View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
kikoo
1st Class Pass (Air)
Joined: 01/02/2010 Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง
|
Posted: 21/03/2012 8:30 pm Post subject: ประสบการณ์สุดเจ็บแสบ กับการไปฝ่าฝีคัณฑสูตร |
|
|
ณ ขณะที่พิมพ์กระทู้นี้ ผมกลับมาพักอยู่ที่บ้านแล้ว และต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า หากบางช่วงบางตอนทำให้ใครหลายคนต้องเสียวสันหลังหรือกินข้าวไม่ลง...
จริงๆแล้วผมป่วยเป็นฝีคัณฑสูตร(ใกล้ๆรูก้น)มาสัก2-3ปีแล้ว(เริ่มเป็นประมาณช่วงปี2เทอม2(2552))ช่วงแรกก็รักษาตามคลีนิค หมอก็ให้ยาทา ยากิน ก็เป็นๆหายๆคือมีหนอง(บางครั้งมีเลือด)ซึมออกมาจากแผลฝี ซึ่งหมอที่คลีนิคก็บอกว่าต้องให้แผลมันแตกหนองให้หมดแล้วมันจะหาย แต่มันก็ไม่หายสักที
จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การสอบครั้งสุดท้ายในชีวิตนักศึกษาปี4ก็เสร็จไปแล้ว ก็เลยได้เวลารักษาแบบ"จัดหนักๆ"สักที
13มีนาคม ไปหาหมอในช่วง"คลีนิคนอกเวลา"ที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง จัดแจงเรื่องบัตร+พยาบาลหน้าห้องมาสักประวัติเสร็จ พอถึงคิวตรวจหมอก็ตรวจดูแผล หมอบอกว่า"แผลข้างนอกไม่ใหญ่ แต่ไม่รู้ว่าแผลด้านในโพรงทวารจะใหญ่มั้ย?"
หมอได้ให้ความรู้เรื่องฝีคัณฑสูตรว่า มันมีสองประเภทคือแบบตื้นซึ่งรักษาง่ายแค่ให้แตกหนองแล้วแผลจะตกสะเก็ดและหายไปเอง
ส่วนอีกแบบคือแบบลึก ซึ่งเป็นแบบที่ผมเป็น คือต้นตอจะเป็นหัวฝีอยู่ในโพรงทวาร(อาจเกิดจะต่อมเมือกที่สร้างเมือกหล่อลื่นใกล้ๆปากทวารหนักเกิดอุดตันและอักเสบจนเกิดหนอง และพอหนองไม่มีที่ระบายมันก็ชอนไชออกมาเป็นแผลฝีตรงผิวใกล้รูทวารด้านนอก) ซึ่งต้องรักษาด้วยการผ่าตัด ถึงจะมีโอกาสหายขาดได้สูง(ประมาณ90-95%)
15มีนาคม หมอนัดให้ผมมาตรวจร่างกายเพื่อเตรียมความพร้อมและนัดคิวผ่าตัด มาตั้งแต่เช้า(7โมง)กว่าจะเสร็จก็บ่าย2(ตามสไตล์โรงพยาบาลรัฐบาลที่มีคนใช้บริการเยอะ) ซึ่งหมอได้นัดให้มานอนที่โรงพยาบาลในวันที่18(เพื่อเตรียมความพร้อม)และลงมือผ่าตัดวันที่19
18มีนาคม มานอนพักที่โรงพยาบาล พร้อมกับแจ้งกำหนดการผ่าในวันรุ่งขึ้น และการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดเสร็จ ซึ่งโดนสั่งงดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป
19มีนาคม ซึ่งจะเป็นวันที่โดนขึ้นเขียงช่วง10โมง โดยช่วง8โมงเช้าพยาบาลเข้ามา"สวนทวาร"ให้ผมถ่ายจนหมดไส้หมดพุง 9โมงเช้าพยาบาลให้ผมกินยานอนหลับ1เม็ด(เพื่อให้สะลึมสะลือ เผื่อว่าผมเกิดอาการกลัวระหว่างผ่าตัด)
พอถึงเวลา10โมงก็โดนเข็นเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งขั้นตอนการผ่าของผมก็ใช้วิธีฉีดยาชาเข้าสันหลัง(บล็อกหลัง) ซึ่งพยาบาลวิสัญญีบอกว่าไม่เกิน1นาทีช่วงล่างของตัวตั้งแต่เอวยันปลายเท้าจะชาขนกระดิกไม่ได้ แต่เอาเข้าจริงต้องรอเกือบ10นาทีกว่าผมจะรู้สึกชา พยาบาลบอกว่าผมคงตื่นเต้นจนร่างกายฝืนฤทธิ์ยาชา(แน่ละ เกิดมาเพิ่งเคยเข้าผ่าตัดเป็นครั้งแรกในชีวิต)
ตอนผ่าก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาดึงๆข้างรูก้นและในรูก้น แต่ในใจคิดไว้ว่า"เจ้าฝีร้าย แกตายแน่!!!"
ใช้เวลาผ่าตัดแค่1ชั่วโมง ก็ได้กลับมาพักที่ห้องพักตอน11โมงนิดๆ พยาบาลสั่งให้นอนราบ นอนนิ่งจนกว่าจะถึง4โมงเย็น
พอพ้น4โมงเย็นก็กระดิกตัวลุกขึ้น ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรหนาๆมาแปะที่ก้น(มารู้ที่หลังว่ามันคือผ้ากอตหนา3ชั้น)+เจ็บแผลที่ก้น จะนั่งก็ลำบาก พอจะขมิบก้นก็เจ็บสุดๆ
ช่วงกลางคืน พยาบาลก็เข้ามาบอกว่าให้ถอดผ้ากอตได้ และแนะนำวิธีปฏิบัติตัว เช่นให้ฟอกสบู่บางที่แผล ล้างน้ำให้สะอาด เช็ดให้แห้ง และแช่ก้นในน้ำอุ่น10-15นาที ทุกเช้า-เย็นและหลังถ่ายหนัก(เพื่อฆ่าเชื้อ+ให้เลือดไหลเวียนดี+ลดปวดลดบวม) และสวมผ้าอนามัยเพื่อซับเมือก หนอง และเลือดด้วย
คราวนี้มาถึงช่วงที่ผมดึงผ้ากอต หลังแกะผ้ากอตชั้นแรก(นอกสุด)และชั้นที่2ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีแต่กลิ่นคาวแบบสุด(บรรยายเป็นคำพูดไม่ได้) จนกระทั่งผ้ากอตสุดท้ายซึ่งมารู้ตอนหลังว่ามันอุดแผลที่ผ่าและอัดเข้าไปในรูทวาร(มิน่าละ ตอนขมิบก้นมันถึงเจ็บ) ผมเลยตัดสินใจดึงซึ่งมันเจ็บแบบสุดๆ พอดึงเสร็จ อ้าว...เลือดแดงๆสดๆ หยดๆลงพื้นติ๋งๆ คราวนี้ร้องเสียงหลงจนพี่ผมต้องไปถามพยาบาล และก็ได้คำตอบว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะแผลยังสดและบางทีอาจมีเลือดค้างอยู่
พอตอนอาบน้ำ ลองฟอกสบู่ใกล้ๆแผลแบบเบาๆ ก็ต้องสยองอีกครั้ง เพราะเนื้อบริเวณแผลที่ผ่ามันแหว่งจนใกล้รูทวารมากๆ เหมือนกับไอติมลูกกลมๆโดนช้อนชาตักคว้านไปทีนึง มารู้จากหมอว่าวิธีผ่าตัดต้องคว้านเนื้อส่วนที่เป็นฝีและเนื้อดีๆรอบๆฝีบางส่วนเพื่อไม่ให้เหลือรากฝี เนื้อที่แหว่งหายไปนี่แหล่ะ ที่ทำให้มีเลือดซึมออกมา(สร้างกลิ่นคาวได้จับใจ) ส่วนด้านในรูทวารก็ทำคล้ายๆกันแต่จะเย็บปิดด้วยไหมละลายอย่างแน่หนา
20มีนาคม ตื่นเช้ามา เข้าห้องน้ำถ่ายหนัก มีเลือดสดๆปนมาบ้าง(หยดติ๋งๆ) โชคดีที่หลังจากนั้นไม่นานหมอก็เข้ามาตรวจอาการ ได้รับคำตอบว่าช่วง7วันแรกจะยังมีเลือดปนมาตอนถ่ายหนักบ้าง และขอบแผลผ่าตัด(ที่มันแหว่งๆ)จะนูนสักตึงนิดอาจทำให้ปวดเวลาขมิบก้นได้
สรุปแล้วหมอให้กลับบ้านได้ และมาตรวจอีกทีในวันที่22มีนาคม
ตอนนี้ขั้นตอนพักฟื้นที่ต้องทำ
- กินผัก ผลไม้ และดื่มน้ำเยอะๆ(ให้ถ่ายหนักได้คล่องๆ)
- กินอาหารพวกโปรตีนให้เยอะที่สุดเท่าที่จะกินได้(หมอบอกว่าจะได้สร้างเนื้อในส่วนที่โดนผ่าจนแหว่งให้มันเต็มเร็ว)
- อาบน้ำฟอกสบู่เบาๆในส่วนที่เป็นแผล และซับแผลเบาๆให้แห้งกับทิชชู่
- แช่ก้นในน้ำอุ่นช่วงเช้า-เย็น และหลังถ่ายหนัก
- ถ้าปวดแผล กินพาราฯครั้งละ2เม็ด
- สวมผ้าอนามัย เพื่อซับหนอง เมือก และเลือดที่ซึมจากแผล จนกว่าแผลจะแห้งสนิท(อีกนานโข...)
- ถ้าแผลหายสนิทแล้ว ให้ออกกำลังกายสร้างภูมิต้านทานโรค จะได้ไม่กลับมาเป็นซ้ำ
ตอนนี้ ขอยอมรับว่ายังไม่กล้าดูแผลผ่าของตัวเอง คือแค่เอามือลูบเบาๆแล้วเจอมันแหว่งก็รู้สึกใจไม่ดีชอบกล ยังหวาดเสียวอยู่ (ถึงแม้จะไม่ค่อยแสบแผลแล้วก็ตาม) แต่ยังมีเลือดซึมอยู่บ้าง ซึ่งอาจต้องให้กระบวนการทางธรรมชาติซ่อมแซมตัวเองด้วย
สุดท้ายนี้ ขอให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวRFT รักษาสุขภาพด้วยนะครับ จะได้ไม่ต้องมาเจ็บตัวเหมือนผม _________________ ความคืบหน้าโครงการปรับปรุงทางช่วงที่วัง-กันตัง
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5618 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46857
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 21/03/2012 8:44 pm Post subject: |
|
|
ขอให้หายป่วยเร็ว ๆ
อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐจริง ๆ
ขอบคุณมากครับที่มาเล่าเรื่องราวการสู้โรคให้ฟัง นับเป็นวิทยาทานครับ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 21/03/2012 9:27 pm Post subject: |
|
|
ขอให้หายจากแผลที่ถูกผ่าตัดนี้ เร็วๆ ด้วยนะครับ |
|
Back to top |
|
|
milkonline
2nd Class Pass (Air)
Joined: 02/07/2009 Posts: 810
Location: อ.เมือง จ.ลพบุรี
|
Posted: 21/03/2012 9:38 pm Post subject: |
|
|
อ่านแล้ว เสียววูบวาบเลยครับ ต้องระวังตัวบ้างซะแล้ว
ขอให้หายเร็วๆนะครับ _________________ N-Scale model train lovers.
|
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 22/03/2012 7:13 am Post subject: |
|
|
ขอให้หายป่วยเร็ว ๆ และในช่วงรักษาตัวให้ปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ครับ
สงสัยขาดผู้สื่ข่าวท้องถิ่น รายงานความคืบหน้า การปรับปรุงทาง จาก ทุ่งสง กันตัง ไปพักใหญ่ ๆ |
|
Back to top |
|
|
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
|
Posted: 22/03/2012 10:56 am Post subject: |
|
|
เล่ารายละเอียดซะแหยงเลย....ขอให้หายเร็ววันครับ _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ................... |
|
Back to top |
|
|
keadtisak
3rd Class Pass
Joined: 03/01/2008 Posts: 88
|
Posted: 30/03/2012 4:22 pm Post subject: |
|
|
ขอให้หายไว ๆ ครับ สู้ ๆ ผมก็เคยเป็นเหมือนกัน ต้องไปล้างแผลทุกวัน 1 เดือนเต็ม ๆ ผมเป็นที่หลังใบหู หน้าผากขวา น่อง เท้า ไหล่ ในเวลาเดียวกัน และในแต่ละแผลจะมีฝีอยู่ประมาณไม่ต่ำกว่า 10 หัว เห็นหมอกับคนแก่ ๆ จะเรียกมันว่า "ฝีผักบัว" ทั้งไข้ขึ้น ปวดบวมเดินลำบาก ทรมานสุด ๆ เข้าใจหัวอกของคุณเลยครับ สู้ ๆ นะครับผ่านมันไปให้ได้ |
|
Back to top |
|
|
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 30/03/2012 4:41 pm Post subject: |
|
|
หายไวไวนะครับ อ่านแล้วสยองมาก |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43713
Location: NECTEC
|
Posted: 30/03/2012 6:43 pm Post subject: |
|
|
อาการเป็นฝีฝักบัว (Carbuncle) เคยทำให้ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ สิ้นพระชนม์มาแล้ว ดังนั้น อย่าประมาทเด็ดขาด เพราะถึงตายได้เชียวนะครับ |
|
Back to top |
|
|
keadtisak
3rd Class Pass
Joined: 03/01/2008 Posts: 88
|
Posted: 30/03/2012 9:13 pm Post subject: |
|
|
Quote: | Posted: 30/03/2012 6:43 pm Post subject:
--------------------------------------------------------------------------------
อาการเป็นฝีฝักบัว (Carbuncle) เคยทำให้ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ สิ้นพระชนม์มาแล้ว ดังนั้น อย่าประมาทเด็ดขาด เพราะถึงตายได้เชียวนะครับ
|
ก็เกือบไม่รอดเหมือนกันครับ เพราะที่เป็นหลังใบหูเห็นหมอว่าไปทับเส้นประสาทด้วยเล่นเอาขยัดตัวไม่ได้ 7 วัน 7 คืนเลยครับ |
|
Back to top |
|
|
|