View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43723
Location: NECTEC
|
Posted: 18/01/2012 1:18 pm Post subject: |
|
|
ทำบุญ พลับพลา ที่ประทับ ร.5 สถานีรถไฟบางปะอิน เตรียมพลิกเป็นแหล่งท่องเที่ยว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 มกราคม 2555 15:01 น.
พระนครศรีอยุธยา - นายกเทศบาล[ตำบล]บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นำชาวบ้านร่วมทำบุญ พลับพลา ที่ประทับ ร.5 สถานีรถไฟบางปะอิน เตรียมพลิกเป็นแหล่งท่องเที่ยว
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (16 ม.ค.) นายมนตรี ยมนา นายเทศมนตรีเทศบาลบ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นำชาวบ้านและเจ้าหน้าที่รถไฟร่วมทำบุญเลี้ยงพระที่พลับพลาที่ประทับรัชกาลที่ 5 สถานีรถไฟบางปะอิน เพื่อเป็นการอนุรักษ์และเตรียมจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวตลาดน้ำ
นายมนตรีกล่าวว่า พลับพลาที่ประทับเป็นอาคารเปิดโล่ง ลักษณะศาลา ตัวอาคารเป็นไม้ ตกแต่งด้วยไม้ฉลุ และกระจกสีแบบยุโรป ตามที่นิยมกันในยุควิกตอเรียน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพลับพลานี้เพื่อเป็นที่ประทับรอรถไฟ ระหว่างเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน เวลานั้น ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างทางรถไฟสายแรกจากกรุงเทพฯถึงนครราชสีมา เมื่อสร้างทางมาถึงอยุธยา พระองค์จึงทรงประกอบพิธีเปิดการเดินรถไฟ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2439 และวันเดียวกันได้เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดพลับพลา สถานีรถไฟบางปะอินด้วย
พลับพลาสถานีรถไฟบางปะอิน เคยเป็นที่รับเสด็จและที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ ทุกพระองค์ ในการเสด็จพระราชดำเนินทางรถไฟ
ทางเทศบาลบ้านเลน มีโครงการที่จะจัดให้เป็นแห่งท่องเที่ยว โดยจะจัดให้มีตลาดน้ำขึ้นซึ่งอยู่ตรงข้ามกับพลับพลาที่ประทับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและส่งเสริมให้ชาวบ้านในชุมชนได้ประกอบอาชีพ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ แต่มีพลับพลาที่ประทับเป็นตัวชูว่าให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม ซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงสร้างไว้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43723
Location: NECTEC
|
Posted: 24/01/2012 11:41 am Post subject: |
|
|
รถไฟไทยในทศวรรษใหม่ แค่ฝันหรือทำได้จริง?
ข่าวคมนาคม-ลอจิสติกส์
สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1267
ประจำวันที่ 18-20 มกราคม 2555
ปีนี้เป็นปีแห่งการเอาจริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ทดลองงาน หรือช่วงฮันนีมูนเหมือน ปลายปีที่แล้ว ฉะนั้นหลังปีใหม่มานายกรัฐมนตรีจึงดำเนินนโยบายในเชิงรุก เดินสาย ตรวจเยี่ยมหน่วยงาน ตลอดจนจัดครม.สัญจร งานนี้เชื่อว่าหากรัฐมนตรีคนใดไม่มีผลงานโดน reject แน่!
กระทรวงคมนาคม ก็เช่นกันตอนนี้รัฐมนตรีทั้ง 3 คนกำลังเร่งทำผลงานกันใหญ่ จัดงานชนกันบ่อยจนนักข่าวแบ่งภาคไม่ถูก ต้องแบ่งกันทำข่าวแล้วเอามาแลกกัน ที่หลัง ไม่อย่างนั้นทศกัณฐ์ก็ทศกัณฐ์เถอะไม่มีทางวิ่งได้ทัน
สำหรับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่เป็นดวงรุ่งในปีนี้ ต้องยกให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. เพราะกำงบประมาณในมือกว่า 1.76 แสน ล้านบาท สำหรับฟื้นฟูกิจการรถไฟไทย โดยปีนี้เป็นปีที่เริ่มใช้งบประมาณในการฟื้นฟู กิจการอย่างเข้มข้น เพื่อมีจุดมุ่งหมายที่จะเปลี่ยนโฉมหน้ารถไฟไทยมาเป็นรถไฟที่ทัน สมัย มีบริการที่ดี ตรงต่อเวลา และมีความปลอดภัยสูง จากปัจจุบันที่เป็นรถไฟภาพลักษณ์ ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง
ดังนั้น ช่วงนี้ ผู้บริหารการรถไฟฯจึงเดินสายพบปะกับพนักงานรถไฟและประชาชน ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อที่จะทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของกิจการรถไฟ ไทยในอนาคตว่า โฉมหน้ารถไฟไทยนั้นหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร
งานนี้ ยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่า ร.ฟ.ท. มั่นอกมั่นใจว่า หากทำสำเร็จตามแผน เชื่อว่า รถไฟสามารถต่อสู้กับเครื่องบินได้สบายๆ ทั้งในด้านของความเร็ว และการให้ บริการ!
สำหรับหัวข้อการเสวนาเพื่อทำความเข้าใจกับพนักงานและคนในพื้นที่นั้น จะอยู่ภายใต้โครงการ รถไฟไทยในทศวรรษใหม่ โดยมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการให้บริการรถไฟ ซึ่งเน้นความสะดวก สะอาด ความตรงต่อเวลา และความปลอดภัย โดยประกาศ ใช้วิสัยทัศน์นี้มาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา ไปจนถึงปี 2559 และโดยวางยุทธศาสตร์ไว้ 8 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการพัฒนาการให้บริการขนส่ง, ด้านรถ จักร/ล้อเลื่อน, ด้านโครงสร้างพื้นฐาน, ด้านการบริหารทรัพย์สิน, ด้านการเงินและการ บัญชี, ด้านการพัฒนาและบริหารองค์กร, ด้านการพัฒนาบุคลากร และด้านพัฒนา IT
ในการนี้การรถไฟฯ ได้ตั้งเป้าหมายในภาพรวม ว่า จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขนส่งผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ในอัตราร้อยละ 5.35 ต่อปี ส่วนผู้โดยสารเชิงสังคมซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยคาดว่าจะขนส่งเพิ่มในอัตราร้อยละ 4.75 ต่อปี ด้านการขนส่ง สินค้าทุกประเภทมีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.2 ต่อปี
ส่วนคุณภาพการให้บริการ จะดำเนินการสำรวจความพึงพอใจต่อการให้บริการ ของพนักงานบริการ ซึ่งจะวัดความตรงต่อเวลา และการควบคุมการเกิดอุบัติเหตุบน ทางรถไฟด้วย เป้าหมายอีกด้านหนึ่งที่จะสามารถมองเห็นเป็นรูปธรรมคือการบริหาร ทรัพย์สิน ซึ่งผู้บริหารการรถไฟฯ มุ่งหวังว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมในอัตราร้อยละ 10 ต่อปี
การเดินสายพบปะพนักงานในส่วนภูมิภาคของการรถไฟและประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัด สุนทรีย์ ว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะลำพังการรถไฟฯ ทำเองคนเดียวคงไม่สำเร็จแน่การหาแนวร่วม การดึงให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของรถไฟไทย มีความรู้สึกที่ต้องการให้รถไฟไทยเดินไปในทิศทางที่ดีต่างหากที่จะทำให้ ร.ฟ.ท.สามารถพัฒนาองค์กรและกิจการรถไฟไทยบรรลุเป้าหมายได้
สิ่งสำคัญคือ การดำเนินการอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ตามแผนยุทธศาสตร์ต่างๆ ทั้ง 8 ด้านที่กล่าวในข้างต้น การเดินสายทำความเข้าใจต้องให้ขยายวงกว้างออกไป หากเป็นไปได้ทำให้ครบทุกจังหวัดได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี เพราะรถไฟไทยในทศวรรษใหม่จะเกิดขึ้นเป็นใยแมงมุงครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ
ซึ่งสุนทรีย์เชื่อว่าหากการรถไฟฯ ทำอย่างต่อเนื่องและจริงจังฝันในครั้งนี้อยู่ไม่ไกลแน่ส่วนจะไปได้แค่ไหน และสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ผู้บริหารและพนักงานรถไฟทุกคนที่จะต้องร่วมกันสร้างมันขึ้นมาให้เป็นที่ประจักษ์เพราะในแง่ของประชาชน คนไทยแล้วทุกคนรอมานานแล้ว! |
|
Back to top |
|
|
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 24/01/2012 8:44 pm Post subject: |
|
|
อิตาเลียนไทย คว้างานปรับปรุงทางรถไฟช่วงสถานีพิษณุโลก-เชียงใหม่ 2,853 ล้าน
เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2555 บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2555 กิจการร่วมค้าไอทีดี-เอสดีพี ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัทฯ และ บริษัท ศักดาพร จำกัดได้ร่วมลงนามในสัญญากับ การรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินงานก่อสร้างโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถ ระหว่างสถานีพิษณุโลก และ สถานีเชียงใหม่
ลักษณะงานก่อสร้าง ผลิตหรือจัดหาหมอนคอนกรีตอัดแรงในพื้นทาง พร้อมเครื่องยึดเหนี่ยวรางแบบสปริงครบชุด และเปลี่ยนหมอนคอนกรีตแทนหมอนไม้ จัดหาพร้อมเปลี่ยนรางขนาด100 ปอนด์ เอ. เชื่อมยาวและเปลี่ยนราง ขนาด 100 ปอนด์ เอ.
รวมทั้งผลิตหรือจัดหาและเปลี่ยนทางผ่านเป็นชนิดแผ่นคอนกรีตกำลังสูง สำเร็จรูปเปลี่ยนหมอนเหล็กแทนหมอนไม้ และเปลี่ยนหมอนไม้บนสะพาน , ปรับปรุงทางหลีก งานปรับปรุงด้านอาณัติสัญญาณ และอื่นๆ มูลค่าโครงการ : 2,853,000,000.00 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ข่าวจาก matichon online วันที่ 24 มกราคม 2555
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327406700&grpid=03&catid=&subcatid= |
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 26/01/2012 9:29 am Post subject: |
|
|
มีข่าวน่าสนใจ ที่เกี่ยวข้องกับรถไฟมาฝาก
สัมมนาพิเศษ เรื่องระบบโลจิสติคส์หลังการเปิด AEC ปี 2558 และความพร้อมในด้านการพัฒนาระบบรางของภูมิภาค
ในโอกาสที่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) จัดให้มีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องในระบบขนส่งทางราง
เพื่อร่วมในการพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานด้านทรัพยากรมนุษย์ให้กับการพัฒนาระบบขนส่งทางรางของประเทศไทย และจะมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเครือข่ายพัฒนากำลังคนและความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีด้านระบบขนส่งทางรางของประเทศในวันที่ 27 มกราคม 2555
พร้อมทั้งได้เชิญ Dr. Aminuddin bin Adnan, President of Keretapi Tanah Melayu Bhd (KTMB) หรือผู้ว่าการรถไฟของประเทศสหพันธรัฐมาเลเซีย
มาบรรยายพิเศษ เรื่อง"แนวคิดในการพัฒนาระบบรางของประเทศมาเลเซียอย่างยั่งยืน "
และเพื่อให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยโครงการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องของประเทศไทย
จึงจัดให้มีการบรรยายพิเศษของ Dr. Aminuddin bin Adnan ในหัวข้อดังกล่าวอีกโอกาสหนึ่ง
โดยจัดให้มีการสัมมนาพิเศษร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิของไทย เพื่อให้กลุ่มบุคลากรที่มีความสนใจ เข้ามาแลกเปลี่ยนมุมมองด้วยความรู้
และศึกษาประสบการณ์จากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในประเทศและต่างประเทศ
อันจะเป็นการสร้างและเปิดโอกาสให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันในการพัฒนาระบบขนส่งทางรางของประเทศไทย
-----------------------------------------------------------------------------------
เท่าที่ทราบมีผู้เข้าฟังเต็มไปเรียบร้อย
ตอนนี้ได้หัวข้อของท่าน Dr. Aminuddin bin Adnan มาอ่านและเตรียมคำถามแล้ว คงต้องรอวันเสาร์อาทิตย์ไปแล้ว จะเอาข่าวมาฝากเด้อ พร้อมกับ หนังตัวอย่าง
ที่มา http://www.thairailtech.or.th |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43723
Location: NECTEC
|
Posted: 28/01/2012 10:38 pm Post subject: |
|
|
สวทน. และ สวทช. หวังสร้างกำลังคนเพื่อรองรับการเปิดให้บริการโครงการระบบขนส่งทางรางเส้นใหม่ในอีก 5 ปีข้างหน้า
สวทน. 27 มกราคม 2555 10:02
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ เลขาธิการ สวทน. เปิดเผยว่า สวทน. และ สวทช. ร่วมกับหน่วยงานจากภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษา เช่น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นต้น ได้ตกลงทำความร่วมมือกันในการสร้างเครือข่ายเพื่อพัฒนากำลังคนและความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีด้านระบบขนส่งทางรางของประเทศ
การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างระบบ ผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางของประเทศ ได้แก่ การควบคุมการเดินรถ การดูแลรักษาและซ่อมบำรุงระบบขนส่งทางราง ให้มีความรู้ ความสามารถทั้งด้านทฤษฎีและด้านปฏิบัติ ตลอดจนเพื่อสร้างและพัฒนาเครือข่ายความรู้และความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องของประเทศไทย
ในอดีตที่ผ่านมา การดำเนินโครงการพัฒนาระบบขนส่งทางรางของประเทศได้ใช้วิธีการซื้อเทคโนโลยีและจ้างผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเกือบทั้งหมด โดยขาดกระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศสู่ผู้เกี่ยวข้องในประเทศอย่างเพียงพอ รวมทั้งไม่สามารถใช้โอกาสที่มีโครงการลงทุน ในการสร้างฐานความรู้ด้านระบบขนส่งทางรางของประเทศนอกเหนือจากองค์กรคู่สัญญาให้เข้ามามีส่วนร่วมในการเรียนรู้เทคโนโลยีเพียงบางส่วน จึงส่งผลให้ประเทศไทยต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและบุคลากรผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กระบวนการคิดวางแผน การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ตลอดไปจนถึงการออกแบบ การก่อสร้าง การบริหารและการบำรุงรักษาระบบการเดินรถ ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้การดูดซับและเรียนรู้เทคโนโลยีด้านนี้ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จไม่มากนัก คือ การขาดแคลนบุคลากรที่มีพื้นฐานความรู้และทักษะในด้านระบบรางเพียงพอที่จะดูดซับเทคโนโลยีจากบริษัทต่างประเทศและบ่มเพาะความรู้เทคโนโลยีเหล่านั้นเพื่อให้ประเทศสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระดับที่เหมาะสมในอนาคต นอกจากนี้ ในระยะ 5 ปีข้างหน้า ซึ่งโครงการระบบขนส่งทางรางเส้นทางใหม่คาดว่าจะเปิดให้บริการจำนวนหนึ่งนั้น ปัจจุบันยังไม่มีแผนงานเพื่อเตรียมการสร้างกำลังคนด้านปฏิบัติการมารองรับการการเปิดให้บริการของโครงการเหล่านี้ เลขาธิการ สวทน. กล่าว
สวทน. ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างและการพัฒนากำลังคน รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาโครงการหรือหลักสูตรที่มีการวิจัยและพัฒนาที่มุ่งเน้นการพัฒนาความสามารถทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม จึงได้มีดำริในการสร้างเครือข่ายพัฒนากำลังคนและความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีด้านระบบขนส่งทางรางเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านระบบรางของประเทศ ทั้งนี้ ในปี 2554 ที่ผ่านมา สวทน. ได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดทำโครงการนำร่องในการพัฒนาบุคลากรด้านระบบขนส่งทางรางจำนวน 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรพัฒนาบุคลากรด้านวิศวกรรมระบบขนส่งทางราง และหลักสูตรพัฒนาระบบฝึกอบรมบุคลากรวิชาชีพด้านปฏิบัติการระบบขนส่งทางราง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี โดยเริ่มเกิดเป็นระบบการพัฒนากำลังคนด้านระบบขนส่งทางรางที่เป็นรูปธรรมขึ้น ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง ความต่อเนื่องและความยั่งยืนในการพัฒนากำลังคนที่สนับสนุนการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สวทน. จึงเสนอให้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเครือข่ายฯ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างหน่วยงาน ในการสนับสนุนการพัฒนากำลังคนและความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีด้านระบบขนส่งทางรางของประเทศภายใต้โครงการที่พัฒนาร่วมกันของหน่วยงานเครือข่ายฯ ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
โดย บทบาทของ สวทน. ในการดำเนินงานครั้งนี้จะเน้นการดำเนินการทางนโยบายเพื่อสนับสนุนให้เกิดบูรณาการด้านการจัดการองค์ความรู้ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการพัฒนากำลังคนและความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีด้านระบบขนส่งทางราง ตลอดจนสนับสนุนและประสานงานให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม ภาคการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ
ในส่วนของหน่วยงานเครือข่าย นอกจากจะร่วมดำเนินการทางนโยบายแล้วยังร่วมออกแบบ จัดทำ และพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนและการฝึกอบรมบุคลากรด้านระบบขนส่งทางราง ตลอดจนจัดหาวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ และให้การสนับสนุนในด้านอุปกรณ์และห้องปฏิบัติการวิจัยเพื่อใช้ในการเรียนการสอน และบำรุงรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร จัดเก็บข้อมูลและองค์ความรู้ สำหรับงานและกิจกรรมของโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการภายใต้เครือข่ายฯ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประสานงานภาคเอกชนในการร่วมขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาการจัดการองค์ความรู้ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการพัฒนาความสามารถบุคลากรและความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีด้านระบบขนส่งราง ทางด้านภาคการศึกษาจะมีการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาหลักสูตรเทคโนโลยีระบบขนส่งทางรางขึ้น รวมทั้งสนับสนุนให้นักศึกษาได้เข้าฝึกงานกับบริษัทเดินรถ
สอบถามข้อมูล :
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.)
โทรศัพท์ 02 160 5432 ต่อ 505 (อาศิร)
086-303-1522 (เล็ก อทิตยา)
โทรสาร 02 160 5438 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46884
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 29/01/2012 10:07 pm Post subject: |
|
|
ตร.รถไฟรวบพนักงานตู้นอนรถไฟขนใบกระท่อมส่ง 3 จชต.
เนชั่นทันข่าว 29 ม.ค. 55
เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันนี้ (29 มกราคม 2555) ขณะที่ ร.ต.ท.พนมน้อย ทิพย์ลาย รอง สว.ส.รฟ.หาดใหญ่ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟหาดใหญ่จำนวนหนึ่งกำลังออกปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่บริเวณสถานีรถไฟรถชุมทางหาดใหญ่ ก็ได้รับแจ้งจากสายว่ามีการลักลอบขนใบพืชกระท่อมมากับขบวนรถด่วนที่ 37 ออกจากกรุงเทพฯ ปลายทาง อ.สุไหงโกลก จว.นราธิวาส ร.ต.ท.พนมน้อยฯ
หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟขึ้นไปทำการตรวจค้นบนขบวนรถไฟขบวนดังกล่าวมาถึงตู้นอนโดยสารปรับอากาศชั้น 2 คันที่ 10 พบนายวิชัย พันซ้าย อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 7 ต.ตรึม อ.สีขรภูมิ จว.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพนักงานรถนอนประจำคันที่ 10 พบกระเป๋าต้องสงสัย สีดำ จำนวน 2 ใบ วางอยู่ จึงให้นายวิชัยฯนำกุญแจมาทำการไขออก ปรากฎว่าภายในกระเป๋าทั้ง 2 ใบ บรรจุพืชใบกระท่อม ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ น้ำหนัก 20 กก. จึงยึดไว้เป็นของกลาง
จากนั้นควบคุมตัวนายวิชัยฯพร้อมแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ใบพืชกระท่อม)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย คุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง ร.ต.อ.เกียรติ นุ้ยเนียม ร้อยเวร สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป ในชั้นนี้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาล |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46884
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 30/01/2012 6:21 pm Post subject: |
|
|
ย้ายแล้วครับ
Last edited by Mongwin on 30/01/2012 6:59 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43723
Location: NECTEC
|
Posted: 30/01/2012 6:57 pm Post subject: |
|
|
^^^
ข่าวนี้อยู่ในหมวดที่ดินท่าจะเหมาะเพราะเกี่ยวกะตลาดนัดสวนจตุจักร นะครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46884
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 31/01/2012 11:09 pm Post subject: |
|
|
"จารุพงศ์"คุมบินไทย-รฟม. "ชัจจ์"ยิ้มร.ฟ.ท.ไม่โดนยึด
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 31 มกราคม 2555 22:08 น.
ASTVผู้จัดการรายวัน-แบ่งงานคมนาคมยังไม่จบ "จารุพงศ์หอบโผหารือ "ยิ่งลักษณ์ก่อนเซ็นคำสั่ง ชัจจ์เผยไม่มีปัญหาแบ่งงานคุยกันจบแล้ว ได้คุมร.ฟ.ท.เหมือนเดิม "จารุพงศ์คุมการบินไทย และรฟม. เพื่อดันรถไฟฟ้าตามนโยบายพรรค ด้านชัชชาติยันพร้อมทำงาน
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้แบ่งงานให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมทั้ง 2 คน เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยให้ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ดูแล 7 หน่วยงาน คือ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กรมทางหลวงชนบท(ทช.) กรมเจ้าท่า (จท.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) บริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด และบริษัท ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสท์เอเชีย จำกัด ส่วนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมช.คมนาคม ดูแล 7 หน่วยงาน คือ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมการบินพลเรือน (บพ.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
ส่วนตนจะกำกับดูแล 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมทางหลวง (ทล.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด โดยขั้นตอนต่อไปจะนำรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวไปเสนอต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเห็นชอบ ก่อนที่จะลงนามในคำสั่งต่อไป
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมแจ้งว่า ขณะนี้การแบ่งงานระหว่างนายจารุพงศ์ และพล.ต.ท.ชัจจ์ และนายชัชชาติ ได้ข้อยุติระดับหนึ่งแล้ว หลังจากที่เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา รัฐมนตรีทั้ง 3 คนได้มีการหารือร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่นายจารุพงศ์ได้ให้สัมภาษณ์ว่าจะเป็นผู้กำกับดูแลระบบรางเองทั้งหมด คือ ทั้ง รฟม.และร.ฟ.ท.มาเป็นให้พล.ต.ท.ชัจจ์ กำกับดูแล ร.ฟ.ท. ซึ่งเป็นหน่วยงานเดิมที่พล.ต.ท.ชัจจ์เคยกำกับดูแล อย่างไรก็ตาม จะต้องรอหนังสือแบ่งงานที่เป็นทางการอีกครั้งว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอีกหรือไม่
พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า การแบ่งงานเรียบร้อยแล้ว โดยรมว.คมนาคมจะกำกับดูแลบริษัทการบินไทย เพราะเป็นหน่วยงานใหญ่ที่รมว.คมนาคมมักจะกำกับดูแลเอง รวมถึงรฟม. ที่จะต้องผลักดันโครงการรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบถึง 8 สาย ให้สำเร็จตามนโยบายพรรค ส่วนตนนั้นจะดูแลร.ฟ.ท.เหมือนเดิม ซึ่งจะทำให้สามารถสานงานที่ดำเนินการมาได้อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง และมีรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบอีก 2 สาย และการพัฒนาตลาดนัดจตุจักร
ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นยืนยันว่าพร้อมทำงานกับทุกหน่วยงานที่ได้รับคำสั่งให้กำกับดูแล และจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่ หากได้กำกับดูแลหน่วยงานตามนายจารุพงศ์ ให้สัมภาษณ์จริง ก็มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหา เพราะเคยเป็นคณะกรรมการ (บอร์ด) บขส. และบวท. มาก่อน คาดว่าจะนำความรู้ความที่ได้รับมาไปใช้ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นคำสั่งการแบ่งงาน จึงขอให้มีการลงนามในคำสั่งก่อนจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46884
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 01/02/2012 3:54 pm Post subject: |
|
|
พุนพินเตรียมจัดงานวาเลนไทน์ยิ่งใหญ่ จับมือคู่รักเที่ยวเมืองสองท่า-พาล่องแพฯ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กุมภาพันธ์ 2555 12:14 น.
สุราษฎร์ธานี - อำเภอพุนพิน แถลงข่าวจัดกิจกรรมวันวาเลนไทน์ยิ่งใหญ่ ภายใต้ชื่อ จับมือคู่รักเที่ยวเมืองสองท่า พาล่องแพ แลหิ้งห้อย ร้อยรักกลางสายชล เคียงคู่พักโฮมสเตย์และพาคู่รักจดทะเบียนสมรสที่สถานีรถไฟดอนรัก
นายไพศาล ตรีธัญญา นายอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แถลงข่าวการจัดกิจกรรมวันวาเลนไทน์ (วันแห่งความรัก) 14 กุมภาพันธ์ 2555 ขึ้นที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีภายใต้ชื่อโครงการ จับมือคู่รักเที่ยวเมืองสองท่า พาล่องแพ แลหิ้งห้อย ร้อยรักกลางสายชล เคียงคู่พักโฮมสเตย์
โดยมีการนำคู่รักขึ้นขบวนรถไฟสายประวัติศาสตร์ สัมผัสเมืองสองท่า (เมืองท่าข้ามเมืองท่าขนอน) โดยมีการตบแต่งขบวนรถไฟอย่างสวยงาม แล้วพาคู่รักไปจดทะเบียนสมรสที่สถานีรถไฟบ้านดอนรัก จากนั้นพาคู่รักล่องเรือ Honey Moon ชมแม่น้ำสายน้ำ 2 สี แลหิ้งห้อย ชมโบราณสถานประวัติศาสตร์ ยุคอาณาจักรศรีวิชัย ที่มีอายุกว่า 1,700 ปี พร้อมทั้งพักโฮมสเตย์ ฉลองมงคลสมรสท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นกับธรรมชาติบริเวณป่าชายเลนบ้านลีเล็ด
กิจกรรมวันวาเลนไทน์ (วันแห่งความรัก) 14 กุมภาพันธ์ ทางอำเภอพุนพินจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รู้จักแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่มากขึ้น
การแถลงข่าวครั้งนี้ ได้มีการจัดขบวนแห่ขันหมากไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองท่าข้าม สร้างความประทับใจแก่ชาวบ้านนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่กำลังรอรถไฟเป็นอย่างมาก บางรายถึงกับเข้าร่วมขบวนแห่ รำกลองยาวอย่างสนุกสนาน
|
|
Back to top |
|
|
|