ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

Wisarut · Posted: 22/02/2007 2:49 pm Post subject:

รองผู้ว่าฯ รฟท. ยื่นลาออก หลังถูกดองเสนอเป็นผู้ว่าฯ รฟท.ใหม่

Nation Hot News 14:24 น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท.) ช่วงบ่ายวันนี้ ที่ประชุมจะพิจารณาวาระที่ผู้บริหารขอลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งนายยุทธนา ทัพเจริญ รองผู้ว่าการ รฟท. ได้ยื่นใบลาออก โดยขอให้มีผลทันทีหลังคณะกรรมการอนุมัติ

สำหรับสาเหตุการลาออกครั้งนี้ คาดว่าจะมาจากการที่นายยุทธนา ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการ รฟท.ชุดที่แล้ว ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. คนใหม่ ตั้งแต่ก่อนการยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 และได้ผ่านขั้นตอนการเจรจาต่อรองค่าจ้างจากกระทรวงการคลังแล้ว แต่เมื่อกระทรวงการคลังส่งเรื่องกลับมาให้คณะกรรมการ รฟท. อนุมัติในขั้นตอนสุดท้าย ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี จนถึงขณะนี้ คณะกรรมการ รฟท. กลับไม่นำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณา ทำให้นายยุทธนา อึดอัดใจ และตัดสินใจยื่นใบลาออกดังกล่าว

Wisarut · Posted: 27/02/2007 1:02 pm Post subject:

บอร์ด รฟท.อนุมัตินำเข้ารถไฟ เจอาร์เวสต์ จากญี่ปุ่นอีก 32 ขบวน

สำนักข่าวไทย 25 กุมภาพันธ์ 2550

นายถวิล สามนคร รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท. ) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ รฟท. เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้อนุมัติการนำเข้ารถไฟใช้แล้วจาก บริษัท เจอาร์ เวสต์ ประเทศญี่ปุ่นอีก 32 ตู้ โดยบริษัทฯ ดังกล่าวได้ให้เปล่า โดยไม่คิดค่าตอบแทนแต่อย่างใด ซึ่ง รฟท.จะนำมาดัดแปลงและตกแต่งให้มีสภาพใหม่ เพื่อนำมาให้บริการประชาชน โดยใช้งบประมาณตกแต่งขบวนละ 3 - 4 ล้านบาท รวม 128 ล้านบาท ซึ่งในเดือนมีนาคมนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่ รฟท.ไปเจรจารายละเอียดกับบริษัทฯ เกี่ยวกับการขนย้ายรถไฟจากญี่ปุ่นมาที่ไทย คาดว่าบริษัทฯ จะทยอยจัดส่งรถไฟให้ รฟท.ลอตแรก ในเดือนมิถุนายนนี้ จำนวน 8 ตู้ และครบทั้งหมดภายในเดือนตุลาคมนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถไฟที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น รฟท.จะต้องลงทุนเปลี่ยนเพลาใหม่ และปรับเปลี่ยนบันไดขึ้นลงให้ต่ำลง เพราะรถไฟของญี่ปุ่นใช้บันไดสูง วิ่งในความเร็วประมาณ 70 - 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่ระบบรางของรถไฟญี่ปุ่น และของไทยไม่เหมือนกัน ทำให้ต้องวิ่งช้า จากปกติที่รถไฟญี่ปุ่นวิ่งได้ความเร็วมากถึง 100 - 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ ส่วนภายในขบวนรถตกแต่งเป็นรถนอนห้องละ 4 เตียง

ทั้งนี้ หลังจากที่คณะกรรมการ รฟท.อนุมัติแล้ว รฟท.จะทำหนังสือสอบถามกับบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด หรือ บทด.ในฐานะที่เป็นรัฐวิสาหกิจด้วยกันว่า จะขนขบวนรถไฟทั้ง 32 ขบวนได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้จะต้องเปิดประมูลหาเอกชนเข้ามาบริหารจัดการภายใน 2 เดือนข้างหน้า แต่อยู่บนเงื่อนไขว่า จะต้องหาแคร่สำรองมาเปลี่ยน เนื่องจากรถไฟที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นไม่สามารถนำมาวางลงรางได้ทันที ส่วนค่าใช้จ่ายในการขนย้ายทั้งหมด รฟท.เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด โดยหลังจากที่นำเข้ารถไฟจากญี่ปุ่น จะต้องตกแต่งขบวนรถใหม่ทั้งหมดให้เป็นรถนอน ( รถ Blue Trains แน่แท้เลยเทียว ) และใช้งานได้ประมาณ 10 - 15 ปี โดยจะนำมาให้บริการในเส้นทางต่อไปนี้

กรุงเทพฯ - เชียงใหม่,
กรุงเทพฯ - ปาดังเบซาร์ - บัตเตอร์เวอร์ธ
กรุงเทพฯ - สุไหโก-ลก และ
กรุงเทพฯ - นครศรีธรรมราช

โดยการลงทุนปรับเปลี่ยนขบวนรถดังกล่าวนั้น คาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 4 ปีข้างหน้า.

black_express · Posted: 27/02/2007 1:14 pm Post subject:

คราวนี้ ผู้โดยสารชาวไทย จะต้องสร้างความเคยชินในการโดยสารรถนอนร่วมกับผู้อื่น ในห้องเดียวกัน

puggi · 3rd Class Pass Joined: 04/07/2006 Posts: 119

puggi · 3rd Class Pass Joined: 04/07/2006 Posts: 119

CENTENNIAL · Posted: 05/03/2007 9:41 am Post subject:

หากไปกันเป็นทีม คงกลายเป็น รถนอนเมา เพราะกินเหล้าได้ทั้งคืนโดยไม่ต้องเกรงใจคนอื่น เพราะเป็นห้องส่วนตัว beer2

Wisarut · Posted: 12/03/2007 6:52 pm Post subject:

นับถอยหลังรถไฟฟ้าสีแดงแจ้งเกิด 2 สัปดาห์ " ธีระ " ชง ครม.เปิดประมูล

" ธีระ " จี้ ร.ฟ.ท.เปิดประมูลรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน เตรียมชง ครม.อนุมัติประกวดราคามีนาคมนี้ เกาะติดความคืบหน้า " แอร์พอร์ตลิงก์ " หลังพบความล่าช้า 28.81% เร่งผู้รับเหมาสร้างให้เสร็จปลายปี 51 ดันต่อรางคู่ฉะเชิงเทรา - ศรีราชา - แหลมฉบัง มูลค่า 5,235 ล้านบาท อีก 2 สัปดาห์เสนอ ครม.อนุมัติประกวดราคา ด้าน " ศิวะ แสงมณี " ประธานบอร์ด เสนอ 3 ทางเลือกแก้ปัญหาจ่ายเงินกู้แอร์พอร์ตลิงก์ เจรจาแบงก์ขยายเวลาปล่อยกู้ รีไฟแนนซ์ ของบประมาณจากรัฐ

พลเรือเอกธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนพยายามเร่งรัดและติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ( ร.ฟ.ท.) เป็นระยะๆ เนื่องจากได้มอบนโยบายให้ดำเนินการหลายๆ เรื่อง ซึ่งบางส่วนต้องนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี ( ครม.) พิจารณา คือ โครงการก่อสร้างรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร จะเสนอให้ ครม.อนุมัติประกวดราคาได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ จากนั้นจะเปิดประมูลได้ในเดือนเมษายน และเริ่มก่อสร้างเดือนตุลาคม เป็นต้นไป

การปรับโครงสร้างหนี้ มูลค่า 40,000 กว่าล้านบาทของการรถไฟฯ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะเสนอให้ ครม.อนุมัติได้เร็วๆ นี้ ขณะที่การติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ตเรลลิงก์ ที่ล่าช้าอยู่ในขณะนี้ คาดว่าคงไม่สามารถสร้างได้เสร็จทันตามกำหนดปลายปีนี้ ซึ่งจะต้องมีการขยายเวลาออกไป แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาของการรถไฟฯ ว่า จะให้ผู้รับเหมาต่อสัญญาออกไปกี่เดือน แต่คงจะไม่อนุมัติตามที่ผู้รับเหมาเสนอมา คือ 15 เดือน คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปลายปี 2551 อาจจะล่าช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย

พลเรือเอกธีระกล่าวต่อว่า โครงการอื่นมีการขออนุมัติก่อสร้างโครงการรถไฟรางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา - ศรีราชา - แหลมฉบัง ระยะทาง 78 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 5,235 ล้านบาท ขณะนี้เรื่องอยู่ที่กระทรวงคมนาคม จะเสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติได้ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ เนื่องจากเป็นโครงการเร่งด่วน ช่วยแก้ปัญหาเรื่องการขนส่งสินค้า

นายศิวะ แสงมณี ประธานคณะกรรมการ ( บอร์ด ) การรถไฟฯ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ปัจจุบันมีความคืบหน้า 54.04% จากแผนงาน 82.85% ล่าช้าอยู่ 28.81% เนื่องจากส่งมอบพื้นที่ให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างล่าช้า แต่ปัจจุบัน การรถไฟฯได้ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว จากนี้ไป จะเร่งให้ผู้รับเหมาก่อสร้างเดินหน้าก่อสร้างให้เสร็จโดยเร็ว ซึ่งตั้งเป้าไว้จะให้เสร็จปลายปี 2551

" ส่วนการที่สัญญากำลังจะครบกำหนด 990 วัน ที่ได้เซ็นสัญญากู้เงินจากสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ 26,000 ล้านบาท แต่เพราะงานก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จตามสัญญา กำลังพิจารณาจากทางเลือก 3 ทาง เพื่อแก้ไขปัญหา คือ

1. เจรจาขอต่อสัญญาเงินกู้ออกไปอีกจนกว่างานก่อสร้างจะเสร็จ
2. รีไฟแนนซ์มูลหนี้ทั้งหมด และ
3. ของบประมาณจากรัฐเพื่อนำมาชำระหนี้ที่ครบกำหนดชำระไปก่อน"

Wisarut · Posted: 01/04/2007 1:37 pm Post subject:

ลำปางจัดงานฉลองรถไฟ-รถม้าครบ 91 ปี

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 เมษายน 2550 12:48 น.

ลำปาง - ขบวนรถไฟขบวนพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ 91 ปี ของการเปิดการเดินรถไฟสายเหนือมาถึงลำปางเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นและคึกคัก

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (1 เม.ย.) นายอมรทัติ นิรัติศยกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด และประชาชนชาวจังหวัดลำปาง ร่วมใจกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 81 รูป ที่บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟนครลำปาง เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และเพื่อให้เป็นการเฉลิมฉลองที่การรถไฟได้เปิดให้บริการรถไฟสายเหนือโดยมาสิ้นสุดที่จังหวัดลำปาง และการให้บริการรถม้าลำปาง ครบรอบ 91 ปีในวันที่ 1 เมษายน 2550 ซึ่งทั้งรถไฟ และรถม้า ถือว่ามีความสำคัญต่อการคมนาคมและการเดินทางของประชาชน และการท่องเที่ยว ของนครลำปาง นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

ขบวนรถไฟขบวนด่วนพิเศษที่ SP ที่ 13 โบกี้สุดท้ายซึ่งออกจากหัวลำโพงเวลา 19.30 น.ถึงลำปาง 07.00 น.ทางผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยคณะและชาวลำปางมีพิธีต้อนรับอย่างอบอุ่นและยิ่งใหญ่โดยจำลองบรรยากาศย้อนยุค มีการแสดงและแต่งกายที่ย้อนยุคไปในสมัยรัชกาลที่ 5, 6, 7 มีการมอบดอกมะลิและพาชมกิจกรรมที่จัดในงาน อาทิ ชมการจัดนิทรรศการความเป็นมาของรถไฟรถม้าลำปาง ชมและเลือกซื้ออาหารและสินค้าในกาดหมั้ว ซึ่งได้จำลองบรรยากาศสมัยเก่ามาไว้บริการแก่นักท่องเที่ยว พร้อมกับชมการละเล่นพื้นบ้าน เช่น ตีวงล้อ โยกเยก มอญซ่อนผ้า และการละเล่นพื้นบ้านอื่นๆ อีกมากมาย

หลังจากที่นักท่องเที่ยวได้ชมการจัดนิทรรศการต่างๆ ที่บริเวณสถานีรถไฟนครลำปางแล้วจะเป็นการนำเที่ยวตามโปรแกรมที่จัดไว้รวม 3 วัน 2 คืนทางทีมงานก็จะพานั่งรถม้าไปชมสถานที่สำคัญๆ ซึ่งในประวัติศาสตร์สถานที่เหล่านี้ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมทั้งสิ้น 35 จุดพานักท่องเที่ยวไปไหว้หลวงพ่อดำ และโบราณสถานเก่าแก่ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของคนลำปาง

พร้อมทั้งพาชมแหล่งผลิตสินค้าโอท๊อปของจังหวัดลำปาง และนำเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ต่างๆด้วย และในช่วงเย็นนักท่องเที่ยวจะได้ร่วมรับประทานอาหารแบบข้าวแลงสะโตก พร้อมชมการแสดงแสง สี เสียง วันประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของรถไฟรถม้า

AONZON · Posted: 02/04/2007 8:52 am Post subject:

ข่าวจากหนังสือพิมพ์โพสทูเดย์ เมื่อวันก่อน ( ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๐) ระบุว่า ครม.อนุมัติให้ รฟท.จัดซื้อ รถจักรดีเซลจากจีนแล้ว ๗ คัน แก้ปัญหารถจักรขาดแคลน โดยส่วนหนึ่งใช้ข้าวสารที่ค้างสต๊อกของรัฐบาลคิดเป็นเงินราว 5% ของวงเงินค่ารถจักรไปซื้อในครั้งนี้ ครับ ถือเป็นข่าวดีอีกข่าว (ยังดีกว่าไม่ได้เลย รถจักรของ รฟท. ยังดีที่เสียไม่ไกลสถานี แก้ปัญหาลากกลับมาได้ แต่กองทัพอากาศไม่ได้จัดหา เครื่องบินขับไล่มาพอๆกับ รฟท. แต่เสียที คือตก นักบินตายครับ )

Wisarut · Posted: 27/04/2007 10:42 am Post subject:

ยกเครื่องการรถไฟ ตั้ง3บ.คุมสินทรัพย์ ล้างหนี้หมื่นล้าน/ปี
Prachachart Thurakij - April 26, 2007

การรถไฟฯดิ้นแก้หนี้ 4.8 หมื่นล้าน แถมขาดทุนบักโกรกปีละเกือบหมื่นล้าน งัดแผนฟื้นฟูปรับโครงสร้างองค์กร-ธุรกิจ โยนลูกรัฐรับภาระลงทุนโครงสร้างและการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานระบบราง-สถานี และการเดินรถเชิงสังคม ขอเอี่ยวแค่เดินรถเชิงพาณิชย์-ขนส่งสินค้า ดันตั้ง 3 บริษัทลูกบริหารจัดการทรัพย์สิน บริหารรถไฟฟ้าสายสีแดง และลอจิสติก

นายนคร จันทรศร รองผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากที่รัฐบาลได้มอบหมายให้การรถไฟฯหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาภาระหนี้ ปัญหาด้านการบริหารจัดการ และการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรที่ค่อนข้างซับซ้อนและขาดความชัดเจน ล่าสุดได้เสนอแผนฟื้นฟูการรถไฟฯให้คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯพิจารณา และได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา จากนั้นจะขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

"แผนฟื้นฟูที่จัดทำขึ้นนี้น่าจะแก้ปัญหาทั้งหมดของการรถไฟฯได้ แต่หลายๆ ฝ่ายต้องร่วมมือกัน ในส่วนของกระทรวงการคลัง สศช. ก็เห็นชอบด้วยกับแผน และต้องการจะผลักดันให้เกิดขึ้น ที่น่าห่วงก็คืออาจจะถูกคัดค้านจากคนบางกลุ่มภายในองค์กรเอง (โดยเฉพาะบรรดาสหภาพตัวดี) ที่ไม่เข้าใจ หรือไม่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

สาเหตุที่ต้องเร่งจัดทำแผนฟื้นฟูเป็นเพราะ ปัจจุบันการรถไฟฯมีภาระหนี้รวมสูงถึง 48,260 ล้านบาท ต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ประมาณ 2,000 ล้านบาท/ปี ทั้งๆ ที่การดำเนินการที่ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง โดยปี 2549 ที่ผ่านมาขาดทุน 6,427 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่ขาดทุน 6,387 ล้านบาท ซึ่งหากไม่เร่งแก้ไขปัญหาปีนี้คาดว่าตัวเลขขาดทุนจะสูงขึ้นเป็น 9,307 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพิ่มขึ้น สวนทางกับรายได้ที่มีแนวโน้ม โดยปี 2547 มีรายได้ 8,636 ล้านบาท รายจ่าย 8,562 ล้านบาท

ปี 2548 มีรายได้ 8,475 ล้านบาท รายจ่าย 9,401 ล้านบาท ปี 2549 มีรายได้ 8,967 ล้านบาท รายจ่าย 10,10,542 ล้านบาท และปี 2550 คาดว่าจะมีรายได้ 8,633 ล้านบาท ส่วนรายจ่ายอยู่ที่ 11,120 ล้านบาท นอกจากนี้มีค่าใช้จ่ายเบี้ยบำนาญที่ต้องรับภาระถึงปี พ.ศ.2600 อีก 160,000 ล้านบาท

นายนครกล่าวว่า แผนการฟื้นฟูการรถไฟฯที่จัดทำขึ้น มีวัตถุประสงค์ที่จะแก้ไขปัญหาในภาพรวมทั้งหมด คือ

1.ปัญหาหนี้สิน ปัจจุบันการรถไฟฯประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่าง รุนแรง เนื่องจากมีหนี้ก้อนโตกว่า 48,260 ล้านบาท ทำให้มีภาระจ่ายดอกเบี้ย 1,990 ล้านบาท/ปี

2.ปัญหาด้านการดำนินการที่ถดถอยและขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ขาดประสิทธิภาพในการแข่งขัน และการบริหารจัดการทรัพย์สินไม่มีประสิทธิภาพ

3.ภาระจ่ายเงินบำนาญพนักงาน 2,200 ล้านบาท/ปี ถึงปี 2600 จะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้สูงถึง 160,000 ล้านบาท

4.ปัญหาด้านกลยุทธ์ เป็นผลมาจากโครงสร้างองค์กรมีความซับซ้อน นโยบายในการดำเนินการไม่ชัดเจน และรัฐบาลไม่จ่ายเงินชดเชยผลขาดทุนในการเดินรถให้บริการในเชิงสังคมปีละ 3,00-4,000 ล้านบาท ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกฎหมายจัดตั้งการรถไฟฯ โดยปัจจุบันตัวเลขเงินชดเชยที่รัฐค้างจ่ายอยู่ในระดับ 18,000 ล้านบาท

จากนั้นได้กำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหา โดยปรับโครงสร้างธุรกิจ แก้ปัญหาภาระหนี้ที่มีอยู่ทั้งหมด ปรับเปลี่ยนการบริหาร ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมในการทำงาน และเร่งพัฒนาโครงสร้าง การขนส่ง เพื่อสนองนโยบายของภาครัฐที่ต้องการจะพัฒนาระบบลอจิสติก รองรับการขนส่งสินค้าภาคอุตสาหกรรมและการส่งออก การเดินทาง ลดการนำเข้าพลังงาน ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มความปลอดภัยในการขนส่ง

โดยจะปรับโครงสร้างธุรกิจด้วยการแยกเป็น

1.core business คือการเดินรถ และการซ่อมบำรุง โดยให้รัฐสนับสนุนงบประมาณในการลงทุนพัฒนาระบบราง 211,973 ล้านบาท ก่อสร้างทางและเครือข่ายเพื่อให้บริการโดยสารชานเมือง การโดยสารเชิงพาณิชย์ และการขนส่งสินค้าอาทิ

1.1 การก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ก่อสร้างทางยกระดับในเมือง 8 หมื่นกว่าล้านบาท หลักๆ คือ เชื่อมเส้นทางไปถึงเขตชานเมือง อาทิ เชียงรากเหนือ รังสิต ไปบ้านภาชี หัวหมาก-ฉะเชิงเทรา ตลิ่งชัน-นครปฐม ฯลฯ 1.4 แสนล้านบาท
1.2 ก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ 1.5 แสนล้านบาท เป็นต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินรถ

ส่วนการดูแลโครงสร้างพื้นฐาน จะหารือกันว่ารัฐจะเข้ามารับภาระสนับสนุนค่าใช้จ่ายได้มากน้อยเพียงใด

2.non-core business คือการบริหารจัดการสินทรัพย์ของการรถไฟฯ ซึ่งปัจจุบันการรถไฟฯมีที่ดินบริเวณเขตทางและสถานีทั่วประเทศประมาณ 2.3 แสนไร่ ในจำนวนนี้สามารถนำมาบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์ได้ 34,487 ไร่ โดยที่ดินที่อยู่ในทำเลเด่นๆ และมีศักยภาพสูง อาทิ ที่ดินบริเวณถนนพหลโยธิน 1,070 ไร่ มักกะสัน 745 ไร่ เป็นต้น ทั้งนี้ปี 2549 ที่ผ่านมาการรถไฟฯมีรายได้จากการบริหารทรัพย์สินรวม 2,645 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่อยู่ในระดับ 2,479 ล้านบาท

นายนครกล่าวว่า ในการปรับโครงสร้างการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูจะให้รัฐรับภาระในการกำหนดนโยบายการลงทุน และลงทุนก่อสร้าง และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และระบบอาณัติ สัญญาณ การควบคุมการเดินรถ สถานี หอสัญญาณ และการเดินรถโดยสารเชิงสังคม ส่วนภารกิจที่การรถไฟฯจะเป็นผู้ดำเนินการ ประกอบด้วย การขนส่ง หรือกิจกรรมเสริมการเดินรถโดยสารเชิงพาณิชย์ การเดินรถสินค้า และการพัฒนารายได้อื่นๆ ที่เกี่ยวกับขบวนรถ (rail related business)

"เราจะเสนอให้รัฐรับภาระหนี้บางส่วน ได้แก่ หนี้ค่าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 1.5 หมื่นล้านบาท หนี้ค่าชดเชย 1.8 หมื่นล้านบาท และแลกที่ดินที่หน่วยงานราชการเช่าใช้หนี้อีกประมาณ 4,000 ล้านบาท เพื่อให้หนี้การรถไฟฯลดลง จากนั้นจะมีการปรับระบบการเดินรถ และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เช่น ลดบุคลากร โดยนำระบบไอทีเข้ามาใช้ ซึ่งจะทำให้มีรายได้เข้ามามากขึ้น ในที่สุดก็จะสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง"

ขณะเดียวกันจะมีการจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมา 3 บริษัท คือ

1.บริษัทบริหารสินทรัพย์ รับผิดชอบดูแลและบริหารจัดการทรัพย์สินของการรถไฟฯ คล้ายๆ กับบริษัทวังสินทรัพย์ฯ ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

2.บริษัทบริหารรถไฟฟ้า รองรับการลงทุนโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต และ

3.บริษัทขนส่งสินค้าภาคตะวันออก ทำหน้าที่บริหารจัดการด้านลอจิสติก รองรับโครงการทางรถไฟรางคู่ รถไฟทางคู่ลาดกระบัง-ท่าเรือแหลมฉบัง

"ในส่วนของบริษัทบริหารสินทรัพย์ เราจะให้มาบริหารจัดการเรื่องบำนาญด้วย เช่น หากได้ค่าเช่าที่ดินจากเซ็นทรัล หรือรายอื่นมา 1.5 หมื่นล้านบาท ก็จะนำไปจัดตั้งเป็นกองทุนบริการจัดการ โดยอาจซื้อพันธบัตรรัฐบาล เพื่อให้มีรายได้เข้ามาหมุนจ่ายภาระค่าใช้จ่ายบำนาญ เป็นต้น ทั้งหมดนี้หากได้รับความเห็นชอบจาก ครม.และนำไปสู่การปฏิบัติได้ ก็น่าจะทำให้ฐานะทางการเงินของการรถไฟฯดีขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันจะมีการปรับปรุงการให้บริการด้านต่างๆ ให้ดีขึ้นพร้อมๆ กันไปด้วย" นายนครกล่าว