ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

Mongwin · Posted: 26/04/2012 1:43 pm Post subject:

ประกาศฝ่ายการช่างกล
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เลขที่ วซร.061/อส./2555
เรื่อง สอบราคาว่าจ้างปรับปรุงห้องน้ำรถดีเซลรางปรับอากาศแดวู 2535 จำนวน 1 คัน
แก้ไขประกาศครั้งที่ 1
- - - - - - - - - - - - - - -

ประกาศฝ่ายการช่างกล
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง สอบราคาว่าจ้างปรับปรุงห้องน้ำรถดีเซลรางปรับอากาศแดวู 2535 จำนวน 1 คัน
- - - - - - - - - - - - - - - เลขที่ วซร.061/อส./2555

ด้วยกองซ่อมรถดีเซลรางเขตกรุงเทพ ศูนย์ซ่อมบำรุง ฝ่ายการช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะว่าจ้าง โดยวิธีสอบราคา ดังนี้.-

ว่าจ้างปรับปรุงห้องน้ำรถดีเซลรางปรับอากาศแดวู 2535 จำนวน 1 คัน

ราคากลาง 5,000,000.00 บาท Shocked

Mongwin · Posted: 01/05/2012 12:43 am Post subject:

“ชัจจ์”เร่งสรรหาผู้ว่าฯร.ฟ.ท.ดัน”มักกะสันคอมเพล็กซ์”เปิดทีโออาร์พ.ค.นี้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 พฤษภาคม 2555 00:10 น.

“ชัจจ์”จี้ร.ฟ.ท.เร่งสรรหาผู้ว่าฯ คนใหม่ ชี้เสปคสรรหามีปัญหา แนะปรับใหม่ทั้งขยายอายุทำงาน และจ้างแบบเป็นทีมแทนคน ๆ เดียว เหตุยุคนี้ขาดแคลนคนเก่งจริง และสั่งร.ฟ.ท.ประกาศทีโออาร์ประมูล”มักกะสันคอมเพล็กซ์”ในพ.ค.นี้ ให้เอกชนยื่นสนใจใน 60 วัน ก่อนให้เวลาทำรายละเอียดเลือกที่เสนอผลประโยชน์สูงสุด ด้าน”สันติ”คาดเรียกประชุมกก.สรรหาฯ นัดแรกได้ในสัปดาห์นี้ ขอดูเงื่อนไขเดิมก่อนตัดสินว่าจะปรับกติกาหรือไม่ ตั้งเป้า ก.ค.ได้ผู้ว่าฯคนใหม่

พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รบรายงานความคืบหน้าการสรรหาผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งจะเร่งไปยังคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯร.ฟ.ท.เพื่อให้ได้ตัวผู้ว่าฯภายในเดือนก.ค.นี้ให้ทันกับที่นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าฯร.ฟ.ท.คนปัจจุบันจะครบวาระ 4 ปี เนื่องจากหากไม่มีผู้บริหารตัวจริงอาจจะกระทบต่อการบริหารงานซึ่งร.ฟ.ท.มีหลายโครงการที่ต้องเร่งรัด ทั้งรถไฟความเร็วสูง,รถไฟฟ้าสายสีแดง,และการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อหารายได้

“การสรรหาไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องทั้งหมด เพราะต้องบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพียงคนเดียวมาทำงาน ถ้าไม่มีใครเหมาะสมก็ทำให้การพิจารณาล่าช้า จึงเห็นว่าควรมีการปรับแก้กฎหมายสรรหาใหม่เช่น จ้างเป็นกลุ่มคนที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาบริหาร และไม่ควรกำหนดอายุไม่เกิน 60 ปี เพราะขณะนี้อยู่ในภาวะขาดแคลนคนเก่ง คนที่เชี่ยวชาญเรื่องรถไฟจริง ๆ”พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าว

พล.ต.ต.สันติ วิจักขณา กรรมการ (บอร์ด) รฟท. ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯร.ฟ.ท.กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้คณะกรรมการสรรหาฯ จะประชุมนัดแรก โดยจะพิจารณาทีโออาร์เดิมก่อนว่ามีความจำเป็นต้องปรับแก้กติกาหรือไม่ จากนั้นจะเร่งกำหนดทีโออาร์ คุณสมบัติต่างๆ เพื่อประกาศสรรหาภายในเดือนพ.ค.นี้ โดยเป้าหมายเบื้องต้นต้องการให้ได้ตัวผู้ว่าฯร.ฟ.ท.คนใหม่ภายในเดือนก.ค.นี้ แต่หากไม่ทันบอร์ดร.ฟ.ท.จะทำหน้าที่ในการบริหารงานไปก่อน

สั่งเปิดทีโออาร์มักกะสันคอมเพล็กซ์ใน ก.ค.นี้

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า ได้สั่งให้ร.ฟ.ท.ประกาศทีโออาร์โครงการพัฒนาพื้นที่ย่านมักกะสัน (มักกะสันคอมเพล็กซ์) เพื่อเชิญชวนเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนร่วมงานและดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) ภายในเดือนพ.ค.นี้ โดยเห็นว่าหากยิ่งประมูลล่าช้าเท่าใดร.ฟ.ท.จะยิ่งมีรายได้จากการพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ช้ามากเท่านั้น เพราะโครงการต้องใช้เงินลงทุนสูงในปีแรกจะมีรายได้น้อยเพราะต้องใช้ไปกับการลงทุน

โดยหลักการต้องให้เอกชนเป็นผู้เสนอการลงทุน ทั้งรูปแบบว่าจะเป็นโรงแรม ศูนย์การค้า ศูนย์แสดงสินค้าอย่างไร มีระยะเวลาในการพัฒนาเท่าไร เป็นต้น โดยคัดเลือกรายที่ยื่นข้อเสนอในการพัฒนาแล้วทำให้ที่ดินของร.ฟ.ท.มีมูลค่าเพิ่มมากที่สุด ประกอบกับรูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับแนวคิดของรัฐ ซึ่งต้องการเน้นความสะดวกและการเชื่อมต่อด้านระบบขนส่งต่างๆ ซึ่งหลังจากเปิดทีโออาร์จะให้เอกชนที่สนใจยื่นแสดงความจำนงค์เข้ามาภายใน 60 วันเพื่อให้ทราบว่ามีผู้สนใจมากน้อยเพียงใด ส่วนการยื่นข้อเสนอรายละเอียดนั้นจะมีการกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง

Mongwin · Posted: 01/05/2012 8:35 am Post subject:

การรถไฟฯ ทุ่มงบประมาณ ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์หลายรูปแบบ หวังว่าผลงานคงจะออกมาน่าประทับใจ ไม่โดน dislike รุนแรงแบบชุดที่ฉายในโรงภาพยนตร์อย่างที่ผ่านมานะครับ (ช่วงเวลาแย่ๆ เกิดขึ้นได้เสมอ ที่นี่...รถไฟไทย) Wink

Rakpong · Posted: 01/05/2012 8:07 pm Post subject:

งบรวมกัน ถ้าเอามาพัฒนาบริการให้ใช้ได้เป็นรูปธรรมได้เยอะทีเดียว

งบประชาสัมพันธ์ตั้งไว้เยอะขนาดนี้ งบพัฒนาบริการน่าจะตั้งไว้มากกว่าหลายเท่านะครับ

unique · Posted: 01/05/2012 11:23 pm Post subject:

alderwood · Posted: 02/05/2012 2:28 am Post subject:

^
ต้องเข้าไปอ่านให้หมดครับ จะมีทั้งข้อความเดิม และข้อความที่แก้ไขด้วยครับ

Mongwin · Posted: 02/05/2012 1:30 pm Post subject:

ขอบคุณคุณธีมากครับที่ช่วยเพิ่มเติมข้อมูลให้ ผมต้องขออภัยครับที่ทำให้เข้าใจผิด Embarassed

------------

โจทย์ที่ 'การรถไฟ' ต้องแก้ก่อน
เปลว สีเงิน ไทยโพสต์ 2 May 2555

ประชานิยม (มัก) ง่ายๆ ที่ไม่ต้องคิด ใครมาเป็นรัฐบาลก็ทำได้ทันทีก็คือ "น้ำฟรี-ไฟฟรี-รถเมล์-รถไฟฟรี" นี่..รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ต่ออายุ "รถเมล์-รถไฟ-ฟรี" ไปอีก ๖ เดือน สุดท้ายแล้ว เมื่อชาวบ้านติดของฟรีเป็นนิสัย ก็จะต้อง "ฟรี" กันตลอดไป ไม่ใช่ด้วยภาวะจำเป็นอะไรหรอก หากแต่เพราะค่านิยมระบอบทักษิณ "โกงไม่เป็นไร ถ้าเอามาแบ่งปันกัน" นั่นแหละ!

การช่วยเหลือคนยาก-คนจนในภาวะหนึ่งนั้น "ถูกต้อง" และการให้ใช้สาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างน้ำ-ไฟ-รถเมล์-รถไฟ "ส่วนหนึ่ง-ฟรี" ที่เริ่มมาในสมัยนายกฯ สมัคร สุนทรเวช นั้น ตอนนั้นผมก็ยังชมไอเดียท่านนายกฯ สมัคร
แต่ไม่ควรบริหารมักง่าย ใช้จนเป็นนิสัย ควรเป็น "นโยบายเสริม" บางครั้ง-บางคราว ในภาวะข้าวยากหมากแพง เศรษฐกิจ (ชาวบ้าน) ตกสะเก็ดเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วมันเป็นมาตรการทางจิตวิทยาบริหารชั่วครั้ง-ชั่วคราว ขืนเอามาตรการชั่วคราวมาใช้ถาวร

เดี๋ยวมันก็จะ "ย้อนศร" เอาจนได้!

แต่นี่...เห็นนายกฯ สมัครทำไว้เข้าท่า มาถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์ ต่อด้วยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ต้องใช้สติปัญญาใคร่ครวญกันละ ครบ ๖ เดือนก็ต่อมันไปเรื่อยๆ ระวังเถอะ...แล้วมันจะเป็น "ของฟรี" ที่เคยตัว
กลายเป็น "มรดกบาป" ที่รถเมล์-รถไฟต้องแบกตลอดไป!
และต่อไป ประเทศไทยมี high-speed rail วันไหน คอยดูเถอะ...ด้วยประชานิยมที่ทำให้สังคมทั้งระบบ "เลี้ยงไม่โต" ทั้งตัวและสมอง ก็จะมีการอ้างสัญญาที่ให้ไว้ตอนหาเสียง อ้างความทัดเทียมไพร่-อำมาตย์

ขอนั่ง high-speed rail ฟรี!
เรื่องรถไฟความเร็วสูงนี่ ต้องคิดให้รอบคอบ อย่าเห็นเขามีก็อยากมีบ้าง ควรตอบโจทย์ประเทศเราให้ชัดก่อน ประเทศที่เขามีน่ะ ความเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของเขาเป็นแบบ "เมืองสู่เมือง" แต่ของเรามันเป็นแบบ "เมืองสู่ อบต."
เคยมีคนสะท้อนภาพเมืองไทยว่า "กรุงเทพฯ คือประเทศไทย-ประเทศไทยคือกรุงเทพฯ" แต่ถึงวันนี้มันก็ยังเป็นอย่างนั้น จะมีเพิ่มเติมก็ตรงว่า ประเทศไทยจะพังเพราะระบบ "ไพร่กลายเป็นอำมาตย์" นี่แหละ!
รถไฟความเร็วสูงในบ้านเรา ไม่ใช่เพิ่งมาคิดในยุคอภิสิทธิ์-ยิ่งลักษณ์ เขาคิดกันมาร่วม ๒๐ ปีแล้ว แรกๆ ก็เห็นบอกว่า จีน-สนใจจะทำสายกรุงเทพฯ-หนองคาย และญี่ปุ่น-สนใจจะทำสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่

ถ้าทำจริง ให้เขาลงทุนทำกันไปคนละสายแค่นี้ก่อน เราก็ค่อยๆ ศึกษา-เรียนรู้ปัญหาไป มันก็น่าจะดีกว่าตึงตัง-โครมครามทีเดียว ๕ สาย ๑๐ สาย ปลุกให้คนไทยที่ชอบ "ตื่นของใหม่" โดยไม่ศึกษาน้ำลายหก-น้ำลายสอ
ผมอยากให้รัฐบาล...รัฐบาลไหนก็ได้ แบ่งความกระเหี้ยนกระหือรือที่จะทำรถไฟความเร็วสูง ไปที่แผนเดิมของรถไฟไทยเรา คือควรยกเครื่องชนิด "ถอนราก-ถอนโคน" ระบบบริหาร-แนวคิด-แนวปฏิบัติ เกี่ยวกับ "การรถไฟแห่งประเทศไทย" ทั้งหมด!
ร.ฟ.ท.คือ "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง" มีทองมากกว่าขุมทองแมคเคนนา และมากกว่าทองแหกตาของไอ้สากกะเบือที่ถ้ำลิเจียเป็นไหนๆ
เดิมเป็น "กรมรถไฟหลวง" ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ "พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน" ทรงเป็นผู้บัญชาการ

ของดีๆ เพิ่งจะมาถูกทำให้เสียตอนประเทศเปลี่ยนยุคนี่แหละ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ยุบจากกรมรถไฟหลวงเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคมเมื่อปี ๒๔๙๔ นี่เอง
แล้วกิจการรถไฟก็เจริญลง...เจริญลง...ตามลำดับของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม-เศรษฐกิจโลก สวนทางกับความร่ำรวย-มั่งคั่งขึ้นของคนรถไฟบางส่วน และนักการเมืองบางคน ตราบจนปัจจุบัน เทคโนโลยีเพื่อการคมนาคมก้าวหน้าขึ้น
คนรถไฟและนักการเมืองก็ก้าวหน้าทางหาผลประโยชน์จากกิจการรถไฟตามไปด้วย จนถึงวันนี้ นอกจากทิ้ง "ซากหนี้สิน" กองโตเป็นอนุสรณ์บริหารแล้ว รถไฟไทยถูกทอดทิ้งอยู่ในสภาพ "ซากรักที่ยัง(พอ)หายใจ" พะงาบๆ!
มันถอนปากจากซากรถไฟ ไปฝังเขี้ยวตามมรดกแผ่นดินรถไฟแทน ตรงนี้ยังชุ่มเลือด-ชุ่มเนื้อ ที่ดินรถไฟมีทั่วประเทศ ถึงขั้นพูดได้ว่า ไม่มีหน่วยงานไหนในเมืองไทยที่จะรวยที่ดินเท่ารถไฟ รางไปถึงไหน ก็เป็นแลนด์ลอร์ดที่นั่น

นั่นก็เอาไปให้เช่าบ้าง ยักเยื้องขายบ้าง เอาไปทำมาหากินในด้านที่ไม่เกี่ยวกับกิจการรถไฟตามเหตุผลที่เวนคืนจากชาวบ้านเขามาบ้าง และตอนนี้กำลังมีกิจการ "ชุ่มเลือด-ชุ่มเนื้อ" เกิดขึ้นใหม่
แอร์พอร์ตลิงค์บ้าง (ใกล้เจ๊ง) รถไฟความเร็วสูงบ้าง (เจ๊งในอนาคต) ก็เตรียมเปลี่ยนที่ฝังเขี้ยวกันสวบสาบ จนถึงเวลานี้ มีใครได้ยินรัฐบาล และผู้บริหารรถไฟพูดถึงความคืบหน้าการพัฒนาด้วยปรับเปลี่ยนระบบรางเดี่ยวเป็นรางคู่ ขยายขนาดราง ตลอดถึงปรับธุรกิจบริการ "ถึงก็ช่าง..ไม่ถึงก็ช่าง"
ไปสู่ยุค "ร.ฟ.ท." ขนคน-ขนสินค้า ถึงที่ ถึงเป้าหมาย สะดวก-ตรงเวลา..."ไปเร็ว-ถึงเร็ว"!

ทำไมรถไฟมันจะไม่ขาดทุนป่นปี้ล่ะ ปีๆ ขนคนกับขนสินค้า อย่างไหนมากกว่ากัน ให้คนนั่งนั้น มันเป็นราคาบริการ การขนสินค้าตะหากคืองานสนองตอบเศรษฐกิจภาพรวมที่ ร.ฟ.ท.ต้องเข้าใจ และสนองตอบให้ตรง
เท่าที่เป็นอยู่ รถไฟขนสินค้าหลักแค่ ปูนซีเมนต์ น้ำมัน ก๊าซ และตู้คอนเทนเนอร์ สินค้าอื่นมากมาย รวมทั้งสินค้าเกษตร ต้องหันไปใช้รถบรรทุกเปลืองน้ำมัน เปลืองการสร้างถนนมหาศาล วันละเป็นหมื่น-เป็นแสนคัน แสดงว่า ร.ฟ.ท.ตอบโจทย์ประเทศไม่ได้เลย!
ก็ไม่ต้องคิดมาก จะเป็นกษัยเปล่าๆ เอางี้...ผมจะให้โจทย์รัฐบาล รัฐมนตรีคมนาคม และบอร์ดรถไฟเอาไปคิดเล่นๆ ข้อหนึ่ง ถ้าคิดและแก้โจทย์นี้สำเร็จ ทำไปเลย high-speed rail สำเร็จแน่

ทำไม พอรัฐบาลประกาศทำรถไฟฟ้าไปทางไหน ไม่ว่าใต้ดิน-บนดิน รวมทั้งรถไฟฟ้า BTS พื้นที่ตลอดเส้นทางรถไฟฟ้าสายสายนั้นๆ จะกลายเป็นทำเลทองทันที ทั้งธุรกิจการค้า ทั้งหมู่บ้านจัดสรร ต่างเฮโลไปจับจองสร้างตลาด สร้างหมู่บ้าน สร้างชุมชน สร้างเมือง พรึ่ด...เหมือนเห็ดหน้าฝน?
ในทางกลับกัน รถไฟไทยทำมาแล้ว ๑๑๕ ปี ทั้งทางสายเก่า-สายใหม่ ไปถึงไหนต่อถึงไหน ตลอดสองข้างทาง กลับไม่มีใครสนใจไปจับจองสร้างเมือง สร้างชุมชน สร้างหมู่บ้านจัดสรร สร้างอาคารร้านค้าเหมือนอย่างรถไฟฟ้า
แม้กระทั่งโกดังพักถ่ายสินค้าก็แทบจะไม่มี ?

ไม่พูดถึงรถไฟฟ้า เอาแค่ "การตัดถนน" ต่อให้อยู่ในป่าดงห่างไกลตัวเมือง ตัวกรุงเทพฯ ขนาดไหน พอบอกว่าจะมีการตัดถนนหลวงไปทางนี้...ทางนี้เท่านั้น
ที่ดิน ๒ ข้างทางขึ้นพรวด!
แต่กับรางรถไฟพาดผ่าน เมื่อร้อยปีมีแต่ควายยืนเบิ่ง วันนี้-ก็คงยังเป็นควายเหมือนเดิม!?
เนี่ย...ก่อนจะทำ high-speed rail รัฐบาลเอาการบ้านนี้ไปทำก่อน ทำประเทศไทยให้เกิดชุมชนเมือง ไม่ใช่พ้นกรุงเทพฯ ก็สู่ตัวจังหวัดแต่ละจังหวัด นอกนั้นเป็นชนบทห่างไกลเส้นทางรถไฟ และปืนเที่ยง
คำว่า "เป็นเมือง" ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงที่นั่นมีผับ มีบาร์ มีไวไฟ มีอาบนวด คาราโอเกะ บ่อน-ซ่อง ผู้คนไปสุมกันอยู่คึกคักด้วยเหตุนั้น แต่หมายถึงมีการ "จัดรูปที่ดิน" ให้เกิดประโยชน์ เพื่อกิจการสาธารณูปโภคที่รัฐจะจัดลงไปเกิดประสิทธิภาพไม่สูญเปล่า

เรียกว่า สาธารณูปโภคที่รัฐจัดลงไป ทั้งเส้นทางรถไฟ-ประปา-ไฟฟ้า-โทรศัพท์ และถนนเส้นทางรอง เกิดประโยชน์สูงสุดที่ชาวบ้านในเมืองตรงนั้นจะได้รับ เรียกว่าชาวบ้านก็ได้กำไร กิจการบริการจากรัฐก็ได้กำไร เรียกว่า ดีมานด์-ซัพพลาย สมดุล
อย่างนี้ ถึงไม่ทำรถไฟความเร็วสูง แค่ปรับประสิทธิภาพ-คุณภาพ และภาพลักษณ์รถไฟธรรมดา ถึงไม่กำไรเงิน แต่กำไรสังคมจะได้เกินตัวเงินมหาศาล และถ้าจะทำรถไฟความเร็วสูง ถึงจุดนี้แล้วในขั้นแรก "สายกรุงเทพฯ-โคราช" อันเป็นประตูสู่อีสานทั้งภาค
high-speed rail ทำได้ รับประกันการขาดทุน!
กรมรถไฟหลวง แรกเริ่มทำเมื่อร้อยกว่าปี "กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน" พระองค์ท่านก็ทรงเริ่มสายแรก จากสายกรุงเทพฯ-โคราชนี่แหละก่อนเพื่อน
จุดยาก-จุดไม่สำเร็จ ในการแก้ปัญหาระบบขนส่งมวลชนของไทยมาจากไหน ทราบไหมครับ...มาจากเราโตแบบไม่มีผังเมืองนั่นเอง ผังเมืองกรุงเทพฯ และชานเมืองถูกกำหนดโดย "พ่อค้าบ้านจัดสรร" และนายทุนที่ดิน รวมถึงการตัดถนนของกรมทางหลวง และ กทม.-ประปา-ไฟฟ้า

ลองน้ำถึง-ไฟถึง-ถนนถึง และ "เงิน" พ่อค้าบ้านจัดสรรถึง "รูหนู-รูปลวก" สำหรับคนอยู่ จะเป็นผังเมืองที่พ่อค้าจัดสรรกำหนดขึ้น แล้วระบบรัฐจะคอยตามไปแก้ในลักษณะ "หน่วยบริการหลังการขาย (ของพ่อค้านายทุน)" ทุกที่-ทุกแห่งไป
แล้วอย่างนี้ ต่อให้มีรถไฟฟ้า ๑๐๐ สาย มี high-speed rail ๑๐๐ สาย มันก็ตอบโจทย์การเดินทางจาก "ต้นทาง-สู่จุดปลายทาง" ของคนโดยสารไม่ได้!
จนกว่าจะมีการสร้างเมืองใหม่ โดยมีผังเมืองนำ แทนพ่อค้าบ้านจัดสรรนำ และมีการจัดรูปการใช้ที่ดินให้เป็นระบบ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นแหละ
อย่าลืม...อดีต เส้นทางคมนาคมหลักมีแค่ ๒ คือ ทางน้ำ-ผ่านแม่น้ำ-ลำคลอง, ทางบก-ผ่านทางเกวียน นั่นคือ ทางน้ำ-ทางเกวียน เป็นตัวกำหนดจุดชุมชนเมือง และจุดศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้า

แต่ปัจจุบันมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว คมนาคมหลัก ทางน้ำ หมายถึงทะเล-มหาสมุทร, ทางบก หมายถึงถนน-รถไฟฟ้า, ทางอากาศ หมายถึงเครื่องบิน เหล่านี้เป็นตัวกำหนดจุดการเกิดชุมชนเมือง และเศรษฐกิจการค้า
แต่...เห็นมั้ย ไม่ว่าทางไหนๆ "ร.ฟ.ท." ไม่มีความหมาย ไม่มีอิทธิพลดึงดูดให้ชุมชนเมืองเกิดตามขึ้นมาเลย (นอกจากซ่อง-ผับ-อาบนวด-คาราโอเกะ ที่การรถไฟให้เช่ารองน้ำกาม เช่นตามตัวสถานีในต่างจังหวัด และตามรายทางรัชดาฯ-มักกะสัน ในกรุงเทพฯ)
โจทย์ข้อสุดท้าย ไม่ใช่ให้แก้ แต่ให้ดูเป็นตัวอย่างบริหาร ทำไม...ทั้ง ปตท.และ กฟผ.ก็เป็นรัฐวิสาหกิจเหมือน ร.ฟ.ท. แต่เขาสามารถคัดคนดีๆ มีความรู้-มีวิสัยทัศน์-มีความสามารถมาบริหารจนขึ้นชั้น "ธุรกิจชั้นนำระดับโลก" ได้

แล้วทำไม ร.ฟ.ท.ซึ่งมีสินทรัพย์เป็นต้นทุนมหาศาลกว่าเขา และเป็นรัฐวิสาหกิจบริการที่ไม่มีใครทำแข่ง จึงบริหารแล้วฉิบหายรายวัน?
ของเดิม-ปัญหา ร.ฟ.ท.ยังแก้ไม่ได้ แล้วระริกไปริของใหม่ที่ยังไม่ประสา หรือเพราะว่า รถไฟความเร็วสูง เปอร์เซ็นต์มันสูงตาม?

Mongwin · Posted: 03/05/2012 4:40 pm Post subject:

สัมมนาวิชาการ “Rail Age: 2012”
โดย.. ศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว
3 พฤษภาคม 2555 - 11:28:07

กระทรวงคมนาคม ร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ด้านการขนส่งระบบราง จัดสัมมนาวิชาการ “Rail Age: 2012” เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงคมนาคม ครบรอบ ๑๐๐ ปี โดยมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา และเป็นผู้เสวนาในหัวข้อ “นโยบายรัฐบาลในการสร้าง ยุครถไฟ Rail Age: 2012” ร่วมกับ พล.ต.ท. ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ณ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิแอร์พอร์ต จ. สมุทรปราการ

ดร. จุฬา สุขมานพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ประธานอนุกรรมการจัดสัมมนาวิชาการ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงคมนาคม ครบรอบ ๑๐๐ ปี ด้านการขนส่งระบบราง เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสกระทรวงคมนาคม ครบรอบ ๑๐๐ ปี วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๕ กระทรวงคมนาคม โดยความร่วมมือของสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) กำหนดจัดโครงการสัมมนาวิชาการด้านการขนส่งระบบราง เรื่อง “Rail Age: 2012” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม ด้านการขนส่งระบบรางให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง รวมทั้งเพื่อระดมความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและวิทยากรจากต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาการขนส่งระบบรางของประเทศไทยให้มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น

การสัมมนาดังกล่าวจะมีการเสวนาพิเศษในหัวข้อ นโยบายรัฐบาลในการสร้าง “ยุครถไฟ Rail Age: 2012” โดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ พล.ต.ท. ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม การเสวนาหัวข้อ “เหลียวหลังแลหน้า การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางราง (Mass Transit)” โดยผู้แทนจาก สนข. รฟท. รฟม. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ในภาคบ่ายเป็นการเสวนาในหัวข้อ “บทเรียนที่ชานชาลา : แบ่งปันประสบการณ์รถไฟความเร็วสูงจากต่างประเทศ” โดยมีผู้แทนจากประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลีใต้และบริษัท ซีเมนส์ จำกัด ประเทศเยอรมนี ร่วมเสวนาในประเด็นความเป็นไปได้ในการพัฒนาเส้นทางกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ประสบการณ์การดำเนินโครงการในบราซิลของประเทศเกาหลีใต้และประสบการณ์ของเยอรมนีในการดำเนินโครงการในต่างประเทศ นอกจากนี้ ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการของกระทรวงคมนาคม หน่วยงานในสังกัด ตลอดจนหน่วยงานจากต่างประเทศ ภายใต้หัวข้อ “Rail Age: 2012” ด้วย

nathapong · Posted: 04/05/2012 9:29 am Post subject:

แหงะ มีแต่ ฝ่ายช่างกลมาวุ้ย

มีท่านรองสิทธิพงษ์ นายช่างณรงค์ฤทธิ์ นายช่างนิติพล วโอ๋ นายช่างวรชาติ นั่งแถวสองล็อกกลาง

ส่วนที่ขึ้นเสวนาบนเวทีรอบเช้า มีท่านประณต สุริยะ จาก สนข ท่านพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล รอง ผวก รฟม (วิศวกรรมและก่อสร้าง) และนายช่างวัชรชาญ จากรฟท มีคุณกรรณิการ์ ปมุมชาติ เป็นผู้ดำเนินรายการและตอนนี้ ท่านประธานจัดงานกล่าวรายงาน และท่าน รมว กล่าวเปิดงาน

รายละเอียด รอไปอ่านจากข่าวก็แล้วกันจากบรรดาสารพัดสื่อ เอาเองหงะ

Mongwin · Posted: 04/05/2012 9:51 am Post subject:

นึกว่าป๋าณัฐจะถ่ายทอดสด มาที่นี่เสียอีกครับ Razz