ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

milkonline · Posted: 23/02/2011 2:28 pm Post subject:

^
^
ประมาณนี้รึเปล่าครับ ถ้าแบบนี้ละก็ ดูดีทีเดียว

เท่าทีดูทรงของรุ่น"ปลาทู" หน้างอคอหัก ไม่น่าจะติดตั้งอุปกรณ์ขนาด 3,000 แรงม้าได้
เพราะที่ดูจากกระทู้รถไฟพม่าของ อ.เอก รูปทรงดูสั้นๆ

*แก้ไข เปลี่ยน clip ใหม่ครับ
_________________
N-Scale model train lovers.

Mongwin · Posted: 23/02/2011 2:32 pm Post subject:

ขอบคุณครับที่นำคลิปมาให้ชม Very Happy

ดีเหมือนกันครับ รถไฟไทยจะได้มีรถจักรใหม่ ๆ มาให้ดู ไม่เบื่อครับ

--------------------------------

นักวิชาการชี้เปรี้ยง! ท่องเที่ยวไทยย่ำกับที่ - เหตุตั้งสารพัดกฎ-รัฐ เอกชน เดินคนละทิศ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กุมภาพันธ์ 2554 16:12 น.

เชียงราย - นักวิชาการชี้ชัดท่องเที่ยวไทยนับวันจะย่ำอยู่กับที่ เหตุต่างคนต่างทำ แถมมีสารพัดกฎระเบียบไม่รู้จักจบจักสิ้น แต่ละหน่วยงานถือกฎหมายคนละฉบับ ขณะที่มิตรประเทศรอบข้างก้าวไปไกลลิบ ทั้งที่เริ่มสตาร์ทพร้อม ๆ กัน เสนอจัดกลุ่มวางแผนพัฒนาใหม่-ปรับการขนส่งระบบรางที่เก่ายิ่งกว่าสมัย ร.5

วันนี้ (23 ก.พ.54) สถาวันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการกำหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยวภาคเหนือ ครั้งที่ 1 ณ โรงแรมทีคการ์เด้น สปา รีสอร์ท อ.เมืองเชียงราย มีนายพินิจ หาญพาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิด และ รศ.ดร.ธเนศ ศรีวิชัยลำพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันฯสรุปความเป็นมาของโครงการ และ ดร.วิชุลดา มาตันบุญ หัวหน้าโครงการวิจัยรับฟังการระดมความคิดเห็น ท่ามกลางตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนใน 17 จังหวัดภาคเหนือตอนบนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

รศ.ดร.ธเนศ กล่าวว่า ประมาณ 20 ปีก่อน เกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น ต่างเริ่มต้นพัฒนาการท่องเที่ยวพร้อมๆ กับประเทศไทย โดยภาครัฐและเอกชนมีความเป็นเอกภาพเดินไปในทิศทางเดียวกันจึงทำให้รุดหน้าไปมาก เมื่อเทียบกับไทยพบว่ายังอยู่กับที่ เพราะการพัฒนาของไทยอยู่ในสภาพต่างฝ่ายต่างทำ แม้จะรวมตัวกันบ้างแต่ก็ทำงานแบบตัวใครตัวมัน

หรือในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวในช่วง 40 ปีของ 6 ประเทศในเอเชีย เช่น ไทย มาเลเซีย ญี่ปุ่น ฯลฯ พบว่าขณะที่ประเทศอื่นไปมาก แต่ไทยยังอยู่ที่เดิมท่ามกลางความสงสัยของประเทศต่างๆ ที่มีต่อทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่มีความพร้อมกว่าของไทย ขณะที่หลายประเทศแทบไม่มีทรัพยากรใดๆ เลยแต่สามารถพัฒนาการท่องเที่ยวได้ดีกว่า

รศ.ดร.ธเนศ กล่าวอีกว่า การวิจัยครั้งนี้จึงเพื่อแก้ปัญหาเรื่องข้อกฎหมายที่สร้างขึ้นมามากมายไม่รู้จักจบสิ้น และแต่ละหน่วยงานก็ถือกฎหมายคนละฉบับ เพื่อให้การพัฒนาสะดวกและง่ายต่อการปฏิบัติ รวมทั้งพระราชบัญญัติหลายฉบับที่เป็นประโยชน์ ก็จะได้สามารถนำออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ จากนั้นจึงมีการแบ่งเขตการกำหนดเขตพัฒนาต่อไป โดยตั้งอยู่บนพื้นที่ฐานความเป็นเอกภาพ กระจายรายได้และงบประมาณไปสู่ทุกกลุ่มแทนที่จะพัฒนาเพื่อผลประโยชน์ของใครตัวมันหรือกลุ่มใครกลุ่มมันเหมือนในอดีต

"อีกประเด็นปัญหาที่มีผลต่อการท่องเที่ยวคือเรื่องการขนส่ง ผมเห็นว่าตราบใดประเทศไทยยังไม่มีรถไฟรางคู่ และต้องเป็นรถไฟฟ้าจะทำให้การท่องเที่ยวไม่คืบหน้าแน่นอน จึงหวังให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันผลักดันด้วย โดยสภาพที่เราเห็นในปัจจุบัน ผมขอยกตัวอย่างจากที่เคยไปรอรถไฟที่สถานีเชียงใหม่ ซึ่งกำหนดไปถึงสถานีเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าไปถึงช้ากว่าถึง 2 ชั่วโมง สภาพรถก็เก่ามาก ซึ่งคิดว่าสมัยรัชกาลที่ 5 ยังใหม่กว่าเสียอีก ซึ่งถ้ามีรถไฟนอกจากจะมีประโยชน์ด้านการขนส่งสินค้าและขนส่งมวลชนแล้ว ก็จะกระจายไปสู่ภาคการท่องเที่ยวได้อย่างรวดเร็ว" รศ.ดร.ธเนศ กล่าวและว่า

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับการประชุมครั้งนี้มีการกำหนดหัวข้อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ระบุชื่อจังหวัดต่างๆ ที่จะแบ่งเป็นเขตพัฒนาเดียวกันเพื่อแบ่งเป็นกลุ่มๆ ละ 3 จังหวัด ประกอบไปด้วยหลายหัวข้อ เช่น ความโดดเด่นทรงคุณค่าทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเด่นทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม มีจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก มีการค้าชายแดนและเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ฯลฯ จากนั้นมีการจัดแบ่งกลุ่มจังหวัดต่างๆ เพื่อระดมสมองเพื่อการพัฒนาต่อไป

ขณะที่ ดร.วิชุลดา กล่าวว่า โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาโดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2553-วันที่ 31 มี.ค.2554 นี้ โดยมีระยะเวลาดำเนินการคือรวบรวมและศึกษาข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้อง สัมภาษณ์เชิงลึก และทำแบบสอบถามในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อจะได้จัดส่งให้กระทรวงได้พิจารณาดำเนินการต่อไป

ด้านนายวิรุณ คำภิโล ประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวเสริมว่า ในเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน มีนักท่องเที่ยวไปเยือนปีละกว่า 7-8 ล้านคน เพราะต้องการไปเที่ยวชมความหลากหลายทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและชาติพันธุ์ ซึ่งสภาพเช่นนี้คล้ายกับภาคเหนือของไทย

ดังนั้น แม้ว่าสังคมปัจจุบันจะมีความเปลี่ยนแปลงไปมากจนทำให้เรื่องชาติพันธุ์เริ่มกลมกลืนกันไป แต่เมื่อจะสร้างความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวก็ต้องนำมาพัฒนาเพื่อให้เกิดความเป็นเอกลักษณ์ต่อไป

Mongwin · Posted: 23/02/2011 8:27 pm Post subject:

ประกาศฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง สอบราคาจ้างซ่อมระบบอาณัติสัญญาณไฟสี CBI-BT สถานีหัวหมาก, สถานีบ้านทับช้าง สถานีลาดกระบัง, และสถานีหัวตะเข้ จำนวน 4 สถานี
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ ผจจ./จจ.13/2554

ด้วยฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะสอบราคาจ้างซ่อมระบบอาณัติสัญญาณไฟสี CBI-BT สถานีหัวหมาก, สถานีบ้านทับช้าง, สถานีลาดกระบัง และสถานีหัวตะเข้ จำนวน 4 สถานี (ตามเอกสารแนบ)

ซ่อมระบบอาณัติสัญญาณไฟสี CBI-BT สถานีหัวหมาก, สถานีบ้านทับช้าง สถานีลาดกระบัง, และสถานีหัวตะเข้

ราคากลาง 1,973,000.00 บาท

กำหนดยื่นซองสอบราคา ในวันที่ 14 มีนาคม 2554 ระหว่างเวลา 09.00 น. ถึงเวลา 10.00 น. หากพ้นกำหนดนี้แล้ว คณะกรรมการจะไม่รับซองสอบราคา และเปิดซองในวันเดียวกัน ณ ห้องจัดซื้อจัดจ้าง กองบริหารงานทั่วไป ฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม การรถไฟฯ ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

ประกาศ ณ วันที่ 21 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

( ลงนาม ) ไชยเชษฐ แซ่จิว
( นายไชยเชษฐ แซ่จิว )
วิศวกรกำกับการกองควบคุมอาณัติสัญญาณทางไกล
การรถไฟแห่งประเทศไทย

------------------------------------------

ประกาศฝ่ายการพัสดุ
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง สอบราคาซื้อ ตั๋วสำหรับใช้กับเครื่องขายตั๋วคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 รายการ
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ ส.540070

ด้วยฝ่ายการพัสดุ การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะสอบราคาซื้อ ตั๋วสำหรับใช้กับเครื่องขายตั๋วคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 รายการ

จำนวน 12,600,000 ชุด (140 หมวด) ตั๋วสำหรับใช้กับเครื่องขายตั๋วคอมพิวเตอร์ ขนาด 7" x 3"

ราคาประเมิน 1,766,100.00 บาท

กำหนดวันยื่นซองสอบราคาภายในวันที่ 14 มีนาคม 2554 เวลา 09.00 - 15.00 น. ณ งานธุรการและการเงิน ฝ่ายการพัสดุ การรถไฟแห่งประเทศไทย ถนนรองเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร และกำหนดเปิดซองสอบราคาในวันที่ 15 มีนาคม 2554 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 22 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

( ลงนาม ) ประเสริฐ สุภาพันธ์
( นายประเสริฐ สุภาพันธ์ )
หัวหน้ากองการจัดหาด้วยระบบอิเล็กทรอนิคส์ และบริหารสัญญา
รักษาการแทน รองผู้อำนวยการฝ่ายการพัสดุ

Mongwin · Posted: 24/02/2011 1:46 pm Post subject:

ร.ฟ.ท.ลุยประมูลหัวรถจักร 3 พันล้าน ชงครม.ต่ออายุเงินกู้แก้สภาพคล่อง
สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1179 ประจำวันที่ 23-2-2011 ถึง 25-2-2011

ชงครม.ไฟเขียวต่ออายุสัญญาเงินกู้วงเงิน 800 ล้าน บาทจากแบงก์กรุงไทยให้ร.ฟ.ท. อีก 1 ปีเพื่อให้มีเงินสดหมุนเวียน วงในระบุร.ฟ.ท.ยังขาดทุนบักโกรก ตั้งเป้ารายได้ปี 54 ที่ 9,415 ล้าน บาท จะมีผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานทั้งสิ้น 13,626 ล้านบาท ด้านผู้ว่าการการรถไฟ “ยุทธนา” เดินหน้าเปิดประมูลหัวรถจักร 13 คัน มูลค่าเกือบ 2,000 ล้านบาท ระบุต้องรีบจัดหาให้ทันรถไฟรางคู่ ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบังเปิดใช้เพื่อ รองรับการขนส่งสินค้าทางรถไฟ

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้า ในการดำเนินการแผนฟื้นฟูกิจการ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ตามที่คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเห็นชอบเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2553 โดยมีความคืบหน้าดังนี้ คือ

1.แผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของ ร.ฟ.ท. ระยะเร่ง ด่วน พ.ศ. 2553-2557 ขณะนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแล ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อดำเนินการกำกับดูแล เร่งรัด และติดตามการดำเนินงานต่อไป

สำหรับประมาณการฐานะเงินสด คาดว่าจะมีเงินสดรับ 22,846 ล้านบาท เงินสดจ่าย 30,185 ล้านบาท และเงินสดต้นงวด 429 ล้านบาท ทำให้มีเงินสดขาดมือ 6,910 ล้านบาท ดังนั้น รฟท. จึงจำเป็นต้องมีวงเงินกู้ 800 ล้านบาท สำหรับใช้ในกรณีที่อาจขาดเงินทุนหมุนเวียน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินงาน

ดังนั้นคณะกรรมการบอร์ด ร.ฟ.ท.ได้เห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมได้เสนอขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ เพื่อต่ออายุสัญญาเงินกู้วงเงิน 800 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ออกไปอีก 1 ปี โดยให้กระทรวงการคลัง (กค.) เป็นผู้ค้ำประกัน ทั้งนี้ ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2553 รฟท.ได้ต่ออายุสัญญาเงินกู้วงเงิน 800 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินกู้โดยตั๋วสัญญาใช้เงิน 500 ล้านบาท และเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีวงเงิน 300 ล้านบาท จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยวงเงินกู้ดังกล่าวจะครบกำหนดอายุสัญญาในวันที่ 29 มี.ค. 2554 นี้

ด้านนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูฯ ว่า ขณะนี้ ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างการจัดทำทีโออาร์ประกวดราคาโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าอีก 13 คัน มูลค่าประมาณ 1,950 ล้านบาท หลังจากที่ศาลมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกรณีที่มีบริษัทที่ไม่ผ่านคุณสมบัติในการประกวดราคาโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า 7 คัน ฟ้องศาลปกครองตั้งแต่ปี 2553 โดยมีการร้องเรียนว่า ร.ฟ.ท.มีการล็อกสเป๊ก

ดังนั้นหลังจากที่ศาลยกเลิกคำสั่งคุ้มครองดังกล่าว ร.ฟ.ท.จึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนการประกวดราคา คือ การเปิดซองข้อเสนอด้านราคาบริษัทที่ผ่านคุณสมบัติที่เหลือ 2 ราย พบว่ากลุ่มกิจการร่วมค้าล็อกซเล่ย์หงไฮ่จี้หลิน เสนอราคาต่ำสุดที่ 1,018 ล้านบาท ส่วนบริษัท GCS GROUP CORPORATION เสนอราคาที่ 1,030 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กลุ่มกิจการร่วมค้าล็อกซเล่ย์หงไฮ่จี้หลิน ยังไม่ถือว่าเป็นผู้ชนะการประกวดราคา เพราะรฟท.ยังต้องพิจารณารายละเอียดข้อเสนอทางการเงิน ซึ่งทีโออาร์กำหนดให้เอกชนเป็นผู้เสนอแหล่งเงินกู้ โดยจะต้องส่งข้อเสนอทางการเงินให้กระทรวงการคลังพิจารณา เพื่อให้ได้ต้นทุนทางการเงินที่ต่ำที่สุด คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาได้ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า

โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า 20 คัน ถือว่าเป็นโครงการเร่งด่วน ซึ่งต้องรีบจัดหาให้ทันกับการเปิดใช้โครงการรถไฟทางคู่ช่วงศรีราชา-ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง หรือไอซีดี ที่ลาดกระบังไปยังท่าเรือแหลมฉบังได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ถือว่าการดำเนินการล่าช้ามากแล้ว เนื่องจากมีปัญหาการถูกร้องเรียนจากเอกชน ที่ไม่พอใจการประ กวดราคา แต่รฟท.ยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้ได้หัวรถจักรที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคณะกรรมการกำกับดูแล ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อดำเนินการกำกับดูแล เร่งรัด และติดตาม การดำเนินงานต่อไป

2.ร.ฟ.ท. ได้เริ่มใช้การบริหารจัดการในลักษณะหน่วยธุรกิจตั้งแต่เดือนต.ค. 2553 เป็นต้นมา ส่วนการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการวิเคราะห์และกำหนดกรอบอัตรากำลังตามโครงสร้างองค์กรใหม่ ซึ่งสถาบันที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในส่วนราชการได้ส่งรายงานฉบับสมบูรณ์เสนอ ร.ฟ.ท. พิจารณาแล้ว

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ร.ฟ.ท.ได้ส่งรายงานประมาณการงบประมาณประจำปี 2554 มายังกระทรวงคมนาคม โดยได้มีการประมาณการรายได้อยู่ที่ 9,415 ล้านบาท รายจ่ายก่อนหักเงินอุดหนุนรายจ่ายตำรวจรถไฟ 15,060 ล้านบาท ผลขาดทุนจากการดำเนินงานก่อนหักเงินอุดหนุนรายจ่ายตำรวจ รถไฟ 13,991 ล้านบาท และเมื่อหักเงินอุดหนุนรายจ่ายตำรวจรถไฟ 285 ล้านบาท จะมีผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานทั้งสิ้น 13,626 ล้านบาท (รวมรายจ่ายบำเหน็จบำนาญ จำนวน 3,237 ล้านบาท ไว้แล้ว)สำหรับประมาณการฐานะเงินสด คาดว่าจะมีเงินสดรับ 22,846 ล้านบาท เงินสดจ่าย 30,185 ล้านบาท และเงินสดต้นงวด 429 ล้านบาท ทำให้มีเงินสดขาดมือ 6,910 ล้านบาท ดังนั้น ร.ฟ.ท. จึงจำเป็นต้องมีวงเงินกู้ 800 ล้านบาท สำหรับใช้ในกรณีที่อาจขาดเงินทุนหมุนเวียน

เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินงานดังนั้น คณะกรรมการบอร์ด ร.ฟ.ท.ได้เห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมได้เสนอขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ เพื่อต่ออายุสัญญาเงินกู้วงเงิน 800 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ออกไปอีก 1 ปี โดยให้กระทรวงการคลัง (กค.) เป็นผู้ค้ำประกัน ทั้งนี้ ตามมติครม.เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2553 ร.ฟ.ท.ได้ต่ออายุสัญญาเงินกู้วงเงิน 800 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินกู้โดยตั๋วสัญญาใช้เงิน 500 ล้านบาท และเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีวงเงิน 300 ล้านบาท จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยวงเงินกู้ดังกล่าวจะครบกำหนดอายุสัญญาในวันที่ 29 มี.ค. 2554 นี้

ด้านนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูฯ ว่า ขณะนี้ ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างการจัดทำทีโออาร์ประกวดราคาโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าอีก 13 คัน มูลค่าประมาณ 1,950 ล้านบาท หลังจากที่ศาลมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกรณีที่มีบริษัทที่ไม่ผ่านคุณสมบัติในการประกวดราคาโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า 7 คัน ฟ้องศาลปกครองตั้งแต่ปี 2553 โดยมีการร้องเรียนว่า ร.ฟ.ท.มีการล็อกสเปก

ดังนั้น หลังจากที่ศาลยกเลิกคำสั่งคุ้มครองดังกล่าว ร.ฟ.ท.จึงได้ดำเนินการตาม ขั้นตอนการประกวดราคา คือ การเปิดซองข้อเสนอด้านราคาบริษัทที่ผ่านคุณสมบัติที่เหลือ 2 ราย พบว่ากลุ่มกิจการร่วมค้าล็อกซเล่ย์หงไฮ่จี้หลิน เสนอราคาต่ำสุดที่ 1,018 ล้านบาท ส่วนบริษัท GCS GROUP CORPORATION เสนอราคาที่ 1,030 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กลุ่มกิจการร่วมค้าล็อกซเล่ย์หงไฮ่จี้หลิน ยังไม่ถือว่าเป็นผู้ชนะการประกวด ราคา เพราะร.ฟ.ท.ยังต้องพิจารณารายละเอียดข้อเสนอทางการเงิน ซึ่งทีโออาร์กำหนดให้เอกชนเป็นผู้เสนอแหล่งเงินกู้ โดยจะต้องส่งข้อเสนอทางการเงินให้กระทรวงการคลังพิจารณา เพื่อให้ได้ต้นทุนทางการเงินที่ต่ำที่สุด คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญา ได้ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า

“โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า 20 คัน ถือว่าเป็นโครงการเร่งด่วน ซึ่งต้องรีบจัดหาให้ทันกับการเปิดใช้โครงการรถไฟทางคู่ช่วงศรีราชา-ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง หรือไอซีดี ที่ลาดกระบังไปยังท่าเรือแหลมฉบังได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ถือว่าการดำเนิน การล่าช้ามากแล้ว เนื่องจากมีปัญหาการถูกร้องเรียนจากเอกชน ที่ไม่พอใจการประกวด ราคา แต่ร.ฟ.ท.ยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้ได้หัวรถจักรที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด”

OutRun · 1st Class Pass (Air) Joined: 26/05/2006 Posts: 1187

^
เรื่องตั๋วใช้กับคอมพิวเตอร์นี่ คนยืนยันสำเนาถูกต้องลงประกาศชื่อคุ้น ๆ แฮะ Cute1

_________________
นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ

Mongwin · Posted: 24/02/2011 2:04 pm Post subject:

คุ้น ๆ จริงด้วยครับ
ผมว่ารถไฟฟรีไม่ต้องใช้ตั๋วคอมพ์ก็ได้ ตั๋วบางสีฟ้าจะประหยัดกว่าหรือเปล่าครับ เข็มพรินเตอร์ไม่สึกเร็วด้วย ประหยัดตลับหมึกอีก ลดโลกร้อน
ไหน ๆ ก็จะเป็นมาตรการถาวรแล้ว ระยะหลังโฆษณาก็ไม่มี
ไม่งั้นก็หาเอกชนมาลงโฆษณาในตั๋วบางสีฟ้าก็ได้ครับ Wink

รถไฟวงแหวนรอบเมืองย่างกุ้งของพม่า ค่าโดยสารคนละ 3 สลึง
ตั๋วใช้วิธีโรเนียว copy print ลงกระดาษธรรมดา แล้วใช้เครื่องตัดกระดาษตัดออกเป็นแผ่น ๆ แม็กซ์รวมกัน
ตอนขายตั๋ว เอาตรายางประทับวันเดือนปี แล้วยื่นให้ผู้โดยสารครับ

pak_nampho · Posted: 24/02/2011 2:23 pm Post subject:

เห็นด้วยกับ อ.เอกรถไฟฟรีใช้ตั๋วแบบเล่มคูปอง ประทับวันที่เดินทางฉีกให้ผู้โดยสารเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายดีเหมือนกันครับ
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
Click on the image for full size

....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................

Mongwin · Posted: 26/02/2011 12:16 am Post subject:

ประกาศฝ่ายการช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง สอบราคาว่าจ้างตรวจสอบประเมินสภาพหม้อไอน้ำ และระบบควบคุมหม้อไอน้ำของรถจักรไอน้ำ รวมจำนวน 3 คัน
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ วกล.173/045/2554

ด้วยกองปฏิบัติการแผนงานลากเลื่อน ศูนย์ลากเลื่อน ฝ่ายการช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะว่าจ้างตรวจสอบประเมินสภาพไอหม้อน้ำ และระบบควบคุมไอหม้อน้ำของรถจักรไอน้ำ จำนวน 3 คัน โดยวิธีสอบราคา ดังนี้

1. ว่าจ้างตรวจสอบประเมินสภาพหม้อไอน้ำ และระบบควบคุมหม้อไอน้ำของรถจักรไอน้ำ หมายเลข 824, 850 และ 953 รวมจำนวน 3 คัน

ราคากลาง 243,639.00 บาท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองแผนงานลากเลื่อน ศูนย์ลากเลื่อน ฝ่ายการช่างกล หมายเลข
โทรศัพท์ 02-220-4518 ในวันและเวลาราชการ

ประกาศ ณ วันที่ 25 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

( ลงนาม ) นายสกลธ์ นนท์นิรัตศัย
วิศวกรกำกับการกองปฏิบัติการลากเลื่อน

-------------------------

ประกาศฝ่ายการช่างโยธา การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง สอบราคาจ้างเหมาซ่อมปรับปรุงอาคารสถานีทานพอ
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ ยธ.10200/7/180/2554

ด้วยกองบำรุงทางเขตทุ่งสง ศูนย์บำรุงทางภาคใต้ ฝ่ายการช่างโยธา ประสงค์จ้างเหมา

ซ่อมปรับปรุงอาคารสถานีทานพอ แขวงบำรุงทางทุ่งสง กองบำรุงทางเขตทุ่งสง ศูนย์บำรุงทางภาคใต้ ฝ่ายการช่างโยธา

ราคากลาง 197,100.00 บาท

ประกาศ ณ วันที่ 25 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

( ลงนาม ) ปรีชา พรมทุ่งค้อ
( นายปรีชา พรมทุ่งค้อ )
หัวหน้ากอง ปฏิบัติหน้าที่แทน
วิศวกรกำกับการกองบำรุงทางเขตทุ่งสง

therock · Posted: 26/02/2011 1:06 am Post subject:

หวังว่ารถจักรไอน้ำที่มีอยู่จะได้ทำการตรวจซ่อมใหญ่จริงๆสักที

Mongwin · Posted: 26/02/2011 8:30 am Post subject:

ต้องซ่อมให้ดี ๆ ครับ เพราะปีนี้ มีโครงการมหัศจรรย์วันเดียว...รถจักรไอน้ำพาเที่ยวใกล้กรุงถึง 9 รอบครับ แม้จะไม่ได้วิ่งติดกัน 3 วันแบบปีที่แล้ว

----------------------

รฟท.เจ๊งอีก 1.3 หมื่นล. ชงครม.เลื่อนชำระเงินกู้คืนแบงก์กรุงไทย 800 ล.
หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- เสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 06:54:45 น.

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ กระทรวงคมนาคม จะรายงานงบประมาณประจำปี 2554 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ให้ครม.ทราบว่า ได้ประมาณการรายได้ไว้ที่ 9,415 ล้านบาท แต่เนื่องจากมีภาระรายจ่ายการดำเนินงานจำนวนมาก อาทิ บำเหน็จบำนาญ เงินอุดหนุนรายจ่ายตำรวจรถไฟฯลฯ ทำให้คาดว่าจะมีผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานทั้งสิ้น 13,626 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ จะเสนอที่ประชุมฯ ขยายเวลาชำระเงินกู้วงเงิน 800 ล้านบาท ที่ต้องชำระให้ธนาคารกรุงไทยออกไปอีก 1 ปี หรือจากเดิมจะครบกำหนดอายุสัญญาในวันที่ 29 มีนาคม 2554 เพื่อป้องกันปัญหาอาจขาดเงินทุนหมุนเวียน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินงาน ซึ่งเรื่องนี้ คณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท.ได้เห็นชอบไปแล้ว เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2553ที่ผ่านมา

แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของ รฟท. ระยะเร่งด่วน พ.ศ. 2553-2557 ตามที่ ครม.ได้มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 ว่า ล่าสุด กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างเตรียมการแต่งตั้ง คณะกรรมการ ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อดำเนินการกำกับดูแล เร่งรัด และติดตามการดำเนินงานต่อไป

โครงการดังกล่าวจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบราง แก้ไขปัญหาประสิทธิภาพการดำเนินงาน โครงการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขนส่งจากถนนสู่รางเพิ่มขึ้นมากขึ้น ใช้วงเงินลงทุนรวม 195,820.5 ล้านบาท และเป็นโครงการเพื่อประสิทธิภาพให้กับรฟท.ในระยะยาว