RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312072
ทั่วไป:13681920
ทั้งหมด:13993992
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 38, 39, 40 ... 284, 285, 286  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44058
Location: NECTEC

PostPosted: 06/06/2011 10:49 am    Post subject: Reply with quote

ดันรถไฟฟ้าสายสีเหลืองแซงคิวเข้าครม.
หน้ากทม.
เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 06 มิถุนายน 2554 เวลา 10:07 น

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมแจ้งว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมต้องการเร่งรัดการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ–สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่พิจารณาเพื่อปรับแผนนำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-บางกะปิระยะทาง 12.6 กิโลเมตร มาทำก่อน ในช่วง 10 ปีแรก (2553-2562) จากเดิมที่กำหนดจะดำเนินโครงการในช่วง 10 ปีหลัง (2562-2572) เนื่องจากแนวเส้นทางดังกล่าวจะรองรับการเดินทางตลอดแนวถนนลาดพร้าว ที่มีความแออัดอย่างมาก และสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบริเวณปากทางลาดพร้าว ซึ่งเป็นต้นทางโครงการ เชื่อมกับสายสีส้มที่บริเวณบางกะปิ เชื่อมกับแอร์พอร์ตลิงก์ที่หัวหมาก และเชื่อมกับสายสีเขียวที่พัฒนาการได้ ซึ่งขณะนี้โครงการได้มีการศึกษาและออกแบบเบื้องต้นและผ่านการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว หากสามารถเร่งโครงการขึ้นมาก่อสร้างก่อนได้ จะทำให้รถไฟฟ้าเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายที่สมบูรณ์ในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า โดยช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ ก่อสร้างบนเกาะกลางถนนลาดพร้าว เป็นระบบ โมโนเรล หรือรถไฟฟ้ารางเดี่ยวใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2-3 ปี เท่านั้น โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะแบ่งเป็น สีเหลืองอ่อน ช่วง ลาดพร้าว-บางกะปิ ระยะทาง 12.6 กิโลเมตร ค่าก่อสร้างประมาณ 16,000 ล้านบาท เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว ส่วนสีเหลืองเข้ม ช่วง บางกะปิ –สำโรง ระยะทาง 17.8 กิโลเมตร ค่าก่อสร้างประมาณ 46,000 ล้านบาท เป็นระบบรถไฟฟ้าขนาด หนัก (เฮฟวี่เรล) อย่างที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน

สำหรับแผนแม่บทรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่
สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ระยะทาง 23 กิโลเมตร
สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน 15 กิโลเมตร
สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต-ธรรมศาสตร์ 36.3 กิโลเมตร
สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค 27 กิโลเมตร.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44058
Location: NECTEC

PostPosted: 09/06/2011 12:37 am    Post subject: Reply with quote

เล็งชงโปรเจ็กต์3.7แสนล.คมนาคมเสนอครม.ใหม่ทันที
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหา Real Estate - อสังหาฯ Real Estate
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 03 มิถุนายน 2011 เวลา 10:45 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,641 5-8 มิถุนายน พ.ศ. 2554


คมนาคมเร่ง 4 หน่วยงานหลัก ทล-ทช.-รฟม.และร.ฟ.ท. เตรียมพร้อมเสนอโครงการเมกะโปรเจ็กต์ให้รัฐบาลใหม่พิจารณา หลังจากหลายโครงการหลุดโผเข้าพิจารณาครม.นัดสุดท้ายก่อนยุบสภา เผยปี 55

ทล.ลุ้นงบสร้างถนน 4 เลน
ส่วนทช.เสนอถนนเพื่อการท่องเที่ยวและถนนเข้าโครงการหลวง

รฟม.ลุ้นเห็นชอบประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียว สีชมพู สีม่วงและสีส้ม

ส่วนร.ฟ.ท.ดันที่ดิน 3 แปลงหลักและแผนปรับปรุงทางตามโผ กว่า 30 แผน รวมงบทั้งสิ้น 379,710 ล้านบาท

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าได้เร่งสั่งการให้ 4 หน่วยงานหลักของกระทรวง ประกอบด้วยกรมทางหลวง(ทล.) กรมทางหลวงชนบท(ทช.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)เตรียมความพร้อมโครงการต่าง ๆ ทั้งโครงการระดับเมกะโปรเจ็กต์และโครงการสำคัญ ๆ ให้รัฐบาลใหม่พิจารณาโดยเฉพาะโครงการที่ไม่นำเข้าสู่การพิจารณาคราวการประชุมครั้งสุดท้ายของรัฐบาลชุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาครั้งต่อไปเช่นกัน

"กรณีโครงการต่าง ๆ ที่ไม่ได้รับการพิจารณาขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสารโครงการคืนกลับจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หากได้รับคืนมาก็อาจจะมีบางโครงการที่ต้องมาปรับเปลี่ยนใหม่บ้าง ส่วนโครงการใหม่ที่มีการเตรียมความพร้อมแล้ว ก็จะทยอยนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาลใหม่ต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะมีมากกว่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากมีผลการศึกษาแล้วเสร็จไปจำนวนมาก"

นายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าการ และในฐานะรักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทย(รฟม.)กล่าวว่าได้เร่งให้เตรียมโครงการในส่วนของรฟม.ดังนี้คือรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ,ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ 64,538 ล้านบาท สายสีชมพู ช่วงปากเกร็ด-มีนบุรี งบประมาณ 34,000 ล้านบาท สายสีม่วงช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ งบ 66,820 ล้านบาท และสายสีส้ม ช่วงมีนบุรี-ตลิ่งชัน งบ 137,750 ล้านบาท

"กรณีสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดซองสัญญาที่ 1 คาดว่าภายในเดือนกรกฎาคมจะเปิดครบหมดทั้ง 3 ซองก่อนที่จะนำเสนอสัญญาอื่น ๆ ต่อไป

ส่วนช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-สะพานใหม่-คูคต คาดว่าจะเริ่มเปิดขายซองประกวดราคาใน 1-2 เดือนนี้และเปิดประมูลช่วงปลายปี 2554 นี้

สายสีชมพูอยู่ระหว่างการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาทบทวนโครงการและจัดทำเอกสารประกวดราคา สายสีม่วง ต้องว่าจ้างที่ปรึกษาใหม่เป็นรอบที่ 2 เนื่องจากรอบแรกมีเพียง 1 ราย คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคมนี้ภายใต้งบว่าจ่าง 140 ล้านบาทส่วน

สายสีส้มอยู่ระหว่างการว่าจ้างออกแบบรายละเอียดและคัดเลือกที่ปรึกษาโดยจะก่อสร้างช่วงบางกะปิ-ศูนย์วัฒนธรรมก่อนช่วงอื่น ๆ ภายใต้งบว่าจ้าง 210 ล้านบาทซึ่งโดยส่วนใหญ่ในปี 2555 จะต้องเร่งให้มีการเปิดประมูลเกิดขึ้นเนื่องจากเป็นแผนเร่งรัดที่กระทรวงคมนาคมกำหนดไว้"

แหล่งข่าวระดับสูงจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)กล่าวว่าขณะนี้นอกจากจะนำที่ดินแปลงขนาดใหญ่ในทั้ง 3 ทำเลคือมักกะสัน สถานีแม่น้ำ ย่านพหลโยธินช่วงกิโลเมตรที่ 11 ออกเปิดประมูลแล้ว อีกหลาย ๆ โครงการยังนำเสนอโดยเฉพาะโครงการเงินกู้และโครงการที่อยู่ในงบประมาณ 1.7 แสนล้านบาทที่ครม.ได้อนุมัติกรอบวงเงินมาแล้วตั้งแต่ปี 2553

โดยโครงการที่จะนำเสนอในปี 2555 นอกจากการขอเปิดประมูลพื้นที่ 3 แปลงหลักแล้วยังประกอบไปด้วยโครงหลัก ๆ คือ

1.โครงการไอซีดีแห่งที่ 2 งบประมาณ 6,066 ล้านบาท
2.โครงการจัดตั้งศูนย์ควบคุมระบบและจัดหาระบบโทรคมนาคม งบ 2,200 ล้านบาท
3.โครงการตามแผนปรับปรุงทาง งบ 24,000 ล้านบาท มีทั้งการปรับปรุงทางที่ไม่ปลอดภัย เปลี่ยนหมอนรองราง เปลี่ยนประแจ การจัดสร้างเครื่องกั้น 79 แห่ง

"แม้ว่าล่าสุดในคราวประชุมครม.นัดสุดท้ายการรถไฟจะได้รับงบประมาณ 7,600 ล้านบาทในการจัดซื้อหัวรถจักร การปรับปรุงทาง การจัดสร้างเครื่องกั้น แต่ก็ยังมีอีกหลายโครงการต้องเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดหารายได้ด้วยการพัฒนาพื้นที่แปลงใหญ่ แปลงเล็กตามพื้นที่ต่าง ๆ และตามแผนการยกเครื่องการรถไฟภายใต้กรอบวงเงิน 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งต้องเตรียมความพร้อมให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณาเห็นชอบหรืออนุมัติดำเนินการต่อไป"
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44058
Location: NECTEC

PostPosted: 12/06/2011 8:56 pm    Post subject: Reply with quote

ชพน.โยนพรรคใหญ่ตั้งรัฐบาล ชูนโยบาย “ตั๋วร่วม รถ ราง เรือ” 40 บาท
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มิถุนายน 2554 15:06 น.
ชพน.ชู"รถไฟฟ้า 12 สาย" พร้อมตั๋วร่วมรถ-ราง-เรือ 40 บาท
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มิถุนายน 2554 13:00 น.

"หมอวรรณรัตน์" ปัดตอบพรรคเล็กรวมพลังเสนอนายกฯคนกลาง โยนพรรคใหญ่ตั้งรัฐบาล ไม่เชื่อโพลสันติบาล ชพน.ได้ 12 เสียง ประกาศนโยบาย “ตั๋วร่วม รถ ราง เรือ” 40 บาทใช้ได้ทั้ง 3 เส้นทาง พร้อมดันรถไฟฟ้า 12 สายให้เสร็จภายใน 4 ปี

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคให้สัมภาษณ์ว่าหลังการเลือกตั้ง หากมีโอกาสเสนอผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ทางพรรคการเมืองขั้วที่ 3 ก็พร้อมจะเสนอบุคคลขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีเช่นเดียวกัน ว่า ยังไม่เคยได้ยินนายสุวัจน์พูด ขณะนี้นายสุวัจน์เดินทางไปต่างประเทศ จึงยังไม่มีโอกาสคุยกันถึงเรื่องนี้ แต่โดยส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องของพรรคใหญ่ในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึง เอาไว้ถึงวันที่ 3 ก.ค.ก่อน ตนยังไม่คิดไปไกลขนาดนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรถึงผลการสำรวจของตำรวจสันติบาล ว่าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินจะได้เพียง 12 ที่นั่ง นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของการสำรวจที่มีออกมาหลายสำนัก ทางพรรคก็ฟังไว้บ้าง แต่เราก็หาเสียงอย่างเต็มที่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนในวันที่ 3 ก.ค. อย่างไรก็ตามทางพรรคจะเปิดปราศรัยใหญ่ที่จ.นครราชสีมา ในวันที่ 1 ก.ค. ที่สนามหน้าศาลากลาง

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ผลโพลของสันติบาลทำขึ้นมาอย่างขัดหลักวิชาการและความน่าเชื่อถือ เพราะทางเจ้าหน้าที่สันติบาลก็เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโพลเอง ดังนั้นหากจะดูเรื่องตัวเลขจำนวนส.ส. ควรพิจารณา

ทั้งนี้ นพ.วรรณรัตน์ พร้อมด้วย นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นายชาติชาย พุคยาภรณ์ นางพรรณี จารุสมบัติ พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค ได้ลงพื้นที่หาเสียงที่โรงพยาบาลตากสิน เขตคลองสาน ก่อนที่จะขึ้นรถเมล์ประจำทางปรับอากาศสาย ปอ.6 มาลงท่าเรือตานสิน-สาทร เพื่อลงเรือข้ามฟากมายังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสตากสิน

โดยระหว่างทางคณะได้แวะหาเสียงที่สวนป่าเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา บริเวณท่าเรือ และหาเสียงกับประชาชนที่มาออกกำลังภายในสวน ซึ่ง นพ.วรรณรัตน์ได้โชว์การใช้เครื่องยกน้ำหนักด้วย สร้างเสียงฮือฮาให้ประชาชนที่ผ่านไปมาด้วย ทั้งนี้ระหว่างที่คณะอยู่ในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส ได้เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เมื่อเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยของบีทีเอสไม่อนุญาตให้คณะใช้เครื่องขยาย เสียงและถ่ายภาพในพื้นที่นั้น เนื่องจากไม่ได้มีการประสานงานล่วงหน้า ทำให้ผู้ประสานงานของพรรคต้องเข้าไปเคลียร์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แต่ในที่สุดก็สามารถเจรจากันได้ ต่อมาคณะได้มาลงที่สถานีสยามเพื่อหาเสียงบริเวณลานน้ำพุสยามพารากอน

นพ.วรรณรัตน์ ได้ประกาศนโยบายด้านขนส่งมวลชน “ตั๋วร่วม รถ ราง เรือ” ว่า เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในระบบขนส่งมวลชน ทางพรรคมีนโยบายที่จะใช้ตั๋วร่วมรถเมล์ เรือ และรถไฟฟ้าแบบวันเดย์พาส ในราคา 40 บาท อำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารและผู้ประกอบการ ประหยัดพลังงาน ลดมลพิษ และลดปัญหาการจราจร

ด้าน นายกรพจน์ กล่าวว่า หากพรรคมีโอกาสร่วมรัฐบาล จะเร่งผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย 12 สาย ให้เสร็จใน 4 ปี เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่านโยบายของแต่ละพรรคใช้งบประมาณสูง แต่ขาดการจัดเก็บรายได้นั้น นายกรพจน์ กล่าวว่า ทางพรรคมีแนวทางในการเพิ่มการจัดเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพจากปัจจุบันที่คิด เป็น 17 % ของจีดีพี ให้มากขึ้นถึง 20 % หรือมากกว่า เช่นเดียวกับประเทศที่พัฒนาอื่นๆ ที่สามารถจัดเก็บได้มากถึง 30-40 % โดยการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อดึงธุรกิจที่อยู่นอกระบบเข้ามาอยู่ใน ระบบ ซึ่งจะส่งผลให้สามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น

ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาข้าวของราคาแพง นายกรพจน์ กล่าวว่า ในช่วง 3 เดือนแรก รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาต้องลงไปดูในเรื่องต้นทุนของทั้งระบบตั้งแต่การจัดซื้อ และการขนส่ง สิ่งไหนที่สามารถควบคุมได้ต้องเร่งทำ เพราะในตอนนี้ยังไม่เห็นมีใครออกมาพูดเรื่องนี้เลย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44058
Location: NECTEC

PostPosted: 12/06/2011 8:57 pm    Post subject: Reply with quote

มาร์คหาเสียงคลองชักพระโชว์ผัดหมี่-หล่อเทียนฯ ลั่นพัฒนาตลาดน้ำตลิ่งชัน สานต่อรถไฟฟ้าเชื่อมธนบุรี

มติชน วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 19:50:05 น.

ช่วงบ่ายวันที่ 12 มิถุนายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ลงพื้นที่หาเสียงช่วย นายชรินทร์ รุ่งแสง ผู้สมัคร ส.ส.เขตตลิ่งชัน บางกอกน้อย พบประชาชนริมคลองชักพระ โดยลงเรือพร้อม นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ สองผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อปชป. โดยมีประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของและประชาชนในพื้นที่ ให้การต้อนรับจำนวนมาก



นายอภิสิทธิ์ได้ผัดหมี่กรอบโบราณและหล่อเทียนพรรษา รวมทั้งนวดแผนโบราณร่วมกับประชาชนด้วย จากนั้นได้ขึ้นเวทีปราศรัยย่อย ว่าจะสานต่อนโยบายของพรรค เดินหน้าศูนย์การค้าฝั่งธนสู่ตลาดโลก รวมถึงพัฒนาตลาดน้ำตลิ่งชันให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ทั้งยังจะสานต่อโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมต่อฝั่งธนบุรีให้ประชาชนได้รับความ สะดวกสบายมากขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44058
Location: NECTEC

PostPosted: 13/06/2011 12:13 am    Post subject: Reply with quote

ผุดรถไฟฟ้ากทม.เฟสแรก12.6กม.ลาดพร้าว-บางกะปิ
ข่าวปก
สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1208
ประจำวันที่ 8-10 มิถุนายน พ.ศ. 2554



คมนาคม > “กระทรวงหูกวาง” ปรับแผนรถไฟฟ้ากทม.ฝั่งตะวันออก เผยเตรียมดันรถ ไฟฟ้าสายสีเหลืองเฟสแรกช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ ระยะทาง 12.6 กม. มูลค่า 1.6 หมื่นล้าน เล็งใช้ระบบโมโนเรล คาดแล้ว เสร็จปี 2562 เล็งเสนอ ครม.ใหม่อนุมัติ พร้อมเปิด โครงสร้างรถไฟฟ้า 12 สาย

แหล่งข่าวจาก กระทรวง คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวง คมนาคมอยู่ระหว่างปรับแผน การลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตรใหม่ โดยแผนใหม่จะสร้างสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ ก่อน มีระยะทาง 12.6 กิโลเมตร กำหนดแล้วเสร็จใน 2562

ส่วนช่วงบางกะปิ -สำโรง จะใช้ชื่อสายสีเหลืองเข้ม ระยะทาง 17.8 กิโลเมตร ค่าก่อสร้างประมาณ 46,000 ล้านบาท เป็นระบบรถไฟฟ้าขนาดหนัก (Heavy Rail) จะดำเนินโครงการหลังปี 2562ไปแล้ว กำหนดแล้วเสร็จปี 2572 โดยกระทรวงคมนาคม จะรอเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่พิจารณาต่อไป

“แนวเส้นทางของสายสีเหลืองจะรองรับการเดินทางตลอดแนวถนนลาดพร้าวที่มีความแออัดอย่างมากและสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบริเวณปากทางลาดพร้าว ซึ่งเป็นต้นทางของโครงการเชื่อมกับสายสีส้มที่บริเวณบางกะปิ รวมทั้งเชื่อมโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ที่หัวหมากและเชื่อมกับสายสีเขียวที่พัฒนาการได้”

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด โครงการได้มีการศึกษาและออกแบบเบื้องต้นไว้แล้ว รวมถึงผ่านกาวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้วซึ่งรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะแบ่งเป็น สีเหลืองอ่อน ช่วงลาดพร้าว-บางกะปิระยะทาง 12.6 กิโลเมตร ค่าก่อสร้างประมาณ 16,000 ล้านบาท เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail)

ทั้งนี้ หากสามารถเร่งรถไฟฟ้าสายสีเหลืองขึ้นมาก่อสร้างก่อน จะทำให้รถไฟฟ้าเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายที่สมบูรณ์ในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า โดยช่วง ลาดพร้าว-บางกะปิ ก่อสร้างบนเกาะกลางถนนลาดพร้าว เป็นระบบ Monorail ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2-3 ปี เท่านั้น นอกจากนี้หากสามารถผลักดันการก่อสร้างโครงการส่วนต่อขยายของสายสีม่วง

ส่วนแผนแม่บทรถไฟฟ้า 12 สาย ที่ ครม.ให้ความเห็นชอบไว้นั้น เป็นแนวเส้นทางที่มีโครงข่ายครอบคลุมเพื่อรองรับการเดินทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่สมบูรณ์แล้ว ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อโครงการ เนื่องจากทุกพรรคการเมืองให้ความสำคัญกับโครงการรถไฟฟ้าเหมือนกัน

โดยเห็นว่าหลังจากนี้ รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะระบบตั๋วร่วม เพื่อให้ประชาชนได้ใช้รถไฟฟ้าซึ่งเป็นระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก รวดเร็วและประหยัด

สำหรับแผนแม่บทรถไฟฟ้า 12 สาย ระยะทาง 495 กิโลเมตร มีวงเงินลงทุน 811,070 ล้านบาท รวมระยะเวลา 20 ปี (2553-2572) โดยมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และจะเปิดให้บริการภายในปี 2557 ประกอบด้วย

1.สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร
2.สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต-ธรรมศาสตร์ ระยะทาง 36.3 กิโลเมตร
3.สายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 11.4 กิโลเมตร
4.สายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 12.8 กิโลเมตร
5.สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ระยะทาง ระยะทาง 23 กิโลเมตร

ส่วนโครงการเปิดบริการปี 2559 ประกอบด้วย
1.สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร
2.สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน ระยะทาง 9 กิโลเมตร
3.สายสีแดง ช่วงมักกะสัน-หัวหมาก ระยะทาง 10 กิโลเมตร
4.สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 27 กิโลเมตร

ระยะที่ 2 โครงข่ายเพิ่มเติมเปิดให้บริการปี 2562 ระยะทางรวม 141 กิโลเมตร เงินลงทุน 308,590 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. สายสีแดง ช่วงหัวลำโพง-บางบอน ระยะทาง 18 กิโลเมตร
2. สายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14 กิโลเมตร
3. สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-พญาไท ระยะทาง 7.9 กิโลเมตร
4.สายสีเขียว ช่วงสะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 7 กิโลเมตร
5. สายสีเขียว ช่วงสนามกีฬา-ยศเส ระยะทาง 1 กิโลเมตร
6.สายสีม่วง ช่วง บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 19.8 กิโลเมตร
7.สายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ราชดำเนิน-หลานหลวง-เพชรบุรีตัดใหม่-ศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี ระยะทาง 37.5 กิโลเมตร
8.สายสีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี ระยะทาง 36 กิโลเมตร

ระยะสุดท้ายโครงข่ายเพิ่มเติมภายในปี 2572 ระยะทาง 118 กิโลเมตร เงินลงทุน 186,690 ล้านบาท คือ

1.สีแดง ช่วงบางบอน-มหาชัย ระยะทาง 20 กิโลเมตร
2.สีแดง ช่วงบางบำหรุ-มักกะสัน ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร
3.สีเขียว ช่วงคูคต-ลำลูกกาคลอง 4 ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร
4.สีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปูระยะทาง 7 กิโลเมตร
5. สีน้ำเงิน ช่วงบางแค-พุทธมณฑล สาย 4 ระยะทาง 8 กิโลเมตร
6. สีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-พัฒนาการ-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร
7.สีเทา ช่วงวัชรพล-ลาดพร้าว-พระราม4-สะพานพระราม9 ระยะทาง 26 กิโลเมตร
8. สีฟ้า ช่วงดินแดง-สาทร ระยะทาง 9.5 กิโลเมตร
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44058
Location: NECTEC

PostPosted: 17/06/2011 12:55 pm    Post subject: Reply with quote

ยิ่งลักษณ์แถลงนโยบายรถไฟฟ้า MRT 20 บาทตลอดสาย
เนชั่นทันข่าว
17 มิถุนายน 2554 09:20 น.


น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่ง พรรคเพื่อไทย ขึ้นรถไฟฟ้า BTS จากสถานีอารีย์ลงสถานีอโศก เพื่อต่อรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ไปลงสถานีศูนย์วัฒนธรรม โดยแลกเงินและหยอดบัตรด้วยตัวเอง ซึ่งประชาชนบนสถานีเมื่อเห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่างก็พากันเข้ามาขอถ่ายรูป ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงนโยบายรถไฟฟ้า MRT 20 บาทตลอดสาย ว่านโยบายนี้มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อเป็นการแก้ปัญหาการจราจร เพราะปัจจุบันมีรถจำนวนมาก เพื่อลดค่าใช้จ่าย ลดมลภาวะ และนโยบายนี้เริ่มทำมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช แล้ว ทั้งหมดนี้เราจะเร่งทำให้เสร็จโดยเร็ว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบ่อยหรือไม่ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยิ้มและตอบสั้นๆ ว่า ไม่ค่อยบ่อย และเมื่อแถลงเสร็จ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ได้เดินทางขึ้นรถส่วนตัวที่สถานีศูนย์วัฒนธรรม โดยได้แวะติดสติกเกอร์เบอร์ 1 ที่วินมอเตอร์ไซค์ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการหาเสียงดังกล่าวมีทีมเศรษฐกิจของพรรคร่วมหาเสียงด้วย อาทิ นายประพัฒน์ จงสงวน นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส. อาทิ นายกวี ณ ลำปาง ผู้สมัครส.ส.กทม.เขต 3 ดินแดง พญาไท น.ส.ลีลาวดี วัชรโรบล ผู้สมัครส.ส. เขต 5 ดุสติ ราชเทวี และ น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ ผู้สมัครส.ส.เขต 7 ห้วยขวาง วังทองหลาง
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47455
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/06/2011 5:49 am    Post subject: Reply with quote

รายงานพิเศษ: 'รถไฟฟ้า' นโยบายดี ติดขัด 'เงินลงทุน'
ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- พุธที่ 22 มิถุนายน 2554 00:00:36 น.

ในวันนี้จะพูดถึงนโยบายการพัฒนา "ระบบขนส่งมวลชน ระบบราง" ของแต่ละพรรคการเมืองว่าหากได้เข้ามาเป็นรัฐบาล จะทำจริงตามที่พูดหรือไม่

เริ่มจาก พรรคเพื่อไทย หมายมั่นปั้นมือว่า คราวนี้ได้เป็นฝ่ายรัฐบาลแน่นอน ได้ชูนโยบายที่จะเดินหน้าก่อสร้างรถ ไฟฟ้าให้ครบทั้ง 10 สายในกรุงเทพมหานคร เก็บค่าโดยสารเพียง 20 บาท, สร้างรถไฟรางคู่เชื่อมต่อบริเวณชานเมืองกรุงเทพฯ, ทำรถไฟความเร็วสูงไปโคราช ระยอง จันทบุรี นอกจากนี้ ยังมีนโยบายที่จะขยายโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับ-ส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (แอร์พอร์ตเรลลิงค์) ไปจนถึงพัทยา

พรรคเก่าแก่และเป็นรัฐบาลอยู่ขณะนี้อย่าง ประชาธิปัตย์ประกาศเดินหน้าและสานต่อโครงการที่ได้ทำไปแล้ว และอยู่ระ หว่างการดำเนินงาน อย่างเช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเฉพาะการก่อสร้างรถไฟ ฟ้า 10 สาย ระยะทางรวม 509 กม. สร้างแล้ว 75 กม. เชื่อม กทม.และปริมณฑล (นนทบุรี-ปทุมธานี-สมุทรปราการ) โดยรถไฟฟ้า 166 กม. ภายใน 5 ปี, การลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-จีน

ส่วน พรรคภูมิใจไทย ซึ่งปัจจุบันมีรัฐมนตรีคุมกระทรวงคม นาคมถึง 2 คน คือ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการฯ และนายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ก็ชูนโยบายเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งในรัฐบาลหน้าจะเพิ่มอีก 2 สาย รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าไทย-จีน และยืนยันเดินหน้าต่อโครงการที่ได้ดำ เนินการมาแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค, สายสีแดง บางซื่อ-รังสิต, สายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่ รวมไปถึงโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง

การชูนโยบายดังกล่าวของบรรดาพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคใหญ่ทั้ง 3 พรรคใหญ่ จะทำได้จริงหรือไม่ และทำแล้วจะมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรนั้น นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ (บีเอ็มซีแอล) ได้แสดงความเห็นว่า พรรคการเมืองที่มีนโยบายทุกพรรคที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้า จะสอดคล้องกันหมดทุกพรรค จะมีกี่สายเท่านั้นเอง และอยากทำให้เร็ว ซึ่งความเห็นมองว่านโยบายทุกพรรคดีหมด

"ในความเห็นผมนั้น นโยบายทุกพรรคเกี่ยวกับรถไฟฟ้า ดีหมด แต่จะมีคำถามอีกว่า แล้วแต่ละพรรคจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ และการทำนั้นไม่ว่าจะเป็น 10 หรือ 12 สายในประเทศไทยนั้นเกิดขึ้นแน่นอน ที่ท้าทายคือ เวลาในการทำนั้นจะทำให้ได้ 10 หรือ 12 สายตามเวลาที่ต้องการหรือไม่" นายสมบัติกล่าวนายสมบัติยังระบุว่า ข้อจำกัดของการทำรถไฟฟ้าตามนโย บายของพรรคการเมืองนั้น อันดับแรกคือต้องขึ้นกับความตั้งใจที่จะทำ และอีกข้อซึ่งเป็นข้อจำกัดที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วคือ "เรื่องเงิน" "ศักยภาพในการทำมี แต่เรื่องเงินมีหรือไม่ ในเรื่องนี้ผมเข้าใจว่ารัฐบาลพยายามที่จะหาทางใช้เงินโดยที่ไม่เป็นภาระของรัฐบาล ในปีต้นๆ มากเกินไป เพราะกลัวว่าหนี้สาธารณะจะเยอะเกิน แต่อย่างน้อยก็ได้จัดว่ารถไฟฟ้าเป็นการลงทุนที่สำคัญ แม้ว่าจะต้องเป็น หนี้สาธารณะเพิ่ม แต่ก็ควรที่จะทำ ซึ่งโดยสรุปแล้ว การที่เอารถ ไฟฟ้ามาหาเสียง ผมมองว่ามีแต่ข้อดี ถ้าจะมีข้อเสียคือ หลังจากที่พรรคนั้นได้เป็นรัฐบาลแล้ว จะทำได้ตามที่ได้รับปากกับประชาชนไว้หรือไม่" นายสมบัติกล่าว

สำหรับข้อแนะนำในฐานะที่เป็นภาคเอกชนและเป็นผู้รับสัมป ทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยรวมแล้วนโยบายมาถูกทาง แต่หากใครได้เข้ามาเป็นรัฐบาล ควรที่จะเป็นผู้มองว่าโครงการไหนควรจะเป็นโครงการที่สำคัญต่อประเทศ เพื่อให้ได้จีดีพีหรือเป้าหมายตามที่ต้องการ ที่เหลือคือจัดสรรอย่างไรให้เอกชนมีส่วนร่วม เพราะเอกชนมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากกว่า เช่น งานก่อสร้าง รัฐบาลเป็นเรกูเลเตอร์ ไม่ต้องสร้างเอง เช่นเดียวกับการเดินรถ ก็จ้างคนมาเดินรถ การซื้อรถก็จ้างมาซื้อ ดังนั้น เรื่องนี้ไม่น่าแปลกที่รัฐบาลจะให้เอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ไม่เป็นผู้ดำเนินงาน โดยที่รัฐบาลเป็นผู้กำกับดูแล

ขณะที่นักวิชาการรายหนึ่งระบุว่า การที่พรรคการเมืองชูนโย บายรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง นั่นหมายความว่านักการเมืองเข้าใจแล้วว่ามีการละเลยระบบรถไฟมานาน และพรรคการเมืองเห็นตรงกัน ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีอันหนึ่งของการปรองดองและพัฒนาประเทศ

"ถ้าพูดถึงระบบรถไฟ และทุกคนมาสนใจนั้น ซึ่งการเป็นทางคู่ สิ่งที่ได้รับกลับมาคือ ลดต้นทุนการขนส่งสินค้า มีการเดินทางที่ปลอดภัยและรวดเร็ว ตรงต่อเวลามากขึ้น และมีศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ ดังนั้น ผลที่ได้จึงเป็นภาพรวมทางเศรษฐกิจ เพราะสามารถลดต้นทุนค่าขนส่งลงได้"

ส่วนนโยบายการผลักดันรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ตอนนี้คงไม่ต้องไปมองจีนแล้ว เพราะขณะนี้การทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ยังค้างอยู่ ดังนั้น ตามสูตรของนักการเมืองควรที่จะตัดสินเส้นใดเส้นหนึ่งขึ้นมา ให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเว้นกรุงเทพฯ-ระยอง, กรุงเทพฯ-นครราชสีมา, กรุง เทพฯ-หัวหิน โดยเน้นไปแหล่งท่องเที่ยวที่ชัดเจน ทำให้เป็นตัวอย่าง

นโยบายของพรรคการเมืองเกี่ยวกับโครงการรถไฟ รถไฟฟ้าสายต่างๆ นับว่าดีหมด และทำได้หมด หากมี "เงิน" ที่จะมาลงทุน และทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า จะต้องพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47455
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/07/2011 12:12 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคมแฉ"ที่ปรึกษา" ออกแบบรถไฟฟ้าเว่อร์ ดันงบลงทุนบานปลาย
แนวหน้า 4 ก.ค. 54

ปลัดคมนาคม แฉ "ที่ปรึกษา"ออกแบบรถไฟฟ้าหรูหราเกินความจำเป็น ดันงบลงทุนบานปลาย จี้ การรถไฟฯ เข้ามาดูแลการออกแบบร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาแทน "สนข."

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าต่างๆ ต้องใช้เงินลงทุนสูงนั้น สาเหตุมาจากการออกแบบที่เกินความจำเป็น ส่งผลให้ค่าก่อสร้างสูง และเป็นภาระของการลงทุนของโครงการในภาพรวม อย่างการออกแบบรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) ในสถานีตลิ่งชัน และสถานีบางบำหรุ สถานีมีขนาดใหญ่มากเกินความจำเป็น

"ยอมรับว่า สาเหตุสำคัญคือ การที่หน่วยงานเจ้าของโครงการ เช่น ร.ฟ.ท.ไม่ได้เป็นผู้ออกแบบรายละเอียด หรือควบคุมการออกแบบของบริษัทที่ปรึกษาเอง ดังนั้นจะต้องเร่งปรับปรุงการทำงานระหว่างหน่วยงานเจ้าของโครงการ อาทิ ร.ฟ.ท.กับ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) โดยการแบ่งบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจนขึ้น"

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สนข.เป็นองค์กรที่ดูนโยบายการดำเนินโครงการในภาพรวม กำหนดแนว วางแผนโครงการเพื่อนำไปสู่การขออนุมัติในการหลักการ ศึกษาความเหมาะสม และแบบเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนการออกแบบรายละเอียดที่จะมีการนำไปก่อสร้างจริงนั้นจะต้องส่งต่อให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเป็นผู้รับผิดชอบ

"ผมเพิ่งมาเห็นแบบสถานีตลิ่งชัน และบางบำหรุ ว่าใหญ่โตมาก หลังจากประมูลไปแล้วและกำลังก่อสร้าง ซึ่งแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้ที่ปรึกษาออกแบบสถานีไว้ใหญ่มากเพราะ ยิ่งค่าก่อสร้างสูง ค่าที่ปรึกษาก็สูงตามไปด้วย เรื่องนี้จะโทษที่ปรึกษาอย่างเดียวไม่ได้ เพราะต้องอยู่ที่คนคุมการออกแบบด้วย ว่า มีความชำนาญ และมีความรู้จริงหรือไม่ ดังนั้นร.ฟ.ท.จะต้องสร้างคนที่มีความรู้ความชำนาญด้านการออกแบบการก่อสร้างจริงๆ ขึ้นมาด้วย ถึงจะทำให้มีขีดความสามารถในการดูแลโครงการเองตั้งแต่ต้นจนจบ "นายสุพจน์ กล่าว

พร้อมกันนี้ ร.ฟ.ท. จะต้องปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน และเพิ่มความชำนาญให้กับบุคลากรของตนเอง เพราะที่ผ่านมาร.ฟ.ท. มีปัญหาทำงานช้า ทำให้ สนข. ต้องดูแลเรื่องการออกแบบในบางโครงการให้

สำหรับ โครงการที่จะเริ่มดำเนินการหลังจากนี้ เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี) ระยะทาง36 กิโลเมตร เป็นระบบรถไฟฟ้าขนาดเบา (โมโนเรล) และ สายสีส้ม (ตลิ่งชัน-ราชดำเนิน-หลานหลวง-เพชรบุรีตัดใหม่-ศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี) ระยะทาง 37.5 กิโลเมตร ซึ่งสนข.ได้มีการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้นไปแล้ว

มีรายงานสำหรับโครงการรถไฟที่กำลังศึกษาก่อนการก่อสร้าง มีอยู่หลายโครงการ รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ ระยะทาง 12.6 กิโลเมตร เพื่อลดความแออัดของการจราจร และโครงการอื่นๆ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44058
Location: NECTEC

PostPosted: 04/07/2011 12:49 am    Post subject: Reply with quote

ก็อยากจะรู้จริงว่า รถไฟฟ้า 10 สาย ของ มาดามปู จะเข้าท่ากว่า 12 สายของคุณมาร์กหรือเปล่า
แต่ถ้าจะบังคับ 20 บาทตลอดสายน่ากลัวจะยากในทางปฏิบัติ เอาเข้าจริงได้แบ่งโซนตามระยะทางแน่ๆ แม้ว่าโซน 1 จะคิด 20 บาท

แต่บางคนว่า ถ้าคิด 20 บาทรวดรถไม่แน่นเป็นนรกหรือเพราะ ทุกวันนี้ คิดตามระยะทางก็แทบจะเกิดคดีลวนลามที่ทำท่าจะเป็นการกระทำชำเราเหมือนในรถไฟญี่ปุ่นสาย Yamanote เข้าไปทุกทีแล้ว ... Shocked
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 04/07/2011 8:55 am    Post subject: Reply with quote

แนวคิด น่าจะทำได้ แต่ในทางปฏิบัติ บริษัทหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะล้มละลายสิครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 38, 39, 40 ... 284, 285, 286  Next
Page 39 of 286

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©