View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46858
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/12/2010 12:52 pm Post subject: |
|
|
การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเดินขบวนรถนำเที่ยวเขื่อนป่าสักเพิ่มอีก 2 วัน
ข่าวประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
ขบวนรถนำเที่ยวพิเศษ ชมทุ่งทานตะวัน เขื่อนป่าสักชลสิทธ์ เปิดเดินเพิ่มอีก 2 วัน
***********************************
นายกมลชนก มุกดา หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว แจ้งว่า จากการที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ประกาศจัดเดินขบวนรถนำเที่ยวพิเศษ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในอาทิตย์ที่ผ่านมา ปรากฏว่านักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และยังมีอีกหลายท่านที่เรียกร้องให้มีการเปิดเดินเพิ่ม เพราะดอกทานตะวันกำลังผลิบานเต็มทุ่ง เหมาะแก่การถ่ายภาพเป็นอย่างมาก ประกอบกับอุณหภูมิของอากาศลดต่ำลง ทำให้บรรยากาศการชมทุ่งดอกทานตะวันมีสีสัน และความสนุกสนาน
การรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้เปิดเดินขบวนรถนำเที่ยวดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีก 2 วัน คือในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 25 และ 26 ธันวาคม 2553 โดยมีกำหนดเวลาเดินรถ ดังนี้
ขบวนรถออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 06.40 น. ถึงสถานีสระบุรี เวลา 08.52 น. ถึงสถานีแก่งคอยเวลา 09.10 น. ขบวนรถหยุดให้ชมทุ่งทานตะวัน , ชมทิวทัศน์เหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์, รับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย และซื้อของฝาก ของที่ระลึก อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์จากเมล็ดดอกทานตะวัน ไข่เค็มลพบุรี ผลิตภัณฑ์จากปลาหลากหลายชนิดในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ออกจากที่หยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 14.20 น. ถึงสถานีกรุงเทพ เวลา 17.45 น.
อัตราค่าโดยสารรวมค่าเข้าชมทุ่งทานตะวัน (ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม)
รถนั่งชั้นที่ 2 (ปรับอากาศ) คนละ 490.- บาท
รถนั่งชั้นที่ 3 (พัดลม) คนละ 280.- บาท
อัตราค่าโดยสารราคาพิเศษ
จากสถานีสระบุรี/แก่งคอย โคกสลุง อัตราพิเศษ คนละ 120.- บาท
จากสถานีแก่งเสือเต้น/ที่หยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อัตราพิเศษ คนละ 70.- บาท
ติดต่อซื้อตั๋วโดยสารได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าสถานีกรุงเทพ และสถานีในเขตกรุงเทพ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0-2621-8701 ต่อ 5217 (08.30 16.00 น.) หรือ Call Center 1690 (ตลอด 24 ชั่วโมง) WWW.RAILWAY.CO.TH |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46858
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/12/2010 5:37 pm Post subject: |
|
|
รฟท.เพิ่มขบวนรถรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่
สำนักข่าวไทย วันศุกร์ ที่ 24 ธ.ค. 2553
กรุงเทพฯ 24 ธ.ค. - นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้มีวันหยุดตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2553-4 มกราคม 2554 นอกจากขบวนรถรับ-ส่งผู้โดยสารที่เดินเป็นประจำ 250 ขบวนแล้ว รฟท.ได้เพิ่มเที่ยวขบวนรถไฟในเส้นทางสายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 30-31 ธันวาคมนี้ อีก 10 ขบวน และเที่ยวกลับวันที่ 3-4 มกราคม 2554 และจัดเพิ่ม 10 ขบวน เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มเติมเฉลี่ย 10,000 คนต่อวัน เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา
สำหรับเที่ยวไป 10 ขบวน ได้แก่
วันที่ 30 ธันวาคม 2553
ขบวน 959 กรุงเทพฯ-ศิลาอาสน์ ออกเวลา 22.30 น ถึงเวลา 07.15 น.
ขบวน 977 กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ออกเวลา 22.00 น.ถึงเวลา 09.10 น.
ขบวน 967 กรุงเทพฯ-อุดรธานี ออกเวลา 21.15 น. ถึงเวลา 09.05 น.
วันที่ 31 ธันวาคม
ขบวน 933 กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ออกเวลา 06.20 น. ถึงเวลา 16.30 น.
ขบวน 935 กรุงเทพฯ-อุดรธานี ออกเวลา 06.30 น. ถึงเวลา 17.15 น.
วันที่ 3 มกราคม 2554
ขบวน 2311 กรุงเทพฯ-ศิลาอาสน์ ออกเวลา 09.40 น.ถึงเวลา 17.20 น.
วันที่ 3, 4 มกราคม
ขบวน 2211 กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ออกเวลา 05.20 น.ถึงเวลา 15.00 น.
วันที่ 4 มกราคม
ขบวน 2215 กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ออกเวลา 06.20 น.ถึงเวลา 16.15 น.
วันที่ 4 มกราคม
ขบวน 2213 กรุงเทพฯ-อุดรธานี ออกเวลา 06.30 น.ถึงเวลา 17.25 น.
ส่วนเที่ยวกลับ 10 ขบวน ได้แก่
วันที่ 31 ธันวาคม 2553
ขบวน 2202 อุบลราช ธานี - กรุงเทพฯ ออกเวลา 10.05 น. ถึงเวลา 21.30 น.
ขบวน 2204 อุดรธานี-กรุงเทพฯ ออกเวลา 10.40 น. ถึงเวลา 21.55 น.
วันที่ 2-3 มกราคม 2554
ขบวน 962 ศิลาอาสน์ - กรุงเทพฯ ออกเวลา 19.30 น. ถึงเวลา 04.45 น.
วันที่ 3-4 มกราคม
ขบวน 934 อุบล ราชธานี -กรุงเทพฯ ออกเวลา 19.45 น. ถึงเวลา 08.10 น.
ขบวน 936 อุดรธานี - กรุงเทพฯ ออกเวลา 20.40 น. ถึง เวลา 08.30 น.
ขบวน 976 ศรีสะเกษ-กรุงเทพฯ ออกเวลา 16.30 น.ถึงเวลา 03.30 น.
หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ฯ กล่าวต่อว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ มีวันหยุดหลายวัน การเดินทางโดยรถไฟฯมีความหนาแน่น จึงขอความร่วมมือมายังประชาชนเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ขอให้ระมัดระวังทรัพย์สินของท่าน อย่าฝากสิ่งไว้กับบุคคลแปลกหน้า ห้ามขึ้นรถในขณะที่ขบวนรถกำลังเคลื่อนที่ เพราะอาจพลัดตกเสียชีวิตได้ ห้ามยืนระหว่างหัวต่อรถโดยสาร และห้ามใช้บันไดเป็นที่โดยสารเพราะอาจพลัดตกจากขบวนรถ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ของผู้โดยสารที่เดินรถทางโดยรถไฟฟรีจะต้องขอรับตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟก่อนขบวนรถออกทุกครั้ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย
ที่มา : http://www.railway.co.th/srt/pr/news/viewshownews.asp?idnews=709
Last edited by Mongwin on 24/12/2010 10:47 pm; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46858
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/12/2010 5:57 pm Post subject: |
|
|
กู้ระเบิดระทึกสถานีรถไฟทุ่งสง
โพสต์ทูเดย์ 24 ธันวาคม 2553 เวลา 15:11 น.
ประชาชนแตกตื่นกันทั้งสถาน หลังตำรวจทุ่งสงซ้อมแผนกู้ระเบิดสถานีรถไฟ โดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า
พลเมืองดีได้โทรศัพท์ไปแจ้งห้องวิทยุ สภ.ทุ่งสง ว่า มีวัตถุต้องสงสัยวางอยู่ที่ชานชาลาสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช จากนั้น พ.ต.ท. วิระชาญ ขุนไชยแก้ว สารวัตรเวร สภ.ทุ่งสง ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ. ธรรมนูญ ไฝจู ผกก. , พ.ต.ท. จรัส เจริญกุล รอง ผกก.ป.และเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดร่วมกันตรวจสอบและสอบสวน
เมื่อไปถึงพบว่าที่เกิดเหตุเป็นบริเวณชานชาลาใกล้ที่พักรอผู้โดยสารรถไฟ มีกล่องกระดาษใบขนาดย่อมมีเชือกผูกเรียบร้อยโดยมีสายไฟฟ้าโผล่ออกมา ขณะที่ชาวบ้านและผู้โดยสารที่มารอจะขึ้นรถไฟอยู่จำนวนมากที่ไม่รู้เรื่องต่างพากันแตกตื่น ตำรวจจึงกันผู้คนให้ถอยห่างออกจากกล่องวัตถุต้องสงสัยพร้อมกับนำเชือกมากั้นบริเวณไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายเก็บกู้ระเบิดได้ค่อยๆ คลานเข้าไปที่กล่องดังกล่าวแล้วค่อยแกะกล่องต้องสงสัยด้วยความระมัดระวังท่ามกลางความระทึกของผู้คนที่คอยลุ้นอยู่ห่างๆ กระทั่งเวลาผ่านไป 30 นาที จึงสามารถแกะกล่องดังกล่าวออกดูพบเศษผ้าและสายไฟฟ้าเท่านั้น ทำให้ทุกคนถึงโล่งอก
หลังเสร็จพิธีซ้อม พ.ต.อ. ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.ทุ่งสง ก็ได้ประกาศให้ชาวบ้านและผู้โดยสารรถไฟที่มุงดูทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นการสมมุติขึ้น เป็นการซ้อมแผนเก็บกู้วัตถุระเบิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุ่งสง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง โดยมีการสร้างสถานการณ์เหมือนจริงทุกอย่าง และทำงานให้สมจริงสมจัง จึงไม่มีการบอกกล่าวให้ประชาชนทราบ แม้แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเก็บกู้ระเบิดเองก็ไม่ทราบว่าเป็นการฝึกซ้อม และเพื่อทดสอบความพร้อมของเจ้าหน้าที่ว่ามีความพร้อมเพียงใด และขั้นตอนปฎิบัติงานถูกต้องหรือไม่ จึงต้องขออภัยกับประชาชนที่มารอรถไฟที่สถานีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ด้วย หลังมีการชี้แจงชาวบ้านถึงกับโห่ฮา ก่อนจะแยกย้ายกันออกไปในที่สุด |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46858
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/12/2010 5:19 pm Post subject: |
|
|
รัฐบาลอนุมัติกว่า 300ล้านปรับปรุงรางรถไฟตรัง-ทุ่งสง
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 26 ธันวาคม 2553 13:22
น.พ.สุกิจ อัฒโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง เขต1 พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงการเกิดอุบัติเหตุรถไฟตกรางในจ.ตรัง ถึง 3 ครั้งในรอบ 2 เดือนหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงระบบรางจาก อ.ทุ่งสง-อ.กันตัง ให้ได้มาตรฐานขึ้น ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ในปี 2554 นี้ แต่อย่างไรก็ตามจากเหตุรถไฟตกรางใน จ.ตรังบ่อยครั้ง อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยน้อยลง ซึ่งเรื่องดังกล่าว ตนในฐานะ ส.ส.ในพื้นที่ ได้นำปัญหาที่เกิดขึ้นอภิปรายในสภาพร้อมเรียกร้องให้กระทรวงคมนาคม เร่งปฏิรูปรถไฟทั้งระบบในภาคใต้ แต่ก็ยังได้รับคำตอบที่ไม่ชัดเจนมากนัก
ทั้งนี้หากปฏิรูปทั้งระบบ เชื่อว่า จะทำให้ลดการเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้จะต้องใช้งบฯมหาศาลและใช้ระยะเวลาสมควร เนื่องจากรัฐบาลเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้ไม่นาน อีกทั้งช่วงก่อนหน้านี้แม้ว่ารัฐบาลจะตั้งงบฯในการนำไปพัฒนาด้านอื่นแล้วก็ตาม แต่เมื่อเกิดวิกฤติอุทกภัยและวาตภัยทั่วทั้งประเทศ จึงจำเป็นต้องตัดงบส่วนอื่นไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนก่อน มิเช่นนั้นอาจถูกโจมตีจากฝ่ายค้านได้ ดังนั้นยืนยันว่า เส้นทางรถไฟสาย อ.ทุ่งสง-อ.กันตัง จะได้รับการปรับปรุงแน่นอน
นพ.สุกิจ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า รถไฟในประเทศไทยยังล้าหลังกว่าต่างประเทศมาก โดยเฉพาะระบบรางที่ไม่ได้มาตรฐานยังคงเป็นรางขนาด 1 เมตร ขณะที่ต่างประเทศใช้ระบบรางขนาด 1.3-1.5 เมตร ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกใช้กัน ในเมื่อรถไฟไทยยังคงใช้ระบบรางแบบเก่า ตนไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะเริ่มต้นปฏิรูปรถไฟที่จุดใดก่อน ทั้งนี้หากปฏิรูปทั้งระบบจะต้องใช้งบมหาศาล แต่หากนำงบมาทุ่มส่วนนี้หมด อาจจะทำให้งบที่จะใช้พัฒนาส่วนอื่นหมดไปด้วย
ส่วนที่มีกระแสข่าวจะมีการยุบเส้นทางรถไฟสาย อ.ทุ่งสง-อ.กันตัง เนื่องจากมีผู้โดยสารน้อยและไม่คุ้มทุนนั้น ตนยืนยันว่า จะไม่ให้มีการยุบโดยเด็ดขาด เพราะเส้นทางสายดังกล่าวถือเป็นสายเศรษฐกิจ เชื่อมโยงไปยังท่าเทียบเรือกันตัง ซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญที่สุดในภาคใต้สำหรับขนส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะยางพารา ปัจจุบันได้พัฒนาปรับปรุงเป็นท่าเรือมาตรฐานแล้ว หากมีการยุบเส้นทางดังกล่าว จะกระทบต่อเศรษฐกิจจังหวัดตรัง
เมื่อถามว่า ในช่วงก่อนหน้านี้ที่มีการหาเสียงจะผลักดันให้เกิดรถไฟรางคู่ใน จ.ตรัง นั้น ส.ส.ตรัง พรรค ปชป.เขต 1 กล่าวว่า โครงการดังกล่าวยังคงอยู่ แต่ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร เพราะต้องใช้งบมหาศาล หากจะให้เพิ่มรางอีก ขณะที่รางเก่ายังไม่ได้รับการปรับปรุง ก็คงจะไม่ไหว ประกอบกับช่วงดังกล่าว รัฐบาลมีโครงการรถไฟความเร็วสูง ต้องใช้งบลงทุนในส่วนนี้ก่อน ดังนั้นตนรับปากว่า จะพยายามผลักดัน ในระหว่างที่ ปชป.ยังเป็นรัฐบาล เพื่อที่จะให้ จ.ตรังได้มีรถไฟรางคู่ต่อไป |
|
Back to top |
|
|
nop2
2nd Class Pass (Air)
Joined: 06/03/2008 Posts: 985
Location: เพชรบุรี
|
Posted: 26/12/2010 6:11 pm Post subject: |
|
|
คำว่ารางมาตราฐานไม่ใช่มองความกว้างหรือระยะทางที่มีมากที่สุดนะครับ ต้องดูประเทศรอบข้างด้วย อย่างโซนนี้(เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่นับอินโดนีเซีย)มีแต่ 1000มม ก็ถือว่า 1000มม. เป็นมาตราฐานของแทบนี้ แต่ถ้ามองแค่ในเอเชีย(นับรัสเซียในโซนที่เป็นเอเซียและประเทศที่แยกออกมาจากรัสเซีย) ราง 1520มม. ซึ่งมีมากสุด ก็ถือว่า 1520มม เป็นมาตราฐานของเอเชีย
ราง 1.3เมตรกว่าๆ ผมเห็นญี่ปุ่นใช้อยู่ประเทศเดียวนะครับ (4ft 6inch)
ปล. หลายๆประเทศในยุโรบก่อสร้างราง 1.520 เพื่อใช้ขนส่งค้ากับรัสเซีย และอดีตสหภาพโซเวียตนะครับ และราง 1.520/1.524 ยังอยู่ในมาตราฐาน UIC อีกด้วย ซึงตามแผ่นที่รัสเซียวางไว้ มีประเทศไทยด้วย(ตามโลโก้ที่ RZD ทำไว้) หากเราจะใช้ราง 1.520 รัสเซียคงให้ความช่วยเหลือได้ และราง 1.520 ยังมีรถไฟความเร็วสูงอีกด้วย
ส่วนรถไฟธรรมดา มีขายกันเป็นรถมาตราฐานเลยที่เดียว (GE ALSTOM SIEMENS) _________________ "You are star I am darkness Our love brighter than the sun .." |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46858
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/12/2010 7:53 pm Post subject: |
|
|
ผ่าแผนลงทุนแปลงโฉมรถไฟไทย ปี 54 เปิดประมูล 12 โครงการงบแสนล้าน
สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1163 ประจำวันที่ 25-12-2010 ถึง 28-12-2010
ก.คมนาคม คมนาคมลุยปรับปรุงระบบรถไฟไทยครั้งใหญ่รับศักราชใหม่ ตั้งเป้าปี 54 เร่งเปิดประมูล 11 โครงการ วงเงินกว่า 8.7 หมื่นล้านบาท พร้อมก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ 114 แห่งทั่วประเทศ งบกว่า 1.9 หมื่นล้าน บาท เพื่อแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟ วงในระบุได้ใช้ของใหม่ในปี 2557 แน่
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยกับ สยามธุรกิจ ว่า ในปี 2554 กระทรวงคมนาคมจะลงทุนครั้งใหญ่เกี่ยวกับรถไฟไทย ซึ่งรัฐบาล ได้อัดฉีดงบประมาณจำนวนมหาศาล เพื่อดำเนินการปรับปรุงระบบรถไฟเดิมหลายโครงการเพื่อเพิ่มศักยภาพ การขนส่งทางราง โดยแยกการดำเนิน การออกเป็น 2 ส่วน คือ
1.การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) วงเงินลงทุนรวม 176,808.28 ล้านบาท โดยโครงการที่มีความพร้อม และสามารถดำเนินการได้ทันทีจะมีจำนวน 11 รายการ วงเงินลงทุนรวม 87,529 ล้านบาท โดยแยกเป็นส่วนที่รัฐรับภาระการลงทุน วงเงินรวม 84,024 ล้านบาท และร.ฟ.ท.รับภาระ การลงทุน วงเงินลงทุนรวม 3,505 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยังมีโครงการที่จะต้องดำเนินการศึกษาความเหมาะสม และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นรายโครงการ จำนวน 10 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 89,279 ล้านบาท ประกอบด้วย ส่วนที่รัฐรับภาระการลงทุน วงเงินรวม 68,310 ล้านบาท และ การรถไฟฯ รับภาระการลงทุน วงเงินลงทุนรวม 20,969 ล้านบาท
2.การแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟ โดยการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ จำนวน 114 แห่ง ซึ่งได้ตั้งงบประมาณปี 2554-2559 ของกรมทางหลวง(ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เรียบร้อยแล้ว วงเงินลงทุน 19,012.50 ล้านบาท โดยรัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายโครงการทั้งหมด และให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการปรับแผนการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2557
สำหรับ 11 โครงการในส่วนของ ร.ฟ.ท.ที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันที ประกอบด้วย
1.โครงการปรับปรุงทางระยะที่ 5 ระยะทาง 308 กิโลเมตร ประกอบด้วย
ช่วงสถานีชุมทางแก่งคอย-แก่งเสือเต้น 37 กิโลเมตร
ช่วงสถานีสุระนารายณ์-ชุมทางบัวใหญ่ 192 กิโลเมตร และ
ช่วงชุมทางถนนจิระ-ชุมทางบัวใหญ่ ระยะทาง 79 กิโลเมตร
2.โครงการปรับปรุงทางระยะที่ 6 ระยะทาง 278 กิโลเมตรในช่วงชุมทางบัวใหญ่-หนองคาย ซึ่ง ร.ฟ.ท. ได้ลงนามในสัญญาว่าจ้างบริษัท อีซีบีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นที่ปรึกษาดำเนินการจัดทำเอกสารประกวดราคาและประกวดราคาโครงการปรับปรุงทางระยะที่ 5 และ ระยะที่ 6 วงเงิน 18.90 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2553 โดยคาดว่าจะได้ผู้รับเหมาภายในเดือนมกราคม 2554
3.โครงการก่อสร้างทางคู่สายฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร ปัจจุบัน อยู่ระหว่างรอการพิจารณาให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่ง แวดล้อมจากสำนักงานนโยบายและแผนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่ง ร.ฟ.ท .ได้นำส่งจัดส่งรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่แก้ไขเพิ่มเติมใหม่เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะได้รับความเห็นจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติภายในเดือนธันวาคม 2553 และจะได้ผู้รับเหมาภายในเดือนตุลาคม 2554
4.โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าน้ำหนักกดลงเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 13 คัน ๆ ละ 165 ล้านบาท วงเงินรวม 2,145 ล้านบาท ร.ฟ.ท. รับภาระค่าใช้จ่ายจากเงินกู้และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ ขณะนี้อยู่ระหว่างแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงาน (TOR) คาดว่าจะลงนามสัญญาว่าจ้างช่วงเดือนพฤษภาคม 2544 เพื่อนำรถจักรดังกล่าวไปให้บริการขนส่ง ขนส่งจากย่านกองเก็บตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ส่วนภูมิภาคภายในประเทศไปยังท่าเรือแหลมฉบังและไอซีดีลาดกระบังลักษณะเหมาขบวน
5.โครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย ระยะทาง 2,406 กิโลเมตร ซึ่งเปิดประกวดราคาไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมา
6.โครงการปรับปรุงสะพาน จำนวน 1,434 แห่งใช้งบปี 2554 จำนวน 1,599.1507 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงสะพาน 239 แห่ง ปัจจุบัน ร.ฟ.ท. ได้เปิดประกวดราคาไปแล้วเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเริ่มงานก่อสร้างได้ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554
7.โครงการติดตั้งอาณัติสัญญาณไฟสี จำนวน 224 สถานี อยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารประกวดราคาจ้างที่ปรึกษา เพื่อดำเนินการสำรวจรายละเอียดต่าง ๆ พร้อมออกแบบปรับปรุงมาตรฐานอาณัติสัญญาณตามเทคโนโลยีระบบอาณัติสัญญาณสมัยใหม่ในปีงบประมาณ 2554 ระยะเวลาดำเนินงาน 1 ปี โดยคาดว่าจะลงนามในสัญญาจ้างว่าจ้างที่ปรึกษาและผู้รับเหมาติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณไฟสีในเดือนกรกฎาคม 2554 ทั้งนี้จะต้องของบประมาณเพื่อดำเนินการโครงการต่อเนื่องจนถึงปีงบประมาณ 2557
8.โครงการติดตั้งเครื่องกั้นถนนเสมอระดับและปรับปรุงเครื่องกั้น จำนวน 1,284 แห่ง ประกอบด้วย การจัดหาและติดตั้งเครื่องกั้นถนนเสมอระดับจำนวน 988 แห่ง ได้ติดตั้งแล้วบางส่วน และอยู่ระหว่างการทดสอบสถานะ,การจัดหาและปรับปรุงเครื่องกั้นถนน จำนวน 294 แห่ง
9.งานติดตั้งรั้วกั้นสองข้างทางตามแนวเขตทางรถไฟ ระยะทาง 1,649 กิโลเมตร ซึ่ง ร.ฟ.ท. จะดำเนินการติดตั้งรั้วกั้นสองข้างทางในปี 2554 ระยะทาง 880 กิโลเมตร และในปี 2555 ระยะทาง 769 กิโลเมตร ปัจจุบัน ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจจัดทำแผนผังประมาณการ (ร่าง) รายการละเอียด และสำรวจข้อคิดเห็นจากประชาชนสองข้างทางรถไฟ คาดว่าจะเริ่มประกวดราคาได้ภายในเดือนมกราคม 2554 และว่าจ้างผู้รับเหมาได้ประมาณเดือนเมษายน 2554
10.โครงการสร้างโรงรถจักรแก่งคอย ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างนำเสนอคณะกรรมการเพื่อขอใช้งบประมาณทำการของ รฟท. ว่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียดและจัดทำ BOQ รวมทั้งเอกสารประกวดราคาว่าจ้างทำการก่อสร้าง และโครงการที่ 11.เป็นโครงการสร้างโรงรถศรีราชาและหน่วย 10 ลาดกระบัง ซึ่ง ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างออกแบบรายละเอียดเพื่อดำเนินการว่าจ้าง |
|
Back to top |
|
|
kikoo
1st Class Pass (Air)
Joined: 01/02/2010 Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46858
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 27/12/2010 9:36 am Post subject: |
|
|
ไม่เป็นไรครับ ปรับปรุงชานชาลาก็ถือว่าช่วยสร้างความปลอดภัยในการโดยสารครับ
ห้องน้ำด้วย ตอนนี้ไม่ทราบว่าห้องน้ำใหม่ของสถานีนครปฐมเปิดทำการหรือยังนะครับ
-------------------------
นี่ครับ รายละเอียดโครงการปรับปรุงทางรถไฟระยะที่ 5 และ 6
ประกาศฝ่ายการช่างโยธา
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง ประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โครงการปรับปรุงทางรถไฟ ระยะที่ 5 สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วง ชุมทางแก่งคอย-แก่งเสือเต้น สุรนารายณ์-ชุมทางบัวใหญ่ และชุมทางถนนจิระ-ชุมทางบัวใหญ่
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ กส.5/ปก/2553
ด้วยฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการปรับปรุงทางรถไฟ ระยะที่ 5 สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงชุมทางแก่งคอย-แก่งเสือเต้น สุรนารายณ์-ชุมทางบัวใหญ่ และชุมทางถนนจิระ-ชุมทางบัวใหญ่ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อก่อสร้าง ปรับปรุง ทางรถไฟทางเดี่ยว ขนาดกว้าง 1 เมตร บนทางรถไฟ 3 ช่วง สายตะวันออกเฉียงเหนือ โดยขบวนรถไฟยังสามารถคง การเดินรถและให้บริการได้ตามปกติเมื่อทำการเปิดทางแล้ว ทั้งนี้จะต้องวางรางในช่วงเวลาปิดทาง 6 ชั่วโมงต่อวัน (มากที่สุด) 6 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทางรถไฟจะพร้อมสำหรับผู้รับเหมาปฏิบัติงาน ทางรถไฟที่จะดำเนินการปรับปรุงในระยะที่ 5 ทั้ง 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงระยะที่ 5-1 : ชุมทางแก่งคอย แก่งเสือเต้น ระยะทางประมาณ 37 กม. ช่วงระยะที่ 5-2 : สุรนารายณ์ ชุมทางบัวใหญ่ ระยะทางประมาณ 192 กม. ช่วงระยะที่ 5-3 : ชุมทางถนนจิระ ชุมทางบัวใหญ่ ระยะทางประมาณ 79 กม. รวมระยะทางประมาณ 308 กม.
ขอบเขตของงานก่อสร้างที่สำคัญประกอบด้วย
(1) เปลี่ยนราง (rails) เก่า ให้เป็นรางมาตรฐานใหม่ ขนาด 100 ปอนด์/หลา
(2) เปลี่ยนหมอนรองราง (Sleepers) ซึ่งเป็นหมอนไม้ที่เสื่อมสภาพเป็นหมอนคอนกรีตอัดแรง
(Prestressed Concrete) พร้อมเปลี่ยนเครื่องยึดเหนี่ยวราง (Fastenings)
(3) เปลี่ยน/เพิ่มความหนาหินโรยทางใหม่ให้ได้ตามมาตรฐานทางสายใหม่
(4) เปลี่ยนประแจเดิม (Turnouts) ให้เป็นประแจขนาด 100 ปอนด์ เพื่อให้สัมพันธ์กับรางที่เปลี่ยนใหม่
(5) ปรับปรุงดินคันทาง (Subgrade) ในส่วนที่จำเป็นเพื่อให้การระบายน้ำดีขึ้น
(6) เสริมความมั่นคงไหล่ทางและลาดทางตัดในส่วนที่จำเป็น
(7) ปรับเปลี่ยนแนวทางโค้งแคบที่กำหนด
(8) เปลี่ยนวัสดุปูทางผ่านเสมอระดับ (Level Crossings) ให้เป็นมาตรฐานใหม่ที่แข็งแรงและ
ทนทานมากขึ้น
(9) ยกระดับสะพานให้เสมอระดับทางประธานใหม่
(10) เปลี่ยนและเสริมกำลังสะพานให้รองรับน้ำหนักเพลา 20 ตัน
(11) ปรับปรุงทางหลีกในย่านสถานีให้สัมพันธ์กับระดับทางประธานใหม่
(12) ปรับปรุงระบบระบายน้ำในทางตัดและในบริเวณย่านสถานี
(13) ปรับปรุงชานชาลาและหลังคาคลุมชานชาลา
(14) ซ่อมบำรุง ปรับปรุง อุปกรณ์อาณัติสัญญาณที่เกี่ยวข้อง
(15) จัดหาเครื่องจักรในการปรับปรุงและซ่อมบำรุงทาง ประกอบด้วย รถอัดหิน รถอัดหินประแจ รถเกลี่ยหิน รถสั่นหิน รถบรรทุกหินโรยทาง รถตรวจสภาพทาง และเครื่องตรวจสภาพทาง
(16) งานอื่นๆ ที่จำเป็นของงานปรับปรุงทาง
กำหนดระยะเวลาดำเนินการให้แล้วเสร็จในเวลา 24 เดือน
ราคากลาง 8,100,701,000.00 บาท
...
...
1.9 ผู้เสนอราคาต้องมี หรือเช่าเครื่องมืออุปกรณ์ก่อสร้างทางรถไฟสำหรับทางรถไฟขนาดกว้าง 1 เมตร (Meter Gauge) เพื่อใช้งานในโครงการนี้อย่างน้อยที่สุด (ไม่รวมถึงเครื่องจักรที่จะต้องจัดซื้อตามสัญญาและส่งมอบให้ รฟท. เมื่องานแล้วเสร็จตามขอบเขตงาน) ดังนี้คือ :-
(1) ขบวนรถงานเปลี่ยนหมอนเปลี่ยนราง จำนวน 1 ขบวน
(Track Renewal Machine)
(2) รถอัดหินหลายหัวอัดต่อเนื่องสำหรับอัดหินในทางทั่วไป จำนวน 1 คัน
(Tamping Machine)
(3) รถอัดหินประแจ จำนวน 1 คัน
(Switch Tamping Machine)
(4) รถสั่นหิน จำนวน 1 คัน
(Track Stabilizer)
(5) รถเกลี่ยหิน จำนวน 1 คัน
(Ballast Regulator)
(6) รถจักรหรือรถลากจูง UTV (Utility Track Vehicle)
มีกำลังลากจูงไม่น้อยกว่า 500 แรงม้า สำหรับลากจูงรถงานต่างๆ จำนวน 2 คัน
(7) รถบรรทุกหินโรยทาง (Ballast Hopper Wagon)
มีสมรรถนะการบรรทุกหินโรยทางไม่น้อยกว่า 28 ลูกบาศก์เมตรต่อคัน
และมีช่องลงหินใต้ท้องรถด้วยอย่างน้อยที่สุด จำนวน 20 คัน
วันที่ประกาศ 24 ธ.ค. 53 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46858
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 27/12/2010 9:40 am Post subject: |
|
|
ประกาศฝ่ายการช่างโยธา
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง ประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โครงการปรับปรุงทางรถไฟ ระยะที่ 6 สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วง ชุมทางบัวใหญ่ หนองคาย
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ กส.6/ปก/2553
ด้วยฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการปรับปรุงทางรถไฟ ระยะที่ 6 สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงชุมทางบัวใหญ่-หนองคาย ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อก่อสร้าง ปรับปรุง ทางรถไฟทางเดี่ยว ขนาดกว้าง 1 เมตร บนทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ โดยขบวนรถไฟ ยังสามารถคงการเดินรถและให้บริการได้ตามปกติเมื่อทำการเปิดทางแล้ว ทั้งนี้จะต้องวางรางในช่วงเวลาปิดทาง 5 ชั่วโมงต่อวัน (มากที่สุด) 6 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทางรถไฟจะพร้อมสำหรับผู้รับเหมาปฏิบัติงาน ทางรถไฟที่จะดำเนินการปรับปรุงได้แก่ ชุมทางบัวใหญ่ หนองคาย ระยะทางประมาณ 278 กม. รวมระยะทางประมาณ 278 กม.
ขอบเขตของงานก่อสร้างที่สำคัญประกอบด้วย
(1) เปลี่ยนราง (rails) เก่า ให้เป็นรางมาตรฐานใหม่ ขนาด 100 ปอนด์/หลา
(2) เปลี่ยนหมอนรองราง (Sleepers) ซึ่งเป็นหมอนไม้ที่เสื่อมสภาพเป็นหมอนคอนกรีตอัดแรง
(Prestressed Concrete) พร้อมเปลี่ยนเครื่องยึดเหนี่ยวราง (Fastenings)
(3) เปลี่ยน/เพิ่มความหนาหินโรยทางใหม่ให้ได้ตามมาตรฐานทางสายใหม่
(4) เปลี่ยนประแจเดิม (Turnouts) ให้เป็นประแจขนาด 100 ปอนด์ เพื่อให้สัมพันธ์กับรางที่เปลี่ยนใหม่
(5) ปรับปรุงดินคันทาง (Subgrade) ในส่วนที่จำเป็นเพื่อให้การระบายน้ำดีขึ้น
(6) เสริมความมั่นคงไหล่ทางและลาดทางตัดในส่วนที่จำเป็น
(7) ปรับเปลี่ยนแนวทางโค้งแคบที่กำหนด
(8) เปลี่ยนวัสดุปูทางผ่านเสมอระดับ (Level Crossings) ให้เป็นมาตรฐานใหม่ที่แข็งแรงและ
ทนทานมากขึ้น
(9) ยกระดับสะพานให้เสมอระดับทางประธานใหม่
(10) เปลี่ยนและเสริมกำลังสะพานให้รองรับน้ำหนักเพลา 20 ตัน
(11) ปรับปรุงทางหลีกในย่านสถานีให้สัมพันธ์กับระดับทางประธานใหม่
(12) ปรับปรุงระบบระบายน้ำในทางตัดและในบริเวณย่านสถานี
(13) ปรับปรุงชานชาลาและหลังคาคลุมชานชาลา
(14) ซ่อมบำรุง ปรับปรุง อุปกรณ์อาณัติสัญญาณที่เกี่ยวข้อง
(15) จัดหาเครื่องจักรในการปรับปรุงและซ่อมบำรุงทาง ประกอบด้วย รถอัดหิน รถอัดหินประแจ รถเกลี่ยหิน รถสั่นหิน รถบรรทุกหินโรยทาง และเครื่องตรวจสภาพทาง
(16) งานอื่นๆ ที่จำเป็นของงานปรับปรุงทาง
กำหนดระยะเวลาดำเนินการให้แล้วเสร็จในเวลา 24 เดือน
ราคากลาง 6,588,122,000.00 บาท
...
...
1.9 ผู้เสนอราคาต้องมี หรือเช่าเครื่องมืออุปกรณ์ก่อสร้างทางรถไฟสำหรับทางรถไฟขนาดกว้าง 1 เมตร (Meter Gauge) เพื่อใช้งานในโครงการนี้อย่างน้อยที่สุด (ไม่รวมถึงเครื่องจักรที่จะต้องจัดซื้อตามสัญญาและส่งมอบให้ รฟท. เมื่องานแล้วเสร็จตามขอบเขตงาน) ดังนี้คือ :-
(1) ขบวนรถงานเปลี่ยนหมอนเปลี่ยนราง จำนวน 1 ขบวน
(Track Renewal Machine)
(2) รถอัดหินหลายหัวอัดต่อเนื่องสำหรับอัดหินในทางทั่วไป จำนวน 1 คัน
(Tamping Machine)
(3) รถอัดหินประแจ จำนวน 1 คัน
(Switch Tamping Machine)
(4) รถสั่นหิน จำนวน 1 คัน
(Track Stabilizer)
(5) รถเกลี่ยหิน จำนวน 1 คัน
(Ballast Regulator)
(6) รถจักรหรือรถลากจูง UTV (Utility Track Vehicle)
มีกำลังลากจูงไม่น้อยกว่า 500 แรงม้า สำหรับลากจูงรถงานต่างๆ จำนวน 2 คัน
(7) รถบรรทุกหินโรยทาง (Ballast Hopper Wagon)
มีสมรรถนะการบรรทุกหินโรยทางไม่น้อยกว่า 28 ลูกบาศก์เมตรต่อคัน
และมีช่องลงหินใต้ท้องรถด้วยอย่างน้อยที่สุด จำนวน 20 คัน
วันที่ประกาศ 24 ธ.ค.53 |
|
Back to top |
|
|
palm_gea
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 1321
Location: ธ.ก.ส.
|
Posted: 27/12/2010 2:06 pm Post subject: |
|
|
นับว่าเป็นข่าวดีส่งท้ายปีครับ สำหรับการปรับปรุงทางสายลำนารายณ์ที่ตอนนี้ต้องบอกว่าสภาพทางแย่มากๆ รถกระโดดจนน่ากลัวว่าจะหลุดออกจากราง ขอให้ปรับปรุงโดยเร็วนะครับ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารที่ต้องใช้เส้นทางสายนี้เป็นประจำ(เห็นรถกระโดดแล้วสงสารผู้สูงอายุครับ) ปรับปรุงแล้วรถด่วน รถเร็ว รถสินค้าจะได้กลับมาใช้เส้นทางได้เหมือนเดิม จะได้คุ้มค่าหน่อยกับเส้นทางที่มีเอกลักษณ์ครับ ทุกวันนี้ใจหายเลยครับ เส้นทางที่ได้ขึ้นชื่อว่าวิวสวยและช่วยแบ่งเบาภาระของสายปากช่อง แถมมีทางช่วงเขื่อนป่าสักฯที่สร้างขึ้นใหม่มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท แต่กลับมีแค่รถท้องถิ่นวิ่งไปกลับวันละ 6 ขบวน _________________
|
|
Back to top |
|
|
|