เรื่อง อยากให้มีการนำขบวน 101 และ 110 มาเดินใหม่ครับ

sannithi · 3rd Class Pass Joined: 07/10/2010 Posts: 94

อยากสอบถามผู้รู้หน่อยครับว่า ทำไมถึงไม่นำขบวน 101 และ 110 มาเดินอีกครับ จริงๆแล้วผมว่า ขบวน 101 ออกจากกรุงเทพ 06.00 น. (เมื่อหลายปีก่อน) มาถึงพิษณุโลก ประมาณ 12.57 น. (ซึ่งผมนั่งกลับพิษณุโลกแทบจะ 2 อาทิตย์ครั้งครับ)ถึงปลายทางเชียงใหม่ ประมาณ 20.30 น. ผมว่ามันก็ดีกว่าต้องรอโดยสารกับขบวน 109 ที่มีอีกที 14.30 น. ที่แออัดกันเพราะเป็นรถโดยสารที่บริการฟรีแก่ประชาชนชาวไทย แต่ผมว่าถ้ายังมี 101 วิ่งครต้องขึ้นเยอะและยังไงก็ไม่ขาดทุนแน่นอนครับ เพราะ
1.ขบวน101 เป็นรถที่ออกจาก กรุงเทพตอนเช้า นักเรียนหรือนักศึกษาก็สามารถโดยสารไปได้ ที่สำคัญเป็นรถไปเชียงใหม่เที่ยวแรกที่ไม่ต้องรอตอนบ่าย ยังช่วยขนถ่ายคนมาขึ้นรถเที่ยวนี้ ไม่ต้องไปแออัดกับ ขบวน 109 ที่เต็มแต่ต้นทางกรุงเทพ ซึ่งขบวน 101 นั้น ผมนั่งเกือบเป็นประจำ ยังไงก็เห็นมีผู้โดยสารเกือบเต็มขบวนครับ ไม่ขาดทุนชัวร์ Laughing

2.มีรถไปเชียงใหม่ในเที่ยวกลางวันที่ไม่นับ ด่วนพิเศษดีเซลราง ขบวน 9 โดยมีทางเลือกมากกว่าสำหรับคนไม่อยากรอเวลาตอนบ่ายและอาจอยากเดินทางไปเชียงใหม่แบบประหยัด เมื่อถึงปลายทางเชียงใหม่ก็ไม่ดึกมาก คิดซะว่าถ้าเสียเวลาก็ถึงเชียงใหม่ประมาณ 21.00 น. ดีกว่าต้องรอ 109 ซึ่งวิ่งไปถึงเชียงใหม่เช้าเป็นไหนๆครับ Laughing

3.ผมว่าถ้ายังมีขบวน 101 ก็ยังมีโอกาสช่วยทำขบวน 102 หรือ 110 กลับมา กรุงเทพได้ถึงแม้ว่า ขบวน 110 อาจจะเสียเวลามาแล้วมาทับเวลาของ ธรรมดา 202 ก็ตาม ซึงจะทำให้หัวจักรได้พักโดยไม่ต้องทำงานหนักด้วยครับ ซึ่งผมจะเห็น ขบวน 102 ช้ากว่าเวลาทุกทีไปเพราะต้องรอการทำขบวนจาก 109 ผมเคยนั่งทั้งไปและกลับ พิษณุโลก-เชียงใหม่-พิษณุโลก โดย ขบวน 109 และ 102 มาแล้ว และก็หัวจักรไปเสียแถวแม่เมาะบ้าง ขึ้นเนินไม่ได้บ้างต้องหยุด-ถอยหลัง-เร่งเครื่องกันพักใหญ่ จนผู้โดยสารลุ้นกันหัวใจจะวายและบางที่ก็ต้องรอหัวจักรมาพ่วงพหุอยู่หลายครั้งครับ จึงน่าจะเป็นการดีนะครับที่จะมีขบวน 101 และ 110 กลับมาวิ่งเช่นเดิมครับ Laughing

4.ขบวน 110 เป็นขบวนที่สามารถเก็บตกผู้โดยสารไปกรุงเทพ หรือจังหวัดอื่นๆที่รถวิ่งผ่านได้ดี เพราะรถทัวร์จากเชียงใหม่ไป กรุงเทพ หรือที่อื่นๆ ส่วนมากจะหมดแค่2ทุ่มกว่าเองครับ แค่เราอาจจะเปลี่ยนแปลงเวลาเดินรถ ขบวน 110 จากเดิม 21.50 น. ก็ให้เป็นสัก 22.00 น. หรือ 22.15 น.ก็ได้ครับ ให้ทำขบวนตามหลัง ขบวน 10 สัก 1 ชั่วโมงก็ยังดี (หรือถ้ามี ขบวน 110 วิ่งจะทำให้คนขึ้นขบวน 110 แต่ไม่ค่อยขึ้นขบวน 10 เลยรึป่าวก็มิอาจทราบได้นะครับ)แถมยังเป็นรถที่วิ่งทำการคล้ายกับ รถด่วน ขบวน 51 คือออกจากต้นทาง ประมาณ 22.00 น. เหมือนกันครับ แถมยังไปถึงปลายทาง ประมาณเที่ยงกว่าเหมือนกันด้วย Laughing

(ปล.ผมว่าถ้ามีขบวน 101 และ 110 กลับมาวิ่งอีกน่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้ผู้โดยสารมีทางเลือกเรวมทั้งทำให้รถไฟไม่ขาดทุน ที่เสียไปกับรถไฟฟรีอีกทางหนึ่งด้วยครับ อย่างน้อยก็เก็บได้จาก บชส. บนท. รวมทั้งค่าระวางฝากของต่างๆอีกด้วยครับ ยังไงผมฝากถามผู้รู้ช่วยตอบด้วยนะครับ ขอบคุณครับ) Laughing

CENTENNIAL · Posted: 25/07/2011 3:52 pm Post subject:

ปัญหาที่ยังแก้ไม่ออกคือ รถจักรมีไม่พอทำการ และ รถ บชส. ก็มีไม่พอทำการครับ

digimontamer · 3rd Class Pass (Air) Joined: 12/05/2009 Posts: 487

ผมว่า ข.101 และ ข.111 นั้นจะวิ่งทับเวลาและเส้นทางกันมากเกินไปหน่ะครับ ถ้าอันหนึ่งวิ่งก็
จะไปแย่งลูกค้าของอีกขบวนหนึ่งไปด้วย โดยเฉพาะช่วง กรุงเทพ-ลพบุรี และ นครสวรรค์-พิษณุโลก

ผมว่าขนาดเจ้า ข.111 วันธรรมดายังคนค่อนข้างน้อยเลยหน่ะครับ โดยเฉพาะช่วง กรุงเทพ-นครสวรรค์ เนื่องจากวิ่งตอนเช้าหรือตอนกลางวันเสียส่วนใหญ่

sannithi · 3rd Class Pass Joined: 07/10/2010 Posts: 94

แล้วผมขอแสดงความคิดเห็นถามต่อเลยนะครับ ถ้าเราไม่เอา 101 และ 110 มาเดินเช่นเดิม ผมมีความคิดว่า Rolling Eyes

1.ถ้าเรามี รถเร็วที่วิ่งโดยสารระหว่าง นครสวรรค์-เชียงใหม่ เดินเพิ่มร่วมกับ ขบวน 407 และ 408 โดยกำหนดเวลาใหม่ให้เหมาะสม จะเป็นการทับเส้นทางหรือสิ้นเปลืองหรือทำให้รถจักรทำการลดน้อยลงมั้ยครับ เช่น อาจจะมีรถเร็วท้องถิ่น นครสวรรค์-เชียงใหม่ (ขบวน 113)และ เชียงใหม่-นครสวรรค์ (ขบวน 114) จะสามารถเป็นไปได้ป่าวครับ เพราะผมเป็นคนพิษณุโลก ผมได้ใช้การโดยสารกับขบวน 4 407 408 102 106 109 111 112 116 และ 202 อยู่บ่อยๆครับ เพราะเท่าที่ผมสังเกตดูแล้ว ถ้าไม่นับ ขบวน 407 ที่ปลายทางเชียงใหม่ เวลา 07.30 น.นั้น จะมีอีกที่ก็ ด่วนพิเศษ ขบวน 9 เท่านั้นที่ไปเชียงใหม่ และมีอีกที่ก็ ขบวน 109 ที่จะไปเชียงใหม่ได้ ช่วงเวลาจาก 07.30 น. -13.19 น. (ไม่นับที่ขบวนล่าช้ามา) เราน่าจะมี ขบวนรถใดสักขบวนที่สามารถโดยสารไปเชียงใหม่ได้สักคันครับ อาจจะมีขบวนรถเร็วสักคันวิ่งตามหลัง ขบวน 407 สัก 2 ชั่วโมง เผื่อใครอยากไปเชียงใหม่จะได้เลือกเวลาได้ไล่เลี่ยกันครับ (วิ่งระหว่างสถานี นครสวรรค์-เชียงใหม่) จะดีไหมครับ Rolling Eyes

2.ถ้าเรามีการเพิ่มขบวนรถเร็วดังกล่าวแล้ว สมควรใช้ ดีเซลราง THN หรือเป็น แบบ บชส. ดีครับ (ถ้าเป็นไปได้ว่าสามารถมีขบวนรถดังกล่าวได้จริง)เพราะเท่าที่ผมสังเกตดูแล้วน่าจะมีผู้โดยสารใช้กันมากอยู่นะครับ จากปัจจุบันที่ ขบวน 407 และ 408 นั้นเป็นดีเซลรางแค่ 3 ตู้เท่านั้น เห็นทีไรก็ยืนกันมาทุกที ยืนกันมาแล้วที่บางสถานีอย่างพิษณุโลกก็อัดกันเต็มที่ ผมเลยคิดว่าน่าจะมีขบวนไหนสักขบวนมาช่วยขนถ่ายผู้โดยสารบ้างครับ Rolling Eyes

ผมรบกวนผู้รู้ตอบข้อสงสัยของผมด้วยนะครับ จากคน(พิดโลก)ที่รักรถไฟเยี่ยงชีพครับ ขอบคุณครับ

thanaratKK · Posted: 25/07/2011 6:09 pm Post subject:

เป็น 2 ใน 4 ขบวนรถเร็วที่ผมเสียดายมากๆ ครับไม่แพ้ 137/138
ข.101 เคยช่วยเหลือ ข.9 ไว้บ่อยๆ

แนวคิดของผมคือ "ถ้า" รถจักรและล้อเลื่อนเพียงพอ และยังคงมีนโยบายรถไฟฟรีกับรถเร็วสายยาวอยู่ ข.101/110 137/138 น่าจะเป็นคำตอบหนึ่งที่จะดึงคนมาใช้บริการได้

ปล.ผมอยู่สายหนองคายครับ ประสบปัญหาเรื่องเวลาเช่นเดียวกันครับ รถเที่ยวสุดท้ายที่ออกจากขอนแก่นไปหนองคาย คือ 09.42 น. ครับ หากพลาดจะต้องไปล้อยางแทนครับ

aekpat · 3rd Class Pass Joined: 12/03/2009 Posts: 55

ผมว่าน่าจะฟื้น ข.101/110 กลับมานะครับ
ข.101 ออก กรุงเทพ 0530
หยุด สามเสน บางซื่อ ก.ม.11 บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา ภาชี ลพบุรี บ้านหมี่ ตาคลี นครสวรรค์ ชุมแสง บางมูลนาก ตะพานหิน พิจิตร บางกระทุ่ม พิษณุโลก
พรหมพิราม หนองตม พิชัย อุตรดิตถ์ ศิลาอาสน์ เด่นชัย บ้านปิน แม่เมาะ นครลำปาง ขุนตาน ลำพูน เชียงใหม่ ถึงประมาณ 2005
ทำ ข.110 ออก 2100
ปรับ ข.10 ออก 2225

ผมลองทำตาราง จัดเวลาไว้ ขอได้ทาง pm นะครับ
_________________
ที่นี่.....สถานีรถไฟ

donatt76 · Posted: 25/07/2011 7:53 pm Post subject:

ไม่ใช่ผู้รู้อะไร แต่ขอตอบด้วยหลักวิชาการนะครับ

เวลาของรถเร็ว 101 มันค่อนข้างจะทับซ้อนกับเวลาขงรถเร็ว 111 เลยทีเดียวครับ และจากการที่ได้มีโอกาสเข้าไปถ่ายรูปทุกสถานีในภาคเหนือ สิ่งที่เห็นอยู่ทุกวันคือ 111 เมื่อออกจากนครสวรรค์ไปมีแต่ที่นอนเต็มขบวนเลยล่ะครับ

อีกอย่าง ผมกล้าพูดเลยว่าถ้ามองเรื่องรายได้ เป็นหลักแล้ว (โดยไม่มองเรื่องบริการประชาชน) การยกเลิกขบวนรถเร็วเป็นสิ่งที่ถูกต้องเลยล่ะครับ เพราะต้องยอมรับว่าขบวนรถที่เวลาใกล้เคียงกันแล้วไปเชียงใหม่เหมือนกัน คือ ด่วนพิเศษขบวน 9/10 การยกเลิกรถเร็วที่ไม่ทำเงิน เท่ากับบังคับให้คนที่จะเดินทางเต็มเส้นทางต้องเดินทางไปกับขบวนรถด่วนพิเศษที่ราคาสูงกว่า และจะบอกว่าอย่ามองว่า บชส. ทำรายได้ให้การรถไฟนะครับ เพราะบชส.นี่แหละที่ทำให้การรถไฟขาดทุนมากขึ้น ดังนั้นอย่าเอามันกลับมาเลยครับ

แต่หากจะประหยัดเงิน คงต้องยอมเสียเวลา และลำบากหน่อย เช่นเดินทางไปกับรถเร็ว 111 ถึงตะพานหิน แล้วค่อยต่อ ขบวน 9 อัตราพิเศษ ต่อไป หรือจะไปกับรถเร็วฟรี 115 แล้วไปรอ 408 ล่ะครับ

ในเที่ยวกลับก็เช่นกัน ให้ขบวน 10 ออกเวลา 2110 เป็นขบวนเก็บตกก็เท่ากับบังคับกลายๆให้ผู้โดยสารต้องควักกระเป๋าจ่ายสตางค์

อีกอย่าง ตรงนี้ต้องยอมรับว่า การเดินทางจากอำเภอใหญ่ๆ เข้าตัวจังหวัด อย่างที่รถเร็วจอดนั้น มันสะดวกและรวดเร็วสู้ทางรถยนต์ไม่ได้ ยกตัวย่าง ผมสามารถดักถ่ายภาพรถเร็ว 106 ที่พรหมพิราม แล้วยังสามารถไฟดักขบวนเดียวกันท่พิษณุโลกได้ด้วย แต่ผมไม่สามารถดักถ่ายขบวนที่พรหมพิราม แล้วตามไปที่แควน้อยได้

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า ผมจะบอกว่า ให้ยกเลิกรถเร็วทางไกล แต่ถาชุดรถเรามีพอ ก็น่าจะเพิ่มขบวนรถท้องถิ่นที่จอดทุกสถานีแทนครับ เพราะบางสถานี ทางรถยนต์ เร็วกว่ามาก ดังนั้นถ้ชุดรถมีพอ ประมาณว่ามีดีเซลรางซัก 200 ชุด ก็เอามาทำรถท้องถิ่น ที่เอาไว้รองรับชาวบ้าน อย่าง เด่นชัย - เชียงใหม่ หรือ ศิลาอาสน์ - ลำปาง จัดเวลาให้เดินตามหลังขบวนรถเร็ว หรือรถด่วนที่วิ่งระยะกลางๆ (ประมาณ 500 - 600 กิโลเมตร) ก็จะดีครับ ให้วิ่งสั้นๆ ระยะ 150 - 200 กิโลเมตร แต่วิ่งหลายรอบหน่อยจะดีกว่าเอาไปวิ่งยาวๆจากกรุงเทพมาเลย

ส่วนจากจังหวัด ถึง จังหวัด เช่น จากแพร่ ถึงเชียงใหม่ จากลำปาง ถึงเชียงใหม่ ต้องยอมรับว่าทางรถยนต์เร็วกว่ามาก ตัวอย่าง เช่น ผมรอถ่ายรูป 407 อยู่ที่ผาคัน นั่งรถย้อนมาที่บ้านปิน ยังสามารถขับรถไฟทัน 407ขบวนเดิมที่สถานีลำปาง รอจน 407 ออกไป ยังไปทันที่ลำพูนอีกครั้งเลยครับ...ดังนันจึงไม่มีประโยชน์ที่จะเดินรถเร็วระหว่างอำเภอให้มันขาดทุน สู้ไปบงคับให้ขึ้นรถปรับอากาศ เพื่อสร้างรายได้ดีกว่าครับ

ส่วนค่าระวาง มันจุ๋มจิ๋มมากลยครับราคาไม่กี่ร้อยบาทในการส่งขงทางรถไฟจากเชียงใหม่กลับบ้าน

อย่างไรก็ตาม แม้ผมจะเห็นว่าขบวนรถเร็วทางไกล สมควรจะยกเลิกอย่างยิ่ง แต่ที่น่าจะเดินคือ ขบวนรถท้องถิ่นระยะสั้นๆ แบบหยุดทุกสถานี เช่น เด่นชัย - เชียงใหม่ ศิลาอาสน์ - ลำปาง เป็นต้น เพราะชาวบ้านตามสถานีเล็กๆ ยากต่อการเข้าถึง ยังคงต้องพึ่งรถไฟเป็นหลัก ตัวอย่าง จาก ห้วยไร่ - เด่นชัย รถไฟวิ่งแค่ 15 นาที แต่รถยนต์ใช้เวลาเกือบชั่วโมงทีเดียว หรือ สถานีบ้านช่องใต้ - แก่งคอย สถานีเดียวระยะไม่ไกล แต่รถยนต์อ้อมไกลจริงๆครับ ฉะนั้น ถ้าจะบริการชาวบ้านจริงๆแล้ว และถ้าเรามีรถดีเซลรางซัก 200 คัน ก็น่าจะเอามาทำรถท้องถิ่นล่ะครับ
_________________
Click on the image for full size

sannithi · 3rd Class Pass Joined: 07/10/2010 Posts: 94

sannithi · 3rd Class Pass Joined: 07/10/2010 Posts: 94

thanaratKK · Posted: 25/07/2011 8:47 pm Post subject:

ถูกต้องครับ ข.415 เป็นขบวนสุดท้ายของวัน ที่จะวิ่งเข้าหนองคายครับ(ในเวลาปกติ)
เมื่อก่อน มี ข.137/138 ครับ
ข.137 ออกกรุงเทพประมาณ 05.50 น. ถึงขอนแก่นประมาณ 15.20 น. ถึงหนองคาย 18.30 น.
ข.138 ออกหนองคายประมาณ 09.20 น. ถึงขอนแก่นประมาณ 11.20 น. ถึงกรุงเทพประมาณ 21.00 น.

ข.137 ผมว่าไม่ค่อยมีปััญหา ผู้โดยสารก็เยอะพอสมควร แต่ ข.138 มีปัญหาทั้งเรื่องเวลา และจำนวนผู้โดยสารอย่างชัดเจนครับ

ข.415 ปัจจุบัน เป็นรถจักรดีเซลทำการกับ บชส.5 คันครับ ทำให้ทำความเร็วเหมือนช่วงที่เป็นดีเซลรางไม่ได้ อีกทั้งเจอป้ายกายสิทธิ์ แผ่นวงกลมๆ สีเขียวๆ มีตัวเลขสีขาวๆ 50 และ 60 ปักเกือบจะตลอดทางครับ

คู่แข่งหลักของรถไฟสายอิสานเหนือคือ รถทัวร์ครับ อย่างที่ทราบๆ กันแข่งกันกันเรื่องบริการสูงมาก แข่งขันกันในหลายๆ บริษัทเลยทีเดียว