ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[black_express]

สำหรับผมนั้น มีความเห็นอยู่ประการเดียวคือเตะโด่งโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงให้ไปเป็นโครงการพิเศษร่วมทุนกับบริษัทต่างประเทศ โดยมีการบริหารงานแยกไปเป็นบริษัทอิสระ วางแนวทางที่ไม่ปะปนกับรถไฟปกติ และไม่ใช้งบประมาณแผ่นดินเข้าไปร่วม

หากยึกๆ ยักๆ คิดแต่โครงการนี้ โดยเถืองบประมาณดำเนินการด้านระบบรางที่เขากำลังทำอยู่ เห็นทีท่าว่าคงจะไม่ไปถึงไหนสักที

จะคิดแบบเศรษฐีทั้งที ให้แยกระบบไปต่างหากเลย อย่าได้มารบกวนเงินจากคนจนครับ

[Mongwin]

ผู้ว่าฯรถไฟฝันระบบรางรุ่ง
ข่าวสดรายวัน วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 7833 หน้า 8

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟท.มีความก้าวหน้าในการใช้งบประมาณ 1.76 แสนล้านบาท คาดหากงานเดินหน้าได้ทั้งหมดระบบรางไทยในอนาคตจะดีขึ้นอย่างแน่นอน โดยสามารถสรุปผลการดำเนินงานในเดือนมี.ค.2555 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย
1.โครงการที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันทีจำนวน 11 โครงการ และ
2.โครงการที่ต้องศึกษาความเหมาะสม และจัดทำรายงานผล กระทบด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) จำนวน 10 โครงการ

สำหรับแผนงานที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันที 11 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 87,529 ล้านบาท อาทิ โครงการปรับปรุงทางระยะที่ 5 ระยะทาง 304 ก.ม. ได้ลงนามสัญญาจ้างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) วงเงิน 8,808 ล้านบาท อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างงานคืบหน้า 37.79% เร็วกว่าแผน 1.26% โครงการปรับปรุงทางระยะที่ 6 ระยะทาง 278 ก.ม. ว่าจ้างกิจการร่วมค้า เอ เอส เอส ที วงเงิน 6,779 ล้านบาท อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง งานคืบหน้า 32.99% เร็วกว่าแผน 1.12% เป็นต้น

ส่วนโครงการที่ต้องศึกษาความเหมาะสม และจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อนำเสนอครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบ 10 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 89,278 ล้านบาท อาทิ โครงการก่อสร้างทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 167 ก.ม. วงเงิน 17,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างออกแบบรายละเอียดโครงการ การจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าทดแทน GE จำนวน 50 คัน วงเงิน 6,563 ล้านบาท โครงการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ 115 คัน วงเงิน 4,981 ล้านบาท รฟท.เสนอให้คณะกรรมการรฟท.เห็นชอบแล้ว คาดว่าจะประกวดราคาได้เดือนก.ย.นี้ เป็นต้น

----------------

รฟท.เดินหน้าแผนแสนล้าน
โพสต์ทูเดย์ 10 พฤษภาคม 2555 เวลา 11:16 น.

“ยุทธนา” เผย ความคืบหน้าใช้งบ 1.76 แสนล้านบาท ชี้หากไม่ติดขัด ระบบรางไทยอนาคตรุ่งแน่

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ร.ฟ.ท.มีความก้าวหน้าในการใช้งบประมาณ 1.76 แสนล้านบาทอย่างมาก โดยคาดว่าหากโครงการเดินหน้าได้ทั้งหมดระบบรางไทยในอนาคตจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ สามารถสรุปผลการดำเนินงานในเดือน มี.ค. 2555 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย
1.โครงการที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันทีจำนวน 11 โครงการ และ
2.โครงการที่จะต้องศึกษาความเหมาะสมและจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 10 โครงการ

สำหรับแผนงานที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันที วงเงินลงทุนรวม 87,529 ล้านบาท 11 โครงการ ประกอบด้วย
1.ปรับปรุงทางระยะที่ 5 ระยะทาง 304 กม. ได้จ้างบริษัท อิตาเลียนไทยฯ วงเงิน 8,808 ล้านบาท ก่อสร้างคืบหน้า 37.79% เร็วกว่าแผน 1.26%
2.โครงการปรับปรุงทางระยะที่ 6 ระยะทาง 278 กม. จ้างกิจการร่วมค้า เอเอส เอสที วงเงิน 6,779 ล้านบาท อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง งานคืบหน้า 32.99% เร็วกว่าแผน 1.12%
3.โครงการก่อสร้างทางคู่ ฉะเชิงเทรา คลอง 19-แก่งคอย ระยะทาง 106 กม. วงเงิน 11,348 ล้านบาท ยังอยู่ระหว่างรอการพิจารณาให้ความเห็นชอบจากรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากสำนักงานนโยบายและแผนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)
4.โครงการจัดหาหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนักกดลงเพลา 20 ตัน/เพลา จำนวน 20 คัน วงเงิน 2,145 ล้านบาท อยู่ระหว่างการขายซองประกวดราคา
5.โครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย ระยะทาง 2,406 กม. วงเงิน 23,671 ล้านบาท อยู่ระหว่างจัดสรรงบปรับปรุงทาง
6.โครงการปรับปรุงสะพาน จำนวน 1,434 แห่ง วงเงิน 12,167 ล้านบาท คงเหลือการดำเนินงานอีก 30 สัญญา
7.โครงการติดตั้งอาณัติสัญญาณไฟสี จำนวน 224 สถานี วงเงิน 11,358 ล้านบาท อยู่ระหว่างการปรับแผนเพื่อขอรับเงินจัดสรรในปี 2556
8.โครงการติดตั้งเครื่องกั้นถนนเสมอระดับและการปรับปรุงเครื่องกั้นถนน จำนวน 1,284 แห่ง วงเงิน 5,456 ล้านบาท ซึ่งได้จัดหาผู้รับจ้างเครื่องติดตั้งอัตโนมัติ 121 แห่งครบ คาดแล้วเสร็จเดือน พ.ค.นี้ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินงาน
9.งานติดตั้งรั้วกั้นสองข้างทางตามแนวเขตทางรถไฟ ระยะทาง 1,649 กม. วงเงิน 4,777 ล้านบาท ได้ผู้รับจ้างแล้ว อยู่ระหว่างให้กระทรวงการคลังอนุมัติจัดสรรเงินกู้ และรอลงนามในสัญญาเดือน มิ.ย.นี้
10.โครงการสร้างโรงรถจักรแก่งคอย วงเงิน 1,000 ล้านบาท ได้ยกเลิกการประกวดราคาเนื่องจาก วงเงินก่อสร้างไม่เพียงพอ และ
11.โครงการก่อสร้างโรงรถจักรศรีราชา และหน่วย 10 ลาดกระบัง วงเงิน 360 ล้านบาท อยู่ระหว่างการจัดทำเอกสารประกวดราคา

สำหรับโครงการที่ต้องศึกษาความเหมาะสม อยู่ระหว่างการดำเนินการรวม 10 โครงการ วงเงินลงทุน 89,278 ล้านบาท

[Mongwin]

หวั่นการเมืองล้วงตั้งผู้ว่าฯรถไฟ‘ภากรณ์-กมล’2ลูกหม้อเข้าตากรรมการ
สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1299 ประจำวันที่ 12-5-2012 ถึง 15-5-2012

ร.ฟ.ท. - ศึกชิงตำแหน่งผู้ว่า การการรถไฟระอุ หลัง “ยุทธนา” หมดวาระสิ้นเดือนก.ค.นี้ บอร์ดสรรหาเผยเกณฑ์รับสมัครเปิดโอกาสคนใน-คนนอก ตามเงื่อนไข พ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจปี 2494 นั่งเก้าอี้ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.ได้ เผย 3 รองผู้ว่าการ เตรียมลงชิงชัย ขณะที่ “ณัฐศิลป์ จงสงวน” น้องชายอดีต ผู้ว่าการ รฟม.ดอดยื่นใบสมัคร “ภากรณ์กมล” 2 ลูกหม้อ มี ลุ้นเก้าอี้หลังคุณสมบัติเข้าตา กรรมการสรรหาฯ แต่หวั่น การเมืองชี้ขาดเลือกคนนอก เบียดแทรกคว้าตำแหน่งแทนหลังจากนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่กำลังจะครบวาระ 4 ปีในตำแหน่งใน เดือนกรกฎาคม 2555 ทำให้ พนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เริ่มเคลื่อนไหวสนับสนุนรองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.คนใดคนหนึ่งในจำนวน 7 คนขึ้นมา ผู้ว่า ร.ฟ.ท.คนใหม่

สำหรับการสรรหาผู้ว่า ร.ฟ.ท.คนใหม่นั้น ขณะนี้คณะ กรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทยหรือบอร์ด ร.ฟ.ท. ได้แต่งตั้งกรรมการสรรหาฯ จำนวน 5 คนเพื่อมาพิจารณา คุณสมบัติบุคคลที่จะมาสมัคร เป็นผู้ว่า ร.ฟ.ท. โดยกรรมการ สรรหาฯ จะเริ่มประชุมครั้งแรกในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ข่าวแจ้งว่า กรรมการ สรรหาฯ มีทั้งหมด 5 คนประกอบด้วย พล.ต.สันติ วิจักขณา ประธานกรรมการสรรหา นายประเทือง ช่างสลัก บอร์ดการรถไฟ นายวิชาญ ธรรมสุจริต บอร์ดการรถไฟ นายวัฒนา เตียงกูล บอร์ดการรถไฟ และนายจรูญ ตั้งไพศาลกิจ รองปลัด กระทรวงคมนาคม เป็นตั้งแทนจากกระทรวงคมนาคม

แหล่งข่าว กล่าวว่า การประชุมครั้งแรกของกรรมการสรรหาเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมาได้กำหนดหลักเกณฑ์คุณสมบัติผู้จะมาสมัครเป็นผู้ว่าการรถไฟคนใหม่ตามเงื่อนไข พ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจปี 2494 ซึ่งบุคคลที่ทำงานในการรถไฟและในองค์กรอื่นสามารถยืนสมัครได้ โดยถ้าเป็นบุคคลภายในการรถไฟต้องมีตำแหน่งตั้งแต่ “รองผู้ว่าการรถไฟ” และอยู่ในตำแหน่งไม่น้อยกว่า 2 ปีขึ้นไป ส่วนบุคคลภายนอกการรถไฟต้องเป็นผ่านการบริหารองค์กรที่มีงบประมาณไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป ที่สำคัญคือ การสรรหาผู้ว่าการรถไฟคนใหม่ในปีนี้ กรรมการสรรหาเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกมาสมัครเพื่อคิดเลือกได้ด้วย แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวย้ำว่า เนื่องจากขณะนี้กรรมการสรรหายังไม่ได้ประชุมวางกฎเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือก ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดประสงค์มายื่นใบสมัครเป็นผู้ว่าการรถไฟคนใหม่ แต่มีความเคลื่อนไหวที่สะท้อนความสนใจในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแล้วขณะนี้มีอยู่ 4 คนคือ จากรองผู้ว่าฯ 3 คนประกอบด้วย นายวิโรจน์ เตรียมพงศ์พันธ์ รองผู้ว่าฯกลุ่มยุทธศาสตร์และอำนวยการ นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าฯกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน 1 และนายกมล ตั้งกิจเจริญชัย รองผู้ว่าฯ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน 2

“ส่วนคนภายนอกมีการเคลื่อนไหวจากนายณัฐศิลป์ จงสงวน น้องชายนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ได้แสดงความจำนงจะมาสมัครเป็นผู้ว่าฯร.ฟ.ท.”

หากพิจารณาคุณสมบัติของรองผู้ว่าการรถไฟทั้ง 3 คนที่เคลื่อนไหวมาสมัครเป็นผู้ว่าการรถไฟคนใหม่แล้ว พบว่า ในจำนวนนี้มีรองผู้ว่าจำนวน 2 คนคือ นายภากรณ์ กับนายกมล ที่มีสายงานมาจาก “วิศวกร” ซึ่งเป็นหน้าที่การทำงานหลักและสำคัญกับการรถไฟ ส่วนนายวิโรจน์ มาจากทางด้านเศรษฐศาสตร์ ดูแลงานด้านการบริหารเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาการทำงานที่ผ่านมาแล้ว รองผู้ว่าฯทั้ง 3 ล้วนมีส่วนดีและจุดอ่อนไม่แตกต่างกันนัก โดยนายภากรณ์นอกจากเป็นรองผู้ว่าฯรฟท.แล้วยังเป็นประธานกรรมการ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด มีบทบาทหน้า
ที่การงานสำคัญอย่างมากและมักถูกนายยุทธนาให้รับผิดชอบงานสำคัญเคียงคู่ด้วยเสมอ ด้วยเหตุนี้พนักงานการรถไฟจึงเรียกฉายานายภากรณ์ว่า “ทายาทอสูรของนายยุทธนา”

ส่วนนายกมลมีประสบการณ์การทำงานเป็นที่ยอมรับในร.ฟท. เคยร่วมทำงานเกี่ยวกับระบบรถไฟกับกลุ่มบริษัทแคนนานามานานกว่า 10 ปี แต่จุดอ่อนที่สำคัญคือ ถูกพนักงานในการรถไฟกล่าวหาในประเด็นมีเครือญาติเป็นผู้เหมางานจากการรถไฟ สำหรับนายวิโรจน์ ซึ่งเป็นรองผู้ว่าฯรถไฟเพียงคนเดียวที่ไม่ได้มาจากสายวิศวกรและทำงานด้านบริหารมาตลอด

แหล่งข่าวระดับสูงในร.ฟ.ท.คนหนึ่งให้ความเห็นว่า นายวิโรจน์ยังไม่แสดงความสนใจในตำแหน่งผู้ว่าฯรถไฟคนใหม่ที่ชัดเจนนัก แต่เขาเป็นคนที่พนักงานการรถไฟให้การสนับสนุนขึ้นเป็นผู้ว่าฯร.ฟ.ท.คนใหม่

“จุดอ่อนของนายวิโรจน์คือ การใกล้ชิดนายยุทธนาในการรับพนักงานบางคนให้เข้ามาทำงานในการรถไฟตามความต้องการของนายยุทธนา ซึ่งประเด็นนี้พนักงานการรถไฟกล่าวถึงอย่างไม่พอใจมาก” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวจากกรรมการสรรหา กล่าวด้วยว่า ในส่วนของบอร์ดสรรหาทั้ง 5 คนนั้น 3 คนแนวคิดพิจารณาคัดเลือกคนในมากกว่าคนนอก

“คนในที่เป็นรองผู้ว่าทั้ง 3 คน เสียงกรรมการสรรหาอย่างน้อย 3 ใน 5 มีความเห็นตรงกันว่า ให้ความสนใจกับรองผู้ว่าฯที่มีสายการทำงานมาจากด้านวิศวกรมากกว่า”

อย่างไรก็ตาม รองผู้ว่าฯทั้ง 2 คนนั้น กลับมีจุดอ่อนและจุดดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ถึงที่สุดแล้วสิ่งสำคัญก็คือ อำนาจทางการเมืองจะเข้ามามีบทบาทการชี้นำด้วยหรือไม่

“ถ้าการเมืองต้องการให้ใครเป็นผู้ว่าการรถไฟคนใหม่ก็ต้องแนะนำมา หากเป็นคนนอกก็ต้องเสนอมาเลย แต่ถ้าชี้นำมาว่า การเมืองต้องการคนในเป็นผู้ว่า กรรมการสรรหาจะให้ความสนใจจากรองผู้ว่าที่เป็นวิศวกรเท่านั้น” แหล่งข่าวกล่าว

อนึ่ง ผู้ว่าการรถไฟมีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปีมีอัตราเงินเดือน 300,000 บาท จัดว่า เป็นงานการบริหารที่ท้าทายความสามารถอย่างยิ่ง เพราะต้องรับผิดชอบการพนักงานทั้งสิ้น 13,400 คน มีงบประมาณประจำปีประมาณ 10,000 ล้านบาท และยังได้รับการสนับสนุนงบการลงทุนเป็นการเฉพาะอีกประมาณ 1.7 แสนล้านบาท

[Mongwin]

"ชัจจ์"ยันไม่จุ้นสรรหาผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 พฤษภาคม 2555 14:21 น.

พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกระบวนการสรรหาผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. คนใหม่ ภายหลังที่ นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.คนปัจจุบันกำลังจะครบวาระ 4 ปี ในตำแหน่งช่วงเดือนกรกฎาคม 2555 ว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้ทาบทามบุคคลใด ให้สมัครลงชิงตำแหน่ง ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. เพราะยังไม่เห็นบุคคลใดที่มีความเหมาะสม เนื่องจาก ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.คนใหม่นั้น จะต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในระบบราง รวมทั้งการบริหาร เนื่องจาก ร.ฟ.ท.มีหลายโครงการที่จะต้องเร่งรัด อาทิ รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าสายสีแดง และการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อหารายได้

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ชัจจ์ ยืนยันด้วยว่า จะไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการสรรหา ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.คนใหม่ โดยที่จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาฯ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุรถไฟตกรางอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น กระทรวงคมนาคมจะทำการปลุกระดมพนักงานของ ร.ฟ.ท.ให้มีความกระตือรือร้นในการทำงานให้มากขึ้นกว่านี้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอีก

[Wisarut]

สั่งร.ฟ.ท.ทำแผนแก้ปัญหาบุกรุกเขตทาง หวั่นกระทบแผนสร้างรถไฟทางคู่,ไฮสปีด

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 13 พฤษภาคม 2555 17:37 น.


ASTVผู้จัดการรายวัน-บอร์ดร.ฟ.ท.จี้ทำแผนเคลียร์ผู้บุกรุกเขตทางรถไฟทั่วประเทศเตรียมพร้อมรับก่อสร้างรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง เผยทั่วประเทศมีเกือบ 1.9 หมื่นราย ด้านสนข.เตรียมสรุปการศึกษาและแบบทางคู่ช่วง จิระ-ขอนแก่นวงเงิน 2.5 หมื่นล.ส่งต่อร.ฟ.ท.เสนอครม.อนุมัติ คาดเริ่มสร้างปี 57 เชื่อเพิ่มศักกภาพทางรางลดต้นทุนขนส่ง ด้านเอกชนติงเร่งแก้หัวจักรขาดแคลน

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดร.ฟ.ท.เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ได้เร่งให้ผู้บริหารร.ฟ.ท.ทำแผนแก้ปัญหาผู้อาศัยในเขตทางรถไฟเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ 767 กิโลเมตรและรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง โดยหลังจากนี้จะต้องไม่มีผู้มาอาศัยเพิ่มและค่อยๆลดลง และเพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรมจะต้องแบ่งการบริหารจัดการแต่ละพื้นที่ตามสภาพปัญหา และในการโยกย้ายออกนั้นจะมีการร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีผู้อาศัยในเขตทางรถไฟทั่วประเทศจำนวน 18,993 ราย โดยหากยังไม่เริ่มการแก้ปัญหา จะกลายเป็นจุดอ่อนไหวในการดำเนินการโครงการแน่นอน

ซึ่งในเร็วๆนี้ บริษัทที่ปรึกษาจะสรุปผลการศึกษาออกแบบรายละเอียดควบคู่ไปกับการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 187 กิโลเมตร วงเงิน 25,000 ล้านบาทส่งให้สนข.จากนั้นจะส่งแผนทั้งหมดให้ ร.ฟ.ท.เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติโครงการต่อไป ซึ่งจะต้องรอให้ผ่านการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)ก่อนคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีงบประมาณ 2557

ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.จะเร่งจัดหาหัวรถจักรใหม่ 20 หัว วงเงิน 3,300 ล้านบาท โดยจะให้ยื่นประกวดราคาวันที่ 16 ก.ค.สรุปผลได้ใน 1-2 เดือน โดยใช้เวลา 15 เดือนหรือปลายปี 2556 จะเริ่มทยอยส่งมอบ จนครบ 20 หัว ส่วนกรณีที่มีการระบุว่ามีการล็อกสเปคนั้น ทางร.ฟ.ท.ได้ขี้แจงทำความเข้าใจแล้ว ว่าทีโออาร์เปิดกว้างประกวดราคาแบบสากล ซึ่งทั้งรถไฟทางคู่และหัวจักรใหม่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการขนส่งทางราง การบริหารจัดการโลจิสติกส์และลดต้นทุนการขนส่ง

นายโชคชัย คัมภิรานนท์ ประธานบริษัท เอ็นดีซี โลจิสติกส์ จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟ กล่าวว่า ในอนาคตการขนส่งสินค้าทางรางจะมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับการขนส่งผู้โดยสาร ดังนั้น จะต้องให้ความสำคัญกับย่านกองเก็บตู้สินค้า (Container Yard: CY) ซึ่ง CY ที่สถานีจิระเป็นจุดที่เหมาะสมรองรับรถไฟทางคู่ แต่ปัญหาคือร.ฟ.ท.ไม่มีหัวจักรเพียงพอต่อความต้องการ โดยจัดซื้อครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2538 จำนวน 38 หัวหรือเมื่อ 17 ปีก่อน ซึ่งหากมีหัวจักรใหม่ตามแผนในปี 2556 จะลดระยะเวลาในการจัดการจาก 7-10 วันเหลือ 4 วัน เท่ากับขนส่งทางรถยนต์

[Mongwin]

^^^
ต้องส่งผู้เกี่ยวข้องไปดูงานเคลียร์ชาวบ้านออกจากเส้นทางรถไฟที่ปอยเปตกับพนมเปญแล้วครับ
แม้จะมีกระแสตามมามากมายเรื่องจ่ายค่าชดเชยไม่เป็นธรรม แต่ในที่สุดก็สร้างทางรถไฟปอยเปต-ศรีโสภณใหม่ได้เรียบร้อย (แม้ในตัวเมืองจะยังไม่ลงมือก็ตาม)

เึคลียร์ผู้บุกรุกที่ดินตัวเอง ยากกว่าเวนคืนที่ดินชาวบ้านหลายเท่าครับ
กรณีทางรถไฟสายสงขลาก็เช่นเดียวกัน

[black_express]

มันก็แปลกดีนะ เคลียร์พื้นที่คนปลูกกระต๊อบหน้าบ้านตัวเอง ยังต้องเสียค่าช่วยเหลือขนย้ายให้อีก

ผมไม่แปลกใจแล้วครับ ที่มักมีกรณีไฟฟ้าช้อร์ตในสลัมกันบ่อยๆ เวลามีปัญหาเคลียร์กันไม่ได้แบบนี้

[Wisarut]

สั่ง ร.ฟ.ท.ทำแผนแก้ปัญหาบุกรุกเขตทาง หวั่นกระทบแผนสร้างรถไฟรางคู่-ไฮสปีด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 พฤษภาคม 2555 11:27 น.


นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท.เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมได้เร่งให้ผู้บริหาร ร.ฟ.ท.ทำแผนแก้ปัญหาผู้อาศัยในเขตทางรถไฟเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการดำเนินโครงการรถไฟรางคู่ 767 กิโลเมตรและรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง โดยหลังจากนี้จะต้องไม่มีผู้มาอาศัยเพิ่มและค่อยๆ ลดลง และเพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรมจะต้องแบ่งการบริหารจัดการแต่ละพื้นที่ตามสภาพปัญหา และในการโยกย้ายออกนั้นจะมีการร่วมมือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีผู้อาศัยในเขตทางรถไฟทั่วประเทศจำนวน 18,993 ราย โดยหากยังไม่เริ่มการแก้ปัญหาจะกลายเป็นจุดอ่อนไหวในการดำเนินการโครงการแน่นอน

ซึ่งในเร็วๆ นี้ บริษัทที่ปรึกษาจะสรุปผลการศึกษาออกแบบรายละเอียดควบคู่ไปกับการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโครงการรถไฟรางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 187 กิโลเมตร วงเงิน 25,000 ล้านบาท ส่งให้ สนข.จากนั้นจะส่งแผนทั้งหมดให้ ร.ฟ.ท.เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการต่อไป ซึ่งจะต้องรอให้ผ่านการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ก่อน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีงบประมาณ 2557 ทั้งนี้ การลงทุนรถไฟรางคู่อยู่ในแผนการพัฒนารถไฟ 1.7 แสนล้านบาทที่ได้รับความเห็นชอบจาก ครม.แล้วโดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้พิจารณาเงินกู้ให้โครงการ ซึ่งพบว่าตลอดแนวเส้นทางมีผู้อาศัยในพื้นที่เขตทางที่จะส่งผลกระทบต่อโครงการกว่า 1,000 ราย

ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.จะเร่งจัดหาหัวรถจักรใหม่ 20 หัว วงเงิน 3,300 ล้านบาท โดยจะให้ยื่นประกวดราคาวันที่ 16 กรกฎาคม สรุปผลได้ใน 1-2 เดือน โดยใช้เวลา 15 เดือนหรือปลายปี 2556 จะเริ่มทยอยส่งมอบจนครบ 20 หัว ส่วนกรณีที่มีการระบุว่ามีการล็อกสเปกนั้น ทาง ร.ฟ.ท.ได้ชี้แจงทำความเข้าใจแล้วว่าทีโออาร์เปิดกว้างประกวดราคาแบบสากล ซึ่งทั้งรถไฟรางคู่และหัวจักรใหม่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการขนส่งทางราง การบริหารจัดการลอจิสติกส์และลดต้นทุนการขนส่ง

นายโชคชัย คัมภิรานนท์ ประธานบริษัท เอ็นดีซี โลจิสติกส์ จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟ กล่าวว่า ในอนาคตการขนส่งสินค้าทางรางจะมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับการขนส่งผู้โดยสาร ดังนั้น จะต้องให้ความสำคัญต่อย่านกองเก็บตู้สินค้า (Container Yard: CY) ซึ่ง CY ที่สถานีจิระเป็นจุดที่เหมาะสมรองรับรถไฟรางคู่ แต่ปัญหาคือ ร.ฟ.ท.ไม่มีหัวจักรเพียงพอต่อความต้องการ โดยจัดซื้อครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2538 จำนวน 38 หัวหรือเมื่อ 17 ปีก่อน ซึ่งหากมีหัวจักรใหม่ตามแผนในปี 2556 จะลดระยะเวลาในการจัดการจาก 7-10 วันเหลือ 4 วัน เท่ากับขนส่งทางรถยนต์

ด้านนางธิดารัตน์ รอดอนันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สงวนวงศ์อุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตแป้งมันรายใหญ่สุดของประเทศ กล่าวว่า บริษัทใช้รถไฟขนส่งประมาณ 5,600 ตู้ต่อปีเนื่องจากมีต้นทุนต่ำกว่าทางถนน 0.14 บาทต่อกิโลกรัม โดยขนได้คราวละ 30 ตู้ แต่ที่ผ่านมามีข้อจำกัดหัวจักรไม่เพียงพอและต้องลดสัดส่วนลงจาก 29% เหลือ 17% และใช้ขนส่งทางรถยนต์แทน

สำหรับโครงการเส้นทางรถไฟรางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น วงเงินลงทุนรวม 25,353.14 ล้านบาท แบ่งเป็น

ค่าใช้จ่ายทั่วไปและสิ่งอำนวยความสะดวกภาคสนาม 497.12 ล้านบาท
ค่าโครงสร้างทางวิ่งทางรถไฟ 9,135.21 ล้านบาท
ค่างานสถานี 3,873.95 ล้านบาท
ค่างานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม 5,571.80 ล้านบาท
ค่างานย่านกองเก็บและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) 654.27 ล้านบาท
ค่ารื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง 5.56 ล้านบาท
ค่าก่อสร้างงานแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ 5,413.94 ล้านบาท
ค่าเวนคืนเพื่อแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ 201.29 ล้านบาท
มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) 19.94%
มีจำนวน 26 สถานี
มี CY จำนวน 3 แห่ง คือ ที่นครราชสีมา บัวใหญ่ และสถานีท่าพระ ขอนแก่น (ขยายให้โตกว่าเดิม)

โดยเมื่อแล้วเสร็จจะเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าจาก 4 แสนตันต่อปีเป็น 4 ล้านตันต่อปี เพิ่มจำนวนผู้โดยสารจาก 2 ล้านคนต่อปี เป็น 10 ล้านคนต่อปี โดยตลอดแนวมีจุดตัดกับถนน 93 จุด ซึ่งจะก่อสร้างทางยกระดับข้ามทางรถไฟ โดยต้องเวนคืนที่ดิน 4 แห่ง คือ

1. กิโลเมตรที่ 315+376.385 (หนองม้า-หนองหัวฟาน) อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา,
2. กิโลเมตรที่ 346+470.287 (ทล.หมายเลข 202) อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา,
3. กิโลเมตรที่ 429+117.606 (โนนทัน-มิตรภาพ) อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ,
4. กิโลเมตรที่ 435+237.162 (บ้านหนองแวง-มิตรภาพ) อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น

[Mongwin]

เป็นโอกาสดีมาก ๆ ที่ผู้ว่าการการรถไฟฯ คนใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งในเดือนกรกฎาคมปีนี้ จะได้รีบสร้างผลงานไว้ หากเริ่มสร้างทางคู่ชุมทางจิระ-ขอนแก่นได้ และซื้อหัวรถจักรใหม่ จะเป็นผลงานชิ้นสำคัญให้จดจำไปได้อีกหลายสิบปีครับ

ขึ้นอยู่กับว่าจะทำได้หรือเปล่านั่นแหละครับ

[Mongwin]

ประกาศฝ่ายการพัสดุ การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง สอบราคาซื้อ แบบพิมพ์ จำนวน 5 รายการ
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ ส.550183
ด้วยฝ่ายการพัสดุ การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะสอบราคาซื้อ แบบพิมพ์ จำนวน 5 รายการ
1. จำนวน 10,000 เล่ม ตั๋วบางสำเร็จรูป (แบบใหม่) สีฟ้า ขนาด 4" x 2" ราคา 2.00 บาท
2. จำนวน 13,000 เล่ม ตั๋วสัมภาระบนขบวนรถ สีเหลืองอ่อน ราคา 10.00 บาท
3. จำนวน 1,500 เล่ม ใบเสร็จรับเงินเกี่ยวกับการเช่าที่ดิน, อาคาร และการเช่าสิทธิ์ต่าง ๆ ขนาด 17 x 24 ซม.
4. จำนวน 5,000 เล่ม ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ค่ารักษาความสะอาดเพื่อวางของขาย สีฟ้า ขนาด 7.5 x 17 ซม. ราคา 10.00 บาท
5. จำนวน 12,000 เล่ม ตั๋วบางสำเร็จรูป (แบบใหม่) สีขาว ขนาด 4" x 2" ราคา 3.00 บาท
ราคาประเมิน 201,400.00 บาท
ประกาศ ณ วันที่ 15 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2555
( ลงนาม ) สุรชัย เหมเสถียร
( นายสุรชัย เหมเสถียร )
รองผู้อำนวยการฝ่ายการพัสดุ
การรถไฟแห่งประเทศไทย
สำเนาถูกต้อง
( นายวันชัย ห่อรัตนาเรือง )
ลูกจ้างเฉพาะงาน
15/5/2555 14:33:23