ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[Mongwin]

รฟท.ปูพรมระบบราง
วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7575 ข่าวสดรายวัน หน้า 9

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า รฟท.เตรียมเสนอ 14 โครงการใหม่ เข้าสู่ระบบงบประมาณ รายจ่ายประจำปีཱི เพื่อศึกษาออกแบบโครงการ รวมทั้งสำรวจออกแบบ รายละเอียดโครงการรถไฟทางคู่เดิม เป็นเงินประมาณ 43 ล้านบาท ได้แก่
1.โครงการรถไฟฟ„าสายสีแดง ส่วนต่อขยายช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา
2.ส่วนต่อขยายสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช
3.ส่วนต่อขยายสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก
4.สายสีแดง ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
5.ศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่
6.ศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา
7.ศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หัวหิน
8.ศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อมท่ˆาอากาศยานสุวรรณภูมิและแอร์พอร์ตเรลลิงก์Œ ช่วงสุวรรณภูมิ-ชลบุรี-พัทยา
9.ศึกษาความเหมาะสมโครงการก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมฝั่งทะเลอันดามัน-อ่าวไทยบริเวณระนอง-ชุมพร
10.ทบทวนความเหมาะสมโครงการก่อสร้างทางรถไฟขนาดราง 1 เมตร สายระยอง-จันทบุรี-ตราด และขนาด 1.435 เมตร สายกรุงเทพฯ-ตราด
11.สำรวจออกแบบทางรถไฟเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน จะนะ-หาดใหญ่-ปากบารา
12.จ้างที่ปรึกษาออกแบบและจัดทำผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบัวใหญ่-มุกดาหาร-นครพนม
13.จ้างที่ปรึกษาและออกแบบการย้ายโรงงานมักกะสัน โรงรถจักรดีเซลบางซื่อ โรงรถจักรธนบุรี โรงซ่อมรถดีเซลรางและรถโดยสารกรุงเทพฯ โรงซ่อมรถสินค้าบางซื่อ และคลังพัสดุ และ
14.โครงสร้างพื้นฐานที่เป็นภารกิจของรฟท.

------------------------
รฟท.ของบ 2 พันล้าน ลุยศึกษา 13 โครงการ
ข่าวหุ้น วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม 2011 เวลา 21:49:34 น.

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตามคำแถลงนโยบายคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับนโยบายโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาระบบรางเพื่อขนส่งมวลชน และการบริหารจัดการระบบขนส่งสินค้าและบริการ รฟท.พิจารณาคำแถลงนโยบายดังกล่าวแล้ว เห็นควรขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 เพิ่มเติมจากเดิมที่คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย มีมติเห็นชอบการขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 วงเงิน 43,771,313,500 บาท เพิ่มอีก 2,137.06 ล้านบาทในการศึกษา 13 โครงการเพื่อให้สอดคล้องต่อนโยบายของรัฐบาล

สำหรับรายละเอียด 13 โครงการคือ
1.โครงการศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 100 ล้านบาท
2.โครงการศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา 50 ล้านบาท
3.โครงการศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-หัวหิน 50 ล้านบาท
4.โครงการศึกษาและพัฒนาขยายทางรถไฟแอร์พอร์ต เรลลิงค์ ต่อจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังชลบุรีและพัทยา 50 ล้านบาท
5.โครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา 779.06 ล้านบาท
6.โครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช 40 ล้านบาท
7.โครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน 150 ล้านบาท
8.โครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 20 ล้านบาท
9.โครงการศึกษาความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมฝั่งทะเลอันดามัน และอ่าวไทย บริเวณจังหวัดระนอง-ชุมพร 15 ล้านบาท
10.โครงการศึกษาความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างทางรถไฟขนาด 1.00 เมตร สายระยอง-จันทบุรี-ตราด และทางรถไฟขนาด 1.435 เมตร จากกรุงเทพฯ-ตราด 150 ล้านบาท
11.โครงการทบทวนสำรวจออกแบบรายละเอียดด้านสถาปัตยกรรม และวิศวกรรม เพื่อเตรียมการก่อสร้างทางเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน 250 ล้านบาท
12.โครงการสำรวจออกแบบรายละเอียดทางคู่ 3 เส้นทาง 100 ล้านบาท, ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ จำนวน 144 ล้านบาท และช่วงนครปฐม-หัวหิน 139 ล้านบาท และ
13.โครงการศึกษาออกแบบรายละเอียดรื้อย้ายโรงซ่อมรถไฟหลักในพื้นที่กรุงเทพฯและธนบุรีของการรถไฟฯ 100 ล้านบาท

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะกรรมการ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ว่า ขณะนี้ รฟท.ตั้งกรอบค่าเช่าพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรอยู่ระหว่าง 420-445 ล้านบาทต่อปี แต่ถือว่ายังเป็นราคาสูงมาก เมื่อเทียบราคาที่กทม.ยื่นเสนอมาล่าสุด 140 ล้านบาทต่อปี ที่ผ่านมา รฟท.ได้ประเมินค่าเช่าพื้นที่ไว้ 1,100 ล้านบาทต่อปี

[Mongwin]

ปรับปรุงรถไฟไทย ไม่ต้องรอเงินแสนล้าน ทำได้เลย !
โดย : อ.วิชัย กอสงวนมิตร
กรุงเทพธุรกิจ 26 ส.ค. 54 13.28 น.

ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยใช้บริการรถไฟเป็นประจำตั้งแต่สมัยยังเป็นนักศึกษา มีอยู่ช่วงหนึ่งของชีวิตที่ต้องใช้รถไฟไปทำงานเกือบทุกวัน

จนปัจจุบันได้ย้ายไปทำงานถึงเชียงใหม่ แต่ก็กลับใช้บริการรถไฟน้อยมาก สาเหตุก็เป็นที่รู้ๆ กันในคนใช้บริการรถไฟไทยว่า ทั้งไม่เคยตรงเวลา ใช้เวลามากกว่ารถทัวร์ แถมบริการแย่กว่า

ทั้งที่จริงแล้ว รถไฟสามารถให้บริการได้ที่ดีกว่า ไม่ว่าที่นั่ง ที่นอน หรือแม้ว่าจะเพิ่มบริการหรือความบันเทิงใดๆ ให้ในระหว่างการเดินทาง อีกทั้งรถยนต์ทุกชนิดล้วนแล้วแต่ต้องหลีกทางให้รถไฟไปก่อนที่จุดตัดถนนกับรถไฟ แปลกแต่จริงครับ....ร้อยกว่าปีที่ผ่านมา รถไฟไทยแทบไม่เคยพัฒนาเลย จำนวนขบวนรถที่ให้บริการก็เหลือน้อยเต็มที แต่รัฐบาลกลับประกาศว่าจะลงทุนด้วยเงินกว่าแสนล้านให้พัฒนาการรถไฟ

หากผมเป็นผู้บริหารบ้านเมือง ผมคงยังไม่กล้าให้นำเงินไปลงทุนเพิ่มโดยไม่รู้ว่าการรถไฟจะมีปัญญาใช้หนี้ให้เมื่อใด แต่ผมจะต้องให้ผู้บริหารของรถไฟไทยปรับปรุงการบริการให้เห็นก่อนว่า มีน้ำยาที่จะจัดการการเดินรถและการบริการให้ดีขึ้นได้จริงหรือเปล่าก่อน ผมไม่รู้หรอกว่าภายในการรถไฟนั้นมีกลุ่มก้อนผลประโยชน์กันอย่างไร แต่ผมก็เชื่อว่าองค์กรขนาดใหญ่นี้ ย่อมจะต้องมีพนักงานที่มีความรักและจริงใจต่อองค์กร ที่จะพัฒนาให้การบริการรถไฟดีขึ้น เพียงแต่ปัญหาเวลานี้คือ หัวรถจักรที่เป็นคนบริหารงานนั้น มีสภาพเก่าแก่และไร้ประสิทธิภาพยิ่งกว่าหัวรถจักรไอน้ำหรือเปล่าเท่านั้นเอง

หากคุณคือผู้บริหารการรถไฟ คุณคงต้องหาคำตอบให้ได้ก่อนว่า ผู้โดยสารนั้นอยากจะได้รับอะไรไปจากการให้บริการของการรถไฟ ผมเชื่อว่าคำตอบก็คงไม่พ้นไปจาก ความรวดเร็ว ตรงเวลา สะอาด บริการดี ราคายุติธรรรม ฯลฯ ทำนองนี้ ท่านเคยหาคำตอบหรือยังครับว่า สิ่งที่ผู้โดยสารต้องการนั้น ท่านให้ได้หรือยัง ? แล้วสาเหตุที่ท่านตอบว่ายัง มันเกิดจากอะไร ? แก้ไขได้หรือไม่ ? ถ้าท่านคิดว่าแก้ไม่ได้... ลาออกเถอะครับ ให้คนอื่นมาลองบริหารดูบ้าง !

มีผู้บริหารทั้งในภาครัฐบาล เอกชน และรัฐวิสาหกิจจำนวนมาก ที่ชอบคิดว่าการจะพัฒนาอะไรก็แล้วแต่ ต้องอาศัยงบประมาณก้อนโตเท่านั้นจึงจะทำได้ แต่ผมกลับไม่เคยคิดเช่นนั้น เงินจำนวนน้อยแต่ด้วยการใช้เทคนิควิธีการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ผสานกับความร่วมมือร่วมใจของคนในองค์การ ก็จะสามารถทำการพัฒนาปรับปรุงไปได้มากๆ แล้ว ลองพิจารณาดูข้อเสนอแนะเหล่านี้ดูสักนิดไหมครับ ?

1. ทำให้รถไฟทุกขบวนเร็วขึ้นและตรงเวลาอย่างง่ายๆ ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถทัวร์ รถไฟ หรือแม้กระทั่งเครื่องบิน ควรทำให้เดินทางด้วยความเร็วสูงสุดของยานพาหนะนั้นๆ สำหรับรถไฟแล้ว สามารถทำได้ แม้ยังไม่มีรถไฟรางคู่ตลอดเส้นทางทั้งประเทศ ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะทำเสร็จ วิธีการง่ายๆ นี้ เช่น จัดตารางเวลาเดินรถใหม่ ให้มีแต่ขบวนรถขาออกจากกรุงเทพฯ และปลายทางในเวลาบ่ายถึงดึก ยกเลิกขบวนรถสวนในช่วงนั้นให้หมด หรือหากมีคือต้องเป็นฝ่ายรอสับหลีกทุกสถานี (จะลดการเสียเวลารอหลีกไปเกือบหมด) และกำหนดให้ขบวนรถสายยาวทุกขบวน ไม่ต้องจอดสถานีย่อยทั้งใกล้ต้นทาง ระหว่างทาง และปลายทาง (จะลดระยะเวลาเดินทางได้เป็นชั่วโมง จนใช้เวลาใกล้เคียงกับรถทัวร์)

2. จัดเพิ่มขบวนรถไปจังหวัดใหญ่ๆ โดยตรงเพื่อเพิ่มจำนวนผู้โดยสาร การรถไฟจำเป็นต้องเพิ่มรายได้ด้วยการเพิ่มขบวนรถ เพราะปัจจุบันมีขบวนรถน้อยมาก ขณะที่ค่าใช้จ่ายคงที่สูงมาก และรถไฟก็ควรทำเช่นเดียวกับรถทัวร์ คือจัดให้ผู้โดยสารที่มีปลายทางเดียวกันอยู่ในรถคันเดียวกัน สำหรับจังหวัดใหญ่แล้ว หากรถไฟปรับปรุงบริการดีแล้ว ย่อมสามารถเดินขบวนรถต่างหากได้เลย แต่ในเฉพาะช่วงแรก อาจจัดเป็นอาทิตย์ละขบวนหรือสองขบวนครั้งก่อน การทำเช่นนี้ เป็นการให้ความสำคัญกับทั้งจังหวัดที่เพิ่มขบวนรถใหม่ และจะได้งดการหยุดจอดในขบวนรถสายยาวได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารไม่ต้องกังวลว่าจะถูกลักขโมยของระหว่างจอดสถานี

3. เปลี่ยนที่นอนรถปรับอากาศชั้นสองให้ไม่ต้องพับปิดเปิดเตียง และให้มีที่เก็บของการเดินทางระยะไกลในเวลากลางคืน ผู้โดยสารล้วนแล้วแต่ต้องการการนอนพักผ่อน ที่นอนของรถไฟนั้นสะดวกสบายกว่ารถทัวร์และเครื่องบิน แต่การที่ต้องใช้เจ้าหน้าที่พับกางและเก็บเตียงนอน เป็นเรื่องที่เปลืองกำลังพนักงานและสร้างความรำคาญให้แก่ผู้โดยสาร เหตุไฉนจึงไม่จัดที่นอนแบบด้านเดียวตามขวางของตู้นอน และให้เดินชิดหน้าต่างเช่นเดียวกับตู้นอนชั้นหนึ่ง เพียงแต่ไม่จำเป็นต้องกั้นและปิดประตูห้องนอน หากออกแบบได้ดีแล้ว ผู้โดยสารก็สามารถปรับม้านั่งยาวให้เป็นที่นอนเองได้ ส่วนผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม หรือหมอน ก็ให้เตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนออกจากสถานีต้นทาง โดยให้เป็นหน้าที่ของผู้โดยสารเอง อยากจะนอนเมื่อไหร่ก็ดำเนินการเอง ไม่ต้องถูกบังคับให้นอนตามเวลา สำหรับอุปกรณ์เครื่องนอนนี้ควรมีตู้เก็บ และเมื่อนำออกใช้แล้ว ตู้เก็บย่อมสามารถเปลี่ยนเป็นที่เก็บสัมภาระระหว่างเดินทางได้ด้วย

4. เก้าอี้นั่งชั้นสองและสามเปลี่ยนใหม่หมดได้แล้ว อย่างน้อยเก้าอี้นั่งรถไฟควรทำให้ดีไม่แพ้รถทัวร์ เพราะรถไฟมีระยะความกว้างและยาวไม่น้อยกว่ารถทัวร์ ยิ่งหากเป็นที่นั่งชั้นสองแล้ว ควรให้ได้ใกล้เคียงรถทัวร์วีไอพีชนิดนอนพิเศษด้วยซ้ำไป สำหรับเก้าอี้ไม้และเก้าอี้สีเขียวแก่ ผมคิดว่าควรจะเปิดประมูลขายทิ้งทั้งหมดเพื่อให้ประชาชนซื้อไปไว้เป็นที่ระลึกได้แล้ว

5. งดการเดินตรวจตั๋ว และเดินกวาดเช็ดถูระหว่างเดินรถโดยเด็ดขาด ผมไม่เข้าใจว่าแทนที่การรถไฟจะจัดถังขยะให้เพียงพอ แต่ทำไมต้องขยันเดินกวาดเดินถูกันเหลือเกิน แถมมักจะขอตรวจตั๋วระหว่างเดินทาง ทำไมไม่ตรวจตั้งแต่ก่อนขึ้นรถเช่นเดียวกับรถทัวร์หรือเครื่องบิน เจ้าหน้าที่ที่ไปกับขบวนรถ ควรเป็นเจ้าหน้าที่ที่คอยบริการมากกว่าครับ แต่งตัวให้ดูดี มีอัธยาศัยไมตรีกับผู้โดยสารน่าจะเข้าท่ากว่ากันเยอะเลยครับ

6. เพิ่มบริการให้สมกับราคาค่าโดยสาร ปัจจุบันคงมีเหลือเพียงรถไฟไทยเท่านั้นครับ ที่ผู้โดยสารจะต้องซื้อแม้กระทั่งน้ำดื่ม ยิ่งอาหารแล้วต้องไปเจอกับราคาสุดโหดที่ตู้เสบียง ทำให้เหมือนเครื่องบินเถอะครับ หากเพิ่มค่าโดยสารอีกหนึ่งร้อยบาท แต่มีทั้งอาหาร อาหารว่าง กาแฟ หนังสือพิมพ์ วีดีโอ เกมส์ ฯลฯ บริการทุกที่นั่ง ทำไมจะทำไมได้ครับ ?

7. มีโบกี้พิเศษในขบวนเดินทางไกล รถไฟนั้นได้เปรียบรถทัวร์อย่างมาก ตรงที่หนึ่งขบวนอาจมีผู้โดยสารนับพันคน หากจะจัดโบกี้หนึ่งที่ไม่ใช่เพื่อขายอาหารแสนแพง เป็นโบกี้ผ่อนคลายระหว่างเดินทาง จะมีบริการนวดฝ่าเท้า ซาวน่า ฯลฯ ระหว่างเดินทางก็ย่อมได้ จะมีที่ให้เด็กเล่นแบบเล่นฟรี และแบบหยอดเหรียญเล่นเองด้วยก็ได้ หากทำได้แล้ว คนคงจะไม่อยากเดินทางด้วยรถทัวร์อีกเป็นแน่

8. ปรับปรุงห้องสุขาและควรมีห้องอาบน้ำ ควรทำห้องสุขาให้ดีกว่าเครื่องบิน เพราะรถไฟสามารถทำห้องสุขาที่กว้างกว่า และยังสามารถเติมน้ำและอุปกรณ์ที่จำเป็นกลางทางได้ แต่ทำไมห้องน้ำรถไฟไทยจึงไม่มีอะไรให้เลย ผมจำได้ว่าสามสิบปีก่อน ผมเคยอาบน้ำบนรถด่วน แต่ปัจจุบันไม่มีให้ใช้แล้ว ลองคิดดูซิครับ เดินทางไปไกลๆ สามารถอาบน้ำก่อนลงจากขบวนรถได้ คนจะเลือกไปรถทัวร์หรือรถไฟ ?

9. อำนวยความสะดวกซื้อตั๋วและเลือกที่นั่งบนอินเตอร์เน็ต เป็นการประหลาดมากครับ ที่การรถไฟของไทยมีเวปไซต์มานานแล้ว สามารถตรวจเช็คได้ขนาดว่าขบวนรถในเวลาปัจจุบันขบวนไหนเดินทางไปถึงสถานีไหน แต่กลับไม่สามารถขายตั๋วออนไลน์บนอินเตอร์เน็ตได้ ควรทำให้ได้แบบเครื่องบินคือซื้อตั๋วและเลือกที่นั่งได้บนอินเตอร์เน็ต และที่สำคัญคือ จะต้องยินยอมให้เลื่อนการเดินทางได้อย่างน้อยหนึ่งครั้งโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกับรถทัวร์

10. หัดรับฟังข้อเสนอแนะและทำการสำรวจความต้องการลูกค้าบ้าง หากคิดจะทำธุรกิจแล้ว จะต้องยอมรับฟังข้อเสนอแนะและคำติชมของลูกค้า และควรตอบข้อเสนอแนะลูกค้าทุกฉบับด้วยความใส่ใจ หากข้อเสนอแนะใดเป็นประโยชน์อาจมีของสมนาคุณให้บ้างก็ยิ่งเป็นการดี

11. ต้องขอโทษและชดเชยความเสียหายแก่ผู้โดยสารในกรณีที่เกิดข้อบกพร่องในการบริการ ไม่ว่าจะตั้งใจบริการให้ดี แต่โอกาสผิดพลาดยังมีอยู่เสมอ เช่น กรณีรถไฟไปถึงสถานีล่าช้าเกินกว่าสิบห้านาที กรณีบริการบกพร่องไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม ควรมีหนังสือขอโทษจากผู้บริหารการรถไฟ เพื่อให้ผู้บริหารทราบว่ามีความบกพร่องเกิดขึ้นแล้ว และควรจะชดเชยด้วยคูปองส่วนลด หรือของสมนาคุณบ้างตามสมควร (ผมเคยได้รับไมล์สะสมเพิ่มอีกถึงสามพันไมล์จากสายการบินนอร์ทเวสต์ หรือจะเลือกคูปองส่วนลดการใช้บริการครั้งถัดไป เพียงเพราะเครื่องออกล่าช้า แต่ผมกลับไม่เคยได้รับจากการโดยสารใดๆ ในประเทศไทยเลยทุกครั้งที่ล่าช้า)

12. ปรับปรุงสถานีรถไฟให้มีความทันสมัย การบริการด้านขนส่งผู้โดยสาร นอกจากยานพาหนะที่ดี สะดวกสบาย และการบริการระหว่างเดินทางแล้ว ความพร้อมของสถานีก็เป็นสิ่งสำคัญ สถานีรถไฟทุกสถานีที่เป็นระดับจังหวัดหรือชุมทาง ควรจะติดเครื่องปรับอากาศ และมีศูนย์อาหาร ฟาสฟู้ดส์ ร้านสะดวกซื้อ ร้านหนังสือ ร้านกาแฟ และอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงบริการแก่ผู้โดยสารในระหว่างที่รอรถไฟ และการรถไฟจะต้องคำนึงถึงความทันสมัยและราคายุติธรรม ไม่ใช่คิดหาผลประโยชน์เป็นหลักจากบริการเสริมเหล่านี้

ผมยังไม่กล้าฝันไปถึงรถไฟความเร็วสูงของไทย ซึ่งประเทศลาวจะมีใช้ในอีกสามปีข้างหน้าแล้ว ผมไม่หวังที่จะเห็นสถานีรถไฟที่เหมือนสนามบินแบบที่เห็นมาที่นิวยอร์ค แต่ผมขอเพียงให้รถไฟไทยมีบริการที่ไม่แพ้รถทัวร์และใช้เวลาเดินทางไม่มากกว่า ผมอยากเห็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ของรถไฟจนทำให้คนไทยหันกลับนิยมมาใช้การเดินทางด้วยรถไฟอีก และการรถไฟแห่งประเทศไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นกอบเป็นกำ

และแน่นอนว่า ผมก็ไม่อยากเห็นการขูดเลือดผู้โดยสารจากค่าเข้าห้องน้ำ ค่าจอดรถและค่ารับฝากสัมภาระที่สถานีรถไฟ ที่เพิ่งขึ้นราคาแบบก้าวกระโดดเพียงเพราะการเปิดให้เอกชนประมูลรับไปหารายได้ วิธีการหาเงินแบบนี้ไม่ควรอย่างยิ่งในการนำมาใช้กับธุรกิจบริการประชาชน ยิ่งการหารายได้จากการให้เช่าที่ที่การรถไฟไปเวนคืนมาจากชาวบ้านตาดำๆ ในอดีตด้วยแล้ว ผมว่าเป็นผลงานที่น่าละอายเหลือเกิน ! รีบดำเนินการปรับปรุงบริการเถอะครับ หรือไม่ก็แปรรูปจากรัฐวิสาหกิจให้เอกชนเขาทำแทน รถไฟไทยจะได้มีการพัฒนาเสียที !

[Wisarut]

^^^
ผู้เขียนออกความเห็นบางอย่างโดยไม่ได้ดูในเชิงลึกว่าทำไมจึงยังจำเป็นต้องกวาดเช็ดถูก็เพราะ ผู้โดยสารทำเลอะเทอะสกปรก ต่อให้มีถังขยะพอก็ยังทิ้งเลอะเทอะอยู่ดี

[alderwood]

[Wisarut]

^^^
งั้นแมวย่องส่งความเห็นไปโต้ตอบ ทุกข้อ - อัดให้หนักมือ เลยนะ

[nop2]

ผมคิดว่าเค้าคงไม่มาอ่านหรอก ...
_________________
"You are star I am darkness Our love brighter than the sun .."

[Wisarut]

^^^
นี่แสดงว่าไม่เคยอ่าน Postbag ของ บางกอกโพสต์หรือ Letter to Editor ของ The Nation กระมัง ถึงได้พูดเช่นนี้ - อีกเรื่องกา็คือสำนวนการเขียนก็ออกไปทาง Panthip dot com เพราะ เก่แต่วิจารณืและทึกทักเอาเองว่าโลกต้องเป็นอย่างนั้น โลกต้องเป็นอย่างงี้ พำอโลกจริงๆ เป๋็นอย่างอื่นที่นอกเหนือจกาควาทมคิดของต้นก็กล่าวโ?ษว่าโลกผิด ต้องทำลายโลกให้เป็นภัสมธุลี แล้วปั้นโลกขึ้นมาให้ใหม่จึงจะดี ... จิตใจไม่ต่างอะไรกะ จักรพรรดิ์องค์น้อย ที่หลงตนว่าเป็นพระเจ้าโดยแท้!

[kikoo]

^
สำเนียงภาษาในการวิจารณ์รถไฟ มันคุ้นๆเหือนเคยอ่านที่ไหนมาก่อนนะ
_________________
ความคืบหน้าโครงการปรับปรุงทางช่วงที่วัง-กันตัง
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5618

[yuktanan]

แต่บางอย่างก็ควรรับฟัง...

ทุกวันนี้ผมเดินทางไปสถานีรถไฟสามเสนเป็นประจำ แต่ดูว่าห้องเก็บของที่ รอการจ่ายสกปรกมากเลย

[black_express]

ก็...เป็นอีกความเห็นหนึ่งในหลายๆ ความเห็นจากมุมมองคนภายนอก ที่คาดหวังได้อะไรมากมายจากการรถไฟฯ แต่หลายๆ หัวข้อนั้น ยังปรับปรุงไม่ได้ตามที่คาดหวัง เช่น จำนวนรถจักร ล้อเลื่อน สภาพทาง หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนขบวนรถ

บางหัวข้อ ขึ้นอยู่กับตัวผู้โดยสารเองที่ไม่ช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดในขบวนรถ คิดเหมือนอยู่ตามร้านอาหาร จะทิ้งอะไรก็ทิ้ง ทานอะไรก็ทาน เวลาถึงที่หมายก็สะบัดตูดลงจากรถ ปล่อยให้เป็นภาระของพนักงานที่ต้องมาจัดการเอาเอง

แต่บางหัวข้อ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกความรับผิดชอบของบรรดาพนักงานที่สมควรปรับปรุงนะครับ ไม่ใช่ว่ารถไฟเป็นบ้านของฉัน จะทำอะไรตามใจชอบ แต่ลืมนึกไปว่า เงินผู้โดยสารที่ขึ้นมาจ่ายให้ ล้วนเป็นรายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองและครอบครัวทั้งนั้น