ตามรอยไปดู 3 อุโมงค์ ภาคเหนือ ปี 2554

[mirage_II]

ก่อนอื่นต้องขอกล่าวคำสวัสดี กับเพื่อนๆ คนรักรถไฟทุกท่าน นี่เป็นกระทู้แรกของผม สำหรับการเป็นสมาชิกน้องใหม่ของที่นี่ ที่กว่าจะได้สมัครก็ทุลักทุเลมาพอสมควร เพราะสมัครได้เฉพาะวันเวลาที่กำหนดเท่านั้น แต่ก็สมัครสำเร็จมาได้อย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน

พอดีปีใหม่ 2554 นี้ มีวันหยุดน้อยแค่ 2 วัน เพราะต้องกลับมาทำงานในวันที่ 2 มกราคม เลยวางแผนมาเดินสำรวจรถไฟดีกว่า นอกจากจะประหยัดเงินแล้ว ยังไม่มีนักท่องเที่ยวชุกชุมเหมือนสถานที่เที่ยวทั่วไปด้วย

สาเหตุที่ต้องดองเก็บไว้เกือบ 2 เดือน ก็เพราะปกติผมจะไปโพสลงที่เว็บพันทิปก่อน ซึ่งคราวนี้จัดว่า เป็นมหากาพยต์แห่งภาพเลย เพราะถ่ายไปถึงพันกว่าภาพ ต้องแบ่งเป็นตอนๆ กว่าจะลงครบก็ผ่านมาเดือนครึ่ง และพอจะนำมาลงที่เว็บนี้ก็ต้องนำภาพไปฝากไว้กับ เว็บ photobucket ก่อน เสร็จไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พอจะเปิดกระทู้ลง ก็มาเจอกฏเหล็กที่นี่เรื่องขนาดของภาพ ที่ไม่ให้เกิน 640 X 480 pixel เลยต้องไปลดขนาดกับภาพทุกภาพที่ฝากไว้อีก และตบท้ายด้วยการจัดเรียงภาพให้เหมาะสมกับ ลำดับการเดินทางอีก มาเสร็จเอาก็เมื่อวานนี้ (27 กพ.) ก็เลยได้ฤกษ์มาเปิดกระทู้กันครับ

ทริปสำรวจครั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก กระทู้ คุณAir_Reservoir "ปฏิบัติการ ณ ที่แห่งความลับ P4 : 2 วัน 3 อุโมงค์ 22 กิโลเมตร"

ตามลิ้งค์นี้ http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2076&postdays=0&postorder=asc&start=0
ทำให้รู้สึกอยากมาสัมผัสด้วยตนเองสักครั้ง และยิ่งมาค้นเจอกระทู้ของเพื่อนคนอื่นๆ อีกในเว็บนี้ เลยได้ข้อมูล และภาพมาช่วยอำนวยการเดินทางได้สะดวก พร้อมข้อมูลครบถ้วนยิ่งขึ้นอีก จึงขอนำเพื่อนๆ ไปชมได้เลย ณ บัดนี้ ครับ

[Adithepc20]

ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ด้วยนะครับ ภาพคุ้นเหมือนเคยไปโพสไว้ที่เว็บพันทิพหรือเปล่าครับ

ถ้าไม่ใช่ ขออภัยด้วยนะครับ ป.ล. รอรับชมภาพจากสมาชิกใหม่นะครับ
_________________
ฮิตาชิ 4506 ขณะทำขบวนรถสินค้าที่ 879 ออกจากสถานีชุมทางศรีราชา วันที่ 20 เม.ย. 2553 เวลา 16.50 น.

[mirage_II]

เนื่องจาก มีรายละเอียดเยอะแยะ เยิ่นเย้อ เกินขอบเขตที่เกี่ยวกับรถไฟ ผมเลยขอเน้นเนื้อหาเฉพาะการสำรวจรถไฟให้มาก ส่วนอื่นๆ ก็จะกล่าวมาสังเขปครับ

ก่อนอื่นตามธรรมเนียมปฏิบัติของกระผม ก็จะขอกางแผนที่เดินทางก่อน ซึ่งมีขนาดเกินกว่าข้อกำหนดในเว็บนี้ เลยต้องนำมาต่อกันให้ดูครับ


คือเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ย่านบางบอน หลบรถติดในช่วงปีใหม่ ไปยัง จ.สมุทรสาคร ตามเส้นสีชมพู แล้วเลี้ยวขึ้นเหนือ ผ่าน อ.กระทุ่มแบน อ.บางเลน จ.สุพรรณบุรี ไปบรรจบกับถนนใหญ่ ที่ อ.เดิมบางนางบวช มุ่งสู่ จ.นครสวรรค์ ตามปกติ ซึ่งรถไม่ติดแล้ว ไปถึง จ.พิษณุโลก ตอนห้าทุ่มพอดี หาที่พักใกล้ๆ สถานีรถไฟพิษณุโลก เพื่อความสะดวกในการแวะถ่ายภาพ สถานีแห่งนี้ก่อน ที่ผมไม่ได้เห็นมาเกือบ 30 ปีแล้วครับ

[tongchit]

ยินดีต้อนรับคุณ mirage_II ตามไปดูที่เวปพันทิพมาตั้งแต่ต้นปีแล้วครับ ยินดีมากครับที่นำมาลงให้ชมกันในนี้อีก
_________________
ความผิดฅนอื่นเท่าขุนเขา ความผิดเราเท่าขุมขน

[mirage_II]

สวัสดีครับ คุณAdithepc20 และคุณ tongchit ครับ : ใช่ครับ ทริปนี้เป็นทริปเดียวกับที่ลงในพันทิปไปเมื่อต้นปี แต่เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนรักรถไฟในเว็บนี้ และสามารถใช้อ้างอิงได้สะดวกกว่าอยู่บนเว็บพันทิป ที่มีกระทู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นมาอย่างมากมาย จนยากแก่การไปสืบค้นภายหลังได้ หวังว่าคงไม่รู้สึกเบื่อ เพราะจะคัดสรรเอาภาพและเนื้อหาที่สำคัญๆ มาให้ชมกัน แบบไม่ยืดยาว ครับ


เมื่อเข้ามาใน ตัวเมืองพิษณุโลก หลายคนอาจรู้สึกงงๆ ว่ามีถนนเพิ่มเข้ามาหลายสาย โดยเฉพาะวงแหวน(เหมือนที่กรุงเทพฯ) ที่มีจุดปลายถนนไม่เชื่อมต่อกันเป็นวงกลม

เมื่อคืนผมไปพักที่ โรงแรมสมัยนิยม ห่างจากตัวสถานีรถไฟพิษณุโลกไม่ถึงกิโลเมตร จะหาอะไรทานก็ไม่ลำบาก ค่าโรงแรมก็ไม่แพง ห้องสามเตียง 450 บาท มีแอร์ น้ำอุ่นพร้อมครับ (ไม่ได้นำรูปมาลงให้ เพราะกลัวจะเย่นเย้อ และดูจะเป็นการโฆษณาโรงแรมไปอีก)

[mirage_II]

รุ่งเช้าวันใหม่ ได้โอกาสไปเดินหาอะไรทานแถวๆ สถานีรถไฟกันเลย รู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้เห็นร้านกาแฟ ปาทองโก๋ แบบที่เคยทานสมัยที่ต้องมาต่อรถไฟที่นี่ เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เปลียนไปมาก และผมเองก็อาจจำสับสนกับสถานีรถไฟแห่งอื่นด้วย กว่าจะหาอะไรทานก็ต้องถามคนแถวนั้น เพราะร้านอาหารไปอยู่ด้านชานชาลาสถานีกันหมด ด้านหลังสถานี ร้านค้าพากันปิดหมด


เริ่มจากหน้า เอ๊ย...หลังสถานีก่อนเลย เป็นอนุสาวรีย์รถจักรไอน้ำเก่า "Ten Wheeler E-class" ครับ


นี่ก็เป็นอาคารสถานี ที่มองจากด้านหลัง สวยคลาสสิคไม่เบา ครับ

[CivilSpice]

สวัสดีครับพี่ ผมติดตามชมผลงานของพี่ในหลายๆ ทริปจากในบ้าน Pantip/Blueplanet มาแล้ว ต้องบอกว่าเนื้อหา รูปภาพ และรายละเอียดต่างๆ ครบถ้วนสมบูรณ์มากๆ เลยครับ ชนิดที่ว่าใครจะดำเนินรอบตามทริปของพี่ รับรองไม่มีหลงทางแน่นอน อิอิอิ รอติดตามชมต่อนะครับ



สำหรับเรื่องภาพนั้น หากเป็นขนาดความสูง (Height) เกินกว่าที่กำหนดไว้ ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดครับ เพราะว่าทุกๆ คนต้องเลื่อน Scrollbar ลงมาดูอยู่แล้วครับ ส่วนใหญ่เราจะเน้นเรื่องความกว้าง (Width) ที่ไม่ควรเกิน 640 px มากกว่าครับ เพราะจะทำให้เกิด Scrollbar ทางแนวนอน ซึ่งอาจจะไม่สะดวกสำหรับการเข้าชมของบางท่านที่ใช้หน้าจอขนาดแบบธรรมดา (ไม่ใช่จอ Wide) เท่านั้นเองครับ

[mirage_II]

เมื่อก้าวเข้ามาในสถานีแล้ว ก็จะเห็นเคาท์เตอร์จำหน่ายตั๋วหรูสภาพใหม่มากๆ(ภาพซ้าย) และเมื่อหันไปมองด้านตรงข้ามก็จะพบว่าเป็นอาคารสองชั้น ชั้นบนเป็นห้องพยาบาล ชั้นล่างเป็นร้านค้าครับ


ประตูข้างหน้าที่จะไปยังชานชาลาสถานี ตรงระหว่างประตูได้จัดวางบอร์ดแสดงเวลาเดินรถทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ ออกแบบได้คลาสสิค

[mirage_II]

เดินออกมายังชานชาลาเล็กน้อย แล้วหันไปมองทางซ้าย(ด้านเหนือ) หน้าอาคารเป็นเคาท์เตอร์ตำรวจรถไฟและบริการนักท่องเที่ยว เลยไปก็เป็นแผงเช่าพระ โดยมีร้านกาแฟอยู่ด้านหลัง (ผมเพิ่งสังเกตุเห็นตอนที่โพสกระทู้นี้ )


มองกลับไปทางด้านหลังสถานี ก็จะเห็นส่วนท้ายหัวรถจักรไอน้ำที่จอดเป็นอนุสาวรีย์อยู่ไม่ไกลครับ


มองไปทางใต้ของอาคารสถานี ก็จะเห็นห้องนายสถานี ห้องสุขา และร้านอาหาร ครับ

[mirage_II]

เดินออกมาที่ชานชาลาอีกหน่อย มองไปทางเหนืออีกครั้ง จะเห็นผู้คนมานั่งรอรถไฟกันมากพอสมควร สะดุดตาป้ายตรงหัวเสาชานชาลานอก "กรุณาอย่ายิงสัตว์ บนสายสีดำขนาดใหญ่" เห็นทีแรกผมพูดในใจว่า ทำไมไม่ห้ามยิงนกไปเลยล่ะ เพราะนกมักเกาะบนสายไฟ และคนก็ชอบยิงนก แต่มานึกอีกที กระรอกก็ไปวิ่งบนสายไฟได้เช่นกัน ผมเชื่อว่า บางคนอาจสงสัยว่า ทำไมบอกห้ามยิง... เพราะไม่ใช่สายทองแดง อ้าว.. สายทองแดงนี้ยิงได้หรือ แต่ในอันที่จริง คงเป็นสายสื่อสาร ที่อาจเป็นไฟเบอร์ออฟติค ที่ง่ายต่อการเสียหายกว่าสายทองแดงนั่นเอง แหม..น่าจะบอกไปเลยว่า เป็นสายที่ชำรุดเสียหายได้ง่าย อ่านแล้ว ทำให้ต้องใช้ความคิดเยอะเหมือนกัน


เดินออกมาที่นอกชานชาลาเลย มองไปทางซ้ายก็จะเห็นสวนหย่อมและสะพานลอยคนข้าม (ที่ส่วนมากคนจะไม่ค่อยเดินข้ามกัน และบางสถานีก็ไม่มีด้วยซ้ำ) มองไปทางขวาเป็นชุมชน