View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
annex
3rd Class Pass
Joined: 02/03/2008 Posts: 52
Location: ฝั่งตะวันออกของสนามบินดอนเมือง
|
Posted: 05/08/2011 11:50 am Post subject: |
|
|
อนาจใจกับหัวคิดนักการเมืองไทย ดีแต่จะทับถม ชิงดีชิงเด่น เหน็บแนมกันไปมา หามีแนวคิดที่จะร่วมกันเพื่อพัฒนาประเทศไม่ |
|
Back to top |
|
|
kikoo
1st Class Pass (Air)
Joined: 01/02/2010 Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44066
Location: NECTEC
|
Posted: 05/08/2011 3:40 pm Post subject: |
|
|
รถไฟฟ้า 20 บาท..ทำให้ได้เงินขนาดไหน
โดย ไฟเหลือง failuang@dailynews.co.th
คอลัมน์เดินหน้าเลี้ยวซ้าย
หน้ากทม. เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี ที่ 04 สิงหาคม 2554 เวลา 10:19 น
เมลอีกฉบับจากคุณอรรถ บอกมาว่า อ่านข่าวว่าที่รัฐบาลใหม่บอกว่าจะเข้ามาควบคุมดูแลบริษัทที่ได้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟใต้ดิน เพื่อเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าให้ได้ 20 บาทตลอดสายตามสัญญาที่ให้ไว้ตอนหาเสียงแล้วก็ไม่สบายใจ จำได้ว่าสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลถัด ๆ มา ก็ขัดแข้งขัดขากับทาง กทม. ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ดูแล ทำให้งานต่าง ๆ ไม่ราบรื่น
ใครก็ชอบรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แต่ถ้ารัฐบาลเอามาทำเอง หรือการที่ออกเงินอุดหนุนส่วนต่างให้เอกชนที่ทำอยู่ตอนนี้ สรุปแล้วรัฐบาลก็ต้องหาเงินมาโปะสนับสนุนเหมือนกัน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะต้องใช้เงินมากน้อยแค่ไหน คงไม่ทำได้ในทันทีแน่ เอาเรื่องง่าย ๆ ที่ทำได้เลยดีกว่า ช่วยบังคับให้รถเมล์ทุกสายวิ่งชิดซ้ายตลอดเพื่อคนสูงอายุอย่างผมและผู้โดยสารอีกจำนวนมากจะได้ขึ้นลงสะดวกดีกว่า
อ่านข่าวได้ยินว่า ขสมก. พยายามทำอยู่ ทำให้รายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น ถ้าบังคับส่วนหนึ่ง และอีกส่วนด้วยวิธีจูงใจโดยเพิ่มส่วนแบ่งรายได้จากการรับผู้โดยสารได้มากขึ้น ไปให้พนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร ยิ่งถ้ามีคำชมถึงการขับรถอย่างสุภาพ พูดจาไพเราะ ยิ่งต้องเพิ่มรางวัลให้รถเมล์คันนั้น ๆ มากขึ้นไปอีก และ รถเมล์คงน่านั่งขึ้นอีกเยอะ. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44066
Location: NECTEC
|
Posted: 05/08/2011 7:04 pm Post subject: |
|
|
บอร์ดต่างด้าวไฟเขียวต่างชาติลงทุนไทยเพิ่ม 41 ราย โกยเงินเกือบ 1.4 พันล้าน
โดยทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์ 5 สิงหาคม 2554 15.00 น.
บอร์ดต่างด้าวไฟเขียวธุรกิจต่างชาติลงทุนในไทยเดือนก.ค. เพิ่มอีก 41 ราย โกยเม็ดเงินลงทุนเกือบ 1,400 ล้านบาท จ้างงานคนไทยกว่า 600 คน
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. นางสาวอุรวี เงารุ่งเรือง รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ในเดือนก.ค.54 คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในไทยได้ 41 ราย มีเงินทุนที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ 1,379 ล้านบาท และมีการจ้างงานคนไทย 609 คน โดยประเทศที่เข้ามาลงทุนอันดับ 1 คือ ญี่ปุ่นสัดส่วน 49% ของจำนวนที่อนุญาต รองลงมาคือสิงคโปร์สัดส่วน 13% และจีนสัดส่วน 8%
ธุรกิจที่ได้รับการอนุญาตเป็นธุรกิจที่ต้องใช้ความรู้ความชำนาญเฉพาะด้าน ซึ่งมีผลดีต่อการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่คนไทยและเป็นประโยชน์ต่อระบบ สาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่มีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศส่งผลดีต่อผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรม ต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเลียม เป็นต้น นางสาวอุรวี กล่าว
สำหรับธุรกิจที่ได้รับการอนุญาต เช่น ซิโนไฮโดร คอร์ปอร์เรชั่น ลิมิเต็ด จากจีนได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจก่อสร้างทางวิ่งรถไฟฟ้าและสถานียกระดับ ช่วงเตาปูน-ท่าพระ ภายใต้โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ให้แก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย, นาริ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จากจีนได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจบริการจัดหา ติดตั้ง และทดสอบอุปกรณ์ระบบสถานีไฟฟ้าอัตโนมัติให้แก่การไฟฟ้านครหลวง
นอกจากนี้ ยังมีสิงคโปร์ เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ ลิมิเต็ด จากสิงคโปร์ ประกอบธุรกิจบริการออกแบบ จัดหา ติดตั้ง ระบบจัดเก็บเงินค่าโดยสารอัตโนมัติ ให้แก่ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ตามสัญญาระบบจัดเก็บเงินค่าโดยสารอัตโนมัติ ภายใต้โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท เชื่อมต่อซอยแบริ่ง และส่วนต่อขยายสายสีลมช่วงตากสิน-เพชรเกษม
นอกจากนี้ ยังได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจบริการออกแบบ จัดหาติดตั้งอุปกรณ์วิทยุสื่อสารระบบดิจิตอล ภายในสถานีรถไฟฟ้าและขบวนรถไฟฟ้า ให้แก่บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเชีย สำหรับโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ส่วนต่อขยายสายสีลมช่วงตากสิน-เพชรเกษม เป็นต้น
Last edited by Wisarut on 05/08/2011 8:05 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 05/08/2011 7:32 pm Post subject: |
|
|
ยังเป็นสิ่งที่นักการเมืองและสื่อมวลชนไม่เข้าใจ คือ เรื่องจุดคุ้มทุนของระบบราง (ไม่นับ รฟท.) ว่ากว่าจะคุ้มทุนมันต้องใช้เวลา ท่านรองผู้ว่า กทม.เข้ามาในยุคที่บีทีเอส กำลังเข้าที่เข้าทาง เลยไม่ได้มองกลับไปว่า กว่ามันจะกำไร มันก็ขาดทุนสะสมมาเท่าไหร่
ส่วนบีเอ็มซีแอลนี่ต้องอีกอย่างน้ยๆ 2 ปีล่ะครับ มันถึงจะถึงจุดคุ้มทุน ซึ่งตรงนี้อยู่บนพื้นฐานที่ว่าต้องไม่มีปัจจัยภายนอก เช่น นโยบายค่าโดยสารที่ถูกจนขาดทุนมากระทบนะครับ
ผมเข้าใจว่านโยบาลรถไฟฟ้า 20 บาท มันน่าจะเป็นในรูปแบบขงบัตร 30 - 60 เที่ยว แบบท่บีทีเอสทำ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรครับ ใครขึ้นบ่อย ก็ซื้อไว้ ใครขึ้นห่างหน่อยก็ซื้อบัตรเติมเงนแบบที่ผมใช้อยู่ ขึ้นเมื่อไหร่ก็ให้ส่วนลดกันไป หรือ จะไม่ให้ก็แล้วแต่ ส่วนใครที่ขึ้นเป็นเที่ยวๆ ก็เก็บตามระยะ อันนี้ล่ะถูกต้องที่สุด เพราะของบีทีเอสยังคิดแล้วตกเท่ยวละ 18 บาทกว่าๆเองไม่ใช่หรือ
จำไว้อย่างครับว่าของถูกและดี ฟรีแต่เลิศน่ะไม่มี เพราะถ้าไม่มีเงินจะเอาของถูกของดีมาจากไหนล่ะครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44066
Location: NECTEC
|
Posted: 05/08/2011 8:10 pm Post subject: |
|
|
^^
นั่นหะสินะ ความคิดนั้นไม่ได้ต่างจาก คนโง่ทึ่ม ที่ริอ่านจะจับนกด้วยตาข่ายตาเดียว เพราะ หลงคิดว่า นกเอาหัวลอดจากตาข่ายทั้งๆที่ความจริงแล้วมันต้องมีตาข่ายและตะกั่วถ่วงที่ทำให้สามารถใช้ตาข่ายดักนกได้สำเร็จ ส่วยอีกรายเช่น SEPO ที่กะจะให้ได้กำไรแต่ปีแรก ที่ดำเนินการ ชะรอยจะเป็น คนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ กระมังถึงได้คิดว่า กิจการที่ได้กำไรแต่ปีแรก เป็นดีหมด ที่เหลือเป็นเลวต้องทอดทิ้ง |
|
Back to top |
|
|
kikoo
1st Class Pass (Air)
Joined: 01/02/2010 Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง
|
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 05/08/2011 10:04 pm Post subject: |
|
|
คิดแบบคนขายของไงครับ ไม่ได้คิดว่ามันคือบริการสาธารณะไปด้วย...การขายของมันต้องดูอุปทานควบคู่กันไป ต้องดูว่าเราควักกระเป๋าขนาดไหน แล้วที่รีเทิร์นกลับมาแต่ละครั้งมันมากน้อยขนาดไหน มันไม่ใช่วางเงินแทง มาก้อนเดียวซะเมื่อไหร่ _________________
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47461
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 08/08/2011 8:36 am Post subject: |
|
|
ผลศึกษาชี้รถไฟฟ้า 20 บาท รัฐควัก 1.2 พันล้าน/ปีชดเชยเอกชน
กรุงเทพธุรกิจ
โดย นงนภัส ไม้พานิชย์
พรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย มีนโยบายพัฒนาระบบการขนส่งของประเทศในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยคิดค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย
การพัฒนารถไฟความเร็วสูงจากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯ-โคราช และ กรุงเทพฯ-หัวหิน รวมทั้งขยายเส้นทางแอร์พอร์ตลิงค์ไปยังภาคตะวันออก และการพัฒนารถไฟทางคู่เชื่อมปริมณฑลทั่วทุกทิศ โดยกระทรวงคมนาคมได้ศึกษานโยบายเหล่านี้แล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินงาน
กระทรวงคมนาคม ได้นำนโยบายของพรรคเพื่อไทยมาศึกษารายละเอียด โดยเปรียบเทียบกับแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีของกระทรวงฯ ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาระบบรถไฟฟ้า 10 สายทาง โครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง และโครงการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ และพบว่านโยบายพรรคเพื่อไทย สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ส่วนนโยบายจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น มีหลายแนวทางที่สามารถดำเนินการได้ โดยรัฐบาลต้องตัดสินใจว่าจะเลือกใช้แนวทางใด โดยแนวทางที่มีความเป็นไปได้ และสามารถดำเนินการได้รวดเร็ว คือการให้เงินชดเชยเอกชนผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน
ในส่วนของโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งมีปริมาณผู้โดยสารสูงสุด หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 5.1 แสนเที่ยวนั้น อัตราค่าโดยสารเฉลี่ยเที่ยวละ 24 บาท ขณะที่โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล หรือ รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที มีปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 1.8 แสนเที่ยว อัตราค่าโดยสารเฉลี่ยเที่ยวละ 26 บาท ส่วนโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง หรือแอร์พอร์ตเรลลิงค์ มีปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 3.7 หมื่นเที่ยว อัตราค่าโดยสารเฉลี่ยเที่ยวละ 31 บาท
หากใช้ตัวเลขดังกล่าวเป็นพื้นฐานในการคำนวณเม็ดเงินที่รัฐต้องชดเชยรายได้ให้แก่เอกชน พบว่าต้องใช้เงินปีละกว่า 1.2 พันล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 3.4 ล้านบาท แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องนำมาประกอบการพิจารณาเพื่อคำนวณเงินชดเชยอีก เช่น รายได้ของเอกชนที่เพิ่มขึ้น เพราะปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากนโยบายค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย และรายได้เชิงพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นจากการที่ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายของเอกชนที่จะเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มความถี่ของขบวนรถ เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในการเพิ่มบุคลากรเพื่อรองรับการให้บริการ ผลการศึกษาระบุ
สำหรับนโยบายพัฒนาระบบรถไฟฟ้า 10 เส้นทางนั้น ส่วนใหญ่สอดคล้องกับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน 12 สายทาง มูลค่า 8.3 แสนล้านบาทของกระทรวงฯ โดยมี 2 สายทางที่ไม่อยู่ในนโยบายพรรคเพื่อไทย คือ รถไฟฟ้าสายสีเทา เส้นทางวัชรพล-สะพานพระราม 9 ระยะทาง 26 กม. และรถไฟฟ้าสายสีฟ้า เส้นทางดินแดง-สาทร ระยะทาง 9.5 กม.
ส่วนรถไฟฟ้าที่สอดคล้องกัน 10 เส้นทาง คือ 1.สายสีแดงเข้ม เส้นทางธรรมศาสตร์-มหาชัย ระยะทาง 80.8 กม. 2.สายสีแดงอ่อน เส้นทางศาลายา-หัวหมาก ระยะทาง 58.5 กม. 3.สายแอร์พอร์ตลิงค์ ช่วง ดอนเมือง-บางซื่อ-พญาไท-สุวรรณภูมิ ระยะทาง 50.3 กม. 4.สายสีม่วง เส้นทางบางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 42.8 กม. 5.สายสีน้ำเงิน เส้นทางบางซื่อ-หัวลำโพง-ท่าพระ-พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 55 กม. 6.สายสีเขียวเข้ม เส้นทางลำลูกกา-สมุทรปราการ ระยะทาง 66.5 7.สายสีเขียวอ่อน เส้นทางยศเส-บางหว้า ระยะทาง 15.5 กม. 8.สายสีส้ม เส้นทางตลิ่งชัน-มีนบุรี ระยะทาง 37.5 กม. 9.สายสีชมพู เส้นทางแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 36 กม. และ 10.สายสีเหลือง เส้นทางลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม.
ขณะที่นโยบายรถไฟความเร็วสูง สอดคล้องกับแผนแม่บทการพัฒนาระบบรถไฟและรถไฟความเร็วสูงของกระทรวงฯ ซึ่งมีแผนก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง 5 เส้นทาง วงเงินรวม 9.8 แสนล้านบาท คือ 1.เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 345 กม. 2.เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะทาง 615 กม. 3.เส้นทางกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ระยะทาง 570 กม. 4.เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง ระยะทาง 221 กม. และ 5.กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 982 กม.
ส่วนนโยบายรถไฟทางคู่นั้น ปัจจุบันกระทรวงฯ อยู่ระหว่างการศึกษาและออกแบบโครงการรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง มูลค่า 6.6 หมื่นล้านบาท คือ 1.ลพบุรี-นครสวรรค์-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กม. 2.มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. 3.ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 184 กม. 4.นครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. และ 5.ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 166 กม. โดยโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ล่าช้ากว่าแผนประมาณ 6 เดือน เพราะขาดการจัดสรรงบประมาณ
นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่สอดคล้องกับแผนงานของกระทรวงฯ จะช่วยลดเวลาในการเตรียมโครงการของรัฐบาลได้มาก แต่ปัญหาที่ผ่านมาทุกยุคทุกสมัยคือการดำเนินโครงการขนาดใหญ่จะมีความล่าช้า จึงต้องติดตามว่ารัฐบาลชุดนี้ จะทำให้นโยบายการหาเสียงก่อนหน้านี้เป็นจริงได้มากน้อยเพียงใด |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44066
Location: NECTEC
|
Posted: 08/08/2011 9:45 am Post subject: |
|
|
รถไฟฟ้าเพื่อไทยมาไว!
โดยทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์ 8 สิงหาคม 2554 05.15 น.
พอเพื่อไทยได้ ครม. แล้วจะเร่งโครงการรถไฟฟฟ้าต่อนี้ให้สำเร็จ เนื่องจากผ่าน EIA แล้ว
1. สายเขียว หมอชิต - สะพานใหม่ ระยะทาง 12 กิโลเมตรมูลค่า 33000 ล้านบาท
2. สายเขียว สะพานใหม่ - คูคต - ลำลูกกา ระยะทาง 13.5 กิโลเมตร
ส่วนสายสีเทา (วัชรพล - สะพานพระราม 9) และ สายสีฟ้า (ดินแดง - ถนนวิทยุ - สาทร) จะเร่งทำ เพราะ จะได้ทำให้ที่ดิน ของ SC Assets ตามเส้นเลียบทางด่วน ได้ราคาเพิ่มอีกจมหู และ ทำให้ Makkasan Center มีค่าเพิ่ม เพราะ มี Monorail ป้อนจากดินแดง - ถนนวิทยุ และ สาทร |
|
Back to top |
|
|
|