View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
lovelovecat
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/10/2010 Posts: 1288
Location: รถดีเซลราง THN/NKF
|
Posted: 17/07/2011 10:15 pm Post subject: มีใครเคยได้กลิ่นเหม็นไหม้ เมื่อรถไฟเบรกบ้างครับ |
|
|
รู้สึกว่า ตั้งแต่ปี 2554 ได้นั่งรถไฟ เเล้ว พอรถเบรก ก็จะมีกลิ่นอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งเหม็นไหม้ อยากจะเป็นลม
ถ้าเป็นเเบบนี้บ่อยๆก็คงไม่ดีนะครับ
ขนาดรถดีเซลรางใหม่ๆ ยังมีกลิ่นเหม็นไหม้ออกมาเลย อย่างขบวน 355 เนี่ย วิ่งเร็วๆมาผ่านบ้านฉิมพลี(70กม./ชม.+)
จนใกล้ถึง ป้ายพุทธมณฑลสาย2 รถก็เบรกอย่างเร็วเลยครับ เเต่ไม่เบรกหัวทิ่มนะ ก็มีกลิ่นเหม็นไหม้ออกมาครับ
ขบวนรถท้องถิ่น 445 ก็มีกลิ่นเเบบเดียวกันกับ อันที่กล่าวมาครับ เบรกก็เปรกปกติเหมือนรับส่ง ผู้โดยสารนี่แหละ
เมื่อก่อน(ก่อนปี2554) รถไฟไม่เคยมีกลิ่นไหม้เเบบนี้นี่ ทั้งๆที่รถหยุดตามปกติ ไม่ใช้ emergency brake ซักนิดเดียว
รถไฟ ยิ่งนานๆไป ก็ยิ่งเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเลย อันตรายต่อสุขภาพมากๆ ถ้าเจอกลิ่นเหม็นไหม้ ก็ให้รีบๆเอาผ้าปิดจมูกเลยครับ
เเล้วสิ่งที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากอะไร ใครรู้บ้าง ใครเจอมาบ้างเนี่ย ได้กลิ่นเเล้ว อยากเอายาดมมาดมมากๆเลย _________________ ชอบนั่งรถดีเซลราง THN/NKF ชอบกอดดีเซลราง ชอบฟังเสียงเครื่องยนต์ดีเซลรางดังสะใจมาก
กซข.1104 1115 1118 1121 1129 1130 1132 1138 1215 1217 1219 1225 1232 1248 1249 1259 1263 |
|
Back to top |
|
|
nop2
2nd Class Pass (Air)
Joined: 06/03/2008 Posts: 985
Location: เพชรบุรี
|
Posted: 17/07/2011 10:31 pm Post subject: |
|
|
ผ้าเบรกทำจากใยหิน กลิ่นก็เช่นนี้แหละ ลองไปเบรกรถยนต์หรือมอเตอร์ไซด์แรงๆ ดูก็ได้กลิ่นแบบเดียวกันครับ _________________ "You are star I am darkness Our love brighter than the sun .." |
|
Back to top |
|
|
suraphat
1st Class Pass (Air)
Joined: 12/02/2007 Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง
|
Posted: 17/07/2011 10:37 pm Post subject: |
|
|
ด้วยเหตุนี้ละครับที่อาจจะทำให้เกิดเหตุให้ปลอกล้อเป็นแผลได้โดยง่ายนะครับ หากมีการลงห้ามล้อในแบบกระทันหันบ่อยๆนะครับ
ว่าแต่ว่าอย่างนี้ต้องรอคำตอบจากผู้รู้ที่เกี่ยวกับปัญหานี้แล้วละครับ |
|
Back to top |
|
|
theconandoi
3rd Class Pass (Air)
Joined: 05/07/2010 Posts: 327
Location: -๑ไฟฟ้ากำลัง๑-มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ภาคพายัพเชียงใหม่
|
Posted: 17/07/2011 11:08 pm Post subject: |
|
|
ธรรมดา รถไฟไทยแหละครับ ของเรายังไม่ถึงกับของนอก ที่เป็นดิสเบรค ของเราก็ต้องเป็นอย่างนี้ไปก่อนหละครับ แต่ขึ้นหลายๆครั้งเดี่ยวก็ชินไปเอง ผมขึ้นตั้แต่ด็กยัน ปัจจุบัน ก็โดนกลิ่นนี้ตลอด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา แค่ทำให้ใบหน้าดูหมองลงและคล้ำ และบางคนอาจจะเกิดสิวเสี้ยนตามมา อย่างผม จนตอนนี้ต้องคิดก่อนยื่นหัวออกนอกหน้าต่างชมวิวแล้ว หนักใจจริงๆ ^^" _________________ ซักวันผมจะเข้า วรฟ.ให้พี่ๆได้ภาคภูมิใจ จะเป็น พขร.ดั่งใจหวัง
|
|
Back to top |
|
|
headtrack
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/05/2009 Posts: 1627
Location: ละแวกภาคกลางตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง
|
Posted: 17/07/2011 11:11 pm Post subject: |
|
|
อันดับแรก...กลิ่นไหม้ที่ท่านได้รับ...มาจากการห้ามล้อ ถูกต้องแล้ว (คือเบรกนั่นแลครับ...หากใช้คำไทยกับรถไฟ ใช้ว่า "ห้ามล้อ" *)...
การห้ามล้อ ใช้ "แท่งห้ามล้อ" ไปจับกับล้อ โดยระบบห้ามล้อใดใด ก่อนหน้านี้ แท่งห้ามล้อผลิตด้วยวัสดุประเภท "ขาง"
คือเหล็กหล่อที่ประสมถ่านเถ้า, ซิลิกา และแอสแบสตอล (พวกมูลทรายและใยหิน) เพื่อให้เปราะกว่าล้อที่เปนเหล็กเหนียว
ทำนองเดียวกับหินลับมีด...
...สังเกตได้ว่ากลิ่นที่ท่านประสบรุนแรงนั้นจะประสบกับขบวนรถดีเซลรางโดยมาก เพราะประสิทธิภาพการห้ามล้อของดีเซลรางนั้นสูงกว่า
และปัจจุบันรถดีเซลรางหลายคันได้รับการเปลี่ยนมาใช้แท่งห้ามล้อที่ผลิตโดยวัสดุประเภท "ไฟเบอร์" คือวัสดุประเภทที่คล้ายคลึงกับใบเจียรใบตัดในงานโลหะ...
ข้อดีของแท่งห้ามล้อไฟเบอร์คือ ประสิทธิภาพการห้ามล้อที่ดีขึ้น และสึกหรอช้ากว่า
เพราะดีเซลรางส่วนมากใช้การ เร่ง/หยุด ที่ฉับพลันกว่า (ด้วยประสิทธิภาพของรถ) ...
แต่ข้อเสียของแท่งห้ามล้อไฟเบอร์คือมหึมากลิ่นที่เหมือนไปดมการตัดเหล็กตามไซต์ก่อสร้างก็ไม่ปาน...
...อย่างไรก็ดี แท่งห้ามล้อชนิดนี้พัฒนาขึ้นมาโดยพื้นฐานความคิดให้ใช้กับรถปรับอากาศเปนหลัก น่ะครับ...
__________________________________________
* การห้ามล้อของรถไฟทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานมหาศาล
ขนาดว่านำพลังงานดังกล่าวมาต้มนำ้แข็ง ๑ ลูกบาศก์เมตร ให้เปนน้ำเดือดได้ในไม่กี่วินาที
พลังงานที่สูญเสียไปส่วนมากแปรรูป (ตามกฏทรงพลังงาน) เปนความร้อนและเสียง
แลส่วนหนึ่งแปรรูปเปนพลังงานเคมีคือ "กลิ่น" ที่่ท่านได้รับนั่นเอง...
และพูดถึงคำว่า "ห้ามล้อ" ทำให้พาลนึกถึงตำแหน่งหนึ่งบนขบวนรถ คือ พนักงานห้ามล้อ ที่ทำหน้าที่ตรวจตั๋วโดยสาร สมัยก่อน
พนักงานตำแหน่งนี้มีอีกหน้าที่สำคัญคือมีส่วนร่วมในการช่วยกัน "ห้ามล้อ" ขบวนรถจริงๆ แต่ปัจจุบันการห้ามล้อล้วนควบคุมจากห้องขับ
พนักงานห้ามล้อจึงมีหน้าที่ตรวจตั๋วโดยสารเปนหลัก...
...แต่มีความหมายอีกนัย...คือท่านผู้โดยสาร ห้ามไป "ล้อ...เล่น..." กับพี่ท่านนะครับ ... _________________
Find me on Instagram: @632knongtsaikhaow
Last edited by headtrack on 17/07/2011 11:50 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
therock
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/09/2007 Posts: 1575
Location: อดีตเด็กมหาชัย
|
Posted: 17/07/2011 11:24 pm Post subject: |
|
|
แต่จากที่พอรู้มาบ้านเราเล่นเอาห้ามล้อไฟเบอร์ ไปใช้กับรถทุกประเภท
ปล. ถึงรถปรับอากาศบ้านเรากลิ่นก็ยังเข้ามารบกวนบ้างเพราะประตูไม่ค่อยสนิท |
|
Back to top |
|
|
milkonline
2nd Class Pass (Air)
Joined: 02/07/2009 Posts: 810
Location: อ.เมือง จ.ลพบุรี
|
Posted: 18/07/2011 12:29 am Post subject: |
|
|
ลักศณะของกลิ่นห้ามล้อที่นำมาใช้งานปัจจุบันนี้
กลิ่นจะคล้ายๆ รถเมลล์หรือรถที่ขึ้นเขาแล้วคลัทซ์ไหม้นะครับ _________________ N-Scale model train lovers.
|
|
Back to top |
|
|
boatteam
2nd Class Pass (Air)
Joined: 05/04/2010 Posts: 910
Location: แจ้งวัฒนะ หลักสี่ ปากเกร็ด
|
Posted: 18/07/2011 8:39 am Post subject: |
|
|
ได้กลิ่นเป็นประจำครับ
เพราะยื่นอยู่ตรงประตู ชินแล้วครับ _________________ สถานีบ้านเกิดอรัญประเทศ สุดเขตแดนสยามฝั่งตะวันออก |
|
Back to top |
|
|
RORONOA
2nd Class Pass
Joined: 06/12/2007 Posts: 705
|
Posted: 18/07/2011 8:50 am Post subject: |
|
|
headtrack wrote: | อันดับแรก...กลิ่นไหม้ที่ท่านได้รับ...มาจากการห้ามล้อ ถูกต้องแล้ว (คือเบรกนั่นแลครับ...หากใช้คำไทยกับรถไฟ ใช้ว่า "ห้ามล้อ" *)...
การห้ามล้อ ใช้ "แท่งห้ามล้อ" ไปจับกับล้อ โดยระบบห้ามล้อใดใด ก่อนหน้านี้ แท่งห้ามล้อผลิตด้วยวัสดุประเภท "ขาง"
คือเหล็กหล่อที่ประสมถ่านเถ้า, ซิลิกา และแอสแบสตอล (พวกมูลทรายและใยหิน) เพื่อให้เปราะกว่าล้อที่เปนเหล็กเหนียว
ทำนองเดียวกับหินลับมีด...
...สังเกตได้ว่ากลิ่นที่ท่านประสบรุนแรงนั้นจะประสบกับขบวนรถดีเซลรางโดยมาก เพราะประสิทธิภาพการห้ามล้อของดีเซลรางนั้นสูงกว่า
และปัจจุบันรถดีเซลรางหลายคันได้รับการเปลี่ยนมาใช้แท่งห้ามล้อที่ผลิตโดยวัสดุประเภท "ไฟเบอร์" คือวัสดุประเภทที่คล้ายคลึงกับใบเจียรใบตัดในงานโลหะ...
ข้อดีของแท่งห้ามล้อไฟเบอร์คือ ประสิทธิภาพการห้ามล้อที่ดีขึ้น และสึกหรอช้ากว่า
เพราะดีเซลรางส่วนมากใช้การ เร่ง/หยุด ที่ฉับพลันกว่า (ด้วยประสิทธิภาพของรถ) ...
แต่ข้อเสียของแท่งห้ามล้อไฟเบอร์คือมหึมากลิ่นที่เหมือนไปดมการตัดเหล็กตามไซต์ก่อสร้างก็ไม่ปาน...
...อย่างไรก็ดี แท่งห้ามล้อชนิดนี้พัฒนาขึ้นมาโดยพื้นฐานความคิดให้ใช้กับรถปรับอากาศเปนหลัก น่ะครับ...
__________________________________________
* การห้ามล้อของรถไฟทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานมหาศาล
ขนาดว่านำพลังงานดังกล่าวมาต้มนำ้แข็ง ๑ ลูกบาศก์เมตร ให้เปนน้ำเดือดได้ในไม่กี่วินาที
พลังงานที่สูญเสียไปส่วนมากแปรรูป (ตามกฏทรงพลังงาน) เปนความร้อนและเสียง
แลส่วนหนึ่งแปรรูปเปนพลังงานเคมีคือ "กลิ่น" ที่่ท่านได้รับนั่นเอง...
และพูดถึงคำว่า "ห้ามล้อ" ทำให้พาลนึกถึงตำแหน่งหนึ่งบนขบวนรถ คือ พนักงานห้ามล้อ ที่ทำหน้าที่ตรวจตั๋วโดยสาร สมัยก่อน
พนักงานตำแหน่งนี้มีอีกหน้าที่สำคัญคือมีส่วนร่วมในการช่วยกัน "ห้ามล้อ" ขบวนรถจริงๆ แต่ปัจจุบันการห้ามล้อล้วนควบคุมจากห้องขับ
พนักงานห้ามล้อจึงมีหน้าที่ตรวจตั๋วโดยสารเปนหลัก...
...แต่มีความหมายอีกนัย...คือท่านผู้โดยสาร ห้ามไป "ล้อ...เล่น..." กับพี่ท่านนะครับ ... |
เพราะเปลี่ยนมาใช้เป็นไฟเบอร์นี่เอง ถึงว่ากลิ่นเบรกดีเซลรางไม่เหมือนที่เคยได้กลิ่น กลิ่นออกไปทางรุนแรงแม้ลงห้ามล้อไม่มาก และกลิ่นคล้ายพลาสติกมากขึ้น เหตุที่ใช้เหล็กหล่ออีกส่วนหนึ่งเพราะสร้างง่าย ราคาถูก และที่สำคัญคือ เศษที่เกิดจากการตัดเฉือนจะเป็นผง จะทำให้ผิวหน้าของล้อสึกหรอไม่มาก หากไปใช้วัสดุอื่นอาจเกิดปัญหาอาทิเช่น เศษยาว ละลายไปจับผิวหน้าล้อ และที่สำคัญคือผ้าเบรก(แท่งห้ามล้อ) ไม่ควรจะแข็งกว่าล้อ ควรจะเป็นส่วนที่สึกหรอไปก่อน |
|
Back to top |
|
|
anusorn
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/09/2006 Posts: 1642
Location: มณฑลอาคเนย์
|
Posted: 18/07/2011 12:48 pm Post subject: |
|
|
ตำแหน่งการโดยสารที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดคือบริเวณกึ่งกลางรถครับ และที่ดี 2 เด้งคือรถสะเทือนน้อยที่สุดด้วยครับ |
|
Back to top |
|
|
|