามายังจังหวัดราชบุรี ไปเที่ยวย้อนวันวาน ตามคอนเซปต์ “เที่ยวละไม ไปโพธาราม” อีกหนึ่งแนวคิดทางการท่องเที่ยวยุคนี้ ที่ดึงจุดเด่นของวิถีชีวิตท้องถิ่นตั้งแต่ครั้งอดีต นำกลับมานำเสนอให้คนกรุงในปัจจุบัน ได้ย้อนรำลึกถึงกันอีกครั้ง

เราใช้เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมงเดินทางจากสถานีหัวลำโพง ไปยังสถานีโพธาราม ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนที่มีกล้องติดตัวไปด้วยคงสนุกสนานกับการถ่ายรูปวิถี ชีวิตต่างๆ สองข้างทางตลอดจนบนโบกี้รถไฟ ภาพพ่อค้าแม่ค้าเดินขวักไขว่ไปมา อาจเป็นภาพชินตา แต่ก็ดูเหมือนว่าเป็นบรรยากาศแปลกใหม่ทุกครั้งที่ได้พบเจอ เพราะเดินทางมากับคณะทัวร์ จึงมีกิจกรรมสนุกๆ ที่ทำร่วมกันได้ทั้งครอบครัวอย่างการวาดและเพ้นท์สีกระเป๋าผ้า ซึ่งเด็กๆ นั้นดูจะชื่นชอบเป็นพิเศษ วาดภาพ ละเลงสี ขณะที่รถไฟวิ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สุดท้ายก็ได้ผลงานที่ประทับใจของแต่ละคนออกมา

เมื่อเริ่มใช้ สมองกับสองมือ ส่งผลให้ท้องก็เริ่มหิว และได้จังหวะที่มาถึงสถานีนครปฐม ซึ่งมีก๋วยเตี๋ยวห่อจิ๋ว ราคาแค่เพียงห่อละ 5 บาทเท่านั้น ส่วนเรื่องรสชาตินั้น บอกได้แค่ว่าแต่ละคนนั้นทานกันไม่ต่ำกว่าสองห่อ จากนั้นก็กลับมาใช้ชีวิตสนุกสนานบนรถไฟกันต่อ บ้างคุย บ้างหลับ เด็กๆ วิ่งเล่นไปมา จนในที่สุดก็ถึงปลายทางที่สถานีโพธาราม จุดหมายปลายทางในครั้งนี้

“คนสวยโพธาราม คนงานบ้านโป่ง” ท่อนแรกของคำขวัญประจำจังหวัด ที่หนุ่มๆ หลายคนคงอยากพบเจอ แต่วิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ลงจากรถไฟแล้วเราก็มุ่งหน้ามายังบริเวณตรอกจับกัง ย่านชุมชนเก่าอีกแห่งของที่นี่
เหตุที่เรียกว่าตรอกจับกังก็เพราะว่า ครั้งในสมัยก่อนนั้นการขนส่งสินค้าทางรถไฟนั้นเป็นที่นิยมกันมากเพราะสะดวก สบาย และขนส่งได้ครั้งละมากๆ และบริเวณใกล้ๆ สถานีรถไฟโพธารามนี้ จึงเป็นที่อยู่อาศัยของจับกัง หรือคนที่รับจ้างขนถ่ายสินค้าจากรถไฟ จึงเป็นชื่อเรียกติดปากของชาวบ้านกันมาถึงปัจจุบัน

“เต้าหู้ดำ รสชาติดี” เดินเลยตรอกจับกังมาก็ได้กลิ่นหอมของเต้าหู้ต้มลอยมาแต่ไกล ซึ่งเต้าหู้ดำที่โพธารามนี้เป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่ง มีทั้งรสเค็มและหวาน ส่วนสีดำของเต้าหู้นั้นเกิดจากการที่นำไปต้มกับเครื่องเทศแบบจีน คล้ายๆ ที่เราใช้ต้มพะโล้ ส่วนเคล็ดลับความอร่อยนั้น บอกกันมิได้ แต่เท่าที่เห็นนั้น นักท่องเที่ยวมักจะซื้อกลับไปเป็นของฝาก ปัจจุบันก็จะมีอยู่ 2 ร้าน ที่ยังคงขายเต้าหู้ดำอยู่คือร้านแม่เล็กโพธาราม และร้านเจ๊อั้งโพธาราม ซึ่งเจ้าเต้าหู้นี่สามารถนำไปประยุกต์เป็นเมนูอาหารได้อีกมากมาย แล้วแต่ไอเดียใครจะบรรเจิด แต่แค่ลองชิมแบบที่ไม่ได้ปรุงแต่งรสชาติใดๆ ก็อร่อยถูกใจอย่างแน่นอน

หลังจากชิม เต้าหู้ดำแล้ว เราชวนกันเดินผ่านตลาด มาหยุดอยู่ที่วิกครูทวี โรงหนังเก่าแก่ ที่อยู่คู่โพธารามมานานหลายสิบปี แต่ปัจจุบันนั้นได้ปิดตัวลงไป แต่ในที่สุดวันนี้ วิกครูทวีก็ได้กลับมามีสีสันอีกครั้งหนึ่ง เมื่อทางชมรมอย่าลืมโพธาราม ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มกันของคนในชุมชน ร่วมมือกับกลุ่มสห+ภาพ จัดงาน “โพธาราม ลืมไม่ลง คงไม่ลืม” งานนิทรรศการภาพถ่ายสัญจรซึ่งนำเสนอภาพวิถีชีวิตของคนในชุมชนดังที่กล่าวมา และมาวิกครูทวีวันนี้เป็นวันที่เขากำลังจัดงานกันอยู่ ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากหลากหลายที่ทยอยกันมาเดินเล่น ถ่ายรูป กับโรงหนังเก่า และบ้านเรือนในระแวกอยู่เยอะพอสมควร

ถือได้ว่าเป็น โชคดีของ “ตะลอนเที่ยว” เพราะทางชุมชนโพธารามเองได้เปิดให้เราได้ขึ้นไปดูห้องฉายหนังเก่า ซึ่งยังคงสภาพเหมือนวันสุดท้ายที่เลิกใช้งาน คาดกันว่าน่าจะปิดตัวไปในช่วงปี พศ. 2541 และเครื่องฉายหนังนั้นเป็นเครื่องในสมัยรุ่นหลังสงครามโลก นับว่าน่าเสียดายที่เราไม่สามารถหลอมรวมวัฒนธรรมใหม่ๆ กับสิ่งมีคุณค่าในอดีตไว้ด้วยกันได้ เพราะอาจจะเป็นเรื่องความสะดวกสบายที่โรงหนังสมัยใหม่นั้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ คนในปัจจุบันได้มากกว่า แต่เชื่อได้เลยว่า สิ่งเก่าๆ เหล่านี้จะยังคงมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าเสมอ

ก่อนจะเดิน ทางกลับสู่ที่พักนั้นได้มีโอกาสชมการแสดงที่ชาวโพธารามนั้นภูมิใจนำเสนอ นั่นก็คือการแสดงของหนังใหญ่วัดขนอน ศิลปะการแสดงที่คนเมืองโพธารามภาคภูมิใจ ปะทะโชว์หุ่นละครเล็กจากคลองบางหลวงซึ่งก็ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวัง เรียกเสียงปรบมือและรอยยิ้มจากทุกคนได้เป็นอย่างดี
ศิลปะการแสดงทั้งสองเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ที่อยู่คู่กับชาวไทยมา ช้านาน ซึ่งนับเป็นโชคดีของชาวโพธาราม ที่มีคนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าและช่วยกันอนุรักษ์การแสดงทั้งสองเอาไว้ โดยเฉพาะกับหนังใหญ่วัดขนอนนั้น ปัจจุบันนอกจากจะโด่งดังไปไกลถึงเมืองนอกเมืองนาแล้ว ยังมีดีกรีพ่วงท้ายด้วยรางวัล 1 ใน 6 ชุมชนดีเด่นของโลกที่มีผลงานในการอนุรักษ์ฟื้นฟูมรดกวัฒนธรรมจากองค์กรยูเนส โก

ทั้งนี้ศิลปะ การแสดงหนังใหญ่นั้นคาดกันว่ามีมาตั้งแต่ครั้งสมัยรัชกาลที่ 5 จนมาถึงปัจจุบัน สำหรับวัดขนอนถือเป็น 1 ใน 3 เป็นชุมชนที่หลงเหลือของเมืองไทยที่ยังคงอนุรักษ์ศิลปะพื้นบ้านการแสดงหนัง ใหญ่เอาไว้ โดยนอกจากการละเล่นหนังใหญ่อันน่าตื่นตาตื่นใจแล้ว วัดขนอนยังมีพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอนในกุฏิเรือนไทย ที่ภายในจัดแสดงตัวหนังใหญ่แกะสลักอย่างสวยงามจำนวนมาก

หลังจบการแสดงหนังใหญ่ปะทะหุ่นละครเล็ก คืนนั้นงานปิดท้ายด้วยเสียงเพลงขับกล่อมจากพี่จุ้ย ศุ บุญเลี้ยง ให้ทุกคนกลับไปนอนฝันดี

เช้าวันใหม่ อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน แต่ทุกคนชวนกันไปปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนน ชมวิถีชีวิตเมืองโพธาราม ซึ่งน้อยคนที่จะรู้ว่า เมืองนี้มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมาก ซึ่งแทบทุกบ้านนั้นยินดีให้เราถ่ายรูปได้ เพียงแค่เอ่ยปากบอกก่อนเท่านั้น

หลังจากปั่นมาได้สักพักก็มาแวะพักกันที่วัดคงคาราม เป็นวัดมอญ อายุกว่า 200 ปี ภายในโบสถ์มีภาพจิตกรรมฝาผนังที่สวยงาม เรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ตลอดจนภาพวาดเกี่ยวกับไตรภูมิตลอดจนความเชื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ ซึ่งยังคงสภาพความสวยงามไว้เป็นอย่างดี คาดกันว่าภาพเขียนนี้น่าจะอยู่ในราวรัชกาลที่ 3 ถึงรัชกาลที่ 4

นอกจากนั้น ด้านหลังพระประธานในโบสถ์นี้ ยังมีพระประธานองค์เก่า ซึ่งหันหน้าไปคนละทางกับองค์ปัจปัจจุบัน สันนิษฐานว่าในสมัยก่อนนิยมหันหน้าพระประธานไปยังทิศที่มีแม่น้ำ ต่อมาได้มีการเปลี่ยนพระประธานองค์ใหม่ แต่ก็ยังคงพระประธานองค์เดิมไว้ และฝากสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าไปถ่ายภาพว่าไม่ควรใช้แฟลชขณะถ่ายภาพจิต กรรมฝาผนังตลอดจนวัตถุโบราณต่างๆ เพราะมันอาจเป็นการทำลายสิ่งมีค่าทางประวัติศาสตร์ได้

อีกสิ่งหนึ่ง ที่น่าสนใจภายในวัดก็คือพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้โบราณ ทั้งของชาวมอญ ชาวไทย และชาวพม่า ที่หน้าสนใจก็คือโลงศพแบบมอญโบราณ ซึ่งถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี และตู้เก็บคำภีร์โบราณ ซึ่งรวบรวมคำภีร์ บทสวดมนต์ต่างๆ ไว้กว่า 1,000 เล่ม

พระอนุวัตร ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์เล่าให้เราฟังว่า ข้าวของเครื่องใช้ที่เก็บรวบรวมเอาไว้นั้นได้มาจากชาวบ้านในชุมชนซื้อมาถวาย ให้วัดในอดีต ซึ่งก็เหมือนในปัจจุบัน เมื่อเวลาชาวบ้นจัดงานบุญต่างๆ มักจะมาหยิบยืมข้าวของเครื่องใช้จากวัด และหลังจากนั้นก็มีการซื้อมาถวายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจก็ลองแวะมาศึกษาประวัติศาสตร์ได้ที่วัดคงคาราม แห่งนี้

สำหรับโพธาราม ในวันนี้เต็มไปด้วยภาพถ่ายวิถีชีวิตของคนในชุมชน กระจายตัวอยู่ตามบ้านเรือนและอาคารเก่าต่างๆ ซึ่งจะจัดแสดงกันจนถึงราวปลายเดือนมกราคม 2554ก็เป็นไอเดียที่ดีสำหรับกลุ่มคนรักในการถ่ายภาพต่างๆ ที่จะเข้ามาร่วมส่งเสริมให้ในชุมชนเกิดจุดขายทางการท่องเที่ยวขึ้นมาอีกทาง หนึ่ง เพราะปัจจุบันนั้น การก้าวเข้าสู่ยุคติจิตอลของกล้องถ่ายรูป ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนสนใจเรื่องการถ่ายภาพมากขึ้น และภาพถ่ายนี้เองก็ทำให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ปัจจุบันในตัวเมืองโพธารามเองก็มีร้านค้า ร้านกาแฟใหม่ๆ ทยอยเปิดตัว เมื่อเริ่มเห็นโอกาสทางการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโต

แต่สำหรับผลกระทบของการท่องเที่ยวนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากกว่าที่จะจินตนาการได้ มองผิวเผิญนั้น การจัดการการท่องเที่ยวอาจเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่ถ้าไม่มีการควบคุมที่ดี รวมทั้งความร่วมมือจากทุกส่วนในชุมชนโดยเฉพาะการให้องค์ความรู้กับประชาชนใน พื้นที่ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ เหมือนแหล่งท่องเที่ยวหลายๆแห่ง ที่ถูกกระแสวัตถุนิยม อำนาจเงิน เข้ามาแทนที่จิตสำนึกในความรักท้องถิ่น ทำให้วิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์อันทรงเสน่ห์ของชุมชนต้องเสียศูนย์ไปอย่าง น่าเสียดาย

การเดินทางมา ยังอำเภอโพธารามนั้น สามารถใช้ทางรถยนต์และรถไฟ ซึ่งจะให้ความสะดวกสบายและประสบการณ์การเดินทางแตกต่างกันไป สำหรับพิพิธภัณฑ์ภายในวัดคงคารามนั้นเปิดตั้งแต่ 9.00 - 16.30 ทุกวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สอบถามข้อมูลโทร. 08-1194-3798 (พระอนุวัตร)

ส่วนที่วัดขนอนจะมีการแสดงหนังใหญ่ให้ชมฟรี เวลา 10.00 -11.00 น. และมีงานเทศกาลหนังใหญ่วัดขอนในวันที่ 13-14 เม.ย. เวลา 15.00 - 21.00 น. ของทุกปี ส่วนพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ เปิดทุกวัน เวลา 8.00 -17.00 น. ผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-3223-3386
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47440
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/11/2010 7:35 am    Post subject: Reply with quote

^^^
ขึ้นรถไฟไปเที่ยวโพธารามแล้ว สามารถขึ้นรถสองแถวใหญ่สีเหลืองที่ผ่านหลังสถานีโพธารามไปเที่ยวอุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยามที่บางแพได้อีกครับ (รถสองแถวไปดำเนินสะดวก) Very Happy
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47440
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/11/2010 2:31 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการลูกพาพ่อนั่งรถจักรไอน้ำ เที่ยว 3 วัน 3 จังหวัด

Click on the image for full size

ฉะเชิงเทรา เสาร์ที่ 4 ธ.ค. 53 Arrow http://www.railway.co.th/tour/download/2553/inum531205-chachoengsao.pdf

พระนครศรีอยุธยา อาทิตย์ที่ 5 ธ.ค. 53 เต็มแล้ว

นครปฐม จันทร์ที่ 6 ธ.ค. 53 Arrow http://www.railway.co.th/tour/download/2553/inum531205-nakhonpathom.pdf

-------------------
อ่านแล้วสงสัยว่า ใช้รถจักรไอน้ำทำขบวนทั้ง 3 วัน หรือว่าเฉพาะอยุธยาวันที่ 5 ครับ Question
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 25/06/2007
Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต

PostPosted: 10/11/2010 3:15 pm    Post subject: Reply with quote

ถ้าใช้รถจักรไอน้ำทำขบวนทั้ง 3 วันคงให้ ปู่ยีอีดันท้ายขบวนครับอาจารย์เอก.... Wink
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
Click on the image for full size
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47440
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/11/2010 3:21 pm    Post subject: Reply with quote

pak_nampho wrote:
ถ้าใช้รถจักรไอน้ำทำขบวนทั้ง 3 วันคงให้ ปู่ยีอีดันท้ายขบวนครับอาจารย์เอก.... Wink

ครับพี่นพ
ถ้าไม่ใช่รถจักรไอน้ำ
ผมกลัวผู้โดยสารทั่วไปไม่เข้าใจ ซื้อตั๋วไปฉะเชิงเทราหรือแปดริ้ว แล้วเจอดีเซลรางหรือรถจักรดีเซลไฟฟ้าทำขบวน จะผิดหวังน่ะครับ
แต่ถ้ารถจักรไอน้ำมานครปฐมจริง ต้องรีบไปถ่ายรูปครับ Twisted Evil
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47440
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/11/2010 5:04 pm    Post subject: Reply with quote

สคร. จูงมือ การรถไฟฯ ถกแผนใช้งบลงทุนโครงสร้าง 176,808 ล้าน
โดย.. ศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว การรถไฟฯ

บ่ายวันนี้ (10 พฤศจิกายน 2553 เวลา 14.00 น.) ที่ตึกบัญชาการรถไฟฯ เขตปทุมวัน กรุงเทพ ดร.สมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะ ได้เดินทางมาหารือกับผู้บริหารการรถไฟฯ ในเรื่องแผนการใช้งบประมาณตามมติที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบไว้ ลงทุนของการรถไฟฯ วงเงิน 176,808 ล้านบาท ซึ่งการรถไฟฯได้รายงานว่าได้ดำเนินการในปี 2554 ประมาณ 87,529 ล้านบาท อยู่ในขั้นตอนของการนำเสนอกระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการสรรหาเงินกู้มาลงทุน ส่วนการรายงานทางระบบบัญชี ซึ่ง สคร. ต้องการให้ รฟท.พัฒนาในเรื่องของข้อมูลทรัพย์สินถาวร ระบบ IT ระบบการซ่อมบำรุง,การจัดซื้อพัสดุ เพื่อให้สามารถชี้แจงต่อคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจได้ ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานเห็นว่าควรมีการประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยให้ผู้แทนของ สคร.ได้เข้ามาแนะนำ เสนอแนะ ในนามของคณะกรรมการฯ เพื่อให้ได้ข้อมูลและแบบแผนที่การรายงานที่ตรงกัน

สำหรับด้านการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจการรถไฟฯนั้น สคร.เห็นว่า คะแนนในการดำเนินงานของการรถไฟฯอยู่ในเกณฑ์ต่ำจึงควรกำหนดให้มีแรงจูงใจเพิ่มเติมแม้ว่าการรถไฟฯจะเป็นองค์กรที่มีผลประกอบการขาดทุนก็ตาม ด้านการบริหารจัดการระบบบำเหน็จบำนาญที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น สคร.ขอให้การรถไฟฯได้มีส่วนในการบริหารจัดการทรัพย์สินให้เพียงพอต่อการนำรายได้มาจ่ายเป็นค่าบำเหน็จบำนาญ ซึ่งอาจต้องรอการสรรหาหัวหน้าหน่วยธุรกิจบริหารทรัพย์สินที่ต้องเป็นมืออาชีพซึ่งสามารถสร้างรายได้จากทรัพย์สินที่มีอยู่ก่อให้เกิดรายได้เพื่อมาจ่ายชดเชยในส่วนนี้

การปรับปรุงโครงสร้างองค์กรของการรถไฟฯในหน่วยธุรกิจ(BU) นั้น การรถไฟฯได้นำเสนอว่า ได้แยกส่วนบริหารจัดการออกเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐาน แยกหน่วยธุรกิจการเดินรถ หน่วยธุรกิจซ่อมบำรุง หน่วยธุรกิจบริหารทรัพย์สิน และบริษัทลูก คือ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (แอร์พอร์ตเรลลิ้งค์) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้รองผู้ว่าการฯ เป็นผู้บริหารจัดการในแต่ละหน่วยธุรกิจ ไปพลางก่อน ซึ่งการสรรหาหัวหน้าหน่วยธุรกิจจะจัดหาให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ทั้งนี้ สคร.ได้ให้ความสำคัญกับการจัดกรอบอัตรากำลังในแต่ละหน่วยธุรกิจ เพื่อให้สามารถวัดผลประกอบการทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงินได้ด้วย ทั้งนี้ กรอบอัตราของหน่วยธุรกิจที่เหมาะสมก็จะสามารถปลดข้อจำกัดในการขอเพิ่มอัตรากำลัง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2541 ในอนาคตได้ และ สคร.ยังเสนอให้ รฟท. พิจารณาหลักการแยกบัญชีเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของการรถไฟฯเพื่อ PSO และมาตรการช่วยลดค่าครองชีพหรือรถไฟชั้นสามฟรี ด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 109, 110, 111 ... 490, 491, 492  Next
Page 110 of 492

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©