ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

milkonline · Posted: 11/09/2011 8:17 pm Post subject:

ชายวัย 51 เสียชีวิตบนรถไฟขณะกลับบ้านเกิด
ข่าว : INN

พ.ต.ท.ดุษฎี ศรีสุวรรณ พนักงานสอบสวน(พงส.สบ 3) สถานีตำรวจภูธรเมืองลำพูน รับแจ้งจากพิจิตร ดอกพุต นายสถานีรถไฟลำพูน ว่า พบผู้เสียชีวิตบนรถไฟขบวนปรับอากาศ ชั้น 2 กรุงเทพ-เชียงใหม่ ขณะมาจอดแวะรับผู้โดยสารจากจังหวัดลำพูน ตรวจสถานที่เกิดเหตุบนรถไฟขบวนดังกล่าว พบศพนายชาญวิทย์ ทิพสถาพร อายุ 51 ปี ภูมิลำเนาจ.เชียงใหม่ นอนเสียชีวิตในสภาพนอนหงาย จากการสอบถามภรรยา และญาติที่มาด้วยกันทราบว่าผู้ตายไปทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการ กำลังเดินทางกลับบ้าน ระหว่างนั้นผู้ตายนอนงีบหลับไป เมื่อมาถึงชานชลาที่จังหวัดลำพูน จึงปลุกให้ตื่นเห็นแน่นิ่งจึงแจ้งเจ้าหน้าที่รถไฟ เบื้องต้นผู้ตายมีโรคประจำตัว ทั้งความดัน เบาหวาน ภูมิแพ้ หัวใจ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง จึงนำศพไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลลำพูน เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง

[/url]
_________________
N-Scale model train lovers.

Wisarut · Posted: 12/09/2011 10:42 am Post subject:

ข่าวนี้มีผลกระทบกะคนรถไฟไม่มากก็น้อย:
ชงวางท่อน้ำมัน 1.5หมื่นล้านบาท
หน้าเศรษฐกิจ เดลินิวส์
วันจันทร์ ที่ 12 กันยายน 2554 เวลา 0:00 น

นายสมนึก บำรุงสาลี รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่าทางกรมธุรกิจพลังงานได้รายงานผลการศึกษาโครงการท่อขนส่งน้ำ มันภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะมีเงินลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท ให้นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงานรับทราบแล้ว เพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งน้ำมันไปยังภูมิภาคนี้ได้ มากจากเดิมที่ต้องใช้การขนส่งทางรถบรรทุกและรถไฟเท่านั้น

ทั้งนี้โครงการท่อขนส่งน้ำมัน แบ่งออกเป็น 2 สาย คือจากสระบุรี (บ้านป๊อกแป๊ก) -ลำปาง และสระบุรี (บ้านป๊อกแป๊ก) -ขอนแก่น คาดว่าจะใช้เงินลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อท่อขนส่งน้ำมันที่ส่งมาจากระยอง โดยมีจุดศูนย์กลางที่สระบุรี โดยจะสร้างคลังน้ำมันปลายท่อให้ห่างจากชุมชนอย่างน้อย 20 กม. ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และควรจะใกล้กับรางรถไฟด้วย ขณะที่รูปแบบการลงทุนในหลักการควรเป็นภาคเอกชน เพราะคล่องตัวมากกว่าและยังเป็นโครงการที่ต่อยอดจากโครงการท่อส่งน้ำมันที่มีอยู่แล้ว.

Note: ถ้ามองโลกในแง่ดี ก็คงต้องเดินรถไฟจากคลังน้ำมันที่ขอนแก่นไป ส่งท่านาแล้ง และ จากคลังน้ำมันลำปางไปเชียงใหม่

Mongwin · Posted: 12/09/2011 11:18 am Post subject:

ทำท่อส่งน้ำมันไปตามเขตทางรถไฟ ไม่ต้องเวนคืนที่ดินชาวบ้านหรือเปล่าครับ
แต่รถไฟก็ขาดรายได้จากการขนส่งน้ำมันสิครับ

-----------------

คมนาคมขอ 2.5 หมื่นล.ชงครม.เดินหน้า 4 โครงการรอหน่วยงานเสนออีก 3 เรื่อง
โพสต์ทูเดย์ Monday, 12 September 2011 05:49

โพสต์ทูเดย์ -คมนาคม ยันเดินหน้า 4 โครงการเก่า แก้ไขปัญหาให้ประชาชนวงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาทเสนอรัฐบาลใหม่อีกรอบ

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมยืนยันการดำเนิน 4 โครงการเก่า เพื่อเสนอต่อ ครม.ใหม่คือ
1.โครงการก่อสร้างเขื่อนยกระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและน่าน ของกรมเจ้าท่า
2.โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบาราจ.สตูล ของกรมเจ้าท่า

ส่วนโครงการที่ 3.โครงการพัฒนาพื้นที่ในเขตทางพิเศษเชิงพาณิชย์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และ
4.การชดเชยผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมวงเงินทั้งสิ้น 2.5 หมื่นล้านบาท

ขณะเดียวกันยังมีอีก 3 เรื่อง ที่อยู่ระหว่างรอให้หน่วยงานเจ้าของโครงการยืนยันและเสนอเรื่องมายังกระทรวงคมนาคม ก่อนนำเสนอครม.ต่อไป ได้แก่

1.โครงการจัดหาเครื่องบินแบบเครื่องยนต์ไอพ่น 2 เครื่องยนต์ จำนวน 1 ลำ ของกรมการบินพลเรือน ซึ่งโครงการนี้ ครม.ได้เห็นชอบในหลักการแล้ว รอเพียงขอกรอบวงเงินลงทุนเท่านั้น

2.ขออนุมัติใช้พื้นที่อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสำหรับโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 4 สายตรัง-พัทลุง ตอนบ้านนาโยงเหนือ-เขาพับผ้า(บ้านนาวง) ให้เป็น 4 ช่องจราจรของกรมทางหลวง ซึ่งโครงการนี้ได้รับอนุมัติวงเงินในการก่อสร้างแล้ว

3.การขออนุมัติเปลี่ยนแปลงวิธีการบริหารจัดการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง หรือไอซีดี ที่ลาดกระบัง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)

"โครงการนี้ได้รับข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานและดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535" แหล่งข่าวเปิดเผย

ทั้งนี้ อีกเรื่องที่กระทรวงคมนาคมจะทบทวนเรื่องใหม่ คือ การปรับแผนการดำเนินงาน และกรอบวงเงินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามจุดตัดทางรถไฟของ กรมทางหลวงชนบท ตามแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ของ ร.ฟ.ท. ระยะเร่งด่วน พ.ศ.2553-2557 เพิ่มเติม

Wisarut · Posted: 12/09/2011 11:19 am Post subject:

อย่างมากก็ได้ค่าเช่าที่วางท่อก๊าซ และ บังคับให้มีการปลดถ่ายรถ บทค. ไปทำรถ บทต. แทน

black_express · Posted: 12/09/2011 11:38 am Post subject:

แค่เห็นข่าว แสดงว่าลูกค้าต้องการความแน่นอนในการจัดส่งน้ำมันทางท่อมากกว่าขบวนรถไฟแล้วครับ

ลงทุนมากกว่าก็จริง แต่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว

ว่าแต่การรถไฟฯ พึงใจเฉพาะค่าเช่าที่ดินเพื่อวางท่อเท่านั้นหรือครับ ?

alderwood · Posted: 12/09/2011 12:18 pm Post subject:

คงไม่อยากลุ้นกับรถจักรเรากระมังครับ ได้หัวมาแล้ว ทำขบวนออกตามเวลาเป๊ะ แต่ก็มาช้ากับผังนี่ล่ะครับ จับรถสินค้ารอหลีกไม่ต่ำกว่า 20-30 นาที บางที่ รอแค่ขบวนเดียว ล่อไปชั่วโมงนึง อีกอย่าง คงกลัวร่วงแบบที่หนองมโนรมย์มั้งครับ

ตอนนี้ ถังเบอร์ 5 ก็ยกเลิกสัญญาไปแล้ว เห็นว่าจะมีการเจรจาเช่าถัง เพื่อมาพ่วงในขบวนด่วนดำแทน
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter

black_express · Posted: 12/09/2011 2:13 pm Post subject:

ภารกิจของการรถไฟฯ คือการขนส่งโดยใช้รถไฟ ไม่ใช่ทางท่อนี่ครับ

แสดงว่าลูกค้าเขาทนรำคาญไม่ไหวด้านปัญหาบริการ จะซื้อรถจักรให้ผ่อนส่ง ก็ผิดระเบียบฯ เลยวางท่อส่งน้ำมันเองดีกว่า

เผลอๆ จะส่งน้ำมันดิบทางท่อเข้าโรงกลั่นเลยน่ะสิ Razz

suraphat · Posted: 12/09/2011 2:56 pm Post subject:

กระผมว่ากรณีในแบบนี้ ก็น่าจะมีโรงงานสูบถ่ายน้ำมันในแบบที่เชียงรากน้อยกลับมาอีกแน่ๆนะครับ

ซึ่งต่อไปเราเองก็อาจจะได้เห็นรถน้ำมันดิบมาทำการสูบถ่ายกันที่เชียงรากน้อยนี้ก็อาจจะเป็นได้นะครับ โดยเมื่อสูบถ่ายแล้ว ก็จะถูกลำเลียงไปในทางท่อเพื่อนำไปเก็บไว้ที่คลังบางจาก ก็อาจเป็นได้นะครับ Wink

Wisarut · Posted: 13/09/2011 1:24 am Post subject:

ตอกฝาโลงICD2 ลาดกระบัง
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้าอสังหา Real Estate - อสังหาฯ-คมนาคม
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 09 กันยายน 2011 เวลา 13:47 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,669 11-14 กันยายน พ.ศ. 2554

คมนาคมปรับแผนไม่เอาไอซีดี 2 ที่ลาดกระบัง อ้างห่างไอซีดี 1 เพียง 5 กิโลเมตร อาจกระทบการเดินทางและเกิดปัญหาจราจรจากรถบรรทุกเข้า-ออก ย้ายใหม่ไปที่แก่งคอย เพื่อเพิ่มศักยภาพให้สามารถรองรับการพัฒนาโลจิสติกส์จากภาคเหนือและภาคอีสานสู่แหลมฉบังได้เร็วขึ้น

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าได้สั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ปรับเปลี่ยนแผนการพัฒนาโครงการก่อสร้างสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่องไอซีดี(ICD)แห่งที่ 2 จากลาดกระบังไปอยู่ที่อื่นแล้ว เนื่องจากเห็นว่าใกล้กับไอซีดีที่ลาดกระบังแห่งแรกเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปัญหาการจราจร เนื่องจากมีรถเข้า-ออกจำนวนมาก ปัจจุบันการจราจรในพื้นที่หนาแน่นอยู่แล้ว จึงให้ไปพิจารณาทำเลแห่งใหม่ในที่เหมาะสมกว่า เช่น ที่แก่งคอย จังหวัดสระบุรี เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อไปยังท่าเรือแหลมฉบังโดยไม่ต้องแวะเข้ามาในพื้นที่แหลมฉบังจะช่วยย่นระยะทางและเวลาลงไปได้อีกมาก ประการสำคัญพื้นที่แหลมฉบังอาจจะมีปัญหาพื้นที่น้ำท่วมขังในอนาคต

"ควรเลือกพื้นที่ที่สามารถรองรับระบบโลจิสติกส์ในอนาคตเอาไว้ด้วย โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าจากภาคเหนือที่อาจจะมาจากจีนหรือจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เดินทางไปสู่ท่าเรือเพื่อการส่งออกที่แหลมฉบังได้รวดเร็วขึ้น ส่วนสถานีไอซีดีลาดกระบังปัจจุบันก็ควรบริหารจัดการใหม่ให้เพิ่มพื้นที่รองรับได้อีกเนื่องจากการจัดสร้างแห่งใหม่คาดว่าจะต้องใช้เวลา 2-3 ปีจึงจะเสร็จสิ้น และต้องใช้งบประมาณสูงถึง 6,066 ล้านบาทจัดเป็นงบผูกพัน 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 (2,000 ล้านบาท) ปี 2555(2,000 ล้านบาท) และปี 2556(2,066 ล้านบาท) มีทั้งเงินลงทุนค่าทดแทนที่ดินและอาคารสิ่งปลูกสร้าง รวมกว่า 1 พันล้านบาท ตลอดจนค่าก่อสร้างรวมกว่า 5 พันล้านบาท โดยการรถไฟฯเสนอให้กู้เงินจากแหล่งเงินตามที่กระทรวงการคลังเห็นชอบและ ร.ฟ.ท.จะรับผิดชอบดอกเบี้ยพร้อมการผ่อนชำระหมด"

นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า โครงการนี้คาดว่าต้องเวนคืนพื้นที่ให้ได้ประมาณ 900-1,000 ไร่ดังนั้นการศึกษาหรือการตรวจสอบใหม่จึงต้องศึกษาลงลึกในรายละเอียดก่อนตัดสินใจพัฒนาโครงการใหม่อีกครั้งเพื่อค้นหาสาเหตุต่าง ๆ โดยต้องการเปรียบเทียบผลดีผลเสียตลอดจนการรองรับในอนาคตเอาไว้ด้วย การพัฒนาต้องให้สอดคล้องกับแผนการยกเครื่องการรถไฟเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการขนส่งสินค้าและขนส่งผู้โดยสารพร้อมกับให้เกิดการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายให้มากที่สุดจึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยตามแผนนั้นการก่อสร้างไอซีดี แห่งที่ 2 นี้เป็นโครงการที่เกี่ยวพันกับโครงการก่อสร้างทางคู่สายตะวันออกที่กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งผลักดัน โดยจัดอยู่ในแผนยกเครื่องระบบโครงสร้างพื้นฐานการรถไฟภายใต้งบประมาณ 1.7 แสนล้านบาท

ส่วนสถานีไอซีดี ลาดกระบังที่เปิดให้บริการในปัจจุบันได้ถูกออกแบบให้รองรับปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ เข้า-ออกจำนวน 800,000 ทีอียู แต่ไอซีดี ลาดกระบังรองรับปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ถึง 1.7 ล้านทีอียู ขณะที่ปริมาณการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางรถไฟระหว่างไอซีดี ลาดกระบังและท่าเรือแหลมฉบังอยู่ที่ประมาณ 450,000 ทีอียูต่อปีเท่านั้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างไอซีดี แห่งที่ 2 ควบคู่กับการก่อสร้างทางคู่สายตะวันออก เพื่อรองรับปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ที่ขนส่งระหว่างไอซีดี และท่าเรือแหลมฉบังที่เพิ่มขึ้นต่อไป

ด้านพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมการรถไฟฯ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2554 ที่ผ่านมาว่า จะต้องมีการพิจารณาทบทวนความจำเป็นของโครงการต่างๆ ที่อยู่ในแผนลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน 176,808 ล้านบาท ร่วมกับร.ฟ.ท.ใหม่ ว่าจะดำเนินการส่วนไหนและตัดลดส่วนไหนบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลต้องการผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ที่สามารถขนส่งได้ทั้งผู้โดยสารและสินค้า โดยใช้รางขนาด ขนาด 1.435 เมตร (Standard Gauge) และหากปรับลดการลงทุนในส่วนที่ไม่จำเป็นและไม่สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว ก็จะสามารถนำงบประมาณที่เหลือไปใช้ประโยชน์อื่นได้ ซึ่งจะเร่งสรุปความชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์นี้

srinopkun · Posted: 13/09/2011 7:59 am Post subject: