View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46872
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/05/2011 7:18 pm Post subject: |
|
|
ผู้บริหารรฟท.เดินสายโรดโชว์ หวังล้างภาพแตกแยก
ไทยรัฐ วันที่ 19/05/2554 19:00
ผู้ว่ารถไฟฯนำผู้บริหารเดินสายโรดโชว์นโยบายพนักงานทั่วประเทศ หวังล้างภาพแตกแยก มั่นใจพนักงานให้ความร่วมมือ
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้รฟท.อยู่ระหว่างดำเนินโครงการคนรถไฟรวมใจหัวใจเดียวกัน โดยตนและผู้บริหารระดับสูงจะเดินทางไปพบปะพนักงานตามภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ เพื่อให้ได้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพนักงาน รวมทั้งได้ชี้แจงนโยบายสำคัญต่างๆแก่พนักงาน ซึ่งใน การพบปะพนักงานดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงประเมินผลการดำเนินการของรฟท. ด้านทรัพยากรบุคคล เกณฑ์ชี้วัดการมีส่วนร่วมของบุคลากร
นายยุทธนา กล่าวต่อว่า สำหรับข้อตกลงในการประเมินผลงานของรฟท.กำหนดไว้ คือ
1. ด้านการกำเนินการตามนโยบาย เช่น การเร่งรัดการดำเนินงานตามแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของรฟท. ระยะเร่งด่วนปี 54 การปรับปรุงโครงสร้างบัญชีตามโครงสร้างอค์กรใหม่ ความ สามารถในการบริหารแผนลงทุน
2. ด้านผลดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ เช่น กำไร-ขาดทุนจากการดำเนินงานก่อนหักค่าเสื่อมราคารายจ่าย รายได้จากการบริหารทรัพย์สิน คุณภาพการให้บริการเดินรถของรฟท. ประสิทธิภาพการเดินรถและการขนส่ง และ
3.ด้านการบริหารจัดการองค์กร อาทิ การบริหารความเสียง การบริหารทรัพยกรบุคคล เป็นต้น
ผมจะเน้นเรื่องการมีส่วนร่วมของบุคลากรมากเป็นพิเศษเพราะที่ผ่านมายอมรับว่า องค์กรมีปัญหาเรื่องความไม่เป็นเอกภาพ ทำให้มีการหยุดเดินรถกระทบต่อภาพรวมขององค์กร รวมทั้งเน้นในเรื่องของประสิทธิภาพการเดินรถ ลดการเกิดอุบัติต่อการเดินรถ ความตรงเวลาของขบวนรถ มาตรฐานการให้บริการ การให้บริการโดยสารเชิงพาณิชย์ ผู้ว่าการรฟท.กล่าว |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 24/05/2011 2:34 am Post subject: |
|
|
แดนสนธยารถไฟไทย!
หน้า คมนาคม/ลอจิสติกส์
สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1203
21-23 พฤษภาคม 2554
ถึงแม้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) จะได้รับงบประมาณจำนวนกว่า 1.7 แสนล้านบาทมาจากการที่ ครม.ไฟเขียวไปแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อบูรณาการรถไฟไทยใหม่จาก "ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง" ให้ทันสมัยขึ้น แต่ข้อเสียของการบริหารรถไฟไทย คือ นักบริหารจากอดีตเป็นยังไง! ปัจจุบันก็ยังเป็นอย่างนั้น? จนทำให้เจ้ากระทรวงคมนาคม "โสภณ ซารัมย์" ถึงกับควันออกหู และพูดออกมาเต็มปากว่า
"การดำเนินงานที่ผ่านมาของ ร.ฟ.ท.หย่อนประสิทธิภาพ เห็นได้จากการจัดหารถจักรที่ล่าช้ากว่าแผนเป็นเวลากว่า 1 ปี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการฟ้องร้องในศาล"
เป็นที่ชัดเจนว่า การที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ออกมากล่าวเช่นนั้น เนื่องจากว่าความคืบหน้าในการจัดหาหัวรถจักรไม่ได้คืบหน้าไปในทางที่ดี มีเพียงเรื่องการทุจริตเข้ามาแทรกแทน! ตามที่เป็นข่าวตามสื่อทุกแขนง...
ที่สำคัญการประกวดราคาไม่ได้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ประกวดราคาแบบนานาชาติ แต่ทาง ร.ฟ.ท.กลับประกวดราคาด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ต้องยกเลิกการประกวดราคาในที่สุด
จึงเป็นที่มาในการขึ้นโรงขึ้นศาล ต่อเรื่องที่ถูกบริษัทที่เข้าร่วมประมูลการจัดหาหัวรถจักดีเซลไฟฟ้า แต่ไม่ผ่านคุณสมบัติยื่นฟ้องศาลปกครองเมื่อปี 2553 โดยศาลมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเมื่อต้นปี 2554 ที่ผ่านมา
ทาง ร.ฟ.ท.จึงได้ดำเนินการเปิดซองข้อเสนอด้านราคาของ 2 บริษัทที่ผ่านคุณสมบัติที่เหลืออีก พบว่ากลุ่มกิจการร่วมค้าล็อกซเล่ย์หงไฮ่จี้หลิน เสนอราคาต่ำสุดที่ 1,018 ล้านบาท ส่วนบริษัทGCS GROUP CORPORATION เสนอราคาที่ 1,030 ล้านบาท แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ยังจำเป็นต้องเปิดประมูลเพื่อหารายใหม่...
ระยะเวลาผ่านไปหลายเดือน ความคืบหน้าการในตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกวดราคาโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า ยังไม่ถึงไหน?
แม้ว่าครั้งที่ผ่านมา "โสภณ" จะมีคำสั่งแต่งตั้ง "จำรูญ ตั้งไพศาลกิจ" รองปลัดกระทรวงคมนาคม มาเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงผู้บริหาร ร.ฟ.ท. ขนาดเพลาสูงสุดไม่เกิน 20 ตัน จำนวน 7 คัน วงเงิน 1,050 ล้านบาท เช่น "ยุทธนา ทัพเจริญ" ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. และรองผู้ว่าการที่เกี่ยวข้อง ก็ตามที
"สุพจน์ ทรัพย์ล้อม" ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธาน บอร์ด ร.ฟ.ท. บอกว่า ขณะนี้ ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกวดราคาโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าฯ ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งตามระเบียบของร.ฟ.ท.แล้วจะมีกรอบเวลาในการดำเนินงาน หากพบว่า ร.ฟ.ท ไม่ดำเนินการฝ่ายบริหารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องรับผิดชอบตามมาตรา 157 ในฐานการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ด้าน "ยุทธนา ทัพเจริญ" ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. บอกว่า ได้เร่งให้คณะกรรมการฯ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงข้อผิดพลาดในครั้งนี้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งคณะกรรมการประกวดราคา, รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.ที่รับผิดชอบ รวมทั้งตนจะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยเช่นกัน
ล่าสุด...ได้มีบอร์ด ร.ฟ.ท.ได้แต่งตั้งคณะกรรมขึ้นมาอีกชุดเพื่อติดตามความคืบหน้า โดยได้วางตัว "ประเสริฐ อัตตะนันทน์" รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เป็นประธานสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกวดราคาโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าฯ ให้มาตามผลสอบเป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะในประเด็นที่มีคำถามมาว่า เพราะเหตุใด? การจัดซื้อจัดจ้างจึงไม่เป็นไปตามมติ ครม.ที่กำหนด ให้ประกวดราคาแบบนานาชาติ(INTERNATIONAL BIDDING) แต่ฝ่ายบริหารร.ฟ.ท. ขณะนั้นกลับใช้วิธีการประกวดราคาด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์(LOCAL BIDDING) แทน
ทั้งนี้ คาดว่าเรื่องดังกล่าว จะสรุปและเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมได้ภายในสิ้นเดือนพ.ค. หรือในต้นเดือนมิ.ย. 54 นี้
"ตามกรอบเวลาแล้วการมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับคำสั่งซึ่งขณะนี้เรามีความจำเป็นต้องต่อเวลาออกไปอีก 30 วัน เนื่องจากมีเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทำให้ต้องใช้เวลาในการพิจารณาประกอบกับเพื่อไม่ให้เกิดการครหาทางร.ฟ.ท.จึงได้แต่งตั้งบุคคลที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวมาเป็นประธานในการตรวจสอบ จึงทำให้ช้าหน่อย"
อย่างไรก็ดี ในเร็วๆ นี้ ร.ฟ.ท.จะเปิดขายซองประกวดราคาจัดซื้อหัวรถจักรจำนวน 20 คัน มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาทใหม่ หลังจากที่คณะกรรมการร.ฟ.ท.ได้ยกเลิกไป เพราะเห็นว่ากระบวนการดำเนินงานมีปัญหาโดยเฉพาะในด้านคุณสมบัติรถจักรดีเซลไฟฟ้าที่ประกาศในทีโออาร์
แน่นอนว่า เหตุการณ์การจัดหาหัวรถจักรนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อรถไฟไทย รวมทั้งประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ร.ฟ.ท.ไม่มีหัวรถจักรใช้เพียงพอกับความต้องการ
จึงเป็นคำถามต่อสังคมว่า ร.ฟ.ท.ตั้งใจทำเพื่อประชาชน หรือว่าเพื่อพวกฟ้องกันแน่!
ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.นัดอำลาของรัฐบาล "อภสิทธิ์" ยังได้เห็นชอบโครงการลงทุนรถจักรและล้อเลื่อนของร.ฟ.ท.วงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่ ครม.เคยมีมติอนุมัติงบลงทุนตามแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระยะ 5 ปี ในวงเงิน 1.7 แสนล้านบาทแล้ว
โดยให้ดำเนินการจัดหารถจักรโดยสารเชิงพาณิชย์ จำนวน 115 คัน วงเงิน 4,900 ล้านบาท ค่าจัดหาหัวรถจักรและอะไหล่จำนวน 50 คัน วงเงิน 6,500 ล้านบาท และค่าซ่อมแซมจำนวน 3,360 ล้านบาท โดยให้ ร.ฟ.ท. รับภาระเงินกู้ และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้
ยิ่งเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ ว่า เมื่อ ร.ฟ.ท.ได้รับเงินจำนวนมากเข้ามาในองค์แล้ว จะมีผู้ที่หวังจะคอยแสวงหาผลประโยชน์ในจำนวนเงินดังกล่าวมากน้อยเพียงไร?
ประโยชน์จะตกถึงประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่? |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46872
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/05/2011 10:46 am Post subject: |
|
|
รฟท.ล้มประมูลซื้อปลอกล้อ
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 24 พฤษภาคม 2554 09:37
รฟท.เล็งล้มประมูลโครงการจัดซื้อปลอกล้อรถไฟ 180 ล้านบาท เหตุราคาต่อหน่วยพุ่งกว่า 70%
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.จะยกเลิกการประกวดราคา โครงการจัดหาปลอกล้อรถไฟ 15,000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 180 ล้านบาท เพราะพบว่าราคาเฉลี่ยต่อหน่วยสูงถึงชิ้นละ 12,000 บาท จากเดิมชิ้นละประมาณ 7,000 บาท หรือสูงขึ้นประมาณ 71.4% หากจัดหาจากเอกชนรายย่อย จะสามารถจัดซื้อได้ในราคาชิ้นละ 9,000 บาทเท่านั้น โดยจะเสนอให้คณะกรรมการรฟท. พิจารณาอนุมัติยกเลิกการประกวดราคาในการประชุมปลายเดือนพ.ค.นี้
การประกวดราคาที่ผ่านมาดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง แต่เมื่อราคาสูง จึงจำเป็นต้องยกเลิก เพื่อเปิดประกวดราคาใหม่ จนกว่าจะได้ราคาที่สมเหตุสมผล ส่วนการจัดหาโดยวิธีพิเศษกับเอกชนรายย่อย ซึ่งขายในราคาต่ำกว่านั้น มีข้อจำกัดเพราะเอกชนรายย่อยไม่สามารถจัดหาปลอกล้อรถไฟได้ตามจำนวนที่ต้องการ โดยรฟท.มีความต้องการปลอกล้อรถไฟปีละประมาณ 15,000 ชิ้นนายยุทธนา กล่าว
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว รฟท.เตรียมจะเปลี่ยนล้อรถไฟใหม่ เป็นแบบล้อรีดทึบ ซึ่งไม่ต้องใช้ปลอกล้อ จากปัจจุบันที่ใช้ล้อปลอก จึงต้องเปลี่ยนปลอกล้อเป็นประจำ ส่งผลให้ต้นทุนการบำรุงรักษาอยู่ในระดับสูง แต่ราคาล้อรีดทึบค่อนข้างสูง หรือล้อละประมาณ 70,000 บาท ขณะที่ล้อปลอกราคาประมาณ 10,000 บาทเท่านั้น
"ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่รฟท.ไม่สามารถควบคุมได้ ประกอบกับทั่วโลกมีผู้ผลิตปลอกล้อรถไฟเพียงไม่กี่ราย ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย ได้เปลี่ยนมาใช้ล้อรีดทึบแล้ว โดยรฟท.จะทยอยเปลี่ยนเป็นล้อรีดทึบต่อไป และจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการจัดหาปลอกล้อในราคาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ"นายยุทธนา กล่าว
ทั้งนี้ รฟท.ได้ยกเลิกการประกวดราคาโครงการต่างๆหลายโครงการในช่วงที่ผ่านมา เพราะต้องการให้ถูกต้องตามระเบียบ ไม่ต้องเกิดปัญหาในภายหลัง แม้จะส่งผลให้การดำเนินงานล่าช้าก็ตาม โดยโครงการที่ยกเลิก เช่น โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า ขนาดเพลาสูงสุดไม่เกิน 20 ตัน จำนวน 7 คัน วงเงิน 1,050 ล้านบาท โครงการก่อสร้างรถไฟสายสีแดง สัญญาที่ 3 หรืองานเครื่องกลรวมงานจัดซื้อตู้รถไฟฟ้าเส้นทางรังสิต-บางซื่อ และบางซื่อ-ตลิ่งชัน วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท เพราะเอกชนที่ยื่นข้อเสนอทั้ง 4 ราย ไม่ผ่านการพิจารณาด้านคุณสมบัติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอให้องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นหรือไจก้าให้ความเห็นชอบ คาดว่าไจก้าจะให้คำตอบภายในเดือนพ.ค.นี้ หลังจากนั้นจะเปิดประกวดราคาใหม่อีกครั้ง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 24/05/2011 4:07 pm Post subject: |
|
|
กางเมกะโปรเจกต์รอรัฐบาลใหม่
ทีมข่าวเศรษฐกิจ
หน้าเศรษฐกิจ ไทยรัฐออนไลน์
24 พฤษภาคม 2554 06:15 นใ
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เตรียมรวบรวมข้อมูล กางเมกะโปรเจกต์ รอรัฐบาลใหม่ เน้นระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างแท้จริง...
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ส.อ.ท.อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อที่จะนำเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) ที่รัฐบาลใหม่ควรจะสานต่อ และควรจะดำเนินการใหม่เพื่อวางระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างแท้จริง โดยมีความเหมาะสมกับงบประมาณแผ่นดิน
ผมเห็นว่าการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานในหลายๆเรื่องเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นระบบรถไฟรางคู่ ที่รัฐบาลควรสานต่อเพื่อลดต้นทุนการขนส่งในภาคอุตสาหกรรม ระบบรถไฟฟ้าที่จะช่วยลดการใช้พลังงาน และความชัดเจนในเรื่องอุตสาหกรรมต้นน้ำ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ ปิโตรเคมี ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ต้องการให้ชัดเจน
สำหรับกรณีการหาเสียงของแต่ละพรรคการเมือง ที่เน้นเรื่องการขึ้นค่าแรงนั้น ต้องการให้รัฐบาลใหม่หารือกับภาคอุตสาหกรรม เพื่อกำหนดกรอบระยะเวลาและอัตราค่าจ้าง ก่อนดำเนินการ และให้เป็นไปตามกระบวนการที่ควรจะผ่านคณะ กรรมการไตรภาคี เนื่องจากเอกชนไม่ได้คัดค้านการขึ้นค่าแรง แต่จำเป็นต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งภาวะตลาด ต้นทุนการผลิต ราคาสินค้า ค่าแรงแต่ละพื้นที่ ฯลฯ ซึ่งจำเป็นจะต้องมองทั้งระบบ ไม่ใช่มองเพียงปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งเท่านั้น
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสายงานเศรษฐกิจและโลจิสติกส์ ส.อ.ท. กล่าวว่า ส.อ.ท.ต้องการให้รัฐบาลใหม่สานต่อโครงการเมกะโปรเจกต์ที่รัฐบาลเก่า ได้วางกรอบไว้แล้ว เช่น
1. โครงสร้างพื้นฐานระบบรถไฟรางคู่ มูลค่า 150,000 ล้านบาท
2. การขยายสนามบินสุวรรณภูมิ
3. นอกจากนี้ ต้องการให้มีความชัดเจนถึงการใช้ประโยชน์จากสนามบินดอนเมือง
4. รวมถึงความชัดเจนเกี่ยวกับพื้นที่การลงทุนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในอนาคต. |
|
Back to top |
|
|
unique
3rd Class Pass (Air)
Joined: 12/09/2006 Posts: 258
Location: กทม.
|
Posted: 24/05/2011 7:42 pm Post subject: |
|
|
unique wrote: | Wisarut wrote: | ร.ฟ.ท.จัดซื้อหัวรถจักร 20 คันรวด
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหา Real Estate - อสังหาฯ-คมนาคม
ออนไลน์เมื่อ วันอังคารที่ 12 เมษายน 2011 เวลา 11:30 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,627 17-20 เมษายน พ.ศ. 2554
ร.ฟ.ท.ถือฤกษ์หลังสงกรานต์ เตรียมเปิดขายซองประกวดราคาจัดซื้อหัวรถจักร 20 คันรวด มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท หลังจัดซื้อรอบแรก 7 คันต้องล้มเลิกไป พร้อมเปลี่ยนวิธีประกวดราคาใหม่ เป็นแบบนานาชาติ แทนอี-ออกชัน
นายประจักษ์ มโนธัม รองผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า หลังเทศกาลสงกรานต์นี้ ร.ฟ.ท.จะเปิดขายซองประกวดราคาจัดซื้อหัวรถจักรจำนวน 20 คัน รวมมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากที่คณะกรรมการ(บอร์ด) ร.ฟ.ท.มีมติให้ยกเลิกการประกวดราคาโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า ขนาดเพลาสูงสุดไม่เกิน 20 ตันเพลาจำนวน 7 คัน วงเงิน 1,050 ล้านบาท โดยร.ฟ.ท.ได้แจ้งให้กลุ่มกิจการร่วมค้าล็อกซเล่ย์หงไฮ่จี้หลิน ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาต่ำรับทราบแล้ว ซึ่งเข้าใจขั้นตอนการดำเนินงานของรัฐ และไม่ติดใจใดๆ พร้อมกับยืนยันว่าจะร่วมประมูลในครั้งใหม่นี้ด้วย
สำหรับการจัดประกวดราคาครั้งใหม่นี้ ร.ฟ.ท.จะเปิดประกวดราคาแบบนานาชาติหรือ INTERNATIONAL BIDDING ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) จากเดิมที่ประกวดราคาแบบ LOCAL BIDDING ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรืออี-ออกชัน เพื่อจัดหาหัวรถจักรในคราวเดียวจำนวน 20 คัน จึงทำให้วงเงินเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้เอกชนเข้าร่วมการประกวดราคาเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดการแข่งขันด้านราคา ขณะที่ร.ฟ.ท.จะมีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้น
"ปัจจุบันหลายๆ ประเทศนิยมซื้อเป็นจำนวนมาก เพราะมีอำนาจต่อรองมากกว่าและยังได้ราคาต่ำกว่า สำหรับในครั้งนี้ด้วยงบประมาณจำกัด ร.ฟ.ท.จึงให้เปิดการจัดหาหัวรถจักรรวดเดียว 20 คัน เพราะจะทำให้ร.ฟ.ท.ได้ราคาที่ต่ำกว่าการจัดหารถจักรเพียง 7 คัน อีกทั้งการซื้อหัวรถจักรยี่ห้อเดียวกันเป็นจำนวนมาก ๆ จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาและการซ่อมบำรุง รวมทั้งค่าอะไหล่อีกด้วย"
นายประจักษ์ กล่าวว่า ในส่วนขั้นตอนการประกวดราคานั้น ร.ฟ.ท.ได้ประกาศเชิญชวนเอกชนไปแล้ว โดยผ่านทางสถานทูตประเทศต่างๆที่สนใจและมีการผลิตขึ้นในประเทศนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมนี ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย เป็นต้นโดยเงื่อนไขสำคัญเอกชนต้องยื่นข้อเสนอเรื่องแหล่งเงินกู้ด้วย เพื่อให้ร.ฟ.ท.และกระทรวงการคลังพิจารณาและเลือกข้อเสนอทางการเงินที่ดีที่สุด โดยจะให้เวลาจัดทำข้อเสนอประมาณ 60 วันและคาดว่าจะสรุปผลการประกวดราคาได้ในเดือนพฤษภาคมนี้ และจะลงนามสัญญาในเดือนมิถุนายน 2554
สำหรับโครงการจัดหาหัวรถจักรจำนวน 7 คันนั้น เคยถูกบริษัทที่เข้าร่วมประมูลแต่ไม่ผ่านคุณสมบัติยื่นฟ้องศาลปกครองเมื่อปี 2553 โดยศาลมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเมื่อต้นปี 2554 ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.จึงได้ดำเนินการเปิดซองข้อเสนอด้านราคาของ 2บริษัทที่ผ่านคุณสมบัติที่เหลืออีก พบว่ากลุ่มกิจการร่วมค้าล็อกซเล่ย์หงไฮ่จี้หลิน เสนอราคาต่ำสุดที่ 1,018 ล้านบาท ส่วนบริษัท GCS GROUP CORPORATION เสนอราคาที่ 1,030 ล้านบาท ซึ่งราคาที่กลุ่มกิจการร่วมค้าล็อกซเล่ย์หงไฮ่จี้หลินเสนอที่ 1,018 ล้านบาทนั้น ต่ำกว่าราคากลาง 32 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3% โดยราคากลางกำหนดไว้ที่ 1,050 ล้านบาท
"หลังจากพิจารณารายละเอียดข้อเสนอทางการเงิน ซึ่งทีโออาร์กำหนดให้เอกชนจัดหาแหล่งเงินกู้แล้ว ปัญหาการประมูลอี-ออกชันก็ไม่ตรงกับมติครม.ที่ผู้เสนอราคาทั้ง 2 รายเสนอหัวรถจักรยี่ห้อเดียวกัน ยังเข้าข่ายการล็อกสเปกอีกด้วย"
ส่วนโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าอีก 13 คันในราคาคันละประมาณ 150 ล้านบาท รวมประมาณ 1,950 ล้านบาท ซึ่งก็มีปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติรถจักรดีเซลไฟฟ้าที่ประกาศในทีโออาร์ว่ามีการล็อกสเปกเช่นกัน ร.ฟ.ท.จึงได้ดำเนินการใหม่ในครั้งนี้เป็นชุดเดียวกันทั้งหมดเพื่อความโปร่งใส |
" 3 อาทิตย์ผ่านครับ " |
" 6 อาทิตย์ผ่านครับ " |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46872
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 01/06/2011 6:00 pm Post subject: |
|
|
บอร์ดรฟท.อนุมัติจ้างปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณวงเงินกว่า 1.1 หมื่นลบ.
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 1 มิถุนายน 2554 17:35:47 น.
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ประธานกรรมการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรฟท. อนุมัติดำเนินโครงการปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณไฟสีทั่วประเทศ วงเงินลงทุนประมาณ 11,358 ล้านบาท แบ่งดำเนินการเป็น 9 สัญญา และอนุมัติว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อทำการสำรวจออกแบบ จัดทำเอกสารประกวดราคาสำหรับทุกเส้นทาง รวมทั้งควบคุมงานก่อสร้างในเส้นทางสายใต้ ช่วงที่ 1 วงเงินค่าจ้างที่ปรึกษาประมาณ 216 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในส่วนสัญญาที่ 1 นั้นคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาก่อสร้างได้ในเดือน ก.ย.นี้ โดยระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 1-2 ปี ส่วนสัญญาที่ 2-9 จะได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการในปีงบประมาณ 2555 หลังจากดำเนินโครงการแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการเดินรถไฟมากขึ้น
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังได้แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาเพื่อพิจารณาเรื่องการหาประโยชน์ที่ดิน โดยมีนายนิพิฐ อริยวงศ์ กรรมการ รฟท.เป็นประธาน โดยคณะที่ปรึกษานี้จะพิจารณาความเหมาะสมของอัตราค่าเช่าที่ดินตลาดนัดจตุจักรว่าอยู่ที่เท่าใด รวมทั้งเตรียมการจัดทำโครงสร้างของหน่วยธุรกิจบริหารทรัพย์สิน ว่าหากรฟท.บริหารตลาดนัดจตุจักรต้องมีหน่วยงานใด และมีบุคลากรรองรับอย่างไรบ้าง โดยจะเสนอรายละเอียดทั้งหมดให้คณะกรรมการ รฟท.พิจารณาในการประชุมเดือนมิ.ย.นี้ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46872
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 03/06/2011 8:34 am Post subject: |
|
|
ตำรวจรถไฟจับกุมคนร้ายลักดีเลย์สัญญาณควบคุมระบบรถไฟทำให้รวนทั้งระบบ
เนชั่น 77 ช่อง 77 จังหวัด 3 มิ.ย.54
คลิปวิดีโอข่าว http://77.nationchannel.com/playvideo.php?id=153981
--------------------
ตร.รถไฟล้อมจับคนร้ายขโมยอุปกรณ์ควบคุมรถไฟ
เนชั่นทันข่าว 3 มิย. 2554 08:52 น.
รถไฟป่วนอุปกรณ์ควบคุมการเดินรถหยุดสนิท พบคนร้ายกำลังถอดอุปกรณ์สื่อสารควบคุมเส้นทาง ตำรวจรถไฟล้อมจับเอาไว้ได้ 1 คนพร้อมของกลาง ส่วนเพื่อนอีก 2 คนหลบหนี สารภาพเอาไปขายเป็นของเก่า
เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 3 มิ.ย. ร.ต.อ. ศุภชัย วิบูรณ์สุขสันต์ สว.ตำรวจรถไฟอยุธยา รับแจ้งจากบุรินทร์ พวงจินดา นายสถานีรถไฟบ้านม้า อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งกำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่กับนาย ภานุวัตร ถั่งถิน ว่าไม่สามารถควบคุมสัญญานและระบบการสื่อสารควบคุมรถไฟในเส้นทางขึ้นล่องสายตะวันออกเฉียงเหนือได้ เนื่องจากสัญญานดับ เชื่อว่าเกิดเหตุที่ตู้ควบคุมระบบสื่อสารที่อยู่ห่างจากสถานีรถไฟบ้านม้าไปประมาณ 1 ก.ม. ที่เกิดเหตุพบว่ามีชาย 3 คนกำลังงัดอุปกรณ์อยู่ที่ตู้ควบคุมระบบสื่อสารของการรถไฟ ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟอยุธยาประมาณ 5 ก.ม. ทันทีที่คนร้ายเห็นต่างวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง โดยคนร้ายสองคนขี่จยย.ยี่ห้อเวป 100 สีดำ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุมได้ 1 คนคือนาย อนุวัตร เหมือนครุฑ อายุ 25 ปี พร้อมอุปกรณ์รีเรย์ควบคุมระบบสื่อสารจำนวน 19 ชุด ราคาชุดละ 2 หมื่นบาท รวมมูลค่า 3 แสนบาท อุปกรณ์งัดแงะคม ไขควง มีดคัทเตอร์
จากการสอบสวนนายอนุวัตรให้การรับสารภาพว่า เคยเป็นคนงานโรงงานแห่งหนึ่ง แต่ได้ขโมยอุปกรณ์ในแค้มป์คนงานและของในบริษัท จนถูกจับได้จึงได้พากันออกจากงาน จากนั้นก็ร่วมกับเพื่อนอีกสองคนชื่อนายตุ่ยและนายแมน ขี่จยย.ตระเวนไปลักสิ่งของที่พอจะขายเป็นของเก่าได้ โดยจะเน้นเป็นสายเคเบิลโทรศัพท์ และอุปกรณ์ที่มีลวดทองแดง ไปขายก.ก.ละประมาณ 200 บาท ก่อนหน้านี้ได้ขี่จยย.ออกมาจากรังสิต มาถึงบริเวณตู้อุปกรณ์สื่อสารจึงทำการงัด เพื่อจะเอาชิ้นส่วนในอุปกรณ์ไปขาย แต่ก็มาถูกจับได้ก่อน
นายสุรินทร์ เปิดเผยว่าอุปกรณ์ดังกล่าวมีความสำคัญกับการรถไฟอย่างมาก เนื่องจากจะควบคุมสัญญาณไฟต่างๆไม่ว่าจะเป็นระบบปิดกั้น ระบบสับหลีก เมื่อมีการงัดตู้สัญญานก็จะเตือนที่แผงควบคุม จากนั้นเมื่อถูกถอดระบบก็จะดับสนิททำให้สับหลีกรถไฟไม่ได้เมื่อเวลา 04.00 น.วันเดียวกัน เป็นเวลาที่รถขบวนกรุงเทพ อุบลราชธานี ขบวนที่ 143 กำลังเข้ามาต้องใช้สัญญานมือควบคุม แต่โชคดีที่ยังจับได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการขโมยอุปกรณ์กุญแจที่ปิดเปิดตู้มาแล้ว จนท.จึงได้ควบคุมตัวนายอนุวัตรส่งตร.สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดีต่อไป |
|
Back to top |
|
|
milkonline
2nd Class Pass (Air)
Joined: 02/07/2009 Posts: 810
Location: อ.เมือง จ.ลพบุรี
|
Posted: 03/06/2011 9:12 am Post subject: |
|
|
แสดงว่า ทำกันจนเป็น........เลยทีเดียว _________________ N-Scale model train lovers.
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 03/06/2011 9:38 am Post subject: |
|
|
น่าจะเป่ากระหม่อมตรงที่เกิดเหตุไว้เป็นตัวอย่างสักสาย สองราย นะ |
|
Back to top |
|
|
|