ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)

Mongwin

ชง ครม.เคาะรถไฟสายสีเขียวเข้ม
ไทยรัฐออนไลน์ 23 กันยายน 2554, 05:15 น.

กระทรวงการคลังชง ครม.เคาะรถไฟสายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ และ สายสีเขียวอ่อน ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ รวมวงเงิน 37,219 ล้านบาท ...

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 27 ก.ย.นี้ ทางกระทรวงการคลังจะเสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติเงินกู้ในประเทศและให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ วงเงิน 19,381 ล้านบาท และสายสีเขียวอ่อน ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ วงเงิน 17,838 ล้านบาท รวมวงเงิน 37,219 ล้านบาท ส่วนการชำระคืนหนี้เงินกู้ในส่วนที่รัฐบาลรับภาระการลงทุนวงเงิน 37,219 ล้านบาทนั้น ให้ สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี เป็นงบชำระหนี้ให้แก่ รฟม. เพื่อชำระหนี้คืนแก่แหล่งเงินกู้โดยตรง ทั้งเงินต้น ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง

ส่วนการบริหารจัดการเห็นควรให้ รฟม.ในฐานะผู้รับผิดชอบการดำเนินโครงการส่วนต่อขยายเร่งเจรจากับกรุงเทพมหานครในฐานะคู่สัญญาสัมปทาน และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ในฐานะผู้รับสัญญาสัมปทานและการเดินรถไฟฟ้า ถึงแนวทางการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าระหว่างส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่กับสายเดิม ที่บีทีเอสเป็นผู้รับสัญญาสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าอยู่

ทั้งนี้ การเจรจาเชื่อมต่อจะต้องยึดหลักดังนี้ คือ สามารถเดินรถเชื่อมต่อกันได้เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ขณะเดียวกันจะต้องกำหนดอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม และไม่สร้างภาระให้ผู้ ใช้บริการเพิ่มเติม โดยควรเก็บค่าแรกเข้า (Single Entry Fee) เพียงครั้งเดียวและเก็บเงินตามระยะทาง

Wisarut · Posted: 23/09/2011 11:56 am Post subject:

^^^
กู้เงินในประเทศ งานนี้ก็หวานซีโนไฮโดร + ผู้รับเหมาไทยหละสินะ Rolling Eyes

nathapong · Posted: 23/09/2011 5:07 pm Post subject:

ต่อไป จะได้เห็นสถานี N 9 - N 20 เสียที...

จุดที่รถไต่พันกัน กับทางยกระดับที่วงเวียนอนุสาวรีย์หลักสี่

คงเป็นสถาที่มหัศจรรย์ ของกรุงเทพ ฯ ...ก็คราวนี้ Embarassed

donatt76 · Posted: 23/09/2011 5:52 pm Post subject:

ต่อจากแบริ่ง????? เค้าเจรจาให้ข้ามเขตกันได้แล้วเหรอ??? เพราะแผนเดิมจะต้องปล่ยทางที่สำโรงแต่ติดปัญหาที่ BTS มันเป็น รถไฟฟ้า กทม.อ่ะ
_________________
Click on the image for full size

Mongwin · Posted: 27/09/2011 7:02 pm Post subject:

ครม.มีมติให้คลังกู้เงินในประเทศให้รฟม.ใช้ในโครงการรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม
ฐานเศรษฐกิจ วันอังคารที่ 27 กันยายน 2011 เวลา 18:32 น.

น.ส. ฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติการกู้เงินในประเทศ ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. นำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายก่อสร้างงานโยธา ค่าจ้าง ค่าที่ปรึกษา สำหรับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ จำนวน 19,381 ล้านบาท และช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ จำนวน 17,838 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระด้านการลงทุน และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้บริการ และเป็นภาระต่อรัฐบาลน้อยที่สุด ให้รฟม.กับกรุงเทพมหานครฯ ไปหารือกัน เพื่อให้เกิดแนวทางชัดเจนในการบริหาร รวมถึงการ เชื่อมต่อเส้นทางในอนาคตด้วย

นอกจากนี้ อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) จัดหาเงินกู้ภายในประเทศ เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในแผนที่โครงการ รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 1 พญาไท-มักกะสัน-สุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ตเรลลิงค์ วงเงิน 1,860 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ รวมทั้ง มอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และสำนักงบประมาณ กลับไปพิจารณาราคาค่าโดยสารที่ 20 บาทตลอดสายตามนโยบายของรัฐบาลว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่

รวมทั้งได้อนุมัติเงินอุดหนุนให้การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ประจำปีงบประมาณ 2554 เพื่อใช้ในการให้บริการสาธารณะ โดย รฟท.ขอรับเงินอุดหนุนจำนวน 4,159 ล้านบาท ในการให้บริการเดินขบวนรถเชิงสังคมจำนวน 164 ขบวน มีกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการเชิงสังคมที่เป็นผู้มีรายได้น้อย จำนวน 31.205 ล้านคน

Mongwin · Posted: 26/12/2011 10:13 am Post subject:

ช.การช่าง แจ้งลงนามรถไฟฟ้าสีเขียว "แบริ่ง-สมุทรปราการ" สัญญา1 มูลค่า 14,088ล้าน
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 10:08:20 น.

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2554 บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2554 บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญางานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ สัญญาที่ 1 งานโยธา กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)ซึ่งเป็นรายการธุรกิจปกติและเป็นไปตามเงื่อนไขทางการค้าโดยทั่วไปที่บริษัทฯ ทำกับบริษัทอื่น มูลค่าสัญญาประมาณ 14,088,600,000 บาท (หนึ่งหมื่นสี่พันแปดสิบแปดล้านหกแสนบาทถ้วน) ระยะเวลาแล้วเสร็จประมาณ 1,350 วัน

Wisarut · Posted: 26/12/2011 10:19 am Post subject:

รฟม.เซ็นสัญญา 1 ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว พร้อมเปิดใช้ปี 59

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
23 ธันวาคม 2554 18:30 น.

การไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ลงนามสัญญางานสร้างงานโยธา สัญญาที่ 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ สัญญาที่ 1 คืองานก่อสร้างโครงสร้างทางยกระดับจากสถานีสำโรงถึงสถานีเคหะสมุทรปราการ โดย พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีการลงนามสัญญาก่อสร้างงานโยธา ร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ภายในวงเงินค่าก่อสร้าง 14,088.6 ล้านบาท โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 45 เดือน คาดว่าสามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2559

ทั้งนี้ สัญญาการก่อสร้างงานโยธา สัญญาที่ 1 เป็นการก่อสร้างทางยกระดับ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กิโลเมตร เป็นโครงสร้างยกระดับตลอดเส้นทาง จำนวน 9 สถานี (สร้างจิง 7 สถานี) ได้แก่

สถานีสำโรง
สถานีปู่เจ้าสมิงพราย
สถานีเอราวัณ
สถานีโรงเรียนนายเรือ - งดสร้างไปก่อน
สถานีศรีนครินทร์
สถานีแพรกษา
สถานีสายลวด (นี่ก็งดไปก่อน) และ
สถานีเคหะสมุทรปราการ

นอกจากนี้ยังมีอาคารจอดรถแล้ว 1 แห่ง ที่บริเวณสถานีเคหะสมุทรปราการ ริมถนนสุขุมวิท เนื้อที่ประมาณ 23 ไร่ สามารถจอดรถได้ประมาณ 1,200 คัน

donatt76 · Posted: 26/12/2011 5:28 pm Post subject:

ของเดิมเป็น BTS ส่วนของใหม่กลายเป็น รฟม.....จะเห็นรถไฟใต้ดิน กับรถไฟลอยฟ้าใช้บัตรร่วมกันได้ก็คราวนี้กระมังครับ
_________________
Click on the image for full size

Wisarut · Posted: 04/01/2012 12:12 pm Post subject:

โปรเจ็กต์ทิ้งทวน รถไฟฟ้าสายสีเขียว 1.4 หมื่นล้าน จิ๊กซอว์ "บิ๊กโอ๋-ช.การช่าง-เก้าอี้ผู้ว่า รฟม.คนใหม่
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 04 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 09:00:13 น.

จรวดส่งท้ายปีเถาะได้เหมาะเจาะพอดี โปรเจ็กต์รถไฟฟ้าสายสีเขียว "แบริ่ง-สมุทร ปราการ" ระยะทาง 12.6 กิโลเมตร เมื่อ "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" ปิดดีลกับรับเหมาค่ายยักษ์ใหญ่ "บมจ.ช.การช่าง" จบสิ้นกระบวนการจนลงนามสัญญาก่อสร้าง เปิดแชมเปญฉลองใหญ่เมื่อเย็นวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา

หลังโครงการดีเลย์มาร่วมครึ่งปี นับจากวันเปิดซองราคาตั้งแต่เมื่อ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา เพราะกว่าจะเคลียร์ตัวเลข (ค่าก่อสร้าง) ลงตัว ใช้เวลาเจรจากับยักษ์รับเหมา "ช.การช่าง" อยู่หลายเดือน กว่าที่ "เสี่ยปลิว ตรีวิศวเวทย์" จะใจอ่อนยอมหั่นราคา ให้อีก 32 ล้านบาท จากราคา ณ วัน เปิดซองเสนออยู่ที่ 14,120 ล้านบาท จนเหลือ 14,088 ล้านบาท

งานนี้ต้องยกให้เป็นผลงานชิ้น โบแดงของ "สุพจน์ ทรัพย์ล้อม" ปลัดคมนาคม ก่อนจะโดนพิษดคีโจรปล้นบ้านให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีที่ต่อรองราคาจนประหยัดค่าก่อสร้างได้มากขนาดนี้ เมื่อครั้งนั่งเป็นประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.

ว่ากันว่า การเร่งรัดเซ็นสัญญา "รถไฟฟ้าสายสีเขียว" ชั่วข้ามคืนใน โค้งสุดท้ายของปีนี้นับว่ามาถูกจังหวะและเวลา ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ ได้หลายเรื่องท่ามกลางภาวะการเมือง ไม่นิ่ง

นอกจากจะเป็นงานใหญ่ชิ้นสุดท้ายแห่งปี 2554 ของ "ช.การช่าง" สามารถปิดจ็อบโปรเจ็กต์รอยต่อรัฐบาลชุดที่ แล้วกับชุดปัจจุบันได้ทันตามเป้าที่ตั้งไว้

เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว เพราะถือเป็นผลงานชิ้นแรกของ "บิ๊กโอ๋-พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต" ท่ามกลางกระแสข่าวโจมตีบนเก้าอี้รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคมที่ทำงานมาร่วม 4 เดือน แต่ผลงานกลับไม่โดดเด่น แถมล่าสุดชื่อยังติดโผรั้งท้ายจากโพล สวนดุสิตว่า เป็นกระทรวงที่ไม่มีผลงานด้วยคะแนน 5.87 คะแนน

แต่เมื่อรถไฟฟ้าสายนี้มีกำหนดวันที่และเดือนจะก่อสร้างชัดเจน มีการหมายมั่นว่าอาจจะเป็น "ตัวช่วย" ของรัฐบาลเพื่อไทย กอบกู้คะแนนนิยมกลับคืนมาได้บ้างไม่มากก็น้อย

โดย "รฟม." ตั้งโปรแกรมนับถอยหลังตอกเข็มต้นแรกกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2555 นี้ ใช้เวลา 45 เดือนก่อสร้าง มีกำหนดแล้วเสร็จกลางปี 2559

ขณะที่ "บิ๊กโอ๋" ทิ้งท้ายไว้ให้ลุ้นว่า...มีความเป็นไปได้จะเปิดใช้บริการ ได้ก่อนกำหนด เผลอ ๆ อาจจะทัน ใน 4 ปี ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่มั่นใจว่า "เพื่อไทย" ยังนั่งเป็นรัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินอยู่

"ผมคุยส่วนตัวกับคุณปลิว (ตรีวิศวเวทย์) แล้ว จะเร่งให้เสร็จใน 36 เดือนหรือใน 3 ปี จะเร็วขึ้นจากกำหนดเดิมใช้เวลาเกือบ 4 ปี" พล.อ.อ.สุกำพลย้ำ

ขณะเดียวกัน รถไฟฟ้าสายนี้ยังเป็นการเดิมพันเก้าอี้ผู้ว่าการ รฟม.คนใหม่ ที่กำลังกลายเป็นปมขัดแย้งของ "2 รองผู้ว่าการ" ระหว่าง "ชัยสิทธิ์ คุรุรัตน์" รองฯสายวิศวะคุมงานก่อสร้าง กับ "รณชิต แย้มสอาด" รองฯสายกฎหมายคุมงานด้านบริหาร

เมื่อจู่ ๆ งานเข้า "ชัยสิทธิ์" หลัง "รณชิต" ใช้อำนาจรักษาการผู้ว่าการ รฟม. ตั้งคณะกรรมการสอบวินัย ปมความไม่โปร่งใสประมูลสัญญาที่ 6 งานระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วงมูลค่ากว่า 3,600 ล้านบาท ที่ "ชัยสิทธิ์" เป็นประธานพิจารณาผลประกวดราคา

จนมีผลให้ "บิ๊กโอ๋" ต้องแตะเบรก ส่งชื่อ "ชัยสิทธิ์" ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา เพราะงานนี้ "รณชิต" ใช้ความถนัด ด้านกฎหมายจัดเต็มแบบไม่ยั้ง ต้องรอให้ประธานบอร์ด รฟม.คนใหม่ "รัชนี ตรีพิพัฒน์กุล" สายตรงจากพรรคเพื่อไทย ที่ว่ากันว่าเป็นผู้หญิงใจเด็ดและเฉียบขาด สะสางปัญหาให้แล้วเสร็จ

โดยประเมินกันว่าน่าจะจบสิ้นอีก ไม่กี่วันข้างหน้า หลังปิดเกมรถไฟฟ้าสายสีเขียวเสร็จ เพราะตราบใดชื่อผู้รับเหมาสร้างรถไฟฟ้าไม่พลิก คนนั่งเก้าอี้ ผู้ว่าการ รฟม.คนใหม่ชื่อ "ชัยสิทธิ์" ก็จะยังไม่พลิกเช่นกัน

ส่วนจะด้วยเหตุและผลอะไรนั้น ทั้ง "ปลิว-บิ๊กโอ๋" น่าจะรู้คำตอบดีกว่าใคร

Wisarut · Posted: 12/01/2012 10:39 am Post subject:

EIAตีกลับสถานีวัดพระศรี
กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้าอสังหา REAL ESTATE - อสังหาฯ-คมนาคม
ออนไลน์เมื่อ วันอังคารที่ 10 มกราคม 2012 เวลา 14:37 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,704 12-14 มกราคม พ.ศ. 2555

โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ และสะพานใหม่-คูคตลำลูกกา ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ที่ออกมายืนยันว่า จะเปิดประมูลหาผู้รับเหมาภายในปี 2555 นี้ หลังจากล่าช้ามานาน
ล่าสุด มีปมให้รฟม.ต้องแก้ปัญหาอีก คือ ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับ สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ที่มีการปรับเปลี่ยนจากสถานีเดิมที่อยู่บริเวณ สำนักงานเขตบางเขน ของ กรุงเทพมหานคร (กทม.) บนเนื้อที่ 20 ไร่ เป็นบริเวณวงเวียนหลักสี่ เนื่องจากกรุงเทพมหานคร ไม่ให้ใช้พื้นที่

หลังจากปรับแบบและปรับสถานีวัดพระศรีมหาธาตุใหม่ดังกล่าว จึงเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอต่อสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ให้กับคณะกรรมการผู้ชำนาญการ ด้านโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ผลปรากฏว่า ที่ประชุม มีมติตีกลับแผนปรับสถานีวัดพระศรีมหาธาตุบริเวณวงเวียนหลักสี่ ให้กลับไปใช้ที่ดินเดิมคือ ที่ดินของสำนักงานเขตบางเขน สร้างเป็นสถานีวัดพระศรีมหาธาตุเนื่องจากมองว่าเหมาะสมกว่า โดยให้รฟม. ไปเจรจากับกทม. เพื่อหาข้อยุติ โดยให้ความเห็นว่าทำเลใหม่ บดบังทัศนียภาพพื้นที่วงเวียน ที่ใกล้กับศาสนสถานและ อนุสรณ์สถานจำลองและอ้างเงื่อนไขที่ว่า บริเวณวงเวียนหลักสี่ โครงสร้างต่างๆไม่ว่าอาคารหรือรถไฟฟ้า สะพาน ต้องห้าม มีสิ่งปลูกสร้างในรัศมี 50 เมตร

ในทางกลับกัน ที่ผ่านมารฟม.เคยเจรจากับกทม.ขอใช้พื้นที่แล้ว แต่กลับอ้างว่า ต้องนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น คือ รถเมล์ด่วน บีอาร์ที เมื่อ กทม.ไม่อนุญาตจึงจำเป็นต้องปรับตำแหน่งสถานีใหม่

อย่างไรก็ดี รฟม. ประเมินว่า สถานีวัดพระศรีฯแห่งใหม่ บริเวณวงเวียนหลักสี่ มีความเหมาะสม เพราะสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่มาจาก แคราย แจ้งวัฒนะไปมีนบุรีได้อีกด้วยผู้โดยสารไม่ต้องเดินไกล

ขณะเดียวกันได้ปรับแบบก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ขยายโครงการก่อสร้างออกไปจนถึงคูคต ซึ่งเพิ่มระยะทางอีก 6.7 กิโลเมตร และก่อสร้างเพิ่มอีก 2 สถานี จากเดิม 11 กิโลเมตร โดยให้เหตุผลว่า รฟม.ไม่สามารถที่จะใช้สถานที่บริเวณดอนเมืองก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและพื้นที่จอดรถไฟฟ้า (Depot) ได้ เนื่องจากฝ่ายทหารเกรงว่าจะกระทบกับความมั่นคงของประเทศ เพราะอยู่ใกล้กองทัพอากาศ ดังนั้น จึงต้องมีการปรับแบบก่อสร้างใหม่ โดยย้ายสถานที่ก่อสร้างดังกล่าวไปไว้ที่ย่านคูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี แทน ทั้งนี้ วงเงินก่อสร้างจะเพิ่มขึ้นอีก กิโลเมตรละ 2 พันล้านบาท หรือประมาณ 1.34 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ดี จากการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษา เบื้องต้นพบว่าปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม กรณีดำเนินการก่อสร้างช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จะมีประมาณ 202,000 คนต่อวัน และมีปริมาณเพิ่มเป็น 404,000 คนต่อวัน ในปี 2577
โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เริ่มจาก บริเวณ ห้าแยกลาดพร้าวใกล้กับเซ็นทรัลลาดพร้าว ไปตามถนนพหลโยธิน และถนนลำลูกกา ไปสิ้นสุดยังคูคต ลำลูกกาคลอง 4 ใกล้กับถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก

รถไฟฟ้าสายนี้ จะสร้างได้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเจรจาขอใช้พื้นที่สำนักงานเขตบางเขน ระหว่างรฟม.และกทม. จะออกหัวออกก้อย ต้องติดตามห้ามกะพริบตาเพราะงานนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นตุๆ ของการเมืองเข้าแทรกล้วนๆ !!!

//----------------------------------------------

แม่ม ... คมนาคมถืออำนาจเถื่อน ไปแย่ง ทางช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ จาก กทม. กอ่นยัดให้ รฟม. ทำทัี้งๆที่ รฟม. เองก็ไม่สู้จะเต็มใจทำ แต่ คมนาคมอยากจะแกล้ง กทม. ให้สาแก่ใจโดยแท้ ทำให้ กทม. ไม่ยอมให้ รฟม. สร้างสถานีวัดพระศรี จนได้ ... และ คราวนี้ คมนาคม และ รฟม. อยากจะก่อศัตรูเพิ่มกะ คณะกรรมการประเมิน ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอีก ... คมนาคมแน่ใจแล้วหรือว่าตัวนั้นมีดีพอจะเอาชนะ ทั้งกทม. และ คณะกรรมการประเมิน ผลกระทบสิ่งแวดล้อม