Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312070
ทั่วไป:13679757
ทั้งหมด:13991827
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 111, 112, 113 ... 490, 491, 492  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47447
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/11/2010 7:21 am    Post subject: Reply with quote

ค่าอาหารตู้เสบียงรถไฟและค่าระวางสินค้า
เดลินิวส์ วันศุกร์ ที่ 19 พฤศจิกายน 2553

เรียน คุณเอก วิภาวดี ผ่านไปถึง รมว.คมนาคม

ผมขอเล่าเรื่องความไม่ชอบมาพากลที่ได้พบเมื่อใช้บริการรถไฟสายกรุงเทพฯ-ตรัง มาให้สาธุชนทั้งหลายได้ร่วมกันพิจารณา 2 เรื่อง คือ 1. ค่าอาหารตู้เสบียง และ 2. ค่าระวางสินค้า

ผมได้เดินทางจากตรังด้วยขบวนรถด่วนกรุงเทพฯ-ตรัง ในวันศุกร์ก่อนที่จะถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2553 หนึ่งสัปดาห์ ด้วยรถปรับอากาศชั้น 2 มื้อค่ำผมเข้าตู้เสบียงสั่งผัดกะเพราไก่ราดข้าว 1 จาน กินเสร็จยังไม่อิ่มเพราะมีข้าวราว 1 ทัพพี เหลือบไปเห็นข้าวบรรจุกล่องโฟมวางเรียงอยู่ในถาด ดูเหมือนเตรียมไปขาย จึงหยิบมากินต่อที่โต๊ะ 1 กล่อง เป็นกะเพราไก่ราดข้าวใส่ไข่ดาว พนักงานทำท่าจะพูดแต่ผมแกะกล่องเสียก่อน ข้าวในกล่องมีปริมาณมากเต็มจาน จานเดียวอิ่ม มีไข่ดาวด้วย เสร็จสรรพเรียกเช็กบิล น้ำ 1 ขวด 15 บาท ก็โอเค ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว 1 กล่อง 35 บาท ก็โอเค แต่ข้าวกะเพราไก่ไม่มีไข่ดาว 1 จาน 75 บาท ผมสงสัยจึงถามพนักงาน ทำไมข้าวไข่ดาวกะเพราใส่กล่อง 35 บาท แต่พอใส่จานไม่มีไข่ดาวแถมปริมาณข้าวน้อยกว่าถึง 75 บาท พนักงานเสิร์ฟก็ยิ้มแห้ง ๆ บอกว่าไม่รู้ เพราะเค้าให้ขายอย่างนี้

ผมได้คำตอบตอนเที่ยวขากลับ คราวนี้ไม่นั่งตู้เสบียง พอดีพนักงานถือเมนูอาหารมาเสนอจึงขอดูราคา เห็นข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว 90 บาท จึงถามเรื่องข้าวกล่องที่เห็นวางอยู่ในถาดในตู้เสบียง ว่าทำไมกล่องละ 35 บาท ในที่สุดปริศนาก็คลี่คลาย คือข้าวกล่องมีไว้ขายสำหรับผู้โดยสารชั้น 3 สงสัยอยู่แล้วว่าทำไมไม่เห็นพนักงานแบกถาดอาหารกล่องผ่านมาตู้รถปรับอากาศบ้างเลย ทั้ง ๆ ที่อยู่ใกล้ตู้เสบียง ขอถามท่านรมว.คมนาคม ว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนี้

เรื่องที่ 2 ที่อยากจะระบายให้ทราบเกี่ยวกับค่าระวางสินค้า ผมมีสิ่งของชนิดเดียวกันมา 4 ชิ้น แพ็กใส่ลังกระดาษ 4 กล่องน้ำหนักลังละประมาณ 15 กก. พนักงานให้ผมชั่งน้ำหนัก 4 ชิ้น รวมได้ 59 กก. ผมต้องจ่ายค่าระวาง 190 บาท ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ 95 บาท และยังต้องจ่ายค่าขนของอีกกล่องละ 30 บาท รวม 120 บาท ผมมองดูป้ายราคาอัตราค่าขนของขึ้นรถไฟเขียนว่า ของน้ำหนัก 10+20 กก. ชิ้นละ 10 บาท จนถึงของน้ำหนัก 70 กก. ชิ้นละ 30 บาท แต่พนักงานเอาน้ำหนักรวมของผมมาคูณ 4 ผมจึงทักท้วงและชี้ให้ดูป้ายและบอกว่า ผมน่าจะจ่ายแค่ 10x4 เท่ากับ 40 บาท พนักงานโต้แย้งว่า ผมไม่รู้เรื่อง คิดเป็นชิ้น ไม่ได้คิดตามน้ำหนัก ผมก็งง ๆ พอถึงตรังผมต้องเสียค่าขนของลงอีก แต่คราวนี้สถานีตรังเก็บ 10x4 เท่ากับ 40 บาท ซึ่งน่าจะถูกต้อง

จึงขอถามผู้บริหารการรถไฟฯ และ รมว.คมนาคม นายโสภณ ซารัมย์ ว่า การคิดค่าระวางแบบที่ผมโดนเรียกเก็บจากต้นทางที่กรุงเทพฯ ถูกต้องหรือไม่

ด้วยความนับถือ

คนเกาะลันตา

-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+--+-+-

เดลินิวส์ wrote:
ปัญหาราคาอาหารบนรถตู้เสบียงรถไฟแพงกว่าราคาข้าวกล่องที่พนักงานเดินขายให้ผู้โดยสารชั้น 3 ตามที่คุณ “คนเกาะลันตา” ข้องใจนั้น ขออนุญาตสันนิษฐานเบื้องต้นว่าอาจเป็นเพราะผู้โดยสารตู้รถปรับอากาศชั้น 2 สามารถควักเงินซื้ออาหารได้ในราคาแพง ซึ่งผู้โดยสารชั้น 3 อาจจะไม่มีอำนาจในการซื้อในราคาที่ขายให้แก่ผู้โดยสารชั้น 2 ได้ จึงต้องขายถูกกว่า และราคาที่แตกต่างกันนั้นคงมีมานานแล้ว เพียงแต่ผู้โดยสารที่นั่งรถปรับอากาศอาจจะยังไม่รู้ หรือรู้แล้วก็ไม่ใส่ใจอะไรก็ได้ ก็ฝากปัญหานี้ให้ทาง รมว.คมนาคม และการรถไฟฯ พิจารณาถึงราคาที่เหมาะสมต่อไปด้วย สำหรับเรื่องค่าระวางสินค้าที่ “คนเกาะลันตา” สงสัยนั้น ก็ขอเสนอแนะว่าควรเขียนป้ายรายละเอียดให้ชัดเจนกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เพื่อมิให้ผู้โดยสารรถไฟกับพนักงานขนสัมภาระต้องถกเถียงกันเพราะความ เข้าใจไม่ตรงกัน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 19/11/2010 8:56 am    Post subject: Reply with quote

ความเห็นขำๆ ส่วนตัวผมนะ พนักงานน่าจะบอกว่าที่คิดค่าอาหารในรถเสบียงแพง เพราะอาหารที่ใส่จาน เปลืองน้ำล้างจาน และรวมค่าเสียโอกาสของผู้โดยสารรายอื่นที่ไม่สามารถเข้ามาใช้ด้วย เพราะพวกเล่นนั่งรากงอกในรถเสบียงละเลียดเหล้าเบียร์ จนถึงเวลาปิดบริการนั่นแหละ Razz

สำหรับค่าบริการขนส่งสัมภาระนั้น ต้องเสียใจที่บอกกันตรงๆ ว่าสู้บริการฝากของไปกับรถทัวร์ไม่ได้หรอกครับ เพราะค่าบริการมีสัพเพเหระหยุมหยิมเหลือกำลัง ท่าทางจะคิดตามความเข้าใจส่วนตัวของพนักงานมากกว่าคิดตามคู่มือบริการด้วยสิ Sad
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47447
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/11/2010 4:17 pm    Post subject: Reply with quote

ครม.ศก.ไฟเขียวกู้ 4.3หมื่นล.พัฒนารถไฟ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2553

ครม.เศรษฐกิจไฟเขียวคลังกู้ 4.3 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาให้รฟท.ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วน ตามแผนฟื้นฟูกิจการ

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ หรือครม.เศรษฐกิจ ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้กระทรวงการคลัง กู้เงิน 4.3 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาโครงสร้างรถไฟ 2.4 หมื่นล้านบาท และก่อสร้างจุดตัดทางรถไฟของกรมทางหลวง 1.9 หมื่นล้านบาท หลังจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)จะดำเนินการตามแผนฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วน โดยคาดว่าจะเปิดประมูลคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างปรับปรุงทางรถไฟทั่วประเทศได้ในเดือนม.ค.นี้

"รฟท.มีความพร้อมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และมีแผนรองรับไว้แล้ว โดยพร้อมเปิดประมูลทันทีที่ได้รับงบประมาณ และเมื่อปรับปรุงความแข็งแรงของรางเสร็จ จะทำให้ความเร็วรถไฟเพิ่มขึ้นเป็น 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากปัจจุบันที่มีความเร็ว 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่ากระทรวงการคลังจะกู้เงินในประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน"นายสุพจน์ กล่าว

--------------------------------

ครม.เศรษฐกิจเห็นชอบหาแหล่งเงินกู้ลงทุนพัฒนารถไฟ 1.7 แสนล้านบาท

กรุงเทพฯ 22 พ.ย.53 – นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของการ รถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และดำเนินการจัดหาแหล่งเงินกู้เพื่อการลงทุน ซึ่งกระทรวงการคลังรับไปดำเนินการโดยวงเงินภาพรวม 170,000 ล้านบาท จะเป็นเงินลงทุนทีรัฐบาลรับผิดชอบการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระบบราง 152,000 ล้านบาท ที่เหลือ รฟท.จะเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินกู้ โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกันและ รฟท.จะเป็นผู้จัดหารายได้มาชำระคืนหนี้ดังกล่าว การลงทุนส่วนนี้ประกอบด้วย จัดซื้อหัวรถจักร ปรับปรุงหัวรถจักรเดิม เพื่อใช้งานได้

สำหรับการดำเนินการตามโครงการเร่งด่วน ประกอบด้วย โครงการซ่อมแซมรางรถไฟทั่วประเทศ โดยจะมีการปรับปรุงไม้หมอนที่บางจุดยังเป็นหมอนไม้ก็จะเปลี่ยนเป็นซีเมนต์ รับน้ำหนักได้ 100 ปอนด์ ทำให้ปลอดภัยแก่การเดินรถมากขึ้น โดยใช้งบประมาณ 24,000 ล้านบาท นอกจากนี้ จะครอบคลุมถึงการแก้ไขปัญหาจุดตัดระหว่างเส้นทางรถไฟกับทางหลวง ซึ่งจะมีการแก้ไขจุดตัดดังกล่าวเริ่มแรก 112 จุดตัด งบประมาณลงทุน 19,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ หลังจากการดำเนินการในการปรับปรุงราง รวมถึงการจัดซื้อหัวรถจักรใหม่อีก 50 หัว และปรับปรุงซ่อมแซมหัวรถจักรเดิม 56 หัว ให้กลับมามีสภาพสมบูรณ์ รวมกับปรับปรุงรางและไม้หมอนทั่วประเทศ เชื่อว่าจะช่วยให้การเดินรถของ รฟท.สามารถทำความเร็วเพิ่มขึ้น จากเดิมเฉลี่ย 30-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงระหว่างไทยกับจีนนั้น ภายในเดือนธันวาคมนี้ทั้งไทยและจีนจะจัดทำแผนการร่วมลงทุนของตนเองมาร่วม เจรจา และเมื่อได้ข้อยุติจะกลับมาขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเดือนมกราคม เชื่อว่าการลงนามน่าจะเกิดขึ้นปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคม 2554.-สำนักข่าวไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47447
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/11/2010 10:09 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดใช้ขบวนรถไฟรูปแบบใหม่สายอีสาน
ข่าวช่อง 7 2-11-2553 | 16:58

ชมวิดีโอคลิปข่าวได้ที่ http://www.ch7.com/news/news_thailand_detail.aspx?c=2&p=376&d=114928
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานปล่อยขบวนรถไฟสายอีสาน เส้นทาง กรุงเทพ - อุบลราชธานี ซึ่งมีทั้งหมด 15 โบกี้ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ทั้งสภาพหัวรถจักรและ เครื่องยนต์ โดยมีการติดแอร์ให้พนักงาน ส่วนโบกี้ผู้โดยสารมีการปรับปรุงสภาพสีภายนอก ภายใน และเบาะนั่งผู้โดยสาร เพื่อความสะดวกสบาย โดยการรถไฟ ได้ปรับปรุงแล้วเสร็จแล้วจำนวน 30 โบกี้ และมีแผนจะดำเนินการให้เสร็จ 1,000 โบกี้ ภายในปี 2555 ใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
ksomchai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2009
Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู

PostPosted: 23/11/2010 12:11 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ส่วนโบกี้ผู้โดยสารมีการปรับปรุงสภาพสีภายนอก ภายใน และเบาะนั่งผู้โดยสาร เพื่อความสะดวกสบาย โดยการรถไฟ ได้ปรับปรุงแล้วเสร็จแล้วจำนวน 30 โบกี้ และมีแผนจะดำเนินการให้เสร็จ 1,000 โบกี้ ภายในปี 2555 ใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท


Smile อย่างไรก็ตาม นอกจากทำสีใหม่แล้ว อยากเสนอผ่านไปยังคุณโสภณ ซารัมย์ รมต.คมนคม (ขออนุญาตพาดพิงนะครับ) ให้ปรับปรุงระบบช่วงล่างด้วย ครับ วันที่กลับจากทริปมาบตาพุด
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=4839&postdays=0&postorder=asc&start=0
ผมเดินทางกลับบ้านกับขบวน ๔๑ กรุงเทพ - ยะลา ได้เลขที่นั่ง ๔-๕-๖ คันที่ ๒ วิ่งกระโดดอย่างกับม้าเลย ครับ เกรงว่าตัวรถจะหลุดจากแคร่
เสียค่าโดยสารแพงกว่ารถทัวร์เกือบ ๒ เท่า คิดว่าจะได้นั่งสบาย สภาพภายในดูสะอาดตาน่านั่ง สีก็ทำใหม่ บริการบนขบวนรถดีมาก
แต่สภาพรถแย่ วันนั้นออกช้ากว่ากำหนดเกือบชั่วโมง ทราบมาว่า ต้องรอชุดรถที่มาจากเชียงใหม่
ลงรถบ่นให้พนักงานพนักงานที่ลงมาส่งฟัง ท่านก็บอกขอโทษที่ไม่ได้รับความสะดวก ตอนนี้ขบวนรถหมุนเวียนมีน้อย
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
kikoo
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 01/02/2010
Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง

PostPosted: 23/11/2010 8:48 pm    Post subject: Reply with quote

^
(ดีเซลราง)แดวูมีน้อย ใช้สอยอย่างประหยัดครับ Laughing
_________________
ความคืบหน้าโครงการปรับปรุงทางช่วงที่วัง-กันตัง
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5618
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47447
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/11/2010 10:37 am    Post subject: Reply with quote

ขึ้นรถไฟฟรีต่อรถเมล์ฟรี
เดลินิวส์ วันพุธ ที่ 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา 9:35 น

ได้รับเมลจาก ดร.วิชิต พันธุ์อำไพ เขียนมาเล่าประสบ การณ์ขึ้นรถไฟต่อรถเมล์ฟรี พิจารณาครับ

หลายวันก่อนเอารถไปซ่อมแถวหัวหมาก มีเวลาว่างหลายชั่วโมงก็เลยแวะเข้าไปในสถานีรถไฟที่สร้างขึ้นมาใหม่ แม้จะไม่โอ่โถงเท่าเทียมสถานีของรถไฟสายสนามบินที่อยู่ไกลคนละฟากถนน แต่ก็ดูดีมีสง่าราศีสมเป็นสถานีชานเมืองหลวงพออวดชาวต่างประเทศได้ พอดีมีขบวนรถฟรีจากแปดริ้วกำลังจะเข้ากรุงเทพฯ ผมก็เลยลองขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้เคยใช้บริการของรถไฟสายนี้เมื่อกว่า 10 ปีมาแล้ว

พอขึ้นไปก็รู้สึกได้ทันทีว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย ยกเว้นความเสื่อมโทรมตามธรรมชาติของเบาะตลอดจนประตูหน้าต่างที่ดูเหมือนว่ามิได้ทำความสะอาดกันมาเลยตั้งแต่เริ่มนำออกมาบริการ โดยเฉพาะขอบหน้าต่างที่มีคราบเหงื่อไคลสะสมเป็นปื้น ๆ หนาหลายมิล ผ่านสถานีคลองตันไปจนถึงมักกะสัน เห็นสภาพที่ทรุดโทรมของตัวสถานีและสภาพแวดล้อมแล้วเศร้าใจนึกไม่ถึงว่าอยู่ในเมืองหลวง และภาพความสกปรกรกไปด้วยขยะนี้ก็มีต่อเนื่องไปจนถึงหัวลำโพง

ออกเดินอยู่หน้าหัวลำโพงหลังแวะลงไปดูสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่ค่อนข้างเงียบเหงา (คงเพราะหาทางเข้าไม่เจอ) เหลือบไปเห็นรถเมล์ฟรีกำลังเข้าป้ายเลยถือโอกาสลองขึ้นไปใช้บริการโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นสายไหน ซึ่งแม้รถจะเก่า แต่ทั้งสองคันที่นั่งไปในวันนั้นก็สะอาดพอใช้ พอที่จะพิงขอบหน้าต่างได้โดยไม่สะอิดสะเอียน แต่มีข้อควรสังเกตเกี่ยวกับพนักงานขับรถที่ค่อนข้างจะเจ้าอารมณ์ ใช้กิริยาและวาจาที่แสดงความแตกต่างทางฐานะมากเกินพอดีไปหน่อย ซึ่งเรื่องนี้ผมขอเสนอให้ติดกล่องรับเงินค่าทิป เพื่อเป็นกำลังใจของคนขับรถเมล์ฟรี (ที่ส่วนใหญ่ก็คงจะจนเหมือนกัน) ขอส่งต่อไปถึงท่านที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาด้วยครับ

ขอเพิ่มเติมดร.วิชิต นิดครับ ส่วนตัวใช้บริการรถเมล์ฟรี บ่อย ๆ ถ้าจำไม่ผิด รถเมล์ฟรีคงใกล้จะหมดอายุแล้ว ส่วนตัวผมสนับสนุนให้ใช้ต่ออีก เพราะได้สอบถามมนุษย์เงินเดือนหลายคนแล้ว อยากให้ต่อ อันเนื่องจากปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมา ลูกหลานที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ต้องส่งเงินกลับบ้านต่างจังหวัด ให้พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย หรือญาติพี่น้องซ่อมแซมบ้านเรือนจำนวนมาก ถ้ารัฐบาลช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางของมนุษย์เงินเดือนที่ยังไม่มีรถส่วนตัวส่วนนี้ได้

ก็จะเป็นประโยชน์ต่อคนจำนวนมากอย่างยิ่ง.

ไฟเหลือง
failuang@dailynews.co.th

//------------------------------------------------
ความคิดเห็นส่วนตัวของผม ไม่เห็นด้วยกับข้อคิดเห็นของ ดร.วิชิต บางประการ
โดยเฉพาะเรื่องอาคารสถานีหัวหมาก ซึ่งผมเห็นว่าสู้อาคารแบบดั้งเดิมที่มีเอกลักษณ์ไทยไม่ได้ อาคารสถานีแบบดั้งเดิมน่าจะอวดชาวต่างประเทศได้ดีกว่า

อีกประการหนึ่ง ไม่เห็นด้วยกับคุณไฟเหลือง เรื่องรถเมล์ฟรี แต่ถ้าอ้างว่าชาวบ้านชอบ และเพื่อบรรเทาทุกข์จากค่าใช้จ่ายซ่อมบ้านเพราะน้ำท่วมก็ OK ครับ แต่หวังว่าปีใหม่นี้ จะเลิกเสียทีครับ รถไฟฟรี
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
anusorn
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/09/2006
Posts: 1642
Location: มณฑลอาคเนย์

PostPosted: 24/11/2010 11:41 am    Post subject: Reply with quote

^
^
เห็นด้วยครับ รถไฟฟรีเลิกเสียทีเถอะ แน่นยิ่งกว่าปลากระป๋องอีก
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44054
Location: NECTEC

PostPosted: 24/11/2010 12:23 pm    Post subject: Reply with quote

ถ้าอาจารย์เอก และ นายช่าง อนุสรณ์ค้านเรื่องรถไฟฟรีและ เรื่องอาคาร สถานีรถไฟอย่างแรงๆ ก็น่าที่จะ ตอบสวนกลับไปหา ดร.วิชิต พันธุ์อำไพ ถ้าเป้นผม ผมจะสวนหมัด เข้าไปหาทั้ง ดร.วิชิต พันธุ์อำไพ และ คอลัมน์ ของไฟเหลือง แบบไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ ไอ้ประเภทที่ ปล่อยให้พูดเองเออเองข้างเดียวนั้น ไม่มี!
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44054
Location: NECTEC

PostPosted: 25/11/2010 6:16 pm    Post subject: Reply with quote

บูรณาการเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับ รฟท.
โดย ดร.ชิต เหล่าวัฒนา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤศจิกายน 2553 15:04 น.


สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (ฟีโบ้) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้รับทราบดำริของการรถไฟแห่งประเทศไทยในความต้องการที่จะพัฒนาระบบสารสนเทศโดยเริ่มจากระบบงานซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน ระบบงานจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุก่อน (CMMs, Inventory และ Train Tracking) ทางฟีโบ้ จึงได้ทำการศึกษา ระบบการทำงาน วิธีการปฎิบัติงาน รวมทั้งปัญหาที่เกิดจากการปฎิบัติงานต่างๆ ของการรถไฟ และหลังจากนั้นจึงได้ทำการออกแบบระบบสารสนเทศสำหรับ CMMs, Inventory และ Train Tracking รวมถึงการวางแผนงานการติดตั้งระบบ ตลอดจนการปฎิบัติการวางแผนการปฎิบัติการใช้และดูแลรักษาระบบ อีกทั้งยังนำเสนอรายละเอียดของงบประมาณของระบบสารสนเทศ CMMs, Inventory และ Train Tracking ไทยในการพัฒนาระบบสารสนเทศต่อไปในอนาคต





การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ ภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม ดำเนินการและนำมาซึ่งความเจริญของกิจการรถไฟเพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชนและดำเนินธุรกิจอันเกี่ยวกับการขนส่งของรถไฟและธุรกิจอื่นซึ่งเป็นประโยชน์แก่กิจการรถไฟ โดยให้บริการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า มีโครงข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ (47 จังหวัด) ระยะทางกว่า 4,000 กิโลเมตร

ภารกิจหลักของการรถไฟแห่งประเทศไทย มีหลากหลายลักษณะทั้งด้านจัดดำเนินการและนำมาซึ่งความเจริญของกิจการรถไฟเพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ที่มีหลักการสำคัญในการปรับบทบาทการทำงาน ปรับระบบงบประมาณ ปรับระบบการบริหารงานบุคคล ปรับกฎหมายรวมทั้งปรับวัฒนธรรมและค่านิยม โดยมีรายละเอียดภารกิจหลักและอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2494 มาตรา 9 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย

โดยในรอบปีที่ผ่านมา การรถไฟฯ ได้ให้บริการด้านการโดยสารกว่า 46 ล้านคน ระยะการเดินทางกว่า 8,200 คน/กม. มีรายได้จากการโดยสารประมาณ 4,200 ล้านบาท สำหรับในด้านการขนส่งสินค้านั้น การรถไฟฯ สามารถให้บริการได้ประมาณ 14 ล้านตัน โดยมีน้ำหนักการขนส่ง/ระยะทางรวมกว่า 3,200 ล้านตัน/กม. และมีรายได้ด้านการสินค้าประมาณ 2,400 ล้านบาท ทั้งนี้การขนส่งทางรถไฟฯ มีจุดแข็งและข้อได้เปรียบที่สามารถขนส่งสินค้าได้ปริมาณมาก ประหยัดพลังงาน ดังนั้นหากการรถไฟฯ ปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้มีข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว ทันเวลา การรถไฟฯ จะมีบทบาทด้านการขนส่งสินค้าซึ่งช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิงของชาติและการพัฒนาระบบ Logistics เพื่อการลดต้นทุนของประเทศอย่างมาก

การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ มีจำนวนพนักงาน 12,483 คน และลูกจ้างเฉพาะงาน 3,907 คน (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2552) มีการแบ่งโครงสร้างตามลักษณะหน้าที่ความรับผิดชอบในการดำเนินงาน ซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานระดับฝ่าย และสำนักงานกว่า 20 หน่วยงาน ประกอบด้วย ฝ่ายบริหารงานบุคคล ฝ่ายการเงินและการบัญชี ฝ่ายการเดินรถ ฝ่ายการพาณิชย์ ฝ่ายการช่างกล ฝ่ายการช่างโยธา ฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ฝ่ายระบบข้อมูล ฝ่ายการพัสดุ ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ฝ่ายตรวจสอบภายใน ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง สำนักผู้ว่าการ สำนักงานอาณาบาล สำนักงานแพทย์ สำนักนโยบายแผน วิจัย และพัฒนา สำนักงานขนส่งคอนเทนเนอร์ สำนักบริหารโครงการระบบรถไฟฟ้า สำนักจัดการทรัพย์สิน ฯลฯ โดยมีการแบ่งระดับชั้นของพนักงาน เป็น 15 ระดับ มีสายการบังคับบัญชา ตั้งแต่ระดับ หมวด แผนก กอง ศูนย์ สำนัก ฝ่าย ผู้ช่วยผู้ว่าการ รองผู้ว่าการ และ ผู้ว่าการ ซึ่งทำให้การดำเนินงานมีขั้นตอนมาก ใช้เวลานาน และมีความซ้ำซ้อนตามธรรมชาติขององค์กรขนาดใหญ่


การรถไฟแห่งประเทศไทย นับเป็นหน่วยงานภาครัฐอันดับต้น ๆ ที่ได้นำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้เมื่อ 30 ปีที่แล้ว หากแต่ขาดการพัฒนาที่ต่อเนื่อง ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ล้าสมัย และไม่ครอบคลุมการปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ คงมีเพียงระบบขายตั๋วโดยสารและสำรองที่นั่งขั้นที่ 2 (Seat Ticketing and Reservation System Stage 2: STARS-2) และระบบงานเงินเดือน ที่มีการพัฒนาสามารถใช้งานได้ดีในระดับหนึ่ง แต่สำหรับระบบงานอื่น ๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่นระบบงานซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน ระบบงานจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุ ยังคงอาศัยการปฏิบัติงานด้วยคนเป็นหลัก ทำให้กระบวนการทำงานไม่เป็นมาตรฐาน และประสิทธิภาพการทำงานลดต่ำลง เป็นเหตุให้ค่าใช้จ่ายดำเนินการสูงขึ้นถึงระดับ 10,000 ล้านบาทต่อปี ขณะที่มีรายได้ประมาณ 9,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งกล่าวได้ว่าการรถไฟฯ ประสบปัญหาด้านระบบสารสนเทศดังนี้

1.1การขาดการประสานรวมกันของระบบงาน

ระบบข้อมูลสารสนเทศที่มีมาแต่เดิมนั้น ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาในแต่ละหน่วยงานแยกกันไป โดยมุ่งเน้นความสะดวกของผู้ใช้งานระดับปฏิบัติการในหน่วยงานนั้น ซึ่งยึดติดกับการปฏิบัติงานแบบดั้งเดิม ผลที่ตามมาก็คือ ระบบข้อมูลสารสนเทศที่สร้างขึ้นมาจะแตกต่างกันไปตามหน่วยงานต่าง ๆ ที่เป็นเอกเทศต่อกัน ทำให้เกิดความล่าช้าของการไหลหรือการเชื่อมต่อของข้อมูลระหว่างระบบงานที่ต่างกัน ซึ่งจะเป็นอุปสรรคทำให้ไม่สามารถสร้างระบบงานที่รวดเร็วได้

1.2การขาดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของข้อมูล

เนื่องจากมีการกระจัดกระจายของข้อมูลอยู่ตามหน่วยงานต่าง ๆ และมีระบบข้อมูลสารสนเทศแยกหน่วยตามหน่วยงานต่าง ๆ กัน ทำให้เกิดความซ้ำซ้อนของข้อมูล และการที่จะให้หน่วยงานต่าง ๆ ใช้ข้อมูลร่วมกันนั้นเป็นไปได้ยาก ทำให้เป็นอุปสรรคกีดขวางการทำงานประสานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน ไม่สามารถทำให้แต่ละหน่วยงานจะใช้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มประสิทธิภาพในการช่วยกันแก้ปัญหาและบริหารงานบนฐานข้อมูลที่ถูกต้องตรงกัน

1.3การขาดความรวดเร็วในการตอบสนอง

ระบบข้อมูลสารสนเทศในปัจจุบัน ข้อมูลจะถูกประมวลผลแบบ Batch Processing เป็นช่วง ๆ เช่น เดือนละครั้ง ฯลฯ ทำให้ข้อมูลของแต่ละหน่วยงาน ถูกส่งรวบรวมไปประมวลผลล่าช้าไม่ทันต่อการใช้งานของฝ่ายบริหาร ดังนั้นการบริหารที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ ณ เวลานั้น (Real Time) เพื่อการตัดสินใจได้ทันท่วงที (Timely Decision) เป็นไปไม่ได้และเกิดขึ้นได้ยาก

1.4ความไม่ยืดหยุ่นของระบบข้อมูลสารสนเทศ

จากการที่ระบบข้อมูลสารสนเทศถูกพัฒนาขึ้นมาใช้เฉพาะงานและบางส่วนพัฒนากันขึ้นมาเอง ระบบจึงประกอบด้วยโปรแกรมที่มีขนาดใหญ่ ขาดมาตรฐานและเอกสารคู่มือ ทำให้การดูแลและแก้ไขเพิ่มเติมเป็นไปด้วยความลำบาก จึงเป็นการยากต่อการปรับปรุงเพื่อให้สามารถรับมือกับการบริหารเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันในเชิงธุรกิจที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้

**ท่านผู้อ่านสามารถส่งข้อคิดเห็น/เสนอแนะมาที่ผู้เขียนที่ djitt@fibo.kmutt.ac.th
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 111, 112, 113 ... 490, 491, 492  Next
Page 112 of 492

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©