RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311906
ทั่วไป:13576599
ทั้งหมด:13888505
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 137, 138, 139 ... 486, 487, 488  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
digimontamer
3rd Class Pass (Air)
3rd Class Pass (Air)


Joined: 12/05/2009
Posts: 487

PostPosted: 04/07/2011 12:54 pm    Post subject: Reply with quote

จริงๆผมว่า ถอดหัวพวกขบวนที่ล่องเข้ากรุงเทพ อย่าง ข.144 หรือ ข.116 มาต่อกับ ขบวนพิเศษ และก็ออกเดินทางก็น่าจะได้นะครับ หรือไม่ก็เด็ดหัวขบวนรถสินค้าที่ล่องลงมาก็ได้

อย่าง ข.144 นี่ส่วนมากจะถึงคลองพุทราไม่เกินตี 2 ถ้าเอาหัวไปใช้ก็เดินทางต่อได้ ไม่ต้องให้ผู้โดยสารไปอัดกันบน ข.143 นา

ปล. ว่าแต่วันนั้น ข.143 ออกต้นทางช้ามากๆเลยนะครับ ตีสี่พึ่งจะไปถึงคลองพุทราเอง ทั้่งๆที่ปกติ ตีสี่ ข.143 ต้องไปถึงคลองไผ่แล้ว
Back to top
View user's profile Send private message
kikoo
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 01/02/2010
Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง

PostPosted: 04/07/2011 3:13 pm    Post subject: Reply with quote

pak_nampho wrote:
^
ทั้ง.....ฟรี
ทั้ง.....ถูก

ขนสัมภาระไม่จำกัด ไม่สนับสนุนหรือ...... Question


เข้าทำนอง"ปากว่า ตาขยิบ"ใช่ไหมครับ?
_________________
ความคืบหน้าโครงการปรับปรุงทางช่วงที่วัง-กันตัง
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5618
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
kamashino
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 04/07/2011
Posts: 24

PostPosted: 04/07/2011 11:45 pm    Post subject: เห็นข่าวนี้นึกถึงโครงการจัดซื้อห้วรถจักร เลย Reply with quote

pak_nampho wrote:
^
ทั้ง.....ฟรี
ทั้ง.....ถูก

ขนสัมภาระไม่จำกัด ไม่สนับสนุนหรือ...... Question
Back to top
View user's profile Send private message MSN Messenger
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 06/07/2011 10:01 am    Post subject: Reply with quote

ถึงเวลา ‘รถไฟไทย’ก้าวสู่บริการระดับอินเตอร์!

คอลัมน์ คมนาคม/ลอจิสติกส์
สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1214
ประจำวันที่ 29 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2554

ปัจจุบันสัดส่วนผู้เดินทางระหว่างจังหวัดของไทยนั้น เป็นการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคลสูงถึงร้อยละ 59 ขณะที่ระบบขนส่งสาธารณะมีเพียงร้อยละ 41 ของผู้เดินทางทั้งหมด ที่สำคัญ...จำนวนผู้ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะแบบประจำทางทั้งรถโดยสารและรถไฟมีทิศทางลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากระบบขนส่งผู้โดยสารสาธารณะไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการได้อย่างแท้จริง ทั้งทางด้านคุณภาพ ความปลอดภัย หรือแม้แต่ความเพียงพอต่อการใช้บริการ

นอกจากนี้ ระบบขนส่งสาธารณะที่มีอยู่ยังมีช่องว่างการให้บริการทั้งด้านเวลา และค่าใช้จ่าย จึงเป็นผลให้ประชาชนหันไปเลือกเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคลแทนมากขึ้น
ดังนั้นจึงยากที่ปฏิเสธว่า หากปล่อยให้แนวโน้มยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ย่อมคาดการณ์ถึงต้นทุนการขนส่งของประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน รวมถึงการใช้พลังงานในภาคขนส่งจะไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

จากประเด็นดังกล่าว การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงขึ้นในวงการรถไฟไทย “ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง” เพื่อให้ประชาชนหันกลับมาให้ความสำคัญในภาคการขนส่งสาธารณะ ซึ่งได้เริ่มจากสถานีรถไฟก่อน ต้องยอมรับว่า ณ เวลานี้ สถานีรถไฟจะดูแปลกตาไปมาก โดยหลายๆ สถานีมีความสะดวก สบาย สะอาดปลอดภัยกว่าอดีตที่ผ่านมา
“ยุทธนา ทัพเจริญ” ผู้ว่าการ การรถไฟฯ บอกว่า ภายหลังโครงการสถานีต้นแบบภาพลักษณ์ใหม่ระยะที่ 1 ได้เปิดให้บริการสถานีต้นแบบ เพื่อเพิ่มความสะดวก สะอาดปลอดภัย และการปรับภูมิทัศน์แวดล้อมสถานีให้สวยงามสร้างความสุขให้แก่ผู้ใช้บริการ ซึ่งนำร่องเปิดสถานีต้นแบบไปแล้วจำนวน 12 แห่ง และได้ปรับปรุงเพิ่มห้องน้ำสะอาด มาตรฐาน HAS ไปพร้อมๆ กันอีกจำนวน 41 แห่งทั่วประเทศ อาทิ สถานีหัวหมาก, สถานีหัวตะเข้, สถานีมวกเหล็ก,สถานีหนองคาย, สถานีบุรีรัมย์, สถานีลพบุรี, สถานีศิลาอาสน์, สถานีนครลำปาง, สถานีกาญจนบุรี, สถานีประจวบคีรีขันธ์, สถานีชุมทางทุ่งสง และสถานีสุไหงโกลก ภายใต้โครงการสถานีต้นแบบภาพลักษณ์ใหม่

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนนโยบายปีแห่งการบริการ (Service Excellence Year) ซึ่งทางการรถไฟฯ ได้เน้นย้ำนโยบายหลักที่ว่าให้คำนึงถึงความปลอดภัยมากที่สุด และได้เน้นให้พนักงานทุกท่านพร้อมให้บริการและเคร่งครัดในเรื่องของการรักษามาตรฐานความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้บริการอย่างเต็มที่เพื่อมุ่งบริการประชาชนที่ใช้เส้นทางโดยสารรถไฟอยู่เป็นประจำตลอดจนช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของทุกปีที่พี่น้องประชาชนต้องเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย

และเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ได้เน้นให้เป็นปีแห่ง “ความปลอดภัย สังคมไทยเป็นสุข” ทางคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟฯระยะเร่งด่วน 2553-2557 ภายใต้กรอบวงเงิน 1.7 แสนล้านบาท โดยกระทรวงคมนาคมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าวจึงเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาจุดตัดรถไฟที่มีอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 2,000 จุด

โดยโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการแรกที่ใช้งบประมาณตามแผนลงทุนของการรถไฟฯ ในวงเงิน 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดถนนกับรางรถไฟได้ โดยได้มีการร่วมมือกับ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ทำการติดตั้งระบบบริเวณที่หยุดสวนสนประดิพัทธ์ ซึ่งใช้งบประมาณในการลงทุนติดตั้งรวมประมาณ 3 ล้านบาท และเป็นการนำร่องระบบเป็นที่แรกก่อนขยายไปยังจุดตัดอื่นๆ ทั่วประเทศที่มีกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ

สำหรับการร่วมมือในการพัฒนาเครื่องต้นแบบระบบเครื่องกั้นถนนอัตโนมัตินั้น ก็เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของการเดินทางผ่านจุดตัดระหว่างถนนกับรางรถไฟ โดยวิทยุการบินฯ ได้ดำเนินการพัฒนาเครื่องต้นแบบระบบเครื่องกั้นถนนอัตโนมัติเรียบร้อยแล้วด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถลดงบประมาณค่าใช้จ่ายจากการนำเข้าระบบเครื่องกั้นถนนอัตโนมัติให้กับประเทศได้จำนวนมาก

ทั้งนี้ วิทยุการบินฯ ได้ประสานกับการรถไฟฯ ในการทดสอบอุปกรณ์ต้นแบบระบบเครื่องกั้นถนนอัตโนมัติให้สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี และได้มีการเปิดใช้เครื่องต้นแบบระบบเครื่องกั้นถนนอัตโนมัติ อย่างเป็นทางการไปแล้ว ซึ่งก็สามารถอำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนได้อย่างดี

แน่นอนว่า รถไฟไทยยังเดินตามหลังหลายๆ ประเทศในภูมิภาคอาเซียน ถ้าหากไม่มีการปรับปรุงบ้าง อะไรบ้าง การต่อกรในภาคขนส่งของไทยก็จะไร้ประสิทธิภาพ
ซึ่งถึงเวลาแล้วที่การรถไฟฯ จะก้าวขึ้นไปสู่การให้บริการที่เป็นระดับอินเตอร์ เพื่อดึงดูดใจให้ประชาชนที่เอือมระอากับรถไฟ “ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง” หันกลับมาให้ความนิยมอีกครั้ง.....
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 15/07/2011 2:18 pm    Post subject: Reply with quote

ผุดกรอบลงทุนโลจิสติกส์ 5แสนล้าน
วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7533 ข่าวสดรายวัน

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ได้ประชุมร่วมกับกระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อวางแผนบูรณาการแก้ปัญหาการขนส่งหลายรูปแบบ หรือระบบโลจิสติกส์ทั่วประเทศ เพื่อนำไปสู่การลดต้นทุนภาคขนส่งของไทยที่สูงกว่า 18% สูงกว่าประเทศในภูมิภาคนี้ เบื้องต้นเสนอตัวเลขเงินลงทุนในระยะ 5 ปีข้างหน้า (ปี"55-59) อยู่ที่ประมาณ 5 แสนล้านบาท โดยหลังจากนี้ภายใน 1 เดือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปสรุปจัดลำดับความสำคัญของโครงการที่จะลงทุนให้เกิดความชัดเจนอีกครั้ง เพื่อให้ทราบว่าเส้นทางใดจะให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนบ้าง เพราะต้องการเพิ่มบทบาทเอกชนให้มากขึ้น หลังจากนั้นจะให้ สศช.รวบรวมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป โดยแผนดังกล่าวนี้บางส่วนจะครอบคลุมถึงโครงการด้านระบบรางของรัฐบาลชุดใหม่ด้วย

ด้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การพัฒนาระบบรางของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในระยะ 5 ปี ตั้งเป้าหมายจะลดต้นทุนค่าขนส่งให้ได้ 2% โดยต้องปรับระบบขนส่งทางถนนที่มีต้นทุนสูงกว่า 80% มาเป็นระบบรางให้ได้มากที่สุด ยืนยันว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในเรื่องระบบราง เพราะแผนเดิมที่สร้างระบบความปลอดภัย แก้ปัญหาจุดตัด จุดเชื่อม สร้างเครื่องกั้น จัดซื้อหัวรถจักร เปลี่ยนไม้หมอน เปลี่ยนราง ก็เดินหน้าหมดแล้ว อยู่ระหว่างประกวดราคาใช้วงเงินลงทุนประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ในงบลงทุนระบบราง 1.7 แสนล้านบาท ที่เคยได้รับอนุมัติไว้แล้ว

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการ สศช. กล่าว ว่า ที่ประชุมยังไม่มีการหารือเรื่องโครงการถมทะเล ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย เพราะต้องรอให้รัฐบาลประกาศเป็นนโยบายและต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการก่อน ส่วนในร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ยังไม่มีการลงในรายละเอียดเรื่องนี้ เช่นกัน

หน้า 9
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/07/2011 4:12 pm    Post subject: Reply with quote

นักธุรกิจท่องเที่ยวตรังอัดยับหลายฝ่ายไม่สนพัฒนาการท่องเที่ยว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 กรกฎาคม 2554 10:55 น.

ตรัง - นักธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดตรัง อัดนักการเมืองและข้าราชการยับ ไม่สนใจพัฒนาบ้านเมืองอย่างจริงจัง 10 ปีที่ผ่านมาการท่องเที่ยวไม่พัฒนา เสนอรัฐบาลใหม่แก้ปัญหาเพียบ

นายโจ้ เซ่งง่าย ผู้ประกอบการเรือทัวร์รายใหญ่ในจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ขณะนี้เส้นทางการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังถูกปิด เพราะนักการเมืองตรังไม่เคยให้ความสนใจในการพัฒนา เลือกตั้งทุกครั้งจะให้สนใจภาคอื่นมาก ดังนั้น นักการเมืองจังหวัดตรังจึงมักจะเกรงใจนักการเมืองภาคอื่น เพื่อหวังได้ ส.ส.แต่ก็ไม่เคยได้สักครั้ง

เมื่อก่อนคนตรังเคยภูมิใจว่าเป็นจังหวัดกำเนิดต้นยางพาราต้นแรก แต่ปรากฏว่างานวันยางพาราแห่งชาติกลับไปจัดที่จังหวัดจันทบุรี ตนจึงเห็นว่าทั้งนักการเมือง และพ่อเมืองตรัง หลายคนไม่ฉลาด เพราะหลายปีที่ผ่านมาจังหวัดตรังไม่มีการพัฒนาเลย การท่องเที่ยวจึงเป็นเดิมๆ เหมือนกับเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา

นายประทีป โจ้งทอง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง ควรจะมีการแบ่งโซนเพื่อง่ายในการให้บริการ เช่น การท่องเที่ยวทางทะเล ควรจะมีการพัฒนาถนน ห้องน้ำ และท่าเรือ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว หรือควรจะมีป้ายเพื่อบอกทางนักท่องเที่ยวอย่างชัดเจน และที่สำคัญควรจะให้สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในตัวเมืองตรัง ซึ่งแต่ละเดือนสามารถจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวขึ้นมาได้ เช่น เทศกาลหมูย่าง เทศกาลขนมเค้ก เป็นต้น

นายแพทย์สมชัย เจียรนัยศิลป์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวและโรงแรมจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดตรังควรจะมีการพัฒนาให้เป็นสากลมากขึ้น ส่วนการบริการก็จะต้องมีความพร้อมและมีความสะอาด ไม่ควรหวังเพื่อบริการนักท่องเที่ยวท้องถิ่นแต่อย่างเดียว แต่ควรดำเนินให้เป็นธุรกิจสากล โดยเฉพาะสถานบริการควรมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีมากขึ้น โดยไม่ควรยึดแบบการพัฒนาการท่องเที่ยวแบบเดิมๆ เพราะปัจจุบันเป็นยุคไอทีแล้ว นอกจากนั้นยังจะต้องมีการอบรมบุคลากรท่องเที่ยวให้มีความตื่นตัวอย่างต่อเนื่องด้วย

นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการผลักดันการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น จึงต้องการให้ทุกฝ่ายช่วยกันผลักดันให้มีการขยายสนามบิน เพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ขนาดโบอิ้ง 747 ให้สามารถขึ้นลงได้ เพราะจะเป็นจุดหนึ่งที่สามารถกระตุ้นให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่การพิจารณาให้ขยายสนามบินได้นั้น จะต้องมีผู้โดยสารมาใช้บริการปีละไม่ต่ำ 200,000 คน ดังนั้นจึงขอให้ช่วยกันดึงนักท่องเที่ยวจังหวัดใกล้เคียง มาใช้บริการสนามบินตรังจำนวนมากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้น เพื่อต้องการให้นักท่องเที่ยวไหลเวียนทางฝั่งทะเลอันดามัน ก็ควรจะมีการพัฒนาถนนทุกเส้นทางที่มาสู่จังหวัดตรัง เช่น ถนนสายตรัง-กระบี่ และตรัง-สตูล รวมทั้งถนนสายตรัง-พัทลุง ช่วงผ่านเขาพับผ้า บนเทือกเขาบรรทัด เพื่อความรวดเร็วในการเดินทางของนักท่องเที่ยว รวมทั้งการพัฒนาการรถไฟ ควรจะมีมาตรฐานในการเดินรถและเข้าออกตรงต่อเวลา และที่สำคัญก็คือควรที่จะมีความเร็วของรถไฟมากกว่าในปัจจุบัน

นายจรัล ชื่นในธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตรัง เปิดเผยว่า ในปี 2555 จังหวัดตรังตั้งเป้าให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเข้ามาไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างกิจกรรมภายในจังหวัดเพื่อเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เพราะจังหวัดตรังถือว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม และมีของกินตลอดทั้งปี อีกทั้งยังเป็นแหล่งวัฒนธรรมเพื่อการเรียนรู้ด้วย เพียงแต่ที่ผ่านมาจังหวัดตรังยังไม่มีโอกาสที่จะเปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักได้อย่างเต็มที่เหมือนกับจังหวัดใกล้เคียง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
kikoo
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 01/02/2010
Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง

PostPosted: 21/07/2011 8:54 pm    Post subject: Reply with quote

^
ตราบใดที่สังคมเรายังเห็นนักการเมืองเป็นพระเจ้า

หรือทุกอย่างขึ้นอยู่กับนักการเมือง

มันก็พากันเจ๊งระนาวอย่างนี้แหล่ะครับ

/----------------

จริงๆเมืองตรังในตอนนี้ ยังดูดีขึ้นกว่าเมื่อ10กว่าที่แล้วเลยนะครับ(ใครเคยมาตรังเมื่อ10กว่าปีที่แล้ว จะเห็นว่าตรังเป็นเมืองที่เงียบถึงเงียบมาก ขนาดในเขตเทศบาลพอสักทุ่มนึงก็เหมือนเมืองร้างแล้วครับ) จากที่ตอนเด็กๆคิดว่าเมืองนี้แทบจะไม่มีอะไรเลย พอโตขึ้นนี้แหล่ะถึงได้รู้ว่าเมืองตรังก็มีดีไม่แพ้จังหวัดอื่นเลย...(เลยตัดสินใจเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่ตรัง...บ้านตัวเองนี่แหล่ะ)

ส่วนหนึ่งที่เมืองตรังได้รับการพัฒนาคงเพราะพระราชกระแสรับสั่งเรื่องเกี่ยวกับเมืองตรังของสมเด็จพระเทพฯ ตอนที่ท่านทรงมาเปิดงานวิ่งข้ามสหัสวรรษเมื่อปีพ.ศ.2543ด้วยล่ะครับ
_________________
ความคืบหน้าโครงการปรับปรุงทางช่วงที่วัง-กันตัง
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5618
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
heerchai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/07/2006
Posts: 7730
Location: อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

PostPosted: 21/07/2011 10:18 pm    Post subject: Reply with quote

จะมองเปรียบเทียบได้ระหว่าง จ.ตรัง กับ จ. สุพรรณบุรี

ความเจริญทุกๆด้านของ จ.สุพรรณบุรี ล้วนมาจากการผลักดัน นักการเมืองที่สนใจเมืองของตนอย่างแท้จริง
Back to top
View user's profile Send private message
suraphat
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 12/02/2007
Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง

PostPosted: 24/07/2011 2:05 pm    Post subject: Reply with quote

ข่าวๆนี้เป็นจดหมายที่มีการนำเสนอกันทางหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หน้าที่ 6 นะครับ โดยที่คอลัมน์นี้ก็ไม่ได้มีการนำเสนอกันในรูปแบบของข่าวออนไลน์นะครับ

ทั้งนี้กระผมจึงขอได้นำมาเสนอกันไว้ดังนี้นะครับ

จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 หน้าที่ 6 คอลัมน์ สารพันปัญหา ของคุณอ๊อด เทอร์โบ

ขอรถไฟไปภูเก็ต
เรียนคุณอ๊อด เทอร์โบ
ภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ติดอันดับระดับโลก ปีหนึ่งๆจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างประเทศและในประเทศไปท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมากทำรายได้ให้กับประเทศเป็นจำนวนมหาศาล

แต่การขนส่งมวลชนรวมทั้งการเดินทางไปจังหวัดภูเก็ตไปได้เฉพาะทางเครื่องบิน... รถยนต์ และทางทะเลเป็นหลักสำคัญเท่านั้น ภูเก็ตยังขาดทางรถไฟ ซึ่งสมัยหนึ่งรัฐบาลเคยคิดจะสร้าง แต่ก็ระงับเรื่องเลยเงียบหายไป ไม่ทราบเพราะเหตุใด

ต่อมารัฐบาลไหนๆก็ไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาอีกเลย ทั้งๆที่นักการเมืองซึ่งเป็นคนท้องถิ่นก็ไม่เคยคิดจะนำเสนอรัฐบาล ทั้งนี้เพราะผลประโยชน์ทั้งสิ้น

บัดนี้ทราบว่าทางการจะสร้างทางรถไฟไปยังจังหวัดเชียงราย และเชียงของของทางภาคเหนือของประเทศไทยจึงขอเสนอรัฐบาลยุค”เพื่อไทย” ให้นำเอาโครงการสร้างทางรถไฟไปภูเก็ตทางภาคใต้ต้านทะเลอันดามัน ทิศตะวันตกของประเทศไทยมาดำเนินการด้วย จะเห็นได้ว่าทุกภาคของประเทศไทยเขาก็มีรถไฟไปถึงกันหมดแล้ว เช่นภาคเหนือ(กรุงเทพฯ-เชียงใหม่)และกำลังจะสร้างไปเชียงราย เชียงของ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(กรุงเทพฯ-หนองคาย-ลาว,อุบลราชธานี) ภาคตะวันออก(กรุงเทพฯมาบตาพุด...ระยอง) ส่วนภาคใต้(กรุงเทพฯ-นราธิวาส-ปาดังเบซาร์,กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช,กรุงเทพฯ-ตรัง) อย่างไรก็จะครอบคลุมไปทั่วประเทศแล้ว แต่ยังขาดอีกนิดเดียว คือถ้าจะสร้างรถไฟสายกรุงเทพฯ-ภูเก็ต หรือ กรุงเทพฯ-กระบี่-พังงา-ภูเก็ต อีกสายหนึ่งก็จะเป็นการดี...
เพราะเป็นการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป การเดินทางไปท่องเที่ยวภูเก็ต-กระบี่-พังงา ก็จะสะดวกขึ้น นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางไปได้ทุกเส้นทางตามต้องการ จะเป็นเส้นทางรถไฟสายเศรษฐกิจของประเทศ สามารถขนส่งสินค้าจากด้านทะเลอันดามันภาคใต้ของประเทศไทยมายังกรุงเทพฯได้สะดวกยิ่งขึ้น จะทำให้ประเทศไทยมีรายได้ทั้งการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

ชาวภูเก็ตจึงขอฝากรัฐบาล”พรรคเพื่อไทย”โปรดพิจารณาโครงการ”รถไฟสายกรุงเทพฯ-ภูเก็ต” ให้เกิดขึ้นในยุครัฐบาลนี้ด้วย เพราะการก่อสร้างจะเริ่มต้นจากสถานีรถไฟพุนพิน สุราษฎร์ธานี ต่อไปยัง จ.พังงา ถึง จ.ภูเก็ต เป็นระยะทางประมาณ 164 กิโลเมตร ทางรถยนต์เท่านั้น เป็นระยะทางไม่ไกลมากนักและคุ้มกับการลงทุน

ภูเก็ตจะได้เจริญพัฒนาทั้งการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจให้เจริญรุ่งเรืองสมกับคำว่า”ไข่มุกอันดามัน”ต่อไป.
”ชาวภูเก็ต”


ตอบ”ชาวภูเก็ต”

ผมเห็นด้วยกับท่านอย่างยิ่งและในฐานะของประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งเคยไปภูเก็ตมาหลายครั้งหลายหน โดยรถยนต์และเครื่องบิน ก็แปลกใจว่าทำไมรัฐบาลไม่สร้างทางรถไฟไปภูเก็ต เพราะจะสร้างความเจริญทั้งเศรษฐกิจและท่องเที่ยว ดังที่บรรยายมา

กิจการรถไฟนั้นมีมานานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แต่เป็นที่ทราบกันดีอยู่ว่า ไม่ได้มีการปรับปรุงพัฒนากันให้ดีขึ้นเลย เส้นทางก็มีอยู่แค่นั้น

ถึงเวลาแล้วที่เราต้องยกเครื่อง รฟท. ได้แล้ว ในรัฐบาลใหม่ที่ต้องกล้าคิดกล้าทำ.
อ๊อด เทอร์โบ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/07/2011 10:43 pm    Post subject: Reply with quote

ตร.จับ 2 วัยรุ่นขนยาบ้า 42,000 เม็ดคารถไฟกรุงเทพ-สุไหงโกลก
เนชั่นทันข่าว 24 กค. 2554 22:33 น.

เมื่อเวลา 21.10 น. วันที่ 24 กรกฏาคม 2554 พล.ต.ต.สมวุฒิ วรรณพิรุน ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ประธาน เขียวขำ สารวัตรสถานีตำรวจรถไฟ หัวหิน ร.ต.ต.สมชาย ศักดิ์สุภาพ ผบ.หมู่ สถานีตำรวจรถไฟหัวหิน ด.ต.ประทิน มานะสุวรรณ์ ด.ต.กุศล ไชยชนะ ด.ต.จตุรงค์ นวลเอียด และ จ.ส.ต.วิฑูรย์ จันทร์บาลใจ ตร.รถไฟสถานีตำรวจรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ควบคุมตัว นายอภิรนันต์ อัครสืบสกุล อายุ 26 ปีและนายนุรดิน บาโด อายุ 29 ปี ลงมาจากขบวนรถไฟด่วนพิเศษขบวนที่ 37 กรุงเทพ-สุไหงโกลก ซึ่งทั้ง 2 เป็นผู้ต้องหาค้ายาบ้านำมาสอบสวนที่สถานีตำรวจรถไฟ หัวหิน พร้อมเป้สีดำ 1 ลูก และโทรศัพท์ 5 เครื่อง ยาบ้าจำนวน 42,000 เม็ด สีส้ม

พล.ต.ต.สมวุฒิ วรรณพิรุน ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ,พ.ต.ต.ประธาน เขียวขำ สารวัตรสถานีตำรวจรถไฟ หัวหิน กล่าวว่า หลังจากขบวนรถไฟได้ออกจากสถานีหัวลำโพงเพื่อมุ่งหน้าสู่สุไหงโกลก ซึ่งทางตำรวจรถไฟ หัวหิน ร.ต.ต.สมชาย ศักดิ์สุภาพ พร้อมเจ้าหน้าที่ฯได้ขึ้นขบวนรถไฟเพื่อตรวจสอบสัมภาระ เพื่อป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดทางรถไฟ ที่ออกจากกรุงเทพฯ ซึ่งขณะที่ทำการตรวจตามตู้โบกี้ต่างๆจนมาถึงสถานีรถไฟบ้านโป่ง ตรวจไปจนถึงโบกี้ 11 ซึ่งเป็นรถปรับอากาศก็พบนายอภิรนันต์ นั่งอยู่ ส่วนนายนุรดิน หลับอยู่ ทาง ร.ต.ต.สมชาย ขอตรวจสอบกระเป๋าสพายของนายอภิรนันท์ ซึ่งเมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วได้สอบถามว่ายังมีกระเป๋าอีกหรือไม่ ซึ่งนายอภิรนันท์ ท่าทางมีพิรุธและบอกว่ามีเป้อยู่ในช่องเก็บสัมภาระด้านบน เมื่อยกเป้สีดำลงมารู้สึกหนักจนเปิดออกดูจึงพบด้านในเป็นห่อผ้าอยู่ด้านบน แต่ล้วงลงไปภายในมีแท่งสี่เหลี่ยมสีเหลืองจำนวน 7 แท่งห่อซีนพลาสติกอย่างดี เมื่อแกะออกดูจึงพบว่าเป็นยาบ้า จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจรถไฟหัวหิน

เบื้องต้น พ.ต.ต.ประธาน เขียวขำ สารวัตรสถานีตำรวจรถไฟหัวหิน ได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 ซึ่งยอมรับสารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตนเอง ซึ่งมีผู้ว่าจ้างให้นำไปส่งที่สุไหงโกลกโดยเมื่อไปถึงที่นั่นแล้วจะมีคนมารับของโดยจะโทรศัพท์เข้ามาหา ระหว่างที่สอบสวนปรากฏว่ามีโทรศัพท์เข้ามาที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนตลอดเวลา โดยทั้ง 2 รับ บอกอีกว่ายาบ้ารับมาเม็ดละ 250 บาท แต่เมื่อไปถึงมือผู้เสพจะขายกันในราคาเม็ดละ 350 บาท ซึ่งครั้งนี้เพิ่งทำเป็นครั้งแรกได้รับค่าจ้าง 2 แสนบาท ซึ่งทางตำรวจรถไฟยังไม่ปักใจเชื่อ หลังจากสอบปากคำในเบื้องต้นแล้ว ได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.สมวุฒิ วรรณพิรุน ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ติดต่อไปยัง พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิ์วงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ที่รับผิดชอบเรื่องยาเสพติด ได้ขยายผลต่อเกี่ยวกับผู้ต้องหา 2 คนที่ค้ายาบ้าที่ถูกจับได้บนขบวนรถไฟที่มุ่งหน้าลงภาคใต้ ทั้งนี้ตนเองได้กำชับในเรื่องของการให้ ตร.รถไฟ พยายามใช้การตรวจตราสัมภาระและผู้ที่โดยสารรถไฟให้มากยิ่งขึ้น เพราะช่วงนี้มียาเสพติดตากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศเรามากขึ้น และถูกจับได้ล็อตใหญ่ๆจากการขนทางรถยนต์ และอาจเป็นไปได้ว่าผู้ค้าอาจใช้วิธีการขนส่งทางรถไฟ อย่างวันนี้ที่จับได้ใช้เป้ธรรมดาซุกซ่อนมาได้ถึง 42,000 เม็ด
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 137, 138, 139 ... 486, 487, 488  Next
Page 138 of 488

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©