ไปเกาะสุมาตรา เที่ยวเมืองปาดัง นั่งรถไฟเล่น ใต้เส้นศูนย์สูตร

[Mongwin]

สวัสดีครับสมาชิกรถไฟไทยดอทคอมทุกท่าน

ผมสนใจเกาะสุมาตรามานานแล้วครับ ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ เรียนชั้นประถมอยู่ที่โรงเรียนบ้านเทพา ซื้อหนังสือแผนที่ภูมิศาสตร์ ของคุณครูทองใบ แตงน้อย สำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช มาดู ก็ภูมิใจมากที่ เทพา อำเภอเล็ก ๆ ที่ไม่มีรถโดยสารประจำทาง (ในสมัยนั้น) ไปไหนต้องไปรถไฟ แต่ปรากฏอยู่ในแผนที่ประวัติศาสตร์ยุคสุโขทัยด้วย


ที่มา: นิตยสารเทพานิวส์ สรรพสาระของคนเทพา

ดูจากแผนที่ก็เห็นว่า ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของด้ามขวานทองของเรา มีเกาะใหญ่โตมาก ใช้ชื่อว่า ศรีวิชัยเดิม ก็อยากไปดูครับ จะมีเรือโดยสารไปได้แบบเกาะปีนังหรือเปล่าหนอ แล้วศรีวิชัยเดิมนี่ มีพรมแดนทางทะเล ติดต่อกับประเทศไทยหรือเปล่า

ข้อสงสัยตามมามากมาย

เวลาผ่านไป 30 กว่าปี พอเป็นสมาชิกรถไฟไทยดอทคอม อ่านกระทู้ รวมเรื่องจาก เกเรตาอาปิ อินโดนิเซีย (การรถไฟเมืองอิเหนา) ของคุณวิศรุต ที่เริ่มตั้งกระทู้เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 51 ผมก็เข้าไปแสดงความคิดเห็นทันทีครับ หน้าแรกเลย

[Mongwin]

จากนั้นเป็นต้นมา ผมก็เริ่มรวบรวมข้อมูล ทั้งการเดินทาง แนวเส้นทางรถไฟในอดีต-ปัจจุบัน เพื่อหาทางลงพื้นที่ไปเกาะสุมาตรา ที่อยู่ใกล้แต่เหมือนไกลแห่งนี้ครับ

แต่ 6 เดือนต่อมา การวางแผนเดินทางก็ต้องระงับไป เนื่องจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ ที่เมืองปาดัง เกาะสุมาตรา เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 52 เวลา 17.16 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเวลาในประเทศไทย) รัฐบาลอินโดนีเซียรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 1,115 คน และบาดเจ็บอีกหลายพันคน
http://en.wikipedia.org/wiki/2009_Sumatra_earthquakes

[Mongwin]

นับจากวันที่เกิดแผ่นดินไหวจนถึงตอนนี้ เวลาผ่านไป 2 ปีเศษ
หนังสือพิมพ์รายวัน Haluan ของอินโดนีเซีย ฉบับวันที่ 6 ก.พ. 55 ลงข่าวหน้า 1 ไว้ที่มุมขวาล่างสุดว่า รถไฟเรลบัสปาดัง-ท่าอากาศยานนานาชาติมินังกาเบา (BIM) กำลังจะส่งมาแล้ว (ผลิตที่โรงงาน PT INKA เมือง Madiun ชวาตะวันออก)
ผมแปลเนื้อข่าวไว้ที่นี่ครับ
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3229&postdays=0&postorder=asc&start=40



ผมจึงเริ่มต้นออกเดินทางไปเกาะสุมาตราครับ
และเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ได้เดินทางข้ามเส้นศูนย์สูตร ไปยังซีกโลกใต้ด้วย

[headtrack]

...ติดตามชมแถวหน้าเลยครับ อาจารย์ ผมเองก็สนใจทางรถไฟขนอ้อย ตั้งแต่เห็นภาพจาก Railpictures.net แล้วครับ...

...

[Mongwin]

ขอบคุณมากครับคุณต้น ไปคราวนี้ยังไม่ได้ตามหารถไฟขนอ้อยครับ เพราะไม่รู้ว่าจะมีหวังได้เห็นหลงเหลืออยู่ที่ไหนอีกในปัจจุบัน หนังสือดังกล่าวก็พิมพ์ตั้งแต่สมัยผมยังไม่เข้าโรงเรียนเลย

ภาพถ่ายที่คุณต้นกล่าวถึง B1245 คือ รถราง(tram) สาย Wonokromo-Ujung ที่เมืองสุราบายาครับ ไม่ใช่เกาะสุมาตรา ถูกต้องอย่างที่คุณต้นบอกครับ แอบเห็นรถจักรด้วย ช่างสังเกตจริง ๆ
แสดงว่ารถรางผ่านเข้าไปใกล้สถานีรถไฟด้วยนะครับ

โดนจุดประกายแบบนี้ สงสัยทริปหน้าต้องไปดูรถไฟที่สุราบายาแล้วสิครับ

มาออกเดินทางไปเมืองปาดังกันดีกว่า
หากต้องการความ"ลุย" แนะนำให้ขึ้นขบวน 35 ไปลงบัตเตอร์เวอร์ธครับ ข้ามฟากไปเกาะปีนัง จากนั้นก็ลงเรือเฟอรี่ high-speed ไปขึ้นที่ท่าเรือ Belawan (ค่าเรือ 140 ริงกิต) ใช้เวลา 5 ชั่วโมง จากนั้นนั่งรถบัสไปอีก 26 กม. ถึงเมดาน แล้วต่อรถบัสไปปาดังอีก (ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมง จากเมดานไปปาดัง)

ผมเลยตัดสินใจไปเครื่องบินครับ ค่าตั๋ว Air Asia ไป-กลับ กรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์ 7,310 บาท บวกกับค่าตั๋วไปกลับ กัวลาลัมเปอร์-ปาดัง 622.55 ริงกิต

[Mongwin]

ผมออกเดินทางจากกรุงเทพด้วยสายการบิน Air Asia เที่ยวบินที่ AK 831 วันศุกร์ที่ 27 เม.ย. 55 โดยออกจากสุวรรณภูมิ เวลา 10.00 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) เวลา 13.10 น. (เวลาในมาเลเซียเร็วกว่าไทย 1 ชม.) เครื่องบินใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง 10 นาทีครับ

ตอนขาไปสนามบินสุวรรณภูมิ ผมไปขึ้นรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ที่สถานีพญาไท กะจะใช้บริการรถไฟด่วนพญาไท 90 บาทครับ แต่พอไปถึง เจ้าหน้าที่บอกว่า ให้ไปรถธรรมดาจะถึงเร็วกว่า เพราะรถไฟด่วน ยังไม่ถึงเวลาออก เลยได้ขึ้นรถไฟธรรมดา 45 บาท

การเดินทางเข้าออกจากประเทศไทย ผ่านด่าน ตม. ยังต้องกรอกใบขาเข้าขาออก (immigration card) หรือ ตม.6 อยู่ครับ ซึ่งใบนี้ทางเคาน์เตอร์ของสายการบินที่เราไปเช็คอินจะให้มา แต่พอไปถึงมาเลเซีย ไม่ต้องกรอกใบแบบนี้แล้วครับ สะดวกมาก ตรงนี้เป็นระบบที่ทันสมัยกว่าบ้านเรา

ผมยังจำได้เมื่อหลายปีก่อน (พ.ศ.2544) เคยนั่งขบวน 37 ไปสุไหงโก-ลก เพื่อไปต่อรถไฟไปสิงคโปร์ที่สถานีวากัฟบารู ตอนข้ามแดนที่ด่านสุไหงโก-ลก ฝั่งไทยมีเจ้าหน้าที่ให้บริการกรอกใบ ตม.6 ให้ จ่าย 10 บาท ปรากฏว่าปากกาเขียนไม่ค่อยติด เจ้าหน้าที่เลยเอาไฟแช็คขึ้นมาจุดลนปากกาครับ

พอข้ามไปฝั่งรันตูปันจาง ไม่ต้องกรอกใบขาเข้าขาออก เจ้าหน้าที่เอาพาสปอร์ตไปคีย์เข้าเครื่องคอมพ์ แล้วปรินต์ใบ ตม.ออกมาให้เลย ด้วยเครื่อง printer ครับ

สำหรับสายการบินแอร์เอเชียทุกเที่ยวบิน จะไปจอดที่ LCC-T หรือ Low Cost Carrier Terminal ครับ ซึ่งแยกออกมาจาก KLIA แม้จะอยู่ในบริเวณเดียวกัน การเดินทางเข้าเมืองจะมีรถบัสของ SkyBus และของเจ้าอื่น ๆ ค่าโดยสารประมาณ 10 MYR แต่ผมไม่เคยนั่งรถไฟ KLIA Ekspres เลยอยากจะลองดูครับ

การจะไปขึ้นรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ของกัวลาลัมเปอร์ หรือ KLIA Ekspres ก็ต้องเดินทางจาก LCC-T ไปที่ KLIA ก่อน ซึ่งต้องขึ้นรถชัตเติลบัสไป รถจอดอยู่หน้า LCC-T นั่นแหละครับ ไม่ต้องซื้อตั๋วก่อน ขึ้นไปจ่ายเงินกับคนขับบนรถได้เลย ค่าโดยสาร 2.50 MYR ครับ

พอไปถึง KLIA ก็มองหาทางเดินไป KLIA Ekspres ซึ่งก็ยังไม่ต้องซื้อตั๋ว ขึ้นไปบนขบวนรถได้เลย ค่อยไปจ่ายเงินซื้อตั๋ว เพื่อออกจากสถานีที่ปลายทาง คือ สถานีรถไฟ KL Sentral ครับ

ภาพข้างล่างนี้ คือ สลิปรถชัตเติลบัส LCCT-KLIA และ ด้านหน้า-หลังของตั๋ว KLIA Ekpres ครับ


KLIA Ekspres เป็นรถไฟท่าอากาศยานที่อยู่ระดับดินครับ ความเร็ว 160 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 28 นาทีก็ถึง KL Sentral ออกทุก ๆ 15-20 นาที ค่าโดยสาร 35 MYR

รายละเอียดเกี่ยวกับ KLIA Ekspres (อ่านว่า เคแอลไอเอ เอ็กซ์เพรส) ดูได้ที่นี่ครับ
http://www.kliaekspres.com

[Mongwin]

พอไปถึงสถานีรถไฟ KL Sentral ซึ่งเป็นศูนย์รวมการคมนาคมขนส่งทางรางและขนส่งต่อเนื่อง ผมก็เดินเล่นครับ ไปนั่งหน้าเคาน์เตอร์ของ KTM ดูการซื้อตั๋วล่วงหน้า ซึ่งจะมีระบบคล้ายรอใช้บริการธนาคาร มีสลิปให้กด และรอเรียกตามหมายเลข สะดวกดีครับ ไม่ต้องยืนเข้าคิว ผมไม่ได้ซื้อตั๋วไปไหนหรอกครับ นั่งฟังเสียงเรียก ฝึกฟังตัวเลขภาษามลายู สะตู ดูอา ตีกา...ให้คล่อง ๆ

ใกล้ ๆ กับเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วล่วงหน้าของ KTM มีคัตเอาท์ของ KTM Komuter ไว้ให้โผล่หน้าออกมาถ่ายรูปเล่นแก้เซ็งครับ เห็นเด็ก ๆ ชาวบ้านมาถ่ายรูปกันอยู่เหมือนกัน น่ารักดีครับ

[Mongwin]

จากสถานี KL Sentral ผมขึ้นรถไฟฟ้าของ RapidKL สาย Kelana Jaya ไปลงที่สถานี KLCC ซึ่งเป็นที่ตั้งของตึกแฝด Petronas Tower และห้างสรรพสินค้า Suria KLCC ครับ
ค่าโดยสาร 1.60 MYR

การหยอดเหรียญหรือธนบัตรซื้อตั๋วไม่ยากครับ มือใหม่ไปยืนดูชาวบ้าน หรือให้ชาวบ้านสอนให้ก็ได้ครับ ศึกษาแผนผังให้เข้าใจ เพราะว่าเราจะต้องเอานิ้วไปจิ้มบนจอให้ตรงกับแผนผังเส้นทางรถไฟฟ้าครับ สนุกดีเหมือนกัน
หน้าตาของ Kuala Lumpur Transit Map จะคล้าย ๆ แบบนี้ครับ
http://jee2ice.blogspot.com/2009_07_01_archive.html

พวกเราจะใช้งานจริงอยู่ไม่กี่สถานีแหละครับ อย่างนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเมืองไทยก็คงไม่รู้จะไปทำอะไรที่สถานีรางโพ บ้านทับช้าง อะไรแบบนี้ (ยกเว้นคนบ้ารถไฟ)

อยู่กัวลาลัมเปอร์ ไม่รู้จะไปไหน ผมก็ปักหลักอยู่ที่ Suria KLCC ทุกทีครับ อาหาร ห้องน้ำ ร้านหนังสือ พร้อมทุกอย่าง ปิด 4 ทุ่ม เบื่อ ๆ ก็ออกมานั่งรับลม ดูตึกแฝดยามค่ำคืนก็บรรยากาศเยี่ยมครับ เสียดายตอนนี้น้ำพุดนตรีปิดซ่อมอยู่

ในบรรดาร้านต่าง ๆ ใน Suria KLCC ผมชอบร้าน Kinokuniya มากที่สุดครับ รู้สึกเหมือนว่าหนังสือเยอะกว่าสาขาในบ้านเราอีก ไม่รู้ว่าอุปาทานไปหรือเปล่า ไปรอบนี้ได้หนังสือติดมือกลับมาให้หนักเป้ แบกไปนอนอ่านบนเกาะสุมาตราอีกหลายเล่มเลย

ค่ำ ๆ ก็กลับมา KL Sentral ครับ เพื่อเดินทางกลับไปที่ LCC-T รอขึ้นเครื่องบินไปปาดังในเช้าวันรุ่งขึ้น

คราวนี้ไม่ใช้ KLIA Ekspres แล้วครับ แพงโดยใช่เหตุ ไม่ได้รีบอะไร ตั้ง 35 MYR แล้วยังต้องต่อชัตเติลบัสอีก 2.50 MYR
เลยเปลี่ยนบรรยากาศขึ้น SkyBus ครับ 10 MYR เอง ถึง LCC-T เลย



เรื่องต่อรถบัสในมาเลเซียนี่ไม่ต้องห่วงว่าจะหลง หรือหาไม่เจอครับ แต่งตัวเป็นนักท่องเที่ยว ไปยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่แถว ๆ ริมถนน เดี๋ยวก็มีคนมาเรียกเองครับ คล้าย ๆ อยู่แถวหมอชิตหรือรังสิต
คราวที่แล้ว ลงขบวน 35 ที่บัตเตอร์เวอร์ธ แล้วปรากฏว่าตั๋วรถไฟไปกัวลาลัมเปอร์เต็ม ไปยืนอยู่แถวสถานีขนส่งใกล้ ๆ สถานีรถไฟ ก็มีคนมาเรียกไปซื้อตั๋วรถทัวร์ ได้ไปสมใจครับ

[Mongwin]

อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่สนามบินสุวรรณภูมิ 27 เม.ย. 55
31.16 THB ต่อ 1 USD ครับ
ส่วนที่สนามบิน KLIA (LCC-T) 1 USD แลกได้ 2.83 MYR

ที่จริงพกเงินบาทไปแลกเงินริงกิตที่มาเลเซีย น่าจะดีกว่า
แต่ผมเปลี่ยนเงินบาทเป็น USD ก่อน เพื่อความมั่นใจว่าใช้ได้ทุกสถานการณ์
ดังนั้น สรุปว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเป็นเงินริงกิตคราวนี้
1 ริงกิต ต้องใช้เงินบาท = 31.16/2.83 = 11.01 บาท

เที่ยวบินที่จะไปปาดัง จะออกจากกัวลาลัมเปอร์ 07.50 น.ครับตามเวลามาเลเซีย และไปถึงสนามบินปาดัง 8.00 น. ตามเวลาเกาะสุมาตรา ซึ่งตรงกับเวลาไทย ดังนั้น เครื่องบินใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 10 นาทีครับ

ผมไม่ได้ไปพักโรงแรมในเมือง และไม่ได้จองโรงแรม Tune Hotel ที่ LCC-T ไว้ ก็อาศัยนอนในสนามบินเลยครับ ไม่กี่ชั่วโมงเอง อาหาร ห้องน้ำ พร้อม ติดแอร์เย็นฉ่ำ ไร้ยุงและแมลงรบกวน (เย็นเกินไปด้วยซ้ำ) ลุย ! ครับ

เกี่ยวกับข้อมูลการ(แอบ) นอนในสนามบิน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ น่าสนใจมาก มีการจัดอันดับสนามบินน่านอนและไม่น่านอนไว้ด้วยครับ
http://www.sleepinginairports.net

ชีวิตนี้เคยนอนค้างแต่ที่สถานีรถไฟ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ค้างที่สนามบินครับ

10 อันดับสนามบินน่านอน ปี 2011
1. Singapore
2. Hong Kong
3. Seoul Incheon
4. Kuala Lumpur
5. Amsterdam
6. Munich
7. Vancouver
8. Zurich
9. Frankfurt
10. Toronto

10 อันดับสนามบินไม่น่านอน ปี 2011
1. Manila (Terminal 1)
2. Paris Beauvais
3. Reykjavik Kevlavik
4. BERGAMO ORIO AL SERIO
5. KIEV BORYSPIL
6. FRANKFURT HAHN
7. LONDON LUTON
8. PISA
9. PARIS CDG (Terminals 3 and 2A,B,C,D)
10. LOS ANGELES

ผมภูมิใจมากครับ ที่ได้นอนข้ามคืนในสนามบินที่น่านอนที่สุด อันดับ 4 ของโลกครับ

[Mongwin]

นอนไม่หลับ เบื่อ ๆ ก็ออกมาเดินถ่ายรูปเล่นครับ
บรรยากาศตอนตีสามกว่า ๆ ในสนามบิน LCC-T ไม่วังเวง



เมื่อไหร่จะได้เวลาเช็คอินเที่ยวบินไปปาดัง
เปลี่ยนใจไปภูเก็ต เกาะลังกาวีหรือไม่ก็เวียงจันทน์ซะดีมั้ง จะได้ไปเร็ว ๆ